ความคิดเห็นที่ 1 นี่สีจริงๆต้องเป็นอย่างนี้ ฝูงนี้ถ่ายจากชุมพร เอาแต่หลังมาให้ดู รูปตัวเต็มๆไม่ค่อยมี มีก็ไม่สวยเท่าไหร่ จากคุณ : สามศูนย์สอง - [ 27 ก.ย. 47 19:59:36 ]

ความคิดเห็นที่ 2 14 ปลาโลมาปากขวด (Bottlenose dolphin) ชื่อวิทยาศาสตร์ Tursiops aduncus (Ehrenberg, 1832) Family Delphinidae ปลาโลมาตัวนี้มีการสับสนในกลุ่มนักวิชาการในไทยมานาน คือระหว่างชื่อ Tursiops truncates (Temperate form) และ Tursiops aduncus (Tropical form) เนื่องจากในยุคแรกๆของการสำรวจโลมาในไทยนั้นยังไม่มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับต่างประเทศอย่างกว้างขวางมากนัก จนกระทั่งช่วงเวลา 1-2 ปีหลังมานี้ สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จังหวัดภูเก็ตได้ส่งตัวอย่าง DNA และรูปภาพ Anatomy ของโลมาตัวนี้ไปตรวจสอบที่หลายๆประเทศ ก็ได้รับคำตอบเพื่อมาวิเคราะห์หาข้อสรุปได้ดังนี้คือ ตัวในไทยเป็น Tropical form ตัวเล็กและมีจุดสีเทาประปรายทั่วทั้งลำตัว อีกทั้งตัวอย่าง DNA ก็ยืนยันได้อย่างชัดเจน ข้อมูลในหนังสือบางเล่มอาจจะเกิดจากการแปลมาจากหนังสือต่างประเทศซึ่งไม่ใช่ตัวในบ้านเรา ปลาโลมาตัวนี้โตเต็มที่ยาว 1.9-2.3 ม. น้ำหนัก 150 – 650 กก. พบได้บ่อยทั่วประเทศ มีลักษณะเด่นคือ แถบสีดำพาดจากหางตาไปยังครีบว่ายน้ำ ทั้ง 2 ด้าน ไม่มีแถบดำอื่นๆอีกแล้ว แต่จะดูแถบดำนี้ยากหน่อยเพราะสีมันใกล้เคียงกับสีลำตัวมาก นิสัยชอบกระโดด ว่ายน้ำตามเรือ และแย่งปลาจากอวนประมง ดังนั้นสาเหตุการตายของปลาโลมาตัวนี้ไม่พ้นการติดอวนประมง และการถูกทำร้ายจากชาวประมงที่เป็นผู้เสียหาย ทางภาคกลางพบได้ง่ายและบ่อยที่ปากแม่น้ำบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ช่วงเดือนพ.ย.ถึงก.พ. ที่นั่นมีเทศกาลชมปลาโลมา กินอาหารทะเลด้วยทุกปี แต่ด้วยความไม่รู้และไม่อยากจะรับรู้ของเรือนำเที่ยว จึงทำให้ปลาโลมาในบริเวณนั้นลดลงทุกๆปี ในปีที่ผ่านมา ปลาโลมาแทบจะไม่เข้ามาในปากแม่น้ำบางปะกงเลย รายละเอียดผมจะกล่าวในตอนหลังอีกครั้งหนึ่ง เจ้านี่ก็ไม่พ้นโดนจับไปไว้ในสวนสัตว์น้ำเหมือนกัน จากคุณ : สามศูนย์สอง - [ 27 ก.ย. 47 20:01:17 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ภาพนี้ถ่ายได้ชัดดีแม้จะไม่ค่อยเห็นรายละเอียดอะไรมาก ถ่ายจากบริเวณเกาะไข่ จังหวัดพังงา จากคุณ : สามศูนย์สอง - [ 27 ก.ย. 47 20:01:45 ]

ความคิดเห็นที่ 4 15 ปลาโลมาฟันห่าง (Rough-toothed dolphin) ชื่อวิทยาศาสตร์ Steno bredanensis (Lessen, 1828) Family Delphinidae โตเต็มที่ยาว 2.2-2.4 ม. รูปร่างเพรียว ลักษณะเด่นคือ จะงอยปากจะลาดโค้งขึ้นส่วนหัวโดยไม่มีรอยหยักระหว่างหัวกับจะงอยปาก แม้ว่านี่จะเป็นลักษณะเด่นของปลาโลมาตัวนี้ แต่ผู้ที่ไม่ชำนาญก็อาจจะสับสนได้เมื่อเห็นโลมาในธรรมชาติ เพราะจะพบอยู่รวมในฝูงปลาโลมาปากขวด จึงขอให้แยกด้วยการดูที่ท้องสีจางเล็กน้อย มีแต้มด่างสีขาวเป็นดวง ๆ ตามลำตัว และมีด่างขาวที่ขอบปากล่าง ซึ่งปลาโลมาปากขวดจะไม่มีลักษณะดังกล่าว และมักไม่ค่อยดำน้ำแบบหายลงไปทั้งตัว มักจะยังลอยตัวอยู่ผิวน้ำ ครีบหลังโผล่พ้นน้ำ นิยมจับไปไว้ในสวนสัตว์น้ำ (อีกแล้ว) สามารถพบได้ที่จังหวัด นครศรีธรรมราช ภูเก็ต และสตูล จากคุณ : สามศูนย์สอง - [ 27 ก.ย. 47 20:02:32 ]

ความคิดเห็นที่ 5 บอกว่าท้องมีแต้มด่างขาวๆ ก็ต้องจับพลิกให้ดู จากคุณ : สามศูนย์สอง - [ 27 ก.ย. 47 20:02:57 ]

ความคิดเห็นที่ 6 16 ปลาโลมาปากยาว (Long-beaked Common dolphin) ชื่อวิทยาศาสตร์ Delphinus capensis (Gray, 1828) Family Delphinidae โตเต็มที่ยาว 2.6 ม. หนัก 135 กก. เดิมปลาโลมาตัวนี้มีชื่อแค่ “โลมาธรรมดา” (common dolphin) แต่ต่อมาได้มีการสังเกตเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ พบว่าปลาโลมาของเราตัวนี้มีปากที่ยาวกว่าชาวบ้านเขา ไม่ใช่ยาวแค่ตัวเดียวนะ แต่กี่ครั้งๆ ที่พบเห็นปลาโลมาชนิดนี้ในไทยมันก็ยาวเหมือนๆ กันหมดจึงได้ตั้งชื่อมันซะใหม่ให้สมตัวหน่อยเป็นปลาโลมาปากยาว และตอนนี้อยู่ระหว่างการเปรียบเทียบตัวอย่างทาง anatomy และ DNA ว่าจะเป็นชนิดใหม่ของโลกหรือไม่ (ลุ้นๆ) แม้ชื่อเดิมจะเป็นปลาโลมาธรรมดา แต่สำหรับผมแล้วเห็นกี่ครั้งๆ ก็คิดว่าไม่ธรรมดาเลย สีสันสวยกว่าใครเพื่อนเลยนะตัวนี้ ด้วยลวดลายสีดำเทารอบดวงตาพาดผ่านไปตามลำตัวถึงช่องเพศ และอีกแถบจากปากไปยังครีบว่ายน้ำ (flipper) ตัดกับพื้นสีเหลืองจางที่ส่วนหัว และพื้นสีขาวที่ส่วนท้อง เห็นแถบสีดำเป็นรูปตัว V ชัดเจนที่กลางหลังบริเวณฐานครีบหลัง ลวดลายการไล่สีบนลำตัวแตกต่างกับปลาโลมาชนิดอื่นชัดเจน พบได้เพียงภาคใต้ ฝั่งอ่าวไทยเท่านั้น เช่นที่จังหวัดประจวบฯ และสุราษฎร์ธานี แน่นอน สีสันเด็ดดวงขนาดนี้ไม่พลาดที่จะถูกจับไปไว้สวนสัตว์น้ำ ภาพวาดนี้เป็นภาพเก่า ซึ่งคนวาดได้ใช้แบบจากต่างประเทศเป็นหลักในการวาด ปากยังสั้นอยู่ สว่นรูปวาดล่าสุดผมไม่มี file เป็นภาพที่แก้ไขส่วนปากแล้ว จากคุณ : สามศูนย์สอง - [ 27 ก.ย. 47 20:04:11 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตัวในไทยต้องปากยาวแบบนี้ สีเหลืองที่แก้มหายหมดเพราะมันตายแล้ว แช่แข็งมาเป็นเดือน จากคุณ : สามศูนย์สอง - [ 27 ก.ย. 47 20:04:38 ]

