ในฐานะที่เป็นสมาชิกรุ่นแรก ๆ และติดตามความเป็นไปในห้องหมามาโดยตลอด จะขอให้ความคิดเห็นอย่างเป็นกลางดังนี้
ส่วนตัวมีความรู้สึกเห็นใจผู้ที่ดูแล บชฉฉ เป็นอย่างมาก จึงขอให้คำชี้แนะเผื่อจะเป็นประโยชน์ในการดำเนินการดูแล บชฉฉ ต่อไปในอนาคต เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาวุ่นวายยุ่งยากกับตัวผู้ดูแลเอง ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประเด็นของกฏหมายและศีลธรรม
ในอดีตที่ผ่านมาในห้องจตุจักรก็มีการเปิด บช เพื่อขอรับบริจาคและจัดหาสินค้ามาจำหน่ายเพื่อช่วยเหลือหมาแมวแบบเคสบายเคสอยู่เสมอมา แต่ไม่เคยมี บช ที่มียอดเงินบริจาคเพื่อหมาเป็นจำนวนมากขนาดนี้ เท่าที่ทราบมา ณ ขณะนี้ก็เป็นหลักแสน (ไม่ทราบว่าจำนวนจริง ๆ เท่าไหร่) ดังนั้น คนที่เข้ามาจัดการดูแล บช ที่มีคนรักหมาให้ความช่วยเหลือบริจาคเข้ามามากมายเป็นประวัติศาสตร์ควรจะมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ใจกว้างยอมรับความคิดเห็นผู้อื่น การทำงานต้องโปร่งใส พร้อมที่จะยอมรับการขอเข้าไปตรวจสอบตลอดเวลา และการใช้เงินเพื่อหมา ไม่ควรที่จะเลือกปฏิบัติว่าจะช่วยตัวไหน ไม่ช่วยตัวไหน เพราะวัตถุประสงค์หลักๆ ที่เจ้าของเงินทุกท่านส่งไปช่วยนั้นให้นำไปใช้เพื่อหมาทุกตัวที่เจ็บป่วย ไม่ใช่ให้คนนำไปใช้หาประโยชน์กับตัวเงินบริจาคทั้งทางตรงและทางอ้อม
การที่ บชฉฉ เข้าไปควบคุมดูแลการใช้เงินในแต่ละเคส โดย แจ้งว่าเพื่อจะได้มีเงินเหลือไปได้ช่วยหมาตัวอื่นได้เพิ่มขึ้นอีกหลาย ๆ ตัวนั้น มันก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ควรจะยึดหลักสายกลางไว้บ้าง อย่างในบางเคสที่มีเพื่อน ๆ ติติงไป ผู้ดูแล บชฉฉ ก็ดำเนินการตอบโต้อย่างแข็งกร้าวมาโดยตลอด ทำให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยในการบริหารเงิน บชฉฉ ว่าเพื่ออะไรกันแน่ (เพื่อคนหรือเพื่อหมา) ทั้งนี้ทั้งนั้น บชฉฉ ก็ยังเปิดรับบริจาดและขายของเพื่อนำเงินเข้า บช โดยตลอด มีคนที่รักหมาที่พร้อมจะให้ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือทั้งการให้เปล่าและช่วยซื้อเรื่อย ๆ เพื่อให้นำเงินไปช่วยเหลือหมา ทั้งเป็นสมาชิกรายเดือน และรายสะดวก ยังไม่ได้งดรับบริจาคแต่ประการใด
*** ยกตัวอย่าง***
ในบางเคสที่ผู้แจ้งหรือเจ้าของหมาได้นำหมาไปรักษากับ รพส เอกชน หรือ รพส หรือคลีนิคที่ผู้แจ้งมีความสนิทสนมใช้บริการกันมาโดยตลอดมีความไว้วางใจกัน หรือใกล้บ้าน ใกล้ที่ทำงาน สามารถไปเยี่ยมเยียนติดตามผลได้โดยตลอด ซึ่งไม่ใช่เป็น รพส. ที่ ฉฉ กำหนด พอจะเป็นไปได้มั้ยที่ ฉฉ จะดำเนินการโดยยึดหลักสายกลาง บัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น เช่น คุยกับผู้แจ้งว่าในเคสเช่นนี้ ไม่ตรงข้อกำหนดของ บชฉฉ แต่ บชฉฉ ก็จะช่วยโดยการช่วยค่าใช้จ่ายกันคนละครึ่ง หรือ 10% - 20% ก็ว่าไป แทนที่จะปฏิเสธโดยสิ้นเชิง (ในประเด็นนี้จะทำให้ทุกๆคนมีความรู้สึกที่ดี มองผู้ดูแล บชฉฉ ให้ความเป็นธรรมและเป็นกลาง ไม่แบ่งพรรคแบ่งพวก) เหมือนดังทุกวันนี้
ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีเหตุผลอะไรที่จะนำเงินไปใช้ช่วยหมาทุกตัวที่ขอความช่วยเหลือมาไม่ได้ แต่มีข้อสังเกตว่า เหมือนมีการแยกว่า หมาใครควรช่วย หมาใครไม่ควรช่วย หมาบางตัวอาการสาหัสก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือ แต่หมาบางตัวที่บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย แต่ต้องเสียเวลาของบุคคลากรต้องออกไปอย่างน่าเสียดายว่า ถ้าไปช่วยตัวที่สาหัสกว่าคงคุ้มค่ากับการลงแรงกว่านี้
ในสายตาคนวงนอกบางคน อาจจะรู้สึกว่า บชฉฉ กลายเป็นเรื่องของผลประโยชน์ไปซะแล้ว เหมือนกับการพยายามแบ่งพรรคแบ่งพวกนำเงินที่บริจาคเพื่อหมาไปใช้ในกลุ่มพรรคพวกของตนเอง ทั้ง ๆ ที่เงินบริจาคเข้ามาเป็นของส่วนรวม เพียงแต่ไม่ได้เข้ามาบอกเล่าความรู้สึกหรือความคิดของตัวเองให้รับทราบกัน
ในส่วนของผู้ทำหน้าที่ประสานงานก็เช่นกัน ควรจะมีความละมุนละไม และมีมารยาทในการติดต่อมากกว่านี้ ถ้าทุกเคส คุณผู้ประสานงานใช้ถ้อยคำรุนแรงอย่างไม่สมควร ในอีเมลที่ติดต่อซิริอุสไป ในกระทู้ http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J3732961/J3732961.html ถ้าแปลอย่างตรง ๆ เท่ากับคุณตะโกนใส่หน้าเค้า และเมื่อแปลออกมาแล้ว ในภาษาอังกฤษ จะสามารถแทนตัวผู้ส่งเมลว่า" gu " และแทนตัวผู้รับว่า " mung "ได้ในภาษาไทย เพราะผู้ที่คุณติดต่อไปนั้นเค้าไม่รู้เรื่องราวความเป็นไปในห้องหมา พันทิพ ที่เค้าเข้ามาเกี่ยวข้องนั้น ก็เพราะมีคนในห้องนี้ ติดต่อขอความช่วยเหลือไป ซึ่งมันไม่ใช่ความผิดของเค้า คุณผู้ประสานงานไม่ควรจะนำความรู้สึกส่วนตัวเข้าไปในเนื้อความของจดหมายด้วย
เพื่อน ๆ ทุกคนมีความคิดเห็นเป็นอย่างไรคะ
****ผู้ดูแล บชฉฉ พึงระลึกไว้ตลอดเวลาว่า เงินที่ทุกท่านดูแลอยู่นั้น คือ เงินของหมา มิใช่เงินของผู้หนึ่งผู้ใด****
จากคุณ :
หนูลินดา
- [
14 ก.ย. 48 11:11:00
]