ความคิดเห็นที่ 1 เจรจาอันดับแรก  แค่ในบ้านกันเองค่ะ มีรายเดียวที่ต้องการเลี้ยงหมาอีก หลังจากที่เสียหมาตัวแรกไป ..คือคุณพ่อบ้าน นอกนั้น ไม่มีใครทำใจได้ ที่จะแบ่งความรักไปให้หมาตัวอื่น  และก็ไม่มีใครรู้ ว่าเราจะมอบความรักให้กับหมาตัวอื่นได้มั้ย  สิบห้าปีครึ่งที่เราอยู่กันมา มันไม่ใช่ระยะเวลาสั้นๆ  โดยเฉพาะเด็กๆ เกิดมาก็เห็นไลก้านอนอยู่ข้างๆ ตลอด จะย้ายประเทศ จะย้ายบ้าน ยังไงเราก็ไม่ทิ้งไลก้า  ......พอพ่อเค้าเริ่มเกริ่นๆ ว่าอยากหามาตัวใหม่มาทดแทน ทุกคนปฎิเสธกันหมดค่ะ  โดยเฉพาะน้องคนเล็ก ที่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง น้องบอกว่า ยังไงก็ไม่ยอมเด็ดขาด ชาตินี้จะรักไลก้าตลอดไป ไม่แบ่งใจให้หมาตัวไหนอีกแล้ว .......จะหาไลก้าเจอมั้ยคะเนี่ย จากคุณ : คุณนายดอกไม้ เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 10:35:06

ความคิดเห็นที่ 2 เจอแล้ว  บนโซฟา ซ้ายมือค่า น้องอุ้มอยุ่ จากคุณ : รักคุณแฟน เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 10:41:32

ความคิดเห็นที่ 3 ช่วงที่เสียไลก้าไปนั้นเป็นช่วงที่ทำใจยากจริงๆค่ะ   ปกติเป็นคนที่ไม่ร้องไห้ แม้กระทั่งวันที่รู้ตัวว่าน่าจะเป็นมะเร็ง ก็ร้องไห้ไม่ออก  นอนใช้ความคิดคนเดียวทั้งคืน จนเกือบรุ่งสางมีบางเหตุการณ์ที่ชวนให้น้ำตาไหล ก็เลยร้องไห้ไปสองชั่วโมงจบ และก็ไม่ร้องไห้เสียใจที่เป็นมะเร็งอีกเลย แต่หมาตายหนึ่งตัว ร้องไห้เป็นเดือน และเกือบสองปีเข้าให้ ก็ยังมีแอบน้ำตาไหลอยู่บ่อยๆ จากคุณ : คุณนายดอกไม้ เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 10:47:27

ความคิดเห็นที่ 4 วิธีที่คุณพ่อบ้านใช้ ช่วงที่ขอมีลูกหมาตัวใหม่ เกือบทุกคืนก่อนนอน  เค้าจะมาแอบเซ็ตหน้าจอคอมฯ โดยใช้รูปหมาพันธุ์ที่เค้าอยากเลี้ยง พอเช้ามา ก็นั่งรอให้เราลงมาเปิดคอมฯ แล้วก็รอดู ว่าเมียจะว่ายังไง พอเราไม่ว่ายังไง เปิดหน้าจอมา ก็ทำหน้าเฉยๆ เดี๋ยวเค้าก็หาภาพใหม่มาใส่ไว้เรื่อยๆค่ะ ใช้เวลานาน.. หลายวัน.. และหลายภาพ  แต่เราก็ยังเฉยๆ สุดท้าย ด้วยคำพูดที่ว่า ......เราสองคนมีโลกส่วนตัวสูง ไม่ชอบคบมนุษย์เป็นเพื่อน ทำให้เรามีเพื่อนน้อย หรือแทบจะไม่มีเพื่อนเลย  ......... .....ขอได้ไหม .....ขอเพื่อนเป็นสิ่งมีชีวิต ถึงแม้จะพูดคุยกันไม่ได้ แต่เป็นเพื่อนที่พร้อมจะเดินป่าด้วยกัน ชวนเมื่อไหร่ พร้อมที่จะกระโดดขึ้นรถไปทันที ณ.จุดนั้น .....รุ้ว่าไม่สามารถวางเฉย และไม่สามารถปฎิเสธได้แล้วค่ะ   หลังจากตกลงยอมให้หาหมาตัวใหม่มาทดแทนได้ เราก็เริ่มดำเนินการเจรจาขั้นที่สอง แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 55 11:00:36 จากคุณ : คุณนายดอกไม้ เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 10:58:38