ความคิดเห็นที่ 8 17 ปลาโลมากระโดด (Spinner dolphin) ชื่อวิทยาศาสตร์ Stenella longirostris (Gray, 1828) Family Delphinidae ชื่อนี้ตรงตัวมากในชื่อสามัญ “Spinner dolphin” เพราะมันชอบที่จะกระโดดหมุนตัวแบบควงสว่าน (ไม่ใช่ตีลังกานะ) แล้วทิ้งตัวลงน้ำแรงๆ พฤติกรรมนี้ใช้ในการสื่อสารด้วย โตเต็มที่ยาว 2.1 ม. รูปร่างเพรียว ลำตัวยาว ปากค่อนข้างเล็กยาว สีสันคล้ายปลาโลมาปากขวด โดยมีแถบสีดำชัดมาก พาดจากหางตาไปยังครีบว่ายน้ำ ต่างกันตรงที่สีตัวจะเป็นสีดำเทาอ่อนกว่าปลาโลมาปากขวด และท้องมีสีขาว บางรายพบสีตัวเป็นสีเทาอมน้ำเงิน และครีบหลังเล็กกว่าปลาโลมาปากขวดมาก พบบริเวณน้ำลึก รวมฝูงกับปลาวาฬนำร่องและปลาวาฬหัวแตงโม อาหารหลักเป็นปลากลางน้ำ ปลาทูน่า ก็เลยเข้าไปติดอวนปลาทูน่าบ่อยๆ จนจำนวนเหลือน้อยเต็มทน พบได้ในเขตน้ำลึกนอกชายฝั่งทั้ง 2 ฝั่งทะเลของไทย สามารสังกตุเห็นได้ในระยะไกลเพราะชอบว่ายน้ำผงกหัวขึ้นเหนือน้ำด้วย จากคุณ : สามศูนย์สอง - [ 27 ก.ย. 47 20:05:35 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตัวนี้ไม่รู้เพราะมุมกล้อง แสง หรืออะไร แต่ภาพที่ได้ สีอ่อนมากจนเห็นตัวเป็นสีน้ำเงินเลย จริงๆสีเข้มกว่านี้หน่อย จากคุณ : สามศูนย์สอง - [ 27 ก.ย. 47 20:05:56 ]

ความคิดเห็นที่ 10 18 ปลาโลมาลายแถบ (Striped dolphin) ชื่อวิทยาศาสตร์ Stenella coeruleoalba (Meyen, 1833) Family Delphinidae โตเต็มที่ยาว 2.7 ม. คล้ายโลมากระโดด แต่ตัวนี้ลำตัวอ้วนป้อมกว่า จะงอยปากใหญ่สั้นกว่าเล็กน้อย โคนหางเล็กเป็นสันแบน ครีบว่ายน้ำค่อนข้างเล็ก มีลวดลายสวยพอตัว คือ มีแถบดำพาดจากหางตาไปครีบว่ายน้ำ และไปยังช่องเพศ หลังสีน้ำเงินเทาเข้มไล่ลงไปยังส่วนท้อง และลายละเอียดอื่นๆอีกที่ดูค่อนข้างยากในธรรมชาติ แต่รวมๆแล้วตัวนี้ดูปุ๊บรู้ปั๊บเลยว่าเป็น ปลาโลมาลายแถบแน่ๆ เพราะลายเยอะกว่าเพื่อน พบอยู่รวมกับปลาโลมาปากยาว สามารถกระโดดได้สูงถึง 7 เมตร อาศัยอยู่แถบน้ำลึก กินปลากลางน้ำเป็นอาหาร เช่นปลาทูน่า จนได้รับขนานนามว่า “นักล่าปลาทูน่าตัวยง” และก็มักเข้าไปตายในอวนปลาทูน่าด้วย เป็นปลาโลมาที่มีเยอะที่ญี่ปุ่นและชาวญี่ปุ่นนิยมจับ เอาไป “กิน” -_-“ พบทั้ง 2 ฝั่งของทะเลไทย จากคุณ : สามศูนย์สอง - [ 27 ก.ย. 47 20:07:07 ]

ความคิดเห็นที่ 11 โลมาตัวนี้ดูหน้าแล้วรู้จักเลยจริงๆ ลายพาดหลายเส้นชัดมาก จากคุณ : สามศูนย์สอง - [ 27 ก.ย. 47 20:07:31 ]

ความคิดเห็นที่ 12 19 ปลาโลมาลายจุด (Spotted dolphin) ชื่อวิทยาศาสตร์ Stenella attenuata (Gray, 1846) Family Delphinidae มีลำตัวยาวเล็ก เป็นปลาโลมาไส้กรอก เพราะยาวแบบลีบๆ อิ อิ โตเต็มที่ยาว 2.3 ม. น้ำหนัก 90 - 115 กก. สีเทาดำตลอดตัว มีลักษณะเด่นคือ จุดประด่างสีเทาประปรายที่ปากล่างและลำตัว ครีบหลังสีดำไม่มีจุดด่างต่างกับพวกเขตหนาวที่จะมีจุดประทั้งตัว เป็นโลมาที่ฉลาด ว่ายน้ำเก่ง และเร็ว ชอบกระโดด ที่ว่าฉลาดก็เพราะว่า แย่งกินปลาจากอวนเรือประมงได้โดยที่สามารถหนีออกจากอวนมาได้ด้วย แต่ก็ไม่วายตายเพราะอวนปลาทูน่า บางตัวก็หนีไม่ได้เหมือนกันนิ แต่ที่เข้าไปติดอวนปลาทูน่าไม่ได้เข้าไปกินปลาทูน่านะ ไปแย่งกินปลาผิวน้ำตัวเล็กๆ ที่ปลาทูน่ากินอยู่ต่างหาก สรุปก็เลยตายไปพร้อมๆ กับปลาโลมาลายแถบเลย ที่ญี่ปุ่นก็มีเยอะอีก และเขาก็จับไป... (คงนึกออกนะ) พบทั้ง 2 ฝั่งทะเลไทยบริเวรไหล่ทวีป ประมาณห่างจากฝั่งซักหน่อย (นั่งเรือออกตั้งฉากกับแผ่นดินราวๆ 1 ชั่วโมง) จากคุณ : สามศูนย์สอง - [ 27 ก.ย. 47 20:08:50 ]

ความคิดเห็นที่ 13 รูปด้านข้างมีเห็นชัดว่าตัวยาวและลีบ แต่ไม่เอามาลง เห็นภาพนี้สวยกว่า ถ่ายจากเครื่องร่อนขนาดเล็ก จากคุณ : สามศูนย์สอง - [ 27 ก.ย. 47 20:09:32 ]

ความคิดเห็นที่ 14 20 ปลาโลมาฟราเซอร์ (Fraser’s dolphin) ชื่อวิทยาศาสตร์ Lagenodelphis hosei (Fraser, 1956) Family Delphinidae ชื่อสามัญตั้งโดยให้เกียรติแก่ผู้พบคนแรก คือ คุณฟราเซอร์ (ผมจำนามสกุลท่านไม่ได้ครับ) โตเต็มที่ยาว 1.9-2.4 ม.และ หนัก 160- 210 กก. ลำตัวอ้วน จะงอยปากใหญ่สั้นแต่เห็นได้ชัดเจน คอดหางเล็ก มีแถบหนาสีเข้มพาดจากหน้าไปยังก้นและอีกแถบพาดจากกลางขากรรไกรล่างไปยังโคนครีบ แถบสีนี้จะเห็นไม่ชัดเจนในปลาโลมาชนิดนี้ที่ไทยมีตัวอย่าง แต่ในต่างประเทศเขาบอกว่าจะมีสีสันสวยและชัดมาก ครีบหลังเป็นลักษณะเด่นอีกอย่างคือเป็นรูป สามเหลี่ยมพอดีเป๊ะ อาศัยอยู่เขตน้ำลึก และดำน้ำลึกมากราวๆ 250-500 เมตร กินปลาขนาดเล็ก ปลาหมึก และสัตว์พวกกุ้ง ในไทยเคยพบแค่ตัวเดียว (ตายแล้ว) ที่จังหวัดตรัง ไม่รู้เพราะว่าตายแล้วหรือไม่เราจึงเห็นสีแถบบนตัวแค่จางๆ จากคุณ : สามศูนย์สอง - [ 27 ก.ย. 47 20:10:48 ]

ความคิดเห็นที่ 15 รอยบนตัวเป็นรอยจากการขนส่งจากตรังมาภูเก็ตครับ จากคุณ : สามศูนย์สอง - [ 27 ก.ย. 47 20:11:12 ]

ความคิดเห็นที่ 16 21 ปลาโลมาอิรวดี, หัวบาตร (Irrawaddy dolphin) ชื่อวิทยาศาสตร์ Orcaella brevirostrs (Gray, 1866) Family Delphinidae ตัวเต็มวัย 2-2.75 ม. ลูกแรกเกิดยาว 1 ม. ชาวประมงส่วนใหญ่จะเรียกปลาโลมาหัวบาตร ไม่มีจะงอยปาก หัวกลมมน ดูคล้ายปลาโลมาหัวบาตรหลังเรียบมาก ต่างกันที่ความมีอยู่ของครีบหลัง ปลาโลมาอิรวดีในอ่าวไทยพบมากที่ทะเลสาบสงขลา และจังหวัดตราด นอกนั้นพบประปรายทั่วชายฝั่งอ่าวไทยและตอนใต้ของชายฝั่งอันดามัน เป็นปลาโลมาเพียงชนิดเดียวของไทยที่สามารถพบได้ในแม่น้ำโขง และแม่น้ำสาละวิน ที่มาของชื่อเพราะพบครั้งแรกที่แม่น้ำอิรวดี อาศัยอยู่ได้ทั้งในน้ำจืด น้ำกร่อย และทะเล โดยยิ่งเข้าไปในเขตน้ำจืด ยิ่งพบพวกตัวที่ผิวขาวขึ้น นิยมจับมาเลี้ยงในสวนสัตว์น้ำและบริโภค สถานะปัจจุบันลดลงอย่างน่าใจหาย ตอนนี้รายงานล่าสุดที่ทะเลสาบสงขลาเหลือไม่ถึง 20 ตัว และเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มากๆ ถึงมากที่สุด จากการประมาณการว่าหากไม่มีการทำอะไรเกี่ยวกับกิจกรรมของมนุษย์ที่เข้าไปรบกวนปลาโลมาตัวนี้อย่างมาก น่าจะสูญพันธุ์ไปจากไทยในไม่เกิน 10 ปีนี้ เนื่องเพราะเขตหากินและอาศัยเป็นบริเวณตื้นมาก และมักเข้าไปติด โป๊ะ อวน โพงพาง และอีกสารพัดเครื่องมือประมงที่วางกันเกลื่อนท้องทะเลไทย (วิกฤติพอๆกับปลาพะยูน) จากคุณ : สามศูนย์สอง - [ 27 ก.ย. 47 20:12:47 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เกยตื้นแม่ลูก เสียชีวิตทั้งคู่ที่แม่น้ำโขงส่วนไหนไม่ทราบ แต่มีผู้หวังดีส่งรูปมาให้ที่สถาบันเก็บไว้ครับ จากคุณ : สามศูนย์สอง - [ 27 ก.ย. 47 20:13:09 ]

ความคิดเห็นที่ 18 22 ปลาโลมาริสโซ (Risso’s dolphin) ชื่อวิทยาศาสตร์ Grampus griseus (Cuvier, 1812) Family Delphinidae โตเต็มยาว 2.6 - 3.8 ม. น้ำหนัก 300-500 กก. หัวทู่และแข็งแรง ไม่มีจงอยปากที่ชัดเจน ส่วนหัวมองจากด้านข้างเป็นรูปสามเหลี่ยม ครีบข้างจะโค้งยาว และแหลม ที่หัวด้านหน้าจะมีร่องอยู่ บริเวณลำตัวมีรอยแผลมากมายเป็นลักษณะเด่น คาดว่าเกิดจากการต่อสู้กันเป็นประจำในฝูง บริเวณหน้าอกและหน้าโคนครีบข้างจะมีสีจางเป็นรูปสมอเรือหันปลายแหลมไปทางด้านหาง หลังมีสีเทาดำและมีสีเทาจางด้านท้อง กินปลาหมึกและสัตว์จำพวกกุ้งเป็นอาหาร พบตัวอย่างเดียวในไทย คือที่ อ่าวฉลอง จังหวัดภูเก็ต เมื่อปี 2546 นี้เอง โดยมันได้เข้ามาเกยตื้นและป่วยหนัก ทางสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มที่แล้ว แต่ก็ทนอาการป่วยไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาตอนเช้าวันถัดมา ภาพนี้เป็นการว่ายน้ำเพื่อพยุงไม่ให้จมน้ำหลังจากที่เข้ามาเกยตื้นและพยาบาลให้แล้ว แต่เห็นว่าอาการไม่ดีขึ้นจึงนำเข้าฝั่งมารักษาต่อ จากคุณ : สามศูนย์สอง - [ 27 ก.ย. 47 20:14:46 ]

ความคิดเห็นที่ 19 23 ปลาโลมาหัวบาตรหลังเรียบ (Finless porpoise) ชื่อวิทยาศาสตร์ Neophocoena phocoenoides (Cuvier, 1829) Family Pocoenidae ตัวสุดท้ายแล้วนะครับ ตัวนี้ชาวประมงนิยมเรียกว่า “ปลาโลมาหนู” ตัวเต็มวัยยาว 1.9 ม. ลูกแรกเกิดยาว 70-80 ซม. คล้ายโลมาอิรวดีมาก แต่ขนาดเล็กกว่า ไม่มีจะงอยปาก ครีบข้าง ค่อนข้างใหญ่ปลายแหลม ฟันแบนคล้ายใบพายหรือฟันหน้าของคน คราวก่อนผมเคยบอกไปในเวบหนึ่งว่าคล้ายฟันกรามต้องขอโทษอย่างมากเพราะรีบตอบไปหน่อยลืมนึกเลยบอกไปผิด เพราะครั้งแรกที่ผมศึกษาผมได้เห็นแต่รูปในหนังสือทำให้เข้าใจผิดว่าคล้ายฟันกราม แต่พอได้มาพิสูจน์ซากเองหลายๆตัวเข้าก็เข้าใจ (แต่พูดผิดประจำ) ทั้งลักษณะฟัน และครึ่งหนึ่งของประชากรจะมีตาสีแดง เป็นลักษณะเฉพาะที่ไม่มีในปลาโลมา (dolphin) แต่จะมีเฉพาะในกลุ่มเพอพอย์ซ (porpoise) แต่ภาษาไทยก็เรียกว่าปลาโลมาเหมือนกัน ลักษณะเด่นคือ หลังไม่มีครีบหลังแต่จะมีตุ่มแทน (bumps) อาศัยทางชายฝั่ง อาจจะมีการเข้ามาหากินในแม่น้ำใหญ่ๆที่ติดทะเลบ้างแต่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัยจึงไม่จัดว่าอยู่ในน้ำจืดได้ มักติดอวน จากคุณ : สามศูนย์สอง - [ 27 ก.ย. 47 20:15:49 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นภาพตอนมันตายแล้วเสียดายจัง ตัวหย่ายๆๆ ตายแล้วเสียดายมากๆๆ จากคุณ : โอที้ฮวย - [ 27 ก.ย. 47 20:17:03 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ในรูปซากเกยตื้นแม่ลูกจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในภาพเล็กขยายส่วนหลังบริเวณที่เป็นฐานครีบ (แต่ไม่มีครีบ) ภาพของปลาโลมาริสโซ่ในคคห 18 นั่นมีคนพยุง 3 คนนะครับ อีกคนอยู่ใต้ตัวปลาโลมา เห็นเพียงแค่มือที่จับครีบหลังอยู่ ท้ายนี้ขอความกรุณาเลยนะครับ ทุกคนที่มีโอกาสได้ไปชมโลมาในธรรมชาติไม่ว่าจะที่ใดก็ตาม ขอให้เงียบเข้าไว้เพราะเสียจะทำให้โลมาตกใจแล้วอาจจะทำให้มันย้ายถิ่นไปที่อื่นได้ เรือก็ให้แล่นขนานไปกับปลาโลมาช้าๆ ถ้าหากพบเรือลำไหนเร่งเครื่องเพื่อไล่กวดปลาโลมาโดยหวังเพียงแค่ว่าจะให้คนที่มาชมได้ชมใกล้ๆ ก็รู้ไว้นะครับว่าเรือเหล่านั้นกำลังพยายามกำจัดปลาโลมาไปจากบริเวณนั้นเพราะปลาโลมาจะหนี ตกใจ กลัว อาจจะโดนใบพัดฟันได้ หรืออาจจะไม่เข้ามาบริเวณนั้นอีกก็ได้ ถ้าเราช่วยกันบอกเรือที่พาเราเที่ยวว่าไม่ต้องเร่งเรือตามก็จะดีกว่าครับ ลาไปก่อนครับ สวัสดีครับ จากคุณ : สามศูนย์สอง - [ 27 ก.ย. 47 20:20:58 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ลืมภาพครับ จากคุณ : สามศูนย์สอง - [ 27 ก.ย. 47 20:21:28 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มีความรู้ดีครับ เป็นงานที่ดูมีความสุขไปอีกแบบ จากคุณ : นั่งหน้าจอ - [ 27 ก.ย. 47 20:29:39 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ยอดเยี่ยมมากๆคับ จากคุณ : Cheetah (KapampaBlue) - [ 27 ก.ย. 47 21:00:44 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่ๆ นึกว่ามีแต่หัวบาตรปากขวด ดูภาพนี้สิ เศร้าจริงๆ สลดมากๆ ได้เห็นครั้งแรกแล้วไม่เชื่อสายตาเลย http://www.seashepherd.org/download/taiji/taiji1.jpg http://www.seashepherd.org/download/taiji/pullinginHI.jpg มาจากลิงค์ http://www.seashepherd.org/taiji.shtml แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 47 21:53:25 จากคุณ : Dr.slump - [ 27 ก.ย. 47 21:44:46 ]

ความคิดเห็นที่ 26 โหวตให้เลยนะครับ เป็นกระทู้ที่ดีมากๆ จากคุณ : Nanconnection - [ 27 ก.ย. 47 22:07:31 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เจ๋งมากจริงๆครับ จากคุณ : Icke - [ 27 ก.ย. 47 22:40:00 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ตามมาติดๆ .... ชอบมากกๆๆ เลยครับ ขอบคุณมากกครับ จากคุณ : spec *tum* - [ 28 ก.ย. 47 00:00:43 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เยี่ยมจริงๆครับ... โหวตอีก... ^_^ จากคุณ : Ruudy - [ 28 ก.ย. 47 00:21:31 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ตามมาขอบคุณอีกกระทู้ครับ จากคุณ : Enola - [ 28 ก.ย. 47 00:51:44 ]

ความคิดเห็นที่ 31 มาให้ความรู้กันอย่างนี้ได้อย่างไร!? อยากโง่ๆๆๆๆๆๆ แฮะๆๆ ล้อท่านเล่นแล้ว เยี่ยมมากกก..กะ จากคุณ : ปูจักจั่น - [ 28 ก.ย. 47 01:15:08 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ข่าวเมื่อเช้า โลมาอิรวดี จะได้ขึ้นทะเบียนของไซเตส ในวาระการประชุมที่จะถึงคราวนี้ค่ะ จากคุณ : ป้าหนอน - [ 28 ก.ย. 47 03:12:04 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณอีกครั้งค่ะ ^_- จากคุณ : แมวขี้เหงา - [ 28 ก.ย. 47 03:16:34 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณค่ะ ดีใจที่ได้อ่านค่ะ จากคุณ : ชมทะเล - [ 28 ก.ย. 47 04:39:24 ]

ความคิดเห็นที่ 35 หายไปซะนานา แอบทำเรื่องดี ๆ แบบนี้นี่เอง จากคุณ : นานา (นานานะ) - [ 28 ก.ย. 47 05:00:15 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณมากค่ะ ที่นำเรื่องดีๆๆที่น่ารู้มาให้อ่านค่ะ อ่านแล้วชอบมากๆๆค่ะ ชอบไปดูปลาวาฬค่ะ แต่ไม่ได้รายละเอียดถีงขนาดนี้ จากคุณ : pim aloha - [ 28 ก.ย. 47 06:10:14 ]

ความคิดเห็นที่ 37 แจ๋วสุดยอดครับ เคยเจอโลมาตัวจริงเป็น ๆ ตอนดำน้ำแค่ครั้งเดียวในชีวิตเองครับ ชอบโลมามากกกกก วาฬก็ชอบครับ โหวตอีกครั้งครับ ^_^ จากคุณ : ปิติ99 - [ 28 ก.ย. 47 07:53:12 ]

ความคิดเห็นที่ 38 จากคุณ : ingorm - [ 28 ก.ย. 47 09:11:21 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ยอดเยี่ยมกระเทียมเจียว ไปเลยครับท่านนนน^_^ อยากไปดำน้ำดูตัวจริงจังเลยอ่ะ สงสัยจะน่ารักน่าดู จากคุณ : Frontona - [ 28 ก.ย. 47 09:30:10 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ภาพที่คุณDr.slump ในคคห 25 เสนอมานั้นน่าจะเป็น ปลาโลมาลายแถบ อาจจะเป็นการล่าปลาโลมาในญี่ปุ่นซึ่งมีการทำการประมงลักษณะนี้อยู่อย่างปกติ ถึงแม้จะถูกคัดค้านจากหลายๆประเทศทั่วโลก จนถึงขนาดมีการไม่นำเข้าสินค้าจำพวกทูน่า และอาหารทะเลหลายอย่างจากญี่ปุ่น ทางการญี่ปุ่นเองก็ต้องการให้การประมงแบบนี้หยุดลง แต่เนื่องจากขัดแย้งกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของคนญี่ปุ่นที่จะมีการล่าปลาโลมาและปลาวาฬเป็นประจำทุกปี จนตอนนี้ยังขัดกันไม่แววซักที ที่สำคัญใครได้ไปเมือง south Boro ญี่ปุ่น (ชื่อเมืองอาจจะผิดต้องขออภัยเพราะไม่เคยไปครับ) ที่นั่นขึ้นชื่อเรื่องเทศกาลกินเนื้อปลาวาฬเลยล่ะ ซูชิเนื้อปลาวาฬบรูด้า ยังมีให้กินอยู่นะ -_-" จากคุณ : สามศูนย์สอง - [ 28 ก.ย. 47 09:31:11 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เยี่ยมครับ จากคุณ : GAIKING - [ 28 ก.ย. 47 09:48:41 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ผมก็เคยมีโอกาสไปดูปลาโลมาที่บริเวณชายฝั่งบางประกงเหมือนกันครับ แต่ไม่รู้ปัจจุบันยังมีอยู่รึเปล่า ตอนที่ไปดูนั้นมีเรือหลายลำพานักท่องเที่ยวไปดูแล้วก็ขับเรือกวดตามฝูงปลาโลมา ไม่รู้ป่านนี้ตกใจหนีหายไปหมดรึยัง ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆอย่างนี้ครับ แต่ผมอยากได้เรื่องmanta rayแล้วก้อฉลามวาฬด้วยก็ดีครับ ส่วนคห.ที่40น่าจะเป็นเมืองsapporo(ซัปโปโร)มากกว่านะครับ อยากถามอีกเรื่องนะครับ ไหล่ทวีปเนี่ยออกจากฝั่งไปชม.เดียวเองหรอครับแล้วชม.เดียวนี่เรือขนาดไหนอ่ะครับ เพราะปกติเวลาไปตกปลาไต๋เรือพาไปไหล่ทวีปเนี่ยผมใช้เวลาเดินทางด้วยเรือประมงถึง18ชม. จากคุณ : dragon_fish - [ 28 ก.ย. 47 12:12:10 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณมากครับ ได้ความรู้เพียบเลย ปล. แถมปลาพะยูนสายพันธ์ขนฟู กำลังเกยตื้นครับ จากคุณ : หมาร่าหมาหรอด - [ 28 ก.ย. 47 14:53:50 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เก็บไว้ดูดีกว่านะ โหวตด้วยคนจ้า จากคุณ : Joie_Girl - [ 28 ก.ย. 47 15:17:44 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ตอนแรกจะตามอ่านได้จากไหนคะ จากคุณ : นอ้งเสือ (เสือหนาวสีชมพูในห้องสีฟ้าหม่น) - [ 28 ก.ย. 47 17:20:08 ]

