PANTIP.COM : J3072524 คุณเทอร์ คุณมีนะ และเพื่อนๆคุยกันเรื่องร่างพรบ ไม่กินหมาแมว(ท่าแร่)หน่อยค่ะ [สุนัข]

คุณเทอร์ คุณมีนะ และเพื่อนๆคุยกันเรื่องร่างพรบ ไม่กินหมาแมว(ท่าแร่)หน่อยค่ะ

เมื่อเช้ามีเจ้าหน้าที่ของสมาคมพิทักษ์สัตว์ ชื่อคุณทัศนีย์(คุณนา)ให้คำตอบเรื่องร่างพรบ ที่สงสัยเป็นข้อมูลดังนี้ค่ะ
1.เรื่องกำหนดรับเอกสารลงชื่อ-
แต่แรกสมาคมต้องการยื่นทางสำนักกฤษฎีกาเมื่อกลางปีที่ผ่านมา แต่ได้รายชื่อไม่ครบ50,000 เลยยังยื่นไม่ได้ รวมทั้งมีรายชื่อเสียหลายพันชื่อ เพราะไม่มีเอกสารทางราชการ(สำเนาบัตรปชป)ส่งมาด้วย น่าเสียดายจัง
ตอนนี้รวบรวมรายชื่อได้แค่ สองพัน เท่านั้น
ทางเรารวบรวมจากคนในออฟฟิดน่าจะได้ประมาณ10-20คนค่ะ แต่จากคนในที่ทำงาน เอาไปแจกต่อต้องขอดูยอดรวมอีกที ( พี่ที่บริษัทขายผ้าบอกว่าแจกไป50ใบ ไม่รู้จะได้กลับมากี่ใบ)
เราใช้วิธีเตรียมซองเอกสารใหญ่ไว้บนโต๊ะ แล้วให้เขาแม็กเอกสารราชการ เซ็นชื่อทับสำเนาตัวใหญ่ๆว่า เพื่อยื่นพรบ ป้องกันการทารุณสัตว์ ลงวันที่ แล้วเอาใส่ซองเอง ห้ามใครเปิดแอบดู(เราด้วย) หมดวันเก็บใส่เก๊ะล็อคเอา
เอกสารราชการพวกนี้ใครๆเขาก็ต้องระวังเป็นธรรมดาคะ เราเองก็ไม่ไว้ใจใครเหมือนกัน เซ็นทับรูปถ่ายสวยๆ ซะตัวใหญ่เป้งเลย
แล้วถามทางสมาคมว่า เขาเตรียมทำเรื่องนี้เผยแพร่ยังไง
คุณนาตอบว่า จะจัดทำเอกสารแจก แต่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการจัดเเตรียมอีก--ตอนนี้เลยยังไม่ได้ทำ(Y_Y โถ-)
มีต่ออีกเดี๋ยวไปกินข้าวก่อน--เพื่อนอยากถามหรือแนะนำอะไรได้เลยค่ะ

แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 47 23:13:00

จากคุณ : น้องต๋าว - [ 18 ต.ค. 47 12:14:26 ]

ความคิดเห็นที่ 1

ดิฉันอยากช่วยค่ะ หลังไมค์ได้ จะช่วยเซ็นต์ เพราะหมาที่บ้าน ถ้าหายไป ก็คือโดนใครอุ้มไปกินแน่ๆ ทุกวันนี้ชาวบ้านแถวนั้นเลี้ยงหมาไปประสาทกินไป ไม่รู้วันไหนโดนอุ้มไปกินบ้าง บ้านชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ไม่ได้รั้วรอบขอบชิด เลี้ยงหมาแบบปล่อยให้เดินเที่ยวเล่นไปมาหาสู่กัน (แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่รัก) ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกคนงานมารับจ้างเกี่ยวข้าวหรือทำสวน ซึ่งเป็นคนต่างถิ่นมาเป็นช่วงๆค่ะ จับมือใครดมยาก เคยได้ยินว่า พวกเพิงรับจ้างเกี่ยวข้าว พอย้ายออกไป ไปดูที่เพิง เห็นหนังหมาเป็นตั้งเลยค่ะ เฮ้อ...เศร้า

ส่วนหมาของดิฉันตอนเย็นต้องเก็บใส่กรงค่ะ เลยจากเคยเลี้ยงหมาได้หลายตัว ตอนนี้เหลือตัวเดียวเท่านั้น เพราะสะดวกในการไล่ตะครุบใส่กรง

จากคุณ : Pride - [ 18 ต.ค. 47 12:36:16 ]

ความคิดเห็นที่ 2

กระทู้นี้แตกจากเรื่องนี้ ที่คุณเทอร์ลงไว้ค่ะ
http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J3055231/J3055231.html
คุณPride - สวัสดีค่ะ บ้านอยู่แถวไหน ถึงโดนทำแบบนี้ค่ะ โอ๊ย--ถ้าหมาเราถูกขโมยไปกิน --จ๋อยๆๆไม่อยากจะคิดT_T
ช่วยๆกันลงชื่อแล้วกันค่ะ เอกสารคือสำเนาทะเบียนบ้านและสำเนาบัตรประชาชน เซ็นทับตัวใหญ่ๆอย่างที่บอกเลยน่ะค่ะ แล้วก็เอกสารร่วมลงชื่อเดี๋ยวจะก็อปปี้มาลงไว้ให้ ต้องพิมพ์ออกมากรอกค่ะ
ถ้าเพื่อนๆคนไหน ไม่สามารถพิมพ์ได้ให้แจ้งเบอร์แฟกซ์หลังไมค์น่ะค่ะ จะแฟกซ์ไปให้ค่ะ

จากคุณ : น้องต๋าว - [ 18 ต.ค. 47 12:52:00 ]

ความคิดเห็นที่ 3

ลองคุยกะเพื่อนๆที่ห้องแมวเอาไว้

หายคนก็สนใจจะร่วมด้วยเดี๋ยวจะช่วยรวบรวมด้วยนะค่ะ

เอกสารนี่จะต้องแนบทั้งสองอย่างเลยใช่มั้ยค่ะอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้..เข้าใจถูกรึเปล่า?

จากคุณ : นางสาวแสนดี..sandy - [ 18 ต.ค. 47 12:53:24 ]

ความคิดเห็นที่ 4

ขอบคุณที่แวะมาส่งข่าวนะคะ มีอะไรก็แวะมาส่งข่าวเพิ่มนะคะ

จากคุณ : คุณเทอร์ - [ 18 ต.ค. 47 12:53:26 ]

ความคิดเห็นที่ 5

เอกสารร่วมลงชื่อค่ะ ใช้วิธีคัดลอกแบบฟอร์มนี้ส่งก็ได้ค่ะ
ตามที่อยู่ด้านล่าง
ข้าพเจ้า………………………………..นามสกุล……………………………………อายุ……….ปี
บัตรประจำตัวประชาชน/บัตรข้าราชการเลขที่……………………………………………
ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน เลขที่……………หมู่บ้าน/ซอย……………………………ถนน………………………..ตำบล/แขวง……………………อำเภอ/เขต………………………….

จังหวัด…………………………..รหัสไปรษณีย์………………

ขอร่วมสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ โดย สมาคมพิทักษ์สัตว์(ไทย)

แนบเอกสาร สำเนาบัตรประชาชน
พร้อมเซ็นลายมือรับรองสำเนาถูกต้อง มาพร้อมกันนี้

ลงชื่อ……………………………….

หมายเหตุสำคัญถึงผู้ร่วมลงชื่อ

ในสำเนาบัตรประชาชน ให้เขียนทับตัวหนังสือ หรือ ส่วนหนึ่งส่วนใดของรูปถ่ายบัตรตัวโตๆว่า
" รับรองสำเนาถูกต้อง - ใช้เพื่อสนับสนุนร่าง พรบ.ป้องกันการทารุณสัตว์เท่านั้น "
เพื่อกันพวกมิฉาชีพ นำไปทำธุรกรรมใดๆค่ะ

จัดส่งทางไปรษณีย์ไปที่นี่

สมาคมพิทักษ์สัตว์ (ไทย)
55/82 หมู่บ้านคลองจั่นวิลล่า 7 ถ.สุขาภิบาล 3 แขวง
สะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ 10240
โทรศัพท์ 0-2373-2886 โทรสาร 0-2373-2886

แก้ไขเมื่อ 02 พ.ย. 47 12:19:17
แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 47 23:17:37
แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 47 16:14:44
แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 47 16:08:42
แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 47 14:44:40

จากคุณ : น้องต๋าว - [ 18 ต.ค. 47 12:55:05 ]

ความคิดเห็นที่ 6

เห็นภาพแล้วสะเทือนใจมาก อยากให้ภาพนี้หายไปจากประเทศไทยครับ
ขอสอบถามข้อมูลนิดนะครับ
- ถ้าเรารวบรวมรายชื่อได้ 50,000 ชื่อขึ้นไป เค้าจะเอาไปทำอะไรต่อ จะไปกฎคุ้มครอง สุนัขหรือว่ายังไง ครับ ขอรายละเอียดตรงนี้ด้วย
- ไม่ทราบว่าการประชาสัมพันธ์ ตรงนี้ทำถึงขั้นไหนและแค่ไหนครับ
ผมกะคร่าว ๆ นะ ถ้ารวบรวมชื่อรายชื่อกันจริง ๆ เนี้ย เขาขอ 50,000 นะ ทำกันจริง ๆ รายชื่อผมว่า ได้เกิน แสนอีก คือผมคิดว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่รายชื่ออ่ะครับ
แต่ถ้าเรามีหน้าที่แค่รวบรวมรายชื่อ ก็คุยกันหลังไมค์มาได้เลยครับหรือ kitideji@hotmail.com เพื่อคุยกันเรื่องวิธีการประชาสัมพันธ์สักนิด เห็นแล้วทนไม่ได้จริง ๆ ครับ
จะช่วยโพสต์ไว้ที่ห้องอื่นด้วยครับ อยากให้ กระทู้นี้เป็นกระทู้แนะนำด้วยอ่ะ
แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 47 13:13:23

จากคุณ : Jorge - [ 18 ต.ค. 47 13:04:33 ]

ความคิดเห็นที่ 7

ใช้แล้วค่ะคุณแซนดี้ ต้องทั้งสองอย่างเลยค่ะ

คุณเทอร์มีเบอร์บัญชีไทยพาณิชย์ หรือ เอเชียไหมค่ะ
จะช่วยบริจาคด้วย ส่งให้ทางหลังไมค์น่ะค่ะพี่-ขอบคุณค่ะ

เรื่องการจัดส่งเอกสารค่ะเพื่อนๆ
ขอให้ส่งทางไปรษณีย์น่ะค่ะ อย่าแฟกซ์ไป เพราะเขาอาจได้เอกสารไม่ครบหนะค่ะ
ทางเราเองจะรวบรวมจากเพื่อนๆพี่ๆในที่ทำงาน ถึงสิ้นเดือน พย แล้วส่งค่ะ( เพราะธันวาจะลาพักร้อน)
ถ้าเพื่อนๆคนไหน อยากฝากให้ส่งไปพร้อมกัน ขอที่อยู่น้องต๋าวได้หลังไมค์น่ะค่ะ ก่อนส่งจะมาแจ้งให้ทราบว่าได้กี่รายชื่อ-ดีไหมค่ะ เราจะได้นับกันคร่าวๆว่าขาดเหลืออีกเท่าไหร
จริงๆแล้ว ยิ่งได้ครบตามจำนวนเร็วมากเท่าไหร ทางสมาคมก็สามารถยื่นเรื่องได้เร็วมากขึ้นเท่านั้นน่ะค่ะ

จากคุณ : น้องต๋าว - [ 18 ต.ค. 47 13:07:12 ]

ความคิดเห็นที่ 8

ร่วมด้วยช่วยกันค่ะ เดี๋ยวจะเกณฑ์คนที่บ้านและนอกบ้านมาช่วยกันเซ็นต์และส่งไปค่ะ

จากคุณ : เบญจลักษณ์ - [ 18 ต.ค. 47 13:30:13 ]

ความคิดเห็นที่ 9

น้องต๋าว พี่นอร่าส่งไปที่หลังไมค์แล้วนะคะ

ส่วนเรื่องรายชื่อ ไม่ทราบว่าเราเอารายชื่อต่างจังหวัดด้วยได้ไหมคะ เพราะเล่าให้พี่หัวหน้าด่านนครพนมฟังคร่าวๆ แล้ว

จากคุณ : คุณเทอร์ - [ 18 ต.ค. 47 13:35:07 ]

ความคิดเห็นที่ 10

พิมพ์ชื่อบนแบบฟอร์มด้านบนได้เลยหรือคะ เดี๋ยวจะได้พิมพ์ไปถ่ายเอกสารแจกให้คนที่บ้านร่วมลงชื่อ เนี่ยหมาบ้านลุงเราก็เพิ่งหายไป 3-4 วัน หายไปจากบ้านแบบไร้ร่องรอย กลัวจะโดนขโมยไปกินมากเลย เห็นรูปเจ้าหมาน้อยที่ถูกแขวนคอแล้ว ปากยังสั่นไม่หาย โกรธมากๆ หมาเป็นสัตว์ที่รู้ประสา ซื่อสัตย์กับคน รักคน ไม่เข้าใจพวกที่จับมันมากิน ไม่เคยเลี้ยงหมารึไง หรือไม่เคยได้รับความรัก ใจโฉดจริงๆ มีกระแสต่อต้านขนาดนี้ยังหน้าทนทำเข้าไปได้ เกิดมายังไม่เคยเกลียดใครถึงขั้นแช่งให้ตายตกนรกไปเร็วๆ ขนาดนี้เลย
แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 47 14:02:36

จากคุณ : pyramidas - [ 18 ต.ค. 47 13:53:22 ]

ความคิดเห็นที่ 11

ตอบคุณJorgeน่ะค่ะ คุณนาจากทางสมาคมแจ้งว่า
เมื่อได้รายชื่อครบ50,000 แล้ว จะนำแบบร่างพรบ เสนอทางสำนักกฤษฎีกาเพื่อออกเป็น พรบ ใช้งานได้จริงค่ะ
ขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลาอีกพอสมควร เธอยกตัวอย่างว่า
เคยยื่นหัวข้อเดียว ยังใช้เวลาถึง 3 อาทิตย์ กว่าจะมีการเรียกไต่สวนตามขั้นตอน
ซึ่งถ้ามีรายชื่อไม่ถึง ห้าหมื่นตามกม รัฐธรรมนูญใหม่ไม่สามารถยื่นได้--โอ๊ย ปวดเฮดค่ะ
นึกอยู่เหมือนกันว่า เราอาจเสียเวลาเปล่า ถ้าเขายื่นไม่ผ่าน
แต่ให้ทำมากกว่านี้ เราก็ไม่รู้กม คือ ช่วยเท่าที่ความรู้ความสามารถของเราทำได้น่ะค่ะ
เด๋ยว ทำLink ให้ไปดูตัวร่าง พรบเต็มๆ ที่ทางสมาคมทำไว้เตรียมยื่นค่ะ

จากคุณ : น้องต๋าว - [ 18 ต.ค. 47 14:02:37 ]

ความคิดเห็นที่ 12

ขอบคุณ น้องต๋าวครับ
เอ้ แต่ว่า ต่างประเทศ เนี้ย เค้ามีกฎหมายด้านนี้ยังไงบ้าง หรือว่าแล้วแต่ประเทศ จะกำหนดกันเอง
แล้วมีมั้ยที่เค้าเพาะพันธุ์ สุนัขเพื่อบริโภคเนี้ย เพาะพันธุ์เพื่อบริโภคเลยนะ ไม่ใช่มาเพื่อขายเป็นเพื่อนมนุษย์ (เคยไปอ่านเจอกระทู้นึง เค้าบอกว่า อย่าไปดูถูกวัฒนธรรมของการกินสุนัขของคนอื่น อ่านแล้วหงุดหงิด อยากขอข้อมูลสักนิดครับ)

จากคุณ : Jorge - [ 18 ต.ค. 47 14:16:59 ]

ความคิดเห็นที่ 13

ตกลงคือผมเขียนชื่อ และรายละเอียด ตามความเห็น 5 แล้วก้อส่งไปใช่มั้ยครับ

พร้อมแนบเอกสารไปด้วย ถูกต้องมั้ยครับ โทรสารไปก้อได้ใช่ป่ะครับ

จากคุณ : วี_v - [ 18 ต.ค. 47 14:36:07 ]

ความคิดเห็นที่ 14

สนับสนุน กำลังรวบรวมส่งไปให้อีก ขอให้สำเร็จที่เถอะ

จากคุณ : แม่น้องมณีเกยตื้น - [ 18 ต.ค. 47 14:39:16 ]

ความคิดเห็นที่ 15

ยินดีเข้าร่วม และยินดีล่ารายชื่อมาให้ค่ะ.. รบกวนแฟกซ์แบบฟอร์มให้ด้วยค่ะ หลังไมค์นะค่ะ..

จากคุณ : MUM-DAL - [ 18 ต.ค. 47 14:39:51 ]

ความคิดเห็นที่ 16

คุณเทอร์-คน ตจว ได้หมดค่ะ ขอให้เป็นคนไทยถูกต้องตามกม มีเอกสารสำเนาของทางราชการแนบครบก็ใช้ได้ค่ะ(คุณเทอร์ไปคราวนี้ คงมีเรื่องให้ทำมากขึ้นแล้วล่ะค่ะ :))
คุณ Pyramidas-อย่าลืมสำเนาเอกสารทางราชการด้วยน่ะค่ะ ส่งได้เท่าไร เรามานับด้วยกันอีกทีค่ะ
คุณJorge - เท่าที่เคยได้ยินมาก็มีเกาหลี กับจีน(เพาะเซนเบอนาร์ดเจียะเลยละค่ะ) แต่วัฒนธรรมไทยเราไม่เคยมีการกินหมา กินแมวเป็นปกติน่ะค่ะ อยู่เมืองเขากินได้ก็เรื่องของเขา แต่อยู่เมืองไทย เขาก็ต้องเคารพวัฒนธรรมเราซิค่ะ
อันนี้ต้องไปอ่านที่ คุณหมาป่าเขียนไว้(ดีมั่กๆ)ที่กระทู้เดิม(ตามหาหมาท่าแร่)ก่อนแตกมาค่ะ

จากคุณ : น้องต๋าว - [ 18 ต.ค. 47 14:43:37 ]

ความคิดเห็นที่ 17

คุณv คคห 13 -ว๊าย- อย่าส่งไปทางแฟกซ์เลยค่ะ เด๋วเอกสารไปไม่ครบ เจ้าหน้าที่แนะนำให้ส่งเป็นไปรษณีย์ไปดีกว่าค่ะ
ขอบคุณเพื่อนๆคนอื่นๆด้วยค่ะ ที่ช่วยๆกัน
เด๋วเย็นๆแวะมาดูกระทู้อีกที ขอทำงานก่อนค่ะ

จากคุณ : น้องต๋าว - [ 18 ต.ค. 47 14:48:47 ]

ความคิดเห็นที่ 18

เดี๋ยวจะรวบรวมให้เยอะๆแล้วส่งพร้อมกันทีเดียวเลยค่ะ

จากคุณ : ตัวปลอม 200%v.2 - [ 18 ต.ค. 47 15:32:49 ]

ความคิดเห็นที่ 19

ตามความเห็นของผมนะครับ
ผมว่ายังไงเสียก็ต้องไปขอความสนับสนุนจากคนที่ไม่ได้สนใจเรื่องสุนัขและแมวนะครับ
ถึงจะได้จำนวนครบ 5 หมื่นชื่อ
>>>>แล้วเราจะมีเหตุผลอะไรไปขอความสนับสนุนจากเขาเล่าครับ<<<<
ฉะนั้นผมเห็นว่าเราควรจะมาถกกันด้วยครับ อย่างเช่น….
1.เหตุผลและความจำเป็นที่ต้องผลักดันร่าง พรบ.นี้ออกมา
2.พรบ.นี้จะมีผลคุ้มครองสัตว์ประเภทใดบ้าง เฉพาะหมาและแมว หรือสัตว์ประเภทอื่นด้วย
3.พรบ.นี้จะหยุดยั้งหรือสกัดกั้นคนใจโฉดที่จับหมาแมวไปฆ่าได้มากน้อยเพียงไร
4.ฯลฯ
เชิญทุกท่านแสดงความคิดเห็นกันด้วยนะครับ

แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 47 13:01:27
แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 47 16:14:34
แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 47 16:04:39
แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 47 16:03:13
แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 47 16:01:06

จากคุณ : mkps - [ 18 ต.ค. 47 15:51:15 ]

ความคิดเห็นที่ 20

FAX แบบฟอร์มหลังไมค์ให้ด้วยคะ ยินดีช่วยเต็มที่เลยคะ

จากคุณ : แม่มะกอก (MAKOK25162516) - [ 18 ต.ค. 47 15:55:08 ]

ความคิดเห็นที่ 21

น้องต๋าวจ๋า ไหนบอกช่วงนี้งานยุ่งไง..

จากคุณ : หมาฉันมันเป็นตุ๊ด (หมาฉันมันเป็นตุ๊ด) - [ 18 ต.ค. 47 16:10:20 ]

ความคิดเห็นที่ 22

fax หลังไมค์ให้ด้วยค่ะ

จากคุณ : jadz_kipper - [ 18 ต.ค. 47 16:13:50 ]

ความคิดเห็นที่ 23

ขอเสนอ ให้มี meeting ของห้องจัตุจักรครับ เอาเรื่องไปคุยกันเลย พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

จากคุณ : Jorge - [ 18 ต.ค. 47 16:32:49 ]

ความคิดเห็นที่ 24

ช่วยด้วยคนค่ะ

จากคุณ : น้ำหวาน น้ำผึ้ง - [ 18 ต.ค. 47 17:12:52 ]

ความคิดเห็นที่ 25

เข้ามาแก้ข้อความหลังจากที่คุณmkps มาเสนอแนะ--ดีขึ้นไหมค่ะ(โบราณเขาถึงว่าหลายหัว ดีกว่าหัวเดียว อุอุ)
อันนี้น่าจะครอบคลุมแล้วน่ะค่ะ
แฟกซ์ให้คุณMUM-DALกะ คุณแจ๊ดไปล่ะ
ส่วนแม่มะกอก ต้องหลังไมค์ ส่งเบอร์แฟกซ์มาให้หนูน่ะค่ะ
คุณหมาฉันเป็นตุ๊ด(คิดชื่อได้งายเนีย) - ก็ยุ่งเหมือนเดิมแหละค่ะ แต่เป็นช่วงต่อ ระหว่างส่งโปรเจ็คเก่าไปแล้ว เคลียร์แต่แบบหน้างาน กับ dealโปรเจ็คใหม่อยู่-จริงๆก็ต้องเริ่มๆทำแล้วล่ะ เลยพอมีเวลานิดๆ เจ้าของเขาคงใกล้อยากทวงแบบดูเต็มที่แล้วล่ะ --ยังไม่ได้เริ่มเล้ย แป็วๆๆ

จากคุณ : น้องต๋าว - [ 18 ต.ค. 47 17:17:13 ]

ความคิดเห็นที่ 26

ร่วด้วยช่วยกันคะ
เดี๋ยวจะเกณท์คนลงชื่อให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้คะ

จากคุณ : levvel - [ 18 ต.ค. 47 17:27:06 ]

ความคิดเห็นที่ 27

ผมก็อ่านตามมาหลายกระทู้แล้วนะครับ แล้วได้ยินมานานแล้วด้วยเรื่องกินหมานี่น่ะ ก่อนอื่นขอถามก่อนว่ากินหมาผิดกฎหมายหรือไม่ ?... ก็รู้อยู่แล้วว่าไม่ผิดนะครับ แต่ผมว่าที่ควรห่วงกันก็คือ การทรมานสัตว์ต่างหาก แม้แต่หมู วัว ควาย หรือ ไก่ เขาก็ไม่ให้ฆ่าด้วยการทรมานเลย ส่วนที่คิดว่าหามา 50,000 ชื่อแล้วจะออกกฎหมายหรือ พ.ร.บ. ได้เลย ... ไมใช่นะครับ เป็นการรับไปพิจรณาในสภาต่างหาก แล้วคุณคิดดูว่าควรหรือไม่ที่ไปสั่งว่าเขาควรกินอะไรหรือไม่กินอะไร... แล้วก็ไม่ใช่แต่หมาที่มีจิตใจนะครับ สัตว์อื่นก็มี หมู วัว ควาย คุณเคยเลี้ยงบ้างไหม รู้ไหมว่าตอนเลี้ยงมานานแล้วเห็นมันตายเสียใจแค่ไหน แล้วก็ไม่ต้องเอาพุทธศาสนามาอ้างให้เสื่อม และแช่งให้ตกนรกหรอกครับ รักก็รักทั้งหมด อย่าแบ่งด้วยความรู้สึกชอบส่วนตัว หมาก็เป็นสัตว์เหมือนกัน เมื่อคุณเลือกที่จะไม่กินมันก็ดีแล้ว เพียงแต่คนอื่นเลือกที่จะกินเท่านั้น
ป.ล. ผมก็เลี้ยงหมา เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก รักมันมากด้วย และก็ไม่เคยกินเนื้อหมา ไม่เห็นด้วยกับการทรมาน (สัตว์ทุกชนิดนั่นแหละ) แต่ก็ไม่เห็นด้วยที่จะไปห้ามเขา ทั้งที่ไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมาย พุทธศาสนาสอนให้คนเมตตา ใม่ใช่เลือกที่รักมักที่ชัง

จากคุณ : ฟ้าหม่น - [ 18 ต.ค. 47 17:34:23 A:192.168.200.100 X:202.176.84.196 TicketID:031599 ]

ความคิดเห็นที่ 28

เรื่องร่างพรบ อันนี้ คือ Link เข้าไปอ่านฉบับเต็ม ซึ่งupdate แล้วhttp://www.thaianimallaw.com/ThaiAGA_Law.htm
ส่วนที่เราสนับสนุน คือ มาตรานี้ค่ะ

หมวด 4 / ส่วนที่ 1/ สัตว์เลี้ยง

มาตรา 19 ห้ามมิให้ผู้ใดบริโภคหรือค้า เนื้อ หนัง อวัยวะ หรือซากส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของสัตว์เลี้ยง ประเภทสุนัขและแมว
(น้องต๋าว) อันนี้ชัดเจน เลยน่ะค่ะ เพราะกฎกระทรวงที่ออกเพิ่มเติมใช้อยู่ตอนนี้ คือ ระบุการห้ามค้าซากสัตว์ หมา แมว
พวกใจบาปถึงได้ต้องขนส่งแบบเป็นๆ อยู่ไงค่ะ ไม่งั้นคงส่งท่าแร่แปรรูปแล้วถึงส่งออกนอกประเทศได้

มาตรา 24 เจ้าของต้องไม่ทอดทิ้งให้สัตว์เลี้ยงของตนออกไปร่อนเร่หากินหรือกลายเป็นสัตว์จรจัด
(น้องต๋าว) มาตรา24 จะทำให้พวกเอาหมา แมว ไปปล่อยทิ้ง เป็นภาระกับสังคม โดนจับ ผิดกม เสียที
ซึ่งในแบบร่างพรบ มีครอบคลุมถึง สัตว์ป่า สัตว์เศรษฐกิจ และ สัตว์ทดลอง ซึ่งเราคิดว่าถ้าไปดูประเด็นพวกนั้นเพิ่ม เราจะยิ่งมึนภาษากม หน่ะค่ะ เลยอ่านรวมๆแต่ประเด็นสัตว์เลี้ยง
กรณีที่คุณไม่ได้รักหมา แมว แต่เรื่องพวกนี้คุณจะบอกไม่รู้ไม่เห็นก็คงไม่ได้มั๊งค่ะ
เราอ่านไทยรัฐ ลงวันที่9/10/04 ตลาดเนื่อหมาท่าแร่อยู่ที่กรุงเทพ วันหนึ่งส่งเป็นร้อยๆกิโล
อยากถามว่า มีร้านไหนบ้าง
เคยลงในเมนูว่ามีเนื้อหมาขาย--ในฐานะผู้บริโภค เราไม่ต้องการถูกหลอกให้กินเนื้อหมาค่ะ
ข่าวอยู่ในnotebook เด๋วกลับบ้านจะเอามาแปะให้ดู วันนี้ลืมหยิบมาค่ะ

แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 47 23:12:59

จากคุณ : น้องต๋าว - [ 18 ต.ค. 47 17:37:24 ]

ความคิดเห็นที่ 29

1.>>>>>>>>>>>>ตอบคุณฟ้าหม่นใน คห.27<<<<<<<<<<<<<
คุณฟ้าหม่นลองเข้าไปอ่านเรื่องหมาท่าแร่ในเวปของสมาคมพิทักษ์สัตว์ไทยหน่อยซีครับ
ที่ http://www.thaiaga.org/Thai_Dog%20Slaughterhouse.htm
คุณจะได้มีความเข้าใจต่อเรื่องขบวนการจับหมาไปขายมากขึ้น………

“ แท้จริงนั้นเนื้อสุนัขเป็นเพียงผลพลอยได้ที่ต้องพยายามขายออก เป้าหมายจริงอยู่ที่การส่งออกหนังสุนัข
ซึ่งเริ่มจากการส่งผืนหนังแช่แข็งหรือฟอกแล้วบางส่วน แล้วได้ขยายตัวเป็นการส่งออกสุนัขเป็นๆ
นับพันๆตัวข้ามชายแดนไทย-ลาว ในสภาพเบียดเสียดยัดเยียดยิ่งกว่าบรรทุกสุกร โดยไม่ใยดีต่อบาปกรรม
หรือมาตราฐานการขนส่งและการดูแลสัตว์ ตลอดจนการฆ่าก็เข้าข่ายการทารุณสัตว์จนเห็นได้ชัด ไม่มีการ
ให้เห็นเดือนเห็นตะวัน ไม่มีการให้อาหาร และใช้วิธีทุบหัวเชือดคอทั้งเป็น ”

“ การค้าเนื้อสุนัขมักทำในรูปเนื้อสวรรค์ตากแห้ง ลูกชิ้น หรือเนื้อสดที่ปะปนขายกับเนื้อโคกระบือใน
กรุงเทพฯและทั่วประเทศ ผู้ประกอบการท่าแร่ถึงกับประกาศว่าทุกวันนี้ผู้ที่บริโภคเนื้อสุนัขไม่ใช่คนสกลแต่
เป็นคนกรุงเทพฯที่ไม่รู้ตัว !!!!!!!! ”

“ มีรถปิคอัพออกจากท่าแร่ประมาณ 40 คัน ที่ตระเวนไปเกือบทั่วประเทศ
เพื่อที่จะจับหมาไปชำแหละ แล้วก็มีหมาจำนวนหลาย 100 ตัว
ที่ต้องถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมป่าเถื่อนไปทุกๆวัน!!!!! ”

2.เมื่อเจ้าหน้าที่จับรถขนหมาได้ แล้วส่งฟ้องศาล
แต่ที่สุดแล้ว ศาลสั่งให้คืนหมาแก่ผู้ค้าไป
แสดงว่ากฎหมายของเมืองไทย เท่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ไม่สามารถคุ้มครองชีวิตหมาและแมวได้เลย
[ มีกฎหมายอาญา มาตรา 381 ระบุว่า
“…..ผู้ใดกระทำการทารุณสัตว์ หรือฆ่าสัตว์ โดยให้ได้รับความทุกขเวทนาอันไม่จำเป็น
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ…..”
******แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งขบวนการของพวกใจโฉดพวกนั้นได้***** ]

ดังนั้น เราก็ไม่มีหนทางใดที่ดีไปกว่าต้องเร่งผลักดันกฎหมายใหม่ออกมา
เพื่อให้สามารถคุ้มครองชีวิตของหมาและแมวให้ได้
ร่าง พรบ.ป้องกันการทารุณสัตว์ ฉบับสมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย
http://www.thaiaga.org/Thai%20AGA%20LAW.htm
จึงเป็นความหวังของเราในเรื่องนี้
******** แม้จะต้องใช้ความพยายามในการผลักดันร่าง พรบ.นี้มากเพียงใดก็ตาม
เราก็จะสู้ เพื่อหมาและแมวที่เรารัก******

แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 47 18:16:13

จากคุณ : mkps - [ 18 ต.ค. 47 18:12:40 ]

ความคิดเห็นที่ 30

ตอบคุณฟ้าหม่นค่ะ
เรื่องขั้นตอนการยื่นกฤษฏีกา เพื่อนๆในห้องก็พอทราบบ้างแล้วล่ะจาก คคห11 แต่เราก็ขอบคุณที่เข้ามาให้ความกระจ่างเพิ่มขึ้นนะค่ะ
ส่วนเรื่องการร่วมลงชื่อเพื่อมีส่วนร่วมแสดงออกในฐานะประชาชนชาวไทยที่มีสิทธิ์ออกเสียง เป็นสิทธิส่วนบุคคลค่ะ
ถ้าคุณไม่เห็นด้วยก็ไม่มีใครบังคับคุณลงชื่อได้หรอกค่ะ
(ขั้นตอนการเตรียมเอกสารออกจะยุ่งยาก)
หรือคุณจะหารายชื่อเสนอร่าง พรบให้จับหมา จับแมวกินได้อย่างเสรีในประเทศนี้ คุณก็มีสิทธิ์ทำได้โดยเสมอภาคค่ะ
ประเด็นเรื่องพวกนี้ เราคิดว่าเพื่อนๆได้คุยกันหลายครั้งแล้ว ในกระทู้หมาท่าแร่ที่ผ่านตามา
ความคิดเห็นส่วนตัวที่ทำให้เรายอมใช้เวลาที่มีอยู่ไม่เยอะ กับเรื่องพวกนี้ เพราะ เราไม่อยากให้วันหนึ่ง หมาของเราถูกขโมยไปขายเป็นอาหาร หรือ กินเนื้อหมาตามเมนูเนื้อวัวของร้านอาหาร
(คุณไม่เห็นหรือ ว่าทุกวันนี้ ขบวนการที่ทำมันกว้างขวางออกไปได้ เพราะไม่มีกม กำจัด คุ้มครอง
ทั้งที่คนหมู่มากไม่ได้สนับสนุนให้เกิดขึ้น เพียงแต่ละเลย ที่จะมีส่วนร่วมให้การกระทำนี้หยุดลง)

แล้ววันนี้คุณคิดจะทำอะไรบ้างไหมค่ะ

จากคุณ : น้องต๋าว - [ 18 ต.ค. 47 18:17:46 ]

ความคิดเห็นที่ 31

ขอเสริมอีกนิดครับ คห. 27 ครับ
ที่กำลังเรียกร้องเนี้ย คงไม่มีสิทธิ์ไปห้ามใครกินสุนัข แต่เราต้องการระเบียบในเรื่องนี้ ถ้าจะถือว่าเป็นธุรกิจ ก็ให้ถูกต้องตามลักษณะวิสัยที่ธุรกิจ ควรจะเป็นเช่น มีโรงเชือดที่ถูกต้อง ระบุชัดเจนว่าเนื้อหมานะ หรือมีการเพาะพันธุ์ เหมือนเกาหลีไปเลย (จริง ๆ ก็ไม่อยากให้มีเลยนะ แต่ถ้ามันต้องมีก็ช่วยไม่ได้) ถ้าเรื่องมาถึงตรงนี้ได้ ผมก็พอใจในจุดหนึ่ง
อย่างมากคนที่ไม่กิน ต่อต้านก็ไม่สนับสนุน แค่นั้น ถ้าผู้ประกอบการ ทำธุรกิจ อย่างถูกต้องทำตาม บทบัญญัติ ก็ ok
ปล. คุณไม่สงสารหรือเห็นใจมันบ้างเหรอไง สิ่งมีชีวิต ที่เวลาคุณกลับบ้านแล้วมันจะดีใจทุกครั้งที่คุณมา ไม่ว่าคุณจะให้มันกินหรือไม่ หรือคุณจะตบตี มันยังไง
คุณไม่สงสารมันเหรอ ในเวลาที่คุณเบื่อ ท้อแท้ มันจะเข้ามาอยู่ใกล้ ๆ และอยู่กับเราตลอดไม่ไปไหน
ความแตกต่างระหว่าง วัว ควาย หมู กับสุนัข ตอบตามความจริงเถอะครับ ว่าคุณก็รู้ว่าต่างกันยังไง อย่าอ้างเลยว่าเป็นสิ่งมีชีวิต 4 เท้า หันหลังให้ฟ้า เหมือนกัน
แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 47 18:56:35

จากคุณ : Jorge - [ 18 ต.ค. 47 18:53:57 ]

ความคิดเห็นที่ 32

รับทราบค่ะ
จะ fwd ร่าง พ.ร.บ. + เอกสารร่วมลงนาม ไปให้เพื่อนๆ
อืม... พวกสาขาสิ่งแวดล้อมต้องสนใจแน่ๆ

จากคุณ : FUYUchan - [ 18 ต.ค. 47 21:50:40 ]

ความคิดเห็นที่ 33

บทความจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับเสาร์ที่9ตค2547---ยาวหน่อยแต่ได้รู้ว่า เราเสี่ยงที่จะกินเนื้อหมาแค่ไหน ในกทมข-จังหวัดอื่นไม่รู้ว่าปลอดภัยหรือเปล่า
ก็อปปี้มาทั้งบทความเลยค่ะ
หมาแดดเดียวท่าแร่ ขายดี..เป็นเทน้ำเทท่า

ศูนย์กลางตลาดเนื้อสุนัข ก็รู้กันอยู่ที่ ตลาดบ้านท่าแร่ สกลนคร มีลูกค้า คึกคัก ทั้งวัน แต่จำนวนรถตั้งแต่ รถเก๋ง รถบรรทุกเล็ก�ใหญ่ กลับวิ่งเข้า...วิ่งออก ซอยแคบ แสนแคบหลังตลาดท่าแร่ เหมือนมีงานมหกรรม

ซอยแคบๆซอยนี้ ทะลุไปยังหลัง โบสถ์คริสต์ ที่ตั้งของโรงชำแหละ ...สุนัข...!

ว่ากันว่า ช่วงนี้ชำแหละกันแทบไม่ทัน

“ตอนนี้เอเย่นต์ที่เคยสั่งเนื้อหมา สั่งเพิ่มทุกเจ้า”

ปรีดา (นามสมมติ) วัย 57 ผู้ผลิตเนื้อสุนัขแดดเดียว แห่งบ้านท่าแร่ บอก

ปรีดาจับธุรกิจขายส่งเนื้อสุนัขแดดเดียว...ได้ปีเศษ ขายส่ง กิโลฯละ 90-100 บาท ขายปลีกกิโลฯ ละ 120-150 บาท

ทั้งส่ง...ปลีก...ขายแทบไม่ทัน

ยิ่งมาถึงต้นปี 47 ปรีดาบอกว่า ไม่รู้...ลูกค้า 16 แห่ง ไปทำตลาดอีท่าไหน จึงสั่งเนื้อเพิ่มทุกเจ้า

เคยสั่ง 200 โล ก็เพิ่มเป็น 250 ถึง 300 บางเจ้า...เคยสั่งแค่ 150 ต้นปีสั่งเป็น 500 โล ขณะนี้มีแต่ขยับขึ้นไปไม่มีลด

ลูกค้าสั่งเพิ่ม ไม่ใช่เฉพาะรายปรีดา รายอื่นก็เหมือนกัน บางรายสั่งปริมาณมากขนาด ต้องใส่กระสอบ ถึงเวลาก็เอารถมารอรับกันเลย ปัญหาของธุรกิจผลิตเนื้อสุนัขแดดเดียว ตอนนี้ก็คือ หาสุนัขป้อนไม่ทัน นับวันสุนัขยิ่งหายาก ถูกจับ...ก็บ่อย

ย่างเข้าสงกรานต์ ราคาเนื้อสุนัขแดดเดียวก็ยิ่งแพงขึ้น ราคาขยับตั้งแต่ก่อนสงกรานต์ หลายเจ้าเริ่มกักตุน

เหตุที่ลูกค้าเนื้อสุนัขแดดเดียวเพิ่มขึ้น ปรีดาบอกว่า...อย่างแรก ราคาถูกกว่าเนื้อวัว

แต่ช่วงนี้ ราคาทำท่าจะใกล้กันแล้ว เนื้อวัวแดดเดียว ที่ตลาดราคา กิโลฯละ 150�170 บาท แต่เนื้อสุนัขดีดขึ้นมาที่ 120�140 บาท

“อีกอย่าง เนื้อหมาจะดูน่ากินกว่า บางรายผสมดินประสิว เนื้อจะออกแดงๆ มันๆ รสชาตินุ่ม หอม หวาน ส่วนเนื้อวัว สีธรรมชาติดิบๆแห้งๆ ไม่ชวนกิน

เหตุที่ขายดีต่อมา ปรีดาบอกว่า คนกินส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าคือเนื้อสุนัข

ปรีดาบอกตามที่รู้ว่า ตลาดใหญ่ที่สุด เนื้อสุนัขแดดเดียว อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ในกรุงเทพฯ....

ปรีดายืนยันว่า ถ้ากรุงเทพฯไม่ซื้อ ท่าแร่...ก็อยู่ไม่ได้?

ส่วน...ประเด็นพ่อค้ากรุงเทพฯ จะเอาไปขายต่อที่ไหน ปรีดาไม่ทราบ

สำหรับลูกค้าขาประจำ ปรีดาการันตีทิ้งท้าย สบายใจได้ ...เนื้อแดดเดียวจากท่าแร่ การันตีความสะอาดและความอร่อย

แต่ถ้าไปฟังทรรศนะของนิตย์ แม่ค้าเนื้อสุนัข ใกล้สามแยกท่าแร่ อ.เมือง จ.สกลนคร เนื้อสุนัขแดดเดียว ไม่ใช่สิ่งเดียว ขึ้นชื่อว่าสุนัข ทุกชิ้นส่วนในตัวสุนัข เริ่มตั้งแต่เลือด ลิ้น เนื้อ ไส้ ตับ หาง หนัง หัว หู ทำกินได้ อร่อยหมด

ทำลาบ ลู่ ก้อย ต้มเครื่องใน ฯลฯ ได้รสชาติอร่อยไม่ แพ้เนื้อวัว

พูดไปถึงเนื้อวัว เนื้อควาย แม่ค้าเนื้อสุนัขอย่างนิตย์ มีทรรศนะแตกต่างไปจากคนอื่น เธอบอกว่า วัวควาย ชาวไร่ชาวนาเลี้ยงมาตั้งแต่เกิด แต่เมื่อถึงเวลา จะกินมันลงหรือ จะฆ่ามันได้หรือ?

นิตย์บอกว่า เนื้อสุนัขเป็นทางเลือกใหม่...มีมากมาย ไปที่ไหนก็เห็นก็เจอ สุนัขน่ารักน่าเลี้ยง ก็ไม่ว่ากัน แต่...บางพวก เช่น สุนัขจรจัด สุนัขที่เจ้าของเลี้ยงทิ้งๆขว้างๆ พระเผลอก็เอาไป ปล่อยวัด ไปสร้างปัญหาให้กับพระ-เณร

นานเข้าๆก็ออกลูกหลานเต็มวัด เต็มถนน ขี้เยี่ยวไปทั่ว

หน้าร้อน...ก็เป็นโรคพิษสุนัขบ้า เที่ยวไล่กัดผู้คน จนป่วยเจ็บล้มตาย ทางการต้องใช้งบประมาณมากมายเพื่อป้องกันรักษา

ใครที่ตำหนิคนท่าแร่ว่าใจดำ อำมหิต ขายเนื้อสุนัข กินเนื้อสุนัข แล้วทำไม...คนกินเนื้อวัว เนื้อควาย สัตว์ที่เลี้ยงไว้ใช้งาน ไม่โหดร้ายหรือ?

นกกระจอกเทศ ดูน่ารัก เป็นสัตว์หายาก ทำไม...จึงอนุญาตให้ฆ่าแกงได้

นิตย์บอกว่า ทางการน่าจะเปิดเสรีธุรกิจเนื้อสุนัข อนุญาตให้ทำฟาร์มสุนัขเพื่อบริโภค เพื่อส่งออก

“หมาก็คือหมา อย่าไปคิดมาก มันคืออาหารชั้นดี คนจีนฉลาดหลักแหลม กินหมามานับพันปีแล้ว”

แต่วิถีชีวิต รสนิยมการบริโภคแบบแม่ค้าสุนัขท่าแร่ ก็ไม่ได้ผูกขาดว่า คนบ้านอื่นเมืองอื่นในสกลนครด้วยกัน จะเคลิ้มคล้อยตามไปด้วย

ยิ่งกับ นก ภูมิไสว วัย 67 ปี แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัว ใกล้หนองหาร รสนิยมบริโภคเนื้อสุนัข เป็นปฏิปักษ์กับอาชีพของเธอมากทีเดียว

“พวกขายเนื้อหมา ทำพวกเราร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัว ย่ำแย่”

เพราะชื่อเสียงท่าแร่ สกลนคร นิยมเนื้อสุนัข ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวนับร้อยแห่ง ในสกลนครขายแทบไม่ได้ เพราะคนระแวงว่าจะใช้เนื้อสุนัข

หลายร้านเขียนคำว่า เนื้อวัว...แท้ เติมท้ายป้ายชื่อ

ยิ่งเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัว ท่าแร่ ต้องเลิกไปหลายร้าน เพราะลูกค้าไม่แน่ใจ เข้าร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัว อาจได้ชิมเนื้อสุนัข

ร้านลาบส้มตำก็เจอปัญหาเดียวกัน หลายร้านลงทุนเขียนป้ายยืดยาวเพื่อให้ความมั่นใจ กว่าจะได้ลูกค้าแต่ละคนก็เหนื่อย

เขียนป้าย ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวแท้ ได้ลูกค้าเพิ่มประปราย ต้องช่วยกันคิด หลายๆหัวคิด เจ้าหนึ่งคิดออกว่า ถ้าแขวนชิ้นเนื้อวัว ขาวัวไว้ในตู้หน้าร้าน น่าจะช่วยให้ลูกค้ามั่นใจ ได้มากกว่า...

ร้านแรกเริ่มทำ ลูกค้าก็เริ่มคืนมา ร้านอื่นก็ทำตาม

วันนี้ หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวสกลนครเกือบทุกร้าน จะแปลก ตากว่าก๋วยเตี๋ยวเมืองอื่น มีเนื้อวัวชิ้นใหญ่ หรือไม่ก็ขาวัวดุ้นใหญ่แขวนโชว์

มีเนื้อ มีขาวัว สัญลักษณ์วัวขนานแท้...ป้ายชื่อ คำเขียนรับประกันคุณภาพยืดยาว ก็หมดความจำเป็น

ได้ลูกค้าก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวเจ้าเก่าคืนมาเหมือนเดิม...ถือได้ว่า ธุรกิจก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัว ธุรกิจเส้นขนานกับตลาดเนื้อสุนัขท่าแร่...ถึงจุดลงตัว

ทางใครทางมัน ลูกค้าใครลูกค้ามัน

ความสับสนระหว่างเนื้อวัวแท้กับเนื้อสุนัข ผู้รู้บอกว่า ลองเอาเนื้อนั้นโยนให้สุนัขกิน

สุนัขกิน...แสดงว่าเป็นเนื้อวัวแท้ แต่ถ้าสุนัขเมิน มั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นเนื้อสุนัข ตรรกะนี้เป็นที่รู้กัน...สุนัขไม่กินเนื้อสุนัข.

จากคุณ : น้องต๋าว - [ 18 ต.ค. 47 22:56:52 ]

ความคิดเห็นที่ 34

ในฐานะคนเลี้ยงสัตว์จรจัดตัวจริง ของจริงมานานมากๆโดยที่ไม่เคยเรียกร้องเงินทองใดๆจากใคร เราคิดว่าเราน่าจะมีสิทธิพูดในสิ่งที่เป็นความจริง และเป็นประสพการณืตรงเพื่อให้คนในสังคมเกิดความเข้าใจ โดยเฉพาะคนรักสัตว์ที่มาจากคนหลายกลุ่ม

ถ้ามีกฏหมายเอาผิดคนเลี้ยง โดยไม่ปล่อยให้คนเลี้ยงได้เลี้ยงตามความสมัครใจ ในแบบที่พวกเขารับได้ โดยที่ไม่ได้ทุบตีสัตว์อย่างไร้เหตุผลนั้น ปล่อยให้เขาได้เลี้ยงไปเถอะ ดีกว่าไปตั้งกฏนั่นกฏนี่จนคนเลี้ยงบางกลุ่มเกิดความหวาดกลัวและไม่เป็นตัวของพวกเขาเอง จนพากันโยนสัตว์ออกมาที่ถนนมากมายก่อนที่พรบ.นี้จะออกมาเพื่อปัดความรับผิดชอบก่อนที่กฏหมายจะไปถึงตัว

พวกเราคนเลี้ยงสัตว์จรจัดตัวจริงต่างรับภาระกันหนักมากอยู่แล้ว เพื่อนบางคนล้มเจ็บและหลายคนตาย ตายจริงๆ สิ้นชีวิตน่ะเพราะภาระหนักมาก พักผ่อนกันไม่พอร่างกายจึงอ่อนแอกันลงเรื่อยๆ จนเสียชีวิตไปง่ายๆ

ชั้นจึงจำต้องมาเขียนความเป็นจริงในอีกส่วนของคนเลี้ยงสัตว์จรจัดทั้งหลายที่ไม่ได้ทำเพื่อเอาหน้า เอาชื่อเสียงใดๆกัน ว่าได้โปรดเห็นใจคนเลี้ยงสัตว์จรจัดตัวจริงทั้งหลายเหล่านี้ด้วย

พวกเราภาระหนักเกินพอในทุกวันนี้อยู่แล้ว ถ้าขืนกฏหมายออกมาอีก คงจะรับกันไม่ไหวแน่ กรรมทั้งหลายทั้งปวงจะไปตกอยู่กับสัตว์ที่น่ารักน่าสงสาร

การเลี้ยงสัตว์ควรให้เป็นไปด้วยความสมัครใจ ไม่ควรจะบังคับคนเลี้ยงจนเกินไป ทั้งนี้เพราะคนเลี้ยงสัตว์มีหลายประเภท มาจากชนชั้นที่ต่างระดับทางสังคม ความคิด ฐานะ และนิสัยใจคอ และคนระดับล่างที่เลี้ยงตามมีตามเกิดตามบ้านนั้นมีมากกว่าคนที่เลี้ยงอย่างดี เลี้ยงเหมือนลูกอย่างมากมายหลายสิบเปอร์เซนต์ถ้าจะเทียบจำนวนประเภทคนเลี้ยงสัตว์ตามบ้านกัน (ไม่ได้รวมคนเลี้ยงสัตว์จรจัด)

ถ้าหากมีข้อจำกัดมากจนคนเลี้ยงประเภทชาวบ้านๆระดับรากหญ้าทั่วไปที่เขารับกฏหมายใหม่ไม่ได้ พวกเขาจะพากันโยนสัตว์ออกมาตามถนนชนิดมืดฟ้ามัวดิน
อันที่จริงเหตุการณ์นี้ได้เกิดมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน ครั้งที่มีการพูดถึงพรบ.เลี้ยงสัตว์กันใหม่ๆหลายปีก่อน ที่มีข้อกำหนด หรือข้อจำกัด บังคับคนเลี้ยงเคร่งครัด

ช่วงนั้น ชั้นและเพื่อนๆในกลุ่มเลี้ยงหมาแมวจรจัด ต้องผจญกรรมเวรกับความกลัวของคนเลี้ยงระดับชาวบ้านๆที่เงินน้อย หรือแม้บางคนเงินมาก แต่ไม่ต้องการความรับผิดชอบมากๆ ก็ได้พากันปล่อยสัตว์ออกมาเผชิญชะตากรรมตามท้องถนนหนทางมากมายในช่วงนั้นเพราะกลัวกฏหมายใหม่จะออกมาเลยชิงปล่อยสัตว์กันออกมาซะก่อนส่วนหนึ่ง

ซึ่งในที่สุดก็ตกหนักที่กลุ่มคนเลี้ยงสัตว์จรจัดตัวจริงอย่างชั้นและเพื่อนๆของจริงอีกหลายๆคน ที่เหน็ดเหนื่อยกันแทบเอาชีวิตไม่รอด ทั้งนี้เพราะสัตว์เดิมๆก็ช่วยเหลืออยู่ก็เยอะเต็มมืออยู่แล้ว ต่างต้องมาแบกภาระสัตว์ใหม่ๆที่ถูกระดมทิ้งออกมากันวันหลายๆตัวผิดกว่าแต่ก่อนที่เป็นมาอย่างมืดฟ้ามัวดิน หนักกันสุดไปเลย

ที่สุดเวลาผ่านไปหลังจากนั้นไม่นานชั้นต้องเสียผู้ใหญ่ที่รู้จักและนับถือในแวดวงคนเลี้ยงสัตว์จรจัดที่นับถือกันอยู่ไปหลายคน จากการเสียชีวิตของบุคคลเหล่านั้นเนื่องจากคนเหล่านั้นทำงานหนักเกินไปในช่วงที่มีการพูดถึงพรบ.บังคับเจ้าของสัตว์ จนทำให้เจ้าของสัตว์หลายๆคนที่คิดไม่เหมือนกับคนในนี้พากันปล่อยสัตว์ออกมาเผชิญชะตากรรมตามวัดและท้องถนน และคนเลี้งสัตว์จรจัดต้องระภาระเพิ่มขึ้นอย่างเกินกำลังมาจนทุกวันนี้

สัตว์เหล่านั้นที่ชั้นๆและพรรคพวกที่เลี้ยงสัตว์จรจัดพอช่วยรับสัตว์ที่ถูกทิ้งออกมาเหล่านั้นกันได้ในจุดต่างๆของกทม.ที่ช่วยไว้ได้ทันมาถึงมือพวกเราได้ก็จริงในส่วนหนึ่ง ไม่ทั้งหมดก็เรียกได้ว่าต่างหนักหนาสาหัสแทบจะเอาชีวิตไม่รอดกันอยู่แล้วในทุกวันนี้

แต่ที่แน่ๆและหนักกว่าพวกเราคนเลี้ยงสัตว์จรจัดก็คือสัตว์...หมา...แมว พวกที่พวกเราช่วยกันไม่ทันหรือมาไม่ถึงมือเรา หรือมือเราเอื้อมไปไม่ถึง (เพราะคนเรามีข้อจำกัดหลายอย่าง)

พวกสัตว์เหล่านั้น ทั้งหมาและแมว ถ้าไม่ถูกรถชนตาย พิการ บาดเจ็บ เป็นโรคฯลฯ ขาดอาหาร หรือ อาหารไม่ดี อาหารไม่พอ เป็นที่รองรับอารมณ์จากเหล่าคนพาลเกเร ใจดำ ถูกรังแก ถูกตีจากมือและสารพัดอาวุธ ถูกเตะ ถูกน้ำร้อนลวก ถูกพวกท่าแร่ยกขบวนคาราวานรถจับไปฆ่า หรือทำธุรกิจ ถูกคนจรจัดจับฆ่ากิน ถูกพวกก่อสร้างจับไปฆ่า ถูกกากเดนมนุษย์ทำร้าย เคราะห์กรรมหนักๆทั้งหลายอย่างที่หลายคนคาดไม่ถึงฯลฯ

ชั้นและพรรคพวกเลี้ยงสัตว์จรจัดตัวจริงที่ทำเงียบๆมานานมากกว่าสิบปีโดยไม่ได้เปิดตัวขอรับบริจาคจากสังคมแต่มีประสพการณ์ของจริง ได้รู้เห็นข้อเท็จจริงในหลากหลายแง่มุมมาหลายสิบปีแล้วจึงขอฝากให้คนรักสัตว์ทั้งหลายที่ยังไม่ได้มีประสพการณ์ตรง หรือสัมผัสอย่างลึกซึ้งมาเพียงพอที่จะรู้เห็นอะไรเป็นอะไรจนแน่ใจ หรือว่าบางคนที่รักสัตว์อาจจะมีใจช่วยเหลือสัตว์แต่ว่ายังผิวเผินอยู่ไม่ได้ลึกซึ้งอะไรมากหรือไตร่ตรองยังไม่เพียงพอ ที่จะเข้าใจและมองเห็นในอนาคตหรือกาลข้างหน้าได้เมื่อบทลงโทษคนเลี้ยงแรงๆออกมาแล้ว แทนที่จะเป็นคุณต่อสัตว์กลับจะมีผลในทางตรงกันข้ามสำหรับจำนวนสัตว์หลายสิบเปอร์เซนต์ที่ไม่ได้โชคดีมีเจ้าของที่ตั้งใจเลี้ยง

ทั้งนี้เพราะเจ้าของสัตว์นั้นประกอบด้วยคนหลายระดับ หลายประเภท ต่างความคิดจิตใจ กำลังทรัพย์ กำลังแรงงาน ความเข้าใจ ฯลฯ

มากกว่า70เปอร์เซนต์ที่เจ้าของสัตว์หรือผู้เลี้ยงก็คือชาวบ้านธรรมดาๆที่มีจิตเมตตาให้แค่เศษอาหารเหลือๆก็โยนให้หรือรวมไว้ให้ ไม่ได้ตั้งใจเลี้ยงดีเด่มาก คนเหล่านี้แหละที่มักจะเกิดความกลัวที่จะถูกปรับ หรือเสียเงิน ไม่ชอบยุ่งกับหน่วยงานรัฐ หรือไม่มีเวลาดูแลที่เพียงพอเพราะต้องทำมาหากินเช้าค่ำ หรือตั้งใจลงแรงให้สัตว์มากกว่าที่เป็นอยู่ก็จะพากันแห่ทิ้งสัตว์ออกมาเผชิญอันตรายรอบด้านมากขึ้น แล้วอันตรายของจริงมันจะตกอยู่กับใคร นอกจากสัตว์ จะมีคนรักสัตว์ของจริงเพิ่มขึ้นอีกสักกี่คนในจำนวนที่จะเลยจากการนับนิ้วมือที่จะยอมลงทุน ลงแรง ลงเวลา ฯลฯ ให้สัตว์จรจัดที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นจากการถูกทิ้งออกมาบนถนนอีกมากมาย

ฉะนั้นในฐานะผู้เลี้ยงสัตว์จรจัดตัวจริงที่เห็นปัญหา รวมทั้งกลุ่มพรรคพวกคนเหล่านี้จึงขอฝากแง่คิดในอีกมุม ในเรื่องความพอดีที่เป็นกลางๆของกฏหมายต่อคนเลี้ยงตามบ้านว่าขอให้ไตร่ตรองให้รอบคอบและลึกซึ้งกว่านี้ในเรื่องความรับได้ของชาวบ้าน ความรุนแรงของตัวบทกฏหมาย

ที่แน่ๆก็คือ คนเลี้ยงสัตว์หรือเจ้าของสัตว์ในระดับๆชาวบ้านๆทั้งหลายที่แม้คนรักสัตว์บางคนจะดูพวกเขาว่านั่นก็ไม่ดีนี่ก็ด้อยไปนั้น แต่ที่จริงๆแล้วคนเหล่านี้ยังโอบอุ้มสัตว์อยู่ สัตว์ยังปลอดภัยในที่อยู่ ที่กิน แม้จะอิ่มบ้างไม่อิ่มบ้างก็ยังดี ก็ยังประทังชีวิตรอดไปได้

ที่น่าเอาผิดนั้นหาใช่คนเลี้ยงสัตว์ในทุกระดับไม่ น่าจะเป็นคนที่ไม่ได้เลี้ยง คนรังเกียจสัตว์ คนเกลียดสัตว์ คนที่ไม่ชอบสัตว์ คนที่ไม่ได้เคยช่วยแต่ทำทีเป็นดูแคลนคนเจ้าของสัตว์ที่เมตตาจุนเจือสัตว์และให้การอุปถัมภ์สัตว์ตามระดับของเขา พวกนี้แหละคือพวกน่ารังเกียจตัวจริงที่สังคมควรมีบทลงโทษ รวมทั้งให้จ่ายภาษีให้กับกลุ่มหรือหน่วยงานรัฐที่เลี้ยงสัตว์ รวมทั้งหน่วยงานหรือองค์กรเอกชน หรือบุคคลที่เลี้ยงสัตว์จรจัดทั้งหลายถ้าองค์กร บุคคลเหล่านั้นร้องขอมา อีกหน่วยงานที่ควรได้รับการลงโทษก็คือองค์กรรัฐโดยเฉพาะพนักงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงที่หน้าที่ของตัวเองก็ไม่ทำให้ดี ยังเอาความผิดไปโยนใส่ให้เจ้าของสัตว์ที่เลี้ยงไม่ได้ตามเกณท์แห่งการเอาหน้าเพื่อเลื่อนระดับหรือหวังผลงาน แม้จะตั้งหน่วยงานหรือบุคคลากรขึ้นมาช่วยเหลืออย่างจริงใจแท้จริงต่อเจ้าของสัตว์รรวมทั้งคนเลี้ยงสัตว์จรจัดที่ร้องขอไปก็ยังไม่ทำ แต่แค่นจะออกกฏหมายไปเอาโทษพวกเขา หากคนที่เป็นเจ้าของสัตว์ระดับธรรมดาๆหรือว่าจนๆเหล่านั้นทนไม่ได้พากันโยนสัตว์ออกมาทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว จะไม่ยิ่งไปกันใหญ่หรือ คิดดูให้ดี มีสติ อะไรจะแย่กว่ากัน

ทั้งนี้เพราะต้นทุนจริงๆคือชีวิตสัตว์ที่น่าสงสาร หาใช่ระเบียบหรือบทลงโทษคนเลี้ยงสักเท่าใดที่ไม่สามารถจะเปรียบกันได้เลย จะลงโทษคนแต่สัตว์กลับโดนหนัก

นี่แสดงว่าพนักงานรัฐไม่ได้ใส่ใจจริงจังว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสัตว์มากกว่าสร้างผลงาน อันตรายที่จะเกิดักบคนเลี้ยงน้อยนักถ้าจะเทียบกับที่จะเกิดกับสัตว์ และชั้นทนดูไม่ได้ จึงต้องออกมาให้ข้อคิด พิจารณาและนำไปปฏิบัติถ้ามีความจริงใจกับสัตว์พอที่จะให้ชีวิตมันพออยู่ได้ พอไปได้ แบบพอเพียงธรรมดาๆ ก็นับว่าดีถมแล้ว คงไม่ต้องถึงกับวิเศษเลิศเลออะไร

(ในส่วนของชั้นเอง ไม่คิดจะเรียกร้องเงินทองทรัพย์สินจากใครหรือหน่วยงานใดของรัฐตราบเท่าที่ชั้นพอช่วยเหลือตัวเองและสัตว์ได้ ดังนั้นจึงไม่เกี่ยวและได้คำนึงว่าขั้นจะเรียกร้องเพื่อตัวเอง)

บทลงโทษคนเลี้ยงในที่สุดแล้ว อย่าให้เป็นบทลงโทษสัตว์ทั้งหลายในที่สุดเลย ขอฝากไว้เพื่อความเป็นธรรมต่อสัตว์และเจ้าของระดับธรรมดาๆหรือรากหญ้าที่การศึกษาน้อยและพวกเขาไม่มีอินเตอร์เน็ตใช้แต่ว่าเลี้ยงสัตว์กันแทบทุกบ้านในหลายๆชุมชนและตรอกซอกของประเทศนี้

จากคุณ : ** ผู้หญิงไทย ** - [ 18 ต.ค. 47 23:59:11 ]

ความคิดเห็นที่ 35

เรื่องทั้งหมดนั้น ความจริงเป็นหน้าที่ของรัฐโดยตรงที่จะต้องจัดหาสถานที่ที่ปลอดภัย อาหาร ยา ความปลอดภัย การทำหมัน สัตว์แพทย์ ผู้ช่วย คนเลี้ยงคนดูแลที่รักสัตว์ให้กับสัตว์จรจัดทุกตัวในประเทศ แทนที่จะเอาผิดคนเลี้ยงที่อาจจะเลี้ยงแบบตามมีตามเกิด(ไม่ใช่ชั้น)ที่ไม่ได้โหดร้าย ทุบตีรังแกสัตว์เลี้ยงของตัวเอง

ถ้าทำยังไม่ได้ แล้วมาหาเรื่องลงโทษเจ้าของที่ส่วนใหญ่เป็นคนระดับรากหญ้า อย่าว่าแต่จะมีอินเตอร์เน็ตเลย เงินจะกินเข้าไปยังหาเช้ากินค่ำกัยอยู่ แต่ว่าพอมีที่อยู่ปลอดภัยพอสมควรให้สัตว์ซุกหัวนอน เศษอาหารให้พอได้กินประทังชีวิต ความรักมากบ้างน้อยบ้าง แต่ไม่รังแก เจ็บป่วยรักษาตามมีตามเกิดบ้าง หรือดูว่าหนักก็พยายามรวบรวมเงินพาสัตว์ไปหาหมอบ้างฯลฯ ด้วยใจ หรือความเมตตา หรือแม้แต่บางคนอาจจะแสดงออกแบบขวางนิดๆแต่ในใจเอ็นดูมัน ชั้นก็เห็นมา คนเหล่านั้นก็เลี้ยงดูสัตว์จนมันตาย และสัตว์เวลาจะตายก็รอเจ้าของประเภทนี้เพื่อตายตาหลับอย่างสงบ ชั้นก็ได้เคยเห็นมา

ดังนั้น ถ้าจะลงโทษ ลงโทษคนในหน่วยงานรัฐก่อนใครอื่นๆที่ไม่จัดสวัสดิการให้เพียงพอต่อเหล่าสัตว์จนคนระดับๆชาวบ้านๆต้องจัดสรรแบ่งสัตว์ไปช่วยกันเลี้ยงช่วยกันดูแล

คนอีกกลุ่มที่ควรถูกลงโทษมากๆคือเหล่าฆาตกรที่ฆ่าสัตว์ กินสัตว์จรจัด คนที่เกลียดสัตว์ ไม่ชอบสัตว์ ไม่เคยช่วยเหลือสัตว์ หรือแสร้งทำเป็นรักสัตว์ คนเหล่านี้ต้องออกภาษีไม่เลี้ยงสัตว์มาอุดหนุนกลุ่มองค์กรคนเลี้ยงสัตว์จรจัด(ไม่ได้ขอให้ตัวเองหรอกค่ะ เพราะว่ายังพอช่วยตัวเองไหวอยู่ค่ะ)
แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 47 00:16:30

จากคุณ : ** ผู้หญิงไทย ** - [ 19 ต.ค. 47 00:16:10 ]

ความคิดเห็นที่ 36

แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 47 00:19:48

จากคุณ : ** ผู้หญิงไทย ** - [ 19 ต.ค. 47 00:17:25 ]

ความคิดเห็นที่ 37

สวัสดีค่ะคุณผู้หญิงไทย
อย่างแรกที่อยากจะบอก คือ รู้สึกขอบคุณและนับถือในสิ่งที่คุณทำอยู่กับเจ้าพวกสัตว์ตัวเล็กๆเหล่านั้นนะค่ะ--และขอบคุณที่คุณใช้เวลาพิมพ์ บอกเตือนในสิ่งร้ายๆที่อาจเกิดขึ้น กับสิ่งที่เราพยายามผลักดันให้เกิดขึ้น บนพื้นฐานของความรักสัตว์และความปรารถนาดี
สิ่งที่คุณพูดเป็นประเด็นที่ดีมากๆเลยค่ะ จะให้ข้อมูลตัวนี้กับทางสมาคม คุยกับเขาดูว่าเขาเตรียมการแก้ไขใดๆไว้บ้าง
ที่เรานึกออกในขณะนี้ คือ เพื่อป้องกันกรณีที่อาจจะเกิดขึ้นได้ กับสิ่งที่คุณกล่าวมา กม ที่ออกมาควบคุมผู้เลี้ยงดูสัตว์ ต้องทำกับสัตว์รุ่นใหม่ๆ ที่มาขึ้นทะเบียนเท่านั้น ไม่รวมถึงพวกที่มีอยู่แล้ว ณ วันที่กม นี้ประกาศใช้
ดังนั้นภาพหมา แมว ถูกเอามาปล่อย ที่เราเคยเห็นกัน ก็ยังอาจมีอยู่ตามวิถีที่เกิดขึ้น ไม่ใช่การเร่งเร้าให้เกิด เนื่องจากผลบงคับใช้ของกม. แต่จำนวนที่นำมาปล่อยจะค่อยๆถูกลดลง จนในที่สุดจะเหลือน้อยลงมากในระยะยาว เนื่องจากสัตว์ส่วนใหญ่เป็นพวกเจเนเรชั่นใหม่ ที่อยู่ภายใต้กม.คุ้มครองแล้ว --พอนึกออกไหมค่ะ
เพื่อนๆคิดว่าอย่างไรกันบ้างค่ะ

จากคุณ : น้องต๋าว (น้องต๋าว) - [ 19 ต.ค. 47 10:08:46 ]

ความคิดเห็นที่ 38

ตอนนี้ถ้ามองกันอย่างเป็นกลางนะ ตัดเอาความรุ้สึกส่วนตัวออกไป
ปริมาณหมาแมวจรจัด จัดได้ว่าเยอะพอสมควร
ถ้าผมจะแบ่ง ออกเป็น 2 แนวทาง
1 กำจัด หมาแมวจรจัด ปัจจุบัน กำจัดอาจแรงไป เอาเป็นว่ามีวิธีจัดการ ควบคุม ดูแล เลี้ยงดู พวกนี้หล่ะกัน
2. จำกัด หมาแมวจรจัด เป็นการลดปริมาณ ลง
เพราะฉะนั้น กฏหมายที่จะออกมา หรือ พรบ. อะไรก็แล้วแต่ อยากให้มี 2 เรื่องนี้ไว้
ไม่มีใครทำให้เรื่องจบได้ทันที แต่เราต้องค่อยๆลด ลง
เราคงจะห้ามใครกินไม่ได้ แต่เราทำให้มันถูกต้องได้
แล้วมาวัดกันไปเลย ว่า ถ้าทำให้เนื้อหมาบริโภคได้อย่างถูกต้อง ผ่าน อย. มอก. รับรองคุณภาพ มีบรรจุภัณฑ์ ที่สวยงาม ระบุชัดเจน จะมีคนบริโภคกันเยอะแค่ไหน

จากคุณ : Jorge - [ 19 ต.ค. 47 10:51:19 ]

ความคิดเห็นที่ 39

เห็นด้วยกับคุณหญิงไทยทุกประการ

จากคุณ : nongthee (nongthee) - [ 19 ต.ค. 47 10:58:04 ]

ความคิดเห็นที่ 40

ช่วยfax แบบ form หลังไมค์ให้ด้วยนะค่ะ จะได้เอาไปถ่ายเอกสารแจกคนที่บ้านให้ช่วยกันค่ะ

จากคุณ : โอ๊ะโอ๋จัง - [ 19 ต.ค. 47 12:38:45 ]

ความคิดเห็นที่ 41

บทความจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับเสาร์ที่ 9 ต.ค.2547 ที่น้องต๋าวเอามาลงใน คห.33
ผมว่าสอดคล้องกับข้อมูลจากทางสมาคมพิทักษ์สัตว์ไทยที่ทำไว้นะครับที่ว่า

“ การค้าเนื้อสุนัขมักทำในรูปเนื้อสวรรค์ตากแห้ง ลูกชิ้น
หรือเนื้อสดที่ปะปนขายกับเนื้อโคกระบือในกรุงเทพฯและทั่วประเทศ
ผู้ประกอบการท่าแร่ถึงกับประกาศว่า
ทุกวันนี้ผู้ที่บริโภคเนื้อสุนัขไม่ใช่คนสกล แต่เป็นคนกรุงเทพฯที่ไม่รู้ตัว !!!!!!!! ”

“ ศูนย์กลางตลาดเนื้อสุนัข ก็รู้กันอยู่ที่ ตลาดบ้านท่าแร่ สกลนคร
มีลูกค้า คึกคัก ทั้งวัน แต่จำนวนรถตั้งแต่ รถเก๋ง รถบรรทุกเล็กใหญ่
กลับวิ่งเข้า...วิ่งออก ซอยแคบ แสนแคบหลังตลาดท่าแร่ เหมือนมีงานมหกรรม ”

“ อีกอย่าง เนื้อหมาจะดูน่ากินกว่า บางรายผสมดินประสิว เนื้อจะออกแดงๆ มันๆ
รสชาตินุ่ม หอม หวาน ส่วนเนื้อวัว สีธรรมชาติดิบๆแห้งๆ ไม่ชวนกิน
เหตุที่ขายดีต่อมา ปรีดาบอกว่า คนกินส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าคือเนื้อสุนัข ”

นั่นก็คือว่า คนที่ซื้อเนื้อหมาไปนั้น ไม่ได้ซื้อไปกินเอง
แต่ซื้อไปปลอมขายเป็นเนื้อวัว!!!!!!!!!!
แล้วคนสกลนครเองส่วนใหญ่ก็ไม่กินเนื้อหมา!!!!!!!!!!!

ฉะนั้น คำกล่าวที่ว่า
“ การกินหมาเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่น คนนอกไม่มีสิทธิ์เขาไปแส่( เ-สื-อ-ก ) ”
จึงเป็นเพียงแค่ข้ออ้างขึ้นมาเพื่อบังหน้าเท่านั้น!!!!!!!!!!
แต่เบื้องหลังจริงๆนั้นคือขบวนการค้าหมาข้ามชาติที่ป่าเถื่อนอำมหิตต่างหาก!!!!!!!!!!
เพราะ…..

“ แท้จริงนั้นเนื้อสุนัขเป็นเพียงผลพลอยได้ที่ต้องพยายามขายออก
เป้าหมายจริงอยู่ที่การส่งออกหนังสุนัข
ซึ่งเริ่มจากการส่งผืนหนังแช่แข็งหรือฟอกแล้วบางส่วน
แล้วได้ขยายตัวเป็นการส่งออกสุนัขเป็นๆนับพันๆตัวข้ามชายแดนไทย-ลาว
ในสภาพเบียดเสียดยัดเยียดยิ่งกว่ารถบรรทุกสุกร
โดยไม่ใยดีต่อบาปกรรมหรือมาตราฐานการขนส่งและการดูแลสัตว์
ตลอดจนการฆ่าก็เข้าข่ายการทารุณสัตว์จนเห็นได้ชัด
ไม่มีการให้เห็นเดือนเห็นตะวัน ไม่มีการให้อาหาร และใช้วิธีทุบหัวเชือดคอทั้งเป็น ”

แล้วอย่างนี้เราจะมัวนิ่งดูดายปล่อยให้หมาแมวที่เรารัก
ต้องมาสังเวยชีวิตให้กับธุรกิจเปื้อนเลือดเหล่านี้อยู่ได้อย่างไร

ส่วนความเห็นของคุณผู้หญิงไทย เป็นสิ่งที่ต้องเคารพครับ
ถือว่าเป็นคำตักเตือนท้วงติงจากผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ตรง
ที่ผ่านโลกมามากกว่าคนรุ่นหลังอย่างพวกผม

ที่เกรงว่าถ้า พรบ.นี้ออกมาใช้ได้จริง ผู้คนก็จะเอาสัตว์เลี้ยงออกมาทิ้งมากขึ้น
และแทนที่จะเป็นการช่วยสัตว์ ก็จะกลับกลายเป็นการทำร้ายเสียมากกว่า

ผมจะกลับไปอ่านร่าง พรบ.นี้อีกหลายๆรอบ
แล้วจะดำเนินการด้วยความรอบคอบให้มากครับ

จากคุณ : mkps - [ 19 ต.ค. 47 12:55:55 ]

ความคิดเห็นที่ 42

เดี๋ยวจะรวบรวมรายชื่อทั้งบ้านส่งไปช่วย ๆ กันค่ะ

จากคุณ : โมโม่&โจโจ้ - [ 19 ต.ค. 47 12:57:33 ]

ความคิดเห็นที่ 43

โอโห-ไปธุระเพิ่งกลับเข้าออฟฟิด ถึงได้เห็นว่าเป็นกระทู้แนะนำแล้ว ดีใจจังค่ะ จะได้มีกลุ่มคนให้ความช่วยเหลือเจ้าพวกตูบ เหมียวกันเยอะๆ
คิดว่าจะจัดส่งเอกสารทางไปรษณีย์ไปที่สมาคมในสิ้นเดือนนี้ค่ะ จะมุมซองไว้ด้วยว่าจากพันทิป แล้วให้คุณนาเจ้าหน้าที่ช่วยเช็คให้อีกที ขาดเหลือจะได้แจ้งให้ทราบทั่วๆกันค่ะ
ปล.ใครอยากให้แฟกซ์ แจ้งได้หลังไมค์น่ะค่ะ ยังส่งให้อยู่ตลอดค่ะ :)

จากคุณ : น้องต๋าว - [ 19 ต.ค. 47 16:12:56 ]

ความคิดเห็นที่ 44

เคยส่งไปแล้วนะคะ ล่ารายชื่อ + เอกสาร ของเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่บริษัทส่งไปให้ทางสมาคม เรื่องร่างพรบ.ฉบับนี้ แต่ตอนนั้นก็ยังได้รายชื่อไม่ครบเลยค่ะ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคราวนี้ชาวพันทิปจะช่วยทำให้ได้รายชื่อครบและสามารถร่างพรบ.ฉบับนี้ขึ้นมาได้เป็นจริงสักที

จากคุณ : Eldarin - [ 19 ต.ค. 47 17:31:22 ]

ความคิดเห็นที่ 46

ถ้าเมื่อไหร่ทีประเทศไทยมีกฏหมายอนุญาตให้พวกนักเซ็งลี้เนื้อหนังหมาแมวทำธุรกิจฆ่าสัตว์โดยถูกกฏหมายได้ เมื่อนั้นชื่อเสียงบ้านเมืองเราป่นปี้ฉาวโฉ่ไปทั่วโลกแน่ๆ

ในโลกนี้มีประเทศที่เป็นสมาชิกสหประชาชาติร่วมสามร้อยประเทศ มีประเทศที่อนุญาตให้กินเนื้อหมาแมวไม่ถึงสิบเปอร์เซนต์ ถ้าขืนออกกฏหมายอนุญาตให้ฆ่าหมาแมวเป็นอาหารหรือใช้หนังกระดูกทำธุรกิจได้ ประเทศเราก็กลายเป็นประเทศเสียงส่วนน้อยที่เป็นที่ดูถูกเหยียดหยามถูกเหยียบย่ำในเกีรติภูมิที่ยอมให้ย่ำยีละเมิดสิทธิสัตว์เลี้ยงได้ถึงขนาดนี้

ประเทศเราไม่มีกฏหมายฆ่าหมาแมว มันก็ดีพอตัวอยู่แล้ว ขนาดที่แอบฆ่าๆกันนั้นยังเป็นที่ครหาก่นด่าของนานาอารยประเทศ ไปไหนก็แทบเอาปิ๊บคลุมหัวอยู่แล้วเวลาถูกถามถึงเรื่องเหล่านี้ นี่จะให้มามีกฏหมายยอมรับในสิ่งน่ารังเกียจ กิจการน่ารังเกียจ ประเทศเรานั้นดั้งเดิมกินข้าวกินปลากินผักหญ้า ผลไม้ ไม่ได้กินเนื้อหมา ดูจากศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงมหาราชค่ะ นี่ต่างหากคือประเพณีการดำรงชีวิตที่แท้จริงของไทยมาแต่โบราณ เรามีวัฒนธรรมดำรงชีพเบียดเบียนชีวิตให้น้อย แค่พอเพียงและทุกคนอยู่เป็นสุข ไพร่ฟ้าหน้าไส ไม่มีวัมนธรรมละโมบถึงขนาดเอาสัตว์เลี้ยงมาฆ่าทำธุรกิจค่ะ

ใครที่คิดทำกิจการฆ่าหมาแมว เท่ากับทำชื่อเสียงบ้านเมืองให้วิบัติแม้แต่พ่อเหนือหัวยังไม่สนับสนุนการฆ่าสัตว์จรจัด (ขอพระราชทานอภัยที่จำเป็นต้องนำมายกไว้ณที่นี้) แต่เท่าที่ได้ยินได้ฟังได้ทราบมาพระองค์ท่านไม่ทรงโปรดเรื่องนี้เลยค่ะ เลิกคิดเลิกทำเสียเถอะฆ่าหมาแมวจรจัดน่ะ อย่าได้ปลุกกระแสนี้อีกเลย ใครคิดใครทำขอให้ประสพแต่ความวิบัติชีวิตมีแต่ล่มสลายเสื่อมลงไปเพราะจิตอำมะหิตดำขาดเมตตากรุณาต่อสัตว์ร่วมโลก ยิ่งกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันยิ่งไม่ต้องหวังจากคนพวกนี้เลย เลิกเถอะ อย่างอื่นๆมีหากินถมเถไปในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง อย่าขยายวงไปถึงสัตว์จรจัดเลย พอทีเถอะ ไปทำอย่างอื่นเถอะ ไปๆ

ขออภัยท่านผู้อ่านทุกท่าน หากดิฉันพูดตรงนี้ไม่ไพเราะหรือพูดจาเอื้อเฟื้อน้ำใจตามนิสัยที่เป็นอยู่ตลอดมา ก็ขอพูดตรงๆเพราะตรงนี้ต้องการสื่อถึงคนที่คิดทำธุรกิจฆ่าหมาแมวเท่านั้น โดยเนื้อแท้แล้วสำหรับคนพวกนี้ดิฉันไม่มีความนับถือให้(นี่ตรงจากใจที่สุด) ฆ่าหมาแมว เป็นศัตรูตัวเอกกับเหล่าสัตว์จรจัดที่ทุกข์ยากหรือแม้แต่ตั้งใจเลี้ยงเอาเนื้อหนังกระดูกของมันก็เท่ากับว่าเป็นศัตรูกับดิฉันด้วย ต้องพูดกันให้เข้าใจว่าประเทศนี้ไม่ต้องการธุรกิจที่ทำให้ชื่อเสียงของประเทศต้องมัวหมองในนานาอารยประเทศในเรื่องฆ่าได้แม้กระทั่งสัตว์ที่รักมนุษย์ที่สุด ซื่อสัตย์ต่อมนุษย์ที่สุด ทรยศได้แม้กระทั่งเพื่อนเพื่อหวังเศษเงินไม่กี่บาทจากแต่ละชีวิตน้อยๆของมัน อย่าได้หวังความจริงใจอะไรจากคนพวกนี้ที่ฆ่าได้แม้กระทั่งเพื่อนตายสิ่ง(ตัว)สุดท้ายของมนุษย์ที่ดีกว่าคนบางคน

แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 47 18:41:58
แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 47 18:31:59

จากคุณ : ** ผู้หญิงไทย ** - [ 19 ต.ค. 47 18:31:01 ]

ความคิดเห็นที่ 47

ขอตัวออกไปเลี้ยงหมาแมวก่อนค่ะ

จากคุณ : ** ผู้หญิงไทย ** - [ 19 ต.ค. 47 19:09:19 ]

ความคิดเห็นที่ 48

พี่ผู้หญิงไทย ขอบคุณที่กลับมาให้ข้อมูลอีกรอบน่ะค่ะ
คุณจอร์ช คงไม่ได้ตั้งใจที่จะให้มีการแพ็คหมาขายได้หรอกค่ะ
อาจจะพยายามหาทางประณีประณอมกับผู้ค้า ซึ่งทางสมาคมฯเขาคงไม่ยอมแน่ๆ (หลายๆคนในที่นี้ก็ไม่ยอมหรอกค่ะ ตรงนี้ที่เราพยายามทำกัน คือ ปฏิบัติให้เกิดขึ้นจริง ด้วยการนับ1 ที่ได้รายชื่อเกิน50000 ค่ะ
พวกวิธีการใดๆที่จะปรับระหว่างผู้ค้า ผู้สั่ง ผู้บริโภค เราไม่พูดถึง
เพราะพูดไป ไม่มีใครตรงนี้ที่มีอภินิหารทำได้ ไอเดียล้วนๆเถียง ถก กันไปทำไมค่ะ
ที่เราทำได้ คือ ร่วมลงชื่อในร่าง เพื่อให้เรื่องนี้ยุติลง-ด้วยความหวังค่ะพี่ คลอด พรบ.ไม่ใช่เรื่องหมูๆ)--
(ฮ่าๆตอนนี้เป็นเรื่องหมาๆอยู่ค่ะ)
-- เรื่องแอบไปวิ่งเต้นให้ผ่านเป็นกม เขาระวังกันอยู่แล้ว ไม่มีให้หลุดหรอกค่ะ
แต่พวกใต้โต๊ะ เวลาจับพวกขนหมาได้ แล้วปรับ500 คืนหมาไป มันอีกเรื่องหนึ่ง ที่หูตา เราไปไม่ถึงค่ะ

จากคุณ : น้องต๋าว - [ 19 ต.ค. 47 20:03:39 ]

ความคิดเห็นที่ 49

ฟ่างว่าคนรักหมาแมวนี่ลำเอียงรึเปล่าคะ กินหมา/แมว มันต่างจากกินหมู/วัว/ไก่ ฯลฯ ตรงไหนกัน มันมีชีวิตๆหนึ่งเหมือนกัน

การร่างพ.ร.บ. ห้ามคนไม่ให้กินหมานี่ คนทำสนใจความรู้สึกของคนที่กินบ้างรึเปล่า แล้วจริงหรือที่ว่าการกินหมา/แมว ไม่ใช่วัฒนธรรมไทย อาจจะถูกถ้าคุณคิดว่าวัฒนธรรมของคนเมืองคือวัฒนธรรมไทยล่ะก็ แล้วคนกลุ่มน้อยที่เขากินกันมาเป็นร้อยๆปีล่ะ หรือว่าเพราะเป็นคนกลุ่มน้อยก็เลยช่างหัวมัน ?

การร่างพ.ร.บ. ห้ามกินหมา/แมว นี่รู้สึกว่าจะผิดประเด็นนะคะ ถ้าไม่อยากให้คนทรมาณ หมา/แมวล่ะก็น่าจะจัดให้เป็นระบบมากกว่าค่ะ แทนที่จะลงโทษคนกิน ทำไมไม่ลงโทษคนที่ทารุณสัตว์แทน การฆ่าเพื่อที่จะกินน่ะ ไม่ว่าสัตว์อะไรก็ทารุณทั้งนั้นค่ะ ไม่ว่าจะเป็น หมา แมว ลิง ไก่ หมู วัว ปลา

ทำไมไม่มีคนร้องเรียนว่ามีการทารุณปลาบ้าง โดนตกขึ้นมาปากฉีกเลือดไหลนอง แล้วยังโดนให้ตายอย่างทรมาณช้าๆด้วยใส่ไว้ในพาชณะที่ไม่มีน้ำให้ค่อยๆตาย บางตัวโดนจับขึ้นมาด้วยแหเกล็ดหลุดกระจาย ครีบขาด หางขาด มีใครเคยไปสนใจมั้ย โดนจับใส่ลังน้ำแข็งทั้งๆที่ยังมีชีวิตอยู่เพื่อให้สด คนซื้อจะได้ชอบ พวกที่รอดมาได้ก็จะถูกเอามาขังไว้รวมๆในกาละมังบ้าง ใน ถาดบ้าง ใส่น้ำไว้นิดหน่อยเพื่อให้รอดพ้นช้วงขายไปได้ ถ้ายังไม่ตายก็จะถูกสับคอขาด ดิ้นพลาดๆ ถูกขอดเกล็ดทั้งๆที่ยังไม่ตาย ไม่คิดว่ามันทรมาณบ้างหรือคะ

ที่ว่าถ้าไทยปล่อยให้คนกินหมา/แมว หรือจัดเป็นธรุกิจได้จะทำให้ประเทศเสื่อมเสียชื่อเสียงนี่ ฟ่างว่าไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ ในเมื่อ เกาหลี จีน ลาว เวียตนาม ก็กินกันทั้งนั้น

จากคุณ : คนรักปลาค่ะ (CryingPanda) - [ 19 ต.ค. 47 21:12:20 ]

ความคิดเห็นที่ 50

ถ้ารักปลา ไม่รักหมาแมวก็หมดประเด็นที่จะแสดงความเห็นในเรื่องกฏหมายนี้แล้วค่ะ เพราะเราต้องการทำเพื่อสัตว์จรจัดหมาแมว ต้องการคนรักหมาแมวตัวจริงที่รู้เท็จจริงของจริงมาพูดกันค่ะ

เอาคนรักปลาที่ไม่ได้อยู่ในวงการนี้จะไปรู้เบื้องหน้าเบื้องเบื้องลึกของวงการนี้ได้ดีอย่างไรคะ เอาแค่ใจก็ไม่มีให้เต็มร้อยอยู่แล้ว จะมีความเข้าใจอะไรได้ลึกซึ้งไหมนอกจากผิวๆเผินๆ

เอาทีละเรื่องก่อนค่ะ จบเรื่องหมาแมวจรจัดด้วยดีแล้วจะได้ช่วยกันเรื่องปลา เทใจให้เต็มร้อยเลยตอนนั้น

ว่าแต่ว่าถึงเวลานั้นที่จะให้มีการรนณรงค์กันไม่กินปลากัน ถามนอกประเด็นหน่อยคุณเต็มใจไหมคะ แต่ว่าชั้นไม่กินเนื้อสัตว์ทุกประเภทมานานแล้วค่ะ

ส่วนเรื่องการปฏิบัติต่อสัตว์ทุกประเภทที่ไม่ถูกต้องนั้นเห็นด้วยที่จะใช้"การศึกษาและความช่วยเหลือต่างๆในทุกรูปแบบทั้งจากภาครัฐและเอกชน" เข้ามาแก้ไขทุกระดับปัญหาข้อขัดข้องต่างๆอย่างต่างฝ่ายต่างเต็มใจ จริงใจ ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันมากกว่าออกกฏหมายบังคับเอาผิดคนเลี้ยงหรือเจ้าของค่ะ ถ้าออกกฏหมายมาก็จบกันพอดี กรรมของสัตว์จริงๆ ปัญหาทั้งหลายของคนเลี้ยงหน่วยงานรัฐหรือองค์กรต้องช่วยกันแก้ที่ต้นเหตุ ต้องช่วยคนเลี้ยงสางหาต้นเหตุให้ได้แล้วช่วยกันแก้ไขให้สำเร็จด้วยดีรับได้ทุกฝ่าย

เช่นถ้าเจ้าของมีปัญหา ฯลฯ ก็น่าจะเข้าไปดูแบบตั้งใจช่วยเหลือกันว่ามีปัญหาอะไร แล้วหน่วยงานรัฐหรือองค์กรหรือมูลนิธิเข้าไปช่วยแก้ไข ปัดเป่าปัญหาให้ได้บ้าง ทำเป็นรายๆไปอย่างช่วยกันอย่างจริงใจและเต็มใจช่วย ทางแก้อาจไม่ใช่ทางเดียวหรือจำเป็นต้องเหมือนกันในแต่ละราย แต่ว่าเหมาะสมกับสถานการณ์ของคนเลี้ยงแต่ละราย ไมใช่ไปเพิ่มปัญหาให้เขาหรือพยายามไปแสดงอำนาจข่มขู่ข่มเหงเขา ไปรังแกเขา หรือว่าบีบบังคับเขา แต่ดูว่าเขาติดขัดอะไร หาทางแก้ไขให้เขาหลายๆแนวทาง ช่วยเหลือเขาในลักษณะให้เปล่า...ฟรีทั้งบุคคลากรด้านแรงงาน(ที่ต้องพูดเพราะบางทีคนเป็นเจ้าของสัตว์ไม่มีใคร ไม่มีแรงงานเลย หรือคนน้อย ขาดแรงงานช่วยเหลือถ้าต้องปรับปรุง หน่วยงานรัฐถ้าทราบและจริงใจช่วยก็ต้องจัดคนเสริมเข้าไปช่วยด้านแรงงานในช่วงของการแก้ไขปัดเป่าปัญหา แม้กระทั่งเป็นแรงงานให้เปล่าชั่วคราวก็ต้องจัดไปให้ ที่สุดจะได้แก้ไขไปญหาข้อขัดข้องต่างๆได้) หรือว่าในกรณีที่เขาขาดสิ่งของ วัคซีน การช่วยฉีดยา ทำหมัน คนช่วยอุ้มสัตว์ อาจเป็นเพราะคนเลี้ยงแรงน้อย ชราภาพ ไม่สบาย เจ็บป่วยอยู่ หรือมีปัญหาสภาวะหลังเสื่อมทรุดหรือกระดูกที่มักจะเป็นกันมาก ก็ต้องช่วยเขา จัดคนไปให้ช่ว ยกสัตว์ อุ้มสัตว์ทำหมัน หรือบางครั้งบางคราวช่วยเขาในเรื่องอาหารฯลฯที่เขาขอมา แล้วให้เป็นการฟรีด้วย เชื่อว่าถ้าทำได้เช่นนี้ไม่นานปัญหาของเขาคลี่คลายตัวลงไปในทางที่ดี ความรู้สึกต่อกันก็ไม่เสีย ต่อสัตว์ก็ไม่ได้ถูกทิ้งเพิ่มภาระให้รัฐหรือองค์กรหรือเอกชนทางด้านที่เลี้ยงสัตว์จรจัด เจ้าของสัตว์ก็จะเข้าใจมากขึ้นและก็ไม่มีปัญหาเจ็บป่วยตามมาในกรณีที่ใช้กฏหมายไปบังคับให้เขาทำอะไรจนเกินกำลังที่จะรับได้หรือไปกดดันเขา ปิดทางทำให้เจ้าของสัตว์หมดสิ้นหนทางจนการเลี้ยงสัตว์ของเขาทำต่อไปไม่ได้แล้วก็ต้องทิ้งสัตว์ออกมาตามถนนมากมายไปหมดจนไปเข้าทางพวกธุรกิจหากินฆ่าสัตว์จรจัดที่รออยู่

ที่พูดทั้งหมดนี่คือทำอย่างไรจะหาทางช่วยเหลือเจ้าของสัตว์ในลักษณะแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ ไม่ใช่แบบลูบหน้าปะจมูก ปัญหาจริงๆถูกซุกไว้ไม่ได้แก้ไขสักทีเพราะกลัวถูกลงโทษทางคดี

เห็นว่าไม่ใช่ไปลงโทษเจ้าของสัตว์เอาผิดเขาทางกฏหมาย
***ยกเว้นแต่เขาทุบตีสัตว์รุนแรงซึ่งอันนี้ต้องลงโทษจะได้ไม่ทำอีก***
หรือในกรณีที่เจ้าของชั่วร้ายจริงๆก็ต้องหาเจ้าของที่ปลอดภัยให้ใหม่
เว้นแต่เจ้าของเดิมสามารถปรับตัวหรือแก้ไขตัวเองได้หรือปรับสถานะการณ์ให้ดีขึ้นกว่าเดิมเป็นที่ยอมรับและสัตว์ยังเต็มใจจะอยู่ด้วย

หากว่าย้ายไปที่ใหม่ไม่ดีหรือปลอดภัยกว่าเก่า ประเด็นนี้ก็ต้องพิจารณากันเป็นรายๆไป และแน่ใจหรือว่าในกรณีที่ไม่สามารถหาเจ้าของใหม่ให้สัตว์ได้ แน่ใจไหมว่าสถานรับเลี้ยงของรัฐจะสามารถทดแทนสิ่งที่ขาดได้ หรือว่าจะสถานการณ์ของสัตว์จะแย่ลงกว่าเดิมหรือไม่ ต้องพิจารณษประเด็นนี้ให้มากๆด้วย

อันที่จริงถ้าเป็นคนรักสัตว์จริงก็น่าจะเข้าใจสถานะการณ์ของคนเลี้ยงได้ว่าอยู่ในจุดไหน จะช่วยแก้ไขให้เขาได้อย่างไร แต่ไม่ใข่ไปบงการหรือบีบบังคับเขาโดยที่ความช่วยเหลืออย่างอื่นๆที่ขาดไปไม่มี หรือไม่ยื่นมือจากภาครัฐเข้าไปช่วยคนเหล่านั้นเลย เห็นว่าอันนี้ไม่ถูก ไม่มีคุณธรรมถ้าจะออกกฏหมายด้านๆโดยขาดการไตร่ตรองและมองให้ทั่วทุกมุม ซึ่งของอย่างนี้ถ้าเป็นคนรักสัตว์จริงๆแล้วมองกันออกไม่นานหรอกค่ะ

*****เรื่องที่สมควรทำและออกกฏหมายมาเร่งด่วนก็คือเอาผิดทั้งปรับแรงๆและจำคุกอย่างน้อยหกเดือนขึ้นไปสำหรับความผิดครั้งแรกของคนที่ฆ่าหมาแมวจรจัดค่ะ คิดเป็นตัวละคดีไปค่ะ เห็นว่าเรื่องนี้น่าทำมากกว่าออกกฏหมายเอาผิดคนเลี้ยงหมาค่ะคือไม่ไปเอาเรื่องจุกจิกจนเกินไปสำหรับเจ้าของในเรื่องอื่นๆที่เขาเองก็ยังเลี้ยงดูอยู่หรือว่าไม่ทอดทิ้ง******

เราไม่จำเป็นต้องเอามาตรฐานฝรั่งตะวันตกในเรื่องความเข้มงวดเกี่ยวกับกฏเกณท์การเลี้ยงสัตว์มาจับเจ้าของสัตว์ในบ้านเมืองเราหรอกค่ะ เพราะฝรั่งเองส่วนใหญ่ที่เลี้ยงสัตว์จะเป็นคนรวยกัน ที่จนๆเขาไม่มีปัญญาเพราะอยู่กันแต่ในห้องแคบๆและบางทียังแชร์กันอยู่ในห้องแคบๆนั้นด้วยซ้ำไป

*********เรื่องฆ่าหมาแมวหรือกินหมาแมวนี้เป็นวิกฤติของสังคมมากกว่าเรื่องอื่นๆทั้งหมดค่ะ ขอให้ทำก่อนและกฏหมายต้องแรงพอสมควรรวมทั้งการซื้อขายหมาแมวเพื่อส่งฆ่าด้วยค่ะต้องทั้งจับแรงและจำคุกนานๆด้วยค่ะ*********

แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 47 22:25:41
แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 47 21:57:44
แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 47 21:33:31

จากคุณ : แวะกลับมาดูก่อนไปเลี้ยงต่อค่ะ (** ผู้หญิงไทย **) - [ 19 ต.ค. 47 21:21:55 ]

ความคิดเห็นที่ 51

คุณcrying pandaคนรักปลาค่ะ
ช่วยไปอ่าน ร่างพรบที่เขาจะเสนอ ก่อนเข้ามาคุยด้วยนะค่ะ
นิดนึงค่ะ ดูหน่อย ว่าวงนี้เขากำลังทำอะไรกันอยู่
มีไหม เรื่องทรมานสัตว์ในร่างพรบ ที่เขาคุยกันอยู่ หรือ คนกลุ่มน้อยที่คุณพูดอ้างมาว่า ที่กินกันมาเป็นร้อยๆปี มันชาติไหนไม่ทราบค่ะ ช่วยเอาเรื่องจริงจากหนังสือมาอ้างหน่อยเถอะ ว่าคนไทยกินหมา!!ไม่ใช่ นึกจะพูดก็พูดเพ้อเจ้อ เลื่อนลอย
ดิฉันร่ำเรียนหนังสือมาไม่เคยได้ยิน
ไม่ใช่เดินผ่านมา ได้ยินอะไรแว่วๆแล้วยื่นปากเข้ามาพูด
ไม่เอา ไม่ดีค่ะ โตๆกันแล้ว
ดิฉันว่าคุณมาผิดที่แล้วล่ะค่ะ--
แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 47 10:44:56

จากคุณ : น้องต๋าว - [ 19 ต.ค. 47 22:04:01 ]

ความคิดเห็นที่ 52

น้องต๋าวคะ

พี่อยากฝากข้อคิดว่าว่ากฏหมายนี้อาจเสมือนดาบสองคมได้ จึงต้องช่วยกันดูให้ออกมาด้วยความรอบคอบและเป็นคุณต่อสัตว์มากที่สุดในขณะที่เจ้าของหรือคนเลี้ยงไม่กระทบกระเทือน
โดยมีการเปิดหนทางแก้ไขปัดเป่าปัญหาให้เขาจากหน่วยงานรัฐและเอกชนแทนที่จะไปลงโทษเขาเหล่านั้น
อีกอย่างหนึ่งลักษณะปัญหาของสัตว์แต่ละตัวแต่ละบ้านก็แตกต่างกันไปจึงอยากให้มองกว้างๆเพื่อเอื้อต่อสัตว์และเจ้าของ
สรุปก็คือต้องการให้เกิดความช่วยเหลือต่อสัตว์และคนเลี้ยงมากกว่าการลงโทษค่ะ

ทั้งนี้เพราะถ้าออกกฏหมายมาลงโทษเจ้าของหรือคนเลี้ยงหรือกดดันพวกเขาจนเกินไปก็จะเกิดปัญหาหลายๆอย่างที่นึกไม่ถึงตามมาอีกได้ ต้องแก้ไขที่ต้นตอของปัญหาอย่างร่วมมือร่วมใจกันในทุกส่วนของสังคม

สิ่งที่พี่เป็นห่วงที่สุดก็คือ"แนวโน้มในการใช้อำนาจที่ไม่ชอบมาพากลจากเจ้าหน้าที่รัฐหรือหน่วยงานรัฐที่แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบที่จะไปรังแกหรือข่มเหงเจ้าของสัตว์โดยไม่เป็นธรรมโดยอาศัยกฏหมายที่ออกมา" ซึ่งในความเป็นจริงนั้นเจ้าหน้าที่ลักษณะแย่ๆอย่างนี้ก็ยังมีอยู่ ยังไม่ได้สูญพันธ์ไป คนที่พอใจจะใช้อำนาจในทุกทางเท่าที่กฏหมายจะอำนวยให้เพื่อข่มขู่ รีดไถ หรือแม้เพื่อความสะใจของตัวเองเพื่อชดเชยปมด้อยส่วนตัวโดยไม่แคร์ต่อสัตว์หรือเจ้าของอย่างจริงใจ

ดังนั้นพี่จึงได้ขอให้ช่วยกันดูให้กฏหมายออกมาในลักษณะหน่วยงานรัฐและ/หรือเอกชนให้ความช่วยเหลือทั้งสัตว์และเจ้าของสัตว์ในลักษณะการร่วมมือที่ให้เปล่าโดยที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็เต็มใจ จริงใจต่อกันรับได้โดยไม่เสียความรู้สึกจนต้องโยนสัตว์ทิ้งออกมาให้เผชิญชะตากรรมอันเลวร้ายสารพัดรูปแบบบนท้องถนนหรือหลังจากนั้นที่ถูกมนุษย์อำมะหิตจับไปฆ่าแกงหรือทำธุรกิจค่ะ

จึงขอฝากไว้ให้เป็นแง่คิดรับไว้พิจารณาในการดำเนินการอย่างรอบคอบด้วยความรักต่อสัตว์และความเห็นใจต่อเจ้าของสัตว์ที่มีใจให้สัตว์แต่อาจจะขาดทุนทรัพย์ เนื้อที่ สถานที่ หรือกำลังแรงงาน หรืออย่างอื่นๆที่เหมาะสม ให้มาช่วยกันแก้ไขดีกว่าการลงโทษค่ะ นี้ยกเว้นเจ้าของใจโหดโฉดชั่วจริงๆซึ่งอันนี้ต้องลงโทษค่ะ

แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 47 22:48:52

จากคุณ : ** ผู้หญิงไทย ** - [ 19 ต.ค. 47 22:40:15 ]

ความคิดเห็นที่ 53

อ่าน ร่างพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ (ฉบับสมาคมพิทักษ์สัตว์(ไทย)) .. ฉบับที่ว่า .. จบแล้ว

มีคำถามค่ะ ..

พอดี เห็น ในหน้า Home ระบุไว้ว่า ..

"เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 46 กรมปศุสัตว์ได้ประกาศยกเลิกร่างที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2543 ถึง 2546 โดยให้เหตุผลว่าเนื่องจากมีการปรับปรุงโครงสร้างองค์กรและหน่วยงานต่างๆ ในกรมปศุสัตว์ใหม่จึงจำเป็นต้องยกเลิกร่างที่ดำเนินการมาร่วม 3 ปีแล้วเริ่มต้นใหม่โดยเห็นสมควรใช้ร่างที่ดัดแปลงขึ้นใหม่และเปลี่ยนจากชื่อ ร่างพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ พ.ศ... เป็นร่างพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์และสัตว์ทดลอง พ.ศ... และมีสาระสำคัญที่แตกต่างจากร่างที่สมาคมพิทักษ์สัตว์(ไทย) เสนอไว้ แต่เดิมหลายประการดังนี้ ..."

ถ้าต้องการหา "ร่างพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์และสัตว์ทดลอง" มาอ่านเพื่อเปรียบเทียบกับร่างของ สมาคมพิทักษ์สัตว์(ไทย) .. จะหาได้จากที่ไหนคะ ?

(แบบว่า เข้าไปดูที่ เวปของ กรมปศุสัตว์ แล้ว ไม่เห็นมีข้อมูลเลยค่ะ)

.
.

หาต่อ .. เจอแต่ อันเนี้ย ..

http://203.155.220.230/Internet/Law/bb/control_animal2545.htm
แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 47 23:19:15

จากคุณ : แม่มดพันปี - [ 19 ต.ค. 47 22:42:02 ]

ความคิดเห็นที่ 54

ดีจังเลยค่ะ ช่วยกันหลายๆคนเป็นหูเป็นตาให้สัตว์ ดีจริงๆค่ะ ขอให้กำลังใจค่ะ

จากคุณ : ** ผู้หญิงไทย ** - [ 19 ต.ค. 47 22:50:55 ]

ความคิดเห็นที่ 55

มองต่อไปในระยะใกล้

หมาแมวมีสิทธิไหมแต่ละชีวิตของตัวเอง
สิทธิสัตว์แต่ละตัวที่จะปกป้องรักษาชีวิตตัวเองให้รอดปลอดภัยบนแผ่นดินพื้นโลกใยเดียวกันกับที่มนุษย์แย่งเนื้อที่ของพวกเค้าไปจนหมดไม่มีที่ยืน ไม่มีที่อยู่อาศัยแล้ว

ทีคนยังมีได้ สำหรับสัตว์ที่เป็นเพื่อนร่วมโลกกับเราต่างก็รักชีวิตด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น

ต่อไปหลังจากดูกฏหมายเรื่องนี้ขอให้คนรักสัตว์ช่วยกันทำเรื่องกฏหมายสิทธิสัตว์ว่าด้วยสัตว์เลี้ยงทุกชนิดรวมทั้งสัตว์ป่าให้ออกมาในกฏหมายอย่างมีคุณธรรมด้วยค่ะ

จากคุณ : ** ผู้หญิงไทย ** - [ 19 ต.ค. 47 23:05:23 ]

ความคิดเห็นที่ 56

คุณแม่มดพันปีค่ะ เดียวพรุ่งนี้จะลองโทรถามที่สมาคมให้นะค่ะ หรือคุณอีเมล์ไปถามโดยตรงเลยก็ได้ค่ะ
เรามีประชุมทั้งเช้า บ่ายๆถึงจัดการให้ได้
รอแป็บ แล้วกันน่ะค่ะ
เรื่องนี้ น้องต๋าวเคยถามเขาแล้วล่ะค่ะ ในประเด็นที่ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร
คำตอบ คือ ตัวที่เป็นการจัดสวัสดิภาพสัตว์และสัตว์ทดลอง มีการแยกสัตว์เป็น 2 ประเภท ตามหัวข้อด้านบน
ไม่มีรายละเอียด ครอบคลุมถึงการห้ามบริโภคและค้าสัตว์เลี้ยง ระบุว่า หมา แมว ค่ะ
--นั่น คือ ถึงร่างนั้นผ่าน เรื่องหมาท่าแร่ การค้าหมาอย่างที่เป็นข่าวอยู่ ก็ยังดำเนินได้อย่างไม่ผิดกม ต่อไป
คือทางกรมปศุสัตว์ต้องการให้ร่างผ่านโดยง่าย ความชัดเจน หรือ รายละเอียด จึงไม่มากเท่าของสมาคมที่ทำไว้
ถ้าเรื่องไหนถูกประท้วงมากๆภายหลังจึงจะออกเป็นกฏกระทรวงออกมาใช้ค่ะ
ส่วนสาเหตุ นอก ใน กว่านั้น น้องต๋าวไม่ทราบค่ะ

จากคุณ : น้องต๋าว - [ 20 ต.ค. 47 00:00:08 ]

ความคิดเห็นที่ 57

ตอบคุณ ผู้หญิงไทย
ผมเป็นคนที่เลี้ยงหมา ที่ไร่ 50 ตัว ที่บ้าน กทม อีก 6 ตัว หมาแมวที่ผมเลี้ยง ผมไม่เคยซื้อ ตัวเป็นพัน เป็นหมื่น ผมเอามาจากข้างถนน นี่แหละ บางตัวก็ตามมาเอง ผมก็เลี้ยง
เรื่อง ความรักหมา รักแมว ผมไม่น้อยกว่าใคร หมากับแมว ตายคามือผมมาเยอะ
แต่ในขณะเดียวกันผมก็เป็นคนทำงาน เป็นนักธุรกิจ ที่มองอะไรหลายด้านในเวลาเดียวกัน
จะบอกให้นะครับ ว่าสิ่งที่เราทำอยู่เนี้ย มันมีขอบเขต
ถ้าเราเอาแต่ ความคิดของคนกลุ่มเดียว มันจะกลายเป็นเรื่องที่ไม่มีวันเป็นจริง กับไอ้แค่เรื่องรวบรวมรายชื่อให้ถึง 50000 เนี้ย ถ้าไม่มองกันหลาย ๆ ด้าน ผมว่ายังไงก็ไม่ถึง โปรดมีวิสัยทัศน์และ คิดให้กว้างและลึกด้วย
คุณต้องยอมรับ ว่าสังคมคือการอยู่ร่วมกันของคน โดยมีกฎหมาย ถ้าท่านนายกเป็นคนรักสัตว์ ผมจะเห็นด้วยกับคุณทุกประการ
แต่ปัจจุบันเหตุการณ์เป็นยังไงคุณก็รู้อยู่ บางทีก็ต้องยอมรับ และหาทางทำหนักให้เป็นเบา
ความเห็นของพวกที่ไม่เห็นด้วยพูดมาก็มีเหตุผล แล้วเราจะไม่ฟังเค้าบ้างเหรอ การร่วมกันแชร์ความคิดเห็นดีกว่าที่เราจะตะแบงข้างเดียว
ผมอยากจะบอกนะว่า ผมเนี้ยเกลียดและประนามการกระทำอันโหดร้ายและทารุณ สัตว์เหล่านั้น แต่ถ้าคุณไม่มองรอบด้าน เอาแต่จะ ไม่ให้มี อย่างเดียว เรื่องทุกเรื่องมันจะไม่เกิด และมันจะไม่มีการพัฒนาต่อไป หวังว่าคงเข้าใจ
กรุงโรมไม่ได้สร้างในวันเดียวนะครับ เพราะฉะนั้น ถ้าเราจะเริ่มเรื่องนี้ เราต้องค่อยเป็นค่อยไป เอาพลังเงียบที่มีอยู่ในสังคมออกมาใช้ ผมมั่นใจว่าคนไทยร้อยละ 95 รังเกียจการกระทำนี้ และมั่นใจว่า ไม่ถึงครึ่งของร้อยละ 95 ที่จะออกตัวว่าฉันนี่แหละที่ขอประณาม
และมั่นใจด้วยว่า ไม่ถึง ร้อยละ 10 ของครึ่งขอร้อยละ 95 จะทุ่มเท และทำจริง
จะทำยังไง ดึงคนพวกนี้มาอยู่กับเรา อย่าพูดแค่ว่า คุณหล่ะทำอะไรได้มั้ง เพราะผมกำลังทำอยู๋และผมทำมาตลอดครับ ถ้ามัวแต่เรียกร้องกันในกลุ่มแค่นี้ แล้วหวังว่าให้กระจายกันออกไป ผมก็จะช่วยเพราะลำพังผมคนเดียวคงทำอะไรไม่ได้ ถ้าไม่ทำ ให้พวกเราหันหน้าไปทางเดียวกันอย่างชัดเจน ไม่ทำ แนวทางให้เดิน ยังไงก็ไม่มีทางสำเร็จ อีก 10 ปี คุณก็จะต้องเรียกร้องในห้องเล็ก ๆ ในโลก internet ต่อไป
สงสัยอะไรเพิ่ม e-mail มาได้ครับ

แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 47 09:52:50

จากคุณ : kitideji@hotmail.com (Jorge) - [ 20 ต.ค. 47 09:42:15 ]

ความคิดเห็นที่ 58

ครับ...ไม่ได้เข้ามา 2-3 วัน น่ะครับ

สำหรับ กระทู้ที่29 คุณ mkps นะครับ ขอบคุณครับ ผมได้เข้าไปอ่านแล้ว ถ้าธุรกิจหลักจริงอยู่ที่หนังสัตว์(หมา, แมว) ก็ไม่ใช่ว่าเลวร้าย มีสัตว์หลายชนิดที่ไม่ใช่สัตว์เศษฐกิจ แต่ต่อมา คนนิยมมากขึ้นก็กลายเป็นสัตว์เศษฐกิจได้ ส่วนเนื้อก็เป็นผลพลอยได้ ก็ OK แต่ผมก็ยืนยันคำเดิมว่าไม่เห็นด้วยในการฆ่าด้วยวิธีทำรุณครับ แต่ขอบคุณที่แนะนำ Link ให้อ่านนะครับ

สำหรับ คุณ น้องต๋าว

ที่ผมพูดเรื่องการ เข้าชื่อ 50,000 ไปนั้น เพื่อความเข้าใจและไม่อยากให้ตั้งความหวังมากเกินไป โดยส่วนตัวแล้วผมสนับสนุนให้ทุกคนแสดงออกด้วยวิถีทางรัฐธรรมนูญ ที่คุณทำอยู่ก็ถูกต้องแล้วและก็ดีใจที่มีคนอย่างนี้ในสังคม ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับเรื่องนี้เลย ไม่ใช่ทั้งคนขาย และคนกิน แต่ผมอยากจะแนะนำคือ ใน พ.ร.บ ฉบับร่างที่ผมได้อ่านนั้น มันไปจำกัดสิทธิตามรัฐธรรมนูญของผู้อื่น(ในการค้า หรือบริโภค โดยไม่ทารุณ) มันจะไม่ผ่านเอานะครับ เพราะว่าเรื่องที่เราควรคำนึงคือเรื่องการทรมานมันมากกว่า(ตามความคิดผม) และการกำหนดกฎหมายเพื่อการตรวจสอบ-ขออนุญาต น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า
จึงเรียนมาเพื่อทราบครับ

ถึงคุณ Jorge

ถูกแล้วครับควรเป็นอย่างนั้นตามที่ผมตอบคุณน้องต๋าวไว้ข้างบนแล้วนะครับ และก็ผมพูดจริงเสมอครับและก็ตอบตามจริงด้วย หมาผมก็เคยเลี้ยงเอามาจากเพื่อนตั้งแต่มันยังเล็กอยู่เลย เลี้ยงตั้งแต่ ป.3ถึง ม.3ครับ ความรักความผูกพันก็ย่อมมีครับ เกิดและดับเป็นเรื่องธรรมดาของสัตว์โลก มันต่างกับ หมู วัว ควาย ตรงที่มันน่ารักกว่า(รูปร่าง หน้าตา) ซึ่งเป็นความชอบหรือรู้สึก "ส่วนตัว" ครับ ผมถึงไม่อยากให้เอาพุทธศาสนามาอ้างพร่ำเพรื่อ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าผมอยู่คนละข้างกับคุณหรือใคร และผมก็ไม่ได้บอกว่าผมอยู่ข้างเดียวกับความถูกต้องหรอก นี่เป็นความเห็นผม ผมก้อยู่ข้างตัวผมนี่แหละ

การที่อยู่จะมีการเข้ามาขโมยหมาของเราไปฆ่านั้นมันผิด อาญาอยู่แล้วนะครับ ไม่เกี่ยวว่าจะออก พ.ร.บ นี้หรือไม่ และถึงจะออกเป็น พ.ร.บ ถ้าผลตอบแทนมันมหาศาลล่ะก็ไม่มีทางหยุดได้หรอกครับ อย่างมากก็จ่ายส่วยเท่านั้น..

จากคุณ : ฟ้าหม่น - [ 20 ต.ค. 47 14:26:19 A:192.168.200.100 X:202.176.84.127 TicketID:031599 ]

ความคิดเห็นที่ 59

มาแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมให้เพื่อนๆค่ะ
--ครอบครัวเดียวกัน ใช้สำเนาทะเบียนบ้านใบเดียว เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง ลงชื่อ(ให้ครบทุกคน) ในแผ่นเดียวกันได้ค่ะ--ดีๆไม่เปลืองค่าซีร็อกซ์ และ กระดาษ
--แบบร่างพรบสัตว์และสัตว์ทดลองของกรมปศุสัตว์ ที่กล่าวถึงในเวปของสมาคม ตอนนี้ทางสมาคมกำลังพิมพ์เพื่อเอาลงเวปของสมาคม ให้ได้อ่านกัน
แต่ต้องรอหน่อยน่ะค่ะ เขามีแต่เอกสารแผ่นๆอยู่ค่ะ

จากคุณ : น้องต๋าว - [ 20 ต.ค. 47 14:26:35 ]

ความคิดเห็นที่ 60

ง่าม่ายด้ายแวะมานาน
สู้!ๆ

จากคุณ : บอกอกูรู - [ 20 ต.ค. 47 23:35:35 ]

ความคิดเห็นที่ 63

รู้สึกว่าคุณ ** ผู้หญิงไทย ** จะใส่อารมณ์มากไปรึเปล่าคะ ฟ่างเห็นว่า ทั้งคุณ ฟ้าหม่น กับ คุณkitideji@hotmail.com เขาก็พยายามอธิบายดีๆ หรือว่าคุรคิดว่ากระทู้นี้สำหรับคนที่คิดอย่างเดียวกับคุณเท่านั้น คนที่คิดอย่างอื่นไม่เกี่ยว ?

ที่คุณว่า " จะฆ่านิ่มๆหรือ ฆ่าทารุณ มันก็คือ ฆ่านั่นแหละ!!!
บอกตรงๆ ไม่หลงกลหรอก " หมายความว่าอะไรคะ คุณกำลังจะพิสูจอะไรหรือ หรือคุณคิดว่า ชีวิตสัตว์อื่นที่คนเรากินกัน อย่าง หมู วัว ควาย ไก่ ปลา ฯลฯ มีค่าไม่เท่ากับ หมาหรือ แมว การที่จะบอกว่า การฆ่าหมา/แมว นั้น เลว แต่การฆ่า สัตว์อื่นนั้นไม่ผิดนี่ รู้สึกจะเป็น สองมารถตราฐานนะคะ

ในเมื่อมีการทำธุรกิจซื้อ/ขาย เนื้อ/หนังของ สัตวือื่นได้ ฟ่างไม่เห็นว่าทำไมจะมีธุรกิจค้าขาย เนื้อ/หนังของ หมา/แมว ไม่ได้ ในเมื่อมันก็คือสัตว์เหมือนกันหนึ่งชีวิตเท่ากัน ไม่ได้มีค่ามากกว่ากัน

ฟ่างไม่ได้พยายามจะสนับสนุนให้มีธุรกิจนี้แต่ว่าคนเราจะทำอะไรต้องคิดถึงคนอื่นด้วย ไม่ใช่ว่าจะเอาแต่ความคิดของเราเป็นใหญ่ ใครเข้ามาพูดไม่ถูกหูก็แขวะเขา

อย่างที่คุณ ** ผู้หญิงไทย ** โพสตอบคุณ kitideji@hotmail.com ใน ค.ห. 61 ว่า " ขอโทษนะ ถ้าจะพูดเรื่องเลี้ยงหมาแมวจรจัดนั้น ถ้าจะบอกกันตรงนี้ว่าหมาแมวจรจัดผ่านมือชั้นมาอย่างต่ำหลายร้อยตัวแล้วอย่าว่าแต่แค่ 50-60 ตัวที่คุณพยายามจะอ้างเพื่อยกตัวเองเลย "

นี่ไม่ใช่การยกตนข่มเขาอย่างที่คุณ ** ผู้หญิงไทย ** พูดไว้เองเหรอคะ " หากคุณคิดว่าใช้วธีการด่าผูอื่นเพื่อจะยกตัวเองให้ดูสูงขึ้น ดูน่าชื่นชมขึ้นนั้น ชั้นคิดว่านอกจากคุณจะคิดผิดอย่างมากๆแล้ว คุณยังจิตใจไม่เข้มแข็งเอามากๆด้วย "

อันที่จริงแล้วฟ่างไม่ได้เห็นว่า คุณ kitideji@hotmail.com เขาจะพยายามยกตนข่มใครเลย ฟ่างคิดว่า เขาจะพยายามที่จะบอกว่า เขาไม่ได้เป็นคนเกลียดหมา/แมว เหมือนที่คุณๆพยายามจะให้เขาเป็นเท่านั้นเอง เหมือนกันที่คุณพยายามคิดว่าคนที่เข้ามาโพสแล้วความเห็นไม่ตรงกับคุณคือคนที่ไม่รักสัตว์

คนที่กินเนื้อหมา/แมวนั้นผิดตรงไหนกัน ยกตัวอย่างชาวเขาทางภาคเหนือ เขากินหมากันมาเป็นเรื่องปรกติ ไม่ใช่ว่าเขาจะชอบกินหมาเป็นพิเศษ แต่ว่าพวกเขาไม่ได้คิดว่าหมา/แมว นั้นแตกต่างจาก ลิงค่างบ่างชะนีกระแตกระรอกหนูค้างคาว ฯลฯ อะไรเลย ในเมื่อมันก็คือสัตว์ เขาให้ความเท่าเทียมกัน เมื่อเขาหาเนื้อกินไม่ได้ก็เอาหมามากิน แล้วพวกเขาผิดด้วยหรือ ? ถ้าอย่วันหนึ่ง มีคนเมืองกลุ่มนึงพยายามบังคับเขาไม่ให้กินสิ่งที่เขากินกันมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย พวกเขาจะรู้สึกอย่างไร แล้วเขาจะเข้าใจไหมว่าทำไม หมา/แมวถึงมี อภิสิทธิ์เหนือสัตว์อื่นๆ

สิ่งที่คุณกำลังทำอยู่(ร่างพ.ร.บ.ฯ) คงจะไม่มีใครเถียงว่าเป็นสิ่งไม่ดี และคงไม่ได้หวังผลประโยชน์อะไรอย่างแน่นอน และมาจากใจจริงๆที่รัก หมา/แมว มาก ซึ่งไม่ได้ผิดอะไรเลย และทุกๆคนก็คงจะไม่คิดว่าผิดด้วย

แต่ว่ามันอาจจะไม่ตรงประเด็นหรือเปล่าคะ ถ้าคุณจะพยายามบังคับไม่ให้ทุกคนในประเทศนี้กินหมา/แมว อย่างที่คุณพูดมา นั่นไม่ใช่ประชาธิปไตยแล้วค่ะ

ที่ฟ่างพิมพ์มาทั้งหมดนี่ไม่ได้จะพยายามที่จะต่อต้านการร่าง พ.ร.บ. นี้ แต่อยากจะบอกว่า การห้ามการค้าขาย เนื้อ/หนังของ หมา/แมว นั้น ไม่ได้ถูกต้องเลยซะทีเดียว คงจะต้องถามเราทุกคนว่า เราต้องการอะไรกันแน่ ต้องการห้ามคน กิน/ขาย เนื้อ แมว/หมา หรือว่า ต้องการที่จะหยุดการทารุณกรรมกันแน่

ป.ล. สัตว์อื่นๆมันก็พูดไม่ได้เหมือนกันค่ะ ถ้าพูดได้มันคงจะพยายามบอกว่าอย่ารักแต่ หมา/แมว เลย ขอให้รักให้เท่าๆกันเถอะ

จากคุณ : ข้าวฟ่างค่ะ (CryingPanda) - [ 21 ต.ค. 47 02:19:19 ]

ความคิดเห็นที่ 64

ผมไม่ได้ยกตัวเอง แต่มีคนอยากรู้ว่าผมเป็นใคร ก็เลยตอบว่าผมเป็นใคร
ผมไม่เคยอยากรู้ว่าคนอื่นเป็นใคร ไม่เคยวิจารณ์ใคร เพราะตัวเองรู้ตัวว่าไม่สามารถวิจารณ์ใครได้ เพราะยังดีไม่พอรู้ไม่หมด เพราะฉะนั้นรุณาสงวนความคิดและวิจารณ์คนอื่นในทางที่ควร และสำรวจตัวเองด้วยนะครับ
คนเรามีรสนิยมไม่เหมือนกัน กินก๊วยเตี๋ยว ยังปรุงต่างกัน
ไฉนเลย เราจึงเอาความคิดและอารมณ์ตัวเองไปตัดสินคนอื่น
อยู่ในโลกแห่งความจริงนะครับ คนเรามีสิทธิ์เลือก ประเทศเรามีประชาธิปไตย ถ้าสิ่งที่เราเรียกร้องมันจะสร้างปัญหาต่อเนื่องขึ้นมาเช่น สมมตินะครับ ถ้าเราออกกฎหมายมาว่าห้ามทานหมา แมว คือห้ามเลยนะ ถ้ากินผิด
ก็จะมี อีกหลาย ๆ กลุ่ม ตามออกมา ห้ามกิน ไก่ ห้ามกิน วัว ซึ่งตรงนี้จะเป็นการก่อให้เกิดปัญหาตามมา และผมมั่นใจว่า พรบ. ที่ออกมาเนี้ย คงต้องระวังตรงจุดนี้แน่นอน
ก็อย่างที่ได้บอกไป หนทางหมื่นลี้ ต้องเริ่มก้าวแรกก่อน การที่จะทำให้การฆ่า และการค้าเนื้อ สุนัข หรือแมวหมดไป ต้องเริ่มจากจุดที่ปลอดภัยแล้วค่อย ๆ ทำไปครับ ไม่ใช่ว่าเราคิดจะทำปุ๊บแล้วจะได้ปั๊บ ไม่ใช่บะหมี่สำเร็จรูปนะครับ 3 นาที กินได้
จะทำจุดนี้ได้ต้องดึงพลังเงียบสังคมออกมา
กรุณามองโจทย์ให้ออก วิเคราะห์ปัญหาให้ดี เพื่อจะได้ไปถึงจุดหมายได้อย่างถูกต้อง และขัดแย้งกันน้อยที่สุด
อารมณ์เป็นสิ่งที่ดีในการทำกิจกรรม เป็นตัวกระตุ้นได้อย่างดีทีเดียว แต่กับคนที่จะเป็นผู้นำที่จะนำคนอื่นได้ ต้องรู้จักควบคุมอารมณ์นะครับ
ถ้าเรายังรวมกลุ่มไม่ติด ต่างกันต่างมองคนละอย่าง ไม่ได้เดินทางเดียวกัน ผมว่าไม่ต้องนึกถึงเรื่องการห้ามทานเนื้อสุนัขเนื้อแมวเลย
50000 เสียงก็ไม่ถึงหรอกครับ
แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 47 10:07:02
แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 47 09:47:47

จากคุณ : ผมก็รักหมานะ (Jorge) - [ 21 ต.ค. 47 09:12:08 ]

ความคิดเห็นที่ 65

สวัสดีครับ ทุกๆคน ผมเองอยูใน pantip.com มา 6-7ปี แล้วตั้งแต่เริ่มเข้ามหาวิทยาลัย เริ่มแรกก็เข้า ห้องหว้ากอ ที่นั่นตอนนั้นน่าสนใจสำหรับผม มีความรู้ใหม่ๆ ได้วิสาสะกับคนที่มีความรู้มากกว่าเรา ได้ประสบการณ์ที่ดีมากมายทีเดียว หลังจากนั้นระยะหนึ่ง ห้องหว้ากอก็เริ่มถกกันด้วยความคิดเห็นส่วนตัวมากขึ้น เอาชนะคะคานกันมากขึ้นอาจเพราะยุคสมัยเปลี่ยนไป และคนเข้ามาเล่น Internet กันมากขึ้น ตอนนั้นผมเองก็มีอารมณ์ไปกับเขาด้วยเหมือนกัน ต่อมาผมก็ย้ายมาห้องราชดำเนิน (นานมากๆแล้ว) ได้เห็นกลุ่มบุคคลเก่า (ขาประจำ) ถกกัน บ้างก็เถียงกัน เอาชนะกัน ผมเองก็เข้าร่วมด้วยหลายครั้ง ในหลายๆชื่อ บางทีก็เบื่อถึงหลบไป อีกอย่างงานที่ทำก็ไม่มีเวลามาอยู่หน้า com ตลอด บางทีก็แวะไป ห้องสมุด อ่านกระทู้เกี่ยวกับหนังกำลังภายใน(ที่ผมชื่นชอบ) เรื่องศาสนา แล้วก็กลับมาที่ราชดำเนิน หลังจากที่ pantip.com กำหนด ให้ต้อง sign in ถึงจะ post กระทู้ได้ ผมก็สมัครครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ตอ่นนี้ก้จำชื่อไม่ได้แล้วด้วย เมื่อออกความเห็นในกระทู้หนึ่ง แล้วเกิดความขัดแย้ง พอมีกระทู้เรื่องใหม่ ก็จะถูกผู้คนผู้ไม่เห็นด้วยจากกระทู้เก่าๆตามหลอกหลอนตลอดเวลา ผมเพียงแต่แสดงความคิดเห็นในฐานะคนๆหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่านั้น ไม่ต้องการให้ใครยกย่องในความเห้นของผม ทุกถ้อยคำที่ผมเขียน ผมกลั่นกรองด้วยสมองน้อยๆของผมแล้วจึงเขียน(พิมพ์)ออกมา เพื่อลดความยุ่งยาก ผมจึงห้นมาใช้ บัตรผ่านแทน

สำหรับ คุณน้องต๋าว กระผมขอเอาใจช่วยไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม ให้คุณสามารถทำในสิ่งที่ฝันได้โดยปราศจากการแซกแซง ไม่ว่าจากฝ่ายใด สามารถใช้วิถีทางตามระบอบประชาธิปไดยได้โดยสันติและถูกต้อง และต้องขออภัยทุกท่านหากความเห็นกระผมทำให้ท่านใดเข้าใจผิด หรือไปส่งเสริมฝ่ายตรงข้ามกับท่านไม่ว่าใครก็ตาม โดยผมได้บอกไปแล้ว ผมไม่มีข้าง

สำหรับคราวนี้ผมคง post เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว และจะไม่โต้ตอบไปมาอีก และคงเลิกใช้ชื่อ "ฟ้าหม่น" นะกระทู้นี้ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เสียเวลาอ่านนะครับ

จากคุณ : ฟ้าหม่น - [ 21 ต.ค. 47 09:21:15 A:192.168.200.100 X:202.176.84.127 TicketID:031599 ]

ความคิดเห็นที่ 66

กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ดีมาก เราจะเห็นอะไรได้อย่างชัดแจ้งและเริ่มเป็นรูปธรรมในสิ่งที่เราสร้างก็มาจากการ "ถก" หรือการระดมสมองกันนี่แหละค่ะ
ทุกคนต่างมีความประสงค์ดีด้วยกันทั้งนั้น
ดังนั้น ตามความเห็นเรา
การเปิดกว้างทางความคิดจึงเป็นสิ่งที่ดี
เราเคารพในสิ่งที่คุณ ผู้หญิงไทย ทำ และคิดมาก ถึงมากที่สุด
แต่เราก็ยังรับฟังคุณจอร์จ และคุณฟ้าหม่นด้วย
ถ้าทุกคนล้วนมีจิตใจดีและมีเป้าหมายเดียวกัน
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องทะเลาะกันเลย แต่เป็นเรื่องที่เรามาคุยกันอย่างถึงแก่น เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดเพื่อสัตว์น้อยที่อาภัพอับวาสนาบนโลกนี้เช่นกัน
รัก และเคารพทุกท่านจริงๆ
ตามอ่านและจะช่วยรวบรวมรายชื่อไปด้วยค่ะ
ส่วนผู้ที่เข้ามาแจม และมาชวนให้ผู้อื่นทะเลาะกันนั้น
ขอเชิญออกไปนอกวงก่อนเถิดนะคะ มิฉะนั้นคุณจะทำกรรมเสียเปล่าๆ
คนเค้ากำลังจะสร้างเจดีย์ ก่อบุญกุศลให้เกิดกับโลกค่ะ

จากคุณ : ข้างหลังภาพ - [ 21 ต.ค. 47 09:51:19 A:202.28.24.194 X: TicketID:062975 ]