ความคิดเห็นที่ 5 เหมือนกันเลยคะ หมาเราตายเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ยังจำความรู้สึกนั้นได้ดี เรา กะ สามี ไม่ทานข้าวโพด ไป 3 ปี เด็ม ๆ เพราะหมาเราชอบทานข้าวโพดมาก เห็นข้าวโพดก็ ร้องไห้ เป็นแบบนี้ นานมาก แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 55 11:02:34 แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 55 11:02:07 จากคุณ : maxx2009 เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 11:00:40

ความคิดเห็นที่ 6 เจรจาขั้นต่อไป ก็คือ น้องคนเล็ก ซึ่งไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งสิ้น กว่าจะเจรจากับน้องสำเร็จ ก็ใช้เวลานานค่ะ แต่ก็จบลงด้วยเหตุผลที่ว่า .......เราจะให้ของขวัญวันเกิดพ่อเป็นลูกหมาตัวน้อยๆ ซึ่งที่ลูกสาวยอมเห็นดีด้วย ก็คงจะเพราะขำค่ะ ปกติมีแต่ลูกๆ ร่ำร้องอยากได้ลูกหมา แต่งานนี้ พ่อกลับเป็นฝ่ายร่ำร้องอยากได้ลูกหมา  ลูกสาวก็เลยโอเค เริ่มแรกแม่ก็ไม่เอาด้วย แต่พอตกลงใจอนุญาต ก็กลายเป็นว่า เราเป็นคนกล่อมลูกค่ะ เพราะเลี้ยงลูกมาเอง จะรู้ว่าต้องพูดกับใคร แบบไหน อย่างไร ถึงจะประสบผลสำเร็จ แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 55 11:09:46 จากคุณ : คุณนายดอกไม้ เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 11:08:24

ความคิดเห็นที่ 7 เจรจาขั้นต่อไป ติดต่อหาคนขายหมา ตามสายพันธุ์ที่พี่แกอยากได้  Irish setter แต่ได้รับคำตอบมาว่า ครอบครัวเราไม่เหมาะที่จะเลี้ยง พื้นที่ประมาณ 4 ไร่ ก็ยังไม่กว้างพอ ตารางชีวิตประจำวันก็ไม่น่าจะเข้ากัน เจ้าของฟาร์มเป็นแม่ของเพื่อนลูกชาย  เค้าไม่ขายให้ ก็บอกเราตรงๆ ด้วยเหตุผลที่รับฟังได้ หลังจากนั้น ก็ต้องมองหาสายพันธุ์อื่น ที่คิดว่าน่าจะเข้ากันได้ เลยไปลงเอยที่ โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ก็ต้องเริ่มต้นกันใหม่ มองหาฟาร์มที่ชื่อเสียงดี มีคุณภาพ และเริ่มต้นส่งอีเมลล์ไปแนะนำตัว จากคุณ : คุณนายดอกไม้ เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 11:16:37

