ความคิดเห็นที่ 1 ต้องซื้อร้านขายส่งที่ไหนคะ จากคุณ : mikimilk เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 10:42:24

ความคิดเห็นที่ 2 อนาคตอาจจะต้องขายของควบบางอย่างด้วยทั้งค่ะ เช่น  กรง - ตะกร้าใส่แมวแบบมีฝาปิด - ทราบแมว   อาหารกระต่าย  อาหารปลา  อุปกรณ์เกี่ยวกับสัตว์ จากคุณ : annyfatgirl เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 10:55:34

ความคิดเห็นที่ 3 ซื้อร้านขายส่งมาต้นทุนจะสูงค่ะ ต้องสั่งซื้อกับเซลล์บริษัทให้เค้าเอามาส่ง จากคุณ : นราเกตต์ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 11:01:23

ความคิดเห็นที่ 4 ขายอาหารยี่ห้ออื่นด้วยสิคะ ยี่้ห้อตลาดก็บอกอยู่แล้วว่าซื้อได้ตามตลาดตามห้าง ถ้าเป็นร้าน ขายของสัตว์ทั้งทีก็ต้องมียี่ห้อที่ไม่ขายตามท้องตลาดด้วย เกรดดีกว่า อย่าง Royal Canin, Science Diet, Chicken Soup, Maxima, ฯลฯ แล้วก็ตามที่ท่านอื่นแนะนำค่ะ ขายของใช้อย่างอื่นควบไปด้วย กรง ตะกร้า กระเป๋า ชามน้ำ อาหาร ส้วมแมว ทรายแมว ห้องน้ำสุนัข แผ่นรองฉี่สุนัข น้ำยาเช็ดหู ยาหยอดหมัด เสื้อผ้า ปลอกคอ ฯลฯ เยอะแยะมากมาย แนะนำให้ลองไปเดินดูตามร้านหรือไปดูตามเว็บร้านขาขายของสัตว์เลี้ยงหลาย ๆ ที่ จะเห็น ภาพเองว่าเขาขายอะไรกันบ้าง ที่เหลือก็อาจจะต้องไปเก็บข้อมูลผู้ผลิดผู้แทนจำหน่ายเพื่อ สอบถามเกี่ยวกับการสั่งของค่ะ จากคุณ : UrnoK เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 11:07:47

ความคิดเห็นที่ 5 เพิ่งเปิดร้าน อาหาร 5 ยี่ห้อก็ไม่ถือว่าน้อยมากหรอกนะคะ แต่ถ้าสินค้าที่ขายมีน้อยก็หาวิธีจัดเรียงให้ัดูละลานตา พวกอุปกรณ์ หวี  แปรง  ปลอกคอก็ทำให้ร้านมีสีสันมากขึ้น ส่วนอาหารถ้าต้องการหายี่ห้ออื่นเพิ่มก็สังเกตุร้านอื่นว่าส่วนมากเค้าขายยี่ห้ออะไรกัน  แล้วหาเบอร์โทร.ของยี่ห้อนั้น  แล้วโทรไปถามเลยค่ะ   ว่าต้องการสั่งซื้อมาขายมีเงื่อนไขอะไรบ้าง แล้้วก็ขอชั้นวางเค้าด้วย ( บางยี่ห้อก็มีให้เลย ) จะได้ลดต้นทุนค่ะ จากคุณ : ซำพอริมรั้ว เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 11:09:29

ความคิดเห็นที่ 6 ต้องใช้ทุนประมาณเท่าไหร่คะ อยากให้ของมีหลากหลายอะคะ จากคุณ : mikimilk เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 11:48:34

ความคิดเห็นที่ 7 ใช่ๆ เราว่าต้องมีครบ อย่างเราเดินเข้าไปทีแรกกะจะดูแค่อาหาร แต่ว่าได้หวี ได้เสื้อ ได้สายจูง ได้แป้ง มา แล้วแต่ว่่าจะถือเป็นไปเท่าไร เพราะพอเดินดูเรื่อยๆ ก็จะอยากซื้อให้ลูกๆ แบบว่าต้องจัดร้านให้น่าเดินดูค่ะ เดินสะดวก ทุกมุม จากที่จะซื้ออย่างเดียวก็ได้อยากอื่นเพิ่ม  ขนมสุนัขอีกต่างหาก จากคุณ : gEkIm เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 12:20:43

ความคิดเห็นที่ 8 พี่สาวไม่ได้เลี้ยงสัตว์อยู่ด้วยเหรอคะ แนะนำว่าถ้าเลี้ยงด้วยจะทำให้เข้าใจลูกค้าได้ดีขึ้นนะคะ เป็นเรา เราจะยอมจ่ายแพงกว่าถ้าเป็นร้านที่ให้ข้อมูลได้ดี และมีของเพียบพร้อมหลากหลาย(ที่คัดสรรมาอย่างดีแล้ว -- แปลว่าคุณต้องมีความรู้ ทำการบ้าน และมีข้อมูลสนับสนุนว่าทำไมน่าจะเป็นยี่ห้อนี้ๆๆ ให้มีหลายเกรดหน่อยก็ดีค่ะ) ของใช้ต่างๆ และของหายาก เช่นอาหารสำหรับรักษาโรคหรือสำหรับสัตว์กินยาก ฯลฯ ถ้าทำแค่ซื้อมาขายไป ไม่ได้มี add value ให้ลูกค้า หากไม่ถูกมากๆ จริงๆ เราว่าคงสู้ร้านอื่นไม่ได้นะคะ จากคุณ : nongtik เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 12:52:10

ความคิดเห็นที่ 9 นอกจากอาหารสัตว์แล้วควรจะมีวัสดุอุปกรณ์ทุกสิ่งทุกอย่างที่สัตว์เลี้ยงใช้ด้วยนะคะ อย่างที่เพื่อน ๆข้างบนแนะนำแหล่ะ  เพราะบางครั้งเราเข้าไปซื้ออาหารก็จริง แต่เชื่อเหอะ พอเห็นเสื้อผ้า ของเล่น เครื่องสำอางค์  เครื่องประดับสัตว์เลี้ยงสวย ๆ งาม ๆ  ก็อดแวะเลือกชม เลือกซื้อติดมือกลับบ้านไม่ได้อยู่ดี อาจจะมีมุมเล็ก ๆ อีกมุมสำหรับวางแผงหนังสือเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงด้วยก็ได้ค่ะ ว่าแต่ร้าน อยู่แถวไหนจ๊ะ จะได้ไปอุดหนุน จากคุณ : สาวน้อยแตงไทย เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 12:53:07

ความคิดเห็นที่ 10 แนะนำว่าให้เอาของของโครงการรักษ์แมวไปขายด้วย ถือว่าเป็นการช่วยทำบุญและช่วยประชาสัมพันธ์ให้กับโครงการ เช่น ปฎิธินแมว กระเป๋า เสื้อ ของเล่น คู่มือเลี้ยงแมว เราเคยซื้อปฏิธินไปแจกเด็กแถวบ้านที่เลี้ยงแมว น้องๆเค้าชอบกันมากเลย เค้าบอกว่าหาซื้อไม่ได้เลย แสดงว่ายังมีคนที่อยากซื้อแต่ไม่สะดวกมาซื้อที่งานแมว จากคุณ : พลอยเล็ก เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 13:33:18

ความคิดเห็นที่ 11 ไปที่สนามหลวง 2 ค่ะ มีสินค้าให้รับมาขายทุกชนิดค่ะ จากคุณ : jazzzero เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 13:39:50

ความคิดเห็นที่ 12 เราขอแนะนำในฐานะลูกค้า และแม่ค้านะคะ ร้านต้องมีของเยอะค่ะ ถ้าของน้อยๆ เราไ่ม่อยากเข้าเลย .... ต้องมีอาหารทั้งหมา แมว ปลา หนู ... มีเสื้อผ้า แปรง เบาะนอน จานข้าว ขนม ฯลฯ อาจจะเพิ่มมาทีละนิด stockของไว้นิดหน่อย หรือลงทุนตู้ม!เดียวไปเลย จะได้ร้านที่ดูน่าเข้า เรียกลูกค้าขาจร เพื่อจะอัพเป็นลูกค้าประจำ :) เดินตลาดทุกอาทิตย์ ลองเข้ามากรุงเทพค่ะ เดินดูสนามหลวง 2 .. แล้วไปดูจตุจักร มองๆว่ามีอาหารยี่ห้อไหน ที่มีขายทุกร้าน ก็สั่งมาลงที่ร้านเลย ติดต่อผ่านบริษัทจะได้ราคาที่ถูกลง  ถ้ามีขายอาหารเป็นกระสอบ มีมอ'ไซค์ ลองทำ delivery ส่งถึงบ้านเพิ่มด้วยสิคะ :) จะเปิดร้าน ต้องลงทุนค่ะ!! ลงทั้งเงิน ลงทั้งแรง แล้วผลตอบแทนจะทำให้หายเหนื่อยได้ค่ะ ขอให้กิจการรุ่งเรืองนะคะ  ปล. ตามที่คห.บนๆแนะนำ ของๆโครงการรักษ์แมว เอาไปลงด้วยก็ดีนะคะ ปฎิทิน เสื้อ ของเล่นแมว ราคาถูกค่ะ ^^ ((credit รูปจาก google ค่ะ )) จากคุณ : Code_Riiku เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 15:55:46

ความคิดเห็นที่ 13 อีกนิด เรื่องข้อมูลสินค้านี่ก็สำคัญนะคะ ถ้าเราสามารถตอบได้ อย่างน้อยก็ช่วยในการตัดสินใจของลูกค้าค่ะ ถึงไม่ชัวร์บางทียังพออ้างอิงการใช้งานจากลูกค้าคนอื่นได้ เคยเข้าร้านสัตว์เลี้ยงใหม่ มีอาหารแมวยี่ห้อที่ไม่เคยซื้อให้เด็กทาน พอถามคนดูแลร้านว่า "ขอโทษนะคะ อาหารเม็ดยี่ห้อ.... นี้ดีมั้ย เป็นยังไงบ้าง" เขาก็ตอบว่า "ไม่ทราบสิคะ ไม่เคย เลี้ยงแมว" จบข่าว... ไม่ได้เข้าไปร้านนี้อีกเลยค่ะ เขาทำให้เรารู้สึกว่า คนเลี้ยงแมวไม่ใช่เป้าหมายของเขา ยังไงไม่รู้ จากคุณ : UrnoK เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 16:15:28

ความคิดเห็นที่ 14 ในความรู้สึกเรานะคะ เราเลี้ยงแมวเด็ก อาหารเปียกยี่ห้อวิสกัสจูเนียร์ สำหรับแมวเด็ก หาซื้อยาก ขนาดในโลตัสยังมีแต่ของแมวโต เห้อชีวิต ขนมแมวก็หาได้ยาก (ส่วนใหญ่จะเป็นขนมหมามากกว่า) แล้วก็ที่เห็นก็จะเป็นพวกอาหารเปียกกระป๋องที่ไม่ติดฉลากอ่ะค่ะ หาตามร้านขายอาหารสัตว์ไม่ค่อยได้เลย (เศร้า) คือบางทีมันมีคนที่แบบ แอบเลี้ยงสัตว์ในหอในห้องอ่ะค่ะ ทรายแมวถุงใหญ่เบ้อเร่อจะให้แบกเข้าไปได้ยังไง (นึกภาพผู้หญิงอายุ 19 แบกทรายแมวหนักอึ้งเดินขึ้นหอ) กระบะทรายแมวอันขนาดอลังการงานสร้าง มีฝาครอบอีกตะหาก อย่างกระทู้บนตอบอ่ะค่ะ บางครั้งเหมือนเค้าตั้งใจขายแต่ของหมา ของแมวมีให้เลือกน้อย ขนาดกระบะทรายยังมีแต่รุ่นแพงๆใหญ่ๆ เลยคิดว่าถ้าเพิ่มเติมของแมวก็น่าจะดึงดูดลูกค้าได้ดีค่ะ อาหารกระต่าย อาหารหนูแฮมยี่ห้อบัดดี้นี่ควรมีค่ะ ^^ จากคุณ : เจ้าหญิงเปื้อนดิน เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 20:11:09

ความคิดเห็นที่ 15 ลองเอากระดาษลังมาทำ handmade ที่ลับเล็บเเมวขายดูครับ จากคุณ : Chaos dragon เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 55 22:30:03

ความคิดเห็นที่ 16 โทษนะคะ       ร้ายขายอาหารสัตว์ก็อยู่ที่ทำเลด้วยนะ   กลัวว่าถ้าทำเลไม่ดี ถึงเอาของมาลงเยอะ ใช่ว่าลูกค้าจะซื้อเยอะ อยากให้มองหลายๆมุม ถ้าเอาของมาลง ....... แน่นอนว่าต้องใช้เงินซื้อของเข้าร้าน   แล้วไหนจะต้องสต็อคของอีก   ตรงนี้ต้องคิดให้มากๆค่ะ เท่าที่เห็นนะ ... แมวนี่  คนกลุ่มน้อยเลี้ยง ของหมา  จะขายดี   ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำให้ร้านค่ะ จากคุณ : เหมียวเหมียว แหง๋วแหง๋ว เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 08:58:29

