เกี่ยวกับวิธีเลี้ยง สับปะรดสี
|
 |
®Amarin Printing and Publishing PCL®
ถ้าจะพูดถึงพันธุ์ไม้ที่กำลังเป็นที่จับตาและได้รับความนิยมสูงสุดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันต้องมีชื่อของสับปะรดสี แคคตัส และกล้วยไม้ อยู่ในกลุ่มน่าปลูกเหล่านั้นอย่างแน่นอน วันนี้เราเลยได้ทีจับเซียนไม้น่าปลูกเหล่านี้มาคุยเฟื่องเรื่องเคล็ดลับดีๆ ที่จะเลี้ยงดูให้เจ้า 3 ต้นนี้งอกงามไปตามๆ กันค่ะ
คุณมนูญ เจียมจรัสรังสี นักปลูกเลี้ยงบรอมีเลียดหรือสับปะรดสี และทิลแอนเซีย
Q: ปลูกสับปะรดสีในกรุงเทพฯ มีวิธีจัดการอย่างไรให้ต้นสวย
A : เริ่มตั้งแต่การใช้น้ำ หากใช้น้ำประปารดควรขังน้ำทิ้งไว้ 2 วัน เพื่อให้คลอรีนระเหยออกหมดก่อน เนื่องจากคลอรีนจะมีผลต่อพืชคือ เมื่อรดน้ำแล้วน้ำขังบริเวณปลายใบ คลอรีนจะไปกัดใบทำให้ใบไหม้เป็นสีน้ำตาลได้ รวมทั้งการฉีดน้ำลงบนยอดโดยตรงจะมีผลต่อการแตกยอดอ่อนได้เช่นกัน สำหรับปัญหาที่พบกับผู้ปลูกเลี้ยงมือใหม่คือ ขยันรดน้ำมากเกินไป เพราะโดยธรรมชาติของพืชกลุ่มนี้ไม่ต้องการน้ำมาก เป็นต้นไม้ที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบหนีเที่ยวไปเป็นอาทิตย์ โดยเฉพาะในกลุ่มบรอมีเลียดนีโอเนเจลยา ซึ่งมีรูปทรงเหมือนแจกัน หากเทน้ำลงไปสามารถกักไว้ในช่องว่างระหว่างกาบใบได้ 0.5- 2 ลิตร แล้วแต่ขนาด ซึ่งเลี้ยงต้นได้ตั้งแต่ 7-10 วัน
Q: การขยายพันธุ์ วัสดุปลูก และการให้ปุ๋ยทำได้อย่างไรบ้าง
A : นิยมขยายพันธุ์ด้วยวิธีแยกหน่อ เมื่อตัดออกมาอาจใช้ปูนแดงหรือยากันราป้ายบริเวณรอยตัด ทิ้งไว้ประมาณ สองสัปดาห์ พอตัดเสร็จวางทิ้งไว้ในกระถางเปล่า หรือหากต้องการให้ออกรากง่ายขึ้นให้วางบนกาบมะพร้าวที่ชุ่มน้ำ เพื่อให้รากเกาะได้เร็วขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องใช้สารเร่งราก จุดเจริญของรากจะอยู่บริเวณโคนกาบใบ เมื่อปลูกเสร็จให้รดน้ำหนึ่งครั้งและทิ้งไว้หนึ่งสัปดาห์ จึงรดน้ำซ้ำ ส่วนวัสดุปลูกอาจใช้รากชายผ้าสีดา กาบมะพร้าวสับหรือขี้เลื่อยที่แช่น้ำไว้ 3 วันให้ยางออกหมดก่อน (หากนำมาใช้ทันทีจะมีผลทำให้บริเวณโคนต้นที่ชิดกับผิวดินแสดงอาการผิดปกติ หรือที่เรียกว่าอาการเน่าคอดิน) ผสมกับถ่านและอิฐมอญทุบ สามารถให้ปุ๋ยละลายช้าได้กับบรอมีเลียดทุกชนิด ยกเว้นตระกูลเดียวคือ บรอมีเลียดนีโอเนเจลยา ไม่ควรให้ปุ๋ยเลย เพราะจะทำให้ใบยาว เสียรูปทรง
Q: กรณีปลูกไว้ในสวน ควรจัดสภาพพื้นที่อย่างไร
A : สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมคือชื้นแต่ไม่แฉะ ต้องการแสงมากแต่ต้องไม่ร้อน ถ้าเป็นไปได้ควรปลูกในบริเวณที่ได้รับแดดครึ่งวันเช้าจะดีกว่าแดดบ่าย และสามารถปลูกไว้กลางแจ้งได้ แต่ในช่วงฤดูร้อน ควรพรางแสงให้ร่มขึ้น เช่น หากปลูกไว้ในโรงเรือนซาแรนสีดำพรางแสง 60 เปอร์เซ็นต์ ให้ใช้มุ้งตาข่ายสีฟ้าขึงด้านล่างซาแรนเพิ่มเข้าไปเพื่อช่วยตัดแสงที่ลงมาให้น้อยลง ช่วยป้องกันใบไหม้ได้
จากคุณ |
:
C_WIN
|
เขียนเมื่อ |
:
2 ก.ค. 55 22:40:39
|
|
|
|