ความคิดเห็นที่ 1 ยามเมื่อย่างเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งอากาศโดยทั่วไปจะเย็นลง ภาพที่พบเห็นโดยทั่วไปก็คือภาพของปลาหลายๆชนิดหลากหลายสายพันธุ์ของผู้เลี้ยงปลาหลาย ๆ ท่านทยอยล้มป่วยลงด้วยอาการป่วยหลายๆอย่าง เริ่มจากอาการเบื่ออาหาร จากนั้นก็อาจจะมีอีกหลาย ๆ ตัวทยอยมีปัญหาอื่น ๆ แทรกซ้อน และเจ็บป่วยลงในหลาย ๆ อาการในที่สุด ไม่ว่าจะเหงือกอ้า เกล็ดพอง ซึม และอื่น ๆ  อีกมากมาย ทำให้ชวนคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นเมื่ออากาศเย็นลง หรือว่า ปลาหลายๆชนิด กลัวหนาว? ไม่ชอบอากาศเย็น? จากคุณ : ปิติ99 - [ 29 ธ.ค. 48 18:21:51 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ก่อนพูดคุยกันว่าอะไรเกิดขึ้นบ้างเมื่ออากาศเย็นลง     เราลองมามองดูไปทั่ว ๆ ก็จะพบว่าไม่ใช่ปลาทั้งหมดที่มีปัญหา แต่กลับพบว่า......ปลาส่วนหนึ่งนอกจากไม่มีปัญหาแล้วกลับแลดูสวยงามขึ้นทั้งสีสัน และความสมบูรณ์แข็งแรง หรือว่าปลาบางส่วนไม่กลัวหนาว???.....ทั้งที่เป็นปลาชนิดเดียวกัน เกิดอะไรขึ้นกับปลากลุ่มนี้ อย่างที่ทราบกันว่า"คน"เรานั้นเป็นสัตว์เลือดอุ่น นั่นหมายถึงว่าอุณหภูมิของร่างกายของเราจะไม่เปลี่ยนแปลงไปตามอุณหภูมิของอากาศ ดังนั้นเมื่ออากาศเย็นลง  เราจึงพบว่าคนเราไม่ว่าจะอยู่ที่ส่วนใดของโลก...ล้วนมีความจำเป็นต้องป้องกันตัวจากอากาศที่เย็นลงในหลายๆวิธี  ทั้งการสวมเครื่องป้องกัน และการรับประทานอาหารที่ให้พลังงานเพิ่มขึ้น สัตว์เลือดอุ่นอื่น ๆ เช่นหมีขั้วโลก ธรรมชาติก็จะสร้างให้มันมีขนที่ยาว ชั้นไขมันที่หนาเพื่อป้องกันตัวจากอากาศที่หนาวเย็น จากคุณ : ปิติ99 - [ 29 ธ.ค. 48 18:25:57 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ส่วน"ปลา"นั้นเป็นสัตว์เลือดเย็น...จึงไม่มีความจำเป็นต้องได้รับสารอาหารเพิ่มขึ้นในฤดูหนาว แต่ปลาหลายๆตัวกลับแสดงอาการกินน้อยลง และการที่ปลาหลาย ๆ ตัวกินน้อยลง นี่เองหลายๆท่านจึงอาจเข้าใจไปว่าเป็นธรรมชาติของปลาที่จะกินน้อยในฤดูหนาว ทั้งที่จริงแล้วการที่ปลากินน้อยลงในขณะที่อากาศเย็นลงนั้น.....เกิดจากการเปลี่ยนแปลงและปัจจัยบางประการทั้งในส่วนของสิ่งแวดล้อมและของตัวปลาเอง ปัญหาหลาย ๆ อย่างที่เกิดกับการเลี้ยงปลาสวยงามนั้นล้วนมีจุดตั้งต้นมาจากเรื่องของคุณภาพของน้ำในบ่อเลี้ยงที่มีเนื้อที่จำกัด และเรื่องของโภชนาการ(สารอาหาร)ของปลาทั้งสิ้น จากคุณ : ปิติ99 - [ 29 ธ.ค. 48 18:29:55 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เกิดอะไรขึ้นกับปลาของท่านบ้างเมื่ออากาศเย็นลง 1. การเปลี่ยนแปลงของค่าทางเคมีต่างๆของน้ำ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่ออากาศเย็นลงคือ...การที่ออกซิเจนละลายน้ำได้ดีขึ้นมาก   ซึ่งการที่ออกซิเจนละลายน้ำได้มากขึ้นนั้นส่งผลทั้งในด้านที่"ดี"ในกรณีที่บ่อหรือตู้มีความพร้อม และก่อให้เกิด"ปัญหา"ได้กับบ่อหรือตู้ที่ไม่มีความพร้อม สำหรับตู้ที่มีความพร้อมนั้นหมายถึง....ตู้ที่มีระบบกรองที่มีประสิทธิภาพและได้รับการดูแลที่ดี ปลาที่สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดี...(อันเป็นผลมาจากการคุณภาพน้ำที่ดีและได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน) ในกรณีเช่นนี้....ออกซิเจนที่ละลายได้มากขึ้น แม้จะส่งผลให้ค่า pH สูงขึ้นก็ไม่ได้ส่งผลใด ๆ กับปลา  แต่กับทำให้ปลามีชีวิตชีวามากขึ้น สีสันดีขึ้น เราจึงพบว่าปลาบางส่วนสวยขึ้นและน่ามองขึ้น..เมื่ออากาศหนาวมาเยือน และถ้าจะเปรียบไปก็เหมือนเราขึ้นไปยืนสูดอากาศบริสุทธิ์บนที่สูงยามอากาศเย็นลง.......ซึ่งสามารถรับรู้ได้ถึงความสดชื่นที่ได้รับ จากคุณ : ปิติ99 - [ 29 ธ.ค. 48 18:36:21 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แต่สำหรับตู้ที่ไม่มีความพร้อมแล้ว...ผลลัพธ์กลับเป็นไปในทางตรงข้าม กล่าวคือปลาไม่ได้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง--(อันเป็นผลมาจากคุณภาพน้ำและอาหารที่ไม่ดี) ในกรณีเช่นนี้สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่ออากาศเย็นลงและออกซิเจนละลายน้ำได้เพิ่มขึ้นมากส่งผลให้ค่า pH สูงขึ้น ซึ่งค่า pH ที่สูงขึ้นนี้เองนอกจากอาจทำให้เกิดภาวะ shock pH กับปลาที่อยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมได้แล้ว ยังส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงกับค่าทางเคมีและชีวะหลายประการ กล่าวคือ สำหรับบ่อหรือตู้ที่คุณภาพน้ำไม่ดีจะมีแอมโมเนีย(NH3)หลงเหลืออยู่ซึ่งบางส่วนอาจอยู่ในรูปของ"แอมโมเนียมไอออน(NH4+)" ถ้าค่า pH ของน้ำในขณะนั้นไม่สูงเกินไป จะทำให้แอมโมเนียมไอออนนี้มีความเป็นพิษน้อยกว่าแอมโมเนียอยู่มาก แต่เมื่อออกซิเจนละลายได้ดีขึ้นมากส่งผลให้ค่า pH สูงขึ้น แอมโมเนียมไอออนที่หลงเหลืออยู่จะถูกเปลี่ยนไปเป็นแอมโมเนีย ส่งผลให้มีความเป็นพิษสูงขึ้นมาก ประกอบกับสุขภาพของปลาที่ไม่ดีอยู่แล้ว...ปัญหาต่าง ๆ จึงเกิดขึ้นได้เช่น เหงือกบาน, ปลาไม่ยอมกินอาหาร เป็นต้น นอกจากนี้ในสภาพที่ออกซิเจนละลายน้ำได้เพิ่มขึ้น ประกอบกับมีเศษอาหารที่หลงเหลืออยู่นี้...ยังส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของแบคทีเรียที่มีอยู่ทั้งหมด...ไม่ว่าจะแบคทีเรียส่วนที่เป็นประโยชน์ หรือแบคที่เรียที่ก่อให้เกิดโรค(pathogen) ในสภาพแบบนี้การเพิ่มขึ้นของแบคทีเรียที่มีประโยชน์อาจไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก...เนื่องจากความไม่พร้อมของระบบและขาดการดูแล ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคนั้น...เมื่อปลาไม่ได้อยู่ในสภาพที่มีภูมิต้านทานที่ดี ก็จะทำให้เกิดโรคต่าง ๆ อันเป็นผลมาจากการติดเชื้อได้หลายโรค หลายประการ ที่พบเห็นได้มากคืออาการเกล็ดตั้งหรือเกล็ดพอง จากคุณ : ปิติ99 - [ 29 ธ.ค. 48 18:42:35 ]

