 |
สหกรณ์ผู้บริโภคที่ทำการเชื่อมตลาดเกิดขึ้นมากมายหลายแห่ง แต่ที่สำคัญ ได้แก่ กลุ่ม Pal-System ซึ่งสามารถขยายสมาชิกจากจำนวน 1,812 คน ยอดขาย 159 ล้านเยน ในปี พ.ศ. 2530 มาเป็น 104,448 คนในปี พ.ศ. 2535 ยอดขายเป็น 26,307 ล้านเยน (การทำงานและการปรับตัวของสหกรณ์ผู้บริโภคญี่ปุ่นเป็นเรื่องสำคัญมากครับ น่าจะหานักญี่ปุ่นศึกษามาศึกษาวิเคราะห์เจาะลึกสักกลุ่มหนึ่ง เพื่อจะหารูปแบบในการสร้างองค์กรลักษณะนี้ในสังคมไทย หากผมมีโอกาสและหาความรู้ได้พอก็จะขอเขียนถึงการพัฒนาสหกรณ์ผู้บริโภคนี้สักครั้ง)
ครอบครัว Hijikata โดยคุณ Iwao และภรรยา คือ คุณ Kazue แห่งหมู่บ้าน Kumige ได้ตัดสินใจเข้าร่วมกับ Pal-System เมื่อสิบกว่าปีก่อน พร้อมกับดึงเอาลูกชายเข้ามาร่วมในกระบวนการผลิตเพื่อเชื่อมต่อตลาดในเมืองด้วยกัน โดยใช้พื้นที่ที่สูงที่ไม่เหมาะสมในการปลูกข้าวมาสู่การปลูกผักปลอดสารเคมี ผลผลิตประมาณร้อยละแปดสิบส่งถึงมือผู้บริโภคผ่าน Pal-System อีกร้อยละยี่สิบผ่านไปสู่ตลาดซูเปอร์มาร์เก็ต
การปลูกผักปลอดสารเคมีของครอบครัว Hijikata ผ่านการควบคุมของ Pal-System ได้สร้างชื่อเสียงและหลักประกันให้แก่ผู้บริโภค ผักที่ส่งไปสู่ซูเปอร์มาร์เก็ต ก็จะติดรูปของครอบครัวพร้อมทั้งบาร์โค้คที่แสดงการประกันคุณภาพของผักที่ครอบครัวได้ปลูกขึ้น ซึ่งผู้บริโภคสามารถที่จะตรวจสอบคุณภาพของผักได้ในทันทีที่ซื้อ
การขายให้แก่ Pal-System นั้น ไม่ได้ก่อกำไรมากมายนัก แต่เป็นการผลิตที่มีประโยชน์แก่ผู้บริโภค คุณ Iwao ได้กล่าวบอกว่าเขารักที่จะปลูกผักปลอดสารเคมี เพราะอยากจะลงแรงผลิตสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่คนกิน ซึ่งแสดงให้เห็นชัดถึงความพิถีพิถันของทั้งครอบครัวในกระบวนการผลิต ก่อนที่จะจัดลงในหีบห่อเพื่อส่งซูเปอร์มาร์เก็ตนั้น มีกระบวนการการทำความสะอาดผักอย่างดี และสะอาดสะอ้าน กล่าวได้ว่า ความสำนึกของความเป็น "ช่างฝีมือ" ที่ต้องทำให้ดีที่สุดขยายมาสู่การปลูกผักสมัยใหม่ด้วยเช่นกัน
จากคุณ |
:
คนดง คนเดิม
|
เขียนเมื่อ |
:
19 ส.ค. 55 18:57:31
|
|
|
|
 |