ความคิดเห็นที่ 1 อนุโมทนาสาธุ จากคุณ : อ.กรร เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 55 13:02:51

ความคิดเห็นที่ 2 ช่วยกันคนละไม้คนละมือค่ะ อนุโมทนาสาธุ ๆ ด้วยค่ะ จากคุณ : CYNDY เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 55 13:29:00

ความคิดเห็นที่ 3 สาธุคะ อนุโมทนาด้วยคะ จากคุณ : บัวบัว เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 55 15:13:50

ความคิดเห็นที่ 4 ธุคะ จากคุณ : maxx2009 เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 55 15:21:36

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่มีข้อโต้แย้งกับคำแถลงของพระคุณเจ้า จากคุณ : ปรารถนาดี ไม่มีแอบแฝง (ปรารถนาดี ไม่มีแอบแฝง) เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 55 16:03:05

ความคิดเห็นที่ 6 เป็นเรื่องจริง คนนี่แหละตัวดี แค่เห็นคนแถวไหนดูแลให้อาหารแมวหมาหน่อยก็ขยันเอามาปล่อยเพิ่มกันจัง คงอยากลดความรู้สึกผิดที่ว่า "อย่างน้อยปล่อยตรงนี้มันก็คงมีกิน" หารู้ไม่ว่า บางทีเอามา โดนเจ้าถิ่นกัดตายไม่ถึงครึ่งชม.ด้วยซ้ำ จากคุณ : สมาชิกที่ต้องการสมัคร เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 55 16:50:45

ความคิดเห็นที่ 7 อนุโมธนาสาธุ คะ จากคุณ : BirdCandy เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 55 17:10:16

ความคิดเห็นที่ 8 อืม ตกลงว่าสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมใช่มะ จากคุณ : โบอิ้ง (Oshiri) เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 12:54:29

ความคิดเห็นที่ 9 เราตามอ่านมาหลายกระทู้แล้ว แต่ไม่ได้แสดงความเห็นอะไร เห็นคุณยื่นมือเข้าไปช่วยด้วยความอยากช่วยจริงๆ ก็รู้สึกดีใจแทน หมาแมว หลายร้อยตัว คนดูแล 2-3 คน รับไม่ไหวหรอกค่ะ ถึงพระพยอมท่านเมตตา หมาแมว แต่ท่านก็ต้องไปประกอบศาสนกิจต่างๆ ไม่มีเวลามาดู มาแล ส่วนป้าทั้งสอง เขาเจอมาเยอะ สมัยก่อนก็มีอาสาแบบนี้ เข้าไป เป็นหมอด้วย ทำโครงการซะดิบดี อยู่ๆ ก็เชิดเอาเงินไปเลย ป้าเขาเลยระแวง จะมาหากินกับ หมากับ แมว และ ตัวป้าเขาอีกแล้ว (แต่งวดก่อน ลุงแกก็ ละโมบ จริงๆ ถึงอยู่ไม่ได้) แล้วที่เข้าๆ ไป ไม่มีใครอยู่ยาวสักคน ประเภท มาดูแล ตลอดหรือ เดือนหนึ่งมาหน มีแต่มาหนเดียวแนะโน่นนู่ นั่น แล้วหายไปเลย เขาเลยขี้เกียจมาปั้นหน้า เราว่า ถ้าเห็นว่ามันยังแออัดอยู่ ก็ช่วยกันบริจาค ลงแรง จะได้ขยับขยายให้มันอยู่อย่างพออยู่สบาย ต้องเอาคนทิ้ง มาให้พระพยอมท่านเทศน์  แต่จะรู้สำนึกหรือเปล่า.. ไม่รู้ จากคุณ : tempopo เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 13:11:24

ความคิดเห็นที่ 10 เราว่าแทนที่จะมาประชดประชัน หาเวลามาร่วมมือ ช่วยเหลือพวกมันดีกว่า เลี้ยงหมาแมว หกเจ็ด ร้อย ตัว ไม่ง่ายหรอก ยิ่ง ใจรัก แต่เงินไม่มี ยิ่งยาก จากคุณ : tempopo เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 13:14:19

ความคิดเห็นที่ 11 ขอจัดการธุระก่อนแป๊บนึง .. เดี๋ยวมาคุยด้วยนะครับ จากคุณ : พายุ.... เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 55 14:26:12

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณครับคุณพายุ ที่ช่วยประสานเรื่องราวจนถึงท่านพระคุณเจ้า ขอเรียนด้วยความเคารพครับว่า หลังจากที่ผมได้เข้าไปยังวัดอยู่ 2-3 ครั้ง ติด ๆ กัน เพื่อพูดคุยกับทางป้าทั้งสองพร้อมด้วยน้องอาสา และผู้มีิจิตศรัทธาบริจาคกรงแมวให้ ... จนเกิดข่าวดีดังในกระทู้ที่ http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J12488063/J12488063.html แต่เพียงแค่ไม่กี่วันถัดมา ผมกลับได้รับข่าวไม่สู้ดีนัก เรื่องกรณีที่ป้าไม่ยินยอมให้เป็นไปตามข้อตกลงที่ผมกล่าวไว้ตามกระทู้ .... ผมได้ลองโทรศัพท์โทรคุยติดต่อกับป้าผู้ดูแลทั้งสอง เพื่อหาข้อยุติ และสอบถามความชัดเจน รวมถึงกราบขอโทษที่จิตอาสาบางกลุ่มบางผู้ที่ เค้าประสงค์จะช่วยเหลือ แต่การกระทำอาจจะไปขัดใจป้าผู้ดูแลทั้งสอง ผมถามป้าสั้น ๆ ว่า .. "ข้อตกลงที่คุยกันไว้หล่ะครับป้า ตกลงจะเป็นแบบนั้นอยู่ไหม" ป้าท่านหนึ่งตอบว่า "คงไม่ได้หล่ะ ก็ขอให้ล้มเลิกไปก่อน ป้าไม่เข้าใจนะ อยากช่วยกันนัก อยากเอาไปหาบ้านกันนัก ทำไมอยากช่วยจริงถึงไม่ไปช่วยหมาถูกคนงานหลังวัดกินหล่ะ หรือไปเอาหมาแมวจรทั่วไป ไปเลี้ยงก็ได้ ทำไมต้องมาเอากับที่วัดสวนแก้ว พวกมันอยู่กันดีอยู่แล้ว" ด้วยคำพูดดังกล่าว ... ยอมรับครับ ว่าที่ทำมา ทุ่มมา มันเสียกำลังใจ แถมกลายเป็น "หมา" ให้คนอื่นตำหนิ และผิดคำพูดต่อคนอื่น เพราะผมเองเป็นคนขึ้นกระทู้ดังที่กล่าวมาทั้งหมด และขอยืนยันตามความในทุกกระทู้ ว่าผมไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียวว่า ทางวัดไม่สนใจ หรือกล่าวว่าเป็นความผิดทางวัด ... ผมเชื่อเสมอว่าทางวัด และทุกคนทำเต็มที่แล้ว แต่อาจมีข้อผิดพลาดบางส่วนบางประการ ที่จิตอาสาหลาย ๆ ท่าน สามารถที่จะเข้าไปช่วยเหลือเติมเต็มได้ แต่ .... การช่วยเหลือกัน ... ทั้งสองฝ่ายต้องเปิดใจให้กัน ด้วยเหตุและผลโดยแ้ท้ ไม่ใช่เอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง วันนี้พูดอีกอย่าง วันถัดมาพูดอีกอย่าง ... และด้วยข้อความที่ผมโดนป้าทั้งสอง "ตำหนิ" ด้วยถ้้อยคำบางประการที่ค่อนข้างเสียดสี เหมือนกับว่าผม "ไปยุ่ง" กับการดำเนินการของทางมูลนิธิทำไม และขอนำเสนออีกครับว่า ผมถามป้ากลับไปว่า "แล้วต่อไปจะทำยังไง จะให้พวกผมช่วยอะไรได้บ้าง จะได้เป็นรูปธรรม เอาจริงจังสักที" ป้าท่านหนึ่งกล่าวกลับมาว่า "ไหนบอกจะสร้างกรงแมวไม่ใช่เหรอ ... ก็มาสร้างให้เสร็จเรียบร้อยก่อนสิ ค่อยมาว่ากัน" ด้วยคำพูดข้างต้น ... ผมควรแปลความว่าเช่นไร ?? กราบขออภัยที่ต้องนำเรียนข้อความตามที่กล่าวมาข้างต้น พวกผมก็อยากให้น้องแมวหมาวัดสวนแก้วได้รับโอกาสการมีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ไม่ใช่ตามสโลแกนที่ว่า "ตายฝัง ยังเลี้ยง" ... ที่ป้าทั้งสองกล่าวให้พวกอาสาฟัง คลิปเสียงก็ดี ภาพถ่ายก็ดี หรือแม้แต่คลิปวีดีโอ ที่ทางอาสาหลายท่าน หลายกลุ่มได้บันทึก หรืออีกหลายกลุ่มที่ได้ประสบ ประจักษ์ด้วยสายตาของเหล่าอาสาเอง คงเป็นเครื่องยืนยันถึงความเป็นไปของน้องแมวหมาได้เป็นอย่างดี สุดท้ายนี้กราบขอบพระคุณ คุณพายุ ที่ช่วยเป็นตัวตั้ง ตัวตี นำเรื่องดังกล่าวนำเสนอถึงพระคุณเจ้า เพื่อนำเสนอความทั้งสองฝ่าย และเพื่อประโยชน์สุดท้าย ถึงน้ิองแมวหมาที่เฝ้ารอความช่วยเหลือทุกขณะเวลา ขอบพระคุณครับ จากคุณ : copcong เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 01:28:08

ความคิดเห็นที่ 13 เพิ่มเติมครับ ผมไม่ได้มีเจตนาจะมาดิสเครดิต ป้าทั้งสองก็ดี หรือการปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือของทางวัดก็ดี เพราะผมเชื่อและเคารพในการช่วยเหลือของทางพระเดช พระคุณเจ้าที่ให้การช่วยเหลือตามกำลัง ... แต่ผมขออนุญาตแชร์ข้อมูลบางส่วน และคำพูดบางคำ ที่ผม และเหล่าอาสาที่ได้รับมาจากการเข้าช่วยเหลือเคสแมวหมาวัดสวนแก้วดังกล่าว หากคุณพายุ สนใจพูดคุยกับทางผม ผมยินดีให้ข้อมูลในทุกแง่มุม ที่ทางอาสาหลาย ๆ กลุ่ม หลาย ๆ ท่าน ประสบ เพื่อให้การช่วยเหลือเกิดผลขึ้นอย่างแท้จริง จากคุณ : copcong เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 01:31:13

ความคิดเห็นที่ 14 ดิฉันเป็นอีกหนึ่งคนที่ได้ไปร่วมฟังปัญหาและความต้องการจากป้าทั้งสอง ซึ่งยอมรับว่าวันนั้นกลับบ้านมาด้วยความสุข เพราะเห็นแนวทางในการช่วยเหลือน้องๆได้ชัดเจนมากขึ้น แต่จากนั้นไม่นานก็ได้ทราบว่าป้าขอยกเลิกข้อตกลงทั้งหมด แถมมีประโยคต่างๆที่บั่นทอนกำลังใจเป็นอันมาก มาวันนี้ได้ดูคลิปแล้ว...ภาพที่เห็นในคลิป ต่างจากภาพที่ได้ไปเห็นจริงอยู่มากเลยทีเดียวค่ะ ได้แต่แอบหวังว่าน้องแมว น้องหมา จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเหมือนกับที่ได้เห็นในคลิปแบบนี้ตลอดไป เพราะ ณ จุดนี้แล้ว....ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า การดูแลรักษาพวกเค้าให้ดี และเปิดโอกาสให้ผู้ที่รักน้องๆ ได้มีโอกาสรับพวกเค้าไปดูแลบ้าง ซึ่งจะช่วยลดปัญหาความแออัดที่มีอยู่ได้ค่ะ สุดท้ายอยากให้ผู้ดูแลเปลี่ยนความคิดที่ว่า "ตายฝัง ยังเลี้ยง" เป็น "เลี้ยงดี มีบ้านใหม่ สุขใจก่อนตาย(ในเวลาอันสมควร)ค่ะ" จากคุณ : .::BiLLoW::. เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 01:56:48

ความคิดเห็นที่ 15 ได้แต่อ่านแต่ขี้เกียจโพส คราวนี้ขอโพสทีนะ เพราะเคยช่วยเคสเปอร์เซียก็เจอปัญหาแบบนี้เหมือนกัน เคสแบบนี้มักจะอยู่กับรักโลภโกรธหลงเยอะนักหนาแล ถ้าให้เอาของไปให้ และช่วยดูแล โดยไม่เอาแมวหมาไปเค้าก็คงยอม แต่ถ้าจะเอาหมาแมวออกไปต้องคิดอีกที หรือบางทีการหวงเกิดมีมาก กลายเป็นตรูไม่คุยอะไรทั้งสิ้นที่เคยตกลงยกเลิกทั้งหมด แต่ยิ่งกรณีวัดแบบนี้ด้วยแล้วมันน่าอึดอัดนัก เอาเป็นว่าถ้าไปสร้างกรงให้แมวมันอยู่สบายได้น่าจะเข้าไปสร้าง ส่วนช่องทางการช่วยเหลือ ใครอยากรับเลี้ยงน้องลองให้เป็นค่าตัวหรือเอาอาหารยกกระสอบไปแลกก็น่าจะดี แต่ทางวัดก็ควรไปบอกป้าด้วยว่าถ้าปล่อยมันไปได้ก็ปล่อยไปเหอะ เราคิดว่าถือว่าช่วย 1 ชีวิต เอาค่าตัวหรืออาหารไปแลกคงไม่น่าจะมากเกินไป (แต่ถ้ามูลค่ามันต้องมากถึงจะได้อันนี้ฝ่ายป้าก็น่าโดนด่า) จากคลิปข้างบน ขอเทียบกับเคสแมวเปอร์เซีย 45 ตัว ที่เราเคยไปช่วยมา ตอนวันไปเจ้าของก็ล้างบ้านอย่างดีรอต้อนรับ (แต่เราคิดว่าสภาพจริงแทบทุกวันก็น่าจะเน่าแบบที่ลุงคอปเอาเคสนี้มาลงให้ดู) แต่วันไม่ไปไม่รู้อยู่กันยังไงล้างแบบนี้ทุกวันหรือเปล่า ขนาดวันที่เราเอาอาหารที่เรารับบริจาคแล้วอยู่กับเราเยอะเกิน (หลังจากเจ้าของปล่อยแมวที่คิดจะปล่อยหมด) เค้ายังไม่ให้เราเข้าบ้านไปดูข้างในเลยว่ามีเหลือจริงๆ อยู่กี่ตัวและสภาพภายในบ้านดีขึ้นกว่าเก่ายังไง แต่เราแค่รับรู้ว่าสะอาดกว่าเก่าเราก็ดีใจ เคสนี้อย่าดูแต่คลิปที่ทางวัดพร้อมใจเอามาออกสื่อ แต่ให้คอยเข้าไปดูสภาพจริงเรื่อยๆ จะดีกว่าคะ ว่าแต่คุณโรเจอร์อยู่ไหน ไปหาป้า 2 คนนี้บ้างก็น่าจะดีนะคะ จากคุณ : petite_witch เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 02:49:40

ความคิดเห็นที่ 16 ดิฉันเป็นหนึ่งคนที่เข้าไป ณ จุดนั้นเพื่อจุดประสงค์คือ ช่วยน้องแมว แต่ก็ต้องล้มความตั้งใจ เพราะเรื่องของคนมันไม่ไหวจะเข้าใจ ปล. ดิฉันคิดว่า คงไม่มีใครเอาแมวเปอร์เซียสีขาว ตามสองสีไปทิ้งไว้ที่วัดแห่งนี้ หลายตัวที่ไม่เชื่อว่าจะมีคนเอามาทิ้ง จากคุณ : annzajaa (annzajaa) เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 05:35:57

