CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    """""""""""""""""""""" หมา, หัวใจ และความรัก """"""""""""""""""

    หวัดดีครับเพื่อนๆ ช่วงนี้ผมหายหน้าไปยาวเลย เนื่องจากภาระกิจมากมาย ทำให้เวลามาซนบนเวปน้อยลงไปน่าใจหาย ช่วงแรกๆ มีอาการเหมือนจะลงแดง ต้องคอยเปิดเข้ามาอ่าน แต่มา 3 เดือนหลังนี่ ห่างหายจากการเข้าเวปไปสนิทจนมีเพื่อนๆ จุดธูปเรียกถึงเข้ามาโพสต์ซะหน่อย

    วันนี้ไม่ค่อยมีอารมณ์ทำงานตามหน้าที่ ขอหนีมาระบายอารมณ์ซักเล็กน้อย ตั้งชื่อเรื่องที่จะมาระบายให้เพื่อนๆ ฟังตามที่เห็นด้านบนครับ “หมา, หัวใจ และ ความรัก”

    ผมเลี้ยงท่านๆ อย่างจริงๆ จังๆ มาเมื่อไม่นานนี้เอง ประมาณ ปีกว่าๆ ตามอายุท่านๆ ก่อนหน้านั้นเลี้ยงบ้างแต่ไม่ได้เป็นเจ้าของเหมือนทุกวันนี้ เพราะยังอยู่กับครอบครัว พอตอนนี้แยกมาอยู่เองแล้วถึงได้เป็นเจ้าของเต็มตัว แต่ด้วยความคิดประหลาด เลยเลี้ยงท่านๆ ซะจนจำนวนคนน้อยกว่าจำนวนหมาไปซะแล้ว

    เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา มันแกว ของผม (เน้นว่าของผม อิ อิ ถ้าเพื่อนๆเคยอ่านเรื่องของบ้านผมจะเข้าใจว่าทำไมต้องเน้น) เกิดประสบเคราะห์กรรม เป็นต่อมน้ำลายอุดตันทำให้ลิ้นบวมเป่ง ดันให้ปลายลิ้นออกมาห้อย เป็นที่เย้ายวนใจผมเป็นอย่างยิ่ง หลังจากพาไปปรึกษาหมอมาหลายที่ (ที่ไปหลายที่ก็เพราะจะหาที่ใกล้บ้านที่สุด สะดวกสุดก่อน อิ อิ ตามประสาคนรักหมาแต่ภาระเยอะ) ทุกคนบอกเหมือนกันว่า “พาไปที่จุฬาเถิด เพราะอาการแบบนี้ ข้าพเจ้าเคยเห็นแต่ในตำรา ไม่เคยผ่าออกจริงๆ ซักหนก็ยัง บ่ เคย” ผมเลยพามันแกวไปหาหมอที่จุฬา กว่าจะนัดผ่าได้ปาเข้าไปตั้ง 3 หน (เทียวไป เทียวมา เสียงานเสียการไปพอประมาณ ถ้าเจ้านายไล่ออก จะเอาหมาไปปล่อยที่บ้านเจ้านานซะให้เข็ด)

    จนถึงวันที่ 17 ที่ผ่านมา ได้เวลา มันแกว จะมาประลองกับฝีมือ(ปาก) กับมีดผ่าตัด

    ผมกระวนกระวายมาตั้งแต่ตอนกลางคืน (สารภาพครับ ว่าเป็นห่วง และกลัวมันแกวเจ็บอย่างแรง แถมด้วยมีคำถามในใจว่าชาติก่อน เอ็งไปทำอะไรมาฟะ ชาตินี้ถึงต้องมาเป็นแบบนี้) ตอนเช้ารีบตื่นมาผจญรถติดจากพุทธมณฑล มาถึงจุฬา ตลอดเส้นทาง มันแกวนั่งสงบน้ำลายไหล ยืด เลอะกระจกผมอย่างเมามัน ประมาณว่า กระจกรถเป็นหมูปิ้งอะไรอย่างนั้น

    หมอนัด 10.00 ในใบแจ้งบอกว่าให้มาก่อนเวลา 15 นาที ไม่มา อดผ่า ผมมาถึงตอน 9.30 น. มีคนมาอยู่ในห้องก่อนผม 5-6 คน ตรงนี้แหละครับ เป็นที่มาเป็นแรงดลใจในการบ่นของวันนี้

    ผมเจอคนพาเจ้าหมาจรจัดมาหาหมอ ด้วยสภาพอยู่ในรถเข็น ตอนที่เห็นผมไม่ค่อยมีคำถามอะไร เพราะคิดว่าหมาที่มาโรงพยาบาลมันจะมานั่งยิ้มเป็นทองไม่รู้ร้อนเหมือนเจ้ามันแกวซักกี่ตัว จนพนักงานเรียกชื่อให้พาเจ้าตัวที่นอนอยู่ไปชั่งน้ำหนัก

    คนที่พามาบอกว่าเมื่อวานก็ชั่งแล้วครับ เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าต้องชั่งอีกที พ่อหนุ่มคนนั้นเลยต้องพยายามอุ้มเจ้าหมานั่นขึ้นมา

    จังหวะนั้นหละครับ คำถามมากมายผุดขึ้นมาในสมองจากภาพที่เห็น
    ชาย-หญิง 2 คนท่าทางไม่ใช่คนรักหมา แต่ตัวเรียบร้อย (ไม่ได้เตรียมการมาผจญกับหมา) ลุกขึ้นประคอง เจ้าหมาตัวอ้วน ลอยขึ้นมา

    เลือดพุ่งกระฉูด ขอเน้นนะครับ กระฉูด เหมือนเปิดน้ำจากสายยาง (เจ้ามันแกว หันควับ ถ้าเป็นน้ำใสๆ มันคงไปทำหน้าลั่นล้า กินเล่นอย่างสนุกใจ แต่พอเห็นเป็นเลือด มันแกวยิ้มแห้งๆ เดินกลับมาหาผม)

    ผลปรากฏว่าเลอะครับ เสื้อเชิร์ตลายทางสีฟ้า ของพ่อหนุ่ม เลอะไปด้วยเลือด แต่เค้าก็ไม่ทำท่าว่าสนใจว่าตัวเองจะเลอะ กลับบอกว่า เดี๋ยวผมเช็ดพื้นให้นะครับ!!!

    ผมรู้สึกมีอะไรตีบตันที่คอ (ไม่ใช่อ้วกนะครับ)

    ผมยิ้มให้พ่อหนุ่มคนนั้น ในความหมายที่ผมแสดงออกไปคือ ผมอยากรู้เรื่องของเจ้าหมา และพวกคุณจังครับ (สาบานได้ ว่าไม่ได้ยิ้มทอดสะพานแน่นอนครับ กลับมานึกแล้วหวั่นใจอยู่เหมือนกัน เดี๋ยวถ้าพ่อหนุ่มคนนั้นตีความผิดหละ จะอิ๋บอ๋าย)

    หลังจากเค้าเช็ดเลือดเสร็จ พ่อหนุ่มเริ่มพูดอะไรออกมา ผมเลยชวนคุย ถึงได้รู้ว่าเจ้าหมาตัวนี้ เป็นหมาจรจัดแถวบ้านเค้า โดนตีมาหนัก หลายแผล โดยเฉพาะที่ขา มีรูเหมือนถูกแทงด้วยอะไรซักอย่าง หน้าตัดเท่าเหรียญบาท

    เค้าเล่าว่าเจ้าหมาตัวนี้มันชอบเห่าคนแปลกหน้า โดยเฉพาะตำรวจ (สงสัยชาติก่อนโดนใบสั่งบ่อย ชาตินี้เลยมาระบาย) โดนตีมาหลายครั้งแล้ว พอเจ็บก็มุดเข้ามาแอบอยู่ในบริเวณบ้านเค้า เค้าเลยต้องคอยดูแล คราวนี้เค้ากลับบ้านมาตอนตี 3 ได้ยินเสียงร้อง หงิง หงิง เดินหาดู ถึงเจอเจ้าหมา ค่อยๆ คลานออกมานอนหมอบ อยู่ตรงเท้า แล้วพูดว่า “ช่วยด้วย พาไปหาหมอที” (อันนี้ผมเติมเองครับ)

    พอพ่อหนุ่ม คนนี้เล่าจบ ตาพ่อหนุ่มคนนี้คลอๆ ทำให้ผมไม่กล้าสบตาเค้าไปด้วย กลัวว่าจะเห็นว่าผมก็จะไปเหมือนกัน คนในห้อง 5-6 คนเงียบไปพร้อมๆ กัน มันแกวมองหน้าผม ทำตาปริบๆ

    ผมนึกคำๆ เดียวออก แล้วหลุดออกจากปากทำลายความเงียบในห้อง
    “แ ม่ง เอี้ ย”

    ทุกคนในห้องถอนหายใจ ออกมาดังๆ  สุภาพสตรีที่มุมห้อง ยิ้มมุมปากเล็กๆ

    ผมคงพูดคำที่ทุกคนคิดออกมา โดนใจเข้าให้
    มันแกวยิ้มให้ผม แล้วเอามือมาจบที่ขา ถอนหายใจ (แล้วทำไมต้องมีน้ำลายมาเลอะหัวเข่า ฉันด้วยฟะ?)

    ห้องที่แสนอึดอัด ในความรู้สึกของผม แต่กลับมีมุมเล็กๆ ของคนที่มีความรักอยู่เต็มหัวใจอยู่เต็มหัวใจ นั่งเงียบๆ อยู่ 5-6 คน ห้องนี้กลับน่าอยู่ กว่าบางที่ที่ มีคนอยู่มากมาย แต่กลับมีหัวใจ ที่ไร้ความรัก

     
     

    จากคุณ : บอกไม่ได้ อายจัง - [ 21 ก.พ. 48 15:09:17 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป