ความคิดเห็นที่ 1 ผมรู้สึกว่าเหมือนประเทศถูกขายไปครับ จากคุณ : Isvasu - [ 25 ม.ค. 49 11:28:37 A:71.114.100.41 X: TicketID:105627 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ดีใจด้วยครับ   แต่ติดใจนิดนึงว่า  ใครเป็นคนออกความคิดแก้กฏหมายให้ต่างชาติถือหุ้นในกิจการโทรคมนาคมได้ 49% จริงหรือเปล่าที่กฏหมายบังคับใช้ 8 นาฬิกา  ยอด big lot ส่ง 11 นาฬิกา จากคุณ : GTi 16V - [ 25 ม.ค. 49 11:28:43 ]

ความคิดเห็นที่ 3 โดยส่วนตัวรู้สึกว่าเราเปิดประเทศมากเกินไปหรือเปล่า เพราะดู ๆ แล้วเนี่ย สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของเรา ถูกต่างชาติเข้ามาเป็นเจ้าของหมดแล้วค่ะ ธนาคารต่าง ๆ ของเราก็เป็นลูกครึ่งทั้งนั้นเลย กลัวว่าซักวันนึง รัฐบาลจะแก้กฎหมายให้ชาวต่างชาติมาซื้อที่ดินในเมืองไทยโดยเสรีค่ะ กลัวลูกหลานเราไม่มีแผ่นดินจะอยู่ค่ะ ห่วงอนาคตจริง ๆ ค่ะ ตอนนี้เริ่มไม่อยากให้มีการแปรรูปแล้วค่ะ เพราะถ้าไม่แปรรูป ก็เป็นของคนไทยค่ะ แต่แปรรูปไปแล้ว กลัวว่าจะถูกขายไปเป็นของต่างชาติหมดค่ะ จากคุณ : หมูหวาน - [ 25 ม.ค. 49 11:33:46 ]

ความคิดเห็นที่ 4 รู้สึกเหมือนเจ้าของกระทู้ที่ 1 เปี๊ยบค่ะ รู้สึกว่า ความ "พอ" ของแต่ละคนช่างแตกต่างกันเหลือเกิน บางคนมียี่สิบล้านแล้วพอ บางคนมีเป็นหมื่นล้านยังไม่พอ แล้วยังทำให้คนที่เขามีพออยู่พอกินมีความสุขตามอัตภาพเกิดความอยากได้อยากมีเพิ่มขึ้นอีก รู้ จากคุณ : flymom - [ 25 ม.ค. 49 11:40:35 ]

ความคิดเห็นที่ 5 รู้สึกว่า ประเทศเราไม่ใช่บ้านที่เราเคยรู้จัก คนจน คนทำงาน ซื้อขายอะไรเสียภาษีทั้งนั้น แต่ซื้อขายหุ้นขนาดใหญ่แบบนี้ เม็ดเงินมากขนาดทำให้ อัตราแลกเปลี่ยนของประเทศเราแข็งขึ้นได้ขนาดนี้ แต่ภาษีกลับไม่ต้องเสีย ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรต่อ น่ากลัวจัง จากคุณ : mrs.night owl - [ 25 ม.ค. 49 11:48:28 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ดีครับ สมมุติเรามีหนึ่งบริษัท ขายสิงคโปร์ไป เราก็ได้เงินมาตั้งบริษัทที่สอง ประเทศไทยก็จะมีบริษัททำธุรกิจสองบริษัท การจ้างงานก็เพิ่มเป็นสองเท่า เมื่อมีงานเพิ่มการจับจ่ายก็เพิ่มตาม เศรฐกิจก็เติบโต คนจนก็น้อยลง ส่วนที่กลัวว่าต่างชาติเข้ามาเป็นเจ้าของหมด มันก็ขึ้นอยู่ว่าเราขายเขาแล้วเอาเงินที่ได้มาทำอะไร ถ้าเราเอาไปใช้อิรุ่ยฉุยแฉะมันก็หมดละครับ แต่อย่างนี้จะไปโทษเค้าก็ไม่ได้เพราะเราทำตัวเราเอง ถ้าเราเอาไปลงทุนเพิ่มให้ผลมันงอกเงยมันก็ไม่ต้องกลัวหมดใช่ไม๊ครับ จากคุณ : Tisco fan - [ 25 ม.ค. 49 11:50:57 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ในแง่ธุรกิจ ผมว่าเป็น smart move โดยเฉพาะถ้าเอาทุนที่ได้ไปลงทุนใน Singtel อีกทีนึง เพราะสิงคโปร์เทเลคอมนี่ก็ไปกว้านซื้อหุ้นบริษัทมือถือซะทั่วภูมิภาค อย่าง Globe Telecom ในฟิลิปปินส์นี่ก็ Singtel ถือหุ้นอยู่ หรือแม้กระทั่ง Optus ในออสเตรเลีย (เมื่อก่อนเป็นของ Cables & Wireless) นี่ Singtel เป็นเจ้าของ 100% เลย แรกๆก็มีกระแสต่อต้านจากคนออสเตรเลียเหมือนกัน พอมีหุ้นใน Singtel แล้ว ถ้าเค้าได้ ผู้ถือหุ้นก็ได้กำไรด้วย (มั้ง) จากคุณ : บูมเมอร์ - [ 25 ม.ค. 49 12:23:56 ]

