ความคิดเห็นที่ 32
เนื่องด้วย ความคิดเห็นที่ 24
คือไม่ได้อยากจะขวางโลกหรอกนะคับ... แต่มันไม่เป็ฯการเห็นแก่ตัวของคนไทยไปหน่อยเหรอคับ... concolor ตัวนี้เก็บก็เก็บมาจากฝั่งพม่ามิใช่ฝั่งไทย.... แต่ทำไมถึงคิดจะเรียกกันว่า เหลืองประจวบ หละคับ ???
จากคุณ : dragonite - [ 17 เม.ย. 48 12:28:54 ]
ตลกดีนะครับ เถียงกันเรื่องไรเนี่ย มันเรื่องของคุณนะครับว่าจะเรียกอะไร แต่ผมเป็นเจ้าของภาษาไทยคนหนึ่ง พี่ๆ ในลานดินเค้าก็เป็นเจ้าของภาษาไทย พวกเค้ามีสิทธิในการที่จะคิดคำใดคำหนึ่งเพื่อสื่อถึงต้นไม้ชนิดพันธุ์ใหม่ชนิดหนึ่งที่ยังไม่มีชื่อ เพื่อไว้สื่อสารกัน และผมเองก็เป็นเจ้าของภาษาคนหนึ่ง ผมมีสิทธิที่จะเลือกใช้คำในสังคมนี้ที่พูดภาษาไทย ถ้าผมพอใจ คุณก็เช่นกันมีสิทธิที่จะใช้คำนี้หรือไม่ใช่คำนี้ก็ได้ แต่คุณไม่มีสิทธิไปกำหนดผู้อื่นไม่ว่าด้วยการยกตัวว่าคุณมีความรู้สูงกว่า แล้วชี้นำว่าสิ่งนี้ผิดหรือถูก คุณจะมีสิทธิอยู่บ้างหากคุณมีตำแหน่งอยู่ใน คณะราชบัณฑิตยสถาน แต่ก็คงได้แค่แนะนำการใช้ เพราะสมัยนี้ มันยุค ภาษาศาสตร์ Linguistics (ไวยกรณ์แบบบรรยายภาษาอย่างที่มันเป็นจริง Described grammar) แล้ว ไม่ใช่ไวยากรณ์แบบชี้นำ Prescribed Grammar การเกิดคำใหม่ขึ้นในภาษาเป็นเรื่องปกติ แต่มันจะอยู่ในภาษานั้นๆไปนานสักเท่าไหนนั้นขึ้นอยู่กับสมาชิกโดยทั่วไปที่ใช้ภาษานั้นว่าได้นำคำคำนั้นไปใช้หรือไม่ เพราะภาษามีความเป็นอิสระหาได้ขึ้นกะคนใดคนหนึ่งไม่ และไม่ได้เป็นไปตามสูตรเลขคณิตง่ายๆ หรือ ฟิสิกส์ หรือเคมี ที่ทำให้คุณ Ent ติดคณะ....ได้ง่ายๆ ซึ่งถ้าหากคำนี้ไม่ถูกใช้มันก็จะถูกลืมเลือนไปเอง หรือไม่มันก็จะคงอยู่กับเมืองไทยจนกว่าพวกนิยมพม่าจะพาพม่ามาบุกไทยจนสิ้นชาติ ขอพูดอีกแนวทางวิทยาศาสตร์นะครับ หากคุณได้ศึกษาเกี่ยวกะกล้วยไม้มากหน่อย เหมือนที่ศึกษา Anatomy คือรู้ทุกจัก nerve ทุกเส้นทุกแขนง รู้จัก Fascia ทุกชั้นเหมือนอย่างที่คุณเรียนมา แล้วละก็คุณคงไม่ถามคำถามที่ดูเขลานี้ออกมาหรอกครับ การที่เหลืองประจวบไม่พบที่ประจวบก็ไม่เห็นแปลกเลยที่จะมีชื่ออย่างนี้ มีตัวอย่างให้เห็นทั้งชื่อไทยและชื่อวิทยาศาสตร์
อย่างแรกเลย Paph charlesworthii เนี่ย ที่เมืองไทยเรียกว่า รองเท้านารีดอยตุงเนี่ยมีใครเคยถ่ายรูปในป่าเมืองไทยพร้อมด้วยระบุพิกัดทางแผนที่ม้ายครับ ถ้ามีบอกด้วยครับ ความจริงมันก็เป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในรัฐฉาน ใกล้เชียงรายมากๆ แต่มันก็เพียงแค่ได้ถูกนำมาขายตามชายแดนตามอุปทานที่มีมากในเมืองไทย ทั้งมันยังเป็นไม้ที่สวยมากด้วย ใครๆก็อยากๆได้เป็นเจ้าของ และผมก็ไม่ได้ต่อว่าคนที่ตั้งชื่อไม้นี่ว่าดอยตุงนะครับเพราะเค้าอาจจะไปรับของกันแถบนั้น คนก็เลยเรียกตามกันมา จนมีคนไทยหัวใส อ้างมันว่าเป็นไม้ไทย ซึ่งผมเห็นด้วยเพราะต่อไปเรื่อง สิทธิบัตรและความหลากหลายทางพันธุกรรมมันอาจกลายเป็นปัญหาสำคัญระหว่างประเทศก็ได้ ถามว่าแล้วมันไม่น่าเกลียดเหรอ ตอบได้เลยว่าไม่หรอกครับ เพราะขนาดข้าวหอมมะลิที่มีถิ่นกำเนิดในเมืองไทย สหรัฐอเมริกาประเทศที่อยู่ห่างเราไปครึ่งวันยังกล้าอ้างสิทธิในข้าวหอมมะลิเลย อีก อย่างรัฐฉานก็เป็นรัฐของคนไทยใหญ่ และพม่าก็เคยขนสมบัติไทยไปมากขอแบ่งแค่นี้ไม่น่าเกลียดหรอกครับ มีวิสัยทัศน์หน่อยครับ ตามฝรั่งซะจนก้อนเค้าหอมแล้วนะครับ (ไม่แปลกใจเลยที่คนไทยตกเป็นหนูทดลองของบริษัทยาต่างชาติ)
อีกตัวอย่างหนึ่งนะครับ เป็นชื่อวิทยาศาสตร์ Paph malipoense ตั้งตามชื่อเมืองซึ่งมีตลาดขายกล้วยไม้ป่าในจีนตอนใต้คือ Malipo, Wenshan, Yunnan ซึ่งในตอนแรกเค้าก็ไม่ได้ทราบป่าที่พบแน่ชัด แต่ก็ได้ตั้งชื่อไป ซึ่งต่อมาพบว่ามีทั้งในจีนตอนใต้และมีมากในเวียดนามเหนือ ซึ่งถึงแม้จะบอกว่ามันอยู่ใกล้กัน แต่ก็ไม่ควรใช้ชื่อเมืองชื่อตลาด ถ้าเป็นตามเหตุผลของคุณก็ควรอย่างน้อยชื่อมณฑล Yunnan มากกว่า ซึ่งชื่อนี้เค้าก็ยังใช้กันได้ทั่วโลกเลย ว่างๆก็ส่งเรื่องไปค้านขอเปลี่ยนชื่อวิทยาศาสตร์ด้วยนะครับ จะเป็นพระคุณพิกล
ขอโทษนะครับที่เสียมารยาทแต่ต้องการให้ภาษาไทยเป็นภาษาเป็นของคนไทยทุกคน ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง References 1. Braem; Chiron. Paphiopedilum.Tropicalia, 2003 2. Averyanov; Cribb; Loc & Hiep. The slipper orchids of Vietnam with an introduction to the flora of Vietnam.Timber Press, 2003 3. Cribb. The genus Paphiopedilum. 2nd edition. NHPB & Kew, 1998 4. Close. A teaches grammar: the central ploblems of English. LTP, 1992
จากคุณ :
Paphmania
- [
18 เม.ย. 48 01:10:59
]
|
|
|