 |
ขอตอบนะจ๊ะ คห. 68 1.แม่ผมจะสอนผมไว้ ว่าถ้าคิดจะให้แมวคนอื่นไปแล้ว ต้องปล่อยวาง ต้องถือว่าไม่ใช่แมวเราแล้ว อย่าไปยุ่มย่าม ขนาดผมจะขอไปเยี่ยมว่าแมวสุขสบายดีไหม แม่ผมยังห้ามบอกว่าไม่เหมาะ เป็นการเสียมารยาท เพราะมันทำให้คนรับไปเลี้ยงอึดอัดใจ บางทีถ้าไปเห็นจังหวะที่แมวมันป่วยหรือบาดเจ็บ ก็ต้องฟุ้งซ่าน คิดว่าคนเอาไปเลี้ยงไม่ดูแล ทั้งๆทีมันอาจเป็นช่วงประจวบเหมาะพอดี มีใครบ้างเลี้ยงได้โดยมันไม่ป่วยเลย มันไม่มีหรอก
ตอบ ก็ถูกนะค่ะ ที่ผ่านมาเราก็ไม่ได้ไปยุ่งไปวุ่นวายกับเขา ไม่เคยถามว่าแมวที่รับไปนั้นเป็นอย่างไร แต่ประเด็นมันอยู่ที่ พี่ที่รับอนุบาลไปก่อนนั้น เขาก็มีความผูกพันที่เลี้ยงดูแมวพวกนี้มา มันก็ไม่แปลกอีกที่จะขอไปหาบ้าง อยากเห็นการเจริญเติบโตของเขา หากป่วย ก็แค่สอบถามอาการ ทุกคนรู้หน้าที่และลิมิตของตนคะ (ต้องอธิบายว่า กลุ่มเราเป็นกลุ่มแมว เรามีทริปไปเยี่ยมบ้านเพื่อนในกลุ่มแมวบ่อยๆ พี่เขาก็ไปกับเราด้วยทุกทริป เพื่อนๆหลายๆคนก็อยากจะเห็นผู้มีเมตตาคนนี้ว่ารับเลี้ยงแมวจำนวนเท่าใด มีอะไรที่พวกเราพอจะช่วยกันได้ไหม ) ** พวกเราสนิทกัน ไม่ใช่ คนสองคนติดต่อกันเพื่อรับเลี้ยงแล้วไม่รู้จักกันค่ะ
2. คนรักสัตว์ เมตตาต่อสัตว์ ใช่ว่าจะมีทัศนคติเหมือนๆกัน บางคนรักสัตว์ชอบช่วยเหลือสัตว์ แต่ก็อาจทำร้ายสัตว์ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เช่น ตามใจมากไป ให้อาหารไม่เหมาะสม ส่วนบางคนภายนอกเหมือนเย็นชา ไม่รัก ไม่โอ๋สัตว์เลี้ยงตัวเอง แต่แท้จริงแล้วแทบจะเป็นเพื่อนตายให้สัตว์เค้าเลย ดูแลความปลอดภัยและความเป็นอยู่อย่างดี เพียงแต่ไม่แสดงออกอย่างเปิดเผย ประเด็นนี้อยากให้จขกท.คิดให้มากๆ ว่าคนรักสัตว์แต่ก็มีวิธีคิด ตัดสินใจต่อสถานการณ์ไม่เหมือนกัน จะเอาตัวเองเป็นที่ตั้งว่าต้องทำยังงี้ๆเสมอไปไม่ได้ครับ และอย่าลืมว่า เมื่อเค้ารับไปแล้ว ต้องถือเป็นของเค้าครับ
ตอบ ข้อนี้คุณคิดผิดนะค่ะ เราไม่ได้มองว่า เขาเลี้ยงวิธีแบบไหนอย่างไร แต่ประเด็นที่มันเกิดขึ้นคือ พี่เขากับนางสนม โกหกพวกเรา ว่าแมวแค่กัดกัน ทั้งที่หมอในคลินิกของนางสนม แจ้งไว้ว่า เป็นหวัด แต่นางสนมกลับมายืนยันว่ากัดกัน ถ้าเขามีเจตนาที่ดี เขาไม่น่าจะโกหก เรื่องป่วยหรือตาย รับได้คะเป็นธรรมชาติของโลก จะโกหกทำไม เพราะเราเป็นเพื่อนกัน
3. จขกท.เคยเจอคนรับสัตว์ไปเลี้ยง แต่จริงๆเอาไปขายต่อ หรือเอาเชือดส่งจีนเวียดนามไหมครับ หรือบางคนรับสัตว์พิการเอาไปหากินหาเงิบบริจาคเข้ากระเป๋าตัวเอง ถามว่าคนรับเลี้ยงแมวคนนี้ทำแบบที่ผมว่ามาหรือเปล่า ถ้าเค้าไม่ได้นำไปเลี้ยงด้วยเจตนาร้ายอย่างที่ผมยกมา ยังไงก็ต้องถือว่า เค้ารับเลี้ยงด้วยเจตนาดี แต่มันขัดแย้งด้วยทัศนคติการเลี้ยง การดูแลที่ไม่เหมือนกัน เท่าน้นเอง เว้นแต่จะมีคนรับเลี้ยงเพื่อเอาหน้าเอาตา ทำเป็นรับช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงสัตว์ เพื่อใหสังคมมองว่าตนเป็นคนดี แต่ผมว่าคนแบบนี้ไม่น่าจะมีนะ ใครจะมายอมเหนื่อยเป็นภาระเพียงเพื่อสร้างคะแนนให้ตัวเองดูดี ผมว่าถึงมีก็น้อยล่ะครับ
