ความคิดเห็นที่ 1 จีเอ็มโอคืออะไร จีเอ็มโอ หรือ GMOs ย่อมาจากคำว่า Genetically Modified Organisms หมายถึงสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม ที่เกิดจากการตัดเอายีนของสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งมายิงเข้าไปในยีนของสิ่งมีชีวิตอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งปกติไม่เคยผสมพันธุ์กันได้ในธรรมชาติ เพื่อให้เกิดสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ที่มีคุณลักษณะตามต้องการ เช่น นำยีนทนความหนาวเย็นจากปลาขั้วโลกมาผสมกับมะเขือเทศ เพื่อให้มะเขือเทศปลูกในที่ที่อากาศหนาวได้ นำยีนจากแบคทีเรียชนิดหนึ่งมาใส่ในยีนของถั่วเหลือง เพื่อให้ถั่วเหลืองทนทานต่อยาปราบวัชพืช นำยีนจากไวรัสมาใส่ในมะละกอเพื่อให้มะละกอต้านทานโรคไวรัสใบด่างวงแหวนได้ จากคุณ : แม่ตุ้งแช่ (-p-i-m-) - [ 24 พ.ย. 46 21:03:21 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เอ็มโอผิดธรรมชาติไหม ในการก่อกำเนิดสิ่งมีชีวิต มียีนและดีเอ็นเอเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ ยีนเป็นตัวสร้างสิ่งมีชีวิตให้มีคุณลักษณะและคุณสมบัติแตกต่างกันไป เช่น ยีนที่ทำให้ผมดำ ยีนที่ทำให้ทนความหนาวเย็นได้ ยีนที่ทำให้มีปีก เป็นต้น กลไกการทำงานของยีนในสิ่งมีชีวิตนั้นซับซ้อน กว้างใหญ่ไพศาล และเป็นเครือข่ายที่เปราะบาง ยีนตัวเดียวกัน แต่อยู่คนละตำแหน่งในสายยีนก็อาจกำหนดคุณสมบัติที่แตกต่างกันได้ และยีนหนึ่งตัวก็ไม่ได้มีหน้าที่เพียงอย่างเดียว การดัดแปลงยีน (จีเอ็มโอ) คือการพยายามเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของสิ่งมีชีวิตอย่างที่ไม่สามารถเกิดขึ้นในธรรมชาติ ซึ่งจะส่งผลกระทบมหาศาลต่อมนุษย์ สัตว์ และพืชทั้งหลายบนโลกใบนี้ เนื่องจากมนุษย์ไม่มีวันที่จะควบคุมมันได้ จากวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตนับล้านๆ ปีที่ผ่านมา มะเขือเทศสามารถผสมพันธุ์กับมะเขือเทศพันธุ์อื่นได้ แต่ไม่เคยเลยสักครั้งที่มะเขือเทศจะผสมพันธุ์กับปลาหรือคางคก ถั่วเหลืองอาจผสมข้ามพันธุ์ระหว่างถั่วเหลืองด้วยกันเอง แต่ไม่มีวันที่จะผสมพันธุ์กับแบคทีเรีย นี่คือ กฎที่ธรรมชาติสรรสร้างขึ้นเพื่อเป็นกำแพงกั้นให้สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดมีความแตกต่าง หลากหลาย เพื่อความอยู่รอดของโลก แต่การปฏิบัติการดัดแปลงพันธุกรรม (วิศวพันธุกรรม หรือจีเอ็มโอ) คือการละเมิดกฎธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการบีบบังคับให้ยีนของปลาเข้าไปผสมอยู่ในสตรอว์เบอร์รี่ หรือยีนของแมลงป่องเข้าไปผสมกับมะเขือเทศ นักวิศวพันธุกรรมนำยีนแปลกปลอมเหล่านี้ใส่เข้าไปโดยการใช้ไวรัสเป็นพาหะ หรือใช้ปืนยิงยีนเข้าไปในเซลล์ของสัตว์ พืช หรือมนุษย์ที่ต้องการดัดแปลงพันธุกรรม การใส่เข้าไปแบบสุ่มเสี่ยงนี้ บ่อยครั้งที่ล้มเหลว ครั้งที่ทำสำเร็จก็ไม่รู้ว่า ยีนใหม่จะเข้าไปแทรกตัวอยู่ตรงไหนของสายยีน และจะก่อให้เกิดผลกระทบอื่นนอกเหนือไปจากที่ต้องการหรือไม่ พืชจีเอ็มโอที่มีขายในท้องตลาดในปัจจุบัน ได้แก่ ถั่วเหลือง - ข้าวโพด - มันฝรั่ง - มะเขือเทศ - คาโนล่า - มะละกอ - ฝ้าย จากคุณ : แม่ตุ้งแช่ (-p-i-m-) - [ 24 พ.