ความคิดเห็นที่ 8 ช่วงอาทิตย์แรก การเริ่มต้นอีเมลล์ ก็จะเป็นประวัติครอบครัวคร่าวๆ บอกเล่าถึงการเลี้ยงหมาตัวก่อน และตอนนี้กำลังมองหาตัวใหม่มาทดแทน เมลล์ที่ตอบกลับมา มีคำถามห้าร้อยแปดพันคำถาม   ตอบกันไป ถามกันมา จนไปถึงขั้นนัดพบ เพื่อสัมภาษณ์รอบแรก ** สัมภาษณ์รอบแรกนี่ ยังไม่ใช่ขั้นการตัดสินใจว่าจะขายให้หรือเปล่านะคะ แค่นัดพบ เพื่อดูบุคลิก ลักษณะนิสัย และขอพบทุกคนในครอบครัว เพื่อประกอบการตัดสินใจ ว่าจะยอมให้ลูกเค้ามาอยู่กับเราหรือเปล่า  ......แต่ครั้งนั้น ลูกชายติดทำงาน เราเลยขอไปแค่สี่คนก่อน ถ้าลูกชายว่างเมื่อไหร่ จะนัดพบอีกรอบก็ไม่เป็นไร .......ไปแต่ละครั้ง เดินทางไปกลับ 5 ชั่วโมงค่ะ ที่จริง แถวๆนี้ก็มีฟาร์มโกลเด้น แต่คุณสามีเค้าก็สืบเสาะแสวงหา แล้วมาลงเอยที่เจ้านี้  แถมราคาแพงกว่าเจ้าอื่นด้วยสิ แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 55 11:25:15 จากคุณ : คุณนายดอกไม้ เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 11:22:49

ความคิดเห็นที่ 9 นัดพบครั้งแรก คุยกันสองชั่วโมงเต็ม และ ตกลงให้มีการวางมัดจำ และนัดพบครั้งที่สอง ........แต่ยังไม่ตกลงใจ ว่าจะขายให้หรือเปล่า การพูดคุยกัน ก็จะเน้นไปที่รายละเอียดการใช้ชีวิตประจำวัน ใครอยู่บ้าน ใครไปทำงาน ใครจะพาหมาเดิน ..เดินได้บ่อยมั้ย มีกิจกรรมประจำวันอะไรบ้าง ... บ้านมีรั้วมั้ย มีพื้นที่หรือเปล่า ถ้าอยู่คอนโดหรืออพาร์ทเม้น ไม่ต้องคุยกันต่อ ถ้าคนซื้ออายุมาก เค้าก็ไม่ขายให้ เพราะสู้แรงโกลเด้นไม่ไหวแน่ๆ  ถ้าดูแล้วเหมือนครอบครัวจะมีปัญหา เค้าก็ไม่ขายให้เช่นกันค่ะ ...และในระหว่างที่คุย  เค้าก็จะสังเกตลักษณะนิสัย การวางตัว และการปฎิบัติต่อสัตว์เลี้ยง  ดูตั้งแต่พ่อ แม่ และลูก  ....ของเราตกลงว่า จะพาลูกชายมาให้สัมภาษณ์ในครั้งที่สอง จากคุณ : คุณนายดอกไม้ เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 11:32:36

ความคิดเห็นที่ 10 นัดพบครั้งที่สอง  เราไปกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา และใช้เวลาสองชั่วโมงเต็มในการพูดคุย ....ซึ่งในสองชั่วโมงนั้น ก็ยังไม่รู้ว่า เค้าจะขายให้เราหรือเปล่า ......แต่คุณพ่อแกเตรียมเงินไปแล้วนะคะ และไม่ใช่แค่เงินอย่างเดียว พี่แกเตรียมปลอกคอสองขนาด และป้ายห้อยคอที่สลักเบอร์โทรบ้าน  จะได้หรือไม่ได้หมา ก็ขอเตรียมพร้อมไว้ก่อน สองชั่วโมงผ่านไป คุณพี่เจ้าของฟาร์มก็บอกว่า .....ตกลงใจจะขายให้ และเราสามารถรับโกลเด้นน้อยกลับมาบ้านพร้อมเราได้เลย ..........แต่ละคนแอบถอนหายใจอย่างโล่งอก  ไม่อยากให้คนอยากได้หมาน้อยกลับบ้านด้วยอาการผิดหวัง  วันเกิดก็ผ่านมาตั้งหลายวันแล้ว ถ้ากลับบ้านไปแบบไม่มีของขวัญกลับไปด้วย สงสัยจะเสียใจแย่เลยเนอะ แต่.... ค่ะ .......มีข้อแม้ด้วยว่า ......ก่อนจะซื้อจะขาย มีหนังสือสัญญาที่เราสองคนผัวเมียจะต้องเซ็น อุแม่จ้าวววววววว ......กว่าจะฝ่าฟันอุปสรรคมาได้แต่ละขั้น .....มาจนถึงขนาดนี้ ยังไม่จบสิ้นอีกเหรอเนี่ย จากคุณ : คุณนายดอกไม้ เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 11:40:35

