เจอบทความจาก cat4love ที่น่าสนใจเอามาฝากกันค่ะ 
จากเรื่องราวของเฉาก๊วย ทำให้รู้ว่ายังมีเรื่องที่ผู้เลี้ยงแมวไม่รู้อีกหลายเรื่อง และตัวเองก็ไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้มาก่อน ทั้งที่เลี้ยงแมวเป็นจำนวนมาก
โดยคิดว่าอยากจะทำคู่มือการเลี้ยงแมว รวมทั้งเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการเลี้ยงแมวไปแจกในงานมีตติ้งเดือนหน้านี้ด้วย
ถ้าเพื่อนๆ มีบทความหรือความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงแมว และอยากเผยแพร่ให้ท่านอื่นได้อ่านกันส่งบทความมาที่เมลหนูนะคะ osara402@hotmail.com
ทีมงานจะรวบรวมทำเป็นเล่มให้ทันงานมีตติ้งค่ะ 
=============================
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงมากนะครับ บางวันร้อนจัด บางวันก็มีฝนตก อากาศแบบนี้ทำให้คนไม่สบาย มีไข้ได้ ในคนยายอดนิยมที่กินกันมากที่สุดคือยาพาราเซตามอล ซึ่งยาตัวนี้ในคนมีคุณสมบัติลดไข้บรรเทาปวด อากาศอย่างนี้ก็พลายทำให้เจ้าเหมียวเป็นไข้ไปด้วย โดยเฉพาะเมื่อเจ้าของเห็นแมวจาม ไอ จับดูตัวร้อน ก็จับกรอกยาพาราเซตามอลด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ คิดว่าคนกินได้แมวก็น่าจะกินได้ด้วย ถ้าแมวตัวไหนไม่กินคือพอเจ้าของป้อนเข้าไปแล้วขย้อนออกมาก็ถือว่าเป็นโชคดีไปนะครับ ที่คลินิคของผมมักจะเจอก็ต่อเมื่อเจ้าของพาแมวหน้าบวมมาหา เห็นปุ๊บผมก็ถามว่าให้กินยาพาราเซตามอลรึเปล่า เจ้าของบางคนก็บอกว่าไม่ได้ให้ แต่ให้กินทิฟฟี่บ้างดีคอลเจนบ้าง ทำเอาผมถอนหายใจเลยครับ ก็ยาทั้งสองที่ว่านั้นมีส่วนผสมของพาราเซตามอลอยู่นี่ครับ
ความเป็นพิษของยาตัวนี้จะอยู่ที่ 50 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักแมว 1 กิโลกรัม เป็นค่าเฉลี่ยครับ ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับอายุของแมวและความไวที่แมวจะแสดงออกต่อพิษของยาตัวนี้ไม่เท่ากันด้วยครับ แมวเด็กจะต้านทานต่อพิษของยานี้ได้น้อย โดยยานี้จะมีผลทำให้เม็ดเลือดแดงแตกและเซลตับถูกทำลาย
อาการหลังจากที่แมวกินยาพาราเซตามอลไป 1-2 ชั่วโมง
- น้ำลายไหล, อาเจียน, เบื่ออาหาร
- ซึม เอาแต่นอน
- เม็ดเลือดแดงจะถูกทำลาย ดังนั้นจะพบว่าปัสสาวะแมวจะมีสีแดงหรือสีช็อคโกแลต เป็นผลจากเม็ดเลือดแดงแตก
- เมื่อเปิดเหงือจะพบว่เหงือกมีสีแดงเข้ม
- ที่พบบ่อยคือ บริเวณหน้าและอุ้งเท้าจะบวมขึ้นอย่างผิดสังเกต
- แมวอาจตายได้ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีและถูกวิธี
การให้การรักษาเบื้องต้นโดยเจ้าของ
- ถ้าแมวกินยาพาราเซตามอลยังไม่เกิน 4 ชั่วโมง อาจทำให้อาเจียนออกมา เช่น การให้กินน้ำเกลือเข้มข้น หรือการเจอจางไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ในน้ำและป้อนให้แมวจนแมวอาเจียนออกมา หรืออาจให้อุลตร้าคาร์บอนเพื่อดูดซึมความเป็นพิษของยาออกมา และรีบนำส่งถึงมือสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด
การรักษาของสัตวแพทย์
- ถ้าแมวกินพาราเซตามอลยังไม่เกิน 4 ชั่วโมงสัตวแพทย์อาจทำให้แมวอาเจียนโดยการฉีดยาให้อาเจียน หรืออาจล้างท้อง หรือให้ยาที่ดูดซับสารพิษ เช่น อุลตร้าคาร์บอนเป็นต้น
- การให้ยาต้านพิษพาราเซตามอล ซึ่งตัวยานี้ราคาค่อนข้างสูง ร่วมกับการให้วิตามิน C
- การให้สารน้ำเข้าสู่เส้นเลือด
- การให้ออกซิเจนกรณีแมวหอบมากๆ
- การถ่ายเลือดถ้าพบว่า PVC<15%
- แมวควรอยู่ในความดูแลของสัตวแพทย์อย่างน้อย 2-3 วันจนแน่ใจว่าร่างกายสามารถสร้างเม็ดเลือดแดงขึ้นมาแทนเม็ดเลือดแดงที่แตกไป
- แมวอาจช็อคเสียชีวิตได้ถ้าแมวเกิดความเครียด เนื่องจากเม็ดเลือดแดงมีน้อย การส่งออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายก็จะน้อยไปด้วย
- ป้อนอาหารให้แมวกรณีแมวไม่ยอมกินอาหาร เพื่อให้ร่างกายสามารถสร้างเม็ดเลือดแดงขึ้นมาใหม่ได้
สุดท้ายนี้ผมอยากฝากถึงเจ้าของแมวทุกท่านด้วยว่ายาที่ใช้ในคนกับแมวบางครั้งอาจเป็นยาตัวเดียวกัน บางครั้งแมวอาจใช้ได้ไม่เหมือนคน ดังนั้นผมคิดว่าถ้าแมวป่วยควรไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจรักษา ถ้าไม่สะดวกจริงๆอาจใช้วิธีโทรศัพท์ปรึกษากับสัตวแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาก่อนให้ยาเจ้าเหมียวตัวน้อยนะครับ
น.สพ. ดรุตร กิ่งก้าน
พหลโยธิน 48 รักษาสัตว์ โทร. 0-2955-7346 กด 0
ที่มา
http://www.cat4love.com/nana/para.asp
จากคุณ :
osara
- [
9 ส.ค. 47 00:14:15
]