ย. 46 21:04:33 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อาหารจีเอ็มโอ จะกินดีไหม ตั้งแต่เกิดเทคโนโลยีดัดแปลงพันธุกรรมขึ้นมา ยังไม่มีนักวิทยาศาสตร์คนใดกล้ายืนยันได้ว่า อาหารที่มีส่วนประกอบของจีเอ็มโอ ปลอดภัยต่อการบริโภคในระยะยาว การทดลองในสัตว์ทดลองเป็นเพียงการทดลองระยะสั้นๆ เมื่อเทียบกับช่วงชีวิตของมนุษย์ที่ยาวถึง 60 - 70 ปี การนำอาหารจีเอ็มโอมาให้มนุษย์รับประทานทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ว่าปลอดภัยหรือไม่ จึงเท่ากับใช้มนุษย์เป็นหนูทดลอง โดยที่พวกเราเองก็ไม่รู้ตัวว่ากินอาหารจีเอ็มโอเข้าไปหรือไม่ถ้าไม่มีฉลากที่ชัดเจนบอกไว้ หากในอนาคตเกิดผลร้ายต่อสุขภาพขึ้นมาจึงระบุไม่ได้ว่ามาจากการบริโภคอาหารจีเอ็มโออย่างต่อเนื่องหรือไม่ ปัจจุบัน อันตรายต่อสุขภาพที่พบว่าอาจเกิดขึ้นได้จากการบริโภคอาหารจีเอ็มโอ คือ โรคภูมิแพ้ เช่น ในอเมริกาเคยมีกรณีคนที่แพ้บราซิลนัทแล้วมากินถั่วเหลืองจีเอ็มโอที่มียีนของบราซิลนัทอยู่โดยไม่รู้ จะเกิดอาการแพ้ถั่วเหลืองนั้นทันที นอกจากนี้ การใส่ยีนแปลกปลอมที่ไม่เคยมีมาก่อนเข้าไปอาจก่อให้เกิดโปรตีนพิษชนิดใหม่ที่ร่างกายไม่รู้จัก และกระตุ้นให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้ นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์ยังเป็นห่วงว่าจีเอ็มโออาจกระตุ้นให้ร่างกายดื้อยาปฏิชีวนะ เนื่องจากในการผลิตจีเอ็มโอต้องใส่สารต้านทานยาปฏิชีวนะเข้าไป เพื่อให้ตรวจสอบได้ว่า ประสบความสำเร็จหรือไม่ สมาคมแพทย์อังกฤษเห็นพ้องต้องกันว่าไม่ให้ใช้สารต้านทานยาปฏิชีวนะในจีเอ็มโอ ในสหภาพยุโรปออกกฎหมายห้ามใช้สารต้านทานยาปฏิชีวนะซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ ปี 2547 แต่พืชจีเอ็มโอที่นำมาผลิตเป็นอาหารอยู่ในท้องตลาดขณะนี้ยังคงมีสารต้านทานยาปฏิชีวนะเป็นส่วนประกอบอยู่ จากคุณ : แม่ตุ้งแช่ (-p-i-m-) - [ 24 พ.ย. 46 21:05:55 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อันตรายไม่มีวันกลับ จากการที่จีเอ็มโอเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถขยายพันธุ์และแพร่พันธุ์ได้นั้น เมื่อใดที่มันถูกปล่อยออกไปสู่สภาพแวดล้อม เราจะไม่สามารถจำกัดบริเวณหรือเรียกกลับคืนมาได้ หากพบอันตรายในภายหลัง ตัวอย่างนี้มีให้เห็นจากเรื่องของสารเคมีกำจัดแมลงที่มนุษย์ผลิต เมื่อ 40 ปีที่แล้วมนุษย์คิดค้นสารเคมี เช่น ดีดีที ขึ้นได้ ในตอนนั้นไม่มีใครรู้ว่าอันตรายของมันคืออะไร แต่ก็นำดีดีทีมาใช้กันอย่างกว้างขวาง ต่อมาอีก 30 ปี จึงค้นพบว่าสารดีดีทีเป็นตัวการทำให้พืช สัตว์ และมนุษย์เกิดการล้มป่วย พิการ หรือเสียชีวิต ทำให้โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติออกประกาศห้ามใช้สารดีดีที กรณีของจีเอ็มโอก็ไม่แตกต่างกัน อาจซ้ำร้ายกว่าตรงที่สารเคมีพิษเหล่านี้แม้จะปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมหรือในอาหารไปแล้ว แต่เมื่อหยุดใช้ไประยะหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นร้อยปี หรือพันปีก็จะย่อยสลายไปได้ แต่สำหรับสิ่งมีชีวิตจีเอ็มโอ หากใน 50 ปีข้างหน้าเราพบว่ามันมีผลร้ายแรงยิ่งกว่าผลที่พบแล้วในปัจจุบัน เราคงไม่สามารถหยุดยั้งการปลูกพืชจีเอ็มโอหรือหาพืชพันธุ์พื้นเมืองที่ไม่มีจีเอ็มโอมาปลูกได้ เพราะพืชหรือสัตว์จีเอ็มโอได้แพร่พันธุ์กลืนกินพืชที่ไม่ใช่จีเอ็มโอไปหมดแล้ว จากคุณ : แม่ตุ้งแช่ (-p-i-m-) - [ 24 พ.ย. 46 21:06:35 ]

ความคิดเห็นที่ 5 การครอบงำจากบริษัทข้ามชาติ มีบริษัทข้ามชาติรายใหญ่ๆ เพียง 4-5 บริษัทเท่านั้นที่เป็นเจ้าของสิทธิบัตรในเทคโนโลยีการทำจีเอ็มโอ รวมถึงตัวยีน และเมล็ดพันธุ์จีเอ็มโอที่เพาะปลูกกันอยู่ในโลกขณะนี้ ในการทดลองวิจัย บริษัทเหล่านี้อาจบอกว่าเป็นความช่วยเหลือแบบให้เปล่า แต่หากต้องการปลูกเพื่อการค้าจะต้องทำสัญญาทางการค้าและจ่ายเงินตอบแทนให้กับบริษัท เกษตรกรในแคนาดาและสหรัฐอเมริกาจำนวนมากต้องตกเป็นทาสในที่ดินของตนเองเนื่องจากปลูกพืชจีเอ็มโอ หรือถูกพืชจีเอ็มโอเข้ามาปนเปื้อนในพืชผลของตน จีเอ็มโอจึงเป็นหนทางให้บริษัทข้ามชาติเหล่านี้เข้ามามีอิทธิพลและครอบครองแหล่งเกษตรกรรมและแหล่งอาหารของเรา จากคุณ : แม่ตุ้งแช่ (-p-i-m-) - [ 24 พ.ย. 46 21:07:28 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ประเทศไทยกับจีเอ็มโอ     จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2546 ประเทศไทยยังไม่อนุญาตให้ปลูกพืชจีเอ็มโอเพื่อการค้า และยังมีมติ ครม.สั่งระงับการทดลองปลูกพืชจีเอ็มโอระดับไร่นา ประเทศไทยนำเข้าวัตถุดิบจีเอ็มโอเพื่อใช้ผลิตอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งถั่วเหลือง ซึ่งนำเข้ามาจากสหรัฐอเมริกามากที่สุด (ถั่วเหลืองที่ปลูกในสหรัฐอเมริกา 75% เป็นถั่วเหลืองจีเอ็มโอ) จากการตรวจสอบของกรีนพีซ พบว่า ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปในท้องตลาดมีการปนเปื้อนถั่วเหลืองจีเอ็มโอ โดยไม่ได้ติดฉลากให้ประชาชนได้รับทราบ กฎกระทรวงเรื่องการติดฉลากอาหารดัดแปรพันธุกรรม (จีเอ็มโอ) ของกระทรวงสาธารณสุขที่บังคับใช้ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2546 นั้น