ความคิดเห็นที่ 46 คุณ dragon_fish ขอโทษจริงๆ ครับไม่ได้ทวนข้อมูลอีกครั้งก่อนที่จะใส่ลงเวบอาจจะไม่ใช่ 1 ชั่วโมงครับ เพราะว่าเวลาสำรวจปลาโลมา จะใช้การนั่นเรือสับฟันปลาขนานกับชายฝั่ง เดี๋ยวออกไปไกล เดี๋ยวเข้ามา ใช้เวลาสำรวจครั้งละไม่ต่ำกว่า 4 วันครับ ตรงนี้ผมเลยกะจากความรู้สึก ไม่คิดว่ามันจะนานแบบนั้นครับ ประสบการณ์ผมยังน้อยอยู่อาจจะให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนต้องขออภัยด้วยครับ แต่ว่าเรื่องเรือนี่ขอบายครับ ไม่รู้เรื่องเครื่องเรือเลย ความเร็วเท่าไหร่ตอนนั้นไม่ได้สนใจเลย ตอนนั้แค่นั่งไปดูทะเลไปอย่างเดียวครับ ขอบคุณที่มาแก้ข้อมูลให้ครับ ตอนแรกตามดูได้จากอันนี้ครับ http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J3036377/J3036377.html แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 47 19:00:35 จากคุณ : สามศูนย์สอง - [ 28 ก.ย. 47 18:25:18 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ดูไปก็น้ำตาจะไหล จากคุณ : ครีมชีส - [ 28 ก.ย. 47 19:21:46 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณมากๆครับ สำหรับข้อมูล ผมตามหามานานแล้วแต่ไม่เคยได้จังๆ แบบนี้ซะที แล้วก็ขอแทรกทำลายบรรยากาศนิดนึงนะครับ คุณ dragon_fish(และเพื่อนท่านอื่นๆ) ครับ ผมมีบทความดีๆเกี่ยวกับฉลามวาฬที่ได้ ข้อมูลจากหนังสือ M Magazine เดือน ธันวาคม 2543 อยู่ครับ ถ้ายังไม่เคยอ่านรบกวนส่ง e-mail address มาที่ martinimart@hotmail.com ครับ (กรุณาส่งเมล์มาที่ผมก่อนนะครับ อย่าpost ทิ้งไว้ในนี้ จะได้ไม่รบกวนเจ้าของกระทู้ครับ) จากคุณ : เซียวเปียกลี้ - [ 29 ก.ย. 47 20:58:00 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณค่ะ... ขอเก็บไว้นะคะ ^_^ จากคุณ : ปลาไม้ - [ 29 ก.ย. 47 21:51:24 ]

ความคิดเห็นที่ 50 โอว ผมเองก็อยากได้ครับ เรื่องฉลามวาฬ ส่งเมลไปแล้วนะครับ คุณ เซียวเปียกลี้ ส่วนเรื่องกระเบนราหู ผมไม่มีข้อมูลอะไรมากครับ งานนี้คงต้องรบกวนคนที่รู้แล้วครับ จากคุณ : สามศูนย์สอง - [ 30 ก.ย. 47 08:54:10 ]

ความคิดเห็นที่ 51 มีข้อมูลเกี่ยวกับปลาพยูนมั๊ยคะ ชอบอ่ะคะ คิคิคิิ (คนขอก็เหมือนพยูน) จากคุณ : Por -Luem -Tarl - [ 30 ก.ย. 47 16:07:48 A:192.168.106.179 X:202.129.48.162 TicketID:074251 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ผมเองบ้านก็อยู้ใกล้ทะเลครับ แต่เคยมีโอกาสเห็นปลาโลมาอยู่ไม่กี่ครั้ง จำได้ว่าตอนเด็กมีปลาโลมามาติดอวนของลุง กว่าจะมากู้อวนก็ตายไปแล้ว เค้าเลยแล่เนื้อเอามากินกัน ลักษณะมันเหมือนเนื้อวัวอ่ะ(แต่ผมว่ามันก็เหมือนเนื้อคนนะ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเหมือนกัน) เห็นแล้วสงสารครับ กินไม่ลง จากคุณ : ผงพิเศษ - [ 1 ต.ค. 47 01:51:07 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ^^ อ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึกดีจังค่ะ จากคุณ : ^SoFaNaNon^ - [ 1 ต.ค. 47 20:41:29 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เยี่ยมไปเลย จากคุณ : ป๋าค๊ะป๋าขา - [ 1 ต.ค. 47 23:32:33 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ได้ความรู้ปนความเศร้าค่ะ เห็นรูปปลาเหล่านี้แล้วเสียดายค่ะ ไม่อยากให้พวกเค้าตายจากน่านน้ำทะเลเมืองไทยเลย จากคุณ : พี่สาวข้าวตัง - [ 2 ต.ค. 47 12:07:29 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ^_^v จากคุณ : สะใจโรคจิต - [ 3 ต.ค. 47 17:00:13 ]

ความคิดเห็นที่ 57 โหวตอีกหนึ่งเสียง ข้อมูลยอดเยี่ยมมากค่ะ จากคุณ : สาวกันย์ขอแจม - [ 4 ต.ค. 47 16:50:17 A:192.168.5.35 X:210.246.145.133 TicketID:050300 ]