ความคิดเห็นที่ 17 จากกระทู้ที่อ่านมา ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ว่าแมวตายไม่ได้ ทุกชีวิตมันต้องตาย แต่ภาพจากกระทู้ลุงคอปก่อนๆ มันก็ไม่ได้เปิดตัวมาแบบในวีดีโอของกระทู้นี้ ทุกชีวิตเกิดมาก็มี เกิด แก่ เจ็บ ตาย กันทั้งนั้น แต่ในฐานะคนที่อยากช่วยแมวจริงๆ เค้าเห็นอะไรที่ว่ามันควรจะช่วยเพราะมันช่วยได้เค้าก็อยากจะช่วย การหาบ้านให้แมวที่ดีกว่าเก่า อาจจะไม่ต้องดีมากมายไฮโซ ก็ดีกว่าจะต้องมาอยู่แบบนี้ ป้าๆ คิดอะไรกันที่ไม่ให้เอาแมวออกไปหาบ้าน เห็นแก่ตัวเพราะความรักที่ตัวเองมีเหมือนพ่อแม่รังแกฉันหรืออย่างไร วัดจ้างคนมาแล้ว ให้ค่าอาหารแล้ว ค่าน้ำค่าไฟก็จ่ายให้แมว แต่วัดไม่ได้มีเวลาหรือพื้นฐานของการดูแลมาบังคับคนดูแล พระบอกเองว่าใครมีความสามารถให้เข้าไปจัดการ แต่ถ้าจะทยอยเอาแมวมาหาบ้านคือไม่ได้ใช่ไหมในเมื่อถ้าพวกเค้ามีโอกาส การที่มีคนบอกแมวขาดน้ำ เพราะน้ำมันหมด ใช่น้ำมันหมด แต่คนส่วนมากที่ช่วยๆ แมวมา เค้าก็คงไม่ใช่ไม่มีความรู้กับแค่เรื่องการดูแมวขาดน้ำหรอกมั๊งคะ เรื่องแบบนี้แค่ดึงหนังแมวก็รู้แล้ว แนะนำใครอยากช่วยก็ลองไปคุยกับพระพยอมเองกันเลยดีกว่า อย่าไปคุยกับพวกป้าๆ เมื่อบทสรุปลงมายังไงป้าๆ ก็ทำอะไรไม่ได้ ลองเสนอทางออกที่ดีจริงทำได้จริงเช่นเอาแมวหมามาหาบ้านแล้วถ้าวัดไม่สนใจ นั่นก็ต้องละไว้ในฐานะที่เข้าใจ(ในแง่ร้าย) ทุกฝ่ายไม่ควรประชด เช่นยกแมวหมาให้ได้แต่เอาไปทั้งหมด (ใครจะไปกล้ายุ่งขนาดนั้น งานไม่ทำเงิน แค่โพส ติดต่อ ประสานงานหาบ้านให้พวกเค้าก็หืดขึ้นคอ CHIB หายแล้ว) เคสนี้จะให้เอาออกมาหมดคงไม่ได้ ใครจะรับผิดชอบล่ะ งานราชงานหลวงก็มีกันทั้งนั้น เคสนี้มี 2 แบบที่จะหาบ้านได้ คือสวย หรืออนาถ เช่น พิการ ขี้เหร่ โรคเรื้อรัง (ซึ่งคนรักสัตว์แค่ไหนก็ไม่อยากเอาภาระมาใส่ตัวมากแต่ที่ได้เค้ารับไปเพราะสงสารมากแล้วยังมีโอกาสได้บ้านที่ดีมากกว่าแมวความสวยพา ซ   วย) ส่วนที่รูปลักษณ์บ้านๆ ก็นอนหาวในกรงไป ถ้าจะมีใครไปคุยกับพระพยอม บอกก่อนว่า รู้สึกว่าท่านจะเคยโดนสัตวแพทย์(ศยา) นายหนึ่งเคยเอามาหากินแล้วพอได้เงินก็เชิดเงินทิ้งกองอิฐไว้ให้ดูต่างหน้า ตัวเงินค่อนข้างเยอะพอควร ฉนั้นควรวางแผนให้ดี อย่าให้เค้ามองเราว่าเป็นอย่างนั้นได้ เดี๋ยวจะกลายเป็นอนุสรณ์หมาคู่ถุงกล้วยปิ้ง จากคุณ : petite_witch เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 06:30:11

ความคิดเห็นที่ 18 แหม่ะ !!! มันเจ็บจี๊ด โดนใจก็ประโยคนี้แหละครับ จากคุณ : zerzajr เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 06:37:05

ความคิดเห็นที่ 19 คลิปดีนะ ถ่ายแต่กรงที่มีคนเพิ่งสร้างให้ใหม่ อยู่ด้านหน้าคอนโด ด้วยเงินส่วนตัวเค้า ทำไมไม่เข้าไปถ่ายอีกกรงหรือถ่ายในคอนโด คนอื่นเข้าจะได้เห็น ข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนตามวัตถุประสงค์ที่ทางวัดอยากชี้แจ้งข้องเท็จจริง เรายังติดใจคำพูดประโยคหนึ่ง ตอนที่อยากจะช่วยหาบ้านให้หมาแมว คำพูดที่ว่า "ถ้าไม่มีสัตว์ มูลนิธิก็ไม่อาจเป็นมูลนิธิได้" เราไม่ทราบว่า ผู้ที่พูดเพราะอะไร เราทราบเรื่องราวที่เกิดภายในมากมายทั้งเรื่องสัตวแพทย์ที่เคยโกงเงินวัด และเรื่องค่ารักษาอื่นๆ เราเคยพยายามช่วยไม่ให้คนรอบข้างที่ได้อ่านกระทู้ หรือคนอื่นๆที่ทราบเรื่องดีอยู่แล้ว ไม่มองว่า วัดดูแลไม่ดี แต่การที่พระพยอมท่าน กล่าวแบบนี้ ทำให้ผู้ที่มีจิตศรัทธา ช่วยเหลือ หมดกำลังใจ และเสียใจ การที่ท่านกล่าวว่า การตายเป็นเรื่องธรรมชาติ เราก็คิดว่าจริงอยู่นะ แต่การที่ท่านว่า อาสาที่เข้าไปนั้น เข้าไปในชั่วโมงที่มีแมวตายพอดี เราว่าท่านเข้าใจผิดแล้ว ทุกครั้งที่เราเข้าไป มีสัตว์ตายทุกครั้ง และรับรองว่า ไม่ใช่ชั่วโมงที่ตายแน่ๆ เพราะร่างเหล่านั้น เริ่มแห้งและรูปร่างที่เห็นเกิดจากการตายอย่างทรมาน ต้องดิ้นรนอย่างถึงที่สุด(ร่างเหล่านั้น ผิดรูปไปจากโครงสร้างปกติที่เป็น) และตัวที่มีชีวิตในกรงนั้นมีอาการป่วยตามกันแล้ว แล้วแบบนี้ท่านจะเรียกว่า เป็นการตายแบบธรรมชาติอีกหรือ สำหรับเรื่องคนเลี้ยง เราเองขอไม่วิจารณ์ลักษณะการทำงานนะ แต่ขอให้ฝากแจ้งให้พระพยอมทราบสักนิด ว่า 2 คน ต่อ 1000 ตัว ไม่เพียงพอต่อการดูแล เราเคยพยายามช่วยปกป้องชื่อเสียงวัดนะ แต่การที่มีคลิปออกมาแบบนี้ เราว่า ท่านทำให้ตนเองและวัดของท่านเสียเองแล้ว เราเห็นด้วยกับคุณ .::BiLLoW::. เราอยากให้หาบ้านให้หมาแมวในคอนโดใหม่ ในเมื่อท่านบอกว่า คอนโดแออัด เราควรช่วยกันระบายความแอดอัด หรือจะมีใครกลัวอะไรหรือป่าวนะ? จากคุณ : peguensis เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 10:03:38

ความคิดเห็นที่ 20 เข้ามาให้กำลังใจค่ะ คุณ copcong สิ่งที่คุณทำอยู่มันดีมากๆ การทำงานทุกอย่างต้องมีเสียงสนับสนุน และบั่นทอนเป็นธรรมดาของโลก นานาจิตตัง ขอให้สร้างกรงสำเร็จ เราว่าถ้าเรานำเสนอแผนไปทางพระพยอม ถ้าพระท่านอนุญาตก็น่าจะดำเนินงานได้   สร้างกรงให้สำเร็จเป็นเรื่องด่วน จิตอาสาเข้ามาช่วยก็จะแบ่งเบาภาระให้ป้าได้ แล้วป้าจะหยุดพูดไปเอง เท่าที่ตามอ่าน ป้าไม่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์เท่าไร  ก็อย่าเก็บเป็นอารมณ์  เรามองที่เป้าหมายเพื่อน้องแมว น้องหมา นะคะ และป้าก็ไม่ใช่ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจขั้นสุดท้าย แต่เราก็ต้องพูดคุยกับป้าซึ่งเป็นผู้ดูแล ตามหน้าที่ที่ต้องประสานงานกัน สู้ต่อไป.. จากคุณ : The protector191 เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 11:22:16

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบพระคุณเพื่อนสมาชิก และผมเองก็มิกล้าที่จะรับคำขอบคุณ หรือคำชื่นชมใด ๆ ได้เลยครับ -/\- มีเพื่อนสมาชิกหลายท่าน อาสาหลายท่าน หลายกลุ่มที่ทุ่มเททำมากกว่าผมยิ่งนัก ผมเป็นแค่ฟันเฟืองตัวหนึ่งเท่านั้น ส่วนเรื่องกรงแมว ล่าสุดผมได้คุยกับพี่ที่ทำกรงแมวบริจาค (ตามภาพในคลิป) ให้แก่ทางมูลนิธิ ด้วยกำลังทรัพย์ส่วนตัว ได้บอกว่าตอนนี้พี่เค้าได้หารือกับทางคุณรักษ์อยู่เพื่อหาทางปฏิบัติต่อไป ก็ขอขอบคุณที่มีตัวแทนทางโครงการเข้ามารับรู้ และแชร์ความช่วยเหลืออีกส่วนหนึ่ง เป็นธรรมดาครับ เข้ามาช่วยก็ต้องโดนกระแสทางลบบ้าง ตำหนิบ้าง แต่อย่างน้อยผมเชื่อว่า อาสาหลาย ๆ ท่านก็ยอม และจำยอมที่จะโดนกระแสตำหนิในบางมุม ดีกว่านั่งเฉย ๆ ถือว่าธุระไม่ใช่ไปเสียเปล่า ลองดูความคืบหน้าต่อไปครับ  ... เวลาจะทำให้ทุกสิ่งอย่างกระจ่างขึ้นเอง จากคุณ : copcong เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 11:35:05

ความคิดเห็นที่ 22 โอ้ ..ดีจัง ถ้าได้โครงการรักษ์แมวมาช่วยต้องสำเร็จแน่ๆ เราคิดและกำลังจะเข้ามาพิมพ์ว่า ถ้าให้โครงการรักษ์แมวมาออกหน้าอนุญาตให้ใช้บัญชีในการระดมทุน..จะมีผู้มาช่วยบริจาคแน่ๆ เพราะโครงการรักษ์แมวไม่เคยมีเรื่องเสียหายเรื่องเงิน และจิตอาสาของโครงการก็มีน้ำใจและทุ่มเทมากๆ  ..เราเองเคยได้รับน้ำใจจากโครงการ และพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ เหล่านี้ จึงกล้าการันตี จากคุณ : The protector191 เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 12:48:39

ความคิดเห็นที่ 23 ก่อนอื่นต้องชี้แจงว่า ผมไม่ได้มีส่วนเกี่่ยวข้องโดยตรงกับทางวัดสวนแก้วนะครับ แต่ด้วยหน้าที่การงานที่ต้องแวะเวียนไปวัดบ่อยๆ ก็เลยพอจะรู้จักกับวัดนี้อยู่บ้าง และตัวหลวงพ่อเองก็ไม่รู้จักชื่อของผมด้วยซ้ำไป .. เพียงแต่ท่านอาจจะแค่คุ้นๆ ผมหน้าเท่านั้นเอง ส่วนการที่ผมแหลมเข้ามาเจ้ากี้เจ้าการกับเรื่องนี้ก็เพราะเห็นจากกระทู้แตกประเด็นเมื่อเดือนก่อน ซึ่งถ้าไม่กลายเป็นกระทู้แนะนำผมก็คงไม่รู้เรื่องด้วยหรอก เพราะปกติผมจะดูแต่กระทู้ในห้องปลาสวยงามกับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ และพอเห็นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับทางวัด ผมเลยเอาไปแจ้งกับทางมูลนิธิฯ เท่านั้นเอง สำหรับภาพใน คห. นี้ และใน คห. 11 ถูกถ่ายเมื่อ 6 ปีก่อน   ตอนนั้นโครงการคอนโดสุนัขและแมวเพิ่งจะเริ่มไปได้ระยะหนึ่ง นสพ. ที่ยืนอยู่ข้างๆ หลวงพ่อนี่แหละครับ เป็นคนตั้งโครงการขึ้นมา โดยเข้ามาขอใช้พื้นที่ และหลวงพ่อก็ช่วยออกทุนทั้งค่าก่อสร้างและอาหาร ซึ่งต่อมาก็มีบุคคลที่มีชื่อเสียงหลายท่านมาช่วยเหลือทางวัด และจัดทำพ็อคเก็ตบุ๊คหาทุนชื่อ "ปันน้ำใจให้หมาวัด" จนสำเร็จ อย่างไรก็ตาม .. ผมต้องขอบคุณ คุณ copcong และทีมอาสาสมัครทุกท่าน แม้เราจะรู้จักกันแค่ในโลกไซเบอร์ แต่ผมก็สัมผัสถึงความปรารถนาดีต่อสัตว์ที่น่าอาภัพเหล่านี้่ และก่อนจะมีเรื่องบั่นทอนกำลังใจของทีมอาสาสมัคร ผมอยากให้ คุณ copcong ได้เข้าพบกับหลวงพ่อ .. ไม่ทราบจะสะดวกหรือเปล่าครับ แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 55 13:28:26 จากคุณ : พายุ.... เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 13:19:57

ความคิดเห็นที่ 24 ลืมภาพครับ .. ปล. คุณ copcong ผมส่งเบอร์ผู้ประสานงานไปให้ทางหลังไมค์แล้วนะครับ แก้ไขเมื่อ 30 ส.ค. 55 13:59:54 จากคุณ : พายุ.... เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 13:23:56

ความคิดเห็นที่ 25 "ถ้าได้โครงการรักษ์แมวมาช่วยต้องสำเร็จแน่ๆ" ขอสนับสนุนคำกล่าวนี้  เพราะ มืออาชีพยื่นมือเข้าไปทำ  งานมันจะบรรลุภาพได้เร็วไว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นแน่ ทว่า หลังจากที่เคยกระทุ้งถามไปบ้าง กลับได้รับคำตอบว่า "มันเป็นเรื่องใหญ่" และคงซับซ้อน จึงคิดเอาเองว่า ทางโครงการไม่ต้องการเปลืองตัว เพราะเล่นไปแตะกับบุคคลระดับที่คนทั้งบ้านทั้งเมืองยกย่อง มันไม่ใช่เรื่องง่าย อันนี้เราก็เข้าใจ แต่ งานทุกงาน หากไม่เข้าถ้ำ:-)็ไม่ได้ลูกเสือ  เราก็ไม่ค่อยดูทีวีเท่าไหร่ ก็ไม่ทราบว่าช่องไหนเอาไปทำข่าวหรือเปล่า เพราะเราก็ส่งกระทู้ที่ฮือฮาได้กว่าร้อยนั้น ไปให้ทางเขาแล้ว   แต่ ก็เดาเอาว่า สื่อนี้มันมีพลังพอที่จะทำให้ พระคุณเจ้า ที่เสมือนตัวแทนวัด ต้องออกมาแถลงการณ์สร้างความเข้าใจในคนภายนอก ในที่สุด ส่วยยัยป้าหมาห้วงก้าง (เนื้อก็ไม่ได้กินแล้ว) ก็คงไม่ต้องไปดีลด้วยแล้วหล่ะ  ติดต่อกับคนมีอำนาจในวัดโดยตรงจะดีกว่า  ชีนี้พูดจาไม่รู้เรื่องเนอะ เขาจะเข้ามาดูแลแมวหมาของตรงวัดนี้ ที่นี่ และธุระกงการอะไรมิทราบ จะไล่เขาไปให้ดูแลแมวหมาที่อื่น   เรื่องหาบ้าน ก็ต้องดำเนินการกันต่อไปให้มีเป็นรูปธรรม สิ่งมีชีวิตที่นั่น เขามีสิทธิที่จะได้มีที่อยู่อาศัยที่สุขสบายกว่าที่นั่น น่าเห็นใจวัดจริงๆ ที่มีเหลือบสังคมเข้าไปหากิน ทำให้แปดเปื้อนชื่อเสียง ขอสาบส่งคนพรรค์นี้ให้ลงอเวจีเท่านั้นเมื่อสิ้นลม จากคุณ : ปากจัดชะมัดยาด (ปรารถนาดี ไม่มีแอบแฝง) เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 13:49:51

ความคิดเห็นที่ 26 ยินดีครับน้าพายุ ... ให้ผมโทรหาตามเบอร์ที่ให้ไว้หลังไมค์ได้เลยไหมครับ ^^ จากคุณ : copcong เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 18:57:52

ความคิดเห็นที่ 27 โทรได้เลยครับ จากคุณ : พายุ.... เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 55 19:04:40

ความคิดเห็นที่ 28 ความคิดเห็นที่ 23 คุณพายุ คุณเยี่ยมมาก ในที่สุดทีมผู้มีน้ำใจในรอบนี้จะได้เข้าไปดำเนินงานได้สะดวกสักที เราเชื่อว่าด้วยความอ่อนน้อมของลุงคอปพระพยอมจะต้องอนุญาตแน่ๆ ส่วนรูปใน คห.24 คุณลุงใส่ชุดดำมีหนวดและใส่แว่นที่บอกเป็นหมอคือ รศ.น.สพ.ปานเทพ รัตนากร คณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล จากคุณ : petite_witch เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 11:22:29

ความคิดเห็นที่ 29 ขอชี้แจง คุณ petite_witch ก่อนนะครับ นสพ. ที่ผมอ้างถึงคือ คนใส่เสื้อเขียวที่อยู่ในภาพ คห.11 ส่วน อ.ปานเทพ ในภาพ คห.24 ท่านมาร่วมงานเปิดตัวหนังสือ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในนักเขียนรับเชิญครับ จากคุณ : พายุ.... เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 11:53:54

ความคิดเห็นที่ 30 กลับไปอ่านคอมเมนต์ 28 เราใหม่ คุณพายุตีความไม่ผิดที่เราคิดว่าหมอปานเทพเป็นหมอที่บอกว่าช่วยสร้างกรงให้วัด (แต่เราลืมกลับขึ้นไปดูรูปที่ คห.11 ตอนอ่านคอมเมนต์) แป่ว แหว่่วๆๆๆ หน้าแตกนิด 555 จากคุณ : petite_witch เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 12:26:16

ความคิดเห็นที่ 31 คุณพายุครับ เดี๋ยวผมโทรหาตามเบอร์พรุ่งนีเช้า ๆ ครับ ขออภัยครับ งานหลวงรัดตัว -/\- จากคุณ : copcong เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 55 20:58:35

ความคิดเห็นที่ 32 จากคุณ : พายุ.... เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 02:27:23

ความคิดเห็นที่ 33 ณ ตอนนี้ เราอยากให้คุณ copcong เข้าไปคุยได้สำเร็จ เราเข้าใจความปรารถนาดีของคุณพายุ แต่เราคิดว่า คนที่รับแจ้งจากคุณพายุ น่าจะมองเพียงชื่อเสียงของทางวัดมากกว่า และการตีความหมายเมื่อสื่อกับท่านพระพยอมอาจผิดไปจากวัตถุประสงค์ ทำให้คลิปการให้สัมภาษณ์ของท่านออกมามีคำเทศน์ เป็นไปตามที่ทุกคนได้ห็นได้ฟังกัน เราได้แต่เพียงหวังว่า การเข้าไปพบท่านพระพยอม ของ คุณ copcong ในครั้งนี้จะสามารถสื่อวัตถุประสงค์ที่แท้จริง ก็ให้เกิดความเข้าใจระหว่างประธานมูลนิธิ และอาสาผู้ทำงานต่อไป เพื่อผลอันดีที่จะบังเกิดแก่สัตว์น้อยใหญ่ภายในมูลนิธิ ให้พวกเขาเหล่านั้น ได้มีชีวิตที่เป็นสุขมากกว่านี้ จากคุณ : peguensis เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 55 12:14:48

ความคิดเห็นที่ 34 พวกที่ออกมาว่าวัดสวนแก้วทอดทิ้งสัตว์เหล่านี้ ขอโทษเถอะครับ ไม่ว่าจะเป็นมูลนิธิ สมาคมคนรักสัตว์อะไรก็แล้วแต่คุณแค่มบอกว่าไม่ดียังงั้นยังงี้ รับไปเลี้ยงเองไหมครับ วัดทำขนาดนี้ยังมาต่อว่าอีก เคยช่วยอะไรวัดไหมครับ ให้อาหารเองเป็นไหมครับหรือรักแต่ปากครับ ขอโทษไม่คิดจะทำอย่ามาออกหน้าเอาหน้านะ่ครับขอร้อง เบื่อพวกดีแต่ปาก วัดทำดีแล้วครับ ส่วนไอ้พวกบอกว่าปล่อยปะบ้างอะไรบ้าง ขอโทษครับ ไปดูแลลูกหลานคุณให้ดีก่อนไหมครับ ไม่ต้องถึงกับเป็นหมาหรือแมวหรอกครับ จากคุณ : เห็นแล้วอนาถใจ (a_proy) เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 17:11:10