ความคิดเห็นที่ 11 ชื่นชมฟาร์มในประเทศของ จขกท. เลย อ่านแล้วชื่นใจจัง ตอนนี้เป็นแฟนคลับน้องลูกหยีอีกคนนะคะ มาโชว์ตัวบ่อยบ่อยๆ นะจ๊ะ น้องลูกหยี จากคุณ : วู๊วๆ ว๊าวๆ เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 11:57:33

ความคิดเห็นที่ 12 ข้อความในหนังสือสัญญาแบบคร่าวๆนะคะ เพราะขี้เกียจไปค้นหา คุณพี่แกเก็บในตู้เอกสารอย่างมิดชิด - ถึงแม้ว่าเราจะซื้อขายหมากันแล้ว แต่ความสัมพันธุ์ระหว่างครอบครัวใหม่ และเจ้าของฟาร์มไม่ได้จบที่การจ่ายเงินนะคะ ...เค้ายังมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและรับรู้ถึงความเป็นไป ตลอดชีวิตของโกลเด้นน้อยค่ะ - ถ้าครอบครัวเรามีเหตุให้ต้องย้ายที่อยู่ แยกทางกัน หรือจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ที่เราไม่สามารถเลี้ยงดูโกลเด้นด้วยตัวเองต่อไปได้ ห้ามยกให้คนอื่น ถ้าไม่ผ่านความเห็นชอบจากเจ้าของฟาร์ม ...ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เค้าขอรับโกลเด้นกลับไปคืน จ่ายค่าเสียหายคิดตามอายุที่เหลือ -ห้ามผสมพันธุ์โกลเด้น ยกเว้นแจ้งตั้งแต่แรกว่า ต้องการซื้อไปผสมพันธุ์ ...การพิจารณาก็จะมีความเข้มข้นต่างระดับ -จับโกลเด้นทำหมัน หลังตัวเมียมีประจำเดือนหนึ่งครั้ง ( ถ้าคุณหมอให้ทำช่วงหกเดือน ให้แกล้งลืม  หรือบอกคุณหมอตรงๆ ว่าแม่พันธุ์ขอให้มีประจำเดือนหนึ่งครั้งก่อน เพื่อให้ฮอร์โมนเพศหญิงมีโอกาสทำงาน โกลเด้นจะได้ดูหน้าตาสะสวย และเซ็กซี่สมเป็นผู้หญิง) -ถ้าปล่อยให้หมาท้อง  ต้องเสียค่าปรับ 5 พันดอลล์ -โกลเด้นจะต้องได้เข้าโรงเรียน เพื่อฝึกและเรียนรู้ขั้นพื้นฐาน เวลาไปไหน อยู่กับใคร ไปฝากที่อื่นเลี้ยง เค้าจะสามารถรับคำสั่งแบบสากลได้รู้เรื่อง -โกลเด้นจะต้องได้รับการดูแลตัดผมแต่งเล็บจากร้ายมืออาชีพ อย่างน้อยปีละครั้ง -อาหารที่ให้ 9 เดือนแรก เป็นยี่ห้อและชนิดที่เค้าระบุ -หากโกลเด้นเจ็บไข้ได้ป่วย ต้องเข้ารับการรักษา เราต้องแจ้งให้เค้าทราบ และเค้าจะต้องมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในการเลือกหนทางในการรักษา   ไม่แน่ใจว่ามีรายการไหนตกหล่นไปบ้างนะคะ หลังจากเซ็นสัญญาเสร็จ เค้าก็มอบหนังสือของคุณซีซาร์ มิลลานมาให้หนึ่งเล่ม ซึ่งเป็นเล่มที่เรายังไม่มี นอกนั้นมีหมดแล้ว และเราก็ทั้งอ่านหนังสือ ทั้งดูทีวี เรียนรู้และทำความเข้าใจล่วงหน้าแล้วประมาณหนึ่ง กว่าจะได้หมามาเป็นสมาชิกของครอบครัว ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ แต่เราก็เต็มใจทำ เพราะมันเป็นการแสดงให้เห็นว่า เค้ารัก ห่วงใย และเอาใจใส่ในทุกอย่างเพื่อลูกของเค้าจริงๆ หลังจากผ่านเหตุการณ์นั้นไป เคยเล่าให้เพื่อนคนผิวดำฟัง  พอเค้าฟังแล้ว เค้าออกอาการโมโห ว่าทำไมเราต้องไปยอมทำแบบนั้นด้วย ถึงจะเซ็นสัญญาไปแล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องทำตาม เราไม่จำเป็นต้องให้เค้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงของเราอีก ก็เลยต้องบอกไปว่า  เธอรู้ไหม ว่าโกลเด้นตัวนี้ราคาแพงกว่าโกลเด้นทั่วไป แต่เรายินดีที่จะจ่าย และเรายินดีที่มีหนังสือสัญญาให้เซ็น และไอ้ที่ยอมขับรถไปกลับครั้งละ 5 ชั่วโมง ก็เพราะคุณพี่แกสืบเสาะแสวงหาคนขายหมาที่มีคุณภาพแบบนี้ละ แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 55 00:07:08 จากคุณ : คุณนายดอกไม้ เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 11:59:10

ความคิดเห็นที่ 13 ระหว่างเดินทางกลับบ้าน เราตั้งชื่อให้น้องกันบนรถเลยค่ะ เพราะประกวดตั้งชื่อกันเป็นอาทิตย์ แต่ก็ไม่มีใครเข้าวิน จนสุดท้าย ได้เห็นหน้า ได้เห็นตัว ได้เห็นความดื้อและความซน จนพี่ชายเค้าบอกว่า หน้าตาแบบนี้ น่าจะชื้อ ...เคลลี่ ... คุณพ่อเค้าถามว่า ...เคลลี่ มีความหมายหรือเปล่า คุณลูกชาย ซึ่งมีตำแหน่งเป็นดิกชันนารี่ประจำบ้าน  ตอบมาว่า ...น่าจะแปลว่า นักรบหญิงผู้กล้าหาญ ..อะไรประมาณนี้ เดี๋ยวต้องกลับไปเช็คที่บ้านว่าใช่หรือเปล่า ทุกคนเลยลงความเห็นว่า ถ้าความหมายเป็นอย่างที่พี่เค้าว่า โกลเด้นน้อยตัวนี้ ก็มีชื่อว่า เคลลี่ แต่ไปๆมาๆ เธอก็กลายมาเป็น ลูกหยี ของแม่ จากคุณ : คุณนายดอกไม้ เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 12:06:08

ความคิดเห็นที่ 14 วันแรก โกลเด้นน้อย คงเหนื่อยจากการเดินทางค่ะ เพราะเพิ่งเคยเดินทางไกลเป็นครั้งแรก ก่อนหน้านั้น แม่เค้าเคยพาไปหาหมอ เพื่อฉีดวัคซีน ทดสอบการมองเห็น การได้ยิน และดูรายการอื่นๆที่จำเป็น พร้อมฝังไมโครชิฟ แต่คลีนิคหมอก็อยู่ไม่ไกลนัก พอต้องเดินทางมากับเรา ถึงบ้านปุ๊บ นอนต่อทันที จากคุณ : คุณนายดอกไม้ เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 12:08:32

ความคิดเห็นที่ 15 ลูกคนอยากเล่นกับลูกหมา แต่ลูกหมาไม่ยอมตื่นมาเล่นด้วย จากคุณ : คุณนายดอกไม้ เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 12:09:38

ความคิดเห็นที่ 16 เอาอะไรมาล่อ ก็ไม่ยอมตื่น ขอพักกระทู้ไว้ที่ภาพนี้นะคะ ดึกแล้ว จากคุณ : คุณนายดอกไม้ เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 12:11:01

ความคิดเห็นที่ 17 มารอฟังเส้นทางสู่วงการของน้องลูกหยีค่า ขอสมัครเป็นแฟนคลับเลยละกัน น่ารักมากๆ อ่านเรื่องการซื้อขายของฟาร์มที่ ตปท. แล้ว รู้สึกดีนะคะ ดูใส่ใจดี ชอบตรงที่ให้ทำหมันอ่ะ ฟังครั้งแรกเหมือนเค้าจะงก แต่ที่จริงเราว่าเขาใส่ใจมาก เพื่อป้องกันการที่น้องหมาจะถูกเอาไปทำแม่พันธุ์แบบไม่เหมาะสมในอนาคต (เคยดูสารคดี พวกเอาไปขังทำแม่พันธ์โดยไม่ดูแลสุขภาพหมาเลย) รอต่อนะคะ ปล. ประเทศอะไรคะ จากคุณ : แม่นุ้งกี้ เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 12:21:56 A:210.246.159.246 X: TicketID:306203

ความคิดเห็นที่ 18 โคโค่ รอดูรูปน้องเคลลี่ " ลูกหยีของแม่" จากคุณ : AJ-COCO เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 12:23:34

ความคิดเห็นที่ 19    แฟนคลับมาติดตาม.. ตามติดน้องลูกหยีค่ะ นางแบบแสนสวย.. น่ารักน่ากอดมากๆค่ะ RIP   พี่ไลก้า.. เสียใจด้วยนะคะ     จากคุณ : ปอนด์ กะ เป้ เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 12:50:21

ความคิดเห็นที่ 20 นี่คือหลักการ ของต่างประเทศใช่ใหมคะ สุดยอดมากอะ อยากให้บ้านเรามีแบบนี้กันบ้าง จะได้ไม่เป็นปัญหาระดับชาติ เช่นทุกวันนี้อ่ะ ^^ จากคุณ : ยายจอมยุ่ง เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 13:01:17

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นด้วยกับ  คห  20 จากคุณ : beauty aoy เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 13:27:04

ความคิดเห็นที่ 22 เส้นทางนางแบบของน้องลูกหยี โรยไปด้วกลีบกุหลาบ 555 ขอเป็นแฟนคลับด้วยนะ จากคุณ : มีลูกดื้อๆ 6 ตัว (jobee_p) เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 13:43:21

ความคิดเห็นที่ 23 ลูกหยีน่ารักมาก คนขายมีจรรยาบรรณสูงมาก อยากให้บ้านเราเป็นแบบนี้สัก 1 ใน3 ขอเอาแค่ไม่ทำร้ายสัตว์ ไม่ทิ้งสัตว์ ครอบครัวคุณก็น่ารักมากเช่นกันค่ะ ลูกหยีต้องมีความสุขมากๆแน่ จากคุณ : hsbchs (hsbchs) เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 14:07:59

ความคิดเห็นที่ 24 คุณ : รักคุณแฟน .....ขอบคุณที่ร่วมมองหาไลก้าค่ะ ภาพนี้ถ่ายเก็บไว้นานหลายปีแล้วค่ะ แต่ชอบมากกกกกกกกกก   คุณ: maxx2009 ...ความรัก และความอาลัยต่อสัตว์เลี้ยง มันไม่มีวันจบสิ้นจริงๆค่ะ หมาจรจัดบางตัวที่มีโอกาสได้พบในบางโอกาส พบแค่ระยะเวลาสั้นๆ ยังสามารถยึดพื้นที่ในใจของเราได้นับสิบปี แล้วลูกที่เราเลี้ยงมากับมือ นอนด้วยกันทุกคืน และคอยเดินตามทุกวัน ทำให้ลืมเค้าไม่ลงจริงๆค่ะ คุณ : วู๊วๆ ว๊าวๆ .....ฟาร์มที่นี่ ก็ไม่เป็นแบบนี้ทุกรายหรอกค่ะ พวกผสมพันธุ์แบบไม่ใส่ใจก็มีเยอะ เราถึงต้องพยายามคัดเลือกคนที่เค้าทำอาชีพนี้มานาน และรักษาชื่อเสียงมาได้ตลอด และการที่เค้าขอพบเราเพื่อสัมภาษณ์ เราเองก็แอบสังเกตการณ์เหมือนกันค่ะ ว่าจะไหวมั้ย สร้างภาพหรือเปล่า บางเจ้า อาจจะไม่ให้ลูกค้ามีโอกาสได้เห็นความเป็นอยู่ของแม่ลูก แต่เจ้านี้เค้าเลี้ยงในบ้าน เราได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของเค้าด้วยค่ะ .....ถ้ามีเวลา ก็จะพยายามมาบ่อยๆค่ะ ไม่คิดว่าจะมีคนติดใจน้องลูกหยี  ช่วงนี้แค่กะปั่นราคาของก่อนเปิดประมูลเท่านั้น  แต่ถ้ามีคนติดตาม ก็จะพยายามแบ่งเวลาค่ะ คุณ  แม่นุ้งกี้......เรื่องการทำหมัน ส่วนใหญ่คนที่นี่จะทำหมันให้สัตว์เลี้ยงทั้งนั้นค่ะ เพราะค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงสูงมาก และแถวนี้ไม่มีวัดให้เอาหมาแมวไปปล่อยซะด้วยสิคะ ถ้าเอาไปปล่อยทิ้งไว้ในที่สาธารณะ ถ้าเค้าติดตามและสืบหาเจอ ว่าใครเป็นคนทิ้ง ถือว่ามีความผิดค่ะ . ......แต่ที่เค้ากำหนดระยะเวลาการทำหมัน ก็เพื่อที่ว่า ลูกหมาจะได้มีโอกาสเติบโตได้เต็มที่ มีลักษณะตามที่เค้าผสมพันธุ์เอาไว้ค่ะ ......และคนที่ไม่มีประสบการณ์ในการจับหมาผสมพันธุ์ ในกรณีนี้เค้าก็ต้องหาทางป้องกันเอาไว้ก่อน เพราะการจะผสมพันธุ์สัตว์เลี้ยง ก็ต้องเช็คประวัติเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผสมกันเองในเครือญาติเดียวกัน เพราะมีโอกาสที่จะเกิดมาพิการ มีโรคทางกรรมพันธุ์ เป็นการขยายความบกพร่องทางสายพันธุ์ค่ะ เคยดูในทีวี บางคนก็ปล่อยปละละเลยค่ะทำมาหาเงินเท่านั้น ไม่ได้ให้ชีวิตความเป็นอยู่อย่างมีคุณภาพต่อสัตว์ที่ทำเงินให้เลย แม่สามีเคยซื้อหมามาจากฟาร์มหนึ่ง ที่เจ้าของบอกว่า ตั้งใจจะซื้อมาเป็นแม่พันธุ์ แต่เช็คแล้ว เค้ามาจากสายพันธุ์เดียวกัน เป็นญาติห่างๆ ก็เลยใช้งานไม่ได้ ต้องประกาศขายต่อ ขอบคุณที่ให้ความเอ็นดูนางแบบนะคะ จะพยายามอัพเดทเป็นระยะค่ะ คุณ : AJ-COCO .......พี่โคโค่ ก็น่ารักมากมายเลยค่ะ ....จุ๊ๆ ...ตอนนี้อยากได้หมาตัวเล็กมากๆค่ะ เพราะลูกหยีนั่งตักทีไร แม่มันหายใจไม่ออก จากคุณ : คุณนายดอกไม้ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 00:32:24

ความคิดเห็นที่ 25 คุณ : : ปอนด์ กะ เป้ ........จะพยายามอัพเดทเรื่อยๆค่ะ ........น้องทั้งสองก็น่ารักมาก  หน้าตารับแขกตลอดเลยนะคะ คุณ : ยายจอมยุ่ง .......คิดว่าเค้าไม่มีหลักการแบบนี้ทุกเจ้าหรอกค่ะ แต่ตอนที่เรามองหา ก็พยายามเลือกจากรายที่มีชื่อเสียง และทำอาชีพนี้มานานแล้วค่ะ  สังคมออนไลน์ เราสามารถเช็คได้ ว่าลูกค้าซื้อไปแล้วมีความประทับใจหรือเปล่า   แต่ของต่างประเทศ กฎระเบียบในเรื่องการดูแลสัตว์เลี้ยงค่อนข้างเคร่งครัดค่ะ แต่ละครัวเรือนห้ามมีเกิน 4 ตัว   คุณ : beauty aoy .......นอกจากกฎระเบียบที่เค้าตั้งไว้ คนปฎิบัติตาม ก็ต้องมีสามัญสำนึก และมีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยค่ะ ถึงจะได้ผล ......ถ้าเปรียบเทียบกับบ้านเรา ก็ยังไกลกันเยอะเลยค่ะ คุณ : มีลูกดื้อๆ 6 ตัว (jobee_p) .......ขอบคุณมากๆค่ะ ที่เอ็นลูกลูกหยี ....เดี๋ยวมีภาพมาเอาใจแฟนคลับค่ะ คุณ : hsbchs (hsbchs).....คนขายเจ้านี้เค้ามีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะค่ะ เพราะเค้ารักลูกเค้ามาก ไม่ได้คิดว่าแค่ทำการค้า ซื้อขายกันแล้วก็จบ  แต่เค้ามองว่าเหมือนเป็นลูกที่เค้าประคบประหงมมาเอง ลูกจะไปอยู่ที่ไหน กับใคร เค้าก็ขอมีส่วนร่วมในการรับรู้ทุกข์สุข ....เวลาลูกหยีมีอาการอะไรที่เราไม่แน่ใจ เราก็โทรปรึกษาแม่ทางโน้นก่อนถึงมือหมอค่ะ จากคุณ : คุณนายดอกไม้ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 00:46:21

ความคิดเห็นที่ 26 อยากให้คนเลี้ยงหมาทั้งโลกเป็นแบบนี้จังค่ะ จากคุณ : ปูจี้ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 11:22:17

ความคิดเห็นที่ 27 อ่านแล้วรู้สึกตามเลยค่ะว่าน้องลูกหยีเป็นแก้วตาดวงใจของทุกคนในครอบครัว ซาบซึ้งด้วย   ลุ้นด้วย    อยากกอดอยากฟัดเจ้าลูกหยีด้วย.... จากคุณ : ซำพอริมรั้ว เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 14:43:44

ความคิดเห็นที่ 28 อ่านแล้วรู้สึกชอบมากเลยค่ะ ถ้าทุกคนรับผิดชอบต่อชีวิตน้อยๆเหมือนสมาชิกในครอบครัวแบบนี้ คงไม่มีภาพสะเทือนใจให้เห็นอีกต่อไป เฮ้ออ ขอไว้อาลัยให้น้องหมาที่ประสพเคราะห์กรรม และขอต้องรับ และแสดงความยินดีกับการต้อนรับสมาชิกใหม่ของพี่ดอกไม้นะคะ ยินดีด้วยเป็นที่สุดเลยค่ะ ^ ^ พา 3 หนุ่มมาแนะนำตัวก่อนค่ะ ((กาซิบ ตอนนี้มี 4 หนุ่ม 1 สาวแล้วค่ะ วุ่นวายมาก)) ^ ^ จากคุณ : เม็ดทรายในทะเล เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 20:26:20

ความคิดเห็นที่ 29 น่ารักมากๆค่ะ มาตรฐานการคัดเลือกผู้ซื้อสุนัขที่นั่นดีมากๆเลยค่ะ (ขอเดาว่าเป็นอเมริกา) เราชอบมากๆ เคยดูรายการพวก SPCA เ้ค้าจริงจังกับเรื่องสวัสดิภาพชีวิตสัตว์มากๆ ป.ล. น้องลูกหยีน่ารักมากๆ บ้านเราก็เลี้ยงโกลเด้นค่ะ เป็นหมาที่ทำให้ทุกคนมีความสุขจริงๆ ค่ะ จากคุณ : ฟ้าหม่น ฝนโปรย (ฟ้าหม่น ฝนโปรย) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 55 11:37:58