ความคิดเห็นที่ 3
แหะๆ ไม่รู้ว่าเข้ามาช้าไปรึป่าวนะค่ะ
@. . .ก่อนอื่นเลยต้องขออธิบายก่อนนะค่ะว่าเราไม่ใช่สัตวแพทย์ บางครั้งข้อมูลที่จะให้จากนี้อาจไม่ตรงกับความเป็นจริงทั้งหมด ต้องขออภัยไว้ตรงนี้ด้วยนะค่ะ
@. . .ไม่แน่ใจว่าที่เราจะอธิบายสามารถเรียกได้ว่าเป็นโรคขี้เรื้อนที่มาจากยีนส์รึป่าว ในทางสัตวแพทย์จะเรียกชื่อโรคนี้ว่า Seborrhea เป็นโรคขี้เรื้อนชนิดหนึ่ง ซึ่งไม่ติดต่อกับสุนัขที่เลี้ยงรวมกันค่ะ ส่วนใหญ่จะติดมาจากตัวแม่สุนัข และไม่จำเป็นว่าสุนัขทุกตัวในครอกนึงจะเป็นโรคนี้ทั้งหมด(บางครอกมีเป็นแค่ตัวเดียวจากจำนวนลูกสุนัขทั้งหมด) และในบางรุ่นก็ไม่พบว่าลูกสุนัขที่เกิดมาเป้นโรคนี้ แต่กลับไปเป้นในรุ่นหลาน บางครั้งไม่จำเป็นต้องขูดผิวหนังไปตรวจ สัตวแพทย์ที่เชี่ยวชาญบางท่านสามารถรู้ได้ทันทีค่ะ สุนัขที่เป็นโรคนี้จะมีกลิ่นตัวที่ค่อนข้างจะแรงมาก อาจมีอาการผิวหนังแห้งเป็นสะเก็ด หรือบริเวณผิวหนังบางที่จะด้านและหนา รวมทั้งมีอาการขนร่วงร่วมด้วย บางครั้งที่เป็นมากอาจมีอาการเกี่ยวกับหูร่วมด้วย เช่น คันและสะบัดหัวทั้งวัน หรือพยายามเอาหัวไถไปกับพื้น ฯ
@. . .การรักษาโรคนี้ต้องใช้เวลานาน ทั้งเจ้าของและสัตวแพทย์ต้องร่วมกันแก้ไข ทางเจ้าของจะต้องบอกสัตวแพทย์ทุกอย่างว่าสุนัขของคุณมีอาการอะไรบ้าง และปกติอาบน้ำด้วยแชมพูชนิดใด, อาบกี่ครั้งต่อสัปดาห์ รวมทั้งอาหารที่ให้สุนัขนั้นมีอะไรบ้าง??? และจากการที่เราหารายละเอียดและสอบถามจากคุณหมอ พบว่าโรคนี้ไม่มีทางรักษาให้หาย โดยมากจะใช้วิธีควบคุมอาการด้วยแชมพู(แชมพูรักษาเฉพาะทาง), ยา, และวิตามินเพื่อบำรุงสภาพของผิวหนังไม่ให้แย่จนอาการกำเริบขึ้นมาอีก
@. . .พันธุ์ของสุนัขที่พบบ่อยว่าเป็นโรคนี้ได้แก่ English Cocker Spaniel, American Cocker Spaniel, West Highland White Terrier, English Springer Spaniel, และ Basset hound. แต่ก็สามารถพบได้ใน Irish Setter, German Shepherd, Dachshund, Doberman Pinscher, Chinese Shar-Pei, Labrador Retriever.
@. . .Dogs with Seborrhea and their close relatives (parents and siblings) should not be used for breeding.
@. . .แนะนำให้เพื่อนคุณ myone พาสุนัขไปพบสัตวแพทย์ใน รพ. สัตว์ใหญ่ๆ ที่มีสัตวแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังโดยเฉพาะจะดีที่สุดค่ะ
จากคุณ :
WolFie
- [
27 ต.ค. 46 15:13:16
]
|
|
|