| ฉีดแล้ว (5 คน) |
| ยังไม่ได้ฉีด (3 คน) |
| จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 8 คน |
ท่านที่ใจบุญชอบช่วยเหลือสุนัขและแมวจรจัดทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นให้อาหาร หรือช่วยเหลือยามเจ็บป่วยโดยการเอาไปหาหมอ หรือชอบเล่นกับพวกเค้า หรือแสดงความรักโดยลูบหัว ฯลฯ ที่ต้องใกล้ชิดกับพวกเค้า
ท่านได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับตัวเองแล้วหรือยังครับ
บางท่านอาจเข้าใจผิดว่าต้องโดนกัดก่อนค่อยไปฉีดวัคซีนป้องกันโรค ซึ่งจริงๆแล้วไม่จำเป็นต้องโดนสุนัขหรือแมวกัดก่อน แล้วค่อยไปฉีดวัคซีน
ข้อดีของการฉีดวัคซีนก่อนโดนกัด
1. เจ็บตัวน้อย การฉีดวัคซีนก่อน จะฉีดแค่ 3 ครั้ง และฉีดกระตุ้นครั้งเดียวเมื่อโดนกัด
ถ้าโดนกัดมาแล้วค่อยมาฉีด อาจต้องฉีดซีรั่มเข้าแผล และที่กล้ามเนื้อ ตามน้ำหนักตัว ซึ่งจะเจ็บปวดอย่างมาก ยิ่งคนน้ำหนักตัวเยอะๆ กระบอกฉีดยาปล้องเบอร์เร่อเลย เจ็บมาก และต้องฉีดวัคซีนอีก 5ครั้ง
2. ค่าใช้จ่ายถูกกว่า ฉีดน้อยกว่าค่าใช้จ่ายก็ย่อมถูกกว่า และค่าซีรั่มยังราคาแพง ยิ่งถ้าแพ้ชีรั่มม้าแล้วอาจต้องใช้ซีรั่มของคนซึ่งราคาแพงมาก
3. ปลอดภัยกว่า เพราะ
3.1 ถ้าหากโดนกัดเล็กน้อยโดยที่เราประมาทคิดว่าสัตว์ตัวนั้นไม่เป็นโรคพิษสุนัขบ้าหรอก + กับความขี้เกียจ + ไม่มีเวลา เลยส่วนใหญ่มักจะไม่ไปฉีดวัคซีน ยิ่งเฉพาะลูกสัตว์คนมักคิดว่ามันไม่เป็นแต่จริงๆแล้วตามสถิตลูกสัตว์จะมี % การเป็นโรคพิษสุนัขบ้าสูงกว่าสัตว์โตเสียอีก
3.2 ถ้าได้รับการฉีดวัคซีนก่อน เมื่อโดนกัด ก็จะได้รับการฉีดวัคซีนกระตุ้น โดยไม่ต้องฉีดซีรั่ม ซึ่งซีรั่มนี้เป็นส่วนประกอบของเลือดม้า หรือคน ซึ่งปกติจะใช้ของม้าให้ก่อน ซึ่งจะมีความเสี่ยงต่อการแพ้ได้สูง เพราะเป็นสิ่งแปลกปลอมฉีดเข้าสู่ร่างกาย ร่างกายเราจะมีปฎิกิริยาต่อต้าน ถ้าแพ้รุนแรงอาจเสียชีวิตได้ ซึ่งถ้าใครเคยถูกงูกัดแล้วได้รับการฉีดซีรั่มพิษงูมาแล้ว ยิ่งทำให้ความเสี่ยงต่อการแพ้จะสูงขึ้นมาก เพราะซีรั่มแก้พิษงูก็ทำจากเลือดม้าเช่นกัน
ปัจจุบันได้มีการทดลองวิจัยการฉีดวัคซีนได้พัฒนาไปมากทำให้การฉีดวัคซีนในปริมาณน้อยมาก และ ฉีดแค่สะกิดแค่ผิวหนังเหมือนมดกัด ซึ่งท่านไม่ต้องกลัวเจ็บเลย เพราะเข็มยังไม่ทะลุผ่านผิวหนังเลย
และปัจจุบันสะดวกอย่างมากเพราะตามโรงพยาบาลต่างๆก็มีวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแล้วไม่จำเป็นต้องเดินทางไกลไปฉีดถึงสถานเสาวภาเมื่อแต่ในอดีต
เพราะฉะนั้นขอเชิญชวนเพื่อนๆที่มีความเสี่ยงไปฉีดวัคซีนกันครับ
ปล.ความจริงไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่คลุกคลีกับหมาแมวจรจัดเท่านั้นนะครับ เพราะทุกคนมีความเสี่ยงหมด เพราะเดินๆอยู่ก็อาจมีโอกาสโดนกัดได้เช่นกัน โรคนี้มีคนตายทุกปีนะครับ ยิ่งเฉพาะลูกหลานหรือเด็กๆในบ้านควรให้ไปฉีดกันทุกคนนะครับ จะยกตัวอย่างเด็กนักเรียนคนหนึ่งที่ตายจากโรคนี้นะครับ ที่ต่างจังหวัด เด็กนักเรียนคนนี้เดินกลับบ้าน แล้วโดนสุนัขข้างทางกัดที่ขา เป็นแผลเล็กน้อย ซึ่งเค้าก็ไม่ได้สนใจเพราะแผลเล็กน้อยและก็ไม่ได้บอกใครด้วย คนในบ้านก็ไม่มีใครรู้ว่าน้องเค้าโดนหมากัด ซึ่งไม่กี่วันแผลเล็กน้อยนั้นก็หายเป็นปกติ เวลาผ่านไปหลายเดือน อยู่น้องคนนี้ก็มีอาการพิษสุนัขบ้าขึ้นมา ไม่ถึงอาทิตย์น้องเค้าก็เสียชีวิตด้วยอาการทรมาน
จากคุณ :
ฟ้าหม่นคนดี
- [
9 ก.ย. 48 00:15:38
]