ความคิดเห็นที่ 1 หลังจากจัดการงานนอกบ้านเสร็จแล้ว ก้อถึงคิวเสริมสวยให้น้องไทเค้าล่ะ บัตตาเลียนอันเดียวกันกับที่ไถหัวปีป๊อตนั่นแหละค่ะ พ่อเค้าจับหัวน้องไทไถช๊วบช๊วบหน้ากระจกสองสามที น้องไทก้อหล่อทันทีพร้อมจะออกเดินทางรุ่งขึ้น จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:11:01 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ส่วนเจ้าปีป๊อตได้รับการเสริมสวยก่อนหน้าแล้วที่กระทู้นี้ค่ะ http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J3507896/J3507896.html   ขาเดินทางไป เราใช้เวลาขับรถกันสามวันสองคืน ระหว่างการเดินทาง แม่จองห้องพักของโรงแรมที่เค้าอนุญาตให้ปีป๊อตเข้าพักได้เตรียมไว้แต่เนิ่นๆแล้ว เพราะไม่กล้าทิ้งปีป๊อตนอนบนรถเวลาจอดพักตามลานจอดรถของโรงแรมน่ะค่ะ รถหายไม่กลัว แต่กลัวปีป๊อตหาย จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:12:19 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ระหว่างการเดินทางก้อแวะผ่านไปเยี่ยมโทฟูกะคุณน้าเล็กที่อินเดียนาโพลิส ไปถึงเย็นจัดๆแล้วค่ะ คุณน้าเล็กจัดข้าวเย็นไว้ต้อนรับ ขอขอบคุณคุณน้าเล็กอีกทีนะคะ โทฟูนี่ไม่มีการปิดบังความรู้สึกอะไรเลย ระริกระรี้ที่สุดที่มีแขกมาบ้าน เข้ามาเลียๆๆๆๆๆแบบคนคุ้นเคยไม่ได้เจอกันนาน เราเคยเจอกันตั้งแต่เมื่อไหร่หว่า แถมเข้าไปกระซิบกระซาบกะปีป๊อตทํานองว่า ต๊ะเองรู้ป่าว แม่เค้ารวยนะ มีทองตั้งหลายเส้น เก็บอยู่ที่ชั้นบนแน่ะ ขึ้นไปดูดิ แล้วก้อพยักเพยิดให้ปีป๊อตขึ้นไปดู แถมคอยยืนบอกทางอยู่ตรงข้างล่าง ขึ้นไปโลดเลยพี่ป๊อต แล้วเลี้ยวเข้าห้องนี้นะ ปีป๊อตขึ้นไปได้ครึ่งทางชะงักว่าไปต่อดีไหมอ่ะ โทฟูตามขึ้นไปกํากับทันที **มามะ ตามเค้ามานี่** แล้วก้อนขาวๆสองก้อนก้อดุ๊กดิ๊กพากันขึ้นไปดูขุมทองแห่งอินเดียนา โจนส์ แม่ได้ยินปีป๊อตพึมพําว่า จาตกถังข้าวสาร อิอิ ทั้งปีป๊อตทั้งโทฟูนิสัยเหมือนกันเลยค่ะ เรื่องชอบที่จะเป็นแฟนต้ายุวทูตนี่อ่ะ ทําให้ได้ข้อสรุปอย่างมั่นใจว่า หมาพันธุ์นี้เลี้ยงไว้เฝ้าบ้านไม่ได้ค่ะ นอกจากไม่เห่าคนแปลกหน้าแระนะ ยังนําทางให้เรียบร้อย มาเที่ยวบ้านเค้าเหรอ จะิเอาอะไรเรียกเค้านะ เด๊วเค้าจัดให้ เข้าตําราจมูกบานเป็นชมพู่ผ่าซีกไม่พอ แถมยังปากโป้งอีก พ่อแม่จะสะอื้นก้องานนี้แหละ จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:13:48 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ดูค่ะ ดูกันให้ชัดๆท่านผู้ชม ว่าจมูกใครบานกว่าใคร แล้วสองตัวนี่อ่ะนะเกทับกันไปเกทับกันมา ฉี่ทับกันเป็นว่าเล่น เล่นเอาคุณน้าเล็กปวดหัวเลย หยิบทิชชูตามเช็ดกันไม่ทัน ได้ยินเสียงบ่นแว่วๆว่า ตัวไหนทําวะ จับไม่ได้ซักที นี่หลายกองแระนา ก้อจะไปจับทันได้ไง มันขาวเว่อร์เหมือนกันยังงี้เนอะ จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:14:29 ]

ความคิดเห็นที่ 5 น้องไทเห็นโทฟูใหม่ๆ จะทําหน้างงๆ เอ๊ะทําไมมีปีป๊อตอีกตัวนึงอ่่ะ แล้วก้อจะเล่นด้วยให้ได้ เนื่องจากไทโตมากะหมา เลยไม่กลัวหมาแปลกหน้าอะไรเลย จะใหญ่จะเล็กไทไม่กลัวเลย จะเล่นกะเค้าไปหมด ไทเค้าจะรู้จักทักทายหมาแบบอ่อนโยนสุภาพนุ่มนวล เพราะที่บ้านจะสอนไม่ให้เค้าตีปีป๊อตเลย เค้าถูกสอนให้รู้จักการปฏิบัติกับสัตว์ให้ดีๆมาตั้งแต่เล็กน่ะค่ะ จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:15:08 ]

ความคิดเห็นที่ 6 โทฟูมีของเล่นเยอะแยะเลยค่ะ ไทเห็นรถของโทฟูก้อเดินไปหยิบมาเล่น โทฟูเริ่มตาเหลือกแระ **ของเค้า นี่ของเค้านะ** จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:16:02 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ไอ้นี่ก้อเล่นรถช้าน ไอ้โ่น่นก้อหยิบลูกบอลช้าน แล้วช้านจะเหลือมรดกอะรายฟะเนี่ย จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:16:45 ]

ความคิดเห็นที่ 8 พอไทเข้าไปเล่นอยู่ในกรงของโทฟูด้วยนี่อ่ะ โทฟูทําหน้าคิดหนัก ใจเริ่มเสีย คอเริ่มตกแระ รีบพาตัววิ่งเข้าไปถาม อือม์ ตะเอง จะมาอยู่ด้วยจิิงๆหลอ จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:17:28 ]

ความคิดเห็นที่ 9 รุ่งขึ้นระหว่างทางที่ขับรถไปยังจุดหมายปลายทาง เราก้อแวะพักกินไอติมกันข้างทาง ให้ปีป๊อตกับไทได้ยืดแข้งยืดขา กับแม่ได้เข้าห้องนํ้ามั่ง ปีป๊อตเค้ามีนิสัยปกป้องแม่กับน้องไทตลอดเวลา พอเห็นแม่หายเข้าไปในห้องอะไรเล็กๆก้อไม่รู้ที่เค้าไม่คุ้นเคย ปีป๊อตเฝ้าตรงหน้าห้องเลยค่ะ แถมทําเสียงครางกังวลด้วย พ่อเค้าเรียกเท่าไหร่ก้อไม่ยอมไป จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:18:03 ]

ความคิดเห็นที่ 10 รอจนแม่เสร็จธุระ เดินออกมาให้เค้าได้เห็นว่าปลอดภัย เค้าถึงได้ไปวิ่งเล่นต่อ จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:18:42 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ไทเข้าคิวซื้อไอติม เห็นคนขายส่งไอติมให้คนแก่คิวข้างหน้าเค้า ไททําซาวด์เอฟเฟคให้เรียบร้อยเลยเวลาเค้าจะรับไอติม ทําเสียงตื่นเต้นแล้วร้อง **อู้ฮู**พร้อมปรบมือให้  แหม๊ ตื่นเต้นกะไอติมของเค้านี่อ่ะนะ คนแก่เค้าเลยขํา หันมายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:19:15 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ถึงคิวของน้องไท พ่อเค้าสั่งไอติมวนิลาถ้วยเล็ก กะว่าจะแบ่งกันกินกะไทซักหน่อย คนขายส่งมาให้ แล้วบอกว่าของเด็กถ้วยเล็กกินฟรี ไม่คิดเงิน อ้าว พ่อน้องไทเลยรีบสั่งไอติมถ้วยใหญ่อีกถ้วยนึงด้วยความเกรงใจ ฝรั่งมันโปรโมทแบบนี้นะ ของเด็กกินฟรีครับ แม่เห็นขนาดถ้วยของน้องไทก้อยังจุกเลย ถ้วยของเด็กเหรอเนี่ยทําไมมันใหญ่นักฟะ จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:19:59 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แล้วก้อไปนั่งตักไอติมกินอย่างสงบเสงี่ยมกับปีป๊อต จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:20:50 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ไหนถ้วยของป๊อตอ่ะ ป๊อตก้อชอบไอติม ขอป๊อตกินด้วยนะ นะ จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:21:42 ]

ความคิดเห็นที่ 15 จุดหมายปลายทางของการขับรถไปเที่ยวงวดนี้ี่นอกเหนือจากเรื่องธุรกิจแล้ว ก้อคือ การไปเยือนแหล่งคนกลุ่มนึงของเพนซิเวเนียที่เรียกว่าึคนอาร์มิช เค้าเป็นกลุ่มคนที่มีวัฒนธรรมความเป็นอยู่ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง คนพวกนี้เป็นกลุ่มคนที่พื้นเพดั้งเดิมนี่คือคนสวิสที่อยู่ติดแถบเยอรมัน นับถือศาสนาคริสต์แต่ พวกนี้แอนตี้นิกายโปรแตสแตนกับคาทอลิคในบางแง่มุม อาร์มิชเป็นพวกที่ไม่เชื่อในเทคโนโ่ลยีสมัยใหม่ว่าจะนําพาเค้าเข้าไปอยู่ใกล้พระเจ้า พวกนี้เมื่อขัดกับคาทอลิคซึ่งเป็นศาสนาใหญ่ของยุโรป ก้อพากันอพยพมาอยู่เมกาเมื่อประมาณร้อยกว่าปีก่อน คนอาร์มิชเป็นพวกที่เคร่งศาสนามากๆ ชีวิตถูกชี้นําด้วยกฏของศาสนา ผู้นําของกลุ่มหมู่บ้านก้อคือผู้นําศาสนานั่นเอง พวกนี้ทําฟาร์มเป็นหลัก แล้วมีชื่อเสียงในเรื่องการทําเฟอร์นิเจอร์ไม้คุณภาพดี เค้าจะมีสไตล์ของเัค้าเองเรียกว่าสไตล์อาร์มิช ส่วนใหญ่เป็นสไตล์เส้นตรง ราคาเฟอร์นิเจอร์ของคนอาร์มิชนี่ไม่ถูกนะคะ แต่คุณภาพนี่ดีจริงๆเลยค่ะ ไม้ที่ใช้จะเป็นไม้จริงๆ เห็นบ่อยๆก้อคือไม้โอ๊ค แล้วงานแต่ละชิ้นของอาร์มิชจะเป็นงานไม้ที่ละเอียดเรียบร้อย สวยเรียบๆ เราปักหลักพักกันที่ Bed & Breakfast ที่เมืองเล็กๆแถบๆหมู่บ้านของคนอาร์มิช เราพักกันที่นี่ 3 คืน เป็นบ้านที่เค้าอยู่กันพ่อแม่กับลูกชาย 4 ใบเถา อายุไล่กันลงมาจาก 11 ขวบถึง 3 ขวบ เป็นคนอเมริกันธรรมดานี่แหละค่ะ ไม่ใช่คนอาร์มิชอะไร บ้านนี้เนื้อที่เยอะ สิบไร่เศษๆเห็นจะได้ เค้าทําธุรกิจเปิดบ้านให้เป็น Bed & Breakfast มีห้องนอนรับคนเข้าพักรวมทั้งจัดอาหารเช้าให้ทาน ห้องนอนสะดวกสบาย จัดว่าค่อนข้างดีจัดเลยแหละ แต่เค้าไม่อนุญาตให้หมาเข้าพักในบ้านได้ เรื่องนี้เรารู้ล่วงหน้าตั้งแต่จองมาแล้วค่ะ แต่ก้อคิดเรียบร้อยแล้วว่า ที่นี่ปีป๊อตนอนบนรถไม่เป็นไร เราไม่กลัวปีป๊อตหาย เพราะจอดรถในลานจอดรถของบ้านส่วนตัวน่ะค่ะ ไม่มีใครมายุ่มย่ามอยู่แล้ว  แม่มีจัดเตรียมหมอนเตรียมเบาะให้ปีป๊อตไปเรียบร้อยจากบ้านแล้ว  ดึกๆก่อนนอนก้อพาปีป๊อตไปฉี่ให้เรียบร้อยแล้วก้อให้ขึ้นรถ เปิดหน้าต่างแง้มๆเอาไว้ให้ลมผ่าน มีถ้วยนํ้าดื่มเตรียมไว้ให้พร้อม ปีป๊อตก้อเข้านอนบนเบาะเค้าน่ะค่ะ จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:23:16 ]

ความคิดเห็นที่ 16 จนรุ่งเช้าพ่อหรือแม่ก้อจะมาพาปีป๊อตออกไปวิ่งเล่น ข้างนอกบ้านนี่ปีป๊อตวิ่งเล่นได้หมดเลย เนื้อที่ใหญ่โต ปีป๊อตวิ่งจนขนสยายซี่โครงบานเลยค่ะ แล้วลูกชายทั้ง 4 คนของบ้ิานนี้ก้อหลงปีป๊อตสุดๆ ผลัดกันถามหาปีป๊อต รูปนี้ ปีป๊อตวิ่งเล่นนํ้าค้างตอนเช้าตรู่ ไทกะพ่อยังนอนอยู่ แม่พาปีป๊อตออกเดินตามสวนรอบๆบ้าน ถ่ายรูปโน่นนี่ไปตามเรื่อง  ปีป๊อตมีความสุขมากที่ได้กลับมาเป็นลูกคนเดียวอยู่พักนึง อย่างน้อยก้อจนกว่าไทจะตื่นมาแหละ เค้าวิ่งไปวิ่งมาบนสนามหญ้าจนตัวแฉะไปหมด แล้วก้อไถหน้าสูดดมความหอมของหญ้ายามเช้า ดูเค้ามีความสุขมากๆเลยค่ะ พอวิ่งเหนื่อยแล้ว เค้าเห็นแม่นั่งบนเก้าอี้ชิงช้ายาวบนระเบียงนอกบ้าน ปีป๊อตก้อกระโดดขึ้นมานั่งชมวิวเงียบๆข้างๆแม่ เราดื่มดํ่ากับความสงบยามเช้าร่วมกัน จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:24:20 ]

ความคิดเห็นที่ 17 นี่รูปวิวรอบๆบ้านตอนตีห้าครึ่ง พระอาทิตย์เพิ่งจะบิดขี้เกียจเสร็จ จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:25:28 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตอนสายๆ หลังจากกินอาหารเช้ากันแล้ว ไทจะไปอยู่ตรงรั้วสัตว์เลี้ยงนอกบ้าน เป็นรั้วล้อมยาวเลยค่ะ เนื้อที่กว้างขวาง เค้าเลี้ยงไก่ แพะ แกะเป็นสัตว์เลี้ยง ให้กินหญ้าตรงพื้นสนามนั่นแหละค่ะ จะได้ทุ่นเวลาไม่ต้องไถหญ้ากันเยอะ ช่วงที่เราไปพักกัน เค้ามีลูกแพะลูกแกะเล็กๆเพิ่งเกิดใหม่หลายตัวเลย น่ารักมาก จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:28:36 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ไทเค้าจะไปยืนให้อาหารสัตว์ มีรุ่นพี่สอนให้ จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:29:42 ]

ความคิดเห็นที่ 20 นี่เบนจามินอายุ 3 ขวบ ลูกชายคนเล็กของบ้านนี้ กําลังช่วยไทยกถังอาหารสัตว์จะไปป้อนสัตว์กัน เด็กๆเค้าสอนกันเองว่าต้องทําอะไรยังไงมั่ง พ่อแม่นั่งดูเฉยๆ จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:30:36 ]

ความคิดเห็นที่ 21 มารอลุ้น คืนนี้ทำไมนอนดึกจังพี่ หรือนอนกลางวันไปแล้ว โทฟูฝากบอกว่าคิดถึงพี่ปีป๊อต ส่วนแม่ฝากบอกว่ารอให้ปีป๊อตมาตกถังข้าวเหนียวอยู่ จากคุณ : Appreciator - [ 22 มิ.ย. 48 12:30:51 ]

ความคิดเห็นที่ 22 บางทีรุ่นพี่ก้อช่วยอุ้มแพะกะแกะตัวเล็กๆออกมาให้ไทอุ้มเล่นหรือป้อนอาหาร การแสดงออกของทุกคนจะทนุถนอมสัตว์หมดเลย ดูแล้วน่าชื่นใจ จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:31:20 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แล้วหลังจากนั้นรุ่นพี่ก้อพาไทไปเก็บไข่ไก่ใส่ตะกร้าทุกวัน เอาไปให้แม่ของเค้าทําอาหารเช้าให้พวกเรากินกันรุ่งขึ้นน่ะค่ะ ปีป๊อตอยากเข้าไปเก็บไข่ด้วยใจจะขาด หรือว่าจะไปจิกกะไก่ก้อไม่รู้ แต่พ่อเค้ารั้งปีป๊อตไว้ข้างนอก กลัวไก่ตกใจจนต่อมไข่หดหมด จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:32:15 ]

ความคิดเห็นที่ 24 นี่ผลงานการเก็บไข่ทุกเช้า ไข่สดน่ากินไหมคะ จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:32:55 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เก็บไข่เสร็จ พ่อน้องไทกะน้องไทก้อจะช่วยกันเข็นรถเข็นออกจากเ้ล้าไก่ จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:33:41 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ตกเย็นมาหลังจากเราไปเที่ยวกันมาเสร็จ ก้อจะกลับมาเล่นกันต่อที่บ้าน  หนุ่มๆของบ้านนี้จะรอน้องไทกะปีป๊อตอยู่แล้ว เค้าจะเล่นวิ่งแข่งกะปีป๊อตที่สนามหญ้าเป็นที่สนุกสนาน ปีป๊อตนี่เป็นม้าเต็งจ๋าเกาะแชมป์นักวิ่งเหรียญทองตลอด พ่อน้องไทจะจับตัวปีป๊อตกั๊กไว้ แล้วต่อให้เด็กๆออกวิ่งกันก่อน ตอนแรกที่เล่นกัน พ่อน้องไทนับหนึ่งถึงสามแล้วค่อยปล่อยตัวปีป๊อต ตานี่บินเร็วค่ะกวดเด็กๆทันหมด ทีหลังเด็กๆเริ่มลิ้นห้อย มาต่อรองว่า ม่ายหวายๆ ปีป๊อตมันเร็วสุดๆ ขอนับถึงห้าเหอะ วิ่งตับแล่บแร้ว ไทเล็กที่สุด วิ่งรั้งท้ายตามแนวรุ่นพี่เค้าไปพลาง หัวเราะไปพลาง สนุกคิกคักถูกอกถูกใจจนนํ้าหูนํ้าตาไหล เล่นกันยังงี้ทุกเย็นเลยค่ะ เรียกว่าตกกลางคืนนี่ ไทหลับซะสนิทไปเลย ส่วนปีป๊อตก้อวิ่งเล่นจนหูลู่สนุกสนาน  พอถึงคราวส่งขึ้นรถให้นอน ปีป๊อตเอาหัวฟาดหมอนแล้วก้อหลับคร่อกไปเลยทีเดียว หลังจากเสร็จจากกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องสัตว์เลี้ยงต่างๆตอนเช้าแล้ว เด็กๆก้อจะพากันเล่นบอลกัน ไม่ว่าจะเป็นวอลเลย์บอล หรือว่าฟุตบอล เด็กๆเค้านําเล่นกันเอง เนื้อที่ๆบ้านนี้มันมากมาย วิ่งกันได้สะใจดี กิจกรรมพวกนี้ทําให้ไทกับปีป๊อตเพลิดเพลินมากเลยค่ะ เป็นสิ่งที่แม่คิดแพลนไว้แต่แรกว่าการไปเที่ยวงวดนี้ เราควรจะหาที่พักแบบไหนดี เที่ยวที่ไหนดี ที่ให้ไทได้มีกิจกรรมการเรียนรู้ใหม่ๆให้เพลิดเพลินแบบไหนบ้าง ขณะเดียวกันก้อไม่ทิ้งให้ปีป๊อตนั่งหง่าวอยู่แต่บนรถอย่างเดียว กิจกรรมที่ให้เค้าสองหนุ่มได้วิ่งเล่นอยู่กะธรรมชาติ สายลม และแสงแดด อากาศสดชื่นน่ะค่ะดีที่สุด เรายอมจ่ายแพงกว่าพักโรงแรมทั่วไปหน่อยนึง แต่ผลที่ได้ในเชิงของการเรียนรู้มันคุ้มกว่ากันเยอะเลย จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:34:19 ]

ความคิดเห็นที่ 27 นี่รุ่นพี่กําลังสอนไทเล่นวอลเลย์บอล จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:34:59 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เตะกันคิกคักๆๆๆ จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:35:45 ]

ความคิดเห็นที่ 29 หลังจากไทเสร็จกิจกรรมของเค้าตอนช่วงสายๆแล้ว ทุกวันเราก้อขึ้นรถพากันออกไปขับรถตระเวณเส้นทางบ้านนอก ลัดเลาะไปตามหมู่บ้านของคนอาร์มิช ผ่านฟาร์มมากมายหลายแห่ง ข้างๆทางก้อจะเห็นวัวหลายตัวยืนกินหญ้า กลุ่มม้ายืนแกว่งหางไปมาอย่างสบายอารมณ์ บางทีก้อเห็นฟาร์มแพะฟาร์มแกะสลับกันไป ไทตื่นตาตื่นใจกับสัตว์ข้างทางมาก ชี้มือชี้ไม้ดูวิวสัตว์ไปตลอดทาง ปีป๊อตนี่ก้อหัวใจแทบจะวายตาย คํารามมันเขี้ยวในคอทุกหนที่เห็นฟาร์มสัตว์ สงสัยในใจคิดอยากจะลงไปงับซักน่องนึง ปลอบก้อแล้วลูบหัวก้อแล้วบางทียังไม่เลิกคําราม ต้องถูกแม่ด่าก่อนถึงได้เงียบๆลงไป จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:36:49 ]

ความคิดเห็นที่ 30 นี่เป็นฟาร์มตัวล่อ(Mule) ม้าผสมลาน่ะค่ะ จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:37:25 ]

ความคิดเห็นที่ 31 น่ารักจัง จากคุณ : เกิดมาจน - [ 22 มิ.ย. 48 12:37:32 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เราขับผ่านฟาร์มอันนึง ดูก้อเป็นฟาร์มเก่าๆธรรมดาๆ แต่สะดุดตรงป้ายโฆษณาของเค้าค่ะ เค้าเพาะหมาขาย อ่านไปก้องงไป วุ๊ย มันกี่ร้อยชนิดกันวะเนี่ย จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:38:10 ]

ความคิดเห็นที่ 33 บางทีเราขับรถผ่านหรือสวนกันกับรถม้าของคนอาร์มิช ไทจะทําปากจู๋ๆร้อง**อู้ฮู** แต่ปีป๊อตนี่ตื่นเต้นตะกุยใหญ่ จะลงไปกัดกะม้าให้ได้ เชื่อเค้าเลย ขืนให้ลงไปน่ะนะ ปีป๊อตแบนเป็นกล้วยปิ้งแหงๆ ม้านี่ไปทําเล่นๆด้วยไม่ได้ เด๊วเจอพี่ท่านอารมณ์ฺเสีย ดีดทีไอ้ป๊อตเป็นลูกโ่ด่งแน่ จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:38:58 ]

ความคิดเห็นที่ 34 คนอาร์มิชนี้นอกจากจะเป็นคนที่ขยันขันแข็งในหน้าที่การงานแล้ว ยังเชี่ยวเรื่องการทําลูกสุดๆ บ้านนึงนี่มีลูกเฉลี่ย 8-15 คน เพราะเค้าถือว่าลูกเป็นของขวัญจากพระผู้เป็นเจ้า การคุมกําเ้นิืดจึงไม่ใช่หนทางของเค้าน่ะค่ะ คนอาร์มิชมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ราบเรียบง่ายๆ ไม่ใช้ของไฮเทคฟุ่มเฟือยในชีวิตประจําวัน แอนตี้กระแสไฟฟ้า ใช้แก๊สแทนประเภทตะเกียงแก๊สน่ะค่ะ ไม่ขับรถยนต์ เดินทางไปไหนๆใช้ม้าเทียมเกวียนแทน แต่งกายประจําวันด้วยชุดที่เป็นเอกลักษณ์ของคนอาร์มิชคือ เน้นสีโทนขรึมแบบ ดํา ขาว นํ้าตาล เขียว ฟ้า ม่วงเท่านั้น แล้วมีสไตล์การแต่งตัวที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ปัจจุบันคนอาร์มิชก้อยังคงแบบนั้นเอาไว้ จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:39:42 ]

ความคิดเห็นที่ 35 นี่รูปคู่เจ้าบ้านอาร์มิชที่เราไปกินข้าวบ้านเค้า อายุเจ็ดสิบกว่าแล้ว คุณยายนี่เพิ่งพ้นวันเกิด 70 มาในปีนี้เอง เห็นบอกว่ามีหลาน 17 คน หน้าคุณยายเด้งดึ๋งเชียว ไม่มีการใช้เครื่องสําอางเด็ดขาด เรียกว่าความเด้งมันออกมาจากสุขภาพภายในของเค้าเลย คนเราอยู่กับธรรมชาติ สูดลมหายใจบริสุทธิ์ ทํางานออกกําลังกายตลอดเวลา มันก้อดูกระฉับกระเฉงอ่อนวัยอ่ะเนอะ ผู้หญิงอาร์มิชนี่หน้าตาจะสวยน่ารักหมดแทบทุกคน ตัวเค้าจะเล็กๆตามแบบฉบับของยุโรปกลางน่ะค่ะ โดยเฉพาะสาวรุ่นนี่อ่ะนะ เห็นแล้วตาร้อนผ่าวๆกับความสวยใสแบบธรรมชาติของเค้าเลย เพราะพวกนี้ไม่ใช้เครื่องแต่งหน้าอะไรทั้งสิ้น เรียกว่าธรรมชาติสร้างสรรค์จริงๆ เด็กสาวอาร์มิชจะสวยแบบแข็งแรง ริมฝีปาก แก้ม คาง เหงือกนี่ สีชมพูสดใสบอกถึงความสมบูรณ์ของร่างกายเค้าเลยค่ะ นี่ชุึดแต่งกายประจําวันของเค้าจริงๆเลยนะคะ บ้านไหนๆถ้าลงว่าเป็นอาร์มิชแล้วก้อต้องแต่งแค่สไตล์แบบนี้แหละค่ะ ไหนๆก้อไปถึงถิ่นแล้ว เรื่องไปกินข้าวในบ้านคนอาร์มิชเป็นเรื่องที่น่าลองค่ะ อาหารบอกได้เลยว่าไม่เลิศหรูอร่อยอะไรมากมายหรอกค่ะ รสชาดพื้นๆธรรมดาเหมือนอาหารของชาวนาทั่วไป ไม่มีอะไรเด่นให้จดจํามาเขียนเล่า แต่เราบุกเข้าไปดูความเป็นอยู่ในบ้านของเค้าจริงๆว่ามันเป็นไงบ้าง หลังอาหาร คุณตากะคุณยายร้องเพลงกล่อมให้ฟัง คนอาร์มิชรุ่นเก่าไม่เล่นเครื่องดนตรีค่ะ ใช้เสียงร้องของตัวเองเป็นหลัก เพลงที่ร้องกันนี่ก้อส่วนใหญ่เรียนๆกันมาจากโบสถ์นั่นแหละ คุณตาแจกหนังสือให้ทุกคนร่วมร้องด้วย ฝรั่งเปิดดูเนื้อร้องกันถ้วนหน้า แม่น้องไทไม่ดูมันร๊อก ดูไปก้อเท่านั้น เราร้องไม่เป็นอ่ะ โบสถ์เคยไปกะเค้าที่ไหนกั๊น ถ้าสัพพีติโยล่ะเราสู้ไม่ถอย จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:41:19 ]

ความคิดเห็นที่ 36 สังเกตให้ดีๆจะเห็นว่าชุดของผู้หญิงอาร์มิชจะไม่มีกระดุมเลย กระดุมถือเป็นสัญญลักษณ์ของเครื่องแบบทหาร ผู้หญิงจะไม่ใส่เสื้อผ้าที่มีกระดุม เค้าจะใช้เข็มกลัดหัวหมุดเล็กกลัดทั่วตัวเอี๊ยมแทน นี่ชุดประจําวันยังงี้นี่อะนะ ใช้เข็มหมุดร่วมสามสิบตัวเห็นจะได้ แต่เค้าก้อกลัดซะเชี่ยวชาญแระ แป๊บๆก้อเสร็จ ไม่มีปลายเข็มหลุดมาทิ่มเนื้อให้สะดุ้ง อ้อ พวกอาร์มิชเป็นพวกที่รักความสงบ ไม่รบราฆ่าฟันกะใคร เค้าถือว่าการจับปืนไปล่าสัตว์เพื่อยังชีพเป็นสิ่งที่ทําได้ไม่ผิด แต่ถ้าจับปืนไปประหัตประหารกันในสงครามนี่ ถือว่าเป็นการฝืนกฏของศาสนาเค้า เพราะฉะนั้นเมื่อคนอาร์มิชต้องเข้าไปอยู่ในกองทัพของเมกา พวกนี้จะได้รับการยกเว้นตามสิทธิของศาสนาเค้า ก้อคือไม่ถูกส่งไปเป็นแนวรบ แต่ให้ไปทํางานด้านอื่นแทนเช่น ประจําตามโรงพยาบาล จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:42:31 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เด็กผู้ชายอาร์มิชเดินกันในชุดขาวดํา น่ารักดีเนอะ จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:43:13 ]

ความคิดเห็นที่ 38 อาทิตย์นึง ผัวเมียคู่นี้เค้าจะเปิดบ้านรับแขกไปกินข้าวในบ้านอาทิตย์ละสองสามหน เค้าคิดค่าอาหารราวๆหัวละ 13-14 เหรียญนี่แหละค่ะ แต่ละหนต้องมีคนมากพอ แบบว่าจะไปแค่สองคนนี่เค้าไม่รับ เราก้อไปจอยกะคู่อื่นๆน่ะค่ะ หยั่งวันนี้มีกันเกือบ 10 คน นี่ยังกลุ่มเล็กนะ เห็นว่าบางมื้อนี่รับถึง 40 คนเลย คุณยายรับเงินเพลินเลยเนี่ย แขกส่วนใหญ่นี่ต่างคนต่างมา นานาชาติค่ะ มาร่วมวงด้วยกัน มีคู่นึงเป็นคนฝรั่งเศส ถนัดแต่ภาษาของตัวเอง มื้อนั้นคุยกันจนเมื่อยมือเลยค่ะ แต่ว่าแต่ละคนก้อสนุกตรงที่ได้ประสบการณ์แปลกๆตรงนี้ด้วยกันทั้งนั้น จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:43:58 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ในบ้านคนอาร์มิชจะใช้ไฟแบบนี้ เค้ามีถังแก๊สใหญ่อยู่นอกบ้าน แล้วเดินท่อแก๊สเข้าบ้านเป็นแหล่งพลังงาน แล้วต่อท่อเอา ตู้เย็น เตาอบอะไรในบ้าน ก้อถูกแปลงระบบให้ใช้พลังงานจากท่อแก๊สหมด การแปลงระบบแบบนี้มันแปลงมาจากโรงงานเลย เค้ามีผลิตเอาไว้ขายพวกอาร์มิชโดยเฉพาะ แต่แม่น้องไทยังไม่เคยเห็นทีวีหรือเตาไมโครเวฟที่ใช้แก๊สนะ อิอิ ขืนมีก้อหนุกเลยเนอะ จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:45:11 ]

ความคิดเห็นที่ 40 นี่รูปโคมไฟเคลื่อนที่ในบ้าน เป็นเก๋ซะไม่มี ดูเหมือนโคมไฟตามบ้านธรรมดาๆ แต่พอเค้าจุดขึ้นมาทีนะ ร้อนอิ๊บอ๋าย เพราะนอกจากแสงสว่างแระนะยังให้ความร้อนออกมาอีก เราไปกินข้าวบ้านเค้าตอนหน้าร้อน วันที่อากาศร้อนอบอ้าว แอร์ก้อไม่มี แถมฝนตกหนักอีก หน้าต่างต้องปิดลงหมด แล้วมาเจอโคมไฟมหาประลัยแบบนี้ หูยยย มื้อนั้นได้นํ้ามันหมูหลายโลเลย จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:45:51 ]

ความคิดเห็นที่ 41 มันจะไม่ร้อนได้ไง เล่นใช้พลังงานจากถังแก๊สหุงต้มเลยนี่นา อิอิ ไม่สุกก้อบุญแร้ว จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:46:33 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ซูมให้เห็นใกล้ๆว่าปุ่มปรับหรี่แสงแก๊สนี่มันซ่อนอยู่ในกระโปรงโคมไฟนั่นแหละ จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:47:19 ]

ความคิดเห็นที่ 43 บ่ายวันอาทิตย์ เราขับรถลัดเลาะเส้นทางเล็กๆผ่านฟาร์มของคนอาร์มิชกัน ก้อเห็นเด็กหนุ่มอาร์มิชกะลังไถสเก๊ตอยู่บนถนน เราขับรถสวนกันกะเค้า แม่น้องไทอยากได้รูปชัดๆ เลยขอให้พ่อน้องไทตีรถกลับ แล้วขับเลยไปดักหน้าเค้าน่ะค่ะ แม่น้องไทเดินอุ้ยอ้ายข้ามถนนมายืนโบกให้เค้าจอดสเก๊ตหน่อย แล้วขออนุญาตเค้าว่า ขอถ่ายรูปยูหน่อยได้ไหม You are so cute. เค้าก้อหัวเราะ พูดภาษาอังกฤษกลับชัดแจ๋วแหววว่า ได้เลย ไม่มีปัญหาหรอก  เล่นเอาแม่น้องไทเหว๋อไปเลย ขึ้นรถมาเสร็จ หันไปถามพ่อน้องไทว่า เฮ้ย นั่นมันคนอาร์มิชจริงๆป่าวอ่ะ ภาษาอังกฤษเค้าดีมากๆเลยนะ ไม่มีสําเนียงอื่นเลยนะยู พ่อน้องไทบอกว่า เชื่อเหอะว่าต้องใช่อาร์มิชร้อยเปอร์เซนต์ ถ้าไม่ใช่อ่ะนะ วันร้อนตับแล่้บแบบนี้ ไม่มีใครบ้าแต่งตัวยังงี้ร๊อก อิอิ ก้อจริงของเค้านะ วันนั้นร้อนจริงๆอบอ้าวยิ่งกว่าเมษาฮาวายบ้านเรา ถ้าเลือกได้ ใครมันจะใส่กางเกงขายาวสีดํา กะใส่หมวกดํา เล่นสเก๊ตวะเนอะ จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:49:17 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ดูด้านหน้ากันให้ชัดๆ นี่นะดีที่ตอนคุยกะเ้ค้า ยังยั้งปากทัน ไม่ถามออกไปว่า นี่วันอาทิตย์ วันไปโบสถ์นี่นา ยูตื่นสายเหรอถึงต้องซิ่งสเก๊ตนี่อ่ะ จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:50:02 ]

ความคิดเห็นที่ 45 แม่น้องไทบ้าวนเวียนดูอะไรๆเกี่ยวกะพวกอาร์มิชไปมาอยู่หลายวัน เพราะเราเคยหวังเอาไว้นานแล้วว่าเมื่อมีโอกาส เราอยากจะเรียนรู้เกี่ยวกะคนอาร์มิชให้มากขึ้นหน่อย ดูไปดูมาเพิ่งถึงบางอ้อ เอ๊ะ พวกนี้นี่ไม่ใช่คนจนนะเนี่ย ที่เค้าเลือกความเป็นอยู่แบบนี้ เพราะมันเป็นวิถีการดําเนินชีวิตตามหลักศาสนาของเค้าเอง มันไม่ใช่ว่าเค้าไม่มีปัญญาจะซื้อหาเหมือนชาวนาบ้านนอกของเรา ที่ต้องจําใจใช้เกวียนใช้อีแต๋นตุเลงๆเข้า แล้วก้อนะ ถ้าคนเราทําฟาร์มหาเงินได้เป็นเงินยูเอสดอลล่าร์ (เค้าไม่ใช่ค้าขายแบบเอาข้าวโพดไปแลกไข่ไก่ซะเมื่อไหร่กัน)่ แต่ใช้จ่ายแบบติดดินแบบนี้ ไม่กินข้าวนอกบ้านเลย ไม่ใช้รถยนต์ ใช้แต่รถเทียมม้า ม้าตัวสองตัวจะกินฟางวันละกี่มากน้อยเชียวใช่ป่าว แล้วแถมยังไม่แต่งตัวอะไรตามแฟชั่นอะไรกะเค้า เงินมันจะไปไหนฟะ ถึงว่ายิ่งดูมากฟังมากก้อยิ่งรู้ชัดขึ้น เฮ้ย พวกนี้รวยนา เข้าทํานองผ้าขี้ริ้วสีดําห่อทองเลย เพราะความที่เค้าอาชีพทําฟาร์ม เค้าก้อจะซื้อหาแต่ที่ดินฟาร์มใช่ไหมล่ะ ฟังมาว่า พวกนี้นี่อ่ะนะ ซื้อที่ฟาร์มผืนโตๆด้วยเงินสดนา ความมั่งคั่งของเค้าไปจมอยู่ที่ผืนดินหมด ยังงี้เรียกว่าจนเหรอ ว่าแล้วเด๊วจะไปเป็นอาร์มิชมั่งดีกว่า อิอิ จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:50:53 ]

ความคิดเห็นที่ 46 เวลาที่แม่น้องไทเข้าไปดูพิพิธภัณท์แล้วนั่งฟังบรรยายเกี่ยวกะคนอาร์มิช น้องไทเค้าอยู่ไม่สุข จะเอาแต่เล่น พ่อเค้าเลยพาเดินออกมาเล่นที่ฟาร์มข้างนอก มีรถไถลําลองทําจากไม้ซึ่งเป็นฝีมือของพวกอาร์มิช น้องไทก้อเลยปืนขึ้นไปเล่นเป็นที่สนุกสนาน จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:51:35 ]

ความคิดเห็นที่ 47 นี่กําลังจ้องมองแพะกะแกะที่อยู่ตรงฟาร์มข้างหน้าใหญ่เลย จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:52:48 ]

ความคิดเห็นที่ 48 นอกจากท่องเที่ยวเปิดหูเปิดตาไปในหมู่บ้านคนอาร์มิชแล้ว ตกเย็นๆ เราก้อพาน้องไทไปดูฟาร์มคนอาร์มิชที่เค้ารีดนมวัว ไทเห็นวัวตัวโตๆชัดๆเดินเข้าแถวเรียงกันมาให้รีดนมวัว เค้าเกาะพ่อเค้าแน่นเลย แต่ตาก้อจ้องเป๋งเหมือนกันว่าเค้าทําอะไรกัน จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:53:34 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ดูกรรมวิธีรีดนมวัวเสร็จแล้ว ก้อพาเค้าไปซื้อไอติมของฟาร์มนี้กิน ไอติมอร่อยค่ะ นมเป็นนม เนยเป็นเนย เห็นคนฝรั่งเมกันที่อยู่แถวๆนั้นมาซื้อกลับบ้านกันเป็นถังๆ แสดงว่าไอติมเค้าต้องอร่อยจริง ส่วนที่ขายไอติมนี่เป็นเก๋นะคะ มีหน้าต่าง Drive Thru ด้วย นั่งๆกินอยู่ เห็นรถเทียมม้าคนอาร์มิชตีอ้อมมาจอดซื้อไอติมให้ลูกกิน แล้วก้อขับออกไป เสียดายว่าชักภาพไม่ทัน นี่ไทนั่งกินไอติมวนิลา ไอติมฝรั่งนี่มันลูกใหญ่จริงๆ มันจะกินแทนข้าวได้เลยนะเนี่ย ไทกินไปก้อชี้มือชี้ไม้ให้พ่อเค้าดูนกยูงที่เดินป้วนเปี้ยนไปมาในฟาร์ม จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:54:47 ]

ความคิดเห็นที่ 50 แล้วเราก้อพาน้องไทไปนั่งรถไฟของจริง พาไปเที่ยวพิพิธภัณท์รถไฟของเด็กที่มีรถไฟจําลองลงมาให้ดูมากมาย เค้าจัดทําได้ดีมาก เราผู้ใหญ่ยังเพลินเลย ไทวนเวียนจะดูอยู่นั่นแหละ สามสี่รอบก้อแล้ว ยังไม่ยอมออกมา แต่เค้าทําได้ดีจริงๆ นับถือในรายละเอียดของงานเลย หลังจากไทได้นั่งรถไฟของจริงแล้ว ได้เห็นหัวรถจักรอันใหญ่ของจริงแ้ล้ว รู้แล้วว่ามันวิ่งยังไงแล้ว หลังๆพอเค้าเห็นพวกรถไฟของเล่นเมื่อไหร่ จะโยกหัวโยกตัวทําคอยึกยักพร้อมกับทําเสียง ชึ่ก ชึ่ก ในคอประกอบตลอด แล้วจะสนใจหยิบจับหัวรถจักรของเล่นหลายๆแบบออกมานั่งพินิจพิจารณา รายละเอียดของการเที่ยวรถไฟตรงนี้ของเค้าจะเอาไปเขียนเล่าในดอกไม้ต่างสีนะคะ เพราะมันเกี่ยวเนื่องกับบางอย่างที่เป็นพัฒนาการของเด็กที่ต้องการจะเล่าให้ฟังต่างหาก จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:55:37 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เราวนเวียนขับรถเที่ยวกันเป็นวันหยุดประจําปีของครอบครัวอยู่สามสี่วัน ก้อได้กําหนดเวลาที่พ่อน้องไทจะต้องไปเข้าสัมนาของเค้าแล้ว เราจะย้ายที่พักแล้วน่ะค่ะ ก่อนจะลาจากกันกับครอบครัวพ่อแม่ลูกสี่เจ้าของ B&B ที่เราไปพักอยู่ด้วยนี้ ก้อขอถ่ายรูปไทกะเด็กๆเป็นที่ระลึก จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:56:16 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เด็กๆบ้านนี้ทุกคนอาลัยปีป๊อตมาก เด็กๆรอจะถ่ายรูปคู่กับปีป๊อต ต่างคนต่างแย่งจะขออุ้มปีป๊อต ต้องจัดคิวให้ได้อุ้มกันหมดทุกคน แม่น้องไทเห็นแล้วก้ออดดีใจแทนปีป๊อตไม่ได้ ที่ไม่ว่าเค้าไปที่ไหนก้อจะเป็นที่รักของคนอยู่เรื่อยไป จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:57:58 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เราย้ายที่พักขึ้นไปทางเหนือจากที่นี่อีกประมาณ ชม.นึง เราได้ที่พักที่เค้าให้ปีป๊อตเข้าพักได้ ปีป๊อตก้อเลยโชคดีไปเพราะวันที่ย้ายไปนี่ เป็นช่วงจังหวะที่อากาศมันร้อนสุดๆเลยค่ะ ถ้าปีป๊อตไม่ได้นอนในห้องแอร์คงจะลําบากเค้ามากเลย เราไม่ได้พักกันที่โรงแรมที่จัดสัมนา เพราะเค้าไม่รับสัตว์เลี้ยงเข้าพัก แม่น้องไทเลยไปจอง Bed & Breakfast นอกเมืองเอาไว้ ซึ่งที่นี่เค้าให้ปีป๊อตเข้าพักได้ เราก้อขับรถเข้ามาสัมนาทุกวัน ขับประมาณ 20 นาทีน่ะค่ะ ช่วงที่พ่อน้องไทช่วงที่พ่อน้องไทต้องสัมนานี่ อากาศมันร้อนจัดทุกวันเลยค่ะ แต่ทางโรงแรมฝรั่งนี่มันดีตรงที่ว่า พอเค้ารู้ว่าเรามีหมาอยู่ในรถด้วย เค้าจะให้บัตรมาติดหน้ารถแล้ว ให้เราเข้าไปจอดได้ภายในตึกที่จอดรถของพนักงานเค้า แล้วเราก้อค่อยมาบอกเค้าว่าแต่ละวันเราไปใช้ที่จอดรถเบอร์ไหนกัน ปีป๊อตถึงได้อยู่รอดปลอดภัยมาจนบัดนี้ ไม่ถูกอบซะสุกไปซะก่อน แล้วเรามีกิจกรรมของการสัมนาที่ต้องไปปิคนิคกันที่สวนสนุกของHershey อากาศร้อนสุดๆ ที่จอดรถนี่ไม่มีที่ร่มเลย แต่ดีตรงที่ว่าเค้ามีบริการรับฝากหมาไว้ในห้องแอร์ เราจ่ายค่าบริการเพียงแค่ 8 เหรียญ ปีป๊อตก้อได้นั่งแช่แอร์ให้ฉํ่าใจ มีนํ้าสะอาดๆให้กิน กรงขนาดหญ่ไม่อึดอัด ปูกระดาษสะอาดเรียบร้อย มีคนเฝ้าดูให้อย่างดี เที่ยวเมืองฝรั่งนี่ดีตรงนี้นะ ตรงที่เค้าจะให้ความสําคัญกับสัตว์เลี้ยง กฏเกณท์น่ะเค้ามีว่าบางแห่งไม่ให้สัตว์เลี้ยงเข้าไป แต่เค้าไม่ทอดทิ้งสัตว์ เค้ามีการลงทุนจัดบริการแบบนี้เอาไว้เลย เราลูกค้าของสวนสนุกเค้า มีทางเลือกให้เสียเงินค่าบริการเพียงนิดๆหน่อยๆ เพื่อความปลอดภัยของหมาเรา ทุกชีวิตก้อสามารถอยู่ร่วมกันได้เที่ยวกันได้อย่างมีความสุข เราไปสัมนาที่โรงแรมนี้กันทั้งหมด 3 วัน เสร็จแล้วบ่ายนั้นเราก้อรีบตีรถออกมากลับบ้านทันที เพราะจากบ้านมาก้อหลายวันโขอยู่ เริ่มมีการคิดถึงบ้านหลังน้อยกันแล้ว จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 12:59:36 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ตอนขับรถกลับถึงเมืองของตัวเอง ปีป๊อตกําลังนอนหลับสนิทอยู่ที่เบาะหลัง แต่พอรถขับเข้ามาตามถนนเส้นที่จะเลี้ยวขึ้นเขาแถวบ้านปุ๊บ ปีป๊อตเด้งตัวขึ้นทันที ไม่รู้เค้าจําได้ไงว่าจะถึงบ้านแล้วนี่นา แม่เลยอุ้มเค้าขึ้นมานั่งบนตักที่ด้านหน้าของรถแล้วก้อไขกระจกลง ปีป๊อตระริกระรี้เอาหน้าออกไปสูดดมโอโซนแถวบ้านทันทีเหมือนกัน สูดเข้าปอดแรงๆด้วยนะ มองวิวไปรอบๆแบบท่าทางดีใจสุดๆที่จะได้กลับบ้าน ทู๊กกกกกคนเห็นป๊อตป่าว ป๊อตกลับมาแล้ววววววว เรากลับถึงบ้านก้อดึกแล้ว ไทเองยิ้มแป้นดีใจที่ได้กลับบ้าน สิ่งแรกที่ไททําคือ ชี้ไปที่เตียงในห้องนอนแล้วก้อพูดว่า **มาม๊า แน่นแน๊น** เค้าขอไปนอนดูดนมที่บนเตียงของเค้า ส่วนปีป๊อตนี่ ก่อนอื่นวิ่งแจ้นเข้าบ้านก่อนเลย วิ่งสํารวจรอบบ้านด้วยความดีใจว่าเค้ากลับมาบ้านแล้วจริงๆ แล้วก้อขอออกไปที่สวนหลังบ้าน ไปวิ่งสํารวจข้างนอกต่ออีกพักนึงถึงกลับเข้ามานอน รุ่งขึ้น ปีป๊อตนั่งแช่นอนแช่อยู่ที่สนามหลังบ้านตั้งแต่เช้า แช่ไปสี่ห้าชม. ไม่ยอมเข้าบ้าน วิ่งหูลู่ไปสํารวจสนามบ้านโน้นทีบ้านนี้้ที ป๊อตไม่ได้ฝันไปใช่ไหม ป๊อตไปผจญภัยมาหลายวัน แล้วป๊อตก้อกลับมาบ้านแล้ว บ้านของป๊อตเอง ปีป๊อตร่าเริงมีความสุขมาก จนไม่สนใจจะเข้าบ้านมาหาอะไรกินเลย  แม่ต้องเอาข้าวเอานํ้าออกไปประเคนให้กินที่ข้างนอกนั่นแหละ จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 13:00:37 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ตั้งแต่เช้า แม่อยู่ในบ้านนั่งกินกาแฟไป นั่งมองออกไปที่สนามหลังบ้าน ดูการแสดงออกถึงความรักความคิดถึงบ้านของปีป๊อตไป คล้ายๆว่าปีป๊อตเค้านั่งฮัมเพลง **บ้านฉัน..แสนสุขใจ แม้จะอยู่ที่ไหน ไม่สุขใจเหมือนบ้านฉัน** ดูปีป๊อตไปก้อให้สะท้อนใจว่า หมามันมีความรัก และมีหัวใจที่ผูกพันกับบ้านเหมือนคนนั่นแหละ แล้วทําไมหนอ..........จึงมีเรื่องเล่าขานกันมาไม่รู้จบ จากแผ่นดินถิ่นนํ้าใจที่อยู่อีกฟากนึงของมหาสมุทร ว่า .......เพียงเพราะเค้าเกิดมาในอีกร่างนึงที่ไม่ใช่**มนุษย์** .......เพียงเพราะเค้าพูดภาษาคนไม่ได้ .......เพียงเพราะเค้าปกป้องตัวเองไม่ให้ถูกทําร้ายตามสัญชาตญาณ ......................ทําให้เค้าต้องถูกทอดทิ้งให้เร่ร่อน ไร้บ้าน ไร้เจ้าของ กลายเป็นหมาจรจัด ไร้ซึ่งสิทธิและเสรีภาพที่จะมีชีวิตอยู่ร่วมกับคนได้อย่างสันติสุขเชียวหรือ จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 13:02:14 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ติดตามอ่านมาตลอดคะ เหมือนได้เที่ยวไปด้วยเลย สนุกมาก น้องไท ปีป๊อตและก็โทฟู รวมทั้งคุณพี่เขียวอ่อนและสามี น่ารักมากคะ อ่าน คห.ที่ 55 แล้วสะท้อนใจตามพี่เหมือนกันคะ ว่าทำไมถึงเป็นอย่างนี้ จากคุณ : แอน - มามี๊โรดดี้ - [ 22 มิ.ย. 48 13:35:07 ]

ความคิดเห็นที่ 57 อ่านเพลินเลยค่ะ น้องไทและปีป๊อตยังคงความน่ารักไม่เปลี่ยนแปลง ขอบคุณคุณเขียวอ่อนที่พาเที่ยวหมู่บ้านชาวอาร์มิชด้วยค่ะ ลป. ปีป๊อตกะโทฟูเหมือนกันมากๆเลย น่ารักทั้งคู่ จากคุณ : redmaple - [ 22 มิ.ย. 48 13:38:53 ]

ความคิดเห็นที่ 58 อ่านตอนพักเที่ยงรู้สึกดีมาก ๆ เลยค่ะ   ขอบคุณที่เขียนเรื่องดี ๆ มาให้อ่านเสมอ   ฝากสวัสดีน้องไทกับน้องปีป๊อต ด้วยค่ะ จากคุณ : ดอกยี่เข่ง - [ 22 มิ.ย. 48 13:51:39 ]

ความคิดเห็นที่ 59 น่ารักจังเลยค่ะ..ขอบคุณนะคะที่มาแบ่งปันเรื่องดีๆแบบนี้ ^_^ จากคุณ : Aoi-Junse - [ 22 มิ.ย. 48 14:00:22 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ตามมาชมน้องไทกับปีป๊อตค่ะ ชื่นชมการเล่าเรื่องของคุณเขียวอ่อนมากเลยค่ะ เล่าได้น่าติดตามมากค่ะ จากคุณ : เมื่อไรจะมีฯ - [ 22 มิ.ย. 48 14:06:17 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เป็นสารคดีท่องเที่ยวไปในตัว ที่นั่นไม่หนาวเหรอคะ น้องไทใส่เสื้อแบบนั้นได้น่ะ จากคุณ : pyramidas - [ 22 มิ.ย. 48 14:08:01 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ครอบครัวปีป๊อตน่ารักเสมอเลยนะคะ คุณเขียวอ่อนบรรยายได้ชวนติดตามมากค่ะ (ก็เลยตามมาตลอด) จากคุณ : เจ้าของจำเป็น - [ 22 มิ.ย. 48 14:11:06 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เวลาไปเที่ยวไกลๆกลับมานี่รู้สึกรักบ้านขึ้นมาเยอะเลยนะคะ เคยอ่านเรื่องหมู่บ้านชาวอาร์มิชจากในหนังสือ เค้าอยู่กันอย่างสงบดีจัง ขอบคุณที่เอารูปมาฝากนะคะ อยากทานไอศครีมลูกใหญ่ๆของน้องไทจังค่ะ ขำที่โทฟูโดนแย่งของเล่น ตอนนี้ปีป๊อตกับโทฟูจะคิดถึงกันมั่งมั้ยนะ จากคุณ : sommie - [ 22 มิ.ย. 48 14:28:41 ]

ความคิดเห็นที่ 64 อ่านไปยิ้มไปค่ะ จากคุณ : ปู่ปู้ - [ 22 มิ.ย. 48 14:55:42 ]

ความคิดเห็นที่ 65 สนุกมากเลยค่ะ ปีป๊อต กับน้องไทน่ารักมากเลย น่ารักกันทั้งครอบครัวเลยค่ะ อ้อ น้องโทฟูด้วย จากคุณ : หว่าหวาอ้วนกลม - [ 22 มิ.ย. 48 15:10:02 ]

ความคิดเห็นที่ 66 จบได้ซึ้งมั่ก..มั่ก เลยค่ะพี่เขียวอ่อน... ***ไปหาไอติมกินมั่งดีก่า...อิ อิ*** จากคุณ : แชบ๊วย - [ 22 มิ.ย. 48 15:19:36 ]

ความคิดเห็นที่ 67 สนุกสนานน่ารักเหมือนเดิม ขอบคุณคุณเขียวอ่อนและครอบครัวที่มาแบ่งปันความสุขค่ะ แปลกใจอยู่อย่างว่าอาร์มิชก็ใช้เครื่องรีดนมวัวด้วยแฮะ หลงคิดว่าเขาไม่ชอบเครื่องจักรต่างๆซะอีก จากคุณ : แมวดื้อ - [ 22 มิ.ย. 48 15:43:28 ]

ความคิดเห็นที่ 68 จบแล้วเหรอค่ะพี่เขียวอ่อน น่ารักมากเลย อิจฉาจัง อิอิ ดูอบอุ่นดีจังเลยค่ะ จากคุณ : Fjord - [ 22 มิ.ย. 48 15:44:04 ]

ความคิดเห็นที่ 69 น่ารักๆ  ลาออกจากงานไปทำไร่ หาฟาร์มอยู่ท่าจะดี ดูสงบสุขจัง จากคุณ : Labura - [ 22 มิ.ย. 48 15:45:24 ]

ความคิดเห็นที่ 70 มีความสุขจริงๆ ที่ได้อ่านเรื่องราวดีๆ ของครอบครัวคุณเขียวอ่อน  พยายามอ่านช้าๆ เพราะกลัวจะจบเร็ว ปีป๊อต กะโทฟู เหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก เสียดายที่โดนตัดแต่งกิ่งก้านแล้วทั้งสองตัว ไม่งั้นมีลุ้นมีเชียร์กันแน่นอน น่ารักทั้งคู่เลยค่ะ โทฟูเป็นเจ้าบ้านที่ดีจังพาทัวร์ซะรอบเลย เห็นเด็กอาร์มิชแล้วนึกถึงหนังเรื่อง children fo the corns อ่ะค่ะ คริๆๆ ได้ความรู้เยอะเลยเกี่ยวกะคนเมืองนี้  แล้วได้ไปดูที่เค้าทำเฟอร์นิเจอร์ไม้บ้างไหมคะ อยากเห็นชิ้นงานจังค่ะ ไก่ที่นี่ตัวโตเกือบเท่าแพะเลยนะคะ ไข่ก็ใบโตตามไปด้วย ชอบทุกภาพบรรยากาศ  ทุกคำบรรยาย  ทุกความรู้ที่ได้รับ ขอบคุณมากๆ นะคะที่เอามาฝากกัน ปล. ถ้าไม่รู้มาก่อนดูไม่ออกเลยนะคะว่าคุณเขียวอ่อนมีน้อง หน้ายังเพรียวนุ่งขาสั้นได้สบายๆ เลย         แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 48 16:01:44 จากคุณ : บ้าน จ.จาน - [ 22 มิ.ย. 48 15:57:59 ]

ความคิดเห็นที่ 71 กรทู้นี้ยาวจังค่ะ แต่อ่านแล้วเพลินดี อิจฉาชีวิตเรียบง่ายของคนอาร์มิช นะคะ น้องไทขอทานนมเหมือนหลานเลยค่ะ เรียก แน่นแน๊น (เรียกตามยี่ห้อนมอ้ะค่ะ) จากคุณ : เต้าเจี้ยว - [ 22 มิ.ย. 48 16:21:40 ]

ความคิดเห็นที่ 72 คิดถึงน้องไทกะปีป๊อตคะ ดูแล้วก้อยิ้มไปด้วยคะ จากคุณ : แม่มะกรูด (makod3) - [ 22 มิ.ย. 48 17:00:14 ]

ความคิดเห็นที่ 73 น้องไทโตขึ้นเยอะเลยนะค่ะ  ปีป๊อตยังหล่อเหมือนเดิมเลย แอบเห็นน้องไทใส่กำไลข้อเท้าด้วย น่ารักชอบๆ ไม่ทราบเหตุผลของคุณเขียวอ่อนนะค่ะ แต่เหมาว่ายังยึดแบบไทยๆอยู่ แต่ก็เก๋ค่ะ เอ้...ที่โน้นเขาใส่กันไหมหนอ วันก่อนไปลงผิดเจ้าของค่ะ(โทฟู) ขอให้พวกเราได้มีโอกาสเห็นน้องไทและปีป๊อต เติบโต ก้าวต่อไปพร้อมกัน และคุณเขียวอ่อนกะคุณแฟน พร้อมครอบครัว สุขภาพแข็งแรง ไปเที่ยวบ่อยๆ เอารูปมาฝากอีกเรื่อยๆค่ะ จากคุณ : เจ๊แหนมกะน้าพุ้ย - [ 22 มิ.ย. 48 17:46:45 ]

ความคิดเห็นที่ 74 สนุกที่สุดเลยค่ะ จากคุณ : หม่ามี้น้องแต้ม - [ 22 มิ.ย. 48 17:50:07 ]

ความคิดเห็นที่ 75 เย้ๆ ในที่สุดกระทู้ปีป๊อตก็มาแล้ว รอมานานเหมือนกันค่ะ สนุกมากๆเลยค่ะ อ่านแล้วไม่เบื่อเลย ขอบคุณพี่เขียวอ่อนที่แบ่งปันเรื่องราวดีๆให้อ่านกัน ... น้องไทกับปีป๊อตน่ารักมากๆเลยค่ะ อยากมีสองหนุ่มแบบนี้ที่บ้านมั้งจังเลย..ตอนนี้มีอยุ่แค่ 1 หนุ่ม(ตัว) กลัวเหมือนกันว่า ถ้าเค้ามีน้อง เค้าจะอิจฉาน้องมั๊ย..อยากให้เค้าเป็นเหมือนปีป๊อตที่คอยปกป้องน้องไทค่ะ น้องไทกับไอติมนี้สุดๆเลยอยากกินบ้าง คุณพ่อก็น่ารักเชียวค่ะ พาครอบครัวไปเที่ยวสุขสันต์...แอบชื่นชมตั้งแต่ พยายามตัดขนปีป๊อตแว้ว.... อ่านทู้พี่เขียวอ่อนแล้วยิ้มไปด้วย....มีความสุขแทนค่ะ จากคุณ : bellemaman - [ 22 มิ.ย. 48 17:51:25 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ครอบครัวพี่เขียวอ่อนน่ารักมากๆค่ะ จากคุณ : แม่มะกอกMAKOK - [ 22 มิ.ย. 48 18:09:12 ]

ความคิดเห็นที่ 77 อ่านไปยิ้มไป...แถมน้ำตาซึมได้อีก เมื่อตอนท้าย...ที่คุณเขียวอ่อนสรุป... จากคุณ : ลูกสาวพ่อที่พอเพียง - [ 22 มิ.ย. 48 18:46:47 ]

ความคิดเห็นที่ 78 - เหมือนได้อ่านสารคดีนำเที่ยวเลย  ได้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลินไปพร้อมกัน  ครอบครัวคุณเขียวอ่อนเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมากเลยครับ...น้องไทกับปีป๊อต น่ารักมากๆ - เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าคุณเล็กอยู่ที่ Indianapolis เอาไว้ว่างๆ ต้องหลังไมค์ไปคุยด้วยเสียหน่อย...ฟื้นความหลังอ่ะ จากคุณ : ลุง Tom - [ 22 มิ.ย. 48 18:55:22 ]

ความคิดเห็นที่ 79 สนุกจังเลย ขอบคุณค่ะที่เล่าสู่กันฟัง จากคุณ : Nung+Ning+ - [ 22 มิ.ย. 48 19:05:53 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ชอบมากเลยค่ะกระทู้นี้  เหมือนได้อ่านหนังสือสารคดีท่องเที่ยวจริง ๆ  อ่านไปยิ้มไปเลยคะ ภาพ 13 ปีป๊อตนั่งเป็นบอดี้การ์ดให้น้องไทเลยนะคะ น่ารักทั้งครอบครัวเลยจ้า จากคุณ : Heineken` - [ 22 มิ.ย. 48 20:16:01 ]

ความคิดเห็นที่ 81 เพลินมากค่ะ  ได้สาระด้วย เอ๋  แม่เขียวอ่อน มีน้องเล็กกี่เดือนแล้วคะ ในรูปดูยังเพรียวๆ   ปีป๊อตมีแฝดด้วย  น่ารักทั้งคู่เลย แต่เราก็รักปีปีอตมากกว่าอยู่ดีค่ะ จากคุณ : ป้าจายแคราย (-.-) - [ 22 มิ.ย. 48 20:38:26 ]

ความคิดเห็นที่ 82 สองพี่น้องขวัญใจแม่ยก ยังน่ารักน่ากอดเหมือนเคยนะครับ จากคุณ : Pipy - [ 22 มิ.ย. 48 21:00:04 ]

ความคิดเห็นที่ 83 หวัดดีค่ะเพื่อนๆทุกคน เมื่อคืนตอนดึกๆโพสต์เสร็จก้อรีบไปนอนเลย นี่เพิ่งตื่นนอนมา เลยได้มาทักทายกัน ใช่ค่ะคุณแมวดื้อ เราสองคนเข้าใจพวกอาร์มิชเหมือนกันเลย ตอนที่ยังไม่ได้รู้เห็นให้มันมากกว่านี้  แต่พอไปรู้ไปเห็นแล้วนี่อ่ะ มันมีรายละเอียดที่ผิดแปลกออกไปนะคะ พวกนี้แอนตี้ไฟฟ้ามาจากสมัยดั้งเดิม แต่เพราะความที่โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว แล้วเค้าก้อตระหนักดีว่า ถ้าไม่ยืดหยุ่นตามโลกบ้าง อาร์มิชก้อจะอยู่ไม่ได้ เพียงแต่การยืดหยุ่นตามโลกของเค้านั้นมันยังถอยไปหลายก้าวอย่างระมัดระวังตัว ในบ้านคนอาร์มิชนี่ ไม่มีเครื่องปั่นไฟแน่นอน ผิดกฏ  แต่ในฟาร์ม ในส่วนที่ต้องทําธุรกิจ ทางบิชอฟ(หัวหน้าผู้นําศาสนาแต่ละกลุ่ม)จะยอมๆให้มีการติดตั้งเครื่องปั่นไฟที่ใช้พลังงานจากถังแก๊สได้ ตามฟาร์มจะมีถังแก๊สใหญ่ๆน่ะค่ะ แล้วก้อตัวมอเตอร์ปั่นไฟมันก้อทํางาน ได้กระแสไฟฟ้าออกมาเดินเครื่องพวกนี้ อิอิ มีอะไรจากาซิบให้ฟัง ฟังมาว่าพวกอาร์มิชนี่อ่ะใช้มือถือกะโน๊ตบุ๊คกะวิทยุนะฮ้า เป็นของธรรมดาที่มีกันแทบทุกฟาร์มเลย ส่วนใหญ่เค้าเก็บโน๊ตบุ๊คเอาไว้ที่ฟาร์มนั่นแหละ เค้าไม่ได้ใช้ลูกคิดทําบัญชีมือนะตะเอง แล้วมือถือก้อเอาไว้ติดต่อผู้คนทําธุรกิจ แล้ววิธีเลี่ยงไม่ให้มันผิดกฏก้อคือ เสียบแบตให้มันเต็มจากเครื่องปั่นไฟนั่นแหละ เพราะมันมีพลังงานแล้วใช่ป่าว แล้วตราบใดที่ใช้งานของพวกนี้จากถ่านหรือแบตตารี่ ไม่ผิดกฏเค้าอ่ะ เค้าว่ากันอีกแหละว่า ถ้าลองเปิดข้างในเสื้อโค๊ตสีดําขรึมๆทึมๆของผู้ชายอาร์มิชออกดูน่ะ กระเป๋าในของโค๊ตนี่แขวนมือถือกันแทบทั้งนั้นแหละ มันชวนให้นั่งคิดต่อเอาเองว่า งั้นภายใต้เสื้อชุดกระโปรงเอี๊ยมดั้งเดิมของผู้หญิงอาร์มิชนี่ มันจะเต็มไปด้วยวิคตอเรียซีเคร็ทป่าวน๊อ ก้อข้างนอกมันทับด้วยกฏแล้วนี่ มันก้อไม่น่าผิด เหมือนๆกะเรามองดูผู้หญิงอาหรับที่ใส่เสื้อคลุมดําคลุมหัวยันเท้ารุ่มร่ามนั่นน่ะ อย่าไปคิดว่าเค้ามอซอ มันเป็นแค่กฏเกณท์เค้า แต่เวลาเค้าปอกตรงนี้ออกมา ข้างในอาจจะสร้างด้วยหลุยส์วิตตอง แชแนล ตั้งแต่หัวจดเท้าเลยก้อเป็นไปได้ใช่ป่าว เค้ารวยจะตายไป วุ๊ยคิดไปไกล คุณเจ๊แหนมกะน้าพุ้ยคะ กําไลข้อเท้าของไทยๆนี่อ่ะนะ เป็นของที่ฝรั่งกรี๊ดมากที่สุดเลย แต่ละคนที่เห็นไทใส่ก้อจะต้องถามให้ได้ว่าอะไร น่ารักจริงๆ เค้าไม่เคยเห็น แต่ชื่นชมว่าภูมิปัญญาไทยนี่ดี แล้วพ่อน้องไทเค้าชอบมากไม่ยอมให้ถอดออกจากไท เค้าบอกว่ามันรับกะใบหน้าดี คุณจูนขา คุณป้าจายขา ไอ้ผอมเพรียวที่ว่านี่อ่ะ บังเอิญว่ามุมแสงแดดตกกระทบของวันนั้นมันดีค่ะ เลยทําให้ดูเหมือนผอม จริงๆตัวใหญ่เหมือนท่อนซุงเดินได้แล้วค่ะ เพียงแต่ยังไม่บวมนําเป็นอึ่งอ่างแค่นั้นเอง จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 22 มิ.ย. 48 21:23:12 ]

ความคิดเห็นที่ 84 เพลิดเพลินเจริญใจ ได้สาระ และรอยยิ้ม ขอบคุณครอบครัวที่น่ารักทีทำให้ได้อ่านเรื่องดีๆอย่างนี้นะคะ น่ารักมากๆทุกบรรทัดและทุกรูปเลยค่ะ จากคุณ : มะม่วง (ดญ.มะม่วง) - [ 22 มิ.ย. 48 21:24:03 ]

ความคิดเห็นที่ 85 อ่านแล้วสุขใจดีค่ะ น้องไทน่ารักเหมือนเดิม ขอหม่ำไอติมบ้างนิ อิ อิ ป๊อตน่ารักมากเลย แต่ปีป๊อต กะ โทฟูนี่จับมาชิดๆ กัน แยกมะออกเลยอ่า T - T ก้อนกลมๆ ขาวๆ จากคุณ : คิมหันต์เหมันตฤดู - [ 22 มิ.ย. 48 21:58:18 ]

ความคิดเห็นที่ 86 อ่านสนุกดีครับ เคยมีหนังที่คนรวยที่หนีคดีกับเมียแล้วไปอยู่กับคนอาร์มิช  จำชื่อเรื่องไม่ได้ ดูวิถีชีวิตแบบนี้แล้วคิดถึงชาวนาบ้านเรา  ทำนาแทบตายยิ่งทำก็ยิ่งจน จากคุณ : แรม 10 ค่ำเดือน 10 - [ 23 มิ.ย. 48 00:48:13 ]

ความคิดเห็นที่ 87 เหมือนได้ไปเที่ยวกะครอบครัวพี่เขียวอ่อนเลยค่ะ บรรยายได้ลึกซึ้ง นึกภาพตามได้เลยอะ .. ปีป๊อตติดบ้านขนาดนี้ จะไปตกถังข้าวเหนียวของแม่โทฟูเหรอจ๊ะป๊อตจ๋า จากคุณ : p.panda - [ 23 มิ.ย. 48 07:43:36 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ขอบคุณค่ะ อ่านสนุกได้ความรู้ เพลิดเพลินกับรูปน่ารัก ต้องมาที่กระทู้ของคุณเขียวอ่อนนี่แหละ จากคุณ : แมวดื้อ - [ 23 มิ.ย. 48 08:12:16 ]

ความคิดเห็นที่ 89 สนุกสนานกันทั้งครอบครัวเลย จากคุณ : อุ่นนิ (อุ่นนิ) - [ 23 มิ.ย. 48 09:48:47 ]

ความคิดเห็นที่ 90 คุณเขียวอ่อนคะอย่างงี้คราวหน้าจูนถ่ายรูปต้องใช้แสงช่วยกระทบบางแล้วหล่ะค่ะจะได้ดูเพรียวลงได้บ้าง  คริๆๆ   รูปสวยแจ่มชัดแจ๋วให้สีสันสวยงามมากๆ เลยค่ะทั้งกล้องทั้งคนถ่ายฝีมือดีจริงๆ เรื่องราวสนุกสนาน ตัวละครน่ารัก ไม่มีอะไรจะสมบูรณ์แบบไปกว่านี้แล้วค่ะ  ประทับใจจริงๆ จากคุณ : บ้าน จ.จาน - [ 23 มิ.ย. 48 10:48:38 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ตามอ่านมาตลอด สรุปว่าพี่เขียวอ่อนเขียนดีจริงๆค่ะ จะตามอ่านตลอดไป  พี่ก็ต้องเขียนมาเรื่อยๆนะคะ ว่าแต่ว่าฝากเจ้านิกไปตัดผมด้วยคนสิคะ นี่ขนาดแม่มานใช้แค่กรรไกรตัดให้ยังร้องซะ นึกไม่ออกจริงๆว่าถ้าแม่มานเกิดบ้าจี้ไปซื้อปัตตาเลี่ยนมา จะเกิดอะไรขึ้นน้า จากคุณ : หมาน้อยพุงกาง - [ 23 มิ.ย. 48 12:18:58 ]

ความคิดเห็นที่ 92 อ่านให้แล้วให้อะไรเยอะค่ะ  ทั้งความสวยงาม วิถีชีวิตที่แตกต่างอีกมุมโลกนึง  ชีวิตเหมือนฝันๆ ไง ไม่รู้  มีความสุขที่ได้ชมภาพต่างๆ เหมือนได้ชมหนังชีวิต... พร้อมการเล่าเรื่องที่สมบรูณ์แบบ ขอบคุณที่ถ่ายทอด ความรู้ ความบันเทิง ต่างๆ ให้ทราบค่ะ จากคุณ : MUM-DAL - [ 23 มิ.ย. 48 14:46:34 ]

ความคิดเห็นที่ 93 หวัดดีอีกรอบค่ะเพื่อนๆ  อื้อหือ น้องนิกน่ารักจริงๆเลยหมาน้อย เหมือนแม่ไม่มีผิดเลยนะเนี่ย เป็นผู้ชายที่ใส่เสื้อสีชมพูได้ขึ้นจริงๆเลยจ้ะ ใช่ค่ะคุณฟ้า บางทีชีวิตมันดูเหมือนความฝันร้ายมั่งฝันดีมั่งไปตามเรื่องตามราว แต่ที่แน่ๆของที่เราไม่รู้ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มี การเดินทางท่องเที่ยวจึงมีเสน่ห์ตรงนี้ แล้วยิ่งรู้เห็นไปมากมาย สุดท้ายก้อหันกลับมาชื่นชมในสิ่งที่เรามีอยู่กะตัวว่า มันก้อดีกว่าคนอีกมากมายแล้ว จากคุณ : เขียวอ่อน - [ 24 มิ.ย. 48 10:26:05 ]

ความคิดเห็นที่ 94 I used to live in Pennsylvania too ka......but now im back in BKK with my lil 5 month old westie =D  nice to meet u ka จากคุณ : Scandalous - [ 1 ก.ค. 48 10:52:13 ]