ความคิดเห็นที่ 35 ความคิดเห็นที่ 34 ติดตามมาก่อนหน้าหรือเปล่าคะ เราไม่ได้ติดหนึบนะ แต่กระทู้นี้เราติดตามเผื่อลุงเค้าคอปกับคนที่เคยสนใจช่วยเค้าจะมีความเคลื่อนไหวในทางที่ดี ถ้าคุณไม่ได้ติดตามขอบอกนิดนึงนะคะ คนที่ไปเค้าจะเอาแมวออกมารักษายังโดน 2 ป้าบอกไม่ให้เอาออกไปเลย แมวตัวเดียวที่เอาไปรักษาป้าๆ บอกไม่เอาไปคืนจะไม่เลี้ยงแมวหลายร้อยตัวแล้ว พอทีมงานสนใจจะเอาแมวตัวนั้นไปหาบ้านตัวนี้ไปหาบ้านป้าก็บอกว่าตัวนั้นรัก ตัวนี้คนฝาก บลาๆๆๆ เอิ่ม....ทีมงานเค้าคงไม่มีปัญญารับไปเลี้ยงเองเกินคนละ 10 ตัวหรอกคะ ถึงมีก็คงช่วยได้ไม่ถึง 200 ตัวจากทีมงานทั้งหมดถ้าให้พวกเขาเอาไปเลี้ยงเอง แต่ที่เค้าจะทำคือหาบ้านที่ดีและพร้อมรวมทั้งมีศักยภาพและคุณภาพที่ดีกว่าอยู่วัดเป็นไหนๆ ให้ แต่ที่ได้ยินมาคือ ป้าไม่ยินดีให้เอาแมวออกมาสักตัว ถ้าคนดูแลและคนมีอำนาจยอมให้เอาหมาแมวพวกนี้ออกมาหาบ้าน เครดิตหมาวัดแมววัดกับภาพกระทู้ก่อนหน้าที่อนาถๆ กว่าในวีดีโอหัวกระทู้ เรารับรองว่า หมาแมวจะได้บ้านที่เราเอ่ยไปได้ไม่ยากคะ พุทธพาณิชย์มีจริงในโลกคะ เรารักพระพุทธเจ้า เราไม่ชอบพุทธพาณิชย์ แต่มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เราทำใจได้ แต่บางเคสมันก็เกินที่จะ..... เราว่ากระทู้ก่อนหน้า จขกท. เค้า compromise อยู่เหมือนกันนะ เอาคำพูด...บางท่านมาย้ำ ท่านเคยบอกว่าท่านไม่ใช่อรหันต์ (ตอนที่ท่านทำถุง...เป็นอนุเสาวรีย์ท่านเคยพูดช่วงมีข่าว)แต่การถือพรหมจรรย์ในสถานะแบบท่านก็คือการวางตนไปสู่พระอรหันต์ ทำไมเราถึงรู้สึกว่าอะไรที่กระทบสิ่งที่เกี่ยวพันกับท่านเข้ามาหาท่านทีไร ท่านไม่ได้ใช้หลักสูตรของการเป็นอรหันต์มาควบคุมบ้างเลย เราไม่รู้ว่าท่านทำได้ไหม แต่เหมือนมันไม่ได้ใช้ในเวลาที่ควรจะใช้มากที่สุดเลย (หรือเราจะเข้าใจว่าบางเรื่องก็ควรใช้สติ เหตุผล และเปิดใจมากเกินไป) เรารู้ว่าบ้างเรื่องมันมีอารมณ์มากระทบมาก แต่ความเป็นผู้สืบทอดศาสนา(ที่ดังด้วย)เรามีตรรกะของเราว่าแบบนี้มันไม่ใช่ ปล.เรารู้ตัวว่าที่พิมพ์ใน คห.นี้มันบาปในทัศนะคติของหลายๆ คน แต่เราคิดแบบนี้เราก็พูดคะ เพราะแค่คิดก็บาปแล้วถ้าคนจะมอง จากคุณ : petite_witch เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 55 21:29:44

ความคิดเห็นที่ 36 รู้สึกแปลกใจกับคำพูดของหลวงพ่อเช่นกันครับ แต่ผมก็รู้สึกเหมือนกับบางความเห็นที่บอกว่า หลวงพ่ออาจจะได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วนหรือไม่รอบด้าน ซึ่งผมเชื่อว่า ถ้าหลวงพ่อได้พูดคุยจนเข้าใจในสิ่งที่พวกคุณกำลังทำ ท่านก็น่าจะสนับสนุนนะครับ เพราะอย่างน้อยก็มีแนวร่วมเกิดขึ้นมามากมาย ทำให้แบ่งเบาภาระจากท่านไปได้มากเลยทีเดียว และมันไม่มีประโยชน์อะไรที่ท่านจะไปตั้งแง่กับคนที่จคิดะมาช่วยเหลือ เพราะตัวท่านเองก็ต้องเทศน์หาเงินมาเลี้ยงคนอีกหลายพันชีวิตที่เข้ามาพึ่งใบบุญในวัด อย่างไรก็ตามผมอยากให้เข้าใจในตัวหลวงพ่อนะครับ เนื่องจากท่านโดนมาเยอะจากคนที่มาอาศัยชื่อวัดไปหารายได้ให้ตัวเอง .. ทำให้ต้องระแวงเอาไว้ก่อนเป็นธรรมดา ส่วนความเห็นที่เปรียบเทียบวัดกับป้าบางคนยังเลี้ยงหมาคนเดียวได้ตั้งหลายร้อยตัวนั้น ผมอยากให้เข้าใจว่า คนเลี้ยงหมาที่วัดเขาทำเพราะเป็นหน้าที่ประจำเพื่อแลกกับเงินเดือน ซึ่งต่างจากป้าที่บางท่านยกตัวอย่างมาที่ทำจากใจรักของตัวป้าๆเหล่านั้น รวมทั้งคำพูดที่คุณๆบอกว่าป้าคนงานวัดพูดกลับไปกลับมาด้วย แต่ประเด็นหลังนี้ผมก็ได้แนะนำไปแล้วว่า ให้ไปติดต่อกับทางมูลนิธิฯ ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามีใครติดต่อไปหรือยัง ดังนั้นการจะมาสรุปว่า ทางวัดไม่ให้ความร่วมมือก็คงไม่ยุติธรรมนะครับ เอาไว้ให้คุณ copcong มารายงานผลจากการพูดคุยกับผู้ประสานงานกับหลวงพ่อก่อนแล้วค่อยมาวิพากย์วิจารณ์กันอีกทีจะดีกว่าไหม เพิ่มเติม คห.34 ใจเย็นๆก่อนนะครับ เท่าที่ผมอ่านมาคนกลุ่มนี้ไม่ได้ว่าทางวัดทอดทิ้งสัตว์ แต่กระทู้ตอนแรกๆเนื้อหามันอาจจะดูหดหู่ไปหน่อยจนอาจทำให้เข้าใจผิดได้   แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 55 00:23:10 จากคุณ : พายุ.... เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 00:16:07

ความคิดเห็นที่ 37 เมื่อวานเห็นมีสกู๊ปออกอากาศในรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ด้วย ไม่รู้ทางช่อง 3 จะติดตามเรื่องต่อหรือเปล่านะครับ จากคุณ : พายุ.... เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 55 10:01:11