ความคิดเห็นที่ 17 ทรายแมว ชามอาหาร อาหารพรีเมี่ยม ขนมขบเขี้ยว แปรง+หวี ปลอกคอ ยาล้างหู แชมพู ติดบอร์ดรับหาคู่ ต้องขายหลายอย่าง ที่ใช้บ่อยๆ อย่างที่คนอื่นว่าด้วย ของสัตว์ประเภทอื่นด้วย ต้องมีความหลากหลาย อาหารสัตว์ตามท้องตลาดใช่ว่าจะขายดี ซื้อเพราะไม่มีไรให้เลือก (เป็นเหมือนกันจำใจซื้อ) ถ้าคนที่รักและเลี้ยงสัตว์จริงเค้าจะเลือกของแพงคุณภาพ ยอมจ่าย ลองรับสั่งอาหารชนิดอื่นยี่ห้ออื่นเรียกลูกค้าสักหน่อย ลองถามลูกค้าว่าเลี้ยงพันธ์ใช่ไรอยู่ คุณก็ต้องมีความรู้เรื่องสัตว์เรื่องอาหารยี่ห้อต่างๆด้วย แต่ถ้าสน อูปกรณ์หวี+แปรง อุปกณ์สินค้า อื่นๆ ซื้อ-ส่งแบบเยอะ หลังไมค์ได้เผื่อจะช่วยหาให้ได้ พอรู้แหล่งสั่ง ราคาไม่แพง หลังไมค์ได้ แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 55 15:55:05 แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 55 15:53:16 จากคุณ : ladyinlove เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 55 15:48:16

ความคิดเห็นที่ 19 เราก็เปิดเพ็ทช็อปเล็กๆนะคะ จะบอกตรงๆว่าการขายของอย่างเดียวในเงินทุน เงินหมุนน้อยๆ ทำกำไรไม่ได้พอจ่ายค่าเช่าเลยคะ ของบางอย่างรับมาได้กำไร 5-10 บาทเท่านั้นแล้วไม่ใช่ว่าจะขายได้ตลอด แรกๆเลยอีกไม่ได้ซักบาทก็มีคะ แต่ก่อนหน้าเราจะเปิดเพ็ทชอปเราไปเรียนกรูมมิ่งมา คือมีเพ็ทช็อปแต่มีอาบน้ำตัดขนติดไว้ พวกนี้พอถูไถได้คะ แต่ในกิจการแบบนี้บางร้าน 3-6 เดือนเงียบกริบยังไม่ได้ค่าเช่าก็คะ เพื่อนเราที่เปิดพัทยาก็มีนะคะ แต่เค้าไม่เน้นของกินเลยสู้ร้านใหญ่ไม่ได้ เค้าเน้น อุปกรณ์เสริม ของเล่น เสื้อผ้า ฯลฯ ถึงจะอยู่ได้คะ ของกินสั่งเซล์ต้องสั่งจำนวนหลายพันบาท ต่อ บริษัท ลองดูนะคะว่าตอนนี้เป็นไง เราเปิดร้านทุกวันตั้งแต่ ห้าทุ่ม ถึงเที่ยงคืนอยู่ร่วมสี่เดือนกว่าเราจะมีลูกค้าประจำ เน้นส่งตจว.ครั้นจะแนะนำยี่ห้อตายตัวไม่ได้หรอก ตลาดแต่ละพื้นที่ต่างกัน  ที่ร้าน เราแบ่งครึ่งระหว่างของแมว กะของหมาไปเลย เผลอๆของแมวเราเยอะกว่าอีก เพราะมันเป็นสิ่งที่เรารู้ดีกว่า ถามอะไรตอบได้แนะนำได้ แมวเราก็ปล่อยให้เดินเล่นร้าน อยู่กันแบบชิวๆ เป็นเพื่อนแก้เหงาไป ตอนนี้ของเราก็ยังน้อยอยู่นะ แต่ค่อยๆทยอยๆลงดีกว่า จะได้ไม่เจ็บตัวเยอะ เงินทั้งนั้น ทำเพราะใจรักแต่ก็ต้องอยู่ให้ได้ด้วย ^^ ยังไงก็ลองดูนะคะ ว่าส่วนไหนเหมาะกะตัวเองยังไงคะ จากคุณ : ^หอมทอดเจ้าค่ะ^ เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 23:59:35