 
ความคิดเห็นที่ 30 |
ไหนๆ ก็ทำหน้าที่นี้ให้กับประเทศที่เราได้มาอยู่อาศัย ก็เลยอยากจะช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่ด้อยโอกาสของบ้านเกิดด้วย ก็เลยมีการประมูลเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่แล้วค่ะ
แต่ก็ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการตามความเหมาะสม
และลูกๆ ทั้งสามคน ก็มีแนวคิดและวิธีการที่จะทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ตามวิธีการและความถนัดของพวกเค้า
พี่คนโต เสียสละเวลาว่างไปทำงานให้ห้องสมุดประมาณสองปีค่ะ ไปเป็นผุ้ช่วยครูสอนสกีสองปี และก็เป็นผู้ช่วยครูสอนว่ายน้ำปีกว่าๆ .........แต่หลังจากทำงานแบบอาสาสมัคร ก็ถูกเสนองานแบบมีเงินค่าจ้าง ตอนนี้งานการกุศลที่พี่เอ็มทำ ก็คือการรับหน้าที่เป็นประธานชมรม ระดมทุนเพื่อนำไปบริจาคสมทบกับทางยูเอ็น และองค์กรในท้องถิ่น ที่ดูแลเรื่องอาหารให้ผู้ยากไร้ค่ะ ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีการศึกษา พี่คนโต กับพี่คนกลาง จะมีประชุมที่โรงเรียนอาทิตย์ละครั้ง เพื่อหาแนวทางในการจัดกิจกรรม ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นการขายเครื่องดื่ม ขายขนม ขายวาฟเฟิล เปิดดนตรีเพลงไม่เพราะและเปิดเสียงดัง จนกว่าเงินบริจาคจะครบจำนวนที่ตั้งไว้ ถึงจะยอมปิดเพลง หรือบางวันก็อนุญาตให้สวมหมวกในห้องเรียน โดยที่คนอยากสวมหมวกต้องบริจาคเงินคนละสองดอลล์ นักเรียนมีประมาณเกือบสองพันคนค่ะ เก็บสะสมเงินกันไปเรื่อยๆค่ะ แม่ก็รับหน้าที่คอยรับลูกจากโรงเรียน เพราะประชุมหลังเลิกเรียนแล้วค่ะ และก็คอยรับส่งไปซื้อของ บริจาคเงินให้ซื้อของ ให้คำแนะนำทุกขั้นตอน และอยู่เป็นเพื่อนลูก เวลาลูกต้องอบขนมเพื่อเอาไปขายที่โรงเรียน ตีหนึ่งตีสองก็ต้องอดนอนอยู่เป็นเพื่อนลูก เพราะอยากให้ลูกรู้ว่า ถ้าหากจะทำความดี ลูกไม่เคยต้องโดดเดี่ยว แม่จะอยู่เคียงข้างเสมอ
งานสุดท้าย ก่อนปิดภาคเรียน พี่เอ็มบอกว่า งานใหญ่นะแม่ เป็นการจัดดินเนอร์ ให้หมวดคหกรรมมาทำอาหาร ใช้ถ้วยชามงานปั้นจากภาควิชาศิลปะ และแผนกดนตรีก็มาขับกล่อมกันตลอดงาน และก็ทำหนังสือขอรับบริจาคข้าวของจากธุรกิจห้างร้าน เพื่อนำมาประมูล และก็มีการส่งหนังสือไปเชิญแขกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาพูดในงานด้วยค่ะ พอดีแขกรับเชิญท่านหนึ่งเดินทางมาจากอาฟริกา เราเลยพลอยได้เห็นภาพและรายละเอียดชีวิตความเป็นอยุ่ของคนที่ยากไร้จริงๆ .......เป็นงานที่เด็กนักเรียนจัดการกันเอง โดยที่อาจารย์ทำหน้าที่ให้คำปรึกษา เสร็จงานคืนนั้น ยอดเงินที่ทำได้ ประมาณ ห้าพันกว่าดอลล์ค่ะ เด็กๆแต่ละคนยิ้มแก้มบาน เพราะเค้าเตรียมงานกันมาตลอดปีการศึกษา พ่อแม่ผู้ปกครองก็ยิ้มกันแก้มบาน เพราะงานออกมาดีแบบที่ไม่มีใครคาดถึง ว่าเด็กวัยรุ่น อายุประมาณ 15-16 จะจัดงานออกมาได้ดีไม่น้อยหน้าผู้ใหญ่
แม่พี่เอ็มคงแก้มบานที่สุด เพราะลูกไม่ได้แค่จัดงานออกมาแบบไม่มีขาดตกบกพร่อง แต่แม่พลอยได้รู้จากพี่คนกลาง ว่าพี่เอ็มดูแลลูกทีมไปถึงเรื่องอาหารการกิน ซึ่งอันนี้แม่เองก็ลืม คิดแต่เรื่องลูกตัวเองสองคน แต่เมื่อถึงเวลาอาหาร พี่เอ็มใช้เงินส่วนตัวสั่งพิซซ่าเลี้ยงลูกทีมทุกคน ...อันนี้ปลื้มมากค่ะ ที่ลูกเอาใจใส่ทุกรายละเอียด แถมตอนหลัง เจอกระดาษที่ลูกพิมพ์แจกเพื่อสั่งงาน โหยยยย ฉันว่าฉันเป็นคุณนายละเอียดแล้ว เจอการวางแผนของลูกละเอียดกว่าค่ะ
แต่หลังจากพี่คนโต รับทำงานที่ห้องสมุด และงานสอนสกี แบบมีค่าจ้าง พี่คนกลางก็รับช่วงทำต่อค่ะ ตอนนี้พี่ลียาก็ไปทำงานที่ห้องสมุดอาทิตย์ละครั้ง สอนสกีไปหนึ่งฤดู แต่พี่ลียาไม่ชอบสอนว่ายน้ำ เรียนมาทุกคอร์ส แต่สุดท้ายพี่เค้าขอ ว่า ไม่เอางานนี้ได้มั้ย .........กลัวผมแตกปลายฮะ ....... และ....ทุกวันเกิด หลายปีที่ผ่านมา พี่ลียาจะจัดงานวันเกิดแบบไม่ขอรับของขวัญ แต่ขอเป็นเงินบริจาค เพื่อเอาไปบริจาคต่อให้เชลเตอร์สัตว์เลี้ยง เพราะพี่ลียามีใจให้สัตว์ทุกชนิดค่ะ
ส่วนพี่คนเล็ก ปีนี้อาจจะเริ่มไปช่วยงานที่ห้องสมุด และเห็นบอกว่าจะไปเป็นผุ้ช่วยครูสอนสกีด้วย ถ้าผ่านการทดสอบนะคะ และทุกงานวันเกิด พี่คนเล็ก จะไม่รับของขวัญวันเกิดเช่นกันค่ะ แต่ขอเป็นเงินบริจาค เพื่อนำไปบริจาคต่อให้กับศูนย์มะเร็ง
แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 55 21:00:45
จากคุณ |
:
คุณนายดอกไม้
|
เขียนเมื่อ |
:
3 ก.ย. 55 20:53:14
|
|
|
|