คิดว่าท่านๆทราบกันดีแล้วนะคะว่า การนำสัตว์เลี้ยงโดยสารไปด้วยบนรถเมล์ปรับอากาศ และรถเมลฺธรรมดา (รถเมล์ร้อนที่ไม่ติดแอร์) ไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงโดยสารนะคะ ไม่ว่าจะอยู่ในกรงมิดชิดก็ตาม... ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการอนุโลมของกระเป๋ารถเมล์ และ บวกกับ "ความโชคดี" ของท่านผู้โดยสารที่นำสัตว์เลี้ยงล้วนๆ !!!
ท่านๆต้อง "เสี่ยงดวง" ลุ้นเอาเองว่าจะถูกเชิญให้ลง หรือจะโชคดีได้นั่งไปจนถึงจุดหมายปลายทางหรือไม่
การนำสัตว์เลี้ยงขึ้นโดยสารไปด้วยเพื่อในกรณี อย่างเช่นดิฉัน...
ต้องการประหยัดเงินค่าแท้กซี่ ดิฉันเดินทางพาแมวๆไปทำหมัน พาไปฝากเลี้ยง
เดินทางไกล
ใช้เดินทางบ่อย
ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว
การเตรียมนำสัตว์เลี้ยงขึ้นรถเมล์ร้อน...
ควรเป็นตะกร้าไม่ใหญ่เทอะทะสะดุดตา ควรเป็นขนาดใหญ่กว่าตัวแมว
ห้ามใช้ตะกร้าขนาดเล็กกว่าตัวแมว แบบยัดแมวให้อยู่ในตะกร้าใบจิ๋ว แบบนั้นเป็นการ "ทรมานสัตว์"
ถ้าคิดจะประหยัดค่ารถ แต่กรุณาไม่ประหยัดซื้อตะกร้า ควรซื้อใบขนาดที่มันใส่แมวให้นั่งนอนได้สบายนะคะ
การยัดแมวให้อยู่ในตะกร้าเล็กว่าตัวแมวนั้น "ทรมานสัตว์" ฉะนั้นอย่าทำ ด้วยการเข้าข้างตัวเองว่า "ฉันหวังดี" ก็ต้องช่วยแมวให้เดินทางไปด้วยสบาย ไม่ใช่บังคับให้แมวต้องแออัดยัดในตะกร้าใบเล็ก (เคยเห็นคนทำแบบนั้นค่ะ)
ข้อความสำคัญ..
การพาแมวไปทำหมันด้วยใส่ตะกร้า ต้องเป็นขนาดที่ใหญ่กว่าตัวแมว ห้ามใช้ตะกร้าใบเล็กกว่าตัวแมว เพราะการนำแมวกลับหลังจากทำหมันทั้งๆที่แมวยังสลบอยู่
ขนาดตะกร้าเล็กไป พื้นที่ไม่พอให้แมวนอนราบข้างๆ ทำให้แมวนอนคอคด แมวขาดอากาศหายใจ ตายได้ค่ะ.... อันตรายต่อชีวิตแมวตรงๆ
เพิ่มความหนาแน่นของฝาปิดตะกร้า ด้วยผูกเชือกเพิ่มความปลอดภัยกันแมวตื่นดันกระแทกฝาตะกร้าออกมาได้นะคะ (อย่าประมาทชะล่าใจ!!!) กำลังแมวเวลาตื่นตระหนกนี่กำลังเยอะนะคะ
ควรมีผ้าบางๆคลุมตะกร้าเพื่อช่วยให้แมวสงบ ไม่มองเห็นข้างนอกแปลกถิ่น หาผ้าปูที่นอนผืนบางแมวจะได้ไม่ร้อน ผูกปลายไม่ให้รุ่ย กันไม่ให้ชายลากยาวปลิวว่อน จนดูสะดุดตา
เมื่ออยู่บนรถเมล์แล้ว ควรเอาผ้าเลิกออกเพื่อให้อากาศระบายถ่ายเทนะคะ อย่าปิดผ้าไว้ตลอดการเดินทาง แบบนั้นทำให้แมวอบร้อนตายในตะกร้าได้... ต้องไม่ลืมไม่ประมาทไม่ชะล่าใจนะคะ... ชีวิตแมวในตะกร้าขึ้นอยู่กับคุณเท่านั้น
เลือกเดินทางด้วยรถเมลร้อน
ควรเลือกเวลาเดินทางที่ "ไม่ใช่" ชั่วโมงเร่งด่วน รถจะว่างกว่า ไม่เบียดเสียด ไม่แออัด
เมื่อรถคันที่ว่าง มีคนโดยสารน้อย ข้างหลังว่าง ก็ให้เดินดุ่มๆไปท้ายรถ มองหาที่นั่งที่พอจะวางตะกร้าแอบหลบได้เช่นเบาะท้าย... ถ้ารถคันไหนว่างมาก ก็จะได้นำตะกร้ามาวางบนตัก และเลิกชายผ้าให้อากาศถ่ายเท... อย่าปิดผ้าคลุมตลอดการเดินทางเด็ดขาด... แมวจะร้อนตายได้นะคะ !!
สมมติว่า... ท่านถูกเชิญให้ลงจากรถเพราะท่านโดยสารสัตว์ขึ้นไปด้วย... ก่อนอื่นอย่าเพิ่งรีบทำตามลงทันที
ท่านต้อง "ด้านได้ อาย อด" ไหนๆก็ไหนๆแล้ว... ท่านพูดต่อรองขอความเห็นใจจากกระเป๋ารถเมล์ก่อน แต่ต้องสุภาพนะคะ... มักได้ผลเสมอกับดิฉัน
ดิฉันไม่เคยโดนไล่ลงจากรถเมล์ แต่เคยถูกตักเตือนจากคนขับรถเมล์หนึ่งครั้ง.. ตั้งแต่โดยสารลูกแมวจร แมวโตจรมาทั้งหมดสิบตัว และนกพิราบหนึ่งตัว ตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงกลางเดือนมิถุนายน... สองเดือนครึ่ง
ดิฉันโชคดีค่ะ... ที่เจอกระเป๋ารถเมล์ที่บางท่านใจดีถึงขนาดมาคุยด้วยเกี่ยวกับช่วยแมวจรเก็บมาเลี้ยง
ที่สำคัญ... ถ้าแมวอยู่เงียบๆในตะกร้าได้ ก็โชคดีไป แต่ถ้าแมวเล่นร้องเหมียวๆดังๆตลอดการเดินทาง.. ก็เตรียมตัวเตรียมใจถูกเชิญลงออกจากรถเมล์ได้ค่ะ... อย่าไปเคืองแมวเลยนะคะ ไม่ใช่ความผิดของแมว... จากนั้นก็ต้องอาศัยขึ้นแท้กซี่ไปแทนค่ะ... ถามแท้กซี่ก่อนด้วยว่าเขาจะอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงโดยสารได้หรือไม่
**ลุ้นเอาใจช่วยใหโชคดีเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางทั้งไปและกลับค่ะ**
แบ่งปันประสบการณ์ การนำสัตว์เลี้ยง ขึ้นรถเมล์ธรรมดา (รถเมล์ร้อนประเภทไม่ติดแอร์)
เคยเก็บมาเลี้ยงครั้งนึงค่ะจากออฟฟิศ กลับบ้าน ใส่ถุงกระดาษ เอาผ้ารองถุง
ก็ลุ้นว่าจะถูกเชิญลงมั้ย ขึ้นทางด่วนอีกตังหาก 
พอถึงป้ายแล้ว ร้องเย้ๆในใจ 
ฉันทำได้