เป็นกฎข้อบังคับที่หละหลวมมาก คือกำหนดเปอร์เซ็นต์การปนเปื้อนไว้สูงถึง 5% ถ้ามีจีเอ็มโอต่ำกว่านั้นก็ไม่ต้องติดฉลากบอก นอกจากนั้นยังกำหนดให้ติดฉลากต่อเมื่อมีถั่วเหลืองหรือข้าวโพดจีเอ็มโอเป็นส่วนประกอบในสามอันดับแรกเท่านั้น หากมีถั่วเหลืองหรือข้าวโพดจีเอ็มโออยู่ในอันดับที่ 4 ลงไป ก็ไม่ต้องติดฉลาก และถ้ามีวัตถุดิบอื่นที่ไม่ใช่ถั่วเหลืองหรือข้าวโพด แต่เป็นวัตถุดิบจีเอ็มโอ เช่น มะละกอจีเอ็มโอ หรือข้าวสาลีจีเอ็มโอ ก็ไม่จำเป็นต้องติดฉลาก กฎกระทรวงฉบับนี้จึงไม่ได้ให้ข้อมูลที่แท้จริงกับผู้บริโภคและไม่ได้คุ้มครองผู้บริโภคหรือให้สิทธิในการรับรู้และปฏิเสธอาหารจีเอ็มโอแก่ผู้บริโภคแต่ประการใด บริษัทผลิตอาหารข้ามชาติบางบริษัทใช้มาตรฐานต่างระดับกับประชาชนชาวไทย เนื่องจากประกาศนโยบายปลอดจีเอ็มโอในยุโรป แต่ในประเทศไทยยังยืนยันว่าจะใช้ส่วนประกอบอาหารที่มีจีเอ็มโออยู่ เช่น บริษัท .....   ซึ่งกรีนพีซตรวจพบจีเอ็มโอใน...... อาหารเสริมสำหรับเด็กเล็กและทารก ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 46 21:10:23 จากคุณ : แม่ตุ้งแช่ (-p-i-m-) - [ 24 พ.ย. 46 21:08:18 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ป้องกันไว้ก่อน หากดูจากลักษณะภายนอก อาหารจีเอ็มโอไม่ได้แตกต่างจากอาหารทั่วไปแต่อย่างใด หากแต่โครงสร้างของยีนภายในแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และตราบใดที่เรายังพิสูจน์ไม่ได้ว่าจีเอ็มโอปลอดภัยต่อสุขภาพและชีวิตมนุษย์หรือไม่ รวมถึงผลกระทบที่เราไม่อาจเรียกกลับคืนมาได้ถ้าจีเอ็มโอเข้าไปอยู่ในระบบนิเวศน์และห่วงโซ่อาหาร ทำให้เราต้องยึดหลักการป้องกันไว้ก่อน โดยไม่บริโภคอาหารจีเอ็มโอที่เรายังไม่รู้ว่าคืออะไร และปลอดภัยหรือไม่ จากคุณ : แม่ตุ้งแช่ (-p-i-m-) - [ 24 พ.ย. 46 21:09:15 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แล้วเพื่อน ๆ ทราบมั้ยคะว่า หน่วยงานขอรัฐกำลังทดลองปลูกมะละกอจีเอ็มโออยู่ ซึ่งต่อไปอาจมีมะละกอจีเอ็มโอปนเปื้อนไปในอาหารของคนไทยไปโดยที่เราไม่รู้ตัว (โดยเฉพาะ ส้มตำ ของโปรดของแม่ตุ้งเลยล่ะ) แม่ตุ้งก็เลยอยากจะเชิญชวนเพื่อน ๆ ที่รู้สึกแบบเดียวกัน ช่วยกันส่งข้อความถึงท่านนกยกรัฐมนตรี ว่า "เราไม่ต้องการมะละกอจีเอ็มโอ" ที่ http://www.greenpeacesoutheastasia.org/th/form_sos.htm จากคุณ : แม่ตุ้งแช่ (-p-i-m-) - [ 24 พ.ย. 46 21:17:41 ]

