ดูแลแมวชราอย่างไรให้มีความสุข
|
|
โดยทั่วไปเราจะนับอายุของแมวว่าเข้าสู่วัยชราเมื่อมีอายุ 8-10 ปี ขึ้นไป ซึ่งจะพบการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายใกล้เคียงกับที่พบในสุนัข อาจจะเริ่มตั้งแต่การมองเห็น ทำให้แมวมีการปรับตัวในการใช้อวัยวะอื่นทดแทน เช่น การดมกลิ่น การได้ยิน หรือการสัมผัส ต่อมาก็จะพบพฤติกรรมต่างๆ อย่างหลงลืม ขาหลังอ่อนแรงลง ขนรอบๆ ปากและจมูกเปลี่ยนสีไปจากเดิม บางตัวพบก้อนเนื้อตามลำตัว เช่น ข้อศอก เหงือกอักเสบ ฟันผุ และมีหินปูน ซึ่งเป็นปัญหาในช่องปากของแมวชรา ทำให้กินอาหารได้ลดลง หรือมีกลิ่นปากที่รุนแรง หรืออาจมีเลือดออกตามช่องเหงือกและฟัน จำเป็นต้องทำการรักษา ให้ยา และขูดหินปูน
แมวชราบางตัวเริ่มพบปัญหา ต้อกระจก ทำให้เกิดปัญหาตาบอดตามมาในบางราย เจ้าของควรระมัดระวังอย่าปล่อยแมวที่ตาบอดออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน เพราะแมวอาจวิ่งลงไปบนถนนโดยไม่ได้ตั้งใจ นอกจากนั้นก็มีปัญหาของช่องหูส่วนนอกอักเสบ การเสื่อมของประสาทที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้ของการได้ยิน หรือพบก้อนเนื้องอกขึ้นในช่องหู ดังนั้น เวลาจะเข้าหาแมวที่มองไม่เห็นหรือหูหนวก ให้พยายามเดินเข้าไปหาช้าๆ และค่อยๆ สัมผัสอย่างนุ่มนวล เพื่อไม่ให้แมวตกใจค่ะ
โรคเบาหวาน เป็นอีกโรคที่มักพบได้ในแมวชรา โดยอาการที่พบคือ แมวกินน้ำเยอะ ปัสสาวะบ่อย ดูอ่อนแรง กินอาหารเยอะแต่ไม่อ้วน หากสงสัยแนะนำให้งดน้ำและอาหารแมวก่อนพามาตรวจประมาณ 8-12 ชั่วโมง เพื่อทำการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด และหากตรวจพบว่าเป็นเบาหวาน ก็จะทำการรักษาด้วยการปรับใช้ฮอร์โมนอินซูลิน และดูแลการกินอาหารของแมว ด้วยการให้อาหารสำหรับแมวป่วยด้วยโรคเบาหวาน
สำหรับโรคต่อมาที่ มักพบในแมวเมื่อมีอายุมากขึ้น คือมดลูกอักเสบ โดยจะพบในแมวเพศเมียที่ยังไม่ได้ทำหมัน อาการที่พบคือแมวจะกินอาหารลดลง มีของเหลวไหลออกมาจากอวัยวะเพศ อาจเป็นเลือด หนอง หรือเป็นเพียงเมือกสีขาวเหลือง เมื่อพบควรรีบพามาทำการตรวจรักษา สัตวแพทย์จะทำการตรวจเลือด เอ็กซเรย์ หรืออัลตราซาวด์เพื่อช่วยในการวินิจฉัย จากนั้นจึงผ่าตัดเอามดลูกและรังไข่ออกค่ะ
แมวชราบางตัวจะมี อารมณ์หงุดหงิดง่าย เช่นเดียวกับสุนัขชรา ซึ่งต้องระวังมากในบ้านที่มีเด็ก ส่วนการดูแลเรื่องอาหารต้องระวังเรื่องปริมาณ ว่าให้ไม่มากหรือน้อยเกินไป แมวที่มีอายุมากขึ้นมักจะกินอาหารลดลง สาเหตุอาจมาจากปัญหาของมองเห็น และประสาทสัมผัสในการรับรู้กลิ่นเสื่อมสภาพ หรือฟันผุ ทำให้ความอยากอาหารลดลง และที่สำคัญต้องมีน้ำสะอาดวางไว้ให้อย่างเพียงพอ และตั้งทิ้งไว้ตลอดในที่เข้าถึงได้ง่าย อาจวางน้ำในหลายๆ จุดของบ้าน
แมว ชราบางตัวกินน้ำน้อยลงทำให้เกิดปัญหาท้องผูกตามมา สามารถแก้ไขโดยการใช้อาหารเปียก หรือใช้อาหารสูตรสำหรับแมวที่มีปัญหาท้องผูก และควรหมั่นดูแล ขนและผิวหนัง อย่าให้มีไรขนหรือหมัด เพราะจะทำให้แมวไม่สบายตัว และอาจนำโรคพยาธิในเม็ดเลือดมาสู่แมวได้ สุดท้ายคือห้องน้ำแมว ให้พยายามหมั่นเปลี่ยนวัสดุและเพิ่มจำนวนห้องน้ำแมวให้มากขึ้น ในพื้นที่ๆ แมวเข้าถึงได้ง่าย เนื่องจากแมวชรามักประสบปัญหาการอั้นปัสสาวะหรืออุจจาระต่อเนื่องในช่วง ระหว่างกลางคืนจนถึงเช้าไม่ไหว ที่มาของบทความจากเว็ป mthaiโดยคุณ nonglek -ขอบคุณครับ
จากคุณ |
:
หูสามเหลี่ยม
|
เขียนเมื่อ |
:
14 พ.ย. 55 23:18:26
|
|
|
|