CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ***เรื่องเล่าแท็กซี่นิวยอร์ก***(เรื่องตลก.. ใครตดในรถผม)

    นานมาแล้วครับ เมื่อผมยังเด็กอยู่เลย ผมเคยได้ยินที่แถวบ้านปักษ์ใต้บ้านผม เขาเล่ากันมา
    ถึงเรื่อง สาวสวยผู้ดีสุดยอดกุลสตรีนางหนึ่ง ที่ได้ก่อเรื่องเศร้า ดับชีวิตตัวเองด้วยการผูกคอตาย
    สาเหตุก็แค่กับการที่คิดว่า ได้ทำให้เกิดความอับอายแก่ตัวเอง ต่อหน้าผู้คน
    ก็คือ นางสาวคนนี้ แกเกิดต้องมีอันให้ผู้คนในที่สาธารณะนั้น ได้เห็นรูปกายท่อนล่างของเธอ
    โดยตัวเองไม่ได้มีเจตนาจะเผย หล่อนสรวมกระโปรงนิวลุกทันสมัย ของสมัยนั้น
    ลมแรงจากเครื่องบินสี่เครื่องยนต์ในท่าอากาศยาน
    พาพัดสบัดโบกให้กระโปรงนิวลุกของเธอเลิกขึ้นสูง สุดปัญญาที่จะเอามือเอาแขนป้องปิดได้หมด
    และเป็นกรรมเวรอะไรก็ไม่รู้ เธอไม่ได้นุ่งอันเดอร์แวร์เสียด้วย
    ส่วนเนื้อแท้ๆท่อนล่าง เป้าของเธอ ก็ปรากฎ กลายเป็นเป้าของสายตาทุกคนในบริเวณนั้น
    โดยเฉพาะเหล่าคุณผู้ชาย ทั้งข้าหลวง ทั้งปลัดจังหวัด นายหัว นายเหมือง เห้นกั่นหม้ด ห้ายต่ายโห้ง
    และผู้มีชื่อเสียงของจังหวัดทั้งหลาย รวมถึงไอ้บรรดาเหล่าผู้ไม่มีเกีรยติ ที่บังเอิญยืนอยู่แถวๆนั้นด้วย
    โอ้ หัวอกปาหนันบุหลันบุหงาย่าหยาแห่งแดนใต้เอ๋ย จะอยู่เฉยให้อายผู้คนเขาไย
    สิ่งพึงสงวน มิได้ด่วนจะให้ใครชม  กลับมาโดนลมจากดาโกต้าพาให้บัดสี
    เมื่อกลับถึงอั่งหม่อหลาว หรือบ้านใหญ่ในเมือง ก็หาเชือกมาผูกศอคอสาว
    ทิ้งไว้แต่เรื่องราวกล่าวขาน แข่งกับเรื่องสะพานรักสารสิน ให้ได้ยินกันทุกวันนี้
    ผมได้ยินเรื่องนี้ตอนที่ความคิดนึก ยังเป็นเด็กอยู่นะ
    ผมก็ว่า อือม์ อี่ส้าวปักษ์ใต้บ้านเรานะ ช่างรักศักดิ์รักศรีดีจริงๆ หากต้องอายก็ขอตายเสียดีกว่า
    แต่พอผมโตมา กลับไปคิดถึงเรื่องนี้ ผมก็ว่า อี่สั่วเต้งนั่นสมควรตาย
    โถ แค่เรื่องให้คนเห็นจุ๋มจิ๋มโดยอุบัติเหตุก็ฆ่าตัวตาย
    แล้วแบบนี้ แกจะไปทนอยู่สู้ชีวิต สู้โลกที่มีเรื่องราวฉาวโฉ่ มาได้ถึงสมัยนี้ทั้งดีทั้งร้ายได้อย่างไร
    สมัยนี้นะพวกผู้หญิงเขามีดีต้องโชว์ เขาไม่ค่อยแคร์กันแล้วว่าใครจะมองอะไรของเขา
    ไม่มองเขาเสียเลย นี่แหละเขาจะอายเสียมากกว่า
    มันต้องเป็นแบบที่เรียกกันว่า สาวมั่น สาวให้สุด อะไรประเภทนั้นแหละ
    ผู้หญิงเด๋วนี้ เขาเรอ เขาตดให้ได้ยินกัน ก็ไม่เห็นถือเป็นเรื่องเอาเป็นเอาตายแล้วนะ
    เขามีวิธีที่ทำให้ตัวเองดูไม่แย่มากด้วย หลายวิธี
    เช่นยิ้มหวานพร้อมกับกล่าว ขอโทษนะคะ วันนี้ระบายลมดีคะ เพิ่งทานนมไปคะ
    หรือ Excuse me หลังที่เรอออกมา เรอเบอเริ่มแล้วทำหน้าเฉยในลิฟท์
    พูดถึงเรื่องคนในลิฟท์นี่ ผมนึกได้ตอนผมทำงานโรงแรมหนึ่งก่อนนี้ นานหลายปีแล้ว
    ก็ครั้งที่ทำคู่กับไอ้โฮเซ่ น้องชายประธานาธิบดีประเทศหนึ่งไงครับ จำกันได่บ่
    มีคนงานแผนกแม่บ้านเฮาส์คีพปิ้ง คนหนึ่งครับ ก็คนมาจากประเทศที่พูดภาษาสเปนิช อีกแหละ
    ไอ้หมอนี่เราให้ฉายามันว่า UNA BOMBER
    ฉายาเหมือนนายคนที่วางระเบิดตึกที่เมืองโอคลาโฮม่าเลย โดนประหารไปแล้วครับ
    ไอ้นายจอมระเบิดของผม ที่ชื่อมารีโอ นี่ นับว่ามันมีพรนรกพรสวรรค์อย่างหนึ่ง
    คือมัน "สั่งได้" ครับ สั่งตัวเอง ต้องการให้ตูดตัวเอง ตด ตอนไหนก็ได้ ที่มันต้องการ
    ไม่รู้ลำใส้เครื่องในมันพิกลพิการหรือเปล่าก็ไม่รู้ได้
    บางที่มันจะแกล้งพวกเราตอนอยู่ในลิฟท์กันหลายคนทั้งผู้หญิงผู้ชายปนกันไป
    คนที่จะขึ้นไปชั้นไหน ต่างก็รอคอยให้ถึงที่ชั้นที่ต้องการ ต่างคนต่างรอ นิ่ง และเงียบ
    แล้วสักครู่ทุกคนในลิฟท์นั้น ก็จะได้กลิ่นเหม็นบรรลัย ทนดมกันไป ด่ากันไป ยูพิก ยูชิต ยูดิสคัสติ้ง
    เรารู้กันว่า ต้องเป็นไอ้มารีโออีกแล้ว หากประเภทภัยเงียบนี่ โคตรเหม็นเลยละครับ
    วันไหนหากเป็นพวกผู้ชายล้วนๆขึ้นลิฟท์กันไป มันก็จะอัดด้วย ภัยจากเสียง ปู้ดๆ จากตูดของมันลั่น
    แล้วเราก็จะยกเท้ายกทีนไปเตะตูดมัน พร้อมเสียงด่า ยู เมียร์ด๊า ก่าล๊าโฮ้ ทำนองนั้น
    หุหุ พวกสแปนิชนี่ มันชอบอาหารพวกถั่วๆกันด้วยนิ  RICE AND BEAN
    เอ้อ มันชอบกินผ้าขี้ริ้ว เครื่องในเหมือนชาวเราด้วยนะครับ เรียกกันว่า มอนดองโก้ ครับ
    ผมยังเจ็บใจอยู่ที่ พวกมันไปเจอรูปในหนังสือ คนไทยกินหมา แล้วเอามาให้ผมดู และว่าผมก็กินหมา

    ที่จริงเรื่องมรรยาท เกี่ยวกับการทำอะไรน่าอายนี่ ฝรั่งเขาถือมากๆนะครับ
    เช่นการเรอดังๆ การผายลมดังๆ การหาวการจามไม่ปิดปาก การพูดโดยมีของกินเต็มปาก
    บ้างคนที่ทำอะไรให้เห็นโดยไม่ถูกกาละเทศะนี่ ก็ถูกเรียกเป็น พิก เป็นหมู pig  น่ารังเกียจไปเลย
    แต่ในที่ที่สำหรับปลดทุกข์ เช่นในห้องน้ำนี่ มันแบบว่า ฝรั่งมันไม่แคร์ใครนะ
    มันจะตดเสียงลั่นขณะที่ยืนฉี่ หรือ เบ่งขี้แล้วตดปู้ดป๊าดเสียงเหมือนโถส้วมจะแตกไปด้วย
    มันไม่มาทำเม้มๆค่อยๆตดเบาๆ เบ่งขี้เบาๆ เหมือนเราๆคนไทยนะ
    และไม่ต้องหันหน้ามามองเราแบบเกรงใจเราด้วย
    อือม์ พูดก็พูดเถอะมันก็แฟรงค์ดีนะ ยอมรับว่าระบบขับถ่ายนะมันก็เป็นเรื่องสำคัญ
    แต่ก็ขึ้นอยู่กับกาละเทศะด้วยนะ จะเรียกว่าวัฒนธรรมการขับถ่ายของฝรั่งเป็นอย่างนี้ก็ได้ครับ

