ความคิดเห็นที่ 1 ถึงแฟนคุณอยู่ก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอกค่ะ เขามีหน้าที่แค่หาเอกสารมาให้คุณเท่านั้นแหละ เวลาสัมภาษณ์ เวลาติดต่ออะไร คุณทำเองทั้งนั้น เขาไม่ได้เรียกแฟนคุณไปสัมภาษณ์ด้วยนะคะ จากคุณ : หมูแดงจ้ะ - [ 30 ม.ค. 49 14:46:32 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่รู้จะให้คำแนะนำได้แค่ไหนนะคะ กรณีของหนูกับของพี่มันออกจะต่างกันอยู่เยอะเลย แต่พี่ว่านะ ไอ้เรื่องจะได้หรือไม่ได้วีซ่าเนี่ย ทั้งหมดทั้งมวลแล้วมันขึ้นอยู่กับ ความสัมพันธ์ระหว่างหนูกับแฟน ว่ารู้จักมักจี่กันมาได้นานหรือยัง พบเจอกกันบ่อยมั้ย แล้วที่สุกคัญที่สุดก็คือ เอกสารของฝ่ายชายอ่ะคะ ว่ามีน้ำหนักมากน้อยแค่ไหน เรื่องของเรื่องก็คือ ฝ่านชายมีความมั่นคงแค่ไหนที่จะเอาภรรยามาอยู่ด้วย มีหน้าที่การงานที่มั่นคงหรือป่าว บ้านข่องห้องหอมีมั๊ย อยู่กับพ่อ-แม่ หรือเช่าเค้าอยู่ หรือบลา..บลา...บลา.... แฟนไม่อยู่ด้วยตอนไปขอวีซ่าก็ไม่เป็นไรค่ะ เค้าไม่ได้ถามอะไรแฟนหนูหรอก ตอนพี่ไปขอ+สัมภาษณ์ พี่ก็ไปคนเดียวค่า... ขอให้โชคดีนะคะ จากคุณ : Matt (Match Point) - [ 30 ม.ค. 49 15:44:39 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ได้ขอวีซ่าที่โน่นค่ะ เลยช่วยตอบไม่ได้ ขอให้โชคดีวีซ่าผ่านไวๆ นะคะ จากคุณ : นู๋ก้อย - [ 30 ม.ค. 49 17:06:18 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มีโครงการจะมาแต่งที่นี่เหรอคะ ถ้ายังไม่ได้คิดจะแต่งงานกัน น่าจะขอวีซ่าท่องเที่ยวมาก่อนระยะเวลาเหมือนกัน(ถูกตังค์กว่าด้วย) เรื่องเรียนไม่มีปัญหาอะไร ถ้าเค้าถามก็ตอบไปตามความจริง เพราะเป็นเทอมสุดท้าย ก็ถือว่าใกล้จบแล้ว แต่ถ้ามีโครงการว่าแต่งงานที่อังกฤษก็ขอคู่หมั้นมาเลยค่ะ คือว่าวีซ่าสองประเภทนี้มันไม่ได้ยากง่ายต่างกันเลย ยิ่งให้แฟนเป็นสปอนด์เซอร์แล้วหายห่วง แต่ต้องมีหลักฐานของแฟนที่รับรองตัวคุณน้องได้นะคะ (เอาไว้ถ้าถามเรื่องเอกสารแล้วจะช่วยเข้ามาตอบอีกที หรือดูจากเวบสถานฑูตได้เลย ตามนั้นเด๊ะๆ) ปล ที่แนะนำวีซ่าท่องเที่ยวเพราะว่า ตอนคุณพี่มาครั้งแรกก็มาแบบท่องเที่ยว(ขอเลยหกเดือนเต็มๆ) เพราะว่ากะจะมาแต่งงานกันที่ไทย  พอกลับมาอีกครั้งก็ขอวีซ่า Settlement มาอีกที เป็นอันว่าจบ การสัมภาษณ์เค้าสัมภาษณ์คุณน้องคนเดียว โดยจะดูจากเอกสารที่ยื่นแนบปายยเท่านั้น รูปถ่ายด้วยกันกะอีเมล์คุยกันหรือจะเป็นการคุยกันผ่านทาง Messenger แนะนำให้ปริ้นแนบไปเป็นหลักฐานด้วย(เพราะสำคัญ) โชคดีจ๊ะ จากคุณ : Massy - [ 30 ม.ค. 49 18:05:28 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ดิฉันก็มาด้วยวีซ่าคู่หมั้นค่ะ เพื่งมาได้ 2 เดือนค่ะกำลังจะแต่งงานเร็วๆนี่ ได้วีซ่า 6เดือน  แฟนก็อยู่ที่อังกฤษค่ะ ถึงมาก็ทำอะไรไม่ได้อ่ะค่ะ ถ้าตุณขอวีซ่าคู่หมั้น เจ้าหน้าที่จะดูเอกสารเท่านั้น โดยเฉพาะของแฟนคุณ สำคัญมากค่ะ ต้องครบ หลักฐานมีอะไรเอาไปให้หมดค่ะ เพราะฉะนั้นเตรียมเอกสารให้พร้อมค่ะ เอกสารใส่ไปให้มากที่สุด ส่วนสัมภาษณ์ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ ดิฉันได้สัมภาษณ์ห้องสัมภาษณ์ห้อง 1 ค่ะ พยายามสบตาเจ้าหน้าที่ไว้นะคะ แต่ดิฉันว่าถ้าเอกสารคุณพร้อม ก็ไม่มีน่าปัญหา อย่าให้ขาดเลยค่ะ เพราะว่ามันจะทำให้คุณเสียเว ลา ดิฉันก็เช็กเอกสารหลายรอบมากกๆเลยค่ะ ส่วนเรื่องเอกสารก็หลังไมมาถามได้ค่ะ จากคุณ : เอาใจช่วยค่ะ (a_rung_a2000) - [ 30 ม.ค. 49 18:53:35 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ลืมบอกไปค่ะก็อย่างที่คุณ Massy ถามอ่ะค่ะคุณต้องหมั่นใจว่าจะมาแต่งงานกันจริงๆ แต่ถ้าจะมาอังกฤษด้วยเหตุผลอื่นก็น่าจะขอวีซ่าอย่างอื่นค่ะ เช่นวีซ่าท่องเที่ยวค่ะ ถ้ามีคำภามอย่างอื่น ถามดิฉันได้ค่ะ ยินดีช่วยค่ะ หลังไมด์มาก็ได้ค่ะ ถ้าจะมาแต่งงานกันจริงๆ ก็ยินดีต้อนรับค่ะ จากคุณ : เอาใจช่วยค่ะ (a_rung_a2000) - [ 30 ม.ค. 49 18:59:12 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เพิ่มเติมค่ะ กรณีที่ไปสัมภาษณ์ คุณไม่ต้องชวนใครไปหรอกค่ะ เพราะว่าไปก็เข้าไปใม่ได้ ต้องนั่งรอที่ป้ายรถเมล์ข้างนอกอ่ะค่ะ คุณเข้าไปคนเดียว ดิฉันเห็นบางคนมาจากต่างจังหวัดเอาแม่อายุ 60กว่าๆมาด้วย แล้วให้ท่านนั่งรอที่ป้ายรภเมล์ เห็นแล้วสงสารค่ะ ขนาดดิฉันได้สัมภาษณ์ 9โมงเช้า แต่ดิฉันไปถึง 6โมงค่ะแบบว่าตื่นเต้นอ่ะค่ะ และก็กลัวรถติดด้วย เพราะถนนสุขุมวิทย์ก็รู้ๆกันอยู่ค่ะ หลัง 7โมงก็ติดยาวเลยค่ะ นี่ก็คือสาเหตุที่ดิฉันไปเช้าค่ะ คิดว่าไปก่อนดีกว่าไปสายค่ะ ออกมาอีกทีก็เกือบ 11โมงแน่ะ ลองคิดถึงคนที่นั่งรอข้างนอกซิคะ เพราะฉะนั้น ไปคนเดียวดีกว่าค่ะ นั่งเท็กซี่ไปก็ได้ค่ะ สะดวกดี จากคุณ : เอาใจช่วยค่ะ (a_rung_a2000) - [ 30 ม.ค. 49 19:10:35 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ส่วนเรื่องเรียน ตุณก็ต้องไปขอให้ทางสภาบันคุณออกหนังสือให้ว่าคุณเรียนจบแน่นอน ดิฉันคิดว่าน่าจะเป็นจดหมายรับรองประมาณนี่อ่ะค่ะ จะช่วยตุณได้มากๆเลยค่ะ และถ้าคุณมีจดหมายนี่ เวลาสัมภาษณ์เขาก็จะไม่ถามอะไรคุณมากมาย แต่ถ้าไม่มีเขาก็จะถาม ๆๆๆๆๆๆ บางทีเขาก็ถามจนคุณจนมุมตอบไม่ได้และก็ไม่ให้วีซ่าคุณ แนะนำว่าควรส่งจดหมายนี้พร้อมกั้บเอกสารในวันยื่นขอวีซ่านะคะ (ถ้าเป็นไปได้)เพราะว่าเอกสารทางการศึกษาเขาจะถามหา แต่ถ้าคุณยังเรียนไม่จบก็แสดงว่าคุณยังไม่มี ก็ใช้จดหมายค่ะ ดีที่สุด จากคุณ : เอาใจช่วยค่ะ (a_rung_a2000) - [ 30 ม.ค. 49 19:20:51 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณพี่ ๆ ทุกคนมาก ๆ เลยนะค๊าสำหรับคำแนะนำ แหมตอนแรก หนูก็เข้าใจผิดคิดว่า จะต้องเอาเจ้าตัวไปยืนยันด้วย กลัวเค้าคิดว่าเราโกหกอ่ะค่ะ ส่วนเรื่องแต่งงาน ก็คงแต่งชัวร์ค่ะ ขอบคุณทุก ๆ คนมากเลยนะค๊า จากคุณ : YipC - [ 30 ม.ค. 49 20:41:39 A:58.9.39.56 X: TicketID:053983 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อ้อ อยากถามพี่ Massy หน่อยค่ะ (ไม่รู่ว่าพี่จะเข้ามาดูอีกรึป่าวน๊อ) ถ้าขอเป็นวีซ่าเที่ยว แบบมีแฟนเป็นสปอนเซอร์อย่างที่พี่แนะนำ แล้วเรายังต้องมี Statement เยอะ ๆ อยู่มั๊ยคะ เพราะหนูก็ยังไม่ได้ทำงานอ่ะค่ะ มีตังค์นิดเดียวเอง ส่วนญาติ ๆ ก็ไม่ได้มีเงินที่เข้าออกตลอดเวลา ส่วนใหญ่จะมีคาอยุ่ในบัญชีมานานแล้วอ่ะค่ะ *คือที่สนใจ เพราะพี่บอกว่า ประหยัดตังค์กว่าอ่ะค่ะ แหะ แหะ :op จากคุณ : YipC - [ 30 ม.ค. 49 20:49:29 A:58.9.39.56 X: TicketID:053983 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เราว่าถ้ามคุณมาวีซ่าท่องเที่ยว ไม่จำเป็นหรอกมั่งค่ะที่เราต้องมีเงินในบัญชีเยอะ ๆๆๆ คนมีเงินในบัญชีมาก ก็ไม่ได้ยืนยันว่าวีซ่าจะผ่าน...เรามาวีซ่าท่องเที่ยวแค่ 2 อาทิตย์ มีเงินเดือนข้าราชการแค่หลักพัน..ยังผ่านโลด...ไม่มีปัญหา...กลับไปไม่ถึง3 เดือน เราก็ขอวีซ่าแต่งงานเลย...เพราะเราแต่งจริง ๆ สัมภาษณ์ แค่ 10 นาที อ้าว..ผ่านฉลุยอีกแล้ว..เราว่าขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ของแต่ละคนมากกว่า ไม่มีใครบอกคุณได้ว่าจะผ่านหรือไม่ เตรียมตัวให้พร้อม เราต้องการทำอะไร มีความจริงใจที่จะทำ ก็ผ่านคะ...โชคดีนะจ๊ะน้องหนู จากคุณ : พฤกษ์รวี - [ 30 ม.ค. 49 21:31:52 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ที่พี่บอกถูกตังค์กว่า เพราะถ้าคุณน้องยังไม่มีโครงการว่าจะแต่งกัน ก็เป็นวีซ่าท่องเที่ยว เพราะราคาต่างกัน วีซ่าท่องเที่ยวสามพันกว่าบาทป่ะตอนนี้(ตอนพี่มาก่อนที่จะเพิ่มค่าธรรมเนียม) ส่วนวีซ่าคู่หมั้นกับsettlement ประมาณหมื่นเก้าพันห้าร้อยบาท (ต่างกันเยอะ อิอิ) ถ้าจะใช้เหตุผลแบบพี่ตอนมาครั้งแรก(มาทำความรู้จักกับครอบครัวญาติพี่น้องเค้าก่อน และมีโครงการแต่งงานกันที่ กทม) ให้แฟนคุณน้องออกจดหมายประมาณนี้ แต่ถ้าอยากได้แนวๆจดหมาย ทิ้งเมลล์ไว้ละกันจ๊ะ เดี๋ยวพี่ส่งไปให้ ส่วนเรื่องเอกสารหน่ะดูจากเวบได้เลย เสตรทเม้นท์ของคุณน้องเอาแนบไปเท่าที่มี(ใช้สมุดบัญชีก็ได้) แล้วขอใบรับรองจากโรงเรียนติดไปด้วยว่า เรียนอยู่ที่นั่นและกำลังรอรับปริญญาหรืออะไรก็ว่าไป เพื่อเป็นการยืนยันว่าที่คุณน้องมีเงินไม่มากเพราะเพิ่งเรียนจบ(เข้าใจใช่ป่ะ) พี่ว่ามันไม่น่ายากสำหรับจดหมายจาก รร คุณน้อง(มันเป็นแค่เอกสารประกอบ) ตัวคุณน้องไม่จำเป็นต้องมีเงินมากเลย เพราะแฟนคุณน้องจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ตอนพี่มาครั้งแรกตลกมากๆ แฟนพี่เงินเดือนก็โอเคที่นี่นะ แต่เผอิญไอ้ตอนที่พี่มาเป็นช่วงที่ตกแต่งบ้านตกแต่งสวนที่บ้านแฟนพี่(เพราะแฟนพี่เค้าอยากให้มันเรียบร้อยก่อนพี่มา) เงินในเสตรทเม้นท์เหลือไม่กี่พันบาทไทย ฮ่า ฮ่า แต่ถ้าย้อนไปดูหกเดือนย้อนหลังก็โอเค เพราะเงินเดือนเข้าจำนวนที่เท่าๆกันอยู่แล้ว(เค้าน่าจะดูจากเงินเดือน) แฟนพี่ก็เลยเขียนจดหมายมาอธิบายว่าเงินทำไมเหลือน้อยในเดือนที่บอก สรุปก็ไม่มีไรมาก สัมภาษณ์สั้นที่เค้าน์เตอร์  ญาติคุณน้องไม่ต้องเอาอะไรมาแนบหรอกค่ะเพราะแฟนคุณน้องเป็นตัวหลักฯ จ๊ะ หลังจากพี่มาอยู่แล้ว ห้าเดือน กลับไปไทยแค่เดือนเดียว (เพิ่งกลับมาเมื่อเดือนที่แล้ว) ก็แต่งงานกันกับแฟน(แฟนพี่ก็ไปเมืองไทยแค่สองอาทิตย์เหมือนกัน) ตัวพี่อยู่ต่อจริงๆแล้วตอนพี่สัมภาษณ์วีซ่าหลังแต่งงาน แฟนพี่ก็ไปด้วยนะ สัมภาษณ์สั้นมากๆๆ แต่พี่สัมภาษณ์ที่เค้าน์เตอร์ค่ะ ไม่ได้เข้าห้องสัมภาษณ์ แต่อีตอนรอวีซ่านี่สิ สัมภาษณ์แค่ห้านาทีได้มั้ง รอเล่มวีซ่าต่อสองชั่วโมงกว่าๆ แฟนรอที่ป้ายรถเมลล์ อิอิ(แต่มีเพื่อนๆรอกันเยอะวันนั้น นั่งจ๋องกันหลายคน) ก็ไม่มีอะไรมาก จากประสบการณ์ ตัวพี่ไม่ได้ทำงานประจำ ไม่มีสลิปเงินเดือนด้วย เค้าก็ไม่ได้ขอเพิ่ม พอดีที่บ้านพี่เป็นบริษัทฯก็แค่ใช้ใบรับรองจากบริษัทฯไปเท่านั้น ก็เหมือนคุณน้องขอใบรับรองจากสถาบันไปด้วยจ๊ะ เอกสารแฟนเอามาให้หมดในเวบจะบอกละเอียดเกี่ยวกับเอกสารคนสปอนเซอร์จ๊ะ http://www.ukvisas.gov.uk/servlet/Front?pagename=OpenMarket/Xcelerate/ShowPage&c=Page&cid=1006977149953 อันนี้สำหรับข้อมูลคนสปอนเซอร์จ๊ะ (ให้แฟนลองอ่านดูนะ) http://www.ukvisas.gov.uk/servlet/Front?pagename=OpenMarket/Xcelerate/ShowPage&c=Page&cid=1006977150088 แหม พิมพ์ซะยาวเลย นี่คุณน้องจะขอวีซ่าท่องเที่ยวเหรอ อ้อ เรื่องรูปถ่ายด้วยกัน แชทคุยกัน อีเมล์หากัน ปริ้นไปให้หมดเลย จากคุณ : Massy - [ 30 ม.ค. 49 21:53:26 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าตั้งใจจะแต่งงานที่นี่แน่ ๆ ขอวีซ่าคู่หมั้นมาดีกว่าค่ะ เพราะถ้าขอท่องเที่ยวมา ก็ต้องกลับไปขอวีซ่าให้ถูกประเภทอยู่ดี มิฉะนั้นจะมีปัญหาตอนขอต่อวีซ่า เพราะท่องเที่ยวก็แค่ท่องเที่ยว ไม่ได้หมายถึงให้ตั้งรกรากอยู่ด้วยกันนะจ๊ะ ขอให้สมหวังในรักนะคะ จากคุณ : บีพี - [ 31 ม.ค. 49 02:25:19 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอถามนิดนึงนะคะ ในกรณีของอีเมล์ หรือ MSN history ที่คุยกันเนี่ย ต้องย้อนหลังไปนานแค่ไหนคะ ถ้าตัดให้อ่านเป็นช่วงๆ ได้หรือเปล่า (อย่างตอนทะเลาะกันก็ไม่อยากให้ใครอ่านนิ) ความจริงยังไม่มีโครงการเป็นของตัวเองหรอกค่ะ แต่อยากได้ความรู้ติดตัวไว้ ไว้ถ้ามีโครงการจริงๆ แล้วคงต้องเข้ามาขอความรู้จากห้องนี้อีกทีนะคะ จากคุณ : jorjor - [ 31 ม.ค. 49 12:50:08 ]

ความคิดเห็นที่ 15 หูย ขอบคุณพี่ Massy มากเลยค่ะ ข้อมูลละเอียดมาก ๆ ตอนนี้หนูยังลังเลเลยค่ะ ว่าจะขอแบบไหนดี ตัวแฟนน่ะอยากแต่งงานค่ะ เค้าพูดประมาณว่าไม่เอาแล้ว long distance relationship มันเศร้า ตัวหนูก็อยากแต่งนะคะ แต่คิดไปคิดมา บางทีก็เกิดปอดแหกกะทันหันน่ะค่ะ กลัวว่า ถ้าอยู่ไปแล้วเข้ากันไม่ได้ล่ะ ถามว่ารักมั๊ย ก็รักค่ะ รักมาก แต่คน