CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    ปีป๊อต.......ลูกเป็ดขี้เหร่(2)

    วันนี้จะเล่าต่อจากกระทู้อาทิตย์ที่แล้วนะคะ http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J3149312/J3149312.html
    หลังจากปีป๊อตเลือกเจ้าของแล้ว ก้อถึงเวลารอให้แม่หมาหย่านม ตอนแรกกะว่าซักแปดอาทิตย์ แต่กลายเป็นว่าแม่หมาหย่านมให้ตอนเจ็ดอาทิตย์ วันที่เจ้าของเดิมเค้าจะมาส่งปีป๊อตให้ ก้อพ่วงลูกสาวทั้งสามคนมาด้วย กะว่าจะมารู้จักบ้านเลยว่าเป็นไง ตอนนั้นเค้ายังไม่ได้รับเงินไปด้วยซั้า เค้าบอกว่า ไว้ค่อยมารับตอนเอาหมามาส่ง จริงๆคงกะมาดูแหละว่าเราอยู่กันยังไงจะเลี้ยงหมาเค้าได้ดีป่าว ขืนรับเงินก่อนจะกลับลําไม่ได้ ก่อนลากลับก้อเวียนจุ๊บๆๆๆๆปีป๊อตกันทุกคนพร้อมนํ้าตาคลอเบ้า คืนนั้นปีป๊อตก้อนอนครางหงิงๆคิดถึงแม่กะพี่ๆ ตกลงว่าไม่ได้นอนกันทั้งบ้าน ต้องออกมาคอยดูจนถึงดึกๆก้อยังคราง สุดท้า่ยเลยอุ้มมาไว้ในอ้อมกอดแล้วให้นอนด้วยกัน ปีป๊อตก้อซุกใหญ่เลย สองสามแรกวันที่ปีป๊อตมาอยู่ใหม่ๆทําให้ทั้งบ้านไม่ค่อยได้หลับได้นอนเพราะห่วงเค้า ปีป๊อตมาอยู่ได้แค่ไม่กี่วัน ดิฉัีนก้ออ้วกตอนเช้าๆกับเวียนหัวอยู่เรื่อยๆ ยังไม่ฉุกใจ ยังนึกว่าเป็นความดันตํ่าเพราะนอนไม่พอเนื่องจากมัวแต่ตื่นมาดูคุณชายปีป๊อต แต่สุดท้ายก้อพบว่าท้อง ตอนดูผลตรวจจากแท่งตรวจ งงเป็นไก่ตาแตก เพราะแต่งงานมาตั้งนานเกือบสิบปี ไม่ท้อง อยู่ๆมาท้องได้ไงหว่า เกิดมาไม่เคยได้ยินว่าหมาเป็นลูกอิจฉาได้ด้วย งานนี้อยู่ๆความฝันกลายเป็นความจริง ก้อเลยต้องติดดิสเบรคเอี๊ยด มาตั้งตัวกันใหม่เลยเพราะจากบ้านที่ไม่เคยมีเด็ก ไม่เคยมีหมา จะมีทีทั้งคู่เลยในระยะไล่เรี่ยกันนี่อ่ะนะ กลับไปตั้งสตินั่งทบทวนความฝันลมๆแล้งๆในใจที่มีมาตลอด เราเคยฝันว่าเมื่อไหร่ที่พร้อมนะ เราอยากมีลูกซักโหลสองโหล เอ๊ยม่ายช่าย แค่คนสองคนก้อพอ แต่เมื่อนั้นก้อจะต้องมีเวลามาเลี้ยงเองไม่พึ่งพี่เลี้ยง เราจะเลี้ยงเค้าด้วยนมแม่จนเค้าเรียนจบ จะเฝ้า่ดูพัฒนาการเค้าเอง จะไม่เน้นการสอนลูกที่ไอคิวอย่างเดียว(Intelligence Quotient = ความฉลาด) แต่จะสอนที่อีคิวด้วย(Emotion Quotient/Emotional Intelligence = ความพร้อมทางพื้นฐานจิตใจและอารมณ์)
    เพราะชีวิตที่ขาดอีคิวมันเหมือนบัวแล้งนํ้า ชีวิตมันจะรันทดโดยเฉพาะสภาพสังคมปัจจุบันที่มีการแข่งขันสูงมาก  แล้วเราก้อเคยฝันว่าเมื่อไหร่ที่พร้อมอีกเหมือนกัน เราอยากจะได้หมาที่ดีๆมาเลี้ยงซักตัวนึง จะเลี้ยงให้ดีเลย จะให้ลูกเราโตมากะความรักสัตว์เข้าใจสัตว์อย่างธรรมชาติ เพราะเมื่อไหร่ที่เค้ามีฐานของความเข้าใจตรงนี้ เค้าจะมีการปรับตัวสูง เพราะจะเคยชินกับความแตกต่างที่เหมือนกัน (มันเหมือนกันอีตรงที่.....ทุกชีวิตมีความแตกต่าง)
    เคยไหมที่ไปเดินเล่นที่สวนสัตว์แล้วเห็นเด็กบางคนมองสัตว์ด้วยสายตาที่แปลกๆ หรือไม่ก้อกลัวสัตว์ไปเลยเพราะเค้าโตมาแบบถูกสอนให้ยึดตัวเองเป็นหลัก อันนี้ไม่ได้โทษเด็ก แต่มันแสดงให้เห็นถึงแบคกราวด์การเลี้ยงดูของเด็กคนนั้น เมื่อมีความกลัวเป็นด่าน การเรียนรู้ของเค้าก้อต้องถูกปิดกั้นไปอย่างน่าเสียดาย
    ความฝันแบบนี้ฝันไว้ในใจบ่อยๆเถอะค่ะ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ไม่ใช่อะไรที่ต้องรวยล้นฟ้าถึงจะมีได้ เราอาจจะไม่พร้อมวันนี้ไม่เป็นไร แต่เมื่อมันอยู่ในกึ๋่นแล้วนี่ว่าเราอยากดําเนินชีวิตเราแบบไหน พอโอกาสมาก้อสานต่อความฝันได้เลย แต่ถ้าไม่ฝันเอาไว้มั่งเลย ไม่คิดเผื่อไว้เลยว่าเราต้องการอะไร พอโอกาสมาก้อจะทําไม่ได้ดีอย่างที่ควรจะเป็น

     
     

    จากคุณ : เขียวอ่อน - [ วันพ่อแห่งชาติ 03:21:37 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป