ความคิดเห็นที่ 48
ส่วนข้ออื่น ๆ ก็ขอตอบทีเดียวเลยละกัน 1. สิงโต Bulb. echinolabium 2. การปั่นตากับการเพาะเนื่อเยื่อพืช ผมว่ามันไม่แตกต่างกันนะ เพียงแต่ว่าเฉพาะกล้วยไม้เท่านั้นที่เขาดันเรียกการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อว่าการปั่นตา ถ้าเป็นต้นไม้ชนิดอื่น ๆ เขาจะเรียกการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชเฉย ๆ การปั่นตาหรือการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อก็เหมือน ๆ กัน หลักการก็คือการนำเนื่อเยื่อส่วนที่เป็นส่วนเจริญ (กำลังมีการแบ่งตัวของเซลล์อยู่) มาทำให้มันมีปริมาณมากขึ้น เนื่อเยื่อที่ว่าส่วนใหญ่ก็เป็นส่วนที่อยู่ปลาย ๆ ของพืช เช่นปลายราก ปลายยอด ตาดอก หน่ออ่อนยอดอ่อน เป็นต้น ของกล้วยไม้ก็มักจะนำยอด หน่ออ่อน ตาดอก (ขึ้นอยู่กับสกุลและความชำนาญของแต่ละแลป) 3.ชื่อของพันธุ์แท้ ต้องใช้ชื่อสกุล(Genus) นำหน้าด้วยตัวใหญ่ ส่วนชื่อพันธุ์(Species) จะเป็นตัวเล็กทั้งหมด จริง ๆ แล้วต้องเขียนด้วยตัวหนังสือเอียงหรือไม่ก็ใช้ตัวตรงธรรมดาแต่ต้องขีดเส้นใต้ด้วย รวมทั้งต้องมีชื่อย่อผู้ค้นพบหรือผู้ที่ตั้งชื่อด้วย แต่ถ้าไม่ได้เป็นแบบทางการหรือเป็นหนังสือวิชาการมาก ๆ ก็ไม่จำเป็นถึงขนาดนั้น ส่วนชื่อของลูกผสม ชื่อสกุลขึ้นต้นด้วยตัวใหญ่ ชื่อพันธุ์ก็ขึ้นต้นด้วยตัวใหญ่ และชื่อพันธุ์จะไม่ใช้ตัวเอียงหรือขีดเส้นใต้ แต่จะใช้ตัวตรงทื่อ ๆ เพื่อเป็นการให้เข้าใจง่ายว่า เขียนแบบนี้เป็นลูกผสมนะ ไม่ใช่พันธุ์แท้ 4. การขอเกียรตินิยม นั้นเป็นการแสดงถึงว่าต้นนั้นมีคุณสมบัติดีเด่นเมื่อเทียบกับมาตรฐานของสกุลนั้นหรือพันธุ์นั้น หรือบ่งบอกถึงการเลี้ยงดูได้ดีมาก ๆ ก็ได้ ซึ่งการขอเกียรตินิยมนั้นจริง ๆ แล้วสำคัญกว่าการได้รับรางวัลยอดเยี่ยมในการประกวดของแต่ละงานอีกนะ เพราะว่าต้นที่ได้รางวัลยอดเยี่ยมในการประกวดของแต่ละงาน อาจจะไม่ได้เกียรตินิยมเมื่อทำการขอก็เป็นได้ เพียงแต่ว่าในการประกวดกล้วยไม้นั้น ต้นนั้นได้รางวัลก็หมายความว่าต้นนั้นสวยที่สุดในการประกวดประเภทนั้นหรือกลุ่มนั้นหรืองานนั้น แต่การสวยสุดในงาน มิได้หมายความว่าจะสวยจนถึงขั้นได้เกียรตินิยมเสมอไป แต่ถ้าเป็นงานใหญ่ ๆ ที่มีต้นกล้วยไม้ประกวดเป็นพันต้น ต้นที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมของงานก็มักจะสวยดีเด่นมากอยู่แล้วก็มักจะได้เกียรตินิยมไปด้วย แต่ถ้าเป็นงานเล็ก ๆ เช่นงานโชว์ประจำเดือนต้นยอดเยี่ยมก็อาจจะไม่ถึงขั้นเกียรตินิยมก็เป็นได้ ส่วนการที่ได้เกียรตินิยมนั้นมีประโยชน์อย่างไร พอจะมีหลายอย่างด้วยกัน เช่น 1.เป็นการบ่งบอกว่าผู้ผสมมีความสามารถในการคัดต้นพ่อแม่พันธุ์ที่ดีเยี่ยม ทำให้ได้ลูกมามีลักษณะที่ดีเด่น เช่น FCC, AM, HCC, SM หรือแม้กระทั่ง AD, AQ ซึ่งผู้ผสมจะมีความยินดีมากที่สุด 2. เป็นการบ่งบอกว่าผู้เลี้ยงมีความสามารถในการเลี้ยงให้มีความสมบูรณ์จนถึงขั้นดีเด่น (บางครั้งเราได้ต้นที่ได้รับเกียรตินิยมมาแล้วมาเลี้ยง แต่เมื่อออกดอกมาอาจจะไม่มีคุณภาพดีเด่นเท่ากับตอนขอเกียรตินิยมก็ได้ เนื่องมาจากว่าเราอาจจะเลี้ยงได้ไม่สมบูรณ์เท่าก็ได้) ส่วนเกียรตินิยมประเภทนี้ก็เช่น CCM เป็นต้น 3. เป็นการบ่งบอกว่ามีลักษณะที่ดีเด่นหรือแตกต่างไปจากพวกทั่ว ๆ ไป ถึงแม้ว่ามันจะเป็นพวกดอกเล็ก ๆ ไม่ได้ใช้ในการค้าก็ได้ เช่น CBM เป็นต้น 4. เป็นส่วนหนึ่งในเหตุผลทางการค้า เพราะว่าในการซื้อขายถ้ามีต้นพันธุ์เดียวกัน แต่ต้นหนึ่งได้รับเกียรตินิยม ก็จะนิยมซื้อขายกันมากกว่าและราคามักจะสูงกว่า เช่นถ้ามีต้นม้าวิ่งธรรมดา กับม้าวิ่งที่ได้AM หรือเข็มแดงกับเข็มแดงAM ขายพร้อม ๆ กันต้นที่ได้ AM ก็มักจะมีราคาสูงกว่าและคนซื้อก็มักจะต้องการมากกว่าด้วย หรือไม้ขวดถ้าเป็นต้นพ่อและต้นแม่ได้รับเกียรตินิยมทั้งคู่ก็จะเป็นที่ต้องการมากกว่าคู่ผสมเดียวกันแต่ต้นพ่อแม่ไม่ได้รับเกียรตินิยม เพราะมันบ่งบอกถึงว่าต้นพ่อแม่ที่คัดมาใช้นั้นสวยเด่นแน่ ซึ่งส่วนใหญ่เหตุผลที่ขอกันก็มักจะเป็นข้อท้ายสุดนี่เอง ส่วนเกียรตินิยมที่มีกันนั้นมีแบบไหนบ้าง 1.เกียรตินิยมที่รับรองลักษณะพันธุกรรมที่ดีเด่นทั้งกล้วยไม้พันธุ์แท้และพันธุ์ผสมมี 1.1 FCC (First class certificate) ต้องได้รับคะแนนมากกว่า 90 คะแนนจากคะแนนเต็ม 100 คะแนน 1.2 AM (Award of Merit) จะต้องได้รับคะแนนตั้งแต่ 80 แต่ไม่ถึง 90 1.3 HCC (High Commendation Certificate) ได้รับคะแนน 75 แต่ไม่ถึง 80 1.4 GM (Gold Medal) ระดับเหรียญทอง 1.5 SM (Silver Medal) เหรียญเงิน 1.6 BM (Bronze Medal) เหรียญบรอนซ์ 1.7 JC (Judge commend) คือคณะผู้ตัดสินเห็นว่าต้นนั้นมีคุณสมบัติบางอย่างที่ดีเด่นกว่าปกติ เช่นดอกใหญ่ หรือดอกสีเข้ม หรือดอกสีไม่เหมือนธรรมดาเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เป็นไปในทางที่ดี มีประโยชน์ในการผสมพันธุ์หรือพัฒนาต่อไป แต่เมื่อรวมคะแนนรวมแล้วไม่ถึง 75 คะแนน 2. เกียรตินิยมเพื่อรับรองคุณค่าทางวิชาการของกล้วยไม้ป่า เช่น เป็นพันธุ์ที่หายาก หรือลักษณะพิเศษ เป็นต้น จะได้รับเกียรตินิยม CBM (Certificate of Botanical Merit) 3. เกียรตินิยมเพื่อยกย่องความสามารถในการปลูกเลี้ยงต้นสมบูรณ์ แข็งแรง มีดอกดกหรือจำนวนดอกมากกว่าปรกติที่เคยเห็นกันทั่วไป ต้นที่จะได้รับเกียรติยมนี้มักจะมีต้นใหญ่ กอใหญ่มาก ใบสวยสะอาด ออกดอกพรูมาก ส่วนใหญ่จะเป็นพันธุ์แท้ หรือไม่ก็กล้วยไม้ที่ออกดอกพร้อม ๆ กันในปีหนึ่ง ๆ (ไม้ปี) จะได้รับเกียรตินิยม CCM (Certificate of Cultural Merit) ได้คะแนนมากกว่า 80 แต่ไม่ถึง 90 ถ้า90ขึ้นไปจะได้รับ CCE (Certificate of Cultural Excellence) 4. เกียรติยมเพื่อส่งเสริมการพัฒนาพันธุ์ 4.1 AQ (Award of Quality) ให้แก่กล้วยไม้ที่มาจากพ่อแม่พันธุ์เดียวกัน เกิดจากฝักเดียวกันแล้วมีลูกที่มีลักษณะดีเด่นหลายต้น คือได้รับ FCC AM HCC จนสามารถคัดต้นที่ออกดอกแล้วได้เกียรตินิยมมาแสดงพร้อม ๆ กันถึง 12 ต้น เกียรตินิยมนี้จะให้กับทั้งผู้ผสมและผู้ปลูกเลี้ยง (ถ้ามิใช่คนเดียวกัน) เช่น อ.ระพี เคยได้ในอันดับแรก ๆ จากช้างแดง จากสมาคมกล้วยไม้อเมริกัน (AOS) แต่หลัง ๆก็มีเพิ่มขึ้นในพวกรองเท้านารี พวกมิลโทเนีย หลายรางวัลเหมือนกัน 4.2 AD (Award of Distinction ) เป็นเกียรตินิยมที่ให้กับลูกผสม แล้วบ่งบอกถึงแนวทางการผสมพันธุ์กล้วยไม้แนวใหม่ เช่นในแอสโคเซนด้าที่มีลักษณะเป็นจุด ๆ ใหญ่ (Ascda. Gua Chia Long) หรือฟาแลนอปซิสที่มีลักษณะจุดกระในดอกเป็นปื้น ๆ (Phal. Golden Peoker) สมาคมที่ให้เกียรตินิยมก็มีความสำคัญเหมือนกัน เช่น AOS (American Orchid Society) RHS (Royal Horticultural Society) OST (Orchid Society of Thailand) สมาคมกล้วยไม้แห่งประเทศไทย RHT (Royal Horticlutural Society of Thailand) สมาคมพฤกษชาติแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ CST (Cattleya Society of Thailand) สมาคมกล้วยไม้แคทลียาแห่งประเทศไทย ปกติจะเขียนเกียรตินิยมที่ได้รับ ตามด้วย/สมาคมที่ให้เกียรตินิยม เช่น AM/AOS หรือ AM-CCM/AOS คือขอครั้งแรกได้ AM แล้วต่อเลี้ยงได้ต้นใหญ่ขึ้น สมบูรณ์ขึ้น ดอกเยอะขึ้นเลยขอเกียรตินิยมการปลูกเลี้ยงด้วย หรือ AM/AOS FCC/RHS คือขอเกียรตินิยมที่ AOS ได้ AM แล้วต่อมามีคนนำต้นเดียวกันนี้ไปขอที่ RHS แล้วได้ FCC คือแต่ละสมาคมอาจมีความเห็นไม่เหมือนกันหรืออาจเป็นว่าภายหลังต้นให้ดอกที่มีคุณภาพดีเด่นกว่าเดิม
จากคุณ :
บ้านค่าย
- [
18 มิ.ย. 48 08:53:01
]
|
|
|