ความคิดเห็นที่ 65
ขอยกมือว่าอยากฟังค่า เล่าไว้เป็นซีรี่ย์พี่เย่นเลยก็ได้ น่าติดตามมากๆ แนวทางการนำเสนอเรื่องของพี่อ่านแล้วชวนติดตาม ลุ้นดี วิธีการเล่าก็ไม่ซ้ำใคร ใส่อารมณ์ถึงใจดีค่ะ
ไหนแล้วฝากเรื่องเล่าของคนอื่นมาให้อ่านด้วยแล้วกัน เรื่องของเพื่อนพี่กวิน พี่กวินก็.... ผู้ชายคนนึงที่ลด นน ด้วยตัวเองมาหลายโลมากๆๆๆ แต่ตอนนี้เราไม่อยากฟังเรื่องเค้า มาฟังเรื่องที่พี่เค้าเล่าถึงเพื่อนเค้าดีกว่า อิอิ
>>
วันนี้ ผมอยากจะเล่าเรื่องของเพื่อนผู้หญิงคนนึง
เธอสูง 155 ซม. และเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว เธอหนัก 53 กก. แต่ปัจจุบันเธอหนักเพียง 45.6 กก.
"เธอลดน้ำหนักไปเกือบ 8 กก. ในระยะเวลา 6 เดือน!"
ไม่เลวเลยจริงๆ...ผมคิดในใจ
ดังนั้นผมจึงเริ่มคุยสอบถามข้อมูลต่างๆ เธอเล่าว่า....
"จริงๆแล้ว ด้วยนิสัยของเธอเอง เธอจะเป็นคนไม่ค่อยทานอะไรเท่าไหร่นัก
และ เมื่อสมัยยังเรียน ป.ตรี เธอมีน้ำหนักอยู่ที่ 43 กก. (ด้วยความสูง 155 ซม.)
และทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไป เมื่อเธอมี "แฟน" ซึ่งแฟนเธอผู้นี้ เป็นคนที่กินเก่งมากๆๆๆๆ
ชอบกินพิซซ่า ,บาบีคิวพลาซ่า ,ข้าวหมูแดง-หมูกรอบ ,ไอติมเอริทเควกของ Swensen
และที่โปรดปรานที่สุดคือ พวกอาหารบุฟเฟต์ต่าง เช่น โออิชิ ,ไดโดมอน และหมูกะทะ
แฟนเธอกินได้วันละหลายๆมื้อ และแน่นอนว่าแฟนเธอต้องชวนเธอกินเป็นเพื่อนอย่างแน่นอน
ผ่านไปไม่นาน น้ำหนักเธอเพิ่มจาก 43 เป็น 53 ขึ้นมา 10 กก.
เธอบอกผมว่า....ตอนหนัก 53 เธออึดอัดมากๆ และเหมือน "หายใจไม่ออก"
ต่อมา เธอเลิกกับแฟนคนนั้น...
ผมเองกับเธอ เราเป็นเพื่อนกัน เพราะเรียน ป.โท อยู่ด้วยกัน เลยได้มีโอกาสพูดคุยเรื่องการลดน้ำหนักมาตั้งนานแล้ว...
ในระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา
"มื้อเช้า"...เธอบอกผมว่าเธอมักจะเลือกทานแซนวิช
"มื้อกลางวัน"...เธอมักจะทานข้าวราดผัดผัก
ส่วน "มื้อเย็น"...บางทีเธอจะไม่ทาน หรือไม่ก้อเลือกทานเป็นพวกผลไม้
ผมจึงถามเรื่องเกี่ยวกับ "การออกกำลังกาย" เธอตอบไม่ว่า "ไม่ได้ออกกำลังกายเลย"
ซึ่งผมเองฟังแล้วก้องงๆ ไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าไหร่(ว่าคนไม่ออกกำลังกาย จะลดน้ำหนักได้มากมายขนาดนี้)
ถามไปถามมา จึงถึง "บางอ้อ" ว่า...แม้เธอไม่ได้ออกกำลังกายอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
แต่ถ้าลงลึกในชีวิตประจำวันของเธอแล้ว จะพบว่า เธอต้องเดินออกจากซอยของคอนโดฯ
และเดินไปตามถนนเพื่อไปที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งรวมระยะทางแล้วไม่น่าต่ำกว่า 1.5 กก.
เช้าเธอก้อเดิน - เย็นเธอก้อเดิน วันนึงเธอเลยเดินอย่างน้อย 3 กก. แล้ว และที่สำคัญเธอเดินทุกวัน!!!
ผมคิดในใจว่า "เธอคงเหมือนคุณ Maniac" ซึ่งใช้การเดินไปทำงานเป็น Key สำคัญในการลดน้ำหนัก
และวันนี้เธอก้อทำได้ ทำได้อย่างง่ายๆ ทำได้อย่างไม่เครียด
ลดน้ำหนักแบบขำๆ แต่น้ำหนักเธอลดไปแล้ว 8 กก.ในเวลา 6 เดือน
ผมลืมบอกไปว่าเธอเป็นผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายขายของบริษัทเอกชนแห่งนึง
เธอสรุปคำสุดท้ายกับผมว่า "ลดน้ำหนักเหรอพี่....จริงๆหนูว่า มันก้อแค่เปลี่ยนนิสัยการกินเท่านั้นเองนะ"
จบแล้วครับ.....
ผมเล่าเรื่องราวนี้ เพื่อบอกว่า "การลดน้ำหนัก ถ้าเราเข้าใจมันอย่างถูกต้อง มันก้อไม่ได้เป็นสิ่งที่ยากเย็นอะไรเลย..."
ผมเองรู้สึกไม่สบายใจมากๆทุกครั้งที่เห็น "น้องๆบางคนจริงจังกับการลดน้ำหนักมากจนเกินไป จนตัวเองไม่มีความสุขเลย"
ผมจึงอยากบอกว่า เชื่อมั่นใน "ความพอดี" นะครับ.....ความพอดีในการชีวิตของเรา :-)
บางทีผมมานั่งคิดว่า...ผมเขียนไดอารี่นี้ทำไม ?
ชีวิตผม...มีโอกาสได้พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องลดน้ำหนักกับคนรอบข้างเยอะอยู่ทีเดียว
มีทั้งเรื่องราวแห่งความสำเร็จ และเรื่องราวแห่งความประมาท
จริงๆแล้วผมเองอยากจะเตือนทุกคนที่กำลังประมาทกับ "โรคอ้วน" ในยุคสมัยแห่ง "การบริโภคนิยม"
แต่ในความเป็นจริง "เตือนได้บ้าง ,เตือนไม่ได้บ้าง "
นั่นเลยเป็นที่มาของไดอารี่นี้
นอกจากผมตั้งใจจะเขียนไดอารี่ฉบับนี้ เพื่อเก็บไว้อ่านเป็น Reference ของผมเอง
แต่ผมยังแอบหวังว่า ไดอารี่นี้อาจไปสะกิดใจใคร ให้หันมาสนใจดูแลสุขภาพและลดน้ำหนัก รวมทั้งเป็นกำลังใจให้กับคนอื่นได้บ้าง
แค่นั้น...ผมเองก้อดีใจมากๆแล้วครับ :-)
http://www.dek-d.com/entertain/viewlongc.php?id=96382&chapter=43&title=[42/180%20-%2011%20พ.ย.%2048]%206%20สัปดาห์ผ่านไป%20(69.0%20Kg.)
ตามไปอ่านเรื่องของพี่เค้าได้ตรงนี้จ้า http://www.siamfitness.com/allkawin.html
เป็นกำลังใจให้คนอยากผอม เมื่อไหร่จาเพรียวกะเค้ามั่ง เอิ๊กๆ
จากคุณ :
a:OoJฟ้า 
- [
30 พ.ย. 48 22:19:51
]
|
|
|
เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน ของอร่อยแถวนี้มานแยะ
จนในที่สุดเสียดายเสื้อผ้า เลยต้องสิ่งวันละสิบรอบสนามอ่ะจ้า น้ำหนักลงไม่มาก แต่เฟิร์มเสื้อผ้าก็ใส่ได้เหมือนเดิมแระ หลังๆไม่ต้องวิ่งมากเพราะไม่มีเงินกิน เลยผอม กร้ากกกกก