ตอบ ก็ประเด็นกระทู้นี้อยู่ที่ คาดว่าน่าจะทำเอาหน้านะค่ะ เพราะอะไร พี่น.เขาจะรับแมวที่หาบ้านเฉพาะใน FB ค่ะ ที่อื่นไม่รับ แน่นอนว่าทำเอาหน้า และพี่น.ก็จะพูดเสมอว่า เขารับผิดชอบในส่วนนี้ 6-7 หมื่นทุกเดือน ซึ่งเงินเดือนพยาบาลรัฐบาล มันเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ แต่ที่ผ่านมาก็ไม่ได้คิดอะไร จนมาเกิดเรื่องพวกนี้ ก็พอจะคิดได้บ้างละนะค่ะ
4. ใช่ว่าคนรักสัตว์ทุกคนจะเป็นคนมีสุขภาพจิตดี ยอมรับความจริงด้วยว่า มีคนเลี้ยงสัตว์หรือคนรักสัตว์ไม่น้อย ที่มีปมในจิตใจ หรือมีทัศนคติบางอย่างไม่ปรกติ เฉกเช่นเดียวกับมนุษย์คนอื่นๆ ที่เราชอบพูดว่า "เยอะนะ คนนี้" ผมเองก็มีปมนะครับ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นแรงผลักดันอย่างหนึ่งให้คนเกิดความเมตาตาเลี้ยงสัตว์เพื่อชดเชยบางสิ่งในใจตัวเองครับ การไม่สบอารมณ์ในเรื่องนิสัยหรือพฤติกรรมคนคนหนึ่ง ไม่ใช่ตัวตัวตัดสินว่าเค้าไม่รักสัตว์นะครับ ผมเคยเห็นคนขี้งก ทะเลาะกับคนไปทั่ว แต่กลับช่วยหมาจรจัดพาหมาถูกรถชนไปรักษาถึงทองหล่อ จ่ายเงินแบบถึงไหนถึงกัน (แล้วก็ทะเลาะกับหมอด้วยแหละ เรื่องเงินทองๆนี่แหละ แต่สุดท้ายก็่ยังช่วยหมาจนหาย )
ตอบ ข้อนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับกระทู้นะคะ ที่ดิฉันเอามาแชร์ เพราะอยากให้หลายๆท่านที่มานะหาบ้านให้หมาหรือแมว ทราบไว้บ้างกับพฤติกรรมของคนบ้างคน มีหลายๆคนที่สามารถหาบ้านได้ดี ก่อนที่จะตัดสินใจส่งแมวไปนั้น ก็น่าจะเช็คพฤติกรรมหรือถ้าคุณจะบอกว่า จะหาบ้านให้แมว ใครมาขอก็ให้หมด ลึกๆไม่คิดบ้างหรือว่าเขารับไปขายเพื่อบริโภคหรือไม่ หรือรับไปแล้ว เขาเอาเข้าบ้านหรือป่าว
5. ประเด็นเรื่องการทะเลาะจนถึงขั้นด่ากันด้วยคำหยาบ ขอให้มองข้ามไปได้เลย เพราะในเมื่อคนกำลังเครียดที่ถูกจับผิด หรือถูกข้ามหัว หรือถูกไม่ให้เกียรติไม่เชื่อใจ ไม่ว่าอะไรก็ตามแต่ ถึงจขกทจะบอกว่าไม่มีเจตนาแบบนั้น แต่ในเมื่อเจ้าตัวเค้ารู้สึกแบบนั้น คุณไปเปลี่ยนความคิดเค้าไม่ได้ ขอให้ย้อนไปอ่านข้อหนึ่งใหม่ ทำไมแม่ผมถึงห้ามไม่ให้ผมไปวุ่นวายกับคนที่รับแมวไปเลี้ยง เพราะวันนึงมันอาจเกิดเรื่องแบบนี้ไงครับ คนเราพอเครียดมาก ทั้งเรื่องภาระเลี้ยงสัตว์ เรื่องปัญหาส่วนตัวในชีวิตครอบครัว(ซึ่งไม่มีใครบอกคนอื่นหรอก) แล้วมาเจอเจ้าของแมวเก่าตามมาวุ่นวายกับเค้าอีก เป็นใครก็เครียดทุกคนแหละครับ เถียงกันมากๆก็ต้องหลุดบ้างแหละ ตามนิสัยกำพืดส่วนตัว