    ผมและพวกเพื่อนๆทั้งหญิงทั้งชาย สมัยหนึ่งชอบไปเล่นที่คาสิโน ที่Atlantic City
    พอมีใครที่รู้จัก ทั้งเพื่อนทั้งญาติมาจากเมืองไทย ก็จะอาสาพาไปเที่ยวไปเล่นพนันกันที่นั่น
    ก็ส่วนมากจะขับรถกันไปนะครับ ไปกันหลายคนสนุกดี ได้คุยได้โม้กันในรถ
    มีครั้งหนึ่งครับ มีญาติทางฝ่ายแฟนผม ฝากให้ช่วยเทกแคร์ คุณนายภรรยานายพลตำรวจใหญ่สมัยนั้น
    คุณนายมากับเพื่อนคุณนายอีกสองคน ผมก็โอเคครับ ท่านอยากไป ผมก็พาไปด้วยแท็กซี่เที่ยวพิเศษ
    ทางด่วนที่ขับไปนะครับ พอมาถึงช่วงหนึ่ง เลยสนามบิน Newark อ่านว่าน๊วกนะครับ ของนิวเจอร์ซี่
    มีโรงงานแก๊สใหญ่ ตั้งอยู่บริเวณนั้น เราผ่านประจำจึงรู้ดีว่า ถึงตรงนี้จะได้กลิ่นเหม็นร้ายกาจ
    กลิ่นเหมือนไข่เน่า เหมือนตดที่ไม่ได้รับการขับถ่ายมาหลายวัน น่าอ๊วกนะครับ หุหุ
    ผมนี่ก็ชักสนุกและชอบใจ พี่คุณนายของตำรวจใหญ่อยู่นะ ชอบที่แกไม่ถือตัว ติดดิน มีอารมณ์ขันด้วย
    เมื่อผมขับรถมาถึงใกล้ๆโรงงานแก๊สนั้น ผมก็เอ่ยถาม คุณนายเลยครับ
    "อ้าว นั่งกันมาดีๆใครตดละครับ พี่ศรีตดใช่ไหม "
    ผมหันไปดู คุณนายพี่ศรี ก็เห็นแกทำหน้า แบบไม่รู้ไม่ชี้ แต่มียิ้มๆ
    ก็พอดีกับที่กลิ่นจากโรงงานแก๊ส เริ่มระเหยเข้ามาในรถแล้วละครับ
    เหม็นมากๆ เลย เหมือนไข่เน่า ทุกคนในรถพากันสบัดหน้า ปิดจมูก
    ผมได้ยินพี่ศรีเอ่ยมาว่า "พี่ขอโทษนะน้อง ท้องพี่ไม่ค่อยดีเลยวันนี้"
    ผมหัวเราะ แล้วบอกว่า "ไม่เป็นไรครับ เรื่องปกติธรรมดา"
    แต่คุณนายอีกสองคนที่มาด้วยกัน ต่อว่าพี่ศรีกันใหญ่เลย
    "เธอนี่ ทำไมตดเหม็นยังงี้หา กินไรมาฮ๊า"
    หุหุ ทำไมบังเอิ๊ญๆ ได้ถึงปานนั้นหว่า ตอนวันที่แกจะกลับนะครับ
    ผมแอบถามแกว่า "วันนั้น พี่ศรีตดจริงๆหรือเปล่าพี่"
    พี่ศรีตอบว่า" อือม์ พี่ตดจริงๆแต่ไม่คิดว่า มันจะเหม็นขนาดนั้น บ้าจังเลย"
    ผมเลยบอกให้แกรู้ว่า ไม่ใช่กลิ่นตดของคุณนายหรอกครับ เป็นกลิ่นจากโรงงานแก๊สนะครับ
    เป็นถึงคุณนายนายพลตำรวจใหญ่ หากตดเหม็นขนาดนั้น แย่ตายเลย หมดราศีผู้ดีนะจะบอกให้
    อ่านเรื่องนี้แล้ว อยากอ๊วกกันไหมเอ่ย  ปู๊ดๆๆๆๆๆๆๆ ขอผมไปขี้ก่อนนะครับ

    อีกตอนเดียว ตอนหน้านี่ เรื่องราวแท็กซี่ของผมก็คงจะมาถึงบทจบแล้วละครับ
    ผมเห็นว่า เรื่องราวเมื่อผมขับแท็กซี่นิวยอร์กอยู่นั้น ก็คงไม่มีอะไรที่น่าจะมาเล่าสู่กันฟังแล้วครับ
    เพราะเป็นแค่ธรรมดาๆ ไม่มีอะไรน่าสนใจมาก  นอกนั้นก็รับคนนั่ง แล้วถึงที่หมายจ่ายตังค์
    หากจะเขียนให้ดูเกินจริงก็จะเป็นนิยายไม่น่าเชื่อไป ผมไม่ถนัดการเขียนแบบนั้นครับ
    ที่เขียนมานานได้ถึงตอนนี้ ก็เพราะเขียนเหมือนเล่าด้วยปากกันนะครับ เลยผมต้องขอโทษด้วย
    หากมีการใช้คำที่ไม่เหมาะสม หรือไม่เป็นเหมือนงานประพันธ์ที่คนเขียนหนังสือทั่วไปเขามีกัน

    จากคุณ : smartupid - [ 16 ม.ค. 49 17:54:40 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป