ความคิดเห็นที่ 1 เลี้ยงปลาทะเล จุดต่ำสุดของความเป็นมนุยษ์? “ชั้นผิดหวังในตัวคุณมากเลยนะ ไหนคุณบอกว่าคุณเป็นนักอนุรักษ์ ไหนคุณบอกว่าคุณมีอุดมการณ์ แล้วทำไมคุณถึงเลี้ยงปลาทะเล?” วรรณฟักษ์ ทิ้งตัวลงนั่งพับเพียบกับพื้น ก้มหน้าลงสะอึกสะอื้น ผิดหวังในตัวของคนที่เธอเคยชื่นชม เธอรู้จักกับเค้ามาหลายปีแล้ว หนุ่มคนนั้นที่เธอหลงไหล เค้า(เคย)เป็นคนที่มีอุดมการณ์ เค้าเขียนบทความให้ความรู้มากมาย แสดงตัวว่าเป็นนักอนุรักษ์ธรรมชาติ เค้าร่วมกับกรมประมงจัดนิทรรศการให้ความรู้แก่ประชาชน เค้าให้ความร่วมมือกับกรมประมงในงานวิชาการต่างๆ รูปที่เค้าถ่ายเค้าให้โรงเรียนและมหาวิทยาลัยไปประกอบแบบเรียนฟรีๆ เค้าดำน้ำและเค้ารักปลา แล้วทำไม ทำไมจู่ๆเค้าถึงเลี้ยงปลาทะเล “ที่รัก เจ้าจงดูก่อน เจ้าหวังจะให้พี่เป็นคนเช่นไรเล่า?” เค้านั่งลงไปกับพื้น เชยคางของเธอขึ้นมา จ้องเข้าไปในดวงตา หมวยชั้นเดียวของเธอ “เจ้าจะให้พี่ทำเช่นไร วรรณฟักษ์ เจ้าจะให้พี่ด่ากราด กล่าวหาทุกคนที่เลี้ยงปลาทะเลว่าเป็นคนเลว ขโมยสมบัติของชาติโดยไม่ศึกษาเลยหรือ? ทุกวันนี้คนเลี้ยงปลาทะเลถูกด่าอยู่ด้านเดียว จากนักอนุรักษ์ จากนักดำน้ำ พวกที่เลี้ยงปลาทะเลก็ออกมาตอบโต้ในมุมของเขา แต่ก็ไม่มีคนฟังเพราะกลุ่มนี้ไม่มีสื่ออยู่ในมือ เหมือนถูกมัดมือมัดเท้าข่มชื่นจากนักอนุรักษ์ทั้งเมือง พี่ซึ่งอยู่ในฐานะที่อยู่ตรงจุดสีเทาๆจึงอยากจะลองศึกษาดูบ้าง อยากจะลองเข้าใจพวกเค้าบ้าง” “น้องรู้ไหม ว่าอะไรคือจุดอ่อนที่สุดของนักอนุรักษ์?” เธอส่ายหน้า “คนพวกนี้มักจะคิดว่ามีแต่พวกเค้าเท่านั้นที่รักทะเล พวกเค้ารักปลาทะเลอยู่คนเดียว หรือกลุ่มเดียว การฟังความจากหลายๆด้าน การศึกษาจากหลายๆฝ่าย หาจุดที่ทุกคนยอมรับได้ ต่างหากถึงจะเป็นวิธีอนุรักษ์ที่ถูกต้อง เจ้าไม่ได้ฉลาดอยู่คนเดียว ถึงแม้จะมีดีกรีเป็น ดร. เจ้าไม่ได้รักทะเลอยู่คนเดียว และเจ้าก็ไม่ได้ถูกอยู่คนเดียว” เค้าพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “จริงอยู่ ที่พี่ไม่เห็นด้วยกับการเลี้ยงสัตว์ที่ไม่สามารถขยายพันธุ์ได้ในที่เลี้ยงได้ แต่น้องรักของพี่ มีสัตว์ชนิดใดบ้างเล่าที่ไม่เคยมีชีวิตในป่ามาก่อน ไม่ได้เกิดจากธรรมชาติ? ไม่ว่าจะเป็นควาย เป็นหมา เป็นฟักหรือ ปลาการ์ตูน ล้วนแล้วแต่เคยอาศัยอยู่ในธรรมชาติ ต่อเมื่อเรานำมาเลี้ยงมาศึกษานั่นแหล่ะ เราถึงสามารถขยายพันธุ์ในที่เลี้ยงได้ นำมาพัฒนา นำมาใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆได้ ถ้าไม่เริ่มแล้วเจ้าจะมีวันเพาะได้หรือ?” “พี่เข้าใจว่าปลาทะเลนั่นเลี้ยงยากมากๆ คนที่จะเลี้ยงต้องศึกษาหลายๆอย่าง ทั้งระบบการย่อยสลายของเสีย สารพิษ การกรอง การฆ่าเชื้อโรค และการให้อาหาร เจ้าเคยได้ยินชื่อโปรตีนสกิมเมอร์หรือเปล่า? เจ้ารู้จักระบบกรองแบบทริคเกอร์หรือเปล่า? เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันเอาไว้ทำอะไร ทำงานอย่างไร? นักเลี้ยงปลาทะเลที่ดีนั้น แทบจะต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์สมัครเล่นเลยนะ เค้าต้องวัดค่าต่างๆในน้ำหลายๆค่า ต้องควบคุมความเค็มในตู้ให้ได้ระดับ ต้องให้อาหารหลายอย่างกับปลาต่างสายพันธุ์กัน ไหนจะความเข้มของแสง ความแรงของกระแสน้ำ ไหนจะคุณสมบัติของวัสดุกรองต่างๆ ไหนจะระบบการย่อยสลายไนโตรเจน และอื่นๆอีกมากมาย การจะเลี้ยงปลาทะเลให้รอดเป็นเรื่องยากแต่ถ้าเจ้าได้ศึกษาให้รู้อย่างถ่องแท้แล้ว เจ้าจะพบว่าเราได้พัฒนาการมาไกลมากแล้ว ทุกวันนี้ความรู้และอุปกรณ์ต่างๆอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว ถ้าเจ้ามีใจถ้าเจ้าศึกษา ถ้าเจ้ารู้จักตั้งระบบให้ดี การเลี้ยงปลาทะเลก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ถ้าเจ้าได้เรียนรู้แล้วเจ้าจะต้องทึ่งกับศาสตร์และศิลป์แขนงนี้เหมือนกับพี่” เค้าพูดต่อ “แต่พี่ ยังไงพี่ก็ต้องไป.....ฮึ๊ก.....จับปลามาจากธรรมชาติไม่ใช่เหรอ? มันก็เป็นการทำ.....ฮึ๊ก....ลายธรรมชาตินะค่ะ” เธอหยุดร้องไห้แล้วแต่ก็ยังสะอึกสะอื้นอยู่ “เจ้าต้องไม่ลืม ว่าทรัพยากรปลาสวยงามนั้นก็เหมือนกับทรัพยากรสัตว์น้ำอื่นๆซึ่งสามารถเพิ่มจำนวนได้เองตามธรรมชาติ ถ้าแหล่งอาศัยที่สมบูรณ์ยังอยู่ ถ้ามีการควบคุมการจับอย่างเหมาะสม ปลาพวกนี้ก็ยังอยู่ แทนที่จะห้ามจับ ประกาศเป็นสัตว์คุ้มครองแบบเหวี่ยงแหจนชาวประมงเดือดร้อนไปด้วย น่าจะหามาตรการที่ฉลาดกว่านี้เช่นการออกใบอนุญาตให้จับได้เป็นรายบุคคล การกำหนดโค้วต้าในการจับ การกำหนดพื้นที่หวงห้าม การกำหนดฤดูการที่แน่นอน ชาวประมงบางคนหากินอยู่กับปลาพวกนี้ ถ้าจู่ๆเราไปประกาศให้อาชีพที่เค้าเคยทำมาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่ากลายเป็นเรื่องผิดกฏหมาย แล้วจะให้คนเหล่านี้ไปทำอะไรกิน? ดูอย่างในรัฐฮาวายของประเทศอเมริกา ก็มีการจับปลาสวยงามจากธรรมชาติมาขาย แต่เค้าก็มีการกำหนดแหล่งจับอย่างชัดเจนและมีกฎหมายควบคุมที่ได้ผล นักวิชาการณ์เก่งๆของเรามีตั้งหลายคน งบประมาณก็ใช่ว่าจะใช้เยอะอะไร ลองส่งไปดูงานไม่ดีกว่าที่จะมาออกกฎหมายเหวี่ยงแหแปะปะเช่นนี้หรือ? จริงอยู่ที่การจับปลาทะเลสวยงามเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติโดยตรง แต่ปลาที่จับมาเลี้ยงนี่พี่ว่าจำนวนน้อยมากนะจ๊ะเมื่อเทียบกับปลาที่ติดไปกับการประมงประเภทอื่นๆทั้งอวนลุน อวนลากอวนทับตลิ่ง ล้วนแล้วแต่มีส่วนในการทำลายทรัพยากรทั้งนั้น ประเทศเรามีรายได้จากการประมงปลาทะเลเกือบปีละแสนล้านบาท ถามว่าเป็นปลากี่ตัน ในปี พ.ศ. 2504 เรืออวนลากมีสถิติจับสัตว์น้ำได้เฉลี่ย 298 กิโลกรัมต่อชั่วโมง ปี พ.ศ. 2542 มีแนวโน้มเหลือไม่เกินชั่วโมงละโลฝ่า! ปลาทะเลสัตว์ทะเลหายไปไหนหมด อะไรกันแน่ที่เป็นจุดทำลายสัตว์ทะเลที่แท้จริง? ในการทำประมงขนาดใหญ่ ในนั้นจะมีปลาสวยงามติดไปกี่ตัว รายงานปลาจิ้มฟันจรเข้ปีศาจติดอวนลากก็มี ในขณะที่ปีนี้พี่เห็นในร้านขายไม่กี่ตัว? แทนที่จะมาโวยวายเอากับคนเลี้ยงปลาซึ่งจริงๆแล้วควรจะเอาไปเป็นพวกด้วยซ้ำ ไปจัดการกับการทำประมงให้เหมาะสมไม่ดีกว่าหรือ?” “ในส่วนของร้านขายปลาทะเลเนื่องจากเป็นกลุ่มที่ต้องเรียกว่าอยู่ในโซนสีเทาๆอยู่เหมือนกัน ก็น่าจะออกกฏหมายให้มีใบอนุญาตในการขายเหมือนกับร้านเหล้า จริงๆแล้วน่าจะจับไปสอบความรู้เลยด้วยซ้ำ จะได้สามารถแนะนำคนซื้อได้” “ทุกวันนี้ต่างประเทศเข้าไปไกลกว่าเรามากแล้ว ในขณะที่นักวิชาการไทยยังเอะอะโวยวายว่าการทำฟาร์มปลาทะเลสวยงามไม่คุ้มค่าการลงทุน แต่ในต่างประเทศกลับมีฟาร์มเพาะพันธุ์สัตว์เหล่านี้เพื่อการค้ามากมาย แล้วเค้าทำกันได้อย่างไร? ถ้าเราไม่เริ่มศึกษาตั้งแต่วันนี้ เราจะต้องตามก้นฝรั่งไปอีกกี่ชาติกันเล่า? ทำไมเค้าถึงทำได้ แล้วทำไมเราถึงทำไม่ได้ทั้งๆที่สิ่งแวดล้อมทุกๆอย่างของเราเหมาะสมกว่า? ถ้าเรามัวแต่มาออกกฎหมายห้ามเลี้ยงกันแบบนี้ มันก็เหมือนเป็นการตัดตอนการศึกษา หรือถึงรู้ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะมีกฎหมายครอบหัวอยู่ ดูอย่างปลาการ์ตูนที่มีกลุ่มอนุรักษ์เสนอให้เป็นสัตว์คุ้มครองสิจ๊ะ ต่างประเทศเพาะขายกันเป็นเรื่องเป็นราว คัดพันธุ์กันจนมีออกมาหลายๆแบบแล้วด้วยซ้ำไป กรมประมงที่กระบี่ของเราก็เพาะได้จำนวนมหาศาล ถ้าไปประกาศเป็นสัตว์คุ้มครองซ่ะ แล้วเราจะทำอะไรได้ หล่ะจ๊ะ? โอกาสที่จะพัฒนาเทคโนโลยี่ที่ได้รับการศึกษาแล้วเพื่อมาทำเป็นอุตสาหกรรม เป็นรายได้เข้าหมู่บ้านหรือประเทศจะมีเหรอ? นี่ยังไม่นับรวมปลาทะเลอีกหลายชนิดเลยนะจ๊ะที่ต่างประเทศเค้าเพาะกันเป็นอุตสาหกรรมแล้ว แต่ประเทศไทยยังงมโข่งอยู่” จากคุณ : คิลลี่แมน - [ 6 ส.ค. 46 21:58:55 ]

ความคิดเห็นที่ 2 “แต่พี่ขา ...พรืดดดดดด...... เรื่องพวกนี้เราก็มีกรมประมงศึกษาอยู่แล้วนิค่ะ เราเป็นเอกชนคนธรรมดา ไม่มีหน้าที่สักหน่อย?” เธอสั่งขี้มูกก่อนถามต่อ “น้องรัก อะไรที่เอกชนช่วยกันได้ก็ช่วยกันไปเถิด จะงอมืองอเท้ารอความเชื่อเหลือจากรัฐอย่างเดียว เป็นไปไม่ได้หรอก กรมประมงก็มีข้อจำกัดของเข้า ทั้งทางด้านบุคคลากรและงบประมาณ ดูเพื่อนพี่เอาเถิด จะของบซื้อกล้องดิจิตอลสักตัว ต้องตั้งงบล่วงหน้า ๒ ปี กว่างบจะออก กล้องรุ่นนั้นก็ตกรุ่นไม่มีขายไปแล้ว จะไปซื้ออีกรุ่นก็ทำไม่ได้ เพราะไม่ตรงกับในรายงานที่ทำเรื่องขอไว้ ในที่สุดเลยต้องทำเรื่องใหม่ กะเผื่อไว้ว่ารอ แคนนอน Powershot G7 ออกอีกสองปีข้างหน้า ก็จะได้ซื้อพอดี ส่วนเรื่องบุคคลากรนั่นเล่า นิสิตจบประมงมาตอนนี้เค้าก็ไปขายยากุ้งอาหารกุ้งกันหมดแล้วหล่ะจ๊ะ นักวิชาการเมืองไทยกินแต่แกลบใครเค้าจะอยากไปเป็นกัน? พวกที่อยู่กันนี่ก็ต้องใจรักจริงๆเท่านั้นแหล่ะ หรืออีกพวกก็คือไร้คุณภาพไม่มีที่ไป” “แล้วพวกปะการังหล่ะค่ะ? ก้นตู้ทั้งหลายเหล่ หรือปลาอีกหลายชนิดที่เพาะในที่เลี้ยงไม่ได้ เลี้ยงก็ยังไม่รอดเลย พวกเค้าก็ยังจะเอามาเลี้ยงกันไม่ใช่เหรอค่ะพี่?” “ปะการังผิดกฎหมาย อันนี้ใครเลี้ยงก็ผิดกฎหมายแน่หล่ะจ๊ะ กรมประมงเค้าก็ดูแลดีอยู่ แต่จริงๆแล้วก็มีปะการังหลายชนิดแล้วนะที่เพาะขยายพันธุ์ได้ในที่เลี้ยงหน่ะ พี่ว่าถ้ามีคนกล้าพูด กล้าแสดงให้เห็น อีกหน่อยน่าจะมีการถอดชื่อออกได้นะ เหมือนละองละมั่งที่เราเพาะในที่เลี้ยงได้เยอะแยะในที่สุดก็ยังถอดออกจากรายชื่อสัตว์สงวนเลย แล้วทำไมปะการังเราจะทำไม่ได้ จริงไหมหล่ะ? ข้อสำคัญคือ กฏหมายนี่แหล่ะ ว่าทำอะไรได้แค่ไหน ส่วนพวกปลาเลี้ยงยากๆนั่น ต้องเข้าใจเค้าก่อนนะ ว่าคนเลี้ยงปลาไม่อยากมีใครเห็นปลาตายหรอก ไม่มีใครมีความสุขที่ปลาตาย คนที่จะเริ่มเลี้ยงก็แสดงว่าต้องรักปลาเป็นที่ตั้งหล่ะ ทีนี้บางทีเค้าไม่รู้ไง ว่าตัวไหนรอดไม่รอด ตัวไหนต้องกินอะไร นี่รวมถึงร้านขายด้วยนะจ๊ะ แล้วถามว่าจะให้เค้าไปเรียนไปรู้มาจากไหนหล่ะ? หนังสือปลาทะเลดีๆบ้านเราก็ไม่มี เพราะเรามัวแต่งมโข่งต่อต้านกันอยู่นี่แหล่ะ คนเก่งๆเค้าก็ไม่กล้าออกมา อะไรก็ตามถ้ามีความรักเป็นที่ตั้งแล้ว ทำให้ดีได้ไม่ยากหรอกจ๊ะ จริงๆแล้วพี่ก็เห็นด้วยนะจ๊ะ อย่างปลาผีเสือ, ปลาจิ้มฟันจระเข้ปีศาจ, ปลาไหลริบบิ้นหรือทากทะเลเนี๊ย พวกนี่เลี้ยงยังไงก็ไม่รอด ไม่ควรเอามาเลี้ยง เห็นร้านไหนขายพี่ยังอยากจะเขกหัว แต่อย่างปลาการ์ตูนหรือพวกปลาสินสมุทรเนี๊ยเพาะในที่เลี้ยงกันได้เยอะแล้ว ปลาการ์ตูนทั้งสกุล Amphiprioืn และ Premnas ก็เพาะกันได้แล้ว ปลาสินสมุทร (Angels) ตั้งหลายชนิดก็เพาะในที่เลี้ยงได้แล้ว ถ้าไปประกาศเป็นสัตว์คุ้มครองซ่ะเราก็จะไม่มีวันได้พัฒนาเทคโนโลยีในส่วนนี้เลยนะ ดูอย่างปลาตะพัดสิ ดันไปประกาศเป็นสัตว์คุ้มครอง ตอนนี้ศูนย์ประมงที่สุราษธานีเพาะได้เยอะแยะแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากเพราะจะขายก็ผิดกฏหมาย จะถ่ายทอดความรู้ให้เอกชน เอกชนก็ติดต้องขอใบอนุญาตยุ่งยากไปหมด ในที่สุดเราก็เลยอาศัยลักลอบเลี้ยงเอาแทน หรือไม่ก็ต้องไปนำเข้ามาอย่างถูกกฏหมายจากต่างประเทศ การลงทุนเพาะอโรวาน่าก็คล้ายๆกับปลาทะเลนั่นแหล่ะ เป็นปลาเพาะยากราคาสูง ต้องลงทุนสูง ดังนั้นถ้าทำแล้วกฏหมายมาขัดก็ไม่มีใครอยากทำ ลองนึกดูเล่นๆ ถ้ามีใครสักคนไปขออนุญาตทำฟาร์มเพาะพันธุ์ปลาการ์ตูน ต้องมีที่ชายทะเล ต้องลงทุนเรือนเพาะปลา เรือนเพาะอาหารปลา ต้องจ้างนักวิชาการ ต้นสูงจึงต้องเพาะให้ได้จำนวนแต่เสร็จแล้วก็ขายได้แต่ตลาดภายในประเทศไม่กี่ตัว เพราะคนจะเลี้ยงการ์ตูนได้ต้องมีใบอนุญาต แถมประเทศไทยมีกฏหมายห้ามส่งออกปลาทะเลสวยงามอยู่อีก แล้วเมื่อไหร่มันจะเกิดหล่ะจ๊ะฟาร์มที่ว่าหน่ะ ถ้าไม่มีฟาร์มแต่ยังมีคนอยากเลี้ยงแต่ผิดกฏหมาย ก็เกิดเป็นระบบใต้ดินอยู่ดี ยังไงก็ต้องหาทางเอามาขายกันจนได้อยู่แล้ว หลบๆซ่อนๆสิจะยิ่งแย่ ยิ่งควบคุมไม่ได้ รัฐบาลชุดนี้มีนโยบายจะทำให้ทุกอย่างขึ้นมาอยู่บนดินไม่ใช่เหรอจ๊ะ? จะประกาศก็น่าจะมีการศึกษามากกว่านี้สักหน่อยก่อน เพราะกฏหมายมันออกมาแล้วแก้ยาก และมีผลกระทบต่อคนทั้งชาติในอนาคต มิใช่ผลักดันให้ผ่านได้แล้วตัวเองดังแต่คนอื่นเดือดร้อน” “นอกจากนั้นนะประเทศไทยเรายังขาดแหล่งให้ความรู้ ให้การศึกษาอีกเยอะนะจ๊ะ ปีนี้น่ายินดีที่มีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเปิดขึ้นหลายแห่ง เปิดโอกาสให้คนทุกระดับได้ประทับใจกับโลกใต้น้ำได้บ้าง แต่ก็นะจริงๆแล้วสถานที่พวกนี้น่าจะเป็นได้มากกว่าสร้างความประทับใจ น่าจะมีการให้ความรู้กับนักท่องเที่ยวมากกว่านี่นะจ๊ะ ทั้งของเอกชนทั้งของราชการตอนนี้ป้ายให้ความรู้ยังน้อยไปหน่อย ถ้าจะให้ดีมีคนคอยบรรยายให้ฟังเลยยิ่งดี เพราะบางทีคนไทยก็ไม่ค่อยชอบอ่านหรอก สักแต่จะดูปลาสวยๆเยอะๆ ความบันเทิงย่อยง่ายไงจ๊ะ ดูอย่างงานประมงน้อมเกล้าที่ผ่านมาสิจ๊ะ หน่วยงานราชการเอาผลงานทางวิชาการมาจัดแสดงตั้งเยอะแยะ บอร์ดมากมาย แต่ก็ยังมีคนมีหน้ามาแปะกระทู้บอกว่าไม่เห็นมีอะไรเลย คนพวกนี้หวังอะไรน้องว่า? ปลาไหลไฟฟ้ายักษ์แบบสองปีที่แล้ว หรือปลาช่อนงูเห่ายักษ์ แบบเมื่อปีที่แล้ว? ความบันเทิงย่อยง่ายเหมือนเวลาจอดดูรถชนกันอย่างนั้นเหรอจ๊ะ? บางครั้งความเอาใจใส่อยากเรียนรู้ก็ต้องปลูกฝังกันตั้งแต่ยังเด็กและสถานที่แบบสถานแสดงพันธุ์ปลานี่แหล่ะที่จะเป็นจุดเชื่อมระหว่างความฝันของเด็กๆกับโลกแห่งความจริง นีโม่กับ Amphiprion ocellalis หัวเมืองใหญ่ๆในต่างประเทศเค้าก็มีกันทั้งนั้นแหล่ะจ๊ะ แต่ก็นะมีห่วยๆไม่มีซ่ะดีกว่า ไม่งั้นน้องจ๊า ก็มีแต่พวกคนรวยๆ มีเวลาว่างมากพอที่จะแห่ตามกระแสดำน้ำเท่านั้นแหล่ะนะที่จะได้ดูปลาทะเลเป็นๆ คนพวกนี้หลายคนก็ดีน่ะจ๊ะช่วยกันสอดส่องดูแลโลกใต้น้ำของเรา แต่พวกที่แห่ตามกระแสดำน้ำลงไปเหยียบปะการังหัก ไปเกาะครีบปลาฉลามวาฬ ไปทำลายเครื่องมือประมงของชาวบ้านก็มีเยอะแยะ ก็เหมือนสังคมทั่วๆไป มีทั้งคนดีและคนเลว เหมือนสังคมคนเลี้ยงปลาทะเลก็ไม่ได้หางแดงไปซ่ะทุกคนเหมือนที่โดนกล่าวหาหรอกจ๊ะน้องจ๊า อย่าโกรธพี่เลยนะ แล้วสักวันน้องก็จะเข้าใจว่าพี่กำลังทำอะไรอยู่” “จ๊ะพี่ น้องเชื่อมั่นในตัวพี่เสมอจ๊ะ” วรรณฟักษ์พยักหน้า เช็คน้ำตาด้วยแขนเสื้อ แล้วโผเข้าซบกับอกที่แสนจะอบอุ่นของเค้า The Beginning จากคุณ : คิลลี่แมน - [ 6 ส.ค. 46 21:59:30 ]

ความคิดเห็นที่ 3 รู้สึกว่า งานก่อน กินข้าวขาหมูหรือเปล่าครับ ของกินแถวนั้น กินแล้วเกิดสาระมากเลยนะครับ ฮ่าๆๆๆ แต่ขอชมงานเขียนครับ เยี่ยม!!! จากคุณ : Giant-Dad (Giant-Dad) - [ 6 ส.ค. 46 22:32:12 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คงจะเขียนซะเต็มฝาห้องน้ำเลยนะครับเนี่ย ^ ^ จากคุณ : ทองอ่อน - [ 6 ส.ค. 46 22:35:52 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เก่ง ดี เขียน ฝาห้องน้ำได้ ยาว มาก ก็ แบบนี้ละ เมืองไทย ทำใจดีกว่า จากคุณ : angel.. - [ 6 ส.ค. 46 22:42:28 A:203.145.27.76 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 เขียนไป นึกไป อึไป คงนั่งอึตั้งแต่เช้ายันเย็นเลยนะครับ ( หรือว่าเหน็บกินลุกไม่ขึ้นระหว่างรอคนมาช่วยก็เลยนั่งเขียนไปแก้เซ็งเนอะ ) จากคุณ : A_light - [ 6 ส.ค. 46 22:45:40 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เยี่ยมยอด อยากจะเลี้ยงและศึกษาด้วย แต่กลัวสังคมประนาม ยิ่งโอนประนามรุนแรงกว่าพวกนักการเมืองขายชาติ หรือตำรวจเลว ๆ ซะอีก ท้อเหมือนกัน อิอิ ก็อย่างว่าแหละครับผู้มีอำนาจก็เอาแต่ตัวเองเป็นใหญ่ครับ ยิ่งพวกอนุรักษ์ด้วยแล้วหละ อะไรก็อนุรักษ์หมดครับ ไม่ได้คำนึงถึงผลได้กับผลเสีย แล้วมาชั่งน้ำหนักว่าอะไรจะดีกว่า มองโลกแค่ด้านเดียว ใจแคบจริง ๆ จากคุณ : som2009 - [ 6 ส.ค. 46 22:56:47 A:202.183.151.213 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 ดีครับ ชอบใจมาก จากคุณ : ใจปลาซิว - [ 6 ส.ค. 46 23:09:59 A:203.113.67.165 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมเห็นด้วยนะ ชาวประมง ฆ่าไปเท่าไหร่ตัวเล็กตัวน้อยติดอวนตาถี่ตายไปเท่าไหร่เทียบไม่ได้กับคนที่นำมาเลี้ยงด้วยซ้ำ แต่การฆ่านักวิชาการประชาชนทั่วไปไม่เห็น แต่เห็นมาขายมาอยู่ในตู้จึงทำให้ดูว่าสัตว์พวกนี้ควรอยู่ในทะเลไม่ใช่ตู้ จึงทำให้คนขายคนเลี้ยงดูเหมือนกำลังทำลายธรรมชาติ เลี้ยงไปก็ตาย แต่เค้าไม่รู้ความจริงในการเลี้ยงว่าแต่ละคนที่เลี้ยงกว่าจะเลี้ยงต้องศึกษาเท่าไหร่ลงทุนลงแรงไปเท่าไหร่ ไม่ใช่เลี้ยงซี้ซั้ว แต่อย่าว่าแหล่ะครับ ต่างคนต่างความคิด จากคุณ : ผ่านมา - [ 6 ส.ค. 46 23:11:34 A:202.29.5.115 X: ]

ความคิดเห็นที่ 10 555 อ่านสนุกและเขียนได้ดีครับ ปัญหาของการเลี้ยงปลาทะเลที่ถูกมองในแง่ลบ 1.วิธีการจับ ไม่รู้เดี๋ยวนี้ยังเหมือนเมื่อก่อนเปล่าที่มักใช้ยาไปเบื่อให้ปลามึนเมา แล้วปลาเอามาเลี้ยงยังไงก็ตาย รวมถึงสารเคมีที่ใช้เบื่อปลามันไปกระทบสิ่งแวดล้อมด้วย 2.ปลาที่สวยๆมักชอบอยู่ตามปะการังนี่ซิ เวลาจับมาปะการังก็มักเสียหายไปด้วย มันไม่เหมือนปลาทูที่ว่ายเป็นฝูงอยู่กลางน้ำที่ลากอวนจับสบายๆ 3.คนขายเองมักไม่แนะนำวิธีการเลี้ยง การ set ระบบที่ถูกต้อง มักอยากรีบๆขาย คนเลี้ยงก็ไม่ศึกษาให้ดีก่อนดังนั้นซื้อไปเท่าไหร่ตายหมด 4.เมื่อก่อนตำรามีน้อยมาก เดี๋ยวนี้เริ่มมีแหล่งข้อมูลมากขึ้นก็ควรแนะนำไปเลยว่าตู้ขนาดเท่านี้จะเลี้ยงปลาอะไรได้บ้าง เลี้ยงได้้กี่ตัว บ่ใช่แนะนำแต่ปลา 5.ระบบกรองเลี้ยงพวกก้นตู้ ต่างกับเลี้ยงปลาอย่างเดียวมาก ทั้งสื่อทั้งร้านควรแนะนำอย่างถูกต้อง และพวกก้นตู้อะไรที่เพาะได้แล้ว อะไรที่เพาะยังไม่ได้ อะไรควรเลี้ยง อะไรไม่ควรเลี้ยง กรมประมงฯควรให้ข้อมูล เปิดเผยย่อมดีกว่าปิดกั้นจะได้ไม่ต้องซื้อขายกันใต้ดิน ยอมรับว่าปลาทะเลยังไงก็สุดยอดของความสวยงามยิ่งกว่าภาพวาดซะอีก ผมก็เคยเลี้ยงเมื่อหลายปีก่อน เลี้ยงเฉพาะปลาอย่างเดียว และปลาหลายอย่างปรับตัวในตู้เลี้ยงได้ดีมากเช่น พวก FOX FACE ปลาการ์ตูนชนิดต่างๆ พวกตระกูล TANK ทั้งหลายที่ชอบมากก็เจ้า blue tank อื่นๆอีกเยอะ กินอาหารเม็ดของปลาน้ำจืดนี่แหล่ะสลับกับกุ้งฝอยหรือไรทะเล พวกพืชก็เอามาขยายพันธุ์กันเองได้เช่นพวงองุ่น สาหร่ายต่างๆ แล้วสลับให้ปลากิน ดังนั้นถ้าให้แนะนำพวกที่อยากเลี้ยงปลาทะเล 1.ตู้ควร 48 นิ้วขึ้นไปและใช้กรองล่าง 2.ขาตั้งควรเป็นขาไม้ จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องสนิม 3.เลี้ยงเฉพาะปลาอย่างเดียว ไม่ควรไปเลี้ยงพวกก้นตู้ทั้งหลาย 4.ต้องทำใจเรื่องไอเกลือลอยไปจับตามเครื่องใช้ไฟฟ้า พื้นเหนียวทุกวัน ถ้าอยากเลี้ยงต้องหาที่ตั้งดีๆโล่งๆเข้าไว้ ผมเลิกเลี้ยงเพราะสาเหตุนี้แหล่ะ ไอเกลือทำให้พื้นเหนียว รวมไปเกาะจับตามเครื่องมือของใช้ทำความสะอาดวุ่นวายมาก 5.ความน่าเบื่ออีกอย่างต้องหมุนกระเปาะ protein skimmer ไปเททิ้งทุกวันดังนั้นต้องออกแบบฝาตู้ดีๆ 6.จะเลี้ยงจริงๆผมแนะนำยังไงต้องใช้หลอด UV เพราะโรคปลาทะเลไม่ใช่รักษากันง่ายๆ อีกอย่างการเตียมตู้อีกใบไว้เป็น hospital tank มันไม่หมูเหมือนปลาน้ำจืดนะ 7.ต้องมีเวลา monitor ค่าต่างๆตามระยะและสม่ำเสมอ อ่านตามนี้แล้วใครอยากเลี้ยงและมีเวลาให้พอก็ศึกษาให้ดีแล้วเลี้ยงไปเถอะ แต่ถ้าใครยังไม่รู้อะไรเลยอ่านดูความยุ่งยากแล้วจะได้ช่วยตัดสินใจได้ว่าเลี้ยงดีหรือไม่เลี้ยงดี จากคุณ : festae2002 - [ 7 ส.ค. 46 00:11:07 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ห้องน้ำตรงไหน ห้องที่เท่าไหร่จากซ้ายหรือขวาครับ ช่วยบอกครับเผื่อวันไหนปวดท้องจะได้เข้าไปดูมั่งครับ 555 จากคุณ : เมฆหลายก้อนลอยเกลื่อน - [ 7 ส.ค. 46 00:12:38 A:203.150.11.11 X:203.113.35.11 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่รู้สิคะ ... สำหรับปลาทะเล ...ใจหนึ่งก็เห็นด้วยกับบทความ ที่คนเข้าห้องน้ำอุตส่าห์นั่งไปคิดไป ( นับถือความสามารถมากค่ะ ) แต่อีกใจก็สงสารมันน่ะค่ะ ... โอกาสที่มันจะตายสูงกว่าปลาชนิดอื่น มากถ้าเอามาเลี้ยงในตู้ ... เอาเป็นว่าเห็นด้วยว่าเลี้ยงได้ ... ถ้าศึกษาสักนิดก่อนคิดเลี้ยงแล้วกันนะคะ จากคุณ : กอวา - [ 7 ส.ค. 46 00:13:16 A:203.155.176.72 X:172.17.30.48 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ปรบมือให้ดัง ๆ สำหรับบทความสะท้อนความเป็นจริง ให้อีกหลาย ๆ คนได้มองการเลี้ยงปลาทะเลในอีกแง่ครับ เราไม่ควรมองอะไรด้านเดียวครับ แต่ยังไงก็ขอประนามพวกที่คิดแต่จะเลี้ยงอย่างเดียวไม่ศึกษาให้ดี เลี้ยงตายหาซื้อใหม่ พวกนี้น่าจะเลิกเลี้ยงไปได้แล้วครับ จากคุณ : ฟังกัสจัง (ฟังกัสจัง) - [ 7 ส.ค. 46 00:38:06 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อีกแง่มุมของการอนุรักษ์ บ่ใช่ให้คนเลี้ยงไปพยายามเพาะพันธุ์อย่างโน้นอย่างนี้จนปลาอะไรเต็มไปหมดปล่อยลงน้ำทีกระทบถึงพันธุ์ปลาอื่นๆนะ เอาแค่ให้คนเลี้ยงปลาเพื่องานอดิเรกเลี้ยงปลาเพื่อชมความสวยงามจริงๆที่จำนวนตามธรรมชาติไม่ถึงกับวิกฤติและเลี้ยงให้ดีและปลาที่เลี้ยงเพาะพันธุ์ได้ยากๆนี่แหล่ะเป็นการอนุรักษ์วิธีหนึ่ง จากคุณ : festae2002 - [ 7 ส.ค. 46 00:40:57 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อิอิ เเล้วลอกใส่กระดาษทิชชู่ทั้งม้วนออกมาเลยเหรอครับ เห็นด้วยกับทุกๆข้ออ้าง ของสามีน้อง wanna ...uck เเต่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องชักทะเลทั้งห้ามาเป็นเหตุผลให้กับกิเลสอยากเลี้ยงปลาทะเลขนาดนั้นนะครับ เเละถ้าอยากจะเลี้ยงปลาทะเลเพื่อการศึกษาจริงๆ ท่านสวามี ก็ต้องสร้างระบบนิเวศน์ที่ใกล้เคียงธรรมชาติกว่านั้น ซึ่งก็น่าจะหลีกเลี่ยงการนำสิ่งมีชีวิตตามเเนวประการังเช่น พวก Sea Anemone ไม่ได้นะครับ ลงท้ายก็ต้องเลี้ยงต่อเนื่องกันไปจนลืมอุดมการณ์หรือเหตุผลก่อนเลี้ยงกันอยู่ดีครับ เเล้วน้อง wanna ..uck ก็ต้องนั่งร้องห่มร้องให้ไปกับการเปลี่ยนเเปลงทางอุดมคติของสามีต่อไป เเละต่อต่อไป ส่วนประตูห้องน้ำ ก็คงเขียนต่อจนเต็มไหลทะลักไปเขียนตามห้องน้ำอื่นจนถึงพิพิธพันธ์เด็กเเน่ๆเลย จากคุณ : อาร์ต9 - [ 7 ส.ค. 46 00:50:39 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คุณคิลลี่ ผมคันปากเรื่อง Vieja argentea มากเลยครับ ควรจะไปหาเศษกระดาษตามลานโลกพระจันทร์เเถวๆซันเดย์บ้างดีไหมครับ ไฟล์รูปภาพ จากคุณ : อาร์ต9 - [ 7 ส.ค. 46 01:10:02 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อิอิอิ กระทู้นี้ไม่เหมาะสำหรับคนใจแคบสมองลีบเข้ามาอ่านนะคุณอาร์ต9 น่าจะข้ามไปกระทู้อื่น นะนะนะ จากคุณ : อาร์ต10 - [ 7 ส.ค. 46 02:41:35 A:202.129.2.50 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 ทำไมต้องบอกว่าเจอในห้องน้ำด้วยอ่ะครับ บอกตามตรงผมไม่ค่อยเชื่อเท่าไร เหมือนเรื่องเศษกระดาษที่เป็นบทความที่บอกว่าเก็บได้แถวที่จอดรถเรื่องคลอสบรีดอ่ะครับ คือจริง ๆ ถ้าอยากจะสื่ออะไรก็ไม่เห็นต้องอ้อมค้อมเลยนี่ครับ ก็แค่แสดงความคิดเห็นใครจะเห็นด้วยหรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง และนี่ก็แค่ความเห็นของผมอาจจะนอกประเด็นที่คุณคิลลี่แมนจะสื่อแต่แค่สงสัยเฉย ๆ ครับ จากคุณ : coelacanth - [ 7 ส.ค. 46 02:55:24 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ผมว่านะ ถ้าคนไทยจะทำอะไรจริง ๆ จัง ๆ มันก้อทำได้อยู่แล้ว แถมทำได้ดีซะด้วย แต่ไม่ทำกัน ชอบออกมาต่อต้าน ห้ามโน้น ห้ามนี่ มันก้อเหมือนกับไอ้พวกนักวิชาการวิจารณ์หนังโป๊แหละครับ บอกว่ามันไม่ดีอย่างนั้น ไม่ดีอย่างนี้ เป็นพวกจิตวิปริต แต่แม่งเองก้อดูเหมือนกัน แถมชอบด้วย ผมมองว่าทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าอยู่ในความพอดี ควบคุมดูแลอย่างดี ส่งเสริมอย่างดี มันดีได้แน่ เหมือนถ้าคุณมีลูกเป็น "ตุ๊ด" มัวแต่ไปเตะ ไปต่อยมัน ให้มันเป็นผู้ชาย มันก้อเอาดีไม่ได้หรอก แต่ถ้ามันอยากจะเป็นจริง ๆ ก้อส่งเสริมมัน ดูอย่างทุกวันนี้สิ กระเทยสวย ๆ ทำงานดี ๆ มีตังค์มากกว่าคนทำงาน Office ตั้งหลายเท่า ทั้ง ๆ ที่เค้าเองก้อไม่ได้ทำเรื่องเสียหาย หรือผิดกฎหมายเลย ว่าไม๊? "จงเจริญและร่ำรวย" จากคุณ : offrose - [ 7 ส.ค. 46 03:18:21 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เอ่อ ไอ้เรื่องเจอที่ผนังห้องน้ำหรือ เก็บแผ่นกระดาษได้ที่ sunday เนี่ย ฟ่างคิดว่ามันเป็นแค่ joke น่ะค่ะพี่เขาก็แค่พูดเล่นตลกๆเท่านั้นเองไม่ได้พยายามที่จะบอกว่าตัวเองไม่ได้เขียนหรอกค่ะ แค่อ่านใครๆก็รู้อยู่แล้วจะไปปกปิดทำไม ใครเชื่อก็ต๊องแล้วอะค่ะ 55555 เชียร์พี่อาร์ตด้วยอีกคน เอาเลยค่าพรุ่งนี้ไปลองเดินแถวๆ ลานโลกพระจันทร์แถวๆ ทางเข้าน่ะค่ะแถวๆร้านอะไรน้า.....ที่มีฟาร์มด้วยอะค่ะ อาจจะมีกระดาษตกอยู่นาเกี่ยวกะอาเจนเทียเนี่ย จากคุณ : ข้าวฟ่างค่ะ (CryingPanda) - [ 7 ส.ค. 46 03:42:30 ]

ความคิดเห็นที่ 21 แวะมาอ่านครับ ^_^ จากคุณ : คนแถวนี้ครับ - [ 7 ส.ค. 46 04:41:13 A:203.148.136.66 X:203.209.51.87 ]

ความคิดเห็นที่ 22 จินตนาการ และการเกริ่นนำเพื่อพาเข้าสู่ท้องเรื่องของคุณคิลลี่แมน เยี่ยมมากและชอบมาก เห็นด้วยกับอีกมุมมองหนึ่ง แต่ไม่ควรละทิ้งความเห็นของผู้อื่นด้วยนะครับ จากคุณ : สุกรชำเลือง - [ 7 ส.ค. 46 07:01:07 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คนเขียนต้องท้องเสียแน่ๆ เลย ฮิๆ เขียนซะยาวขนาดนี้ จากคุณ : ตาลีบานนนน - [ 7 ส.ค. 46 08:59:35 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อ่านแล้วก็คล้อยตามความคิดไปเหมือนกันครับ แต่อย่างว่าหละครับคนมันก็ไม่เหมือนกันซะทุกคน มีคนกลุ่มหนึ่งที่เริ่มจากความสนใจศึกษาซักถามจนได้ข้อมูลมีความรู้พื้นฐานแล้วก็เริ่มรู้ทดลองเลี้ยง รอดบ้างตายบ้าง เก็บสะสมประสบการณ์และปัจจัยขยับขยายที่เลี้ยงลงทุนไปพอสมควร จนรู้ว่าอะไรที่เหมาะกับเขาเขาเลี้ยงอะไรได้ดี อะไรที่ต่อให้สวยอย่างไรเขาก็คงไม่ขวนขวายหามาเลี้ยง กลุ่มนี้ต่อไปก็คือผู้ที่อาจได้ชื่อว่าผู้พัฒนา กับคนอีกกลุ่มหนึ่งมีเงินและคิดอยากจะได้เฟอร์นิเจอร์ประดับบ้านหรือสถานที่ที่ดูมีระดับ อยากมีอะไรที่คนอื่นเห็นแล้วมองว่าเป็นของประดับบารมี อยากได้อะไรก็ใช้เงินซื้อหาเอาความรู้ความสนใจความเอาใจใส่ไม่ต้องมี ตายแล้วซื้อใหม่ จัดไม่สวยก็รื้อของเดิมออกแล้วซื้อของใหม่มาลง คนกลุ่มนี้ยังไงก็คือผู้ทำลายตัวจริง นี่หละครับคือจุดที่หลายๆคนยังมองการเลี้ยงปลาทะเลหรือสัตว์เพาะพันธุ์ยากหลายๆชนิดว่าเป็นการทำลาย เพราะยังมีคนกลุ่มหลังอยู่ในสังคมเรา จากคุณ : นั่งหน้าจอ - [ 7 ส.ค. 46 09:13:09 A:203.148.202.61 X: ]

ความคิดเห็นที่ 25 จะมีสักกี่เปอร์เซ็นของคนเลี้ยงปลาทะเลที่เป็นเหมือนพระเอกของเรื่อง ผลเสียมีมากกว่าผลดี คิดเองก็แล้วกันว่าอะไรดีไม่ดี จากคุณ : กะได - [ 7 ส.ค. 46 09:42:05 A:35.11.135.109 X: ]

ความคิดเห็นที่ 26 อือๆๆๆๆห้องน้ำใหญ่มากจิงๆเขียนได้ดีคับสนุกดี จากคุณ : กิเลน(ไม่ได้login) - [ 7 ส.ค. 46 10:11:24 A:203.151.146.25 X: ]

ความคิดเห็นที่ 27 คุณอาร์ต๙ครับ ผมเข้าใจว่าคนเขียนคงไม่ได้เขียนเพื่ออ้างเหตผลในการเลี้ยงปลาทะเล ไม่ได้เขียนเพื่อหาข้ออ้างในการสนองตัณหาและกิเลสนะครับ เค้าคงเขียนเพื่อเรียกร้อง "สิทธิ์และความชอบธรรม" ในการเลี้ยงมากกว่า ไม่งั้นเอะอะก็คนเลี้ยงเลวทุกที (คนเลี้ยงและคนขายที่เลวมีจริงครับ แต่ก็อย่างที่บทความว่าไว้ ทุกสังคมไม่ได้มีคนดีทั้งหมด) การ"ศึกษา" ในที่เลี้ยงต้องดูจุดมุ่งหมายครับ เราคงไม่สามารถจับสัตว์มาเลี้ยงแล้วตั้งท่าจะศึกษาพฤติกรรมธรรมชาติได้ เพราะยังไงมันก็คือที่เลี้ยงไม่ใช่ธรรมชาติ เรื่องพฤติกรรมความสัมพันธ์ อย่างปลาการ์ตูนกับแอนนีโมน จะศึกษาต้องไปในทะเลโน้นครับ สำหรับในที่เลี้ยงเราอาจจะศึกษาเรื่องการขยายพันธุ์ การเจริญเติบโตของไข่เป็นแพลงตอนเป็นตัวอ่อน ซึ่งในทะเลคงไม่มีใครสามารถว่ายตามดูแพลงตอนปลาการ์ตูนได้แน่ๆ การมองต่างมุมการเสนอความคิดเห็นที่แตกต่างจากกระแสหลักเป็นเรื่องสำคัญในสังคมประชาธิปไตย ที่ประชาชนที่ดี(และได้คิด)มีสิทธิ์และหน้าที่พึงกระทำครับผม ใครเห็นอะไรผิด อะไรไม่ชอบธรรม เห็นคนอื่นโดนหลอก เห็นพ่อค้าโกหกแหกตาประชาชนแล้วไม่ออกมาพูด ก็ถือว่าละเลยการปฏิบัติหน้าที่อันดีของประชาชนดังนั้นเรื่อง Vieja argentia เข็นออกมาเลยเพ่ จะไปเจอเศษกระดาษ เจอคนมือบอนเขียนไว้บนฝาห้องน้ำ รออ่านครับผม จากคุณ : คิลลี่แมน - [ 7 ส.ค. 46 10:30:34 ]

ความคิดเห็นที่ 28 จั่วหัวแรงดีนะครับ เรียกคนมาอ่านมาชมได้เยอะเลย ส่วนตัวไม่ประนามคนเลี้ยงปลาทะเลแต่ก็ไม่เห็นด้วยครับ ดูแลยาก ตายง่าย สงสารปลาครับ ส่วนเรื่อง Argentea จะรอชมนะครับ จากคุณ : สำออย - [ 7 ส.ค. 46 10:48:51 A:203.146.79.226 X:unknown, unknown ]

ความคิดเห็นที่ 29 เห็นด้วยกับหลาย ๆ คน แล้วก็ไม่เห็นด้วยกับหลาย ๆ คนครับบบบ ^_^ จากคุณ : ปิติ99 - [ 7 ส.ค. 46 10:53:02 ]

ความคิดเห็นที่ 30 มาอ่านครับ จากคุณ : i_TONZz - [ 7 ส.ค. 46 10:57:27 ]

ความคิดเห็นที่ 31 มาอ่านครับ (ได้อะไรหลายอย่าง) จากคุณ : ฉลามหางไหม้ - [ 7 ส.ค. 46 11:24:37 ]

ความคิดเห็นที่ 32 นิสิตจบประมงมาตอนนี้เค้าก็ไปขายยากุ้งอาหารกุ้งกันหมดแล้วหล่ะจ๊ะ นักวิชาการเมืองไทยกินแต่แกลบใครเค้าจะอยากไปเป็นกัน? พวกที่อยู่กันนี่ก็ต้องใจรักจริงๆเท่านั้นแหล่ะ หรืออีกพวกก็คือไร้คุณภาพไม่มีที่ไป” -------ไม่ทราบว่าผู้เขียนมีเจตนาต้องการสื่อแบบใด แต่ควรจะระมัดระวังคำพูดที่ส่อเจตนาดูถูกดูแคลนคนประกอบสัมมาชีพในวิชาการสาขานั่นๆๆด้วยน่ะครับ ไม่ใช่จะเขียนเอามันส์อย่างเดียว ขอตำหนิอย่างรุนแรงครับ จากคุณ : เคยู45 - [ 7 ส.ค. 46 12:14:47 A:202.133.164.23 X: ]

ความคิดเห็นที่ 33 จริงๆเเล้วก็อย่างที่เรียนไว้นะครับ คุณคิลลี่ ว่าผมนั้นเข้าใจเหตุผลทั้งหลายที่คุณกล่าวมา เเละหลายๆส่วนก็ค่อนข้างจะเห็นด้วยโดยเฉพาะกาะเพาะพันธุ์ในเชิงการค้านั้น ส่วนใหญ่เเล้วก็ประสพผลสำเร็จในการดำรงเเละขยายสายพันธุ์สัตว์ได้ดีกว่า การอนุรักษ์โดยไม่มีผลตอบเเทนด้วยซ้ำ เเต่เมื่อเนื้อเรื่องมันเกี่ยวกับนักอนุรักษ์คนหนึ่งที่อยู่ๆโดนเมียต่อว่าเรื่องเอาปลาทะเลมาเลี้ยง เเล้วก็อ้างเหตุผลมายืดยาวเพื่อให้เมียทีรักกลับเข้ามาซุกอ้อมกอด ว่า "Hero ของฉัน" นี่ทำให้รู้สึกเหมือนการเอาเรื่องสำคัญมาอ้างๆมากมาย ทั้งๆที่จริงๆก็เเค่อยากเลี้ยงปลาทะเลเพิ่มขึ้นจากที่เลี้ยงๆปลาอยู่เท่านั้นเอง คือในชีวิตจริงนั้นหลายๆครั้งเราจะเจอผู้เลี้ยงสัตว์คุ้มครองบ้าง สัตว์หายากบ้าง ซึ่งถ้าถามเขาว่าคุณเลี้ยงทำไม ก็อาจจะได้เหตุผลดีๆว่า เราเลี้ยงเพื่อ ศึกษาลักษณะการมีชีวิต เเละการขยายพันธุ์ของสัตว์นั้นๆ เลี้ยงเพื่อการอนุรักษ์ในเชิงการค้า เลี้ยงเพื่อเข้าใจในสัตว์นั้นๆอย่างถ่องเเท้ ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นเหตุผลที่ถูกต้องหมด เเต่จริงๆเเล้ว ส่วนใหญ่เราก็ซื้อสัตว์เพราะอยากจะเลี้ยง อยากจะดูเเล อยากจะมีไว้ครอบครอง เเต่เมื่อมีมโนธรรมที่ดีในตัวบอกว่าไม่ควร เราก็เลยต้องหาเหตุผลประกอบดีๆมาอธิบายให้กับตัวเองเเละคนอื่นๆอยู่บ่อยๆเหมือนกัน เมื่อตามบทนั้น คนๆหนึ่งเกิดเลี้ยงปลาทะเลเเล้วโดนตำหนิจากคนที่รัก เเล้วใช้วิธียกเหตุผลดีๆมาอ้างเต็มไปหมด เพื่อให้ตัวเองรอดพ้นความผิดทั้งจากคนรักเเละมโนธรรมของตนเองไป ผมจึงบอกว่าถ้ามีกิเลสอยากเลี้ยงจริงๆเเละเลี้ยงได้ดีเเล้ว ผมก็ไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องที่ผิดร้ายเเรงอะไร เเต่ไม่เห็นต้องอธิบายให้ตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์อะไรขนาดนั้นนะครับ หรือว่าจริงๆเเล้ว มโนธรรมของนักอนุรักษ์ มันคอยกระตุ้นผู้เขียนจนรู้สึกผิด ก็เลยต้องเขียนบทความให้ตัวเองรู้สึกถึงความชอบธรรมในการเลี้ยงปลาทะเลมากขึ้นหรือเปล่าครับ ปรกติเเล้วผมเองก็คุยๆกับทั้งผู้เลี้ยง ผู้เพาะเลี้ยง ผู้ขาย ฝ่ายภาครัฐ เเละก็ฝ่ายนักอนุรักษ์ด้วย ซึ่งต่างก็มีจุดยืนเป็นที่เข้าใจได้ทั้งสิ้น เเละผมก็คิดว่าเมื่อทุกๆฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตนอย่างถูกต้อง เเละเหมาะสม ก็น่าจะส่งผลให้การดำรงอยู่เเละการขยายสายพันธุ์ของสัตว์เเละพืชต่างๆเป็นไปได้อย่างราบรื่น เเต่ที่เเย้งขึ้นมาเมื่อคืนก็เพราะรู้สึกตลกๆอยู่ที่นักอนุรักษ์คนหนึ่งเกิดไปซื้อสัตว์ที่ไม่ควรซื้อ (ในฐานะของนักอนุรักษ์) มาเลี้ยง เเล้วเกิดโดนตำหนิ ก็เลยยกอ้างอิงเหตุผลของทั้ง ผู้เลี้ยง ผู้เพาะเลี้ยง เเละผู้ขาย มาสร้างความถูกต้องให้กับตัวเองต่างหากเล่าครับ ก็เลยรู้สึกคันๆอยากเขียนขึ้นมานะครับ จากคุณ : อาร์ต9 - [ 7 ส.ค. 46 13:45:11 ]

ความคิดเห็นที่ 34 มาอ่านด้วยคนครับผม จากคุณ : Snot - [ 7 ส.ค. 46 14:10:05 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เเต่ที่เเย้งขึ้นมาเมื่อคืนก็เพราะรู้สึกตลกๆอยู่ที่นักอนุรักษ์คนหนึ่งเกิดไปซื้อสัตว์ที่ไม่ควรซื้อ (ในฐานะของนักอนุรักษ์) มาเลี้ยง เเล้วเกิดโดนตำหนิ ก็เลยยกอ้างอิงเหตุผลของทั้ง ผู้เลี้ยง ผู้เพาะเลี้ยง เเละผู้ขาย มาสร้างความถูกต้องให้กับตัวเองต่างหากเล่าครับ-*** อ่านแล้วโดนใจมากครับคุณ อาร์ต9 อ่านบทความข้างต้นแล้วก็คิดแบบนี้เหมือนกันครับ ถ้าผมว่างๆๆจะโพสปลาสายพันธุแท้ทั้งหมดที่บ้านมาให้ดูมันส์ๆๆดีกว่าครับ พวกเวียจาทั้งหลายแหล่ แจกเดมเซ อิอิอิ ไม่รู้ใครจะบ้าเลี้ยงมากกว่าผมอีกป่าวอ่ะ วันนี้เอาอาร์เจนเทียที่บ้านมาให้ดูก่อนแล้วกันครับ ตอนนี้อยู่ในตู้120*30*30 แล้ว จากคุณ : Tomtexas (Pita) - [ 7 ส.ค. 46 14:26:25 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เจ้าตัวนี้มาคูลิคัวด้าก็อยู่ในตู้ 120*30 เหมือนกัน จากคุณ : Tomtexas (Pita) - [ 7 ส.ค. 46 14:29:43 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เจ้านี่เมืองไทย เรียกกันว่า ฮาร์ทเวจิ บางท่านเรียก Hartwegi ---ฮาร์ทเวียไอ เพราะ Morii --อ่านว่า มูริไอ ตอนนี้ผมมีลูกเจ้านี่เกือบพันตัวแน่ครับ จากคุณ : Tomtexas (Pita) - [ 7 ส.ค. 46 14:32:33 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ตัวเหลืองๆๆ แบนๆๆเรียกว่า เซวาลุ่มทองอ่ะครับ ผมเลี้ยงรวมแบบนี้หล่ะครับ จากคุณ : Tomtexas (Pita) - [ 7 ส.ค. 46 14:34:35 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เจ้าซิลเว่อร์อาร์เจนเทีย กะเจ้าเฟเนสตราตัส จากคุณ : Tomtexas (Pita) - [ 7 ส.ค. 46 14:35:54 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เฟสเต้ตัวเก่งของผม จากคุณ : Tomtexas (Pita) - [ 7 ส.ค. 46 14:43:21 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ตู้ฟรอนโตช้า จากคุณ : Tomtexas (Pita) - [ 7 ส.ค. 46 14:45:13 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ตู้มูริไอ-Morii จากคุณ : Tomtexas (Pita) - [ 7 ส.ค. 46 14:46:24 ]

ความคิดเห็นที่ 43 มโนธรรมในความเป็นตัวตนของอีตานี่ระหว่างผมกับคุณอาร์ตคงจะไม่เหมือนกันกระมังครับ สำหรับผมนักอนุรักษ์คนนี้ไม่ได้หัวสี่เหลี่ยมตัวสีขาวโพลน ผมมองว่าอีกลิ้งได้และตัวสีเทาๆ เป็นนักอนุรักษ์ที่ทำงานเพื่อสังคมจริงๆ แต่ก็ยังเป็นมนุษย์ปุธุชนคนหนึ่งซึ่งยังมี โลภ โกรธ หลง และยังมีกิเลสอยู่ เค้าไม่ได้ทำทุกอย่างเพื่อส่วนรวม ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้เป็นคนเห็นแก่ตัวและแก่ได้ การตัดสินใจเลี้ยงปลาทะเลของคนๆนี้ ได้คิดคำตอบก่อนแล้ว ได้หาเหตุผลเพียงพอแล้ว จึงตัดสินใจเลี้ยง เป็นการกระทำที่มีการตรึกตรองล่วงหน้า ไม่ใช่ Impulse buying เพราะเห็นปลาทะเลสวยดี เดินเข้าร้านไปซื้อปลาการ์ตูนออกมาหนึ่งคู่พร้อมกับเกลือผสมน้ำทะเล ไม่เหมือนเวลาซื้อหมากฝรั่งที่ชั้นวางตรงช่องจ่ายเงินตามซุปเปอร์มาร์เก็ต ไม่ได้ปล่อยให้กิเลสครอบงำไปซื้อมาเลี้ยงแล้วถึงมานั่งสำนึกผิดและหาข้อแก้ตัวให้กับตัวเอง จะว่าไปแล้วถ้าวิเคราะห์จากบทความ เค้าก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองถูกไปซ่ะทั้งหมดนะครับ เพียงแต่เค้าคิดว่ามันมีส่วนถูกมากกว่าส่วนผิด เค้าถึงตัดสินใจทำ แต่ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าคนๆนี้น่าจะเลี้ยงปลาทะเล (หรือสัตว์คุ้มครองอื่นๆ) ด้วยความอยากเลี้ยงเป็นการส่วนตัวเป็นที่ตั้ง ถ้าเค้าไม่ชอบเค้าจะไปหามาเลี้ยงทำอะไรในเมื่อดูแล้วเค้าก็ไม่ได้หากินอยู่กับสัตว์พวกนี้ หรือถ้าปลาการ์ตูนจะสูญพันธุ์ไปสักชนิดก็ดูว่าไม่น่าจะกระทบกิจการของเค้าแต่ประการใด(จริงๆแล้วก็ยังไม่เห็นว่ามันจะกระทบกิจการของใคร แต่เราจะปล่อยให้ปลาการ์ตูนสูญพันธุ์จริงๆเหรอ?)  แต่ในการเลี้ยงนั้นเป็นมากกว่าการเลี้ยงเพียงเพื่ออวดบารมีหรือเพื่อความพึ่งพอใจในที่พักอาศัยเป็นการส่วนตัว แต่การเลี้ยงเป็นการกระทำเพื่อศึกษาไปด้วย ก็ถูกที่คนๆนี้อาจจะใช้การศึกษาและเผยแพร่ข้อมูลเพื่อเป็นข้ออ้างในการสนองตัณหาของตนเอง แต่ก็เป็นข้ออ้างที่ดีกว่าข้ออ้างอื่นๆไม่ใช่หรือ?  ประสพการณ์ของคนๆหนึ่งถ่ายทอดออกไปสู่คนอีกนับร้อยนับพัน ความรู้ที่สั่งสมอยู่ในสังคมในที่สุดก็จะเป็นส่วนในการพัฒนาประเทศชาติไปข้างหน้า จะว่าไปแล้วถือเป็นความเห็นแก่ตัวเพื่อส่วนรวมโดยแท้ (ว่าเข้าไปนั่น) แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 46 14:57:36 จากคุณ : คิลลี่แมน - [ 7 ส.ค. 46 14:53:54 ]

ความคิดเห็นที่ 44 และข้อสำคัญที่ผมอยากให้คุณอาร์ต (และคุณทอมซึ่งตอนนี้หันมาเลี้ยงปลาพันธุ์แท้และเรียกชื่อ hartvegi ถูกแล้ว) เห็นของบทความนี้ก็คือเนื้อหามันมีมากกว่าคนๆหนึ่งหาความชอบธรรมในการเลี้ยงปลาทะเลให้กับตัวเอง เค้าเขียนเลยจุดนั้นไปเยอะเลยครับผม อย่ายึดติดกับตัวบุคคลครับ คุณกำลังจับตรงจุดที่ว่าคนๆนี้เลี้ยงปลาทะเลทำให้เค้าไม่มีความเป็นกลางทำให้บทความบทนี้กลายเป็นสีเทาๆ แต่ถ้าเค้าไม่ได้เลี้ยงปลาทะเล บทความบทนี้ก็ถือว่าบริสุทธิ์อย่างนั้นเหรอครับ?   คุณ KU๔๕ ครับ ก่อนที่ผมจะขออภัยแทนคนเขียน กรุณาให้ความกระจ่างหน่อยครับว่าบทความส่วนนั้นไปดูถูกวิชาชีพของใคร หรือไปกระตุ้นจุดอะไรของใครตรงไหนเหรอครับ?   (เอาจริงเอาจังกับอีตานี่กันเหลือเกินนนนน) อิ อิ แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 46 15:15:14 จากคุณ : คิลลี่แมน - [ 7 ส.ค. 46 15:10:03 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ขอเรียนชี้แจงก่อนน่ะครับ ว่าปลาที่ผมเลี้ยง ผมไม่เคยแบ่งแยกว่า ตัวไหนเป็นอะไร ดังนั้นในความรู้สึกจึงเห็นคุณค่าของปลา เท่าเทียมกันในสังคมปลา ในส่วนที่คุณคิลลี่ทำไม่ว่าเป็นการต่อว่าเชิงเหน็บแนมคนเลี้ยงปลาครอสบรีด ต้องยอมรับครับ ก็เป็นส่วนหนึ่งเล็กๆๆที่ให้ผมอยากเพาะพันธุ์เจ้าพวกนี้ขึ้นมา เพื่อให้หลายๆๆคนในห้องนี้ทราบว่าผมไม่เคยแบ่งแยกความสวยงามในใจผมต่อเจ้าปลาเหล่านี้ และเจ้าพวกนี้ผมไม่ได้พึ่งมาเลี้ยงน่ะครับ ผมเลี้ยงมานานหลายปีแล้ว การเลี้ยงปลาใดๆๆไม่ว่าจะเป็นปลาน้ำจืดหรือปลาทะเล ผมว่าอยู่ที่ส่วนลึกของจิตใจผู้เลี้ยงมากกว่าครับ ว่าจะมองเห็นส่วนที่ดีและโทษแบบไหน หน้าต่างมีหลายบาน อยู่ที่ว่าเราจะมองมุมไหนของบ้านที่เราอยู่ ในสิ่งต่างๆๆที่หลายๆๆคนอยากเห็น ในเรื่องของการอนุรักษ์ปลาสวยงาม มีวิธีการหลายแบบที่จะสามารถนำเสนอรูปแบบได้นิครับ ไม่ว่าจะเป็นการรณรงค์หรือการให้ความรู้ว่า ปลาแบบไหนจากที่ใดสามารถนำมาเลี้ยงได้ แต่เท่าที่ผมเคยได้ยินมา ปลาทะเลเลี้ยงยากมาก ในส่วนของบทความนี้ บอกว่ามีหลายส่วนที่ทำลายท้องทะเลของเรา เมือ่เปรียบเทียบกับการนำปลาทะเลมาเลี้ยงถือว่าน้อยมาก ซึ่งก็เป็นความจริงครับ เพื่อนผมมีเรือประมง เวลาออกทะเลจับปลา บางครั้งปลาที่ไม่ต้องการติดขึ้นมาด้วย ก็จะถูกโยนกลับลงไป แต่ทำไงได้หล่ะครับ นี่คือส่วนของการทำลายโดยมนุษย์ คราวนี้มาในส่วนของปลาสวยงามดีกว่า มีผู้เลี้ยงซักกี่คนครับ ที่สามารถเลี้ยงปลาทะเลได้นาน บางท่านมีปลาการ์ตูนอยู่แล้วก็คงอยากจะลองเลี้ยงอะไรที่ยากขึ้นหรือเปล่าครับ ลองถามความรู้สึกในใจของท่านๆๆกันดูครับ ***นิสิตจบประมงมาตอนนี้เค้าก็ไปขายยากุ้งอาหารกุ้งกันหมดแล้วหล่ะจ๊ะ นักวิชาการเมืองไทยกินแต่แกลบใครเค้าจะอยากไปเป็นกัน? พวกที่อยู่กันนี่ก็ต้องใจรักจริงๆเท่านั้นแหล่ะ หรืออีกพวกก็คือไร้คุณภาพไม่มีที่ไป” ในส่วนนี้ผมขอตอบแทนน้องเค้าแล้วกันน่ะครับในฐานะที่ผมจบที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เหมือนกัน ข้อแรก คำว่า นิสิต และนักศึกษา สองคำนี้มีความหมายดูเผินๆๆแล้วจะใช้ได้ใกล้เคียงกันมาก แต่เราในฐานะที่จบมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จะรู้ว่า คำว่านิสิตหมายถึงพวกเราโดยเฉพาะ ข้อสอง นิสิตที่จบคณะประมง อันนี้ไม่ต้องพูดถึงครับ ว่าหมายถึง มหาวิทยาลัยไหน เพราะมีมหาวิทยาลัยไหนมั่งครับ ที่เป็นคณะประมง ข้อสาม ในพารากราฟนี้ หมายถึง พวกที่ใจรักจริงกับพวกที่ไร้คุณภาพไม่มีที่ไป แสดงว่าในหน่วยงานที่ดูแลเรื่องพวกนี้อยู่ก็มีคนสองประเภทสิครับ 3.1 พวกรักจริง 3.2 ไร้คุณภาพไม่มีที่ไป อันหลังนี่ผมมองว่าเป็นการดูถูกดูแคลนในการประกอบวิชาชีพของแต่ละบุคคลน่ะครับ อยากให้คุณคิลลี่ช่วยชี้แจงด้วยครับ เพราะจากการที่ผมรู้มา คนที่จบคณะประมง สามารถไปประกอบวิชาชีพที่มากกว่า ขายอาหารกุ้งน่ะครับ ผมเข้าใจครับว่า บางทีเวลางานเขียนกำลังเดินเครื่อง หัวสมองจะแล่นเร็วมาก เลยลืมเบรกในส่วนมี่อาจจะกระทบความรู้สึกคนอื่นน่ะครับ จากคุณ : Tomtexas (Pita) - [ 7 ส.ค. 46 15:55:33 ]

ความคิดเห็นที่ 46 คุณ คลม ครับ กระทู้นี้โดนใจอย่างแรงครับ ไอ้ที่ไม่รู้ว่าเลี้ยงอย่างไร ก็ว่าเลี้ยงยาก ก็เที่ยวไปด่าไปว่า คนที่เลี้ยงว่าทำลายธรรมชาติ รู้ไหมครับว่าก้นตู้หลายๆชนิดเพาะพันธ์ได้ง่ายมากเช่น แอนนีโมนี่ชนิดต่างๆเนี้ยะ สามารถเพาะในตู้ที่เราเลี้ยงได้และยังมีอีกหลายๆชนิดที่สามารถเพาะได้ในตู้ แต่ข้อมูลเหล่านี้ไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะชนได้ เพราะเกี่ยวกับกฏหมาย คงไม่มีใครต้องการให้สัตว์ที่เลี้ยงตายหลอกครับ เพราะส่วนใหญ่ต้องซื้อมาไม่ใช่ได้มาฟรีๆ(เน้นว่าส่วนใหญ่)ทุกๆคนก็มีความต้องการให้สัตว์ที่เลี้ยงมีความสุข เหมือนอยู่ในธรรมชาติ คิดว่าการลงทุนครั้งละเป็นหมื่นเป็นแสนเป็นเรื่องเล่นๆหรอครับ ผมว่ามันเป็นความตั้งใจจริงของผู้ที่เลี้ยงนะครับ ปล.ข้อความข้างต้นผมบังเอิญได้ยินคนคุยกันจากในห้องน้ำที่ JJ นะครับ จากคุณ : อ่องตวน - [ 7 ส.ค. 46 15:59:19 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เห็นด้วยกับคุณทอมในหลายๆจุดและยินดีมากที่พี่ช่วยเพาะปลาพันธุ์แท้ไว้ครับผม ในส่วนของนิสิตหรือนักศึกษานั้นผมในฐานะของคนที่จบจากมหาวิทยาลัยเอกชนผมไม่ทราบความแตกต่างครับ ว่ามีการแบ่งว่านิสิตจบจากที่นี้ นักศึกษาจบจากที่นั่น การเขียนลักษณะนี้ไม่ได้เขียนเอามันโดยไม่มีข้อมูลนะครับ เมื่อกี้ผมโทรศัพท์ไปถามเพื่อนคนหนึ่งที่จบประมงจาก KU ผมถามว่า "เฮ้อ เพื่อนเอ็งจบไปทำอาชีพอะไรกันเป็นส่วนใญ่ว่ะ?" คำตอบคือ "ก็ขายอะไรเกี่ยวกับกุ้งแหล่ะพี่" ไม่ได้ยกเมฆนะครับเป็นเรื่องจริง ดังนั้นงานเขียนของอีตานี่ก็ต้องถือว่ามีมูลครับ (เพราะเขียนในห้องน้ำด้วย ยังไงก็คงมีมูล) แล้วในบทความเนี๊ยก็ไม่ได้บอกว่าการขายอาหาร/ยากุ้งเป็นเรื่องเลวร้ายอะไรนี่ครับ จริงๆแล้วพวกเราควรจะชื่นชมอุตสาหกรรมนี้ด้วยซ้ำที่จู่ๆก็กลายมาเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของประเทศไปได้ (ถึงแม้ว่าป่าชายเลนเราจะเหลือน้อยลงก็เหอะ) สำหรับงานนักวิชาการนั้น ยอมรับรึเปล่าครับว่าได้ผลตอบแทนทางการเงินน้อยกว่าการเป็นเจ้าของโรงงานกาว หรือเป็นที่ปรึกษาฟาร์มกุ้ง? ดังนั้นคนที่จะทำงานทางด้านนี้ต้องรักจริง แต่ก็เหมือนกับวงกรณ์ทั่วๆไป พวกตั้งใจทำงานรักงานที่ทำโดยไม่คำนึงถึงผลตอบแทนทางการเงินก็มีเยอะแยะ พวกเช้าชามเย็นสองชามสักแต่หายใจอมลิ้นไปวันๆก็มีเยอะแยะ ผมไม่เห็นว่ามันจะเป็นการดูถูกวิชาชีพของใครตรงไหนเลยครับ ในวิชาชีพของผมก็มีคนประเภทนี้ ประโยคนั้นอย่างมากก็แค่กระทบเป็นรายบุคคล (โดยเฉพาะที่ออกมาโวยวาย) ย้ำว่าไม่ได้มีอะไรกับสถาบัน อย่าดึงเข้าไปเกี่ยวข้องครับ ผมมีเพื่อนจบจาก KU เยอะแยะ หลายคนผมทั้งรักและนับถือ ทุกวันนี้ก็ยังให้ความรู้ผมอยู่ทุกวัน และเตี่ยผมหน่ะ KU 23 ครับผม จากคุณ : คิลลี่แมน - [ 7 ส.ค. 46 16:47:25 ]

ความคิดเห็นที่ 48 อ้าว! เริ่มจากปลาทะเล ไหงมาเป็นเรื่องสถาบันซะแล้ว ผมเองก็เรียนในคณะที่ถูกพาดพิงก็ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องร้ายแรงอะไร เพราะเขาไม่ได้ชี้เหมาทั้งหมด จะมีการแบ่งเรียบร้อยเพียงแต่ว่าเราจะเลือกอยู่อันไหน(รวมทั้งหน่วยงานที่ถูกยกมาด้วย) ส่วนประเด็น cross breed นั้น สาระอยู่ที่ตรงไม่ควรเอาไปปล่อย(น่าจะรวมพวกต่างถิ่นต่างแหล่งด้วย)ให้ไปกระทบกับสัตว์ท้องถิ่นเท่านั้น ส่วนใครจะเพาะจะเลี้ยงหรือจะพัฒนาก็เห็นชอบด้วยครับ จากคุณ : knotsnake - [ 7 ส.ค. 46 17:17:43 A:203.113.71.38 X: ]

ความคิดเห็นที่ 49 กลับมาประเด็นเดิมดีกว่ามั้ยครับ เรื่องสถาบันนี่ผมว่ายังไงก็คงถกเถียงกันอีกนานแน่ครับ ผมชอบคำว่า " ความบันเทิงย่อยง่ายเหมือนเวลาจอดดูรถชนกันอย่างนั้นเหรอจ๊ะ?" มากเลยครับ สมัยนี้ส่วนใหญ่มักเป็นแบบนั้น แต่เราจะไปว่าอะไรเค้าได้หล่ะครับ จากคุณ : ณ ลานนา - [ 7 ส.ค. 46 18:29:02 ]

ความคิดเห็นที่ 50 อย่าคิดมาก หลงประเด็นเรื่องปลาทเลคับ มาว่ากันที่ปลาทะเลดีกว่า จากคุณ : สะใจโรคจิต - [ 7 ส.ค. 46 21:31:07 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เขียนดี แต่เวอร์ไป จากคุณ : ปลาวาฬน้อย - [ 7 ส.ค. 46 21:43:47 A:202.28.68.201 X:192.168.60.88 ]

ความคิดเห็นที่ 52 พักนี้คุณ คลม. ของขึ้นเหรอครับ...เห็นตั้งแต่กระทู้ VSFR แล้ว....ผมว่าคุณควรออกจากกิจการของคุณมาเป็นนักอนุรักษ์แบบเต็มตัวเลยดีกว่า...อย่าพยายามทำเอากระทู้ในนี้มาเป็นเครื่องมือของคุณหรือไม่ก็ไปกระทู้ใน WEB Siamenses.Org ของคุณให้พวกๆ คุณอ่านดีกว่ามั้งครับในพันธุ์ทิพย์มันเป็น Web สาธารณะผมว่าคุณทำไม่ถูกที่มาว่าคนนู้นคนนี้ถึงไม่ได้ออกชื่อก็เถอะ...แต่จุดมุ่งหมายคุณมันไม่ดี...ผมว่าเคยได้ข่าวว่าคุณและพวกๆ ของคุณก็เลี้ยงปลาเหมือนกันไม่ใช่เหรอครับ...หรือว่าเลี้ยงแต่พันธุ์แท้ทั้งหมดทั้งกลุ่มใครไม่ใช่พันธุ์แท้ไม่ให้เข้ากลุ่ม(ทำนองนี้รึเปล่าครับ...) อีกนึดนึง..ต่อไปคุณจะกระทู้ก็ไม่ควรจะอ้างอะไรดีกว่านะครับ ผมว่าลูกผู้ชายกว่ากันเยอะเลย.... จากคุณ : Exotic_Fish ไม่ Login - [ 7 ส.ค. 46 21:44:05 A:203.154.186.66 X: ]

ความคิดเห็นที่ 53 ของขึ้น? หึ หึ หึ ผมของขึ้นอยู่เกือบตลอดเวลาแหล่ะครับ บ้าๆบอๆ แต่เป็นนักอนุรักษ์เต็มตัว(พันธุ์อย่างผมเนี๊ย)เลี้ยงครอบครัวและหาเงินซื้อ 10D ไม่ได้ครับผม ไม่เป็นหรอก ขอเป็นหน่วยเสริมกำลังดีกว่า เอ๊อะ siamensis.org มีล๊อคไม่ให้คนอื่นยกเว้น "พวกผม" เข้ารึครับ ถึงไม่ใช่เว็บสาธารณะ? เอ๊อะ แล้วคนอื่นไม่ได้ใช้เว็บพันทิบแห่งนี้เป็นเครื่องมือเหรอครับ? ใช้เป็นเครื่องมือหาความรู้ ใช้เป็นเครื่องหาเพื่อน ใช้เป็นเครื่องมือหาความชอบธรรม ใช้เป็นเครื่องมือเสนอความคิดเห็น ทั้งทางที่เห็นดีกับกระแสหลักและสวนกระแส ในเมื่อคุณพูดเองว่ามันเป็นเว็บสาธารณะและผมก็เป็นคนหนึ่งในสังคมซึ่งมีสิทธิ์ในการใช้สถานที่สาธารณะ ในขณะเดียวกันผมก็ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎ แล้วมีเหตุผลอะไรที่ผมจะโพสกระทู้นี้ไม่ได้ไม่ทราบครับ? จุดมุ่งหมายไม่ดีตรงไหนไม่ทราบครับ? การแสดงความเห็นขัดแย้งกับคนๆหนึ่งหมายถึงว่าผมมีจุดมุ่งหมายไม่ดีกับคนๆนั้นหรือครับ? ผมไม่ได้เป็นคนอย่างนั้นครับ ความสนใจจะกำหนดกลุ่มเพื่อนของคุณขึ้นมาครับ ไม่ใช่ว่าผมเลือกเพื่อนเพราะความสนใจ แต่ผมก็ไม่ได้ใจแคบและก็ใช่ว่าผมไม่มีเพื่อนเลี้ยงครอสบรีด เพื่อนผมเลี้ยงครอสบรีดก็มี ผมไม่ได้บอกว่าคนเลี้ยงครอสบรีดเป็นคนเลวสักหน่อย (ถ้าเคยมีตรงไหนช่วยยกมาให้ดูหน่อยเหอะ) สำหรับประโยคสุดท้ายกรุณาย้อนขึ้นไปอ่านความคิดเห็นที่ 20 ครับ เอ้อแล้วคุณเคยอ่าน Utopia รึเปล่าครับ? จากคุณ : คิลลี่แมน - [ 7 ส.ค. 46 22:27:42 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เบื่อแล้วนะเนี๊ย เล่นกันแต่อะไรก็ไม่รู้ ช่วยถกกันในหลักการ ในเนื้อหาของบทความไม่ดีกว่าเหรอครับ? เล่นมาพิมพ์อะไรกันก็ไม่รู้ไม่ได้สร้างสรรค์เลย จากคุณ : คิลลี่แมน - [ 7 ส.ค. 46 23:12:29 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ถึงคุณข้าวฟ่างครับ...เรื่องที่ว่า "ไอ้เรื่องเจอที่ผนังห้องน้ำหรือ เก็บแผ่นกระดาษได้ที่ sunday เนี่ย ฟ่างคิดว่ามันเป็นแค่ joke น่ะค่ะพี่เขาก็แค่พูดเล่นตลกๆเท่านั้นเองไม่ได้พยายามที่จะบอกว่าตัวเองไม่ได้เขียนหรอกค่ะ แค่อ่านใครๆก็รู้อยู่แล้วจะไปปกปิดทำไม ใครเชื่อก็ต๊องแล้วอะค่ะ 55555 " ผมเองคงจะต๊องหรืออีกนัยหนึ่งก็คงจะโง่ไปหน่อย ไม่ทันสำบัดสำนวนของคนบางคน เพราะอ่านมาจนถึงความคิดเห็นที่ 54 ก็ยังเห็นเหมือนเดิมว่าทำไมต้องอ้าง...่ต้องผูกเรื่องเป็นละครไปได้ และผมก็ไม่เห็นว่าคุณคิลลี่แมนเค้าจะยอมรับเลยว่าเป็นตัวเองเขียนหรือไม่จงใจปกปิดอย่างที่คุณข้าวฟ่างว่า จากข้อความทีว่า "คุณอาร์ต๙ครับ ผมเข้าใจว่าคนเขียนคงไม่ได้เขียนเพื่ออ้างเหตผลในการเลี้ยงปลาทะเล ไม่ได้เขียนเพื่อหาข้ออ้างในการสนองตัณหาและกิเลสนะครับ เค้าคงเขียนเพื่อเรียกร้อง "สิทธิ์และความชอบธรรม" ในการเลี้ยงมากกว่า ไม่งั้นเอะอะก็คนเลี้ยงเลวทุกที " หรือนี่ก็เป็นสำนวนหรือโจ๊กอย่างว่าอีก ผมจะได้คิดว่าเข้ามาอ่านนิยายมากกว่าความคิดเห็นอ่ะครับ จากคุณ : coelacanth - [ 8 ส.ค. 46 00:17:01 ]

ความคิดเห็นที่ 56 น่าแปลกใจว่าบทความนี้มีสาระ ในหลายๆด้านโดย โดยเฉพาะด้านการพัฒนาการทางด้านเศรษฐกิจปลาสวยงาม ที่สามารถทำควบคู่ไปกลับการอนุรักษ์ ที่ควรจะถูกเปิดหูเปิดตา สร้างค่านิยมใหม่ๆ แก้ค่านิยมผิดๆเดิมๆ แต่กลับถูกมองในมุมสุดแคบ ว่า เป็นการมองหา"สิทธิ์และความชอบธรรม" ในการเลี้ยง เท่านั้นเหอๆๆ when you look at the picture please look deeper than the surface of picture...you'll see art แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 46 01:37:36 แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 46 01:34:40 จากคุณ : Paladin - [ 8 ส.ค. 46 01:32:50 ]

ความคิดเห็นที่ 57 ฮ่าๆ ผมว่า ผมอ่านแล้วสนุกน่ะครับ อ่านแล้วก็ผ่านไป ไม่ซีเรียสนะ มาแซว พี่เค้าคนแรกเลยด้วยครับ ที่อ้างคนนู้น คนนี้ ผมว่า มันเป็นสไตล์การเขียนมากกว่านะครับ จริงๆ ไม่อยากพิมพ์ออกความเห็นอาไรนะเนี่ย จากคุณ : Giant-Dad (Giant-Dad) - [ 8 ส.ค. 46 02:25:38 ]

ความคิดเห็นที่ 58 อ่านแล้วเหนื่อย........... จากคุณ : brookloach - [ 8 ส.ค. 46 03:09:32 A:169.210.0.215 X: ]

ความคิดเห็นที่ 59 อยากเลี้ยงปลาทะเลมาตั้งแต่เด็กแล้วแต่ไม่เคยได้เลี้ยง หลงไหลในความสวยงามของปลาทะเล พอมารู้ทีหลังว่าปลาเหล่านี้ถูกจับมาจากท้องทะเล ก็ดีใจว่าเราไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ส่งเสริมการทำลายธรรมชาติเพียงเพื่อความสุขส่วนตน คงจะมีอีกหลายคนที่ไม่รู้ผลเสียและผลกระทบเหล่านี้เพราะคิดว่าการเลี้ยงปลาทะเลก็เหมือนกับการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงอื่นๆ วงจรอุบาทว์นี้ก็ยังคงจะมีต่อไปเรื่อยๆ ตราบใดที่ยังมีเรื่องเงินทองและการค้าเข้ามาเกี่ยว ยังคงหลงไหลกับความสวยงามของสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลเสมอ ชอบพาหลานๆ ไปดูปลาทะเลที่จากสถานที่ราชการที่เขาให้ความรู้ ชอบไปดำน้ำดูปลาและปะการัง แต่ไม่เคยชอบที่จะเอาปลาทะเลมาเลี้ยงเพื่อความสุขส่วนตน จากคุณ : กะได - [ 8 ส.ค. 46 07:46:18 A:35.11.135.109 X: ]

ความคิดเห็นที่ 60 อืมมมม ขวาสุดท่าจะไม่ดี ซ้ายสุดท่าจะไม่เวริค์ กลางดีกว่า ทางนี้ดีที่สุด ไม่ฝักใฝ่ ฝ่ายใด อิอิ จากคุณ : คนมันกลางน่ะ - [ 8 ส.ค. 46 09:49:47 A:203.145.27.215 X: ]

ความคิดเห็นที่ 61 ตกลงสาระที่หลายๆคนสนใจกลับไปอยู่ที่ใครเขียน พวกใคร ไปซะแล้ว แบบนี้ปลาทะเลไม่เหลือแน่ๆ จากคุณ : knotsnake - [ 8 ส.ค. 46 12:12:26 ]

ความคิดเห็นที่ 62 แต่ผมว่ากระทู้นี้ก็ไม่เห็นจะมีสาระอะไรนักหนา แค่คนมันอยากระบายซะมากกว่า 55555 จากคุณ : เบื่อคนอวดรู้ - [ 8 ส.ค. 46 18:59:02 A:203.121.130.33 X:203.121.135.40 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เคยเลี้ยงแล้วเลี้ยงรอดด้วยเป็นปีๆเลยล่ะแต่กว่าจะรู้วิธีหมดทั้งปลาทั้งเงินไปหลายเหมือนกันแต่อยากให้เพาะกันเยอะๆหลายๆชนิดยิ่งดีจะได้ไม่ต้องไปจับจากทะเลมาอีกอยากให้คนที่คิดจะเลี้ยงศึกษาวิธีการเลี้ยงให้เข้าใจอย่างมากๆก่อนจะลงทุนเลี้ยงแล้วเลี้ยงเฉพาะชนิดที่เลี้ยงได้เท่านั้นศึกษาชนิดของปลาก่อนด้วยว่าชนิดไหนควรเลี้ยงชนิดไหนไม่ควรเลี้ยง(และไม่ควรไปจับมาขายด้วย)ถ้ารู้หลักการเลี้ยงแล้วจะเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างไม่สิ้นเปลืองจนเกินไปตอนนี้ผมก็ยังเลี้ยงอยู่แต่เป็นพวกปลาใหญ่ๆพวกปลาหมอทะเล ปลากุดสลาด ปลาเก๋า อยู่ในกระชังไว้ส่งขายเมืองนอก ถ้ารัฐบาลแก้กฎหมายให้สามารถส่งออกปลาทะเลสวยงาม(ที่เพาะพันธืได้แล้ว)ไปต่างประเทศได้แล้วล่ะก็ผมก็จะมาส่งขายเหมือนกัน(เพาะได้หลายชนิดแล้วเลี้ยงอยู่กับทะเลจนรู้)อยากให้รู้ว่าคนไทยก็สามารถทำได้ไม่แพ้พวกฝรั่งหรอกและมีความรักต่อทะเลไทยเหมือนกันและปฎิบัติด้วยไม่ไช่รักแต่ปาก จากคุณ : สินสมุทร - [ 9 ส.ค. 46 20:19:28 A:203.146.167.33 X: ]

ความคิดเห็นที่ 64 การท้าวเรื่องทำนองว่าไปเจอบทความชิ้นหนึ่งถูกทิ้งอยู่ข้างถนนหรือตกอยู่ที่ส้วม ที่อ่างหรืออะไรก็แล้วแต่ มันเป็นมุขของนักเขียนที่เค้านิยมใช้กัน เพื่อทำให้สิ่งที่นำเสนอน่าสนใจมากยิ่งขึ้น คล้ายกับเป็นstyle เชื่อว่าทุกคนทั้งกระดานเค้าก็รู้และget เหมือนกับใส่ joke ลงไป แม้กระทั้งตอนที่คิลลี่คุยกับคุณอาร์ต9 ก็ยังคงเป็นมุขอยู่ ผมว่าคุณcoelacanth อย่าไปครุ่นคิดหรือใส่ใจไปเลย มันเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวของสิ่งที่นำเสนออ่ะ และไม่อยู่ในประเด็นเลยด้วยซ้ำ ส่วนอย่างอื่น ไม่มีความคิดเห็น เพราะผมอ่านแต่ความคิดเห็น แต่ไม่ได้อ่านบทความ...ที่คิลลี่แมนไปเจอมาอ่ะ จากคุณ : ปลาแมน - [ 10 ส.ค. 46 04:19:19 A:168.120.12.83 X: ]

ความคิดเห็นที่ 65 อ่านที่คุณ สินสมุทรเขียนแล้วชื่นใจ สะดวกเมื่อไหร่ขอไปเที่ยวฟาร์มหน่อยสิครับผม จากคุณ : คิลลี่แมน - [ 10 ส.ค. 46 11:02:28 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ชอบครับ ตัวจริงคุยกัน ความคิดเห็น หลากหลายตรงซะส่วนใหญ่ด้วย จากคุณ : เดฟ - [ 10 ส.ค. 46 15:10:53 A:203.170.174.225 X:192.168.1.107 ]

ความคิดเห็นที่ 67 รับทราบครับ...คุณปลาแมน..ยังไงก็ขอโทษด้วยที่แสดงความคิดเห็นรุนแรงไปหน่อย..แถมนอกประเด็นที่คนเขียนเค้าอยากจะสื่อ..คงเป็นเพราะ:-)ผมไม่ค่อยชอบคนสำบัดสำนวนอย่างที่บอก (อันนี้บอกตามตรงอ่ะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่วายจะแขวะอีก) ..เลยออกอาการไม่เข้าเรื่องยังไงก็ขอโทษทุกคนด้วยแล้วกันครับที่อ่านแล้วเสียอารมณ์ จากคุณ : coelacanth - [ 12 ส.ค. 46 00:50:56 ]