ความคิดเห็นที่ 8 I don't know what is he going to do with the money krub.... So it should primarily depend on that..... If he spends the money on domestic investments, this purchase would positively benefit Thailand's economy in general.... Otherwise, anyone can expect the consequences. จากคุณ : amatuer translator - [ 25 ม.ค. 49 12:29:11 ]

ความคิดเห็นที่ 9 การจ้างงานอาจเพิ่มมากขึ้นจริง  แต่คนไทยก็ได้แค่ค่าจ้างซึ่งก็ไม่ได้สูงมากนัก  แต่กำไรจำนวนมหาศาลของบริษัทโทรคมนาคมกลับถูกส่งออกนอกประเทศ   อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ  จะถูกหรือผิดก็ไม่แน่ใจ  แต่ถ้าใช่ก็น่าเศร้าคะ จากคุณ : กาวน้ำ - [ 25 ม.ค. 49 12:35:28 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เป็นของๆเค้าคับ เป็นเรื่องของเค้าที่จะขายนะผมว่า ถ้าพวกเรารักชาติ เรามีทางเลือกที่จะใช้ยี่ห้ออื่นกันนะครับ อย่างเกาหลีงัย ใช้เวลาฟื้นฟูชาติแป็บเดียวเอง(แม้ตอนนี้ฟุบไปอีกแล้ว เพราะผู้นำห่วย) แต่อย่างว่า ผมไม่รู้ข่าวนี้แบบลึกๆ ขออภัยถ้าเข้าใจอะไรผิดไป จากคุณ : PaLLMtOgO - [ 25 ม.ค. 49 12:41:53 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เป็นเพราะกลัวว่าสัมปทานโทรศัพท์ที่มีอยู่กำลังจะหมด และไม่มั่นใจหรือเปล่าครับที่ว่าจะต่อสัมปทานใหม่ได้ ก็เลยต้องขายทิ้งก่อน ผมเห็นด้วยกับ คคห. 8 ครับว่าต้องดูว่าเอาเงินไปทำอะไร เงินมากมายขนาดนั้นคงไม่เก็บไว้เฉยๆแน่ กลัวเหลือเกินว่าจะไปซื้ออะไรที่เราคาดไม่ถึง อย่างพวกไฟฟ้าอะไรทำนองนี้ครับ จากคุณ : NorthHill - [ 25 ม.ค. 49 12:44:21 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แม่ค้าส้มตำยังเสียภาษี แล้วเป็นถึงระดับนายกรัฐมนตรีจะหลีกเลี่ยง ..... เฮ้อ !?! จากคุณ : Coconut Dance - [ 25 ม.ค. 49 12:44:58 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ตามปกติ ของธุรกิจ ครับ ผมว่าไม่เห็นแปลก  แต่ที่แปลกคือ เจ้าของกระทู้ ตั้งกระทู้ แค่อ่านก็รู้  อยู่ฝ่านตรงกันข้ามกับนายกแล้ว แล้วความที่ต้องการให้คนอื้นแสดงความคิดเห็นนะ ไม่เหมาะสม ครับ คนไกลส่วนใหญ่  ที่อยู่ไกลบ้านจริง ครึ่งหนึ่งหน้าจะเป็น นักเรียน  สิบเปอเชนต์หน้าจะเป็นนักธุรกิจ อีก สิบเปอเชนต์ น้าจะเป็น คนงานที่เป็น โรบิน และไม่เป็น อย่างละใกล้เคียงกันนะครับ ส่วนที่เหลือ น่าจะ เป็นแม่บ้าน  ทั้งได้แต่งและแต่งชั้วคราว   ไม่มีข้อมูลที่แท้จริง อ่านจากรายงานการวิจัยทางสังคมของนักศึกษาที่ทำวิทยานิพน ระดับ ป เอก ของญี่ปุ้น สังคมไทยในญี่ปุ่น  ที่อื้นท่านใดมีข้อมูลก็แบ่งกันมาอ่านบ้างนะครับ (เฉพราะ ที่ใช้อ้างอิ้งทางวิชาการของนักเรียนเท่านั้นที่นำเสนอ ไม่ใช่สถิติทางราชการ) จากคุณ : รักประเทศไทย (ดอกจานในแดนซากุระ) - [ 25 ม.ค. 49 13:03:21 ]

ความคิดเห็นที่ 14 การซื้อขายหุ้นเป็นเรื่องธรรมดาของนักลงทุน แต่ไม่ชอบใจที่ ทักษิณ ชอบทำอะไรที่มันหลบๆเลี่ยงๆ อ้อมๆ ซุกๆ เหมือนกำลังทำอะไรผิดอยู่ กลัวคนอื่นเขาจับได้ ยกตัวอย่าง สุดสัปดาห์ ก็บินไปสิงคโปร์ทั้งครอบครัว โดยอ้างว่าขอพักผ่อนกับครอบครัวตามประสา ไม่อยากให้นักข่าวรบกวน แต่จริงๆแล้วคือไปเจรจาธุรกิจกับนักลงทุนสิงคโปร์ มันทำอะไรตรงไปตรงมา ไม่ค่อยจะเป็น ถนัดแต่หลบๆเลี่ยงๆ ซุกๆซ่อนๆ จากคุณ : ช่างไฟ - [ 25 ม.ค. 49 13:08:41 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ผมเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่าเราจะไม่เห็นผลกระทบใด ๆ ต่อเศรษฐกิจของประเทศในช่วงที่ทักษิณยังอยู่ในอำนาจแน่นอน  น่าจับตามองจริง ๆ ว่าทักษิณกำลังคิดอะไรอยู่ และกำลังทำอะไร  ส่วนเรื่องการเปิดถือหุ้นไม่เกินครึ่งโดยต่างชาตินั้น คงเป็นไปตามกระแสโลก ฝืนยาก และการลงทุนมันเสี่ยงทั้งนั้นแหละ ระบบการแข่งขันและกลไกทางการตลาดคงจะเป็นตัวถ่วงดุลย์กระแสทุนภายนอกอีกทีหนึ่ง นี่พูดตามประสาคนรู้เรื่องเศรษฐศาสตร์น้อยมาก และไม่มีข้อมูลว่าหุ้นบริษัทที่เขาซื้อนั้น มี market share ในไทยเท่าใด แต่หากถามใจลึก ๆ แล้ว ผมไม่กังวลเรื่องหุ้นมากนักหรอก มันมีขึ้นมีลง และมันเป็นเหมือนฟองสบู่ เป็นภาพลวงตา ถึงแม้มันจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจระดับมหภาค แต่ผมเห็นว่า หากชาวบ้านร้านช่อง ทำมาหากิน อยู่ได้ด้วยตัวเอง อย่างมั่นคงและเพียงพอ ตามแนวที่ในหลวงได้ทรงแนะให้ได้แล้ว ตลาดหุ้นมันจะขึ้นจะลง กระดูกสันหลังเราก็คงไม่หักง่าย ๆ   ผมหวังว่าทักษิณจะใช้โอกาสที่เหลือ ทำในสิ่งที่จะทำให้รากของสังคมไทย (คือคนจนและคนชั้นกลางระดับล่าง) ซึ่งรวมแล้วเป็นคนส่วนใหญ่ของชาติ มีฐานชีวิตที่มั่นคงขึ้นอย่างแท้จริงและยืนยาว  จากนั้น อะไรจะเกิดก็คงเป็นไปตามวัฎจักรของเศรษฐกิจทั้งในประเทศและของโลกครับ ส่วนตัวแล้ว ผมกำลังจับตาว่าทักษิณจะทำอะไรต่อไป กับเงินที่ได้มา  (แม้ว่าจะเป็นเงินในนามของลูกก็ตาม) จากคุณ : piangdin - [ 25 ม.ค. 49 13:14:26 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คนที่บอกว่า การขายหุ้นของทักษิณไม่เสียภาษี แสดงว่าไม่เข้าใจเรื่องการลงทุนในตลาดหุ้น การซื้อขายหุ้นแบบนี้ มันไม่ต้องเสียภาษีอยู่แล้ว ตรงนี้เป็นไปตามกฏหมายทุกอย่าง ไม่ผิด แต่ที่เป็นปัญหาคือ สิงคโปร์เป็นชนชาติที่ดูถูกคนไทยอย่างมาก มากๆๆๆๆๆ ทำไมขายให้นักธุรกิจสิงคโปร์ ไม่รู้คิดอะไรอยู่ จากคุณ : TaksinLand - [ 25 ม.ค. 49 14:25:33 A:151.196.128.227 X: TicketID:072648 ]

ความคิดเห็นที่ 17 จะมาบอกเหมือนที่คุณ ช่างไฟพูด เหมือนกัน เพราะการทำอะไรที่ดูให้เคลือบแคลงนี่ น่าอึดอัดมากสำหรับคนทั่วไป   คนทั้งประเทศนี่จะไปรู้เรื่องหุ้น เรื่องกฎหมายกันหมดคงยากนะครับ แล้วนายกคนนี้ แกก็มีหัวทางธุรกิจเสียมากๆ กับการที่พยายามเอาให้ได้ กับเสียงเกือบสี่ร้อยในสภา ทำไมต้องทุ่มขนาดนั้น แค่เกินครึ่งก็มากแล้ว นี่ไม่มีใครจะมาคัดค้านเรื่องที่จะเอื้อประโยชน์ เรื่องออกกฎหมายมาช่วยพวกที่กุมเศรษฐกิจของประเทศเลย มันยากนะครับ ที่จะทำให้ดูโปร่งใสจริงๆ เพราะตระกูลตัวแกเอง และวงค์ญาติ ก็ได้ผลแต่ดีไปหมด โปรโมทพี่น้องมาเป็นบิ๊กหมดทั้งทางทหาร และตำรวจ พวกพ้องวงศ์ญาติเต็มไปหมด ผมไม่ชอบวิธีการออกข่าวของแกด้วย ใครที่ไม่เห็นด้วยกับความคิดตัวเอง จะดูไม่ดีไปหมด การได้เป็นรัฐบาลด้วยความถูกต้อง จากเสียงส่วนใหญ่ก็จริงอยู่ครับ แต่ประชาชนหกสิบห้าล้านหักออกไปสิบเก้าล้าน ไม่มีสิทธิ จะไม่ชอบแกได้นะครับ ผู้นำน่าจะต้องมีสามัญสำนึก และละอายใจบ้างหากการทำไรนั้น ได้ดีแต่พวกตัว จากอำนาจล้นฟ้าที่เกื้อหนุนอยู่ จากคุณ : smartupid - [ 25 ม.ค. 49 15:22:10 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นด้วยกับพี่ช่างไฟพูดครับ ทำไมชอบทำอะไรน่าสงสัยก็ไม่รู้ แต่ผมว่าการซื้อขายมันทำได้อยู่แล้วตามกฎกติกาที่มีอยู่ สิ่งที่ต้องระวังต่อไปคือเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภค กับเรื่องความมั่นคง (เพราะโทรคมนาคมเป็นสาธารณูปโภคพื้นฐานสำคัญ) จากคุณ : Tony Almeida - [ 25 ม.ค. 49 16:01:48 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่ชอบค่ะ ไม่ชอบที่โกหก ทำตัวไม่เหมือนกับว่าเป็นนายกอยู่ ปลิ้นปล้อน ตลบแตลง เป็นคนโตที่ไม่น่านับถือ จริงหรือที่ขายเพื่อที่จะมาบริหารประเทศได้อย่างเต็มที่ ท่านทำให้เราสำนึกอยู่เสมอว่า เงินมีอำนาจจริง ๆ น่าสังเวชใจ ประเทศไทยจะเป็นยังไงต่อไป จากคุณ : mkmefeelblue - [ 25 ม.ค. 49 16:10:37 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ถามห้องนี้ดีแล้วค่ะ ไปราชดำเนินก็คงไม่ได้คำตอบจริงๆ โดยหน้าม้ารบกวนกระทู้ เราอยากพูดจากใจเลยว่า ถ้ามีเงินเจ็ดหมื่นล้านแ้ล้ว ไม่สามารถอาศัยอยู่บนแผ่นดินเกิด แผ่นดินที่เติบโตมา ได้อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ยอมมีเงินน้อยกว่านั้นดีกว่าค่ะ จากคุณ : ตาน - [ 25 ม.ค. 49 16:46:06 A:81.165.227.113 X: TicketID:019698 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คุณ : รักประเทศไทย (ดอกจานในแดนซากุระ) บอกไปตรงๆก็ได้ ว่าคุณเป็นพนักงาน Shin Statellite จากคุณ : I - [ 25 ม.ค. 49 16:51:09 A:71.114.100.41 X: TicketID:105627 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มะกล้าวิจารณ์เสียแล้วเพราะเป็นแม่บ้านอยู่ต่างแดน ไม่มีข้อมูลที่แท้จริง... จากคุณ : yuy - [ 25 ม.ค. 49 17:45:52 A:58.160.199.90 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23 noone has real info ka, every thing comes from media. use your own judgement what you've seen through media. จากคุณ : tan - [ 25 ม.ค. 49 18:22:58 A:81.165.227.113 X: TicketID:019698 ]

ความคิดเห็นที่ 24 " ดีใจที่รัฐบาลสามารถหลุดออกจากภาพผลประโยชน์ทับซ้อนได้ " ถ้าจะขายทำไมไม่ขายตั้งแต่ก่อนมาเป็นรัฐบาลล่ะแหม จะทำอะไรก็เนียนๆ หน่อยนิดนึง จากคุณ : shory - [ 25 ม.ค. 49 18:34:39 ]

ความคิดเห็นที่ 25 แล้วคุณนายกจะเอาเงินไปกว้านซื้อหุ้นไฟฟ้าอ๊ะป่าวคะ...น่าคิดนะ ถ้ามันมีtechnologyที่สามารถใช้กับสายไฟทั่วประเทศได้... งงมั๊ยนี่ เช่นการสื่อสารผ่านสายไฟฟ้าอะไรแบบนี้อ่ะคะ ถ้าเป็นไปได้ แกไม่เป็น monopoly เจ้าเดียวเลยเหรอ (ได้ยินป๊ะป๋าพูดมาเข้าหูอ่ะ) แต่ว่าไม่ได้แอนตี้นะคะ แค่แอบอิจฉาคุณนายกแก จะทำอะไรๆปล่อยแกไปเหอะ... ปลงแล้วอ่ะ แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 49 18:57:22 จากคุณ : Jolly Joey - [ 25 ม.ค. 49 18:55:41 ]

ความคิดเห็นที่ 26 กรรมใดใครก่อ ผลกรรมตามทันแน่แน่ ช้าหรือเร็วจะรอดู จากคุณ : CYN - [ 25 ม.ค. 49 18:59:10 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เป็นนักเรียนอะ เลยไม่มีข้อมูลที่แท้จริง....มาออกความเห็น แง้วๆๆ จากคุณ : nat_zume - [ 25 ม.ค. 49 22:09:13 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ไม่รุ้ แต่ป้องกันไว้ก่อน ทำไมไม่เลิกใช้ AIS ไปน้า  แต่เราใช้ดีแทค เห้อ ตอนนี้ก้อเป็นของต่างชาติอยุ่ดี จากคุณ : siriporn_bob - [ 25 ม.ค. 49 23:21:16 ]

ความคิดเห็นที่ 29 นาย ก, เนี่ยเค้าเป็นนักธุรกิจที่ฉลาดมากนะ สำหรับเรา เพราะเค้ารู้ลู่ทางว่า อนาคต โทรศัพท์ 3G จะเข้ามามีบทบาท (ระบบ 1900+) ดังนั้นระบบเดิมที่เค้ามี (GSM900-1800)ก็จะตกกระป๋อง ถ้าจะลงทุนต่อเนื่องก็อาจไม่คุ้มค่า เพราะไทยกำลังจะเปิดการค้าเสรี ในอีกไม่กี่ปี ดังนั้น แทนที่จะเอาเงินหลายหมื่นล้านมาพัฒนาระบบ ซึ่งถ้าเมืองไทยเปิดการค้าเสรีเมื่อไหร่ บริษัทยักษ์ใหญ่ในต่างประเทศ ก็จะเข้ามาประกอบการ กำไรที่จะได้ก็จะลดลง ดังนั้นสู้ขายหุ้นทิ้งในช่วงนี้ดีกว่า(ช่วงที่หุ้นขึ้นสูงสุด 400% ในระยะเวลา5 ปี) อันนี้ไม่ใช่แค่เอไอเอส แต่รวมถึงดีแทคด้วย หุ้นที่เกี่ยวกับการสื่อสารกระโดดขึ้นสูงมาก แล้วเอาเงินที่ได้(ส่วนหนึ่งแลกหุ้นสิงคเทลไปแล้ว ส่วนนึงอาจจะใช้เป็นบัญชี nominee โดยแจ้งว่าเป็นกองทุนจากต่างชาติเข้ามาซื้อกิจการในไทยอีกครั้ง แต่คราวนี้ก็เลือกแบบเสือนอนกิน พวกธุรกิจผูกขาด น้ำ น้ำมัน ไฟฟ้า(ถ้าขายได้) หรืออาจเป็นที่ดิน ก็เป็นได้ แต่ข้อข้องใจอยู่ที่ การกตัญญู ของ ลูก ๆ ที่ตัดสินใจขายหุ้น หลังจากที่สภาของคุณพ่อพึ่งออกผ่านกฎหมายให้ต่างชาติถือหุ้นได้มากถึง 50% เพียงสองชม surprise จริง ๆ ค่ะ ไม่เพียงแต่คุณพ่อนะคะ ประชาชน ส่วนใหญ่ ก็ช็อคตาตั้งเหมือนกันค่ะ คือฉลาดเป็นกรดอะ ขายแบบบุคคลธรรมดา มันไม่เสียภาษีแน่ ๆ เลยขาย บิ๊กล็อตซะเลย ส่วนส_รpากรก็เงียบสนิท เผอิญช่วงนี้ ไปนับลูกชิ้นปิ้งของป้าปากซอย เพื่อเก็บภาษีอยู่ จากคุณ : กบนอกกะลา - [ 26 ม.ค. 49 10:32:52 A:68.20.179.255 X: TicketID:015116 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ไม่ใช่เงินเรา เราไม่ยุ่ง จากคุณ : praphrut608 - [ 26 ม.ค. 49 10:36:46 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบอกนะครับ สำหรับความคิดเห็นของ คุณ  เบอร์ ๒๑ ผมไม่ใช่พนักงานของชิน ครับ และไม่ใช่ลูกจ้างห้างร้านใดๆๆ แนะนำว่าคุณควรจะเข้าเรียน ธุรกิจอุสาหกรรมนะครับจะได้เข้าใจ  คุณลองมาศึกษาชิครับในญี่ปุ้นตอนนี้  ธุรกิจสือสาร ธนาคาร  ขนส่ง  ใหญ่เกือบสิบบริษัทเป็นของต่างชาติทั้งนั้น ถ้าคุณอยู่ในแวดวงธุรกิจ  บอกแค่ชื่อ กระดานชื่อในตลาดหลักทรัพย์  ก็ต้องร้องออแล้วครับ คุณไม่ค่อยสร้างสรรเท่าไรนะ  ชอบแดกดันคนอื้นสงสัย เหมาะะที่จะเป็นลูกจ้างเขาตลอดชีวิต(ฝ้ายแค้น) จากคุณ : ดอกจานในแดนซากุระ - [ 26 ม.ค. 49 11:58:40 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ยังมะกล้าวิจารณ์อยู่ดี เดี๋ยวคุณรักประเทศไทย (ดอกจานในแดนซากุระ) จะดุเอาว่าไม่มีข้อมูลจริง ฮ่า ที่มา: ความเห็นเบอร์ 13 จากคุณ : yuy - [ 26 ม.ค. 49 14:04:42 A:58.160.199.90 X: ]

ความคิดเห็นที่ 33 จากการติดตามข่าวที่ออกมาว่าการขายหุ้นของ "นาย ทักษิณ" ไม่ต้องเสียภาษีนั้นถูกต้องอย่างที่กฎหมายเขียนไว้ อันนี้ก็ไม่เถียงหากดูตาม ตัวอักษร ตีความอย่างนิติอักษรศาสตร์ แต่การตีความกฎหมายอย่างที่เราเรียนกันมา อาจารย์พร่ำสอนไว้ การตีความต้องตีความตามเจตนารมย์ของกฎหมาย หากไม่มีเขียนไว้ก็ยังพิจารณาได้จาก จารีตประเพณีและหลักทั่วไป และเหนืออี่นใดคือจริยธรรม ขอยกคำพูดของ อ.ปรีชา สุวรรณทัตที่ปรากฎในข่าว ท่านกล่าวว่า "...จริยธรรมต้องอยู่เหนือกฎหมาย การออกกฎหมาย การตีความต้องหมายถึงจริยธรรม ผมคิดว่าจริยธรรมต้องมีค่าเหนือกฎหมายบ้านเมือง” "...การขายหุ้นชินคอร์ป จำนวนกว่า 73,000 ล้านบาทของครอบครัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยไม่ต้องเสียภาษี แม้จะมีการอ้างว่าได้ทำตามกฎหมายถูกต้องทุกอย่าง" เรามี นายกที่ปกป้องทักษิณ เป็นร่างทรงของกันและกัน (ถอดความจาก นสพ กรุงเทพธุรกิจ กาแฟดำ) คุณ ค.ห. ๓๑ - เรามีความเห็นแตกต่าง คงไม่โกรธกัน (เพราะความแตกต่างเป็นเรื่องปกติของสังคม แม้จะเป็นในสังคม/โลกไซเบอร์) สิ่งที่อันตรายอย่างหนึ่งคือเห็นคนอื่นเขาเป็นอย่างไร ก็เป็นไปตามนั้น ในยุคโลกไร้พรมแดนแน่นอนว่า จำต้องก้าวให้ทันคนอื่น แต่การ "ก้าวย่าง" ไม่จำเป็นต้อง "ก้าวตาม" เขาทุกอย่าง อย่างน้อยสังคมไทยก็แตกต่างจากญี่ปุ่น หรือประเทศอื่นใดในเอเชีย ลองเปรียบเทียบคนไทยกับคนญี่ปุ่นก็มีความแตกต่างมากแล้ว ในแง่ธุรกิจ ก็มีความคิด ระบบ ประเพณีแตกต่างกัน ผู้นำก็แตกต่าง จะมาใช้ระบบเสรี เปิดหมดเลยอย่างนั้นหรือ? โดยส่วนตัวก็รู้สึกโกรธคนไทยด้วยกันที่ว่า เรามีวัฒนธรรมยกย่อง "คนมีเงิน" ทำให้ คนดี ท้อแท้ กับคำพูดที่ว่า "ไม่มีอะไรหรอก เงินมันเยอะ อิจฉานะซิ" เราก็กลับมาคิดนะ ว่าเออ จริงหรือที่อิจฉา? ทุกวันนี้ก็ทำงาน เบื่อเซ็ง อยากรวยเหมือนคนอื่นทั่วๆไป แต่ก็ไม่คิดว่าอิจฉานะ และก็เชื่อว่าหลายคนที่เห็นค้าน ไม่ใช่ว่ามีความอิจฉาแต่อย่างไร ถ้าถามว่า หาก แลกชีวิต กับใครคนหนึ่งได้ในโลกนี้จะเลือกใคร ไม่รู้ซิ ชีวิตคนบางคน ดูแล้วมันก็น่าอิจฉาจริงๆ นะแหละ แต่ถ้าให้เลือกได้จริงๆ คิดว่าไม่มีชีวิตใครที่ดีกว่าที่ต้องการจะแลกด้วยหรอก จากคุณ : us_em - [ 26 ม.ค. 49 16:38:53 A:203.121.178.227 X: ]

ความคิดเห็นที่ 34 Thanks for your comments krub. Generally I kind of get some ideas of what people here think about the deal and mostly agree and respect all of them(exception to one with obviously flawed logic from #13 dorkjan ) จากคุณ : . (B.F.Pinkerton) - [ 27 ม.ค. 49 02:17:17 ]