ความคิดเห็นที่ 67

ไม่เปงไร ไม่เปงไรฮ้า
ที่เถียงๆ อธิบายกัน จริงๆแล้วบนพื้นฐานของความหวังดีที่มีต่อสัตว์ตัวเล็กๆเหล่านั้นเท่านั้นเอง
(จะเถียงกันไปแล้ว มันมีปาฏิหารย์ทำให้กม.ผ่านไหมเนี่ย--เกาหัวแกรกๆค่ะ)

ฟังแล้วไม่เข้าหู เข้าใจผิดกันบ้าง เปิดใจแล้วให้อภัยกันน่ะค่ะ ใครคิดไม่เหมือนคุณก็ช่างเขาไปบ้าง--มันจะลำบากอะไรกันหนักหนา
เราว่าเราก็พูดไม่ค่อยดี เวลาฉุนๆไปบ้าง ขอโทษเพื่อนๆที่โดนแรงกระแทกอย่างคุณฟ้าหม่น และคุณฟ่างหรือท่านอื่นๆด้วย(จะรีบไปไหนละค่ะ มาลงชื่อกันก่อนเร็ว เร้ว-)
เราจะไม่โต้เถียงกันแล้วน่ะค่ะ ว่าใครเสียสละตัวเองมากกว่ากัน ใครรัก ใครเกลียด ใครมีความเห็นไม่ตรงกันในรายละเอียดที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน----คือ มีส่วนทำให้สิ่งแย่ๆนี้ดีขึ้น( ด้วยการร่วมกันลงชื่อสนับสนุนร่างพรบ นี้)

ขอให้ทราบด้วยว่าเรื่องแย่ๆที่เรากำลังคุยกันถึง คือ การขโมยสัตว์เลี้ยงไปขาย ฆ่าอย่างทารุณ เช่น กรณีท่าแร่ การขนหมาแน่นกรงข้ามไปประเทศเพื่อนบ้าน
การถูกหลอกให้บริโภคเนื่อสัตว์เหล่านั้นโดยไม่มีทางรู้เลย ว่ามันมีเชือโรคพิษสุนัขบ้า หรือโรคใดๆก่อนถูกชำแหละมาบ้าง ในคราบของเนื้อวัว ลูกชิ้น--ส่งมากรุงเทพวันละ 500โล อยู่ในท้องเราไปกันที่กิโลแล้วไม่ทราบได้

การหยุดยั้งขบวนการอุbathนี้ ก่อนที่จะแผ่วงไปกว้างจนในที่สุด เราต้องยอมจำนงและรู้สึกภายหลังว่าทำไม เราถึงปล่อยให้มันเกิดขึ้นในบ้านเมืองเราได้ ทั้งๆที่เรามีโอกาสจะหยุดยั้งมันได้
-- --ด้วยความหวังค่ะ ทุกๆขั้นตอนนั้นนอกเหนือการควบคุมของเรา อาจไม่จบอย่างที่เราเริ่มต้น แต่อย่างน้อย--เราก็ได้ทำน่ะค่ะ ด้วยความปรารถนาดีและเห็นค่าความรักที่เราได้จากเพื่อนตัวเล็กๆข้างๆเราค่ะ
ปล...ขอบคุณ คุณข้างหลังภาพด้วยค่ะ

แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 47 12:04:25

จากคุณ : น้องต๋าว (น้องต๋าว) - [ 21 ต.ค. 47 10:43:28 ]

ความคิดเห็นที่ 68

จากกระทู้คุณแซนดี้ค่ะ

ความคิดเห็นที่ 13

แหมคุณซินดี้ น่าจะให้เจ้าดำอ้วนหางกุดที่บ้านเราหอมซะ2ฟอดแทนคำขอบคุณโตๆ
- เราขออธิบายขั้นตอนการเสนอแบบร่าง ด้วยภาษาชาวบ้านดังนี้น่ะค่ะ(ภาษากม ไม่ยู้อ่ะ)
อาจเวียนเฮดหน่อย(โทรไปถามเพื่อนที่เป็นทนายมา ถ้าผิดเดี๋ยวให้เบอร์โทรไปเฉ่งที่เพื่อนเราละกันอุ-อุ)
เนื่องจากเคยมีกม ลักษณะป้องกันการทารุณสัตว์มาแล้ว แต่ไม่ครอบคลุมมากพอ
(มีช่องว่างอย่างที่เราเห็นแหละค่ะ ห้ามขนซากหมาแมว เพื่อการค้า มันเลยขนกันเป็นๆแน่นกรงเลย)

ดังนั้นร่างใหม่ต้องเสนอเข้าสำนักกฤษฎีกา เพื่อตีความว่าแย้งกับ กม เดิมไหม
หลังจากนั้น จะถูกเสนอในสภา ให้ยกมือแย้งกัน เถียงกัน แบบในทีวีแหละค่ะ จากนั้นจะถูกส่งไปที่สมาชิกวุฒิสภา และให้ในหลวงเซ็น ในที่สุดค่ะ

ข้อมูลผิดอย่างไรเดี๋ยวพรุ่งนี้มาแก้ไขให้ค่ะ เพื่อนเราเขาจะไปเช็คอีกทีหนึ่ง
ประเด็น คือ ทั้งร่างที่เสนอ อาจมีบางข้อที่ถูกแย้งไม่ให้ผ่านได้ ถ้าขั้นตอนในการกรองเห็นว่าไม่สมควร
แต่ถ้าไม่มีรายชื่อประชาชนสนับสนุนครบตามรัฐธรรมนูญกำหนด เขาก็ยื่นไม่ได้ค่ะ
ดังนั้น เราเลยอ่านผ่านๆดูภาพรวมเอาค่ะ เพราะเดี๋ยวนักกม เขาก็ต้องทำหน้าที่เขาเองแหละค่ะ
เท่าที่ทราบมา ร่างชุดนี้ถูกแก้ไขค่อนข้างนิ่งแล้ว ที่เราอ่านดูครอบคลุมดี
(ให้เราเพิ่มเติมคงไม่มีหรอกค่ะ ไม่แตกฉานขนาดนั้น หนูเรียนศิลปะมาค่ะ)

จากคุณ : น้องต๋าว - [ 19 ต.ค. 47 19:33:23 ]
แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 47 15:49:06

จากคุณ : น้องต๋าว - [ 21 ต.ค. 47 10:48:48 ]

ความคิดเห็นที่ 69

ถึงบอกอกูรู
มาเลยพี่ มัวแต่จีบหญิง แหมไม่อยากจะเม้าท์
(ไม่ต้องมายกนิ้วเลยง่ะ)
เอาเรื่องนี้ไปคุยต่อที่วงพี่ด้วย ในฐานะหนุ่มแก่ เอ๊ย หนุ่มฮ็อตของห้องสวนลุม ถ้าไม่ทำหนูขอให้อาการตุ๊ดที่พี่เป็นๆหายๆ กลายเป็นตลอดชีพ(ดีม่ะ)

จากคุณ : น้องต๋าว - [ 21 ต.ค. 47 10:54:18 ]

ความคิดเห็นที่ 70

มาดูกันหน่อย เขาเดินกันไปถึงไหนกานนแล้ววว--ชิ้วๆ
เถียงกันเรื่องหมาๆอยู่ด้ายยย(หนูพูดไม่ผิดหรอกค่ะ เรื่องหมาๆ--จิงๆ )http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J3075953/J3075953.html

แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 47 11:16:08

จากคุณ : น้องต๋าว - [ 21 ต.ค. 47 11:13:13 ]

ความคิดเห็นที่ 71

ใช้หลัก " แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง " ดีมั้ยครับ

เมตตาและอภัย ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ควรยึดถือเป็นหลักประจำใจ

ถึงจะเดินไปสู่เป้าหมายร่วมกันได้สำเร็จ

หนทางยังอีกยาวไกล

ถนอมน้ำใจกันไว้ดีกว่านะครับ

จากคุณ : mkps - [ 21 ต.ค. 47 12:49:07 ]

ความคิดเห็นที่ 72

ชงักเลยครับ ....
อ่านข้อความของคุณ ผู้หญิงไทย . แล้ว ไม่ค่อยอยากร่วมวงนี้เลย ..

คิดได้คับแคบมากครับ ..
เรากำลังจะทำเรื่องที่ใหญ่ระดับประเทศ กำลังจะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต ที่ดำเนินมาเป็นสิบ เป็นร้อยปี ของคนกลุ่มหนึ่ง..
เรากำลังจะบอกกับทุกคนว่า เราทำถูก กลุ่มนั้นทำผิด ..

เราควรจะให้เหตุผล มาสร้างความเชื่อถือ
เอาความจริงใจ หักล้างกับอคติ

แต่ที่คุณทำแบบนี้ .. ผมคนหนึ่งหล่ะครับ ..
ที่ไม่เอาด้วยกับคุณแน่นอน ..

จากคุณ : ทุ่มเท - [ 21 ต.ค. 47 13:23:58 ]

ความคิดเห็นที่ 73

คุณทุ่มเท ช่วยกลับไปอ่าน คคห ที่66 กับ67 ด้วยค่ะ
คงเข้าใจว่าเรากำลังบอกอะไรน่ะค่ะ
เราคุยกันเรื่อง พรบ ค่ะ และวิธียื่น ที่บางคนอาจเห็นปัญหา
แล้วมาแก้กัน--ไม่ใช่สร้างปัญหา
ถ้าไม่ถูกใจกัน ช่วยส่งไปหากันหลังไมค์เอาเองดีกว่า
สงสารเพื่อนๆต้องเข้ามาโหลดกระทู้นานๆค่ะ
เพื่อตัดปัญหา
ดิฉันขอให้ คุณผู้หญิงไทยงดออกความเห็นในกระทู้นี้ต่อน่ะค่ะ
ถ้าต้องการแสดงความเห็น รบกวนตั้งกระทู้เองต่างหาก
เราจะได้คุยกัน เพื่อพัฒนาเรื่องพวกนี้ ต่อไปค่ะ
ขอบคุณค่ะ

จากคุณ : น้องต๋าว - [ 21 ต.ค. 47 14:00:50 ]

ความคิดเห็นที่ 74

คุณผู้หญิงไทยอาจจะกำลังหงุดหงิดที่ช่วยหมาส่วนใหญ่ไม่ได้เลยใจร้อนไปหน่อย แต่ถ้าเหตุผลเพียงแค่นี้ทำให้หลายคนถอย แล้วเราจะช่วยออกร่างพรบ.นี้ได้อย่างไร ที่พวกเราเข้ากระทู้นี้เพื่อต้องการช่วยมิใช่หรือ

จากคุณ : PEESUP - [ 21 ต.ค. 47 14:08:31 ]

ความคิดเห็นที่ 75

ลองอ่าน พรบ. ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์แล้ว
http://www.thaiaga.org/Thai%20AGA%20LAW.htm
อ่านก็ไม่ได้ละเอียดนักนะครับ จับเอาจุดใหญ่ ๆ มา
ในนั้นได้แบ่งการปฏิบัติกับ สัตว์เลี้ยง สัตว์เศรษฐกิจ และสัตว์ป่า ไว้อย่างชัดเจน แต่ ระหว่างสัตว์เศรษฐกิจ กับ สัตว์เลี้ยง ยังคลุมเครือ ครับ (อยู่ช่วงล่าง ๆ ลองหาอ่านดู)
ลองตีความแล้วคำว่าสัตว์เศรษฐกิจ อาจรวมถึงสุนัขและแมวได้ด้วยอ่ะ - -"
เพราะเรายังซื้อขาย ได้ จึงถือว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจไป
ถ้าแยกตัวนี้ได้ชัดเจนนะ ครับ พรบ. ฉบับนี้จะตรงประเด็นมาก
อีกเรื่องก็บทลงโทษยังไม่มีการกำหนดไว้ชัดเจน
เด๋วมีประเด็นต่อ ลองฟังความคิดเห็นท่านอื่นดีกว่า
แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 47 14:40:42

จากคุณ : Jorge - [ 21 ต.ค. 47 14:30:52 ]

ความคิดเห็นที่ 76

ทางสมาคมแจ้งมาว่า มีบทลงโทษแล้ว
เหมือนพรบ ทั่วไป--เป็นไงง่ะ
--งงๆ----เขาเลยจะเอามาลงให้ดูเต็มๆต่อท้ายที่ตัวแบบร่างพรบอันที่เราดูกันอยู่ในเวปสมาคมหน่ะค่ะ
-----แต่รอแป็บบนึง ตอนนี้เร่งพิมพ์แบบร่างสัตว์และสัตว์ทดลอง ของ กรมปศุสัตว์--อันที่คุณแม่มดพันปีขออ่ะ ลงเวปให้อยู่ เพื่อนๆจะได้ใช้ดู หาความต่างกัน

เห็นบอกว่า เกือบเสร็จแล้วค่ะ
แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 47 14:14:14

จากคุณ : น้องต๋าว - [ 21 ต.ค. 47 18:32:50 ]

ความคิดเห็นที่ 77

เนื่องจากกคคห.ที่ดิฉันได้ตอบไปโดยบริสุทธิ์ใจในคคห.หนึ่งเกี่ยวกับหัวข้อคุณ มีคคห.บางอันได้ถูกลบไปเพียงเพราะไม่เห็นด้วยกับผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นที่กล่าวตำหนิ ผรุสวาทดูถูกและหมิ่แคลนดิฉันในเรื่องคคห.เกี่ยวกับการต่อสู้เพ่อสัตว์ในแค่ห้องเนตเล็กๆอย่างที่ท่านผู้นั้นว่าไว้ และเมื่อดิฉันเข้ามาตอบก็ได้ถูกลบไป แต่ของบุคคลท่านนั้นยังคงอยู่

ดังนั้น ดิฉันจึงขอให้คุณต๋าวช่วยลบความคิดเห็นของดิชั้นในทุกข้อที่ตอบไว้

เหตุผล เพราะว่าดิฉันเข้าใจว่าถ้าหากมามีผู้ใดมาตั้งกระทู้เปิดโดยที่ให้คนรักสัตว์มาแสดงความคิดเห็นเพื่อระดมสมองกันได้ ย่อมหมายความว่าผู้นั้นมีจิตใจเปิดกว้างอย่างเพียงพอที่จะรับฟังความคิดเห็นของผู้อ่านอย่างโดยปราศจากอคติใดๆ แต่ทว่าคคห.บางอันของดิฉันในระหว่างตอบกระทู้เพื่อปกป้องสัตว์จรจัดได้ถูกลบออกไปทั้งๆที่เป็นการชี้แจงความเห็นที่แตกต่างกันในอีกแง่มุมหนึ่งโดยไม่ได้รับการให้เกียรติตามที่สมควรเป็นหรือขออนุญาตหรือแจ้งให้ทราบก่อน

ดังนั้นถ้าหากคุณต๋าวเพียงแต่ต้องการแต่ผู้สนับสนุนประเภทเออๆคะๆตามกัน...ใช่ๆๆๆดีๆๆ...ทำนองนั้น ดิชั้นก็พอจะมองออกตามรูปการณ์

ดังนั้นชั้นจะได้ไม่เข้ามาโพสต์แสดงความคิดเห็นตามที่เป็นจริงในฐานะของคนที่เลี้ยงสัตว์จรจัดมานานหลายสิบปีที่มีประสพการณ์ตรง ที่รวบรวมจากทั้งที่ตัวเองประสพมาและที่กลุ่มเพื่อนๆรักสัตว์ตัวจริงที่ทำกันมาหลายสิบปีจนหลายๆคนที่อาจจะเป็นที่รู้จักกันบ้างและที่ไม่ได้เป็นที่รู้จักกันบ้างได้ล้มเจ็บและบางคนเสียชีวิตลงไปเพราะการทำงานเกินกำลังจากการดูแลสัตว์จรจัดที่มีผู้นำมาทิ้งไว้ตามถนน ตรอกซอย หรือวัด หรือสถานที่หลายๆแห่ง

เพื่อนๆร่วมอุดมการณ์นี้หลายท่านที่สิ้นชีวิตไปแล้ว ในขณะที่ท่านเหล่านั้นยังมีชีวิตอยู่ได้หมั่นปรารถและฝากทิ้งอุดมการณ์เพื่อสัตว์ให้ดิชั้นสานต่อสู้ต่อเพื่อปกป้องชีวิตและความปลอดภัยของสัตว์ที่ไร้ที่พึ่งเหล่านั้น

ทั้งนี้หมายความว่าพวกเราได้ร่วมรวมใจคนที่ต่อสู้เรื่องนี้มาหลายแหล่งแห่งที่เป็นเวลามากกว่าสิบปีแล้วในทุกที่ที่พวกเราทราบใช่แค่ที่ห้องเนตเล็กอย่างทีคุณบางคนข้างบนกล่าวปรามาสดูถูกไว้

ไหนๆพูดแล้วก็อยากจะเล่าสักหน่อยว่า แม้กระทั่งในรัฐธรรมนูญดิชั้นเองก็ได้พยายามไปต่อสู้ให้เขียนไว้เพื่อสิทธิสัตว์

แต่คณะบุคคลากรสสร.บางท่านที่ดิฉันได้ติดต่อในช่วงการร่างรัฐธรรมนูญฉบับล่าสุดนั้น หลายท่านบอกว่าจะดำเนินการให้ในเรื่องเร่งด่วนกว่าก่อน เช่นเรื่องสิทธิเด็กที่หลายๆคนเห็นด้วยและพยายามผลักกันกันในช่วงนั้น

(ดิฉันได้วิ่งเต้นขอไปในหลายๆเรื่องช่วงนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องสิทธิเด็ก สิทธิคนด้อยโอกาส สิทธิคนชรา สิทธิมารดาที่ตั้งครรภ์ สิทธิลูกกตัญญู สิทธิแผ่นดินที่จะสงวนรักษาแร่ธาตุ แหล่งทรัพยากรธรรมชาติ ภูเขา หนองน้ำเป็นสัดส่วนกี่เปอร์เซนต์ที่เก็บให้ถึงมือลูกหลานไทยในอนาคต ไม่ใช่เอามาผลาญใช้กันจนหมดในยุคนี้ฯลฯ รวมทั้งสิทธิสัตว์ด้วยที่ขอไปในใบแสดงเจตน์จำนงค์ที่ยื่นต่อผู้เกี่ยวข้องในการนี้พร้อมทั้งเหตุผลต่างๆที่ทำไมต้องมี)

ซึ่งความจริงหลายๆท่านเห็นด้วยเรื่องสิทธิสัตว์ แต่ขอให้เป็นในกาลต่อไปหลังจากสิทธิเเด็กและสิทธิฯลฯเพื่อมนุษย์ได้ระบุไว้ให้ได้ก่อน จากนั้นถ้ามีโอกาสเพิ่มเติมจะได้ดูเรื่องสิทธิสัตว์ต่อไปในอนาคต

ซึ่งดิชั้นก็ต้องจำยอมไปก่อนเพราะอย่างน้อยเรื่องสิทธิต่างๆฯลฯที่ขอไปหลายๆเรื่องจะได้มีขึ้นเสียทีทั้งนี้เพื่อสิทธิประชาชนเล็กๆที่ไม่สามารถพูดแทนตัวเองได้ จะได้ได้รับตอบรับและพิทักษ์ดูแลจากกฏหมายดีกว่าไม่ได้อะไรเลยเพื่อพวกเขาคนด้อยโอกาสเหล่านั้น

ดังนั้น ไหนๆคุณต๋าวได้ลบคคห.ของชั้นอันหนึ่งไปข้างต้นแล้ว ก็เห็นว่าถ้าการแสดงความเห็นของชั้นไม่เป็นถูกใจท่าน ก็ช่วยกรุณาลบความเห็นของชั้นในทุกกระทู้นี้ด้วยค่ะ เพราะชั้นคงไม่สามารถแสดงความคิดเห็นเออๆคะๆตามที่คุณปราถนาได้

นอกจากแสดงความเป็นจริงตามข้อเท็จจจริงที่ได้ประสพมาในหลายสิบปีด้วยความรักและเป็นห่วงสัตว์เลี้ยงที่น่ารักน่าสงสารที่พวกมันหรือว่าชาติพันธ์มันไม่สามารถพูดแทนตัวพวกมันได้

ช่วยลบไปทั้งหมดทุกความเห็นเลยค่ะ จะได้ไม่เสียเวลาโหลดกระทู้ที่ไม่ได้แสดงความเห็นเออๆคะๆๆอย่างที่คุณต้องการหรือมุ่งหวัง

แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 47 23:25:33
แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 47 23:22:14
แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 47 22:41:20
แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 47 22:22:42

จากคุณ : ไม่เสวนา (** ผู้หญิงไทย **) - [ 21 ต.ค. 47 22:12:06 ]

ความคิดเห็นที่ 78

ใจเย็นๆๆ กันนะคับ

กลับเข้าประเด็นกันมาก่อนเถอะครับ ประเด็นคือการร่วมมือกัน หารายชื่อให้ได้ครบตามจำนวนเพื่อช่วยผลักดัน กฏหมายตรงนี้

ส่วนรายละเอียดไว้ค่อยว่ากันอีกทีเถอะครับ ช่วยกันเอาขั้นแรกให้ผ่านก่อน เราต้องนับ 1 2 3 4 5 6...นะครับ คงเป็นไปไม่ได้ ถ้าเราจะไปมอง ที่ 10 11 12 โดยที่เรายังไม่ผ่านขั้นตอน 1 2 3 4 ไปเลย รวมรายชื่อก่อนเถอะครับ

จากคุณ : มีนะ กะ กาโม่ - [ 22 ต.ค. 47 00:29:15 ]

ความคิดเห็นที่ 79

คนเราอย่าเอะอะก็ธุรกิจ สัตว์ที่เรากินอยู่ทุกวันนี้ก็เบียดเบียนกันมากพอแล้ว คนเรากินเพื่ออยู่นะคะ หมู ปลา วัว ควาย เป็ด ไก่ ที่กินก็บาปกันมากพอแล้ว ทำไมต้องเบียดเบียนกันอีก แมว หมาเป็นสัตว์เลี้ยง จะตะกละอยากกินอะไรกันมากขนาดนี้

เห็นภาพหมามันร้องบ้างมั้ย นึกถึงลูกคุณที่ดีใจที่เห็นหมา แมวแล้วเข้าไปอุ้มกันบ้าง

เพียงเพราะเกิดเป็นมนุษย์ ทำบาปมากแล้ว อย่าสร้างบาปให้มันมากกว่านี้เลย คุณไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินชีวิตคนอื่นให้มันออกนอกกรอบไปมากกว่านี้

ยังมีหัวใจกันอยู่บ้างหรือไม่ หรือเห็นเงินเป็นพระเจ้าไปแล้ว

จากคุณ : กวางโย่ง&ManU - [ 22 ต.ค. 47 00:44:05 ]

ความคิดเห็นที่ 80

ไม่ควรเลยไม่ควร เป็นการหักด้ามพร้าด้วยเข่าแท้ๆ
อยากให้ดูเวลาเค้าแทงคอหมูจริงๆ ว่าหมูมันร้องโหยหวน
ชวนกินขนาดไหน
หลายๆคนพอผู้อื่นไม่เห็นด้วยก็ทำปากจัดใส่อารมณ์
เลี้ยงหมาไว้ในปากกันด้วยหรือนี่ รบกวนแล้วรบกวน

จากคุณ : ปูจักจั่น - [ 22 ต.ค. 47 02:39:48 ]

ความคิดเห็นที่ 81

อย่ากินเพื่อนๆหนูเลยนะคะ

จากคุณ : kiss*sa น่ารัก - [ 22 ต.ค. 47 11:40:58 ]

ความคิดเห็นที่ 82

21:40 น. วันอาทิตย์ 24 ต.ค. รายการ "ถอดรหัส"
น่าจะมีคำตอบสำหรับใครบางคน..

จากคุณ : คนคุ้ยคอมพ์ ([คคค]) - [ 22 ต.ค. 47 12:03:27 ]

ความคิดเห็นที่ 83

อย่าทะเลาะกันเลยค่า..เพื่อนส่วนใหญ่ที่เข้ามาเพราะความหวังดีทั้งนั้นอย่างที่คุณต๋าวได้บอกว่า ว่าเรามีจุดประสงค์เดียวกัน ..... แต่มาจากหลากหลายทางเดิน...... เมื่อคิดว่าเราจะเข้ามาเดินเพื่อไปให้ถึงที่เดียวกัน...กับหนทางขรุขระนั้น ...เรามาช่วยกันสร้างสะพานเพื่อไปให้ถึงดีกว่ามั้ยค๊ะ ...

นะนะ อย่าทะเลาะกันเลยค่ะ ...

จากคุณ : แม่น้องเบสท์ - [ 22 ต.ค. 47 12:55:03 ]

ความคิดเห็นที่ 84

อ่านแล้วอึ้ง จะไปกันใหญ่แล้ว ถ้า พรบ หมาแมว (ไม่ใช่อันที่เป็นเรื่องทารุณสัตว์นะ) นี้ถูกส่งเข้าสภาพิจารณา แล้วมีการรวบรวมรายชื่อค้านละก็ ผมลงชื่อแน่ โดยความเห็นส่วนตัว จะฆ่าหมา 1 ตัว หรือ หมู 1 ตัว บาปเท่ากัน เนื้อหมาใครใคร่กินกิน ถ้าเค้าไม่ไปทำอะไรให้คนอื่นเดือนร้อน เช่นไปขโมยเค้ามา (จริงๆ อันนี้ก็แจ้งข้อหาลักทรัพย์ได้อยู่แล้ว) ผมเลี้ยงหมานะครับ เลี้ยงอย่างดีด้วย ไม่เคยกินเนื้อหมา แต่เคารพสิทธิในการกินของคนอื่น ถ้าการกินเนื้อหมาแพร่หลาย เค้าก็พัฒนาวิธีการฆ่าไม่ให้หมาต้องทรมาณมากเองแหละครับ
แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 47 14:07:35

จากคุณ : จะด่าก็ได้ (cdchd) - [ 22 ต.ค. 47 14:06:52 ]

ความคิดเห็นที่ 85

คห 84 ครับ ไม่ต้องอึ้งนะครับ
ตอนนี้เรากำลังหาจุดร่วมกันอยู่ ความเห็นของคุณ เป็นสิ่งที่ดีครับ เพราะคงมีคนในสังคมไม่น้อยที่เห็นเหมือนคุณ
ห้ามรับประทานคงไม่ได้ ห้ามฆ่าก็คงไม่ได้เช่นกัน เพราะไม่รู้จะเอาเหตุผลอะไรมาอ้าง(จริง ๆ) แต่ถ้าจะทำกันเป็นธุรกิจ ก็อยากให้มีระเบียบครับ
ลองเสนอมุมมองมาสิครับ ว่าจะจัดการอย่างไร
ปัจจุบันก็เห็นอยู่ว่าการขนส่ง กระบวนทำ และผลิตภัณฑ์ ก็เป็นอย่างที่เห็น คือ ไม่มีระเบียบ นึกจะทำ ก็ทำ แถมหลอกลวงว่าเป็นเนื้อวัวอีกต่างหาก มันจะง่ายเกินไปหรือเปล่า

จากคุณ : คนที่เคยโดนด่ามาแล้ว (Jorge) - [ 22 ต.ค. 47 14:38:20 ]

ความคิดเห็นที่ 86

ยินดีช่วยอย่างยิ่งคะ

zenith_mith@hotmail.com

จากคุณ : ZeNith - [ 22 ต.ค. 47 14:41:44 A:10.3.2.92 X:203.151.3.226 TicketID:003814 ]

ความคิดเห็นที่ 87

คุณเทอร์แวะมาขอบคุณทุกๆ คนที่มาช่วยน้องต๋าวตามเรื่องพรบ. ทั้งที่โดยปกติน้องต๋าวไม่ได้อยู่ห้องหมา หากวันไหนคุณโรเจอร์ต้องไปยื่นพรบ. และต้องการแนวร่วมเดินทางไปด้วย คงจะแจ้งให้ทุกคนทราบอีกครั้งนะคะ

คุณโรเจอร์ฝากขอบคุณทุกๆ คน มา ณ ที่นี่ด้วยนะคะ

จากคุณ : คุณเทอร์ - [ 22 ต.ค. 47 17:06:53 ]

ความคิดเห็นที่ 88

>>>>>>>> ตอบคุณ cdchd ในคห 84 <<<<<<<<
1. คุณเปรียบเทียบสัตว์ 2 ชนิดคือ หมากับหมู
ว่าฆ่าอย่างไหนก็บาปเท่ากัน เพราะเป็นสัตว์เหมือนกัน

2.ตานี้ผมขอถามคุณหน่อย
สมมุติ นาย ก. ไปฆ่า นาย ข. ซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้
กับ นาย ก. ฆ่าแม่ ของตัวเอง

ถ้าอาศัยตรรกอย่างที่คุณตอบในข้อ 1.
ในข้อ 2. คุณก็ต้องตอบว่า นาย ก.ฆ่าคน 2 คนนั้น
ก็บาปเท่ากัน ใช่หรือไม่ เพราะก็ฆ่าคนเหมือนกันนี่ใช่ไหม
แต่คุณก็รู้อยู่แก่ใจแล้วว่า ตอบแบบนี้มันผิดแน่นอน

หมู หมา กา ไก่ ช้าง ม้า วัว ควาย หนู ยุง แมลงสาบ
ต่างก็เป็นหนึ่งชีวิตเท่ากัน
แต่ความเห็นของผมสำหรับการฆ่าสัตว์เหล่านั้น
ผมเห็นว่ามันบาปไม่เท่ากันแน่นอน
ถ้าฆ่าสัตว์ที่มีบุญคุณแก่คนเรา ผมเห็นว่ามันบาปกว่า
เช่นเดียวกับคนที่ฆ่าบุพการีของตัวเอง กับฆ่าคนอื่น นั่นไง

แต่ละสังคม ก็เห็นคุณค่าของสัตว์ต่างๆกันไป
บางสังคมถือว่า วัว เป็นสัตว์ของพระเจ้า
บางสังคมถือว่า ช้าง เป็นสัตว์สูงส่ง

จะแปลกด้วยหรือ ถ้าชุมชนเล็กๆแห่งนี้
จะเห็นคุณค่าของ หมา ว่าเป็นสัตว์กตัญญู รู้คุณคน
ซึ่งสมควรได้รับการปกป้อง ไม่ให้ถูกกระทำย่ำยีอย่างต่ำทราม
จากน้ำมือของเดรัขฉาน ในคราบของคน อย่างที่เป็นกันอยู่ในปัจจุบัน

แต่ก็อีกนั่นแหละพูดไปทำไมมี
แต่ละคนพื้นภูมิหลังที่เติบโตมาเป็นคนอยู่ในทุกวันนี้ มันก็ต่างๆกันไป
การพัฒนาความคิดจิตใจ การอบรมบ่มนิสัยมันก็ไม่เหมือนกัน
จะให้คิดเหมือนกัน ชอบเหมือนกัน ย่อมเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว

ขอบคุณที่เข้ามาแสดงความเห็นที่ห้องนี้

จากคุณ : mkps - [ 22 ต.ค. 47 17:29:30 ]

ความคิดเห็นที่ 89

ขออนุญาตเจ้าของกระทู้และคุณน้องต๋าวนะครับ
ขอทราบจุดประสงค์ของการร่าง พรบ. ฉบับนี้หน่อยครับ ว่าเราจะทำขึ้นเพื่ออะไร เพื่อเป็นแนวทางก่อนนะครับ เพราะดูแล้วจุดประสงค์ยังไม่ค่อยตรงกันเท่าไหร่

จากคุณ : Jorge - [ 22 ต.ค. 47 18:42:03 ]

ความคิดเห็นที่ 90

ว่าจะไม่ตอบแล้วนะ

ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง กับการกินหมา แต่ว่า......

การร่างพรบ.หรืออะไรก็ตามแต่ ถ้าคนมันไม่ทำตาม
มันก็ไม่ทำตาม เหมือนยิ่งห้ามก็ยิ่งยุ

ในเมื่อการกินหมาเป็นวัฒนธรรมในพื้นที่ของเค้า
เราเพียงแค่ขอเค้าแค่ว่า (คิดว่าต้องขอ ขอร้องเลย สั่งคงไม่ได้)
1. ในเรื่องของวิธีการฆ่า ให้มันมีมนุษยธรรมหน่อย
อย่าทำร้ายจิตใจคนรักสัตว์

2. หมา แมวที่นำมาปรุงอาหาร เจ้าของที่แท้จริงคือใคร
ไปขโมยเค้ามาป่าว ถ้าขโมยเค้ามา ปิดไปเลยไอ้โรงหมาอันนี้ ยึดใบอนุญาต ไม่ให้ประกอบอาชีพนี้อีกต่อไป

3. ตีเขตพื้นที่อันตรายสำหรับหมา แมว ให้ชัดเจน
อย่าให้กระจายในถิ่นที่พักอาศัย หรือเขตชุมชน

สำหรับบางคนที่จะไปห้ามเค้าไม่ให้กินเลย
มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หรอก
เกาหลี ไต้หวัน อินโด มาเลฯ เค้ากินหมาเป็นเรื่องธรรมดา
ไม่ได้บอกว่าให้ไทยไปเลียนแบบเค้า
แต่อยากบอกว่า มันเป็นมุมมอง

ในไทย บางคนไม่กินวัว ไม่กินควาย แต่บางคนกิน
คนพวกนี้ไม่ได้ออกมาเรียกร้องว่าทุกคนต้องห้ามกินวัวควาย

จริงอยู่ว่า หมา แมว เป็นสัตว์เลี้ยง มีความผูกพันกับคนเสียส่วนใหญ่
แต่หากว่า คนที่กินหมา แมวนั้น ไม่ได้เอาหมาเรา แมวเราไปกิน
เค้าเอาหมาเค้าที่เค้าเลี้ยงมา แมวเค้าที่เค้าเลี้ยงมา ไปกิน
มันก็คือสิทธิ์ของเค้า

เห็นได้หลาย ๆ กรณี เค้าไม่กินหมา ไม่กินแมว
แต่ตีหมาตีแมว ทารุณมัน ก็มีให้เห็นตั้งเยอะ
เราทำอะไรได้มั้ย ก็หมาเค้า แมวเค้า
ห้ามเค้าไม่ให้ตี มันก็ได้เป็นครั้ง ๆ คราว ๆ

เหมือนนักศึกษาหลาย ๆ คน มีการศึกษา รู้อยู่แก่ใจว่า
ขายตัว การทำแท้ง เป็นสิ่งไม่ดี ผิดกม.
แต่ทำไม ยังมีขายกันให้เกลื่อน ยังทำแท้งกันเป็นแฟชั่น
จะบอกว่าเอาตัวรอด หรืออะไรก็ตามแต่
คนเรามีข้ออ้างที่จะกระทำอะไรบางอย่างไปได้เรื่อย

เมื่อยังมีคนใจไม้ เอาหมา เอาแมวมาเลี้ยงแล้ว
ยังเอามาปล่อยให้จรจัดอีกมากมาย
ปล่อยให้หมาบางตัวทนทุกข์ทรมาน ตามวัด
ตามแหล่งก่อสร้าง ตามข้างถนน
ทั้งไม่เคยนึกถึงว่า ไอ้ตูบตัวนี้ ชั้นเลี้ยงมาตั้งแต่ตัวเท่าฝาหอย
นังเหมียวนี่ มันอยู่กับชั้นแต่แต่ยังไม่มีแฟน

คนพวกนี้ยังมีอยู่ อย่างน้อย ถ้าจะร่างพรบ.จริง ๆ
รบกวนช่วยเอาผิด พวกทิ้งหมาทิ้งแมว สัตว์เลี้ยงต่าง ๆ ด้วยยิ่งดี

เผ่าพันธุ์มนุษย์ อยู่ที่ไหนก็มีความหายนะที่นั่น
เมื่อความเห็นไม่ตรงกัน ก็มองกันเป็นกลาง
พบกันครึ่งทาง เธออยู่ของเธอ ชั้นอยู่ของชั้น
ทางเดินของเธอเป็นแบบนี้ แต่อย่าแหย่เท้าเธอ
มายุ่งกับทางเดินของชั้น

บ้านหนึ่งเลี้ยงหมู อีกบ้านไม่ได้เลี้ยงหมู
บ้านไม่ได้เลี้ยงหมู ขโมยหมูของอีกบ้านไปทำกิน
บ้านเจ้าของหมูโกรธ มรึงมาเอาหมูเลี้ยงกรูไปกินทำไม
บ้านหัวขโมยบอก สักวันมรึงต้องกินมันอยู่ดี ว่าแล้วมานั่งกินด้วยกันสิ
แล้วก็นั่งกินด้วยกันอย่างเอร็ดอร่อย

จากคุณ : ~amily~ - [ 22 ต.ค. 47 21:35:56 ]

ความคิดเห็นที่ 91

*******อยากขอให้เพื่อนๆได้อ่านบทความนี้ค่ะ ยาวหน่อย แต่เราจะเข้าใจที่มาที่ไปทั้งหมด ถึงสาเหตุที่ควรมี พรบ ป้องกันการทารุณสัตว์*********จากลิงค์นี่ค่ะ
http://www.thaiaga.org/Thai_Dog%20Slaughterhouse.htm

ก็อปปี้มาเลยดีกว่า

****** ประวัติความเป็นมา *******

------------ การฆ่าชำแหละสุนัขและแมวเพื่อการค้าเนื้อและหนัง ในพื้นที่แถบตำบล บ้านท่าแร่ ถนนสายท่าแร่-ศรีสงคราม จังหวัดสกลนคร เป็นเรื่องที่มีมานานแล้วและเป็นที่ทราบกันทั่วไปในท้องถิ่น และแม้จะได้รับการร้องเรียนอยู่เสมอ แต่ไม่ได้รับความสนใจจนสื่อมวลชนต่างประเทศนำไปเปิดเผย

--------- การฆ่าชำแหละสุนัขเพื่อการค้าในประเทศไทยกระทำกันมานานกว่า 15 ปี ส่วนแมวกระทำกันในฟิลิปิน เพิ่งริลองทำในไทยช่วงปี 2539 แต่ไม่เป็นที่นิยม ค่านิยมในการบริโภคเนื้อสุนัขเป็นของชาวไทยเชื้อสายญวน ซึ่งอพยพมาตั้งรกรากในสกลนครเมื่อ พ.ศ. 2427 หรือประมาณ 100 กว่าปีก่อน ต่อมาได้มีผู้นำมาหาประโยชน์ทางการค้า โดยใช้เนื้อสุนัขทดแทนเนื้อโค-กระบือ ราคาเนื้อสุนัข ก.ก. ละ 30 – 40 บาท หากเป็นเนื้อพิเศษ เช่นน่อง จะประมาณ 50- 70 บาท

----------- การค้าเนื้อสุนัขเคยแพร่มาถึงตลาดในกรุงเทพฯเมื่อประมาณ พ.ศ. 2528 และเมื่อปี 2532 มีรายงานว่าสุนัขบางส่วนได้มาจาก กทม. ต่อเมื่อมีการกวดขันของหน่วยราชการในช่วงนั้นจึงเบาบางลง แต่ก็ไม่ถึงกับเลิกรา ในระดับท้องถิ่นกลับมีการขยายตัวออกไปอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะภาคอีสานอาทิ อุดรธานี หนองคาย และมุกดาหาร ถึงต้นปี 2541 มีรายงานว่ามีรถออกตระเวนรับแลกถังพลาสติกกับสุนัขตามชนบทต่างๆทั่วประเทศ ตั้งแต่จังหวัดเชียงรายในภาคเหนือถึงสุราษฎรธานีในภาคใต้ และยังคงมีศูนย์รวมอยู่ที่ บ้านท่าแร่ จ. สกลนคร โดยทำเป็นกึ่งอุตสาหะกรรมพื้นบ้านซึ่งใช้ทั้ง เนื้อ หนัง เครื่องใน และกระดูก

--------------ทุกต้นสัปดาห์จะมีผู้ค้าประมาณ 40 รายนำรถกระบะซึ่งดัดแปลงเป็นกรงตระเวนรับแลก เมื่อได้สุนัขประมาณ 50 ตัวก็จะกลับท่าแร่และนำไปขังรวมกันประมาณ 4-5 วัน ในคอกไม้ที่ปิดทึบเพื่อไม่ให้สะดุดตา จากนั้นจึงจะนำไปทำการฆ่าชำแหละในโรงงานซึ่งก่อสร้างแบบง่ายๆและห่างไกลฝูงชน วิธีการฆ่าใช้ไม้หรือท่อประปาฟาดหัว แล้วจึงแยกเนื้อหนังและกระดูกออกจากกัน หนังจะถูกนำไปคลุกเกลือกันเน่าเพื่อส่งออกยังลูกค้าใน ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน และเวียดนาม ซึ่งใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าเครื่องหนัง อาทิ กลอง ถุงมือ กระเป๋า สายนาฬิกา และส่วนประกอบของเสื้อผ้า เป็นต้น ราคาหนังสุนัขผืนละประมาณ 40 – 120 บาทขึ้นอยู่กับขนาด

---------- กระบวนการดังกล่าวได้ถูกนำไปทำเป็นบทความและสารคดีเผยแพร่ทั้งในยุโรปและอเมริกา พร้อมด้วยภาพถ่ายการฆ่าสุนัขในโรงงานอย่างละเอียด จนมีการร้องเรียนผ่านสถานทฑูตไทยในประเทศต่างๆอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกันยายน 2538

-------------จวบเดือนกุมภาพันธ์ 2539 สื่อมวลชนต่างๆในประเทศได้เสนอข่าวการฆ่าแมวต่อสาธารณชน และมีหลายหน่วยงานออกมาแสดงความคิดเห็น แต่นายแก้ว ควรเมตตา ผู้ให้ข่าว กลับปฏิเสธว่าเพียงเคยรับจ้างฆ่าแมวและส่งหนังให้มารดาซึ่งมีอาชีพฆ่าสุนัข แต่ได้เลิกกระทำมานานแล้วตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2538 ซึ่งข้อ ปฏิเสธดังกล่าวไม่ตรงกับข้อมูลที่ได้รับ จึงได้มีการตรวจสอบและได้ข้อเท็จจริงว่า มีการนำแมวและสุนัขมาฆ่าด้วยวิธีการอันทารุณเพื่อประโยชน์ทางการค้าจริง โดยทำกับสุนัขมาอย่างต่อเนื่องและเปิดเผยมากว่า 10 ปีแล้ว สำหรับแมวเพียงเป็นการทดลองตลาดเท่านั้น เช่น เนื้อทำเป็นข้าวต้ม เท้าทำเป็นพวงกุญแจ และหัวกะโหลกทำเป็นที่เขี่ยบุหรี่ เป็นต้น

----------- การค้าแมวและสุนัขในลักษณะดังกล่าว ได้นำความเสื่อมเสียมาสู่ภาพพจน์ของประเทศอย่างมาก ทั้งยังกระทำด้วยวิธีการอันทารุณ ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 381 ซึ่งระบุว่า “ผู้ใดกระทำการทารุณสัตว์ หรือฆ่าสัตว์ โดยให้ได้รับความทุกขเวทนาอันไม่จำเป็น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
i
i
V
มีต่อค่ะ

แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 47 00:36:31

จากคุณ : น้องต๋าว - [ วันปิยมหาราช 00:29:42 ]

ความคิดเห็นที่ 92

********การดำเนินการ********

--------------การค้าเนื้อและหนังสุนัขที่มีแหล่งใหญ่อยู่ในตำบลบ้านท่าแร่ จังหวัดสกลนคร แม้จะกระทำกันมานานนับครึ่งศตวรรษ แต่ก็ไม่ใช่วิสัยของคนไทยหรือชาวพุทธ และไม่ใช่ทำด้วยความยากแค้นจำเป็นหรือค่านิยมในการบริโภคตามที่กล่าวอ้าง จำนวนสุนัขหลายร้อยต่อวันที่ถูกฆ่าชำแหละอย่างทารุณเป็นตัวเลขที่มากเกินกว่าขีดความสามารถในการบริโภคของคนทั้งจังหวัด และคนทั้งจังหวัดสกลนครก็ไม่ได้บริโภคเนื้อสุนัข แต่มีพวกที่ต้องการหลอกลวงสังคมใช้เรื่องการกินเนื้อสุนัขเป็นข้ออ้าง แท้จริงเนื้อสุนัขเป็นเพียงผลพลอยได้ที่ต้องพยายามขายออก เป้าหมายจริงอยู่ที่ การส่งออกหนังสุนัข ซึ่งเริ่มจากการส่งผืนหนังแช่แข็งหรือฟอกแล้วบางส่วนแล้วได้ขยายตัวเป็นการส่งออกสุนัขเป็นๆนับพันๆตัวข้ามชายแดนไทย-ลาว ในสภาพเบียดเสียดยัดเยียดยิ่งกว่าบรรทุกสุกรโดยไม่ใยดีต่อบาปกรรม มาตราฐานการขนส่งและการดูแลสัตว์ตลอดจนการฆ่าก็เข้าข่ายการทารุณสัตว์จนเห็นได้ชัด ไม่มีการให้เห็นเดือนเห็นตะวัน ไม่มีการให้อาหาร และใช้วิธีทุบหัวเชือดคอทั้งเป็น

-----------ต. บ้านท่าแร่ จ. สกลนคร อันเป็นศูนย์กลางการค้าเนื้อและหนังสุนัข อยู่ติดกับอำเภอเมือง มีประชากรเพียง 400 หลังคาเรือนหรือประมาณ 8 พันคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนเชื้อสายญวน เมื่อเทียบกับประชากรทั้งจังหวัด 1.1 ล้านคนซึ่งไม่เห็นด้วยแต่พลอยต้องได้รับความอัปยศอดสูไปพร้อมกับคนไทยทั้งประเทศ ที่ถูกตราหน้าว่า “กินหมา ค้าหมา”

--------------ผู้ใดที่ยังสำคัญว่าการต่อต้านการค้าเนื้อและหนังสุนัขเป็นเรื่องระหว่างคนรักสัตว์กับสิทธิในการบริโภคนับว่าเป็นการเข้าใจผิดอย่างยิ่ง แท้จริงแล้วเป็นเรื่องของความฉ้อฉลหลอกลวงผู้บริโภคให้ต้องเสี่ยงต่อสุขอนามัยโดยกลุ่มคนที่เห็นแก่ได้และฉวยโอกาสกอบโกยจากปัญหาของสังคม เป็นบ่อนทำลายศีลธรรมจรรยาของเยาวชน โดยไม่คำนึงถึงความอัปยศอดสู่ที่ได้นำมาสู่สังคมและคนไทยทั้งประเทศ

-----------------ในขณะที่หน่วยงานต่างๆได้ปรับเปลี่ยนนโยบายให้สอดคล้องกับกระแสพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเกี่ยวกับการแก้ปัญหาสุนัขจรจัดอย่างมีคุณธรรมมากขึ้น กลับยังมีคนกลุ่มหนึ่งฉวยโอกาสกอบโกยรายได้จากสุนัขที่น่าสงสารโดยไม่คำนึงถึงศีลธรรมและภาพลักษณ์ของประเทศ จนนานาอารยประเทศมองว่าสังคมไทยตกต่ำถึงขนาดสนับสนุนให้ทำการค้าหาประโยชน์จากสุนัขโดยเฉพาะอย่างยิ่งสุนัขจรจัด

-----------------หลังจากมีกฎกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่าด้วยการ กำหนดควบคุมการค้าสัตว์และซากสัตว์ ซึ่งประกาศใช้เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2546 กองบังคับการตำรวจทางหลวงได้ให้การสนับสนุนโดยประกาศห้ามขนย้ายสุนัขนับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2546 เป็นต้นไป ในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนครได้ให้ความสำคัญโดยประกาศห้ามการค้าและการชำแหละเนื้อสุนัข แต่กลับถูกกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์กดดันอย่างหนัก ด้วยการออกมาประท้วงและร้องเรียนไปยังกระทรวงมหาดไทย ผู้ที่หนุนหลังมีทั้งอดีต ส.ส. เทศมนตรี อบต.ท่าแร่ และข้าราชการท้องถิ่น เป็นเหตุให้ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องยอมอ่อนข้อด้วยการยกเลิกประกาศดังกล่าว

-------------ระหว่างที่หลายฝ่ายพยายามเร่งแก้ปัญหา การจัดทำหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการอนุญาตค้าสุนัขและแมวหรือซากสุนัขและแมว กลับไม่มีความคืบหน้า ด้วยฝ่ายกฎหมายกรมปศุสัตว์เห็นว่า การห้ามค้าเนื้อและหนังสุนัขอาจเป็นการละเมิดเสรีภาพในการประกอบอาชีพ ในขณะที่เสียงส่วนใหญ่เห็นว่า สิทธิเสรีภาพต้องอยู่ในกรอบของกฎหมายซึ่งล้วนมีผลต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนไม่มากก็น้อยโดยคำนึงถึงความถูกต้องและประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก เช่นเดียวกับข้อห้ามที่จำเป็นอื่นๆ อาทิ ห้ามจักรยานยนต์วิ่งบนทางด่วน ห้ามค้าประเวณีเพราะผิดศีลธรรม ห้ามบริโภคเนื้อปลาปักเป้าเพราะเป็นพิษ การห้ามนำเข้าสุนัขพิทบูลที่เข้าข่ายสัตว์ดุร้าย ห้ามเลี้ยงปลาพิรันยา นาคหญ้า และสัตว์อีกหลายชนิดเพราะอาจเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม เป็นต้น การห้ามค้าเนื้อและหนังสุนัขเพื่อปกป้องศีลธรรมจรรยาของสังคมและป้องกันโรคระบาดจึงน่าจะกระทำได้และกฎกระทรวงก็ได้ให้อำนาจนี้แก่กรมปศุสัตว์อยู่แล้ว ล่าสุดได้นำประเด็นดังกล่าวเข้าหารือกับสำนักงานกฤษฎีกาซึ่งทั้งกฤษฎีกาและสำนักปลัดกระทรวงเกษตรฯต่างก็เห็นด้วยว่ากรมปศุสัตว์มีอำนาจอันชอบด้วยกฎหมายตามกฎกระทรวงอยู่แล้ว

----------------การค้าเนื้อและหนังสุนัขไม่เพียงเป็นการกอบโกยผลประโยชน์บนชื่อเสียงของประเทศ ยังเป็นการหลอกลวงผู้บริโภคและบ่อนทำลายเยาวชนด้วย เพราะการค้าเนื้อสุนัขมักทำในรูปเนื้อสวรรค์ตากแห้ง ลูกชิ้น หรือเนื้อสดที่ปะปนขายกับเนื้อโคกระบือในกรุงเทพฯและทั่วประเทศ ผู้ประกอบการท่าแร่ถึงกับประกาศว่าทุกวันนี้ผู้ที่บริโภคเนื้อสุนัขไม่ใช่คนสกลแต่เป็นคนกรุงเทพฯที่ไม่รู้ตัว นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าเยาวชนในภาคอีสานและภาคเหนือเริ่มนิยมบริโภคเนื้อสุนัขแกล้มเหล้า โดยลืมไปว่าแหล่งที่มาของสุนัขที่ค้ากันอยู่ไม่ได้มาจากการเพาะเลี้ยงที่สามารถควบคุมโรคหรือสุขอนามัยได้ดังเช่นโคกระบือเป็ดไก่และสุกร การอนุญาตให้ค้าซากสุนัขเท่ากับเปิดโอกาสให้ผู้ค้าทำการได้ง่ายขึ้น สามารถนำเนื้อหรือหนังสุนัขมาปะปนกับอาหารหรือสินค้าบริโภคได้สะดวกขึ้นไม่ต้องลักลอบอีกต่อไป และยังเป็นการเพิ่มความยุ่งยากให้แก่เจ้าหน้าที่ใที่ต้องคอยตรวจสอบอีกด้วย

------------------ขณะที่การออกระเบียบเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมถูกจำกัดด้วยการตีความของกฎหมาย การค้าหนังสุนัขเพื่อประโยชน์ของพ่อค้าหมาท่าแร่ยังคงดำเนินต่อไปโดยอาศัยใบอนุญาตที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นออกให้ก่อนการบังคับใช้กฎกระทรวงเดือน เมษายน 2546 ทำให้สาธารณชนเกิดความสับสนและเข้าใจผิดว่ามี “ส่วยหมา” ซึ่งโดยแท้จริงใบอนุญาตดังกล่าวเป็นเพียงใบอนุญาตค้าเนื้อโคกระบือที่เพียงเขียนคำว่าสุนัขเพิ่มเข้าไว้ด้วยลายมือเท่านั้นและได้รับการยืนยันจากกรมปศุสัตว์ว่าจะใช้ได้เพียงสิ้นเดือนธันวาคม 2546จากนั้นจะต้องใช้ใบอนุญาตตามระเบียบใหม่

-------------สมาคมพิทักษ์สัตว์(ไทย) ได้ทำหนังสือไปยังหน่วยงานต่างภาครัฐรวมทั้งนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้เร่งดำเนินการแก้ไขตามวัตถุประสงค์และคำสั่งในกฎกระทรวง โดยทางสมาคมฯได้รนรงค์ในภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง มีประชาชนส่งหนังสือมาสนับสนุนจำนวนมากและได้นำเสนอพร้อมให้กระทรวงเกษตรฯ กรมปศุสัตว์ รวมทั้งผู้ว่าฯสกลนครแล้ว นอกจากนี้ยังได้เสนอเอกสารแนะแนวความร่วมมือระหว่างหน่วยราชการต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ได้ผล
i
i
V
ตาลายยางงง ทนอ่านอีกนิดน๊า