ตอบ ข้อนี้คุณไม่จำเป็นต้องใส่ใจเลยคะ แต่ที่ดิฉันแชร์ก็อยากแชร์ให้คนที่หาบ้านให้แมวหมา ได้ทราบถึงพฤติกรรมของคน ที่คุณหรือเขากำลังจะฝากชีวิตสัตว์ไว้ที่เขาคนนั้น พอถึงเวลาที่คุณถามไถ่คุณจะได้คำตอบอย่างไร หรือในขณะที่คุณได้รับการช่วยเหลือแล้ว คุณอาจจะถูกทวงบุญคุณ หรือแม้แต่คุณทำไรเกินหน้าตา คุณจะถูกเหน็บแหนม ดังนั้น เลี่ยงที่จะไม่รู้จักคนคนนี้ได้ นับว่าชีวิตสูงขึ้นค่ะ
6. ไม่มีใครเลี้ยงแมวได้ดั่งใจตามที่ท่านต้องการ และไม่มีอะไรเป็นหลักประกันว่าคนที่ภายนอกดูว่ารักจริง เลี้ยงดีจริง ท้ายสุดเค้าจะเพอเฟ็คเหมือนที่เราคาดหวัง ถ้าจขกทยอมรับความเสี่ยงตรงนี้ไม่ได้ ก็ต้องเลี้ยงแมวเอง ไม่ต้องหาคนรับเลี้ยง หากจะตรวจสอบจับผิด ก็ต้องทำก่อนส่งแมวไปถึงมือเค้า ต้องสอบประว้ติเค้าก่อน แต่ถ้าให้ไปแล้วค่อยมาติดตามย้อนหลัง หรือแม้แต่เข้าไปแทรกแซงการเลี้ยงของเค้า ดูยังไงก็เสียมารยาทครับ
ตอบ ดิฉันคิดว่า คนที่เป็นคนอนุบาล หรือแม้แต่ดิฉัน ไม่ได้มองว่าเขาเลี้ยงอย่างไร ข้อนี้สำคัญ ที่คุณบอกว่า "ถ้าจขกทยอมรับความเสี่ยงตรงนี้ไม่ได้ ก็ต้องเลี้ยงแมวเองไม่ต้องหาคนรับเลี้ยง " ต้องขอความกรุณาอ่านข้อแรกนะคะ ดิฉันไม่ใช่คนหาบ้านให้แมว แค่มาแชร์เพราะมันเป้นเรื่องใกล้ตัวค่ะ ที่ว่าต้องสอบประวัติเขาก่อน ก็อย่างที่บอกว่า พวกเราเป็นเพื่อนกัน ดังนั้นประวัติจุกจิกมันมองข้าม อีกอย่างเคสต่างๆที่มีเข้ามา พวกเราก็ร่วมมือช่วยกันนะคะ ใครจะคิดว่าวันหนึ่งความจริงที่เขาซ่อนไว้มันจะโหดร้าย
สรุปนะคะ เข้าใจที่คุณเขียนมา คุณเขียนมาดีค่ะ แต่คุณคงเข้าใจว่า ดิฉันเป็นคนหาบ้านให้แมว แล้วเกิดทราบว่าเขาเลี้ยงไม่ดีอย่างที่ต้องการ >> ไม่ใช่คะ แมวไม่ใช่ของดิฉัน ดิฉันเป็นคนกลางคะ แต่ที่มาทำกระทู้นี้เพราะอยากแชร์คนที่กำลังหาบ้านให้หมาหรือแมว ใช้ให้เป็นประโยชน์ก่อนจะส่งแมวให้ใคร ก็ควรจะเช็คประวัติ เพื่อนกันบางทีก็ไม่ได้ช่วยอะไร ส่วนเรื่องทะเลาะกัน เป็นธรรมดาของมนุษย์ที่จะมีความเห็นไม่ตรงกันทำให้เกิดปะเสียง แต่กรณีที่คห 24,26 หาบ้านให้แมว แล้วไม่ตกลงให้แมวกับเขานั้น มันคงไม่ใช่เรื่องที่เขาจะมาด่ากราดเสียๆหายๆ นั้นละค่ะที่ดิฉันกำลังจะบอกคนที่กำลังจะหาบ้าน ว่าต้องเช็คประวัติคนคนนั้นก่อน เดี๋ยวจะโดนด่าจนเสียขวัญไม่รู้ตัว คนเรามีความรู้สึก โดนด่าที ปวดแสบปวดร้อนคะ เจ็บจี๊ดๆๆ
อีกเรื่อง ที่คุุณบอกว่า มันเสียมรรยาท ดิฉันว่าเพื่อนกัน กินด้วยกัน นอนด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน ไปมาหาสู่กัน จะเยี่ยมเยือนบ้านกันคงไม่เรียกว่าเสียมรรยาทหรอกนะค่ะ เพียงแต่ที่เขาไม่ให้เราไปบ้านก็เพราะมีอะไรปิดบังเราอยู่ แต่แปลกทีบ้านเราขยันมาตรวจสอบจัง !!
ขอบคุณค่ะ
แก้ไขเมื่อ 06 พ.ย. 55 00:24:07
จากคุณ |
:
raisinsweet
|
เขียนเมื่อ |
:
6 พ.ย. 55 00:21:16
|
|
|
|
 |