ความคิดเห็นที่ 6 2. การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ โดยปกติแล้วน้ำมีความสามารถในการป้องกันการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิได้ดีระดับหนึ่งเมื่อเทียบกับอากาศ อย่างไรก็ตาม...เมื่ออากาศเย็นลงปริมาณน้ำที่น้อยไม่ว่าจะในบ่อเลี้ยงและในตู้ปลาทำให้อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงได้เร็ว ซึ่งถ้าปลาไม่อยู่ในสภาพที่แข็งแรงแล้ว ก็ย่อมเกิดอาการผิดปกติต่างๆได้ง่าย เรื่องของการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมินี้...ไม่เฉพาะที่เย็นลงเท่านั้นที่ก่อให้เกิดปัญหา แต่น้ำที่อุณหภูมิสูงขึ้นก็ก่อให้เกิดปัญหาเช่นกัน ดังจะเห็นได้ว่าก่อนการลงปลาทุกครั้งจึงมีความจำเป็นต้องทำการปรับอุณหภูมิระหว่างน้ำในถุงใส่ปลากับน้ำในตู้ปลาก่อนทุกครั้ง.......เพื่อสร้างความคุ้นเคยให้กับปลาในเบื้องต้น กรณีเช่นนี้ก็คงไม่ต่างจากคนเรานัก กล่าวคือคนที่สุขภาพไม่ดีย่อมเจ็บป่วยได้ง่าย ๆ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของดินฟ้าอากาศไม่ว่าจะเย็นลง, ร้อนขึ้น หรือแม้แต่เมื่อฝนตก จากที่กล่าวมาในเบื้องต้นจะเห็นได้ว่า....แท้จริงแล้วยามที่อากาศเย็นลงไม่ได้เป็นปัญหาโดยตรงของการเลี้ยงปลา เป็นแต่เพียงทำให้ต้องมีการดูแลที่มากขึ้น และถ้าตลอดเวลาก่อนเข้าสู่การเปลี่ยนฤดูเรามีระบบกรองที่ดีและได้รับการดูแลอย่างดี ในขณะที่ปลาที่เลี้ยงได้รับสารอาหารต่างๆอย่างครบถ้วนแล้ว....ก็จะพบได้ว่าฤดูหนาวของบ้านเราซึ่งอุณหภูมิมิได้ต่ำมากเหมือนในประเทศเขตหนาว เป็นฤดูที่เราจะเห็นความสวยงามที่เพิ่มขึ้นของปลาที่เลี้ยง แทนการเห็นปลาที่เลี้ยงไว้ป่วย หรือมีปัญหา และหลายๆท่านคงรอคอยการมาถึงของฤดูหนาวเพื่อจะได้ชื่นชมความงามของปลาที่เลี้ยงไว้แทนที่จะกลัวการมาถึงของฤดูหนาวอย่างที่เคยเป็นมา จากคุณ : ปิติ99 - [ 29 ธ.ค. 48 18:50:26 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ในเรื่องของโภชนาการของปลานั้น....ผู้เลี้ยงปลาสวยงามเป็นจำนวนมากมักคำนึงถึงปริมาณของโปรตีนและไขมันเป็นด้านหลัก ไม่ได้คิดถึงเรื่องของวิตามินและเกลือแร่ต่างๆซึ่งถือเป็นสารที่มีความต้องการเล็กน้อย....แต่ส่งผลต่อสุขภาพและความสมบูรณ์โดยรวมของสิ่งมีชีวิตในหลาย ๆ ด้าน ปลาบางส่วนมองดูภายนอกอาจจะดูว่าสมบูรณ์ดี แต่แท้จริงแล้วการคาดคะเนความสมบูรณ์ของปลาในพื้นที่เลี้ยงขนาดเล็กนั้นทำได้ค่อนข้างยาก หลาย ๆ ท่านจึงมักสรุปโดยดูจากการกินของปลาเป็นหลัก  ซึ่งยังคงมีความคลาดเคลื่อนได้ ภาวะที่ปลาแสดงออก....ยามเมื่อเข้าสู่การเปลี่ยนฤดูกับเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีกว่ามาก แท้จริงแล้วความสุขอันเกิดจากการเลี้ยงปลานั้น ย่อมมาจากความสุขที่ผู้เลี้ยงให้กับปลานั่นเอง เพราะลำพังการเลี้ยงปลาไม่ให้ตายนั้นไม่ยาก  และสามารถให้ความสุขกับผู้เลี้ยงได้ในช่วงสั้นๆเท่านั้น แต่การเลี้ยงปลาให้มีความสวยสมบูรณ์นั้นยากกว่ามาก แต่ให้ความสุขและความท้าทายในการเลี้ยงมากกว่าและยาวนานกว่ามากนัก แต่ผู้เลี้ยงปลาเป็นจำนวนมากมักถอดใจก่อนที่จะมาถึงจุดนี้ จากคุณ : ปิติ99 - [ 29 ธ.ค. 48 18:54:54 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เป็นอย่างไรครับ....บทความนี้   โดยส่วนตัว...ผมเห็นว่า..มีประโยชน์มากกกกกเลยครับ เอาเป็นว่า...ผมขอสรุปสั้น ๆ ดังต่อไปนี้นะครับ หลัก ๆ แล้ว...สุขภาพปลาที่ดีนั้น..เกิดจาก (ก)คุณภาพน้ำที่ดี...ก็มาจากระบบกรองที่ดี (ข)ได้รับสารอาหารต่าง ๆ ครบถ้วน เมื่ออากาศเย็นขึ้นก็จะทำให้อ๊อกซิเจนละลายในน้ำได้มากขึ้น  ทำให้ค่า ph เพิ่มขึ้น   ถ้าตู้นั้น..มีระบบกรองไม่ดีพอ  แอมโมเนียไอออนที่หลงเหลือในตู้..จะเปลี่ยนรูปไปเป็นแอมโมเนีย ทำให้เกิดความเป็นพิษในน้ำในตู้ รวมทั้งอาจจะเกิดสภาวะ ph shock กับปลาในตู้  และยังรวมถึงสภาพที่แบคทีเรียทั้งดีและร้ายเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วในตู้ ดังนั้น...ระบบกรองที่ดี และได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ..จึงเป็นสิ่งสำคัญมากกกกกกกกกกในการดูแลปลา ในส่วนของโภชนาการของปลา...สารอาหารต่าง ๆ นั้น..มีความสำคัญมาก  ไม่ว่าจะเป็น..ไขมัน โปรตีน เกลือแร่ วิตามิน   (ไม่ใช่แค่ตัวไหนตัวหนึ่ง) ดังนั้นถ้าผู้เลี้ยงที่ดูแลปลาจนมีสุขภาพดีแข็งแรง  ก็จะพร้อมที่จะชื่นชมความสวยงามในช่วงที่มีการเปลี่ยนฤดู หรือในช่วงฤดูหนาวได้ไม่ยาก แต่สำหรับปลาที่มีสุขภาพไม่สมบูรณ์...แน่นอนครับว่าในช่วงเปลี่ยนฤดูหรือฤดูหนาว  ผู้เลี้ยงก็คงต้องเผชิญกับปัญหาที่เกิดขึ้นนนนนนน ปล.  เป็นบทความที่สรุปได้ยากมากกกเลยครับ เพราะสำคัญทั้งนั้น ^_^' จากคุณ : ปิติ99 - [ 29 ธ.ค. 48 19:15:56 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณมากครับป๋า99 ชอบรูปop6 มากครับ จากคุณ : ณ.สร. - [ 29 ธ.ค. 48 19:27:36 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เยี่ยมมาก ครับ กระทู้นี้ ภาพประกอบ สวย ใส เนียน ยอดเยี่ยมจริงๆ ครับ จากคุณ : OMEGA 3 - [ 29 ธ.ค. 48 19:56:43 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นด้วยกับสองท่านด้านบนครับ ภาพสวย เนื้อหาดีครับเฮีย จากคุณ : ครูเม้ง ณ login ภรรยา (ยอดหญิงนักชิม) - [ 29 ธ.ค. 48 20:08:42 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ตามมาอ่านกระทู้ดีๆมีสาระ จากคุณ : Ta-Tar - [ 29 ธ.ค. 48 21:47:38 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณครับ สำหรับ ข้อมูลดีๆ ที่มีให้กับห้องนี้เสมอมา จากคุณ : ระเบิดทราย - [ 29 ธ.ค. 48 22:33:44 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณครับ  ต้องเซฟๆๆ จากคุณ : BlueZambia - [ 30 ธ.ค. 48 00:00:52 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณคร๊าบบบพี่ สำหรับบทความดีๆ จากคุณ : haow - [ 30 ธ.ค. 48 00:10:10 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณที่นำบทความดีๆมาให้อ่านครับ จากคุณ : DANG DK - [ 30 ธ.ค. 48 00:20:11 ]

ความคิดเห็นที่ 17 บทความนี้   ให้ความรู้สึก   เหมือนคนที่พี่ปิติเคยเอามาให้อ่านครั้งที่แล้วเลย ขอบคุณครับพี่   ที่เอาความรู้มาฝาก ^^ คนที่เขียนแบบนี้ได้   เขารู้และเข้าใจปลาจริงๆ เลย   เก่งจังครับ จากคุณ : poj89 - [ 30 ธ.ค. 48 00:51:15 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณครับ จากคุณ : Blue Tang - [ 30 ธ.ค. 48 01:12:19 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เข้ามาอ่านบทความและกระทู้ดีดีครับ จากคุณ : airkrab - [ 30 ธ.ค. 48 01:19:47 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เยี่ยมมากๆเลยครับ พี่ปิติ ได้สาระมากๆ จากคุณ : off38 - [ 30 ธ.ค. 48 02:26:14 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ครับ จากคุณ : ปติวรตา - [ 30 ธ.ค. 48 08:41:03 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณคร้าบบบ  ;) จากคุณ : spec *tum* - [ 30 ธ.ค. 48 09:07:43 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เยี่ยมจริง ๆ ครับ ได้รู้อะไรเพิ่มขึ้นเยอะเลย จากคุณ : อิงค์-ออม - [ 30 ธ.ค. 48 09:19:54 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณครับ สำหรับบทความดีๆ และภาพประกอบสวยๆ ผมชอบ รูป OP 5 มากครับ จากคุณ : ฉลามหางไหม้ - [ 30 ธ.ค. 48 09:26:36 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณมากเลยครับ ผมเข้าใจเลยครับเพราะระบบกรองของบ่อผมไม่ดีเท่าควร 2วันก่อนเลยทำให้ผมเสียอราไพม่าทั้งคู่เลย เสียใจมาก................... จากคุณ : thetook (thetook) - [ 30 ธ.ค. 48 09:30:39 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เป็นบทความส่งท้ายปีที่ดีเยี่ยมเลยครับพี่ จากคุณ : nu_gap - [ 30 ธ.ค. 48 09:59:09 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สุดยอดเลยครับพี่ปิติ จากคุณ : jira_p - [ 30 ธ.ค. 48 10:02:05 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณครับ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : คนหลังสวน - [ 30 ธ.ค. 48 10:15:08 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เยี่ยมครับ กะทู้มีสาระเป็นของขวัญปีใหม่ แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 48 10:16:50 จากคุณ : Dragonnorth - [ 30 ธ.ค. 48 10:16:01 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เยี่ยมจริงๆครับคุณปิติ เป็นผู้ที่ให้ตลอดมาเลยนะครับ จากคุณ : JJ (ลูกเฟิร์น) - [ 30 ธ.ค. 48 10:58:07 ]

ความคิดเห็นที่ 31 แวะมาสวัสดีปีใหม่ครับ......^_^ จากคุณ : ปู่ (pop_pu) - [ 30 ธ.ค. 48 11:08:16 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณครับพี่ ^_^ จากคุณ : Danny Boy - [ 30 ธ.ค. 48 12:33:37 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เป็นบทความที่ดีครับ ได้ความรู้ และ มุมมองใหม่ใหม่ครับ ^_^ จากคุณ : e20ngx - [ 30 ธ.ค. 48 12:35:29 ]

ความคิดเห็นที่ 34 บทความเยี่ยมเลยคับ จากคุณ : lord of the ลิง - [ 30 ธ.ค. 48 12:43:56 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ^___________________^ very good จากคุณ : m (aromania88) - [ 30 ธ.ค. 48 14:39:02 ]

ความคิดเห็นที่ 36 โอย หนักครับท แบกความรู้กลับบ้าน อิอิ ขอบคุณครับเฮีย จากคุณ : มังกรเพลิง - [ 30 ธ.ค. 48 14:42:12 ]

ความคิดเห็นที่ 37 สาระเยอะดีครับ ภาพประกอบก็สวย สรุปเจ้าหมูอินโดนี่ต้องเลี้ยงในบ่อให้โตก่อนเอามาลงตู้ เพราะจะทำให้เค้าโตเร็วกว่าเลี้ยงเฉพาะในตู้ใช่ไหมครับเนี่ยยย จากคุณ : LuiJiNo - [ 30 ธ.ค. 48 14:55:19 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เยี่ยมค่ะ แน่นปึ้กจริง ๆ แวะมาหาความรู้ ทักทาย และอยากเห็นรูปหลาน ๆ เจ้าค่ะ ฮี่ ๆ จากคุณ : น้ำเจ้าค่ะ - [ 30 ธ.ค. 48 21:36:32 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ได้ความรู้มากๆเลยครับ พี่ปิติ จากคุณ : g_abac - [ วันสิ้นปี 09:22:15 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณครับเฮ๊ย หวัดดีปีใหม่ครับ จากคุณ : bowlingko - [ วันสิ้นปี 19:50:00 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณมากเลยครับ สวัสดีปีจอ ๒๕๔๙ ครับ จากคุณ : J.สุริน169 - [ วันปีใหม่ 09:00:40 ]

ความคิดเห็นที่ 42 มาตอบช้าไปนิด แต่มาช้ายังดีกว่าไม่มา อิอิ ขอบคุณมากครับพี่ ได้ความรู้ดีดีเพิ่มอีกแล้ว ^________________^ จากคุณ : bta_crazy - [ 2 ม.ค. 49 07:14:40 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณมากๆครับสำหรับบทความดีๆและ ภาพประกอบที่สวยมากครับ จากคุณ : แกะแหนม - [ 3 ม.ค. 49 10:56:44 ]

ความคิดเห็นที่ 44 สุดยอดกระทู้เลยครับ เคยอ่านมาตั้งแต่ในพันทาว พอมีภาพประกอบของพี่ปิติ ทำให้ดูสุดยอดกว่าเดิมอีก ขอบคุณบทความดีๆและรูปสวยๆครับ จากคุณ : หัวหน้าใหญ่ - [ 5 ม.ค. 49 09:52:42 ]