จากคุณ : น้องต๋าว - [ วันปิยมหาราช 00:32:33 ]

ความคิดเห็นที่ 93

**********ผลการดำเนินงาน**************

ทุกครั้งที่เป็นข่าวจะมีการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่ไม่เคยมีผลสรุป ครั้งแรกเมื่อ มิถุนายน 2539 กรมการปกครองมีคำสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนครแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการลักลอบฆ่าสัตว์เถื่อน ต่อมาคณะกรรมาธิการต่างประเทศสภาผู้แทนราษฎร โดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แจ้งว่าได้ยื่นเรื่องให้กรรมาธิการพิจารณารวมสี่คณะคือ กรรมาธิการการท่องเที่ยว กรรมาธิการการสาธารณสุข กรรมาธิการการศึกษา และกรรมาธิการต่างประเทศ เพื่อเสนอให้บรรจุการห้ามฆ่าสุนัขและแมวไว้ใน พรบ.คุ้มครองสัตว์ พ.ศ. 2502 แต่แล้วก็มีการยุบสภาเรื่องจึงเงียบหายไป และ พรบ. ที่กล่าวถึงแท้จริงเป็น พรบ. คุ้มครองสัตว์ป่าฯ 2502 ซึ่งเปลี่ยนเป็น พรบ. คุ้มครองสัตว์ป่าฯ 2535 นานแล้ว จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน

----------- อย่างไรก็ดี ผู้กำกับการตำรวจภูธร สกลนคร ได้สั่งห้ามการค้าสุนัขอย่างเด็ดขาดเมื่อต้นเดือนกันยายน พ.ศ. 2539 แต่หลังจากสั่งการได้เพียงสองวันก็มีนักการเมืองท้องถิ่นนำผู้ประกอบการค้าสุนัขจำนวนประมาณ 100 คนเข้าพบผู้ว่าฯจนได้รับอนุญาตให้ประกอบการต่อได้ ยกเว้นระหว่างวันที่ 10 ตุลาคม ถึง 10 พฤศจิกายน 2539 อันเป็นช่วงที่สมเด็จพระราชินีอังกฤษเสด็จเยือนสกลนคร

------------- กลางเดือนธันวาคม 2541 มีกระแสต่อต้านอย่างต่อเนื่อง หลังจากองค์กรด้านสิทธิมนุษยธรรม หรือ Humane Society รายงานผ่านอินเตอร์เนตว่า พบการลักลอบนำหนังสุนัขมาเป็นส่วนประกอบในอุสาหกรรมเสื้อผ้าที่ส่งไปขายอเมริกา โดยระบุว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกหนังสุนัขรายใหญ่รองจากจีน ส่วนหนังแมวมาจากฟิลิปปิน และรัฐสภาอเมริกาเตรียมออกกฎหมายห้ามนำเข้าสินค้าจากเอเชีย

--------------- ต้นปี 2542 นายโรเจอร์ โลหนันทน์ ได้เข้าร่วมประชุมพร้อมกับนำข้อมูลการบริโภคสุนัขเสนอต่อคณะกรรมาธิการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร โดย ดร. อาทิตย์ อุไรรัตน์ เป็นประธาน ต่อมาในเดือนมีนาคม 2543 นายกรัฐมนตรี ชวน หลีกภัย จึงมีบัญชาให้กระทรวงการต่างประเทศแต่งตั้งกรรมการกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาการทารุณสุนัขและแมว มีการประชุมสองครั้ง เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 43 และวันที่ 30 พ.ค. 2543 ซึ่งทุกฝ่ายยอมรับว่ามีการฆ่าชำแหละสุนัขเพื่อการค้าเนื้อและหนังจริง โดยเนื้อส่งขายภายในประเทศ ทั้งในรูปเนื้อสดอย่างเปิดเผยและอาหารแห้งโดยไม่ระบุว่าว่าเป็นเนื้อสุนัข ดังนั้นที่ประชุมจึงสรุปผลเป็นสองประการคือ

------------------เห็นสมควรให้มีการแก้ปัญหาในระยะสั้น ด้วยการเข้มงวดกับกฎหมายและข้อบังคับที่มีอยู่แล้ว อาทิ กฎหมายอาญามาตรา 381 พรบ.โรคพิษสุนัขบ้า 2535 และ พรบ.โรคระบาดสัตว์ 2542 เป็นต้น และควรประชาสัมพันธ์ปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนเข้าใจไปพร้อมกัน
ในระยะยาวเห็นควรเสนอนายกรัฐมนตรีให้ยกร่างกฏหมายทารุณสัตว์ตามที่หน่วยพิทักษ์สัตว์เสนอ โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก

-------------- ต่อมาในเดือนมิถุนายน 2543 นายกรัฐมนตรี ชวน หลีกภัย จึงมีบัญชาให้ดำเนินการตามที่ประชุมเสนอทั้งสองประการ โดยกรมปศุสัตว์ ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้แต่งคณะกรรมการระดับกรมขึ้นเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2543

-------ปี 2546
สมาคมพิทักษ์สัตว์ (ไทย) พร้อมด้วยองค์กรร่วมแก้ไขปัญหาสุนัขจรจัดและกลุ่มผู้รักสัตว์จำนวนหนึ่งได้ขอเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เมื่อวันพุธที่ 11 มิถุนายน ที่ผ่านมา เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านและหารือแนวทางป้องกันผลกระทบจากกฎกระทรวง เรื่อง กำหนดควบคุมการค้าสัตว์และซากสัตว์ พ.ศ. 2546 ซึ่งเปิดโอกาสให้มีการขออนุญาตค้าสุนัขและแมวได้ ดังมีรายละเอียดตามที่สื่อมวลชนได้เสนอข่าวแล้วนั้น

---------- ท่านรัฐมนตรี สรอรรถ กลิ่นประทุม ได้กรุณาออกมาพบและรับฟังปัญหาด้วยตนเอง โดยได้ชี้แจงและยืนยันว่า กฎกระทรวงดังกล่าวมิได้มีเจตนาส่งเสริมหรืออนุญาตให้มีการค้าเนื้อหรือหนังสุนัขและแมว แต่เพื่อเข้าไปควบคุมไม่ให้มีกิจกรรมดังกล่าวได้ต่อไป เพราะที่ผ่านมาการค้าเนื้อและหนังสุนัขไม่มีกฎหมายใดรองรับและไม่ได้ให้อำนาจรัฐในการควบคุม เมื่อออกกฎกระทรวงแล้วก็จะสามารถกำหนดหลักการและขั้นตอนในการอนุญาตหรือไม่อนุญาตได้

---------- จึงยินดีและเห็นชอบในทุกข้อที่สมาคมพิทักษ์สัตว์ (ไทย) และองค์กรร่วมรวมทั้งผู้รักสัตว์ได้เสนอแนะมาดังนี้

=====ให้จัดทำ “ข้อกำหนดและหลักเกณฑ์การขออนุญาตค้าสุนัขและแมว” รวมทั้งเอกสารที่จะใช้ในการขอหรือพิจารณาอนุญาตขึ้นมาเฉพาะ

=====ให้ประกาศกฎกระทรวงฯ เรื่อง “การคุ้มครองและดูแลสวัสดิภาพสุนัขและแมว”

=====ให้ระบุ “ห้ามการค้าเนื้อและซากสุนัขและแมว” ไว้ให้ชัดเจนในข้อกำหนดและประกาศทั้งสองฉบับ

=====ให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาข้อกำหนดดังกล่าวขึ้นมาคณะหนึ่ง โดยมีผู้แทนจาก สมาคมพิทักษ์สัตว์ (ไทย) มูลนิธิสงเคราะห์สัตว์พิการ มูลนิธิเพื่อการรักษาสุนัขจรจัด และสมาคมสงเคราะห์สัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมอยู่ด้วย

********สรุปคือ********
การค้าสุนัขและแมวเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยงจะต้องได้รับอนุญาตและปฏิบัติตามข้อกำหนดที่คณะทำงานจะจัดทำขึ้น เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคและการคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์ ส่วนการค้าเนื้อและหนังสุนัขและแมวจะไม่อยู่ในข่ายได้รับอนุญาต

*******สมาคมพิทักษ์สัตว์ (ไทย) ขอขอบพระคุณ ฯพณฯรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ให้ความสำคัญในการแก้ปัญหา และขอขอบพระคุณองค์กรร่วมรวมทั้งกลุ่มผู้รักสัตว์ที่เดินทางไปร่วมสนับสนุน และอีกหลายๆ ท่านที่โทร.เข้ามาให้กำลังใจมา ณ โอกาสนี้

*********ความคืบหน้า********

ตุลาคม 2546 ทางฝ่ายกฎหมายของกรมปศุสัตว์ได้จัดประชุมเพื่อยกร่าง พรบ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ เป็นการยกร่างใหม่ ครั้งที่ 2 ทั้งนี้เนื่องจากบางประเด็นยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ซึ่งฝ่ายกฎหมายของกรมปศุสัตว์ได้แนะนำสมาคมฯให้ไปหารือกับกฤษฎีกา โดยฝ่ายกฤษฎีกาเห็นว่าเป็นอำนานจของกรมปศุสัตว์อยู่แล้ว และไม่มีจุดใดที่น่าจะขัดกับรัฐธรรมนูญ

ล่าสุดมีหลายหน่วยงานให้ความร่วมมือในการปราบปราม ในจำนวนนี้มีตำรวจทางหลวง ยึดสุนัขได้ 200 ตัว ศุลกากร ยึดได้ 600 ตัวและกรมปศุสัตว์ ยึดได้อีก 802 ตัว
-------- จบบทความแล้วจ้า---เก่งมากที่ทนอ่านจนจบ

แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 47 00:42:25

จากคุณ : น้องต๋าว - [ วันปิยมหาราช 00:34:34 ]

ความคิดเห็นที่ 94

เห็นปัญหาแล้วใช่ไหมค่ะ--
ชาวบ้าน ชาวเขาที่เขาบริโภคเอ๋ง ไม่ใช่ประเด็นที่เขาอยากผลักดันให้ออก กม นี้ (กินกันอยู่หลังบ้านคุณ ไผซิไปเบิ่ง)รวมถึง สิทธิในการเลือกกินตามรัฐธรรมนูญ ก็ยังเป็นประเด็น ที่ต้องใช้การตีความกันต่อ ในการยื่น พรบ นี้

มันจะจบตรงไหน การตีความเพื่อเข้าข้างฝ่ายไหน ใครจะล็อบบี้วิ่งเต้นกันสำเร็จ ใต้โต๊ะ บนโต๊ะ อิทธิพลมืด การเมือง ผลประโยชน์ของทั้ง 2 ฝ่าย ล้วนแล้วนอกเหนือการควบคุมของประชาชนต๋อกต๋อยอย่าง น้องต๋าวน่ะค่ะ

ต่อให้ พรบ คลอด ออกมาได้(ใครจะได้เครดิต ก็ไม่ใช่หนูอยู่ดี นั่นแหละ) แต่คนคุ้มกฎ เลือกปฎิบัติ--หากินกับมัน---มันก็เจ๊งค่ะพี่--หนูอยู่ประเทศไทยมานาน--จะทำเป็นไม่ยู้ระบบได้ไง
มันคงไม่ต่างจาก กม อืนๆ ที่มีแล้ว คนก็ยังทำกันอยู่
จิตสำนึกของคนเราเท่านั้น ที่จะตัดสินใจทำ ดี --ชั่วได้(กม ยาเสพติด โทษประหารมันยังไม่กลัวตายกันเล้ย ดูเอาเถอะ)

หนูนึกดูถึงสิ่งที่กล่าวมาข้างบนก่อนจะทำเรื่องนี้แล้ว แต่ที่ยังตัดสินใจทำ
เพราะคิดส่วนตัวว่าตรงนี้แหละที่เราทำให้เค๊าได้
เค๊าตัวนี้ค่ะ สวยจนต้องตกแต่งภาพ กลัวถูกอุ้มมาก หนัก45โลแย้ว

กลับมาเรื่องพรบ ที่เราคุยกันนี้เพื่อให้ข้อมูลกับเพื่อนๆในห้องนำไปตัดสินใจอีกทีค่ะ
ถ้าได้รับฟังแล้ว ไม่ต้องการมีส่วนในเรื่องเหล่านี้--ก็ไม่เป็นไรค่ะ
แต่ถ้าไม่ได้ฟัง แล้วพลาดโอกาสที่จะได้ช่วยเหลือเพื่อนตัวเล็กๆของเรา
จะกลายเป็นสิ่งที่น่าเสียดายไป
ทุกท่านมีเหตุผลที่จะทำ หรือ ไม่ทำอยู่ในใจอยู่แล้ว

หลายๆความเห็นในกระทู้นี้ มีประโยชน์น่ะค่ะ
ที่คุณผู้หญิงไทยพูดเรื่อง การทิ้งสัตว์เลี้ยงเมื่อมี พรบ
น้องต๋าวก็ได้อีเมล์ไปถามทางสมาคมให้ และได้คำตอบว่าเขามีขั้นตอนเตรียมการรับมืออย่างไรบ้าง รอให้ตอบเป็นอีเมล์กลับมา ให้เพื่อนๆอ่านกัน
ซึ่งถ้าน้องต๋าวอ่านเอง คงไม่ได้ภาพขยายที่ชัดเจนอย่างนี้แน่

บางข้อที่เพื่อนๆสงสัยสามารถสอบถามไปที่สมาคม หรือ คุยกันที่นี่
แล้วน้องต๋าวจะติดต่อขอคำตอบให้ อาจได้คำตอบช้าหน่อย เพราะทางสมาคมมีพนักงานน้อย และงานล้นมืออยู่แล้ว แต่ก็ยังรอคำตอบทุกเรื่องอยู่ค่ะ

เคารพในสิทธิส่วนบุคคลทุกท่าน--ขอบคุณที่สละเวลาอ่านน่ะค่ะ

แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 47 09:56:11
แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 47 01:27:15
แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 47 01:22:30

จากคุณ : น้องต๋าว - [ วันปิยมหาราช 01:17:50 ]

ความคิดเห็นที่ 95

สู้เค้าๆๆ คุณน้องต๋าว เดี๋ยวผมมาช่วยนะ รอแปร้บ ไม่ค่อยว่างคับช่วงนี้ แปร้บนึง

จากคุณ : มีนะ กะ กาโม่ - [ 24 ต.ค. 47 00:29:10 ]

ความคิดเห็นที่ 96

ได้อ่านกระทู้หมาท่าแร่มาบ้างแล้ว เห็นภาพแล้วก็ได้แต่สังเวช เวทนา
ตอนก่อนที่ยังทำงานในโรงพยาบาล ก็มีคนไข้ชวนคุย
แล้วก็ถามว่าทำไมประเทศเธอถึงชอบกินหมาและแมว
ได้แต่อึ้ง ไม่รู้จะตอบว่ายังไง (เพราะตัวเองไม่เคยอ่านเจอแบบจริงๆ เห็นภาพจังๆ ส่วนมากเคยแต่ได้ยินว่าเค้ากินกัน)
ได้แต่ตอบส่งๆ ไปว่าคุณภาพชีวิตมันต่างกัน

หลายต่อหลายคำถามค่ะ เกี่ยวกับบ้านเมืองเรา

ขอเป็นอีกหนึ่งเสียงนะคะ และจะลองชวนบรรดาเพื่อนๆ น้องๆ ในลิสต์เอ็มเอสเอ็มดู และกระจายข่าวออกไป

ปล. ติดปัญหาที่สำเนาทะเบียนบ้านที่ไม่มีติดอยู่กับตัวเลย
ใช้แต่สำเนาบัตรประชาชนได้ไหมคะ ตอนนี้ไม่ได้อยู่เมืองไทย

จากคุณ : Kitty_PoPo - [ 24 ต.ค. 47 13:44:37 ]

ความคิดเห็นที่ 97

ยินดีช่วยลงชื่อสนับสนุนพรบ.นี้ครับ

จากคุณ : หมาร่าหมาหรอด - [ 24 ต.ค. 47 21:42:56 ]

ความคิดเห็นที่ 98

ขอมองต่างมุมหน่อย
หมากี่ตัวถึงจะมีค่าเท่าชีวิตคนได้1คน
คงจะเทียบกันไม่ได้ใช่ไหม
ลองคิดดู ถ้าหมาจรจัดพวกนี้ซัก1ตัวเป็นหมาบ้ากัดคนตาย
ลดจำนวนซะบ้างก็ดีเหมือนกัน แต่ติงที่ การฆ่า การทำมันโหดไปหน่อย น่าจะทำแบบหมู หรือวัว

จากคุณ : ฮา1 - [ 24 ต.ค. 47 22:31:07 ]

ความคิดเห็นที่ 99

เห็นแล้วสลดมากๆ เราขอก๊อป แบบฟอร์มที่ให้ลงชื่อไปลงในเว็บอื่นๆด้วยนะ อยากกระจายให้คนรู้กันทั่วๆ เผื่อมีใครต้องการร่วมลงชื่อด้วย ไม่เป็นไรชั่ยป่าวที่ก๊อปไปอ่ะ
ขอบคุณค่ะ

จากคุณ : เอ็ม - [ 24 ต.ค. 47 23:33:20 A:210.203.178.97 X: TicketID:076993 ]

ความคิดเห็นที่ 100

ประเด็นมันแตกออกไปกว้างขวาง จนทำให้บางคนไม่เข้าใจ ถ้าเป็นเรื่องของความต้องการในการบริโภคที่แตกต่างกัน ก็เป็นเรื่อง demand กับ supply ถ้าไม่มีคนมีความต้องการจะบริโภค ในที่สุดการค้าขายสุนัขก็ต้องหยุดไปเองโดยปริยาย นั่นก็ต่างจาก หมู,วัว,ควาย หรือไก่ ที่ระบบนี้มันเดินของมันเอง ถึงพยายามจะไปหยุดมัน เราต่างก็รู้ว่าเป็นได้ยาก
ทีนี้ ในเรื่องของการทารุณสัตว์ ผมเห็นว่าไม่ว่า กับสัตว์ประเภทไหน ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะมีการทารุณ ยิ่งในโรงเชือดที่ไม่ใช่ระบบปิด ที่มีโอกาสที่คนภายนอกได้รู้เห็น ยิ่งสมควรต้องดำเนินการให้เฉียบขาด และไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป

จากคุณ : Ethan_h - [ 25 ต.ค. 47 19:09:42 ]

ความคิดเห็นที่ 101

ยังไงผมก็ยังเห็นด้วยกับการร่าง พรบ นี้ แล้วจะส่งชื่อไปร่วมด้วยครับ

ได้ข่าวว่า ต่างประเทศเขามีหน่วยงานที่รับดูแลสัตว์ชั่วคราว เพื่อรอมีผู้รับเลี้ยงต่อไป (adopt your pet อะไรแบบนี้) ไม่รู้ว่าเมืองไทยมีหน่วยงานแบบนี้หรือเปล่า

จากคุณ : Freedom and Justice - [ 26 ต.ค. 47 12:53:20 ]

ความคิดเห็นที่ 102

ดีครับ ซักที เหอะ กินกันอยู่ได้

จากคุณ : AntiNOS - [ 26 ต.ค. 47 14:12:51 ]

ความคิดเห็นที่ 103

เอาด้วยคนค่ะ ทำอย่างกับเมืองไทยนี่มันขาดแคลนอาหารขนาดต้องเอาสัตว์เลี้ยงมากิน ไม่ได้อดอยากสักหน่อยเนื้อสัตว์อย่างอื่นมีเยอะแยะ ที่มีไว้สำหรับกินทำไมไม่กินกันก็ไม่รู้

จากคุณ : jolie - [ 26 ต.ค. 47 14:45:59 A:202.57.182.200 X: TicketID:077149 ]

ความคิดเห็นที่ 104

ขอแบบฟอร์มด้วยนะคะ
ยินดีสนับสนุน
euglena2003@hotmail.com

จากคุณ : <=DoRaYaKi=> - [ 26 ต.ค. 47 20:13:11 ]

ความคิดเห็นที่ 105

ขอแบบฟอร์มด้วยค่ะ จะซีร๊อกไปแจกเพื่อน ๆ 10 กว่าไปก็ยังดี

wachira_rux@yahoo.com

จากคุณ : วชิรา - [ 26 ต.ค. 47 20:29:00 ]

ความคิดเห็นที่ 106

ให้ความร่วมมือค่ะ ...

อยากให้หยุดการฆ่าสุนัข และ แมว เพื่อบริโภคเสียที

จากคุณ : *~ผีดิบน้อยกองกอย~* - [ 27 ต.ค. 47 05:48:10 ]

ความคิดเห็นที่ 107

nui_poum@hotmail.com
ร่วมด้วยคะ
ไม่อยากให้บริโภคและค้าขาย
แบบนี้เลยคะ
และไม่อยากให้หลอกลวงผู้บริโภค
เรื่องลูกชิ้นอะไรแบบนี้คะ
ต้องทำอะไรบ้างคะ
คือโพสกานเยอะมากตาลายแล้วคะ
ขอหลังไมล์หรือไม่ก้ออีเมลก้อได้คะMSNก้อเล่นคะแอทได้คะ

จากคุณ : เจ้าหญิงโรคจิต - [ วันออกพรรษา 05:15:06 ]

ความคิดเห็นที่ 108

แบบฟอร์มคัดลอกจากข้างบน ลงให้อีกครั้งค่ะ เผื่อบางท่านต้องการแต่ผ่านตาไป ..ช่องข้างล่างนี้ค่ะ

จากคุณ : นกเองเจ้าค่ะ (สกุณาเดียวดาย) - [ 29 ต.ค. 47 20:01:33 ]

ความคิดเห็นที่ 109

เอกสารร่วมลงชื่อค่ะ ใช้วิธีคัดลอกแบบฟอร์มนี้ส่งก็ได้ค่ะ
ตามที่อยู่ด้านล่าง
ข้าพเจ้า………………………………..นามสกุล……………………………………อายุ……….ปี
บัตรประจำตัวประชาชน/บัตรข้าราชการเลขที่……………………………………………
ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน เลขที่……………หมู่บ้าน/ซอย……………………………ถนน………………………..ตำบล/แขวง……………………อำเภอ/เขต………………………….

จังหวัด…………………………..รหัสไปรษณีย์………………

ขอร่วมสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ โดย สมาคมพิทักษ์สัตว์(ไทย)

แนบเอกสาร สำเนาบัตรประชาชน และ สำเนาทะเบียนบ้าน
พร้อมเซ็นลายมือรับรองสำเนาถูกต้องทั้ง 2 ฉบับ มาพร้อมกันนี้

ลงชื่อ……………………………….

หมายเหตุสำคัญถึงผู้ร่วมลงชื่อ

ในสำเนาบัตรประชาชน และ สำเนาทะเบียนบ้าน ให้เขียนทับตัวหนังสือ หรือ ส่วนหนึ่งส่วนใดของรูปถ่ายบัตรตัวโตๆว่า
" รับรองสำเนาถูกต้อง - ใช้เพื่อสนับสนุนร่าง พรบ.ป้องกันการทารุณสัตว์เท่านั้น "
เพื่อกันพวกมิจฉาชีพ นำไปทำธุรกรรมใดๆค่ะ

จัดส่งทางไปรษณีย์ไปที่นี่

สมาคมพิทักษ์สัตว์ (ไทย)
55/82 หมู่บ้านคลองจั่นวิลล่า 7 ถ.สุขาภิบาล 3 แขวง
สะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ 10240
โทรศัพท์ 0-2373-2886 โทรสาร 0-2373-2886

จากคุณ : นกเองเจ้าค่ะ (สกุณาเดียวดาย) - [ 29 ต.ค. 47 20:02:50 ]

ความคิดเห็นที่ 110

marina_pum@yahoo.com ขอด้วยค่ะ

จากคุณ : คนรักหมา. (คมกุหลาบ) - [ 29 ต.ค. 47 23:19:20 ]

ความคิดเห็นที่ 111

คห110 เด๋ว อีเมล์ให้จ้า
คห109 เมล์ไปให้แล้วน่ะ

faxหรือ อีเมล์แจ้งที่อยู่น้องต๋าวได้หลังไมล์ได้ตลอดน่ะจ้า

จากคุณ : น้องต๋าว - [ 30 ต.ค. 47 07:53:05 ]

ความคิดเห็นที่ 112

ตอนนี้กำลังรวบรวม (บังคับ) จากคนรู้จักอยู่ อยากทราบว่ามีกำหนดเวลาในการส่งรายชื่อไปสมาคมพิทักษ์สัตว์(ไทย) หรือเปล่า จะได้เร่งมือให้เร็วขึ้น

จากคุณ : PEESUP - [ 30 ต.ค. 47 20:36:48 ]

ความคิดเห็นที่ 113

บริโภคข่าวสารมากเกินไป
จุก!!
วันก่อนหลังไมค์กะน้องต๋าวไป เห็นเงียบ ๆ ไม่มีอะไรตอบกลับ สงสัยคงยุ่ง
วันนี้ตามมาที่กระทู้
copy ฟอร์มไปแล้ว
เดี๋ยวจะหาแนวร่วมเพิ่มค่ะ
แล้วรวบรวมเอกสารส่งไปให้ทางศูนย์เลย
ขอบคุณค่ะ

จากคุณ : tuarlek (tuarlek) - [ 31 ต.ค. 47 10:00:02 ]

ความคิดเห็นที่ 114

แว๊ก==ยังไม่ได้รับเหรอค่ะ
ถ้าเป็นแฟกซ์ต้องได้ชัวร์ค่ะ น้องต๋าวส่งเองกะมือทุกคนเลย
เป็นทางอีเมล์อาจมีพลาดบ้างจากnetwork แต่ก็คอยดูส่งให้ตลอดน่ะค่ะ

ถ้าเพื่อนๆคนไหนไม่ได้รับ หลังไมค์ทวงๆๆๆได้เลยน่ะค่ะ
ขอโทษคุณtuarlek ด้วยค่ะ (น้ำตานองหน้า)ให้พาหนูไปเลี้ยงข้าวหนึ่งมื้อ O_o
=จะกินให้สาสมกับความผิดเลยค่ะ (อุ--อุ)

จากคุณ : น้องต๋าว - [ 31 ต.ค. 47 18:13:52 ]

ความคิดเห็นที่ 115

คห 112 สมาคมเขาอยากยื่นตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมาอ่ะค่ะ
แต่ไม่ครบห้าหมื่นเลยเลทเรื่อยๆมา
ได้ครบเร็วก็เตรียมยื่นได้เร็วค่ะ แต่ต้องดูจังหวะทางการเมืองด้วย

จากคุณ : น้องต๋าว - [ 31 ต.ค. 47 19:17:04 ]

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป