เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ แถลง
เกี่ยวกับขั้นตอนและบริการในการขอวีซ่าไปสหรัฐฯ ที่สะดวกขึ้น
สำหรับผู้ขอวีซ่าในประเทศไทย
ณ สถานทูตสหรัฐอเมริกา
วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม 2549
เวลา 14.00 น.
นาย ราล์ฟ แอล. บอยซ์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาได้จัดแถลงข่าวเกี่ยวกับขั้นตอนใหม่ในการขอวีซ่าไปสหรัฐฯ สำหรับผู้ที่ขอวีซ่าในประเทศไทยที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาในวันนี้ ตามระบบใหม่ซึ่งจะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการบริการนี้ ผู้ขอวีซ่าจะสามารถเลือกวันสัมภาษณ์เองได้และมาที่แผนกกงสุลสหรัฐฯ เพียงครั้งเดียวเท่านั้น นอกจากนี้ ผู้ขอวีซ่ายังสามารถสอบถามเกี่ยวกับเรื่องวีซ่าได้ทางโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ที่พูดภาษาไทยและภาษาอังกฤษ สถานทูตสหรัฐฯ ยังได้เพิ่มสาขาที่ทำการไปรษณีย์ซึ่งรับชำระค่าธรรมเนียมในการยื่นคำร้องขอวีซ่าเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ขอวีซ่าด้วย
ในพิธีแถลงข่าว เอกอัครราชทูตบอยซ์กล่าวว่า เรายังคงมุ่งมั่นที่จะอำนวยความสะดวกแก่การเดินทางเข้าสหรัฐฯ อย่างถูกต้องตามกฎหมายต่อไป และพยายามที่จะทำให้กระบวนการขอวีซ่าสะดวกสบายยิ่งขึ้น
ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคมศกนี้เป็นต้นไป ผู้ขอวีซ่าชั่วคราวทุกคนจะสามารถใช้เว็บไซต์และ Call Center เพื่อขอข้อมูลด้านวีซ่าและนัดวันสัมภาษณ์ได้ทางอินเตอร์เน็ตหรือโทรศัพท์ โดยบริการใหม่ทางเว็บไซต์และ Call Center นี้จะทำให้ผู้ขอวีซ่าสามารถเลือกวันและเวลาในการสัมภาษณ์วีซ่าด้วยตนเอง ผู้ที่ขอข้อมูลและจองวันสัมภาษณ์ผ่านทางอินเตอร์เน็ตจะต้องเสียค่าธรรมเนียม 10 ดอลลาร์ ส่วนผู้ที่ขอข้อมูลและจองวันสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับเจ้าหน้าที่ที่พูดภาษาไทยจะต้องเสียค่าธรรมเนียม 18 ดอลลาร์
ในขณะที่เว็บเพจและระบบอีเมลของสถานทูตฯ ยังคงให้ข้อมูลทั่วไปด้านวีซ่าและตอบคำถามจากผู้ขอวีซ่าที่สอบถามมาทางอีเมลโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอยู่เช่นเดิม แต่ตามระบบใหม่ที่จะเริ่มใช้นี้ ผู้ขอวีซ่าจะสามารถสอบถามจากเจ้าหน้าที่ผู้รับโทรศัพท์ที่จะตอบคำถามเป็นภาษาไทยได้ โดยจะต้องเสียค่าบริการพิเศษในส่วนนี้
นอกจากขั้นตอนการขอวีซ่าที่สะดวกขึ้นแล้ว ผู้ขอวีซ่าที่ได้รับการอนุมัติไม่ต้องมารับหนังสือเดินทางคืนจากแผนกกงสุลที่กรุงเทพฯ หรือกงสุลใหญ่เชียงใหม่อีกต่อไป หนังสือเดินทางทุกเล่มจะถูกส่งคืนโดยระบบไปรษณีย์ด่วนของการไปรษณีย์แห่งประเทศไทย ซึ่งหมายความว่าผู้ขอวีซ่าจะเสียเวลามาที่แผนกกงสุลเพียงครั้งเดียว สถานทูตสหรัฐฯ การไปรษณีย์แห่งประเทศไทยและซิตี้แบงค์ได้เพิ่มสาขาที่ทำการไปรษณีย์ซึ่งรับชำระค่าธรรมเนียมในการยื่นคำร้องขอวีซ่าจากเดิม 156 สาขาเป็น 247 สาขาทั่วประเทศในขณะนี้
เอกสารข้อเท็จจริง
ขั้นตอนและบริการการขอวีซ่าในประเทศไทย
ในวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2549 สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาจะเริ่มใช้ระบบข้อมูลวีซ่าและขั้นตอนการนัดวันสัมภาษณ์ที่ใช้ทั่วประเทศ ผู้ประสงค์ยื่นขอวีซ่าจะต้องทำการนัดหมายโดยผ่าน บริการเว็บไซต์และ Call Center สำหรับข้อมูลด้านวีซ่าและจองวันสัมภาษณ์ ทางอินเตอร์เน็ตหรือทางโทรศัพท์ ในการใช้บริการนี้ ท่านต้องซื้อรหัสประจำตัว (PIN) ทางอินเตอร์เน็ตหรือทางโทรศัพท์โดยหักเงินทางบัตรเครดิตหรือจ่ายเงินผ่านที่ทำการไปรษณีย์ที่ร่วมโครงการ เมื่อใช้รหัสประจำตัว (PIN) ท่านจะสามารถหาข้อมูลด้านวีซ่าและจองวันสัมภาษณ์เพื่อขอวีซ่าชั่วคราวสำหรับสมาชิกในครอบครัวที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันไม่เกิน 5 คน
เปรียบเทียบบริการทางเว็บไซต์และบริการทางโทรศัพท์ (Call Center)
บริการทางเว็บไซต์ บริการทางโทรศัพท์ (Call Center)
จองวันสัมภาษณ์เพื่อขอวีซ่าชั่วคราวสำหรับสมาชิกครอบครัวที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันไม่เกิน 5 คน จองวันสัมภาษณ์เพื่อขอวีซ่าชั่วคราวสำหรับสมาชิกครอบครัวที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันไม่เกิน 5 คน
ค่าธรรมเนียม 400 บาท ค่าธรรมเนียม 720 บาท
ไม่ได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ โดยตรง ติดต่อกับเจ้าหน้าที่โดยตรง
ข้อมูลหาอ่านได้ทางอินเตอร์เน็ต เจ้าหน้าที่ตอบคำถามต่างๆ ของท่าน
บริการตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ทุกวันไม่เว้นวันหยุด บริการเวลา 08.00 17.00 น. วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ยกเว้นวันหยุดราชการไทย
ภาษาที่ใช้: ไทยและอังกฤษ ภาษาที่ใช้: ไทยและอังกฤษ
สามารถเข้าเว็บไซต์ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งภายในเวลา 90 วันหลังซื้อรหัสประจำตัว (PIN) หรือ 10 วันหลังวันนัดสัมภาษณ์ ขึ้นอยู่กับว่าเวลาใดมาถึงก่อน โทรติดต่อสอบถามได้ 2 ครั้ง
สามารถยกเลิกและขอนัดสัมภาษณ์ใหม่ได้ 2 ครั้ง สามารถยกเลิกและขอนัดสัมภาษณ์ใหม่ได้ 1 ครั้ง
การซื้อรหัสประจำตัว (PIN)
ทางอินเตอร์เน็ตหรือทางโทรศัพท์ ท่านสามารถซื้อรหัสประจำตัว (PIN) ได้โดยตรงทางเว็บไซต์หรือผ่าน Call Center โดยใช้บัตรเครดิต Visa หรือ MasterCard รหัสประจำตัว (PIN) นี้สามารถใช้ได้ทันที
บริการทางเว็บไซต์:
ที่อยู่เว็บไซต์: http://thailand.us-visaservices.com
บริการทางโทรศัพท์ (Call Center):
หมายเลขโทรศัพท์: 001-800-13-202-2457
ที่ทำการไปรษณีย์ ท่านสามารถใช้เงินสดซื้อรหัสประจำตัว (PIN) ณ ที่ทำการไปรษณีย์ที่ร่วมโครงการ รหัสประจำตัว (PIN) นี้สามารถใช้ได้หลังเวลา 13.00 น. ในวันทำการถัดไป
ขั้นตอนใหม่ในการขอวีซ่า
1. ชำระค่าธรรมเนียมในการยื่นคำร้องขอวีซ่าเป็นเงิน 4,000 บาท ณ ที่ทำการไปรษณีย์ที่ร่วมโครงการ ตามสาขาต่างๆ ที่ระบุใน http://bangkok.usembassy.gov/services/visa/NIVChecklist.pdf
2. ซื้อรหัสประจำตัว (PIN) ได้โดยตรงทางเว็บไซต์หรือผ่าน Call Center โดยใช้บัตรเครดิต หรือใช้เงินสดซื้อรหัสประจำตัว (PIN) ณ ที่ทำการไปรษณีย์ที่ร่วมโครงการ
o บริการรหัสประจำตัว (PIN) ทางเว็บไซต์ ค่าธรรมเนียม 400 บาท หรือ
o บริการรหัสประจำตัว (PIN) ทางโทรศัพท์ ค่าธรรมเนียม 720 บาท
3. จองวันสัมภาษณ์ทางเว็บไซต์หรือทางโทรศัพท์สำหรับสมาชิกครอบครัวที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันไม่เกิน 5 คน (สามี ภรรยา บิดา มารดา บุตร พี่หรือน้อง)
4. หาข้อมูลจาก
o เว็บเพจของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา และสถานกงสุลฯ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ http://bangkok.usembassy.gov/services/visa/index.htm และ http://bangkok.usembassy.gov/consulcm/
o อีเมลถึง visabkk@state.gov และ conschiangmai@state.gov โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
o เว็บไซต์เพื่อให้ข้อมูลด้านวีซ่าและจองวันสัมภาษณ์ ภายในเวลา 90 วันหลังซื้อรหัสประจำตัว (PIN) สำหรับบริการข้อมูลด้านวีซ่าและจองวันสัมภาษณ์ทางเว็บไซต์
o Call Center เพื่อให้ข้อมูลด้านวีซ่าและจองวันสัมภาษณ์ สามารถโทรศัพท์ติดต่อสอบถามได้ 2 ครั้ง เมื่อซื้อรหัสประจำตัว (PIN) สำหรับบริการข้อมูลด้านวีซ่าและจองวันสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์
5. เตรียมเอกสารและรูปถ่ายตามที่กำหนด
6. เฉพาะผู้ขอวีซ่าที่จังหวัดเชียงใหม่ ซื้อซองไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ณ ที่ทำการไปรษณีย์แม่ปิง ราคา 50 บาท
7. ไปที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา หรือสถานกงสุลฯ ตามวันเวลาสัมภาษณ์ที่นัดหมาย
8. เฉพาะผู้ขอวีซ่าในกรุงเทพมหานคร ซื้อซองไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ที่สถานทูตฯ ราคา 50 บาท
9. หนังสือเดินทางส่งคืนทางไปรษณีย์ภายใน 3 วันทำการ
จากคุณ :
onearth
- [
24 ม.ค. 49 14:55:40
]