ความคิดเห็นที่ 9 และการที่ผู้ผลิตไม่มีการติดฉลากอาหารให้ชัดเจน เราก็จะไม่ทราบหรอกว่าอาหารที่เราบริโภคกันอยู่ทุกวันนั้นมันมีพืชจีเอ็มโออยู่หรือเปล่า เห็นด้วยกันมั้ยคะว่าผู้ผลิตน่าจะมีฉลากบอกเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่เรา ((เอ..ไม่รู้ว่าอาหารน้องหมานี่เค้ามีส่วนผสมของพืชจีเอ็มโอด้วยเปล่าเนี่ย)) ร่วมลงชื่อเรียกร้องให้แก้ไขกฎการติดฉลากอาหารจีเอ็มโอ เพื่อสิทธิที่แท้จริงของผู้บริโภคในการรับรู้ และสิทธิในการเลือกปฏิเสธอาหารจีเอ็มโอ ที่นี่ค่ะ http://www.nogmo.org/modules.php?name=petition จากคุณ : แม่ตุ้งแช่ (-p-i-m-) - [ 24 พ.ย. 46 21:24:02 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ข้อมูลทั้งหมดแม่ตุ้งเอามาจาก http://www.nogmo.org/index.php ถ้าใครสนใจลองเข้าไปอ่านนะคะ มีคู่มือจ่ายตลาดด้วยล่ะ แม่ตุ้งเข้าไปอ่านมาแล้ว มีของชอบของแม่ตุ้งตั้งหลายอย่างแน่ะ ที่มีส่วนผสมของจีเอ็มโออ่ะ หวาย..!! ไม่เคยรู้เลยนะเนี่ย ฮือ..ฮือ จากคุณ : แม่ตุ้งแช่ (-p-i-m-) - [ 24 พ.ย. 46 21:27:27 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณทุก ๆ ท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้นะคะ จากคุณ : แม่ตุ้งแช่ (-p-i-m-) - [ 24 พ.ย. 46 21:28:11 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณมากนะค๊ะ พี่พิมที่เอาความรู้ดี ๆ มาฝากอ่าค่ะ ถึงแม้กระทู้นี้จะไม่มีรูปน้องหมาน่ารัก ๆ มาให้ชม แต่เราก็ได้รับคววามรู้เยอะนะค๊ะ ดีจังเลยค่ะ จากคุณ : ปูลมค่ะ - [ 24 พ.ย. 46 21:40:44 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณมากครับ แม่ตุ้งแช่ จากคุณ : tacap - [ 24 พ.ย. 46 21:52:05 ]

ความคิดเห็นที่ 14 แหม....ได้งานใหม่ก็ไฟท์โตะ เลยนะคะ ดีค่ะ ทำเพื่อหมู่มวลมนุษยชาติค่ะ อันนี้ข้อเท็จจริงก็ไม่มีใครที่จะรู้ได้นะคะ ว่าอาหารจีเอ็มโอ อันตรายจริงๆหรือไม่ ซึ่งวิธีพิศูจน์อาจต้องใช้การเดิมพันด้วยโซ่ชีวิตของคนในรุ่นอนาคต ว่ามันจะมีผลร้ายตกไปถึงลูกหลานหรือไม่ ขอพูดเป็นสองแง่นะคะว่ากลุ่มกรีนพลีส ต้องการธรรมชาติ เรียกร้องเพื่อไม่ให้วัฒจักรเสียไปด้วยน้ำมือของมนุษย์ แต่คนที่คิดค้นพืชจีเอ็มโอขึ้นมาก็คงต้องการให้พืชผลฟลิตได้เยอะๆ ให้เพียงพอต่อความต้องการของคนบนโลกนี้ ซึ่งจะล้นโลกอยู่แล้ว อันนี้เคยเห็นในทีวี ชาวบ้านที่ปลูกฝ้ายบ่นเรื่องการห้ามปลูกพืชจีเอ็มโอ ว่าฝ้ายแบบเดิมไม่ทนต่อแมลง ปลูกทีไรก็เสียหาย ชาวบ้านที่ปลูกก็เดือดร้อน พอมีเมล็ดฝ้ายจีเอ็มโอมา เขาก็เอามาปลูกกัน ได้ผลดีเยี่ยม แต่รัฐช่วงนั้นห้ามปลูก เค้าก็ต้องแอบปลูกกันเอง เมล็ดนั่นก็ต้องไปโขมยออกมาขยายพันธุ์กันเอง ซึ่งชาวบ้านตาดำๆ ไม่รู้ถึงผลร้ายผลเสียของคำว่าพืชจีเอ็มโอหรอกค่ะ รู้แค่ว่าพันธุ์นี้ให้ผลผลิตเยอะ ทนแล้ง แมลงไม่กินให้เสียหาย แค่นี้เอง เฮ้อ....เล่าให้ฟังค่ะ ว่ามองสองด้าน ก็ได้อะไรเพิ่มเข้ามาอีกเยอะนะคะ แต่อยากเตือนคุณพ่อตุ้งจังค่ะ ว่ากลุ่มนี้ชอบออกมาประท้วงแรงๆบ้างเหมือนกันนะคะ ไม่อยากให้ถูกครอบงำตรงนี้มากเกินไป ทำความดีไม่มีใครว่าหรอกนะคะ ทำไปเถอะค่ะ แต่ระวังๆไว้หน่อยก็ดีค่ะ จากคุณ : เด็กหัดเดิน - [ 24 พ.