 |
อ้างอิงจาก Google ค่ะ อ่านแล้ว ปรับใช้เอา ตามใจชอบ นะคะ
การงอก เนื่องจากจิปโซฟิลล่า เมล็ดมีขนาดเล็กมาก การเพาะเมล็ดจึงนิยมเพาะลงในตระกร้าก่อน หลังจากที่ต้นงอกขึ้นมาแล้ว จึงทำการย้ายปลูกลงถาดหลุมอีกครั้งหนึ่ง ก่อนการเพาะเมล็ดควรจะทำการเตรียมวัสดุเพาะโดยนำวัสดุเพาะคลุกให้เข้ากับน้ำให้ชุ่ม แล้วจึงนำมาใส่ลงในตระกร้า เกลี่ยวัสดุเพาะให้ทั่วถาด กดผิวหน้าวัสดุเบา เพื่อให้เรียบ นำเมล็ดที่เตรียมไว้ผสมกับทรายละเอียด อัตราส่วนเมล็ด 1 ส่วน ต่อทราย 2-3 ส่วน จากนั้นจึงทำการหว่านให้ทั่ว ทำการฉีดสารป้องกันโรคพืชทางดิน(โพพาโมคาร์ป) เป็นขบวนการสุดท้าย แล้วจึงนำตระกร้าดังกล่าว ไปเก็บไว้ในที่ที่มีความชื้นสูง หรืออาจจะนำตระกร้าใส่ในถุงพลาสติก แล้วปิดปากถุง รอจนกว่าต้นงอกขึ้นมา(ระยะที่ 2) จึงนำออกจากถุงทันที นำตระกร้าดังกล่าวไปไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก พลางแสงประมาณ 75% จนกระทั้งต้นกล้าอยู่ในระยะที่ 3 จึงทำการย้ายปลูกลงถาดหลุมต่อไป อายุของต้นกล้าจิปโซฟิลล่าจากเพาะเมล็ดจนกระทั้งย้ายปลูก (ลงถาด 288 หลุม) ใช้เวลาประมาณ 30-40 วัน การงอกระยะที่ 0 ค่าความเป็นกรด-ด่างของวัสดุเพาะ:- 5.5-6.0 การงอกระยะที่ 1 วัสดุเพาะควรแฉะ และมีความชื้นสูง รากจะเริ่มงอกภายใน 5-7 วัน การสังเกต :- ระยะที่1 จะสิ้นสุด เมื่อรากอ่อนเริ่มงอกออกมา ใบเลี้ยงเริ่มมีการพัฒนา ความชื้น:- ควรให้วัสดุเพาะเปียกชื้นสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนผิวของวัสดุเพาะ เนื่องจากในระยะนี้รากของต้นกล้าจะสั้นมาก และอยู่บริเวณผิวของวัสดุเพาะ อุณหภูมิของวัสดุเพาะ:- 25-26 oC ค่า ECของวัสดุเพาะ:- 0.5-0.75 me การให้แสง:- ต้องการแสงในการงอกโดยความเข้มแสงที่ต้องการอยู่ในช่วง 350-400 fc(3,500-4,000 lux) การงอกระยะที่ 2 ระยะนี้ต้องการความชื้นลดลง เพื่อให้รากมีการพัฒนายาวมากขึ้น การสังเกต :- รากเริ่มยาวขึ้นประมาณ 2-2.5 เซนติเมตร ใบเลี้ยงเริ่มโผล่ ความชื้น:- ความชื้นสัมพัทธ์ประมาณ 80-90% และพยายามเริ่มลดความชื้นลงเล็กน้อยเพื่อส่งเสริมให้รากแทงลงไปในวัสดุเพาะ สังเกตได้จากวัสดุเพาะยังคงชื้น แต่ไม่แฉะ อุณหภูมิของวัสดุเพาะ:- 20-26 oC ปุ๋ย:- ควรให้ปุ๋ยที่มีปริมาณของแคลเซียม และแมคนีเซียมเป็นองค์ประกอบอัตราส่วน 2:1 ความเข้มข้นประมาณ 50-75 ppm แนะนำปุ๋ยสูตร 6:1:7 ปริมาณการให้ 1-2 ครั้งต่ออาทิตย์ ซึ่งเราสามารถเตรียมสารได้ดังนี้ แคลเซียมไนเตรท 15-0-0 22.7 กรัม/น้ำ 100 ลิตร โมโนโพแทสเซียมฟอสเฟต 0-52-34 5.7 กรัม/น้ำ 100 ลิตร โพแทสเซียมไนเตรท 13-0-46 19.6 กรัม/น้ำ 100 ลิตร แมคนีเซียมไนเตรท 11-0-0 15.5 กรัม/น้ำ 100 ลิตร เฟอร์รัส ซัลเฟต 5.0 กรัม/น้ำ 100 ลิตร ธาตุอาหารเสริม 2.5 กรัม/น้ำ 100 ลิตร ไม่แนะนำให้ใช้ปุ๋ยไนโตรเจนที่อยู่ในรูปแอมโมเนียม หรือยูเรีย เพราะจะทำให้ต้นยืด ไม่สวยงาม ค่า ECของวัสดุเพาะ:- 1.0-1.5 me การให้แสง:- ควรให้แสงทันทีหลังจากที่จิปโซฟิลล่างอก ความเข้มแสงประมาณ 450-700 fc (4,500-70,00 lux) ซึ่งจะทำให้ออกดอกเร็วขึ้น แต่อย่าให้แสงต่ำกว่า 400-500 fc(4,000-5,000 lux) การงอกระยะที่ 3 เริ่มเน้นการให้น้ำ ให้ปุ๋ยมากขึ้น เพื่อให้ระบบรากแข็งแรง การสังเกต :- รากมีการพัฒนามากขึ้น มีใบจริง 2-3 ใบ ความชื้น:- เริ่มปล่อยให้วัสดุเพาะแห้ง-เปียกสลับกัน เพราะว่าระยะนี้ต้นกล้าต้องการอากาศมากขึ้น อุณหภูมิ ของวัสดุเพาะ:- 20-24 oC ปุ๋ย:- คล้ายระยะที่ 2 ค่า ECของวัสดุเพาะ:- 1.0-1.5 me การให้แสง:- ต้องการแสงมากขึ้นประมาณ 1,100-1,500 FC( 11,000-15,000 lux) การงอกระยะที่ 4 การสังเกต :- รากจะพัฒนาคลุมเต็มวัสดุเพาะ สามารถดึงต้นกล้าขึ้นมาโดยรากไม่ขาด มีใบจริง 3-4 ใบ ความชื้น:- คล้ายระยะที่ 3 อุณหภูมิของวัสดุเพาะ:- คล้ายระยะที่ 3 บางพันธุ์สามารถทนได้สูงกว่านี้ ปุ๋ย:- คล้ายระยะที่ 3 ค่า ECของวัสดุเพาะ:- 1.0-1.5 me การให้แสง:- ประมาณ 4,000-4,500 fc(40,000-45,000 lux)
จากคุณ |
:
FunkyFox
|
เขียนเมื่อ |
:
15 มิ.ย. 55 14:06:59
|
|
|
|
 |