แชร์ประสบการณ์การพาแมวไปทำหมัน และการเลี้ยงแมวๆ คับ เผื่อใครอยากเลี้ยง/ทำหมัน แต่ยังตัดสินใจไม่ได้
|
 |
ท้าวความสักนิด... ก่อนหน้านี้ไม่ชอบแมวเลย เพราะรู้สึกว่าเป็นสัตว์ที่ดูไม่ค่อยรักเจ้านายเท่าไหร่... ไม่เหมือนหมา
จนวันนึงที่เดินผ่านรถ ได้ยินเสียงลูกแมวร้องแถวๆรถคันหนึ่ง แต่เราก้อไม่ได้สนใจ... จนอีก 2 วัน มีคนประกาศหาเจ้าของแมวในเฟส โดยมีแมวติดอยู่ในกระบังโคลนรถ (รถคันที่ผมเคยเดินผ่านไปเฉยๆ) แว่บแรกที่เหนเค้า รู้สึกกถูกชะตาอย่างบอกไม่ถูก เลยตัดสินใจรับเลี้ยงไว้...
เนื่องจากต้องทำงาน อยู่ห้องบ้างไม่อยู่บ้าง บางวันไม่ได้กลับมานอนที่ห้อง และผมเลี้ยงระบบปิด สังเกตว่าเค้าจะดีใจมากเวลาผมกลับมาชอบมาเล่นด้วย แต่ชอบกัดเจ็บๆ และด้วยหลายๆ เหตุผล เช่น แมวอยู่ตัวเดียวน่าจะเหงา มันคงไม่มีใครคุยภาษาแมวได้เลย หน้าห้องมีแมวจรมาแวะเวียนตลอด 9ล9 ก้อเลยตัดสินใจงอกแมวออกมาอีก 1 ตัว เป็นแมวจร ส่งตรงมาจาก รพ. รือเสาะ (แมวหนีระเบิด) ทั้งสองตัวรับมาห่างกันประมาณ 1 เดือน (ฮันเตอร์และชอปเปอร์) ตอนแรกๆ ก้อมีปัญหาเข้ากันไม่ได้ แต่ด้วยความที่เป็นแมวเด็ก อายุ 3 และ 2 เดือน ตามลำดับ เค้าใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน ก้อรักกันเลย ทีนี้ไม่สนใจผมเลยอ่ะ T_T จากนั้น ก้อถึงเวลาที่ที่แมวทุกตัวต้องเป็น ตามสัญชาตญาณ... ฮันเตอร์เริ่มก่อน เค้าหง่าว นอนคว่ำยกก้นโด่ง แล้วชอปเปอร์ก็อเป็นตามมาในอีก 2 อาทิตย์ อ่อ เป็นแมวตัวเมียทั้งคู่นะคับ ช่วงที่เค้าหง่าว มันดูน่าสงสารและทรมานจิตใจทั้งคนและแมวมากเลยครับ เค้ารู้สึกไม่สบายตัวโดยที่เค้าไม่รู้ว่ามันเป็นจากอะไร สัญชาตญาณบอกให้เค้เป็นแบบนั้น
การทำหมันมีประโยชน์ในเรื่องหง่าว นอกจากนี้ยังช่วยไม่ให้เกิดมดลูกอักเสบ มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งเต้านม ลดปัญหาแมวงอก... เคยคิดไว้แล้วว่าสุดท้ายคงต้องทำหมันแน่ๆ แต่ก้ออดกังวลไม่ได้ ลูกใคร ใครก้อรัก มาโพสต์ถามความเห็นในกระดานข่าวนี้ก้อบ่อยๆ
จนแล้วจนรอด เพิ่งได้มีเวลาว่างในเดือนนี้ เลยตัดสินใจทำหมันทั้งสองตัวพร้อมๆ กัน ที่อายุประมาณ 5-6 เดือน (หง่าวกันไปคนละ 2-3 รอบ) เนื่องจากแมวอายุน้อยกว่า 1 ปี รพส. ที่พาไป เค้าเลยเจาะเลือดประเมินความพร้อมก่อน ก่อนเจาะเลือด เค้าจะต้องมีการโกนขนที่ขาหน้าหรือขาหลัง เพื่อให้เจาะได้สะดวก... เหนแค่นี้ผมก้อทรมานใจแล้วครับ สัตว์มีขน แต่เราไปโกนทิ้ง มันน่าสงสารนะ (ก่อนหน้านี้เคยตัดเล็บให้พวกเค้า แต่หลังตัดพร้อมใจกันซึม บ่น ไม่เล่นด้วย ก้อเลยเลิกตัดไปแระ) เราต้องจับเค้าเพื่อให้เจาะเลือดได้... เหนแล้วน้ำตามันก้อจะไหล สุดท้ายผลเลือด ok ผ่าตัดได้
ผมให้ฮันเตอร์เป็นรายแรกเพราะเป็นพี่คนโต (ที่ รพส. นี้ผ่าได้วันละเคสเองอ่ะ) ก่อนผ่าตัด 1 วัน เราต้องงดน้ำงดอาหารเค้าประมาณ 8-12 ชม. เพื่อป้องกันการสำลักอาหารด้วยครับ ผมนำฮันเตอร์ไปส่งตอนเช้าประมาณ 10 โมง... ไปถึง รพส. เค้าก้อให้ฮันเตอร์เข้ากรงก่อน ภาพที่เห็น เค้าดูตื่นตกใจมากๆ ดูเครียดมากๆ เลย แต่ก้อน่ะ เพื่อผลประโยชน์ระยะยาวของเค้า เราก้อต้องทำแข็งใจไว้... (ผมไม่เคยขังพวกเค้าในกรงเลย เพราะมันดูไม่อิสระสำหรับแมว แต่ก้อมีกรงเล็กๆ เอาไว้ขังตอนเด็กๆ เวลาจะทำความสะอาดห้อง เด่วนี้ขังในห้องน้ำแทน) กลับมารับฮันเตอร์ตอนประมาณ 6 โมงเยน สภาพที่ผมเห็นก้อเกือบจะทำให้น้ำตาไหลอีกครั้ง ฮันเตอร์แบบหลับๆ ตื่นๆ แต่ดูจำผมได้บ้างไม่ได้บ้าง ให้น้ำเกลืออยู่ด้วย เลยต้องอุ้มออกมาเอาน้ำเกลือที่แขนออก แผลของเค้าเป็นแผลด้านซ้ายของลำตัว โกนขนไปหมดแล้ว TT ร้องตลอดเวลา คงเพราะเจ็บแผล (เจ้านี่เป็นแมวตัวแรก เลยเลี้ยงแบบสปอยนิดๆ ทำให้ทุกอย่าง พอขัดใจอะไรหน่อยก้อจะร้อง อารมณ์เสีย บ่น โวยวายง่าย) กลับมาที่ห้องเลยต้องเอาเข้ากรงก่อน เพราะยังตื่นไม่ดี เคยได้ยินว่าหลังผ่าตัดดมยา แมวอาจจะจำที่ทางไม่ได้ดีนัก อาจจะหลับๆ แมวบางตัวกินน้ำแล้วก้อหลับ หัวจุ่มน้ำตายไปเลยก้อมี ประเด็นสำคัญของการดูแลแมวหลังผ่าตัดคือ การดูแลแผล... เราไม่ต้องการให้เค้าเลียแผล เพราะกลัวปัญหาเรื่องแผลติดเชื้อ ผมทำทุกทางเท่าที่รู้ ไม่ว่าจะใส่ลำโพงแมว ทำเสื้อหลังผ่าตัดกันแมวเลีย แต่ฮันเตอร์สามารถถอดออกได้หมด และดูเค้ารำคาญมาก ไม่สบายตัว สุดท้ายเลยเลือกที่จะเฝ้าดูโดยไม่ใส่อะไรเลย แต่เลียเมื่อไหร่ก้อจะเอาเสื้อไปใส่ทันที พอเค้าเริ่มตื่นดีขึ้น ก้อพยายามจะแหกกรงออกมา ผมเลยปลอยเค้าออกมาเดิน ปรากฎว่าเค้าจะเดินแบบเอียงๆ และล้มพับไปได้เอง (ต้องระวังให้เค้าด้วยนะครับ) สิ่งแรกที่เดินไปคือเข้าห้องน้ำ กะ กินข้าว (ระวังสำลักนะครับ ผมเฝ้าดูอยู่ เลยคิดว่าเค้าน่าจะไม่เป็นไร) เค้ากินได้นิดหน่อย เดินไปเข้าห้องน้ำ แล้วก้อเดินหามุมสงบนอนพักต่อ ในระหว่างนั้น ชอปเปอร์ก็เพินมาดูแลพี่ฮันเตอร์เป็นระยะๆ สุดท้ายในคือแรก... ผมไม่ได้นอนครับ เพราะเฝ้าดูฮันเตอร์ตลอด ส่วนชอปเปอร์ก้อร้องหง่าวๆ ทั้งคืน สุดท้ายไม่ไหว จับเค้าใส่ลำโพงเข้ากรง (ขอนอนบ้างนะ Zzzz) วันถัดมา ก็เป็นคราวของชอปเปอร์ ผมพาชอปเปอร์ไป รพส. ตอน 9 โมง และรับกลับตอนบ่าย 2 โมง ชอปเปอร์ดูไม่ตื่นดีเลย ตอนไปรับเค้านอนในกรง ส่ายหัว เขย่าหัว เหมือนแมวเมายา... และอ้วกโชว 1 รอบ และตัวเปียก ไม่รุเปียกน้ำหรือฉี่รดตัวเอง ผมก้อเลยอุ้มเค้าขึ้นรถกลับมาดูแลต่อที่ห้อง ระหว่างทาง ชอปเปอร์พยายามจะออกมาจากตะกร้าแมวให้ได้ ผมเลยให้เค้าออกมา เค้าเดินออกมาได้ถึงแค่ที่เปลี่ยนเกียร์รถแล้วก้อฟุ่บหลับไป มาถึงหอก้อเหมือนเดิมครับ จับเช็ดตัวที่เปียกก่อน แล้วเอาเข้ากรง โดยมีฮันเตอร์มาดูอยู่ใกล้ๆ ชอปเปอร์นอนนานกว่าฮันเตอร์ อาจเป็นเพราะว่าผมไปรับเค้ามาเรวไป ยังตื่นไม่ดี สุดท้ายเค้าก้อมีส่งสัญญาณบอกว่าตื่นแล้ว โดยการพังกรงอีก เห้อ... ก้อเลยปล่อยออกมา เหมือนเดิมครับ เดินเซไปมามากๆ ไปที่อาหารก่อนเลย เค้ากินได้ไม่เยอะ แล้วไปเข้าห้องน้ำต่อ ตอนเข้ากระบะเค้าก้อนิ่งหลับไปเลย... ก้อเลยต้องอุ้มมานอนในกรงอีก... สุดท้ายเค้าตื่นดี ก้อปล่อยออกมาเป็นอิสระในห้อง ชอปเปอร์เป็นแมวที่ไม่ได้สปอยมากนัก เพราะตอนรับมาก้อมีพี่ฮันเตอร์เล่นด้วยแล้ว เค้าเลยไม่บ่นเจ็บแผลเลย ที่สำคัญคือไม่เลียแผลด้วย... มีแต่ฮันเตอร์ที่เลียแผลตัวเองและแผลเพื่อน ห่ายยยยยย... ทั้งคู่เพิ่งผ่าตัดได้ 2,1 วัน ตามลำดับเองครับ แต่ก็ตื่นดีแล้ว ฮันเตอร์โดนจับใส่เสื้อเป็นครั้งคราว เวลาเลียแผล ชอปเปอร์ไม่โดนใส่เลย เพราะไม่เลีย วันนี้ทั้งสองตัวเดินได้คล่องขึ้น กระโดดขึ้นตู้เยนได้ (จิงๆ ไม่ควรเลย เดี๋ยวแผลแยก แต่ห้ามไม่ทันอ่ะ)
ผมเห็นว่าเปนประสบการณ์ที่คนเลี้ยงแมวมือใหม่หลายๆ คนอยากจะทราบ ก็เลยเอามาแชร์ให้ได้รู้ร่วใกันครับ
การทำหมันแมวตัวเมีย ไม่ยากเลย แต่การดูแลหลังผ่าตัดยากกว่า (จิงๆ แค่ใส่เสื้อ/ลำโพงแมว ก็ดูแลไม่ยากแล้ว แต่ผมเรื่องมากเองแหล่ะ ที่เหนเค้าไม่ค่อยสบายตัว)
การทำหมันแมว ได้ประโยชน์มากกว่าโทษแน่ๆ ครับ ถ้าเราไม่มีแผนงอกลูกแมว ผมว่าทำเถอะ ลดความทรมานของพวกเค้า และโรคต่างๆ ได้อีกด้วย
ส่วนใครที่จะเลี้ยงแมว ระบบปิด แบบผม...ผมว่า 2 ตัวดีกว่าตัวเดียวนะครับ เค้าจะได้มีเพื่อนเล่นกัน มีเพื่อนคุยภาษาแมว..
สุดท้าย ขอขอบคุณทุกคนที่เคยให้ความรู้ในการตอบคำถามในกระทู้นะคับ ^^
จากคุณ |
:
medynanajung
|
เขียนเมื่อ |
:
21 ส.ค. 55 10:25:12
|
|
|
|