ย. 46 22:11:39 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆที่นำมาฝากค่ะ .. จากคุณ : zeez - [ 24 พ.ย. 46 22:50:14 A:203.152.3.226 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆแบบนี้ค่ะ แต่ขอบอกว่าถึงไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับหมา แต่จริงๆแล้วเกี่ยวเหมือนกันนะค่ะ เพราะว่าผักกาดชอบกินมากๆเลย ทั้งผัก ทั้งผลๆไม้ กลัวว่าถ้าเราไม่เลือกให้ดีๆ จะกลายเป็นว่า เราเอาอาหารที่อันตรายมาให้ลูกเรากินซะเอง น่ากลัวจัง จากคุณ : โลมาน้อย (โลมาน้อย) - [ 24 พ.ย. 46 23:50:04 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณพี่เด็กหัดเดินมาก ๆ นะคะที่เป็นห่วง ความจริงแล้วแม่ตุ้ง+พ่อตุ้งก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ เราก็ไม่ชอบความรุนแรงเหมือนกัน และคงไม่ได้มีเวลาไปเข้าร่วมอะไรอย่างนั้นหรอก เราก็ทำในส่วนที่ทำได้น่ะค่ะ เป็นสมาชิกก็ไม่ได้เสียอะไรมากแค่บริจาคเงินช่วยโครงการเค้านิดหน่อยเท่านั้นเอง ไม่ได้คิดจะไปประท้วงอะไรขนาดนั้นหรอกค่ะ..แหะ..แหะ แต่ที่เอาเรื่องจีเอ็มโอมาฝากเพราะเป็นเรื่องที่รู้สึกว่ามันน่าเป็นห่วงจริง ๆ ถึงจะไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ตอนนี้ว่าพืชจีเอ็มโอจะเป็นอันตรายต่อร่างกายจริงหรือเปล่า ซึ่งผลที่ออกมาจริงๆ มันอาจจะไม่อันตรายก็ได้ค่ะ แต่สิ่งที่แม่ตุ้งเชื่อก็คือ..มันน่าจะอันตรายต่อระบบนิเวศน์ เพราะมันเป็นการเพาะพันธุ์แบบผิดธรรมชาติ อันนี้แหละค่ะที่แม่ตุ้งเป็นห่วงที่สุด เอาข้อมูลมาฝากก็เพราะอยากจะให้เพื่อน ๆ ที่ได้อ่านลองพิจารณาดู รับรู้ข่าวสารข้อมูลไว้ ส่วนจะตัดสินใจอย่างไรมันก็เป็นสิทธิของแต่ละคนค่ะ จากคุณ : แม่ตุ้งแช่ (-p-i-m-) - [ 25 พ.ย. 46 01:12:08 ]

ความคิดเห็นที่ 18 จะพยายามหลีกเลี่ยงครับ ขอบคุณพี่พิม+พี่อาร์ทนะคร๊าบที่เอาสาระมาฝาก จากคุณ : ป๋าหมั่นโถว - [ 25 พ.ย. 46 01:27:51 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ใช่แล้ว มันน่ากลัว เพราะบางอันเราก็ไม่รู้ว่าเป็นพืชธรรมชาติ หรือพืชตัดต่อพันธุกรรม จะมีอันตรายกะเรารึเปล่าก็ไม่รู้ ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้เค้าบังคับฉลากให้ระบุหากมีสารจีเอ็มโอรึยัง ขอบคุณพี่พิมนะคะ ต่อไปนี้จะได้ระวังตัวได้มากขึ้น ยิ่งชอบกินๆๆ อยู่ด้วย จากคุณ : ผมซ่า - [ 25 พ.ย. 46 01:41:02 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณมากๆค่ะ สำหรับข้อมูลที่มีเนื้อหาสาระ และมีประโยชน์จากคุณแม่ตุ้งแช่(-P-I-M-) ยังไม่ได้อ่านอย่างละเอียด คงต้องใช้เวลาสักหน่อย ความคิดเห็นส่วนตัวนั้น ไม่เห็นด้วย(ต่อต้าน)กับ การทำการเกษตรแบบผิดธรรมชาติ ในทุกรูปแบบมานานแล้ว แม้แต่เรื่องพื้นๆ ที่เกษตรกรทั่วไปเห็นว่าเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน เช่นการใช้ปุ๋ยเคมี ใช้ยาฆ่าแมลงศัตรูพืช และสารพิษกำจัดวัชพืชต่างๆ ตลอดจนวิธีการทำการเกษตรที่จงใจเข้าไปรบกวนกระบวนการและวัฏจักรตามธรรมชาติ เช่นการไถพลิกหน้าดิน การเผาตอซังในไร่นา เป็นต้น พยายามสุดชีวิตที่จะทำในส่วนของตัวเอง ที่จะดำรงชีวิตในวิถีทางที่กลืมกลืนกับธรรมชาติดั้งเดิม ให้มากที่สุดในทุกๆด้าน แม้แต่การเลี้ยงหมาก็ยังใช้อาหารสดดิบ ดังนั้น เรื่องของการฝืนธรรมชาติสุดขั้ว อย่างเอ็มจีโอนี้ คงไม่ต้องพูดถึง ความจริงแล้ว พืชเอ็มจีโอ ไม่น่าจะมีอันตรายต่อร่างกายโดยตรง มากเท่า..หรือมากไปกว่า สารเคมีที่อยู่ในสิ่งที่เราบริโภคกันอยู่ในชีวิตประจำวัน แต่มันน่ากลัว (เหมือนกับอาหารสำเร็จรูป อื่นๆ....ทั้งอาหารคนและอาหารสัตว์ ที่มีอยู่ดาดดื่นในท้องตลาดทุกวันนี้) ตรงที่ เราไม่รู้ว่า สิ่งที่เรา"เห็นว่า.." หรือ "คิดว่า.." มันเป็นนั้น มันใช่สิ่งนั้นจริงๆหรือเปล่า เช่นต่อไป ถ้าจะซื้อมะเขือเทศสดมากิน ก็ไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว มันคือ "มะเขือเทศ" แน่หรือเปล่า? ถ้าเป็นคนที่มัก "แพ้" อะไรต่ออะไรมากๆ ก็ยิ่งน่ากลัวมากขึ้นตรงที่ จะไม่มีวันรู้ว่า จะมียีนของพืชที่เรา "แพ้" อยู่ในอะไรบ้างหรือเปล่า จากคุณ : carnivorous (dogpeople1) - [ 25 พ.ย. 46 06:50:24 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อ่านกระทู้นี้ได้ประโยชน์ดีจังค่ะ ขอบคุณคุณแม่น้องตุ้งที่นำสาระความรู้มาแบ่งปันพวกเราค่ะ อยากบอกว่ามะเขือเทศเนี่ย ของโปรด Luk Tan เลยหล่ะ จากคุณ : Luk Tan - [ 25 พ.ย. 46 07:19:05 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อิอิ เราก็เป็น 1 ในสมาชิกของกรีนพีชนาค๊ะ บริจาคมาร่วมปีแล้วเหมือนกัน แหม...ของคุณ แม่ตุ้มแช่อีกครั้งนะคะ จากคุณ : AmyKo - [ 25 พ.ย. 46 09:17:42 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณ คุณแม่ตุ้งแช่(-P-I-M-) สำหรับข้อมูลที่มีประโยชน์อย่างยิ่งค่ะ.. จากคุณ : Omnivorous - [ 25 พ.ย. 46 10:51:50 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เข้ามารับทราบข้อมูล และขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ นะครับ แต่ขอออกความคิดเห็นหน่อยก็แล้วกัน สำหรับพืช GMO นะครับ พืช GMO ก็คือการ ปรับปรุงสายพันธุ์ เพื่อให้ได้ผลผลิตดีขึ้น และ ให้ทนทานต่อโรคต่าง ๆ แต่พืช GMO เหล่านี้ เกิดได้ทำการทดลองและทำการปลูกจริง ในอเมริกา มามากกว่า 10 ปีแล้ว แต่พวกเราพึ่งมาเริ่มสนใจเมื่อไม่นานมานี้เอง คุณทราบหรือไม่ว่า พืชและอาหารสัตว์ที่ปลูก ๆ กันอยู่ในเมืองไทย นะ ส่วนมากก็เอาพันธุ์ที่ พัฒนามาจากต่างประเทศกันทั้งนั้น และส่วนหนึ่งก็มาจาก อเมริกา การที่กฏหมายออกมาเมื่อ ปี 2546 ที่ออกมานั้น จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2546 ประเทศไทยยังไม่อนุญาตให้ปลูกพืชจีเอ็มโอเพื่อการค้า แต่คุณทราบหรือไม่ว่า พวกชาวไรชาวนา นะ เค้าปลูกพืช GMO มาก่อนหน้านี้แล้ว และอีกอย่างที่น่าเป็นห่วงสำหรับ คนที่รณรงค์ต่อต้าน พืช GMO ก็คือ คนเหล่านั้น ไม่ทราบเลยว่าพืชที่ตนเอง เพาะอยู่นะ เป็น GMO หรือไม่ เพราะว่า มีกี่หน่วยงานในประเทศไทยที่คอยตรวจสอบว่าพืชทีได้มาเป็น GMO หรือไม่ หลาย ๆ ครั้งที่พืชทีเราส่งออกนั้น โดนตีกลับ เนื่องจากว่าเป็นพืช GMO เพราะว่าเกษตร หรือว่า ชาวบ้านเค้าไม่รู้หรอกว่า พืชที่เค้าปลูกนะเป็น GMO หรือป่าว และพืช ผัก ผลไม้ที่วางขายอยู่นะ คุณแน่ใจหรือมันใจขนาดไหน ข้อดีของพืช GMO มันก็มี เพราะว่า เป็นการเพิ่มผลผลิต และตอนนี้ ก็ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ว่า อันตรายที่ได้จาก GMO คืออะไร จากคุณ : *BoM* - [ 25 พ.ย. 46 11:34:44 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อีกนิดหนึ่งนะครับ จะบอกว่า ส่วนตัวแล้วไม่ได้ต่อต้าน พืช GMO เพราะว่าพืชบางชนิดเค้าใช้ในอุตสาหกรรม ไม่ได้นำมารับประทาน อย่างเช่น ฝ้าย นุ่นฯ จากคุณ : *BoM* - [ 25 พ.ย. 46 11:39:17 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณคะที่เอาความรู้ดีๆมาฝากกัน ต่อไปต้องระวังหน่อยแล้ว จากคุณ : fargo - [ 26 พ.ย. 46 23:15:07 A:203.113.34.13 X: ]

ความคิดเห็นที่ 27 แหะ..พี่พิมจ๋า เอื้อมก็บังเอิญไปเป็นสมาชิกกรีนพีชมาได้พักใหญ่ๆละอ่ะจ้า แต่พี่พิมเนี่ยน่ารักมากเลยที่ได้ข้อมูลละเอามาบอกต่อเพื่อนๆ (ฮือๆ..ทำให้รู้สึกตัวเองไม่ได้เรื่องหง๊ะ) ป.ล. คิดถึงครอบครัวตุ้งแช่นะฮับบบบบบ จากคุณ : แม่พี่ค่อนกะหนูดิ้ง (auem_only) - [ 28 พ.ย. 46 10:57:43 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณมากนะครับ สำหรับความรู้ดีๆ อ่านแล้วก็น่าเป็นห่วงโลกนี้จัง ผิดธรรมชาติกันเข้าไปทุกวันแล้ว คิดว่ามันต้องมีผลกระทบแน่ๆครับกับของที่ผิดธรรมชาติ ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม มนุษย์เริ่มยโสโอหังเข้าไปทำความปั่นป่วนให้กับธรรมชาติและโลกนี้เสื่อมโทรมขึ้นทุกวันแล้วครับ แย่จัง........ จากคุณ : สายน้ำ (สายน้ำสีน้ำเงิน) - [ 29 พ.ย. 46 14:07:52 ]

ความคิดเห็นที่ 29 สวัสดีค่ะ สมาชิกทุกท่าน เข้ามาในห้องนี้ทุกวันทำงาน ชอบมาก พอดีได้อ่านเรื่องจีเอ็มโอ ขอเรียนว่า ดิฉันทำวิทยานิพนธ์เรื่อง "มาตรการทางกฎหมายเพื่อควบคุมพืชตัดแต่งพันธุกรรม " หรือ GMOs คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปีการศึกษา 2544 ไได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยด้วย ซึ่งเป็นเรื่องแรกของประเทศไทย หากท่านสนใจกรุณาหาอ่านได้ที่ห้องสมุด รามฯ หรือสภาวิจัย จากคุณ : kannikar@hu.ac.th - [ 29 พ.ย. 46 15:38:01 A:203.154.27.73 X:192.168.1.180 ]