ความคิดเห็นที่ 1 เยี่ยมครับ ขอบคุณที่เอามาให้อ่านครับ ^_^ จากคุณ : ปิติ99 - [ 17 ธ.ค. 47 13:55:17 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ประมงเตือนโรคระบาดหน้าหนาว อุณภูมิลด-สัตว์น้ำเครียด โอกาสติดโรคแผลเน่าสูง นายสิทธิ บุณยรัตผลิน อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูหนาวซึ่งมีอากาศเย็น อุณ หภูมิในน้ำลดต่ำลง และในรอบวันอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอณุหภูมิในน้ำมากซึ่งจะส่งผลให้สัตว์น้ำ เกิดอาการเครียด ไม่กินอาหาร อ่อนแอ เป็นผลให้รับเชื้อโรคต่างๆ ได้ง่าย โดยเฉพาะโรคระ บาดปลา หรือ โรคแผลเน่าเปื่อย (Epizootic Ulcerative Syndrome, EUS) ที่มักจะเกิด ขึ้นในสัตว์น้ำในช่วงปลายฤดูฝนต่อกับฤดูหนาว สำหรับลักษณะอาการภายนอกที่สามารถสังเกตได้ คือ ปลาหรือสัตว์น้ำที่เป็นโรคจะมีแผล เลือดออกตามซอกเกล็ด แผลเปื่อยเน่า แผลเป็นหลุมลึกกระจายตามส่วนหัวและผิวลำตัว โดยมีสา เหตุมาจากเชื้อราอาพาโนมัยซีส (Aphanomyces invadans) ซึ่งบางครั้งอาจจะพบร่วมกับเชื้อ โรคอื่นๆ ได้ด้วย เช่น ปรสิต แบคทีเรีย และไวรัส ส่วนปลาที่มักเกิดโรคนี้ได้ง่ายส่วนใหญ่จะเป็น ปลาประเภทมีเกล็ด ได้แก่ ปลาช่อน ปลาชะโด ปลาแรด ปลาบู่ และปลาสร้อย รวมถึงปลาไม่มี เกล็ดบางชนิด เช่น ปลาดุก เป็นต้น อธิบดีกรมประมง กล่าวเพิ่มเติมว่า หากเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาพบมีการระบาดของโรคดัง กล่าว ในเบื้องต้นให้ระมัดระวังในเรื่องการระบายน้ำโดยไม่ควรปล่อยน้ำจากแหล่งที่พบปลาป่วย เข้าบ่อเลี้ยง หรือ ระบายน้ำจากบ่อที่มีปลาป่วยออกจากบ่อเลี้ยงเพื่อเป็นการควบคุมการแพร่ระ บาดของโรค และเกษตรกรควรจะดูแลเอาใจใส่สุขภาพปลาในช่วงนี้เป็นพิเศษ หรือ หลีกเลี่ยง โดยจับปลาขึ้นขายก่อนช่วงฤดูหนาว และหากต้องการเลี้ยงวปลาในช่วงหน้าหนาวควรจะเลี้ยงปลา ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบาดน้อย เช่น ปลานิล ปลาจีน และปลากไม่มีเกล็ด เป็นต้น ที่มา:หนังสือพิมพ์แนวหน้า จากคุณ : คนรักปลา - [ 17 ธ.ค. 47 14:04:18 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตาปลามาน หายไปหนายงะคับ จากคุณ : secret_i7 - [ 17 ธ.ค. 47 14:04:58 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ระบบกรอง สำหรับปลาสวยงาม ตอน ความสัมพันธ์ระหว่างหินกรองน้ำกับชนิดของตัวปลา โดยปกติหินกรองน้ำที่ขายในท้องตลาดจะแบ่งตามคุณสมบัติได้เป็น 2 อย่างคือ เป็นด่างและเป็นกลาง แต่ตัวที่เป็นกรดจะไม่นิยมนำมาใช้กัน โดยส่วนมากจะใช้หินที่เป็นด่างในระดับหนึ่ง ในทางวิชาการจะเรียกคัลเซี่ยมคาร์บอเนต (CaCo3) หรือที่เรียกว่าหินปูนนั่นเองหินพวกนี้เกิดจากการทับถมของคัลเซี่มคาร์บอเนตเป็นเวลานับล้านๆปี และยังมีหินอีกมากมายที่มีคัลเซี่ยมคาร์บอเนตเป็นองค์ประกอบ ส่วนหินที่เป็นกลางคือพวกซิลิคอนออกไซด์ SiO2 ปลาสวยงามที่ชอบระบบกรองน้ำที่มีหินกรองเป็นคัลเซี่ยมคาร์บอเนต คือ ปลาคาร์พ ปลาเงินปลาทอง ปลาหางนกยูงสายเก่าตาดำ ปลาหมอสีอเมริกาใต้ ปลาสอด ปลาเทวดา ปลาที่ชอบระบบกรองน้ำที่ผ่านหินกรองพวกซิลิคอนออกไซด์ ต้องรู้อย่างหนึ่งว่าน้ำที่ผ่านระบบกรอง น้ำที่ได้จะมีสภาพเป็นกลางและถ้านำปลามาเลี้ยงอยู่ในระบบ น้ำก็จะมีสภาพเป็นกรดมากขึ้นปลาที่เลี้ยงไม่สามารถอยู่ได้ นั่นก็แสดงว่าถึงเวลาเปลี่ยนน้ำ สำหรับปลาที่ชอบสภาพน้ำที่เป็นกลางหรือด่างอ่อนๆ เช่น ปลาปอมปาดัวร์ ปลาหางนกยูงตาแดง ปลาอโรวาน่า อย่างไรก็ดี สิ่งสำคัญที่นักเลี้ยงปลาควรนึกถึงก็คือ ระบบกรองน้ำที่สมบูรณ์แบบที่สุด คือ ระบบกรองน้ำที่ปรับสภาพให้เหมือนธรรมชาตินั่นเอง Fish zone ฉบับที่ 51 ประจำเดือน กันยายน พ.ศ. 2547 จากคุณ : คนรักปลา - [ 17 ธ.ค. 47 14:13:46 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ภูมิคุ้มกันในตัวปลา การสร้างภูมิคุ้มกันเป็นขบวนการป้องกันร่างกาย ของสัตว์เพื่อการอยู่รอดในสภาพที่มันคุ้นเคย สัตว์ที่ไม่สามารถพัฒนาการสร้างภูมิคุ้มกันได้ก็จะตายไป โดยธรรมชาติแล้วปลาเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังที่ด้อยพัฒนามากที่สุด แต่มันก็สามารถมีวิวัฒนาการในการสร้างภูมิคุ้มกันขึ้น เพื่อป้องกันตัวเองจากเชื้อโรคหรือปรสิตได้ ปลาที่อาศัยอยู่ในน้ำที่มีอุณหภูมิต่ำ ไม่ต้องมีการพัฒนาการสร้างภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพมากนัก เพราะเชื้อโรคต้องใช้เวลาในการฟักตัวนานกว่าปกติ แต่ถ้าเป็นปลาที่อาศัยอยู่ในน้ำที่มีอุณหภูมิสูงและอยู่กันเป็นฝูง เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายปลาได้ง่ายและเพิ่มจำนวนได้อย่างรวดเร็ว จำเป็นต้องมีระบบการสร้างภูมิคุ้มกันที่มีประสิทธิภาพสูง ในความเป็นจริงแล้วภูมิคุ้มกันนั้นเกิดขึ้นได้ 2 แบบ คือ แบบธรรมชาติ (natural immunity) หมายถึง ความสามารถที่ได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรมให้สามารถสร้าง antibodies ต่อต้านเชื้อโรคชนิดใดชนิดหนึ่งโดยไม่ต้องมีการกระตุ้นโดย homologous antigen จากเชื้อโรคนั้นก่อน สาเหตุเพราะปลาและเชื้อโรคอยู่รวมกันมาหลายชั่วอายุ จนกระทั่งปลาในรุ่นถัดๆมาสามารถสร้างภูมิคุ้มกันสำหรับโรคนั้นได้ ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นภายหลัง (acquired immunity) เกิดขึ้นได้โดยการที่ปลาถูกกระตุ้นโดยการสัมพัสกับ antigen จากเชื้อโรคก่อน humoral หรือ cellurlar immunity จึงเกิดขึ้น เรียกวิธีการสร้างภูมิคุ้มกันแบบนี้ว่า active immunity และการ active acquired immunity จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อปลามีการติดเชื้อโรคโดยธรรมชาติหรือสัมพัสกับ antigen ของเชื้อขึ้นภายในร่างกาย จากบทความข้างต้นก็พอที่จะสรุปได้ว่า การสร้างภูมิคุ้มกันนั้นเกิดขึ้นได้ 2 แบบ คือ การสร้างโดยการได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรม และการสร้างภูมิคุ้มกันเมื่อปลาได้สัมพัสกับ antigen ของเชื้อโรคโดยตรง Fishes focus ฉบับที่ 13 ประจำเดือน ตุลาคม 2547 จากคุณ : คนรักปลา - [ 17 ธ.ค. 47 14:16:44 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณมากค่ะที่รวบรวมเรื่องน่ารู้มาให้อ่านกัน จากคุณ : กอวา - [ 17 ธ.ค. 47 14:17:45 ]

ความคิดเห็นที่ 7 กระบวนการทางเคมีที่สำคัญต่อคุณภาพน้ำเลี้ยงปลาสวยงาม เมื่อตัดสินใจที่จะเลี้ยงปลาสวยงามแล้ว...ก็ต้องหันมาสนใจในรายละเอียดของการเลี้ยงกันหน่อย!!! ดังเช่นในเรื่องของคุณภาพน้ำ ซึ่งมีสารอยู่ 3 ชนิดที่สำคัญและมีผลต่อการเลี้ยงปลาสวยงามเป็นอย่างมาก นั่นคือ แอมโมเนีย ไนไตรท์และไนเตรท ซึ่งสารเหล่านี้อยู่ในกลุ่มของสารประกอบไนโตรเจน (Nitrogen compounds) มาจากการย่อยสลายสารประเภทโปรตีนและของเสียที่เกิดจากกระบวนการเผาผลาญภายในของสิ่งมีชีวิต ในแหล่งน้ำธรรมชาติโดยทั่วไปจะมีปริมาณสารสามตัวนี้อยู่ในเกณฑ์ 0 mg/L ซึ่งเป็นค่าระดับที่ปลาหรือสัตว์น้ำอื่นๆสามารถที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้สบายๆ แต่แอมโมเนียที่เกิดจากของเสียจะเป็นพิษภัยต่อสัตว์น้ำทุกประเภท โดยเฉพาะในระบบตู้ปลาของเรา แต่โดยปกติแอมโมเนียนี้จะถูกออกซิไดส์โดยแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในน้ำพร้อมๆกับอาศัยออกซิเจนในน้ำเป็นตัวช่วยในการเผาผลาญ และผลที่ได้จากการออกซิไดซ์นี้ก็คือ ไนไตรท์ ซึ่งมีความเป็นพิษน้อยกว่าแอมโมเนียหลายเท่า แต่มันก็ยังไม่เป็นผลดีต่อสัตว์น้ำเช่นกัน ซึ่งเจ้าไนไตรท์ที่ว่านี้ก็จะถูกออกซิไดส์ต่อโดยแบคทีเรียอีกชนิดหนึ่งที่อยู่ในน้ำนั่นแหละ!!! ผลจากกระบวนการนี้ก็จะได้ไนเตรท ซึ่งกระบวนการเปลี่ยนแอมโมเนียเป็นไนไตรท์ ไนไตรท์เป็นไนเตรทโดยอาศัยออกซิเจนเป็นตัวช่วยเรียกรวมกันว่า กระบวนการ Nitrification ก็จะได้ออกมาเป็นไนเตรท ซึ่งจะว่าไปแล้วมันก็ไม่ได้เป็นพิษกับสัตว์น้ำซะทีเดียว แต่ว่าหากเกิดการสะสมมากๆเข้าจะทำให้เกิดกรดไนตริกขึ้น ซึ่งจะทำให้คุณสมบัติและสภาพค่าทางเคมีของน้ำในระบบไม่เสถียร รวมไปถึงค่า pH ที่ขึ้นๆลงๆ จนปลาอยู่ไม่เป็นสุข ทีนี้โดยธรรมชาติแล้วก็มีทางออกให้ปัญหานี้นั่น คือเจ้าไนเตรทจะมีตัวย่อยสลายแปรรูปไปเช่นกัน โดยกระบวนการที่ว่าคือ การที่ไนเตรทบางส่วนจะถูกใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสงของพืชน้ำอันรวมไปถึงตะไคร่เขียวด้วย ส่วนไนเตรทบางส่วนจะถูกเปลี่ยนแปรโดยแบคทีเรียเป็นไนตรัสออกไซด์(N2O) และไนโตรเจน(N2) แยกออกจากระบบไป โดยเจ้าแบคทีเรียที่รับหน้าที่เข้ามาจัดการในส่วนนี้จะเป็น Anaerobic bacteria ซึ่งกระบวนการเปลี่ยนแปรเป็นไนเตรทเป็นไนตรัสออกไซด์ (N2O)และไนโตรเจน(N2) เรียกว่า Denitrification เป็นกระบวนการที่ไม่ใช้ออกซิเจน การทำงานของกระบวนการนี้จะกำจัดไนเตรทออกจากน้ำให้หมดไปอย่างมีประสิทธิภาพ Fish zone ฉบับที่ 49 ประจำเดือน กรกฎาคม 2547 จากคุณ : คนรักปลา - [ 17 ธ.ค. 47 14:18:45 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ยาสามัญประจำตู้ปลา สำหรับคนเลี้ยงปลาสวยงามแล้ว ปัญหาที่จะต้องเจออย่างหนึ่งก็คงจะหนีไม่พ้นในเรื่องของโรคภัยที่เกิดกับปลาที่เลี้ยงไว้ ซึ่งปัจจุบันนี้ ก็ได้มีการพัฒนาด้านเคมีภัณฑ์และเวชภัณฑ์ในการป้องกันและรักษาโรคที่เกิดกับปลาสวยงาม และมีตัวยาใหม่ๆที่มีประสิทธิภาพออกมาให้คนรักปลาได้เลือกมากมาย แต่ตัวยาเก่าๆที่คนรักปลาคุ้นเคยกันมาตั้งแต่อดีตบางตัวก็ยังได้รับความไว้วางใจ ให้ช่วยรักษาโรคปลาที่ตนเองรักและที่นิยมใช้กันมากก็เห็นจะเป็น มาลาไคท์กรีน และฟอร์มาลีน ที่สามารถช่วยชีวิตปลามานักต่อนักแล้ว มาลาไคท์กรีนและฟอร์มาลีนจัดเป็นสารเคมีที่นักเลี้ยงปลาสวยงามรู้จักกันดีและนิยมกันอย่างแพร่หลายในการรักษาโรคปลา เนื่องจากตัวยามีคุณสมบัติสามารถคงรูปได้นานรวมทั้งตัวมันเองจะไม่เป็นพิษอย่างเฉียบพลันต่อแบคทีเรียบางชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อระบบการกรองน้ำแบบชีวภาพ สารเคมีทั้งสองชนิดนี้สามารถใช้ร่วมกันซึ่งจะเสริมฤทธิ์ในการรักษาโรคจุดขาวและยังออกฤทธิ์ได้ดีกับเชื้อในสกุลคอสเตียและชิโลโดเนลล่าอีกด้วย มาลาไคท์กรีน (Malachitegreen) มีฤทธิ์ในการต่อต้านเชื้อราในกลุ่ม Saprolegnia ส่วนมากเราจะใช้ในการรักษาปลาที่ป่วยด้วยโรคเชื้อรา หรือใช้ในการป้องกันการติดเชื้อราบนไข่ปลา สิ่งสำคัญที่สุดที่เราจะต้องเข้าใจกันก่อนเกี่ยวกับเชื้อรา คือ ปกติแล้วเชื้อราไม่สามารถที่จะทำอันตรายปลาได้ เว้นเสียแต่ว่าผิวปลามีบาดแผลติดเชื้ออยู่ก่อนแล้วเจ้าเชื้อราจึงจะแผลงฤทธิ์ ฟอร์มาลีน (Formalin) เป็นสารเคมีที่มีอำนาจฆ่าสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กๆพวกโปรโตซัวและปรสิตภายนอก ส่วนในทางสายงานอนุกรมวิธานปลา จะใช้ฟอร์มาลีนในการเก็บรักษาตัวปลาเพื่อการศึกษา ที่มา : Fish zone ฉบับที่ 49 ประจำเดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2547 จากคุณ : คนรักปลา - [ 17 ธ.ค. 47 14:24:21 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อืม ความรู้ดี ๆ ที่บางทีหลาย ๆ คนก็ลืมไปเหมือนกัน ดีครับ เอากลับมาทบทวนกันบ้าง จะได้ไม่ลืม จากคุณ : นานานะ - [ 17 ธ.ค. 47 15:47:21 ]

ความคิดเห็นที่ 10 จากคุณ : รักกัน - [ 17 ธ.ค. 47 19:00:37 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณนะครับ จากคุณ : JJ (ลูกเฟิร์น) - [ 17 ธ.ค. 47 23:37:05 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เยี่ยมยอดไปเลยครับ รุ่นพี่ผม ขอบคุณมาก ๆ ครับ จากคุณ : อิงค์-ออม - [ 18 ธ.ค. 47 05:55:08 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ ^_^ จากคุณ : Frontona - [ 18 ธ.ค. 47 08:59:29 ]

ความคิดเห็นที่ 14 Save นะครับ Save จากคุณ : Joie_Girl - [ 18 ธ.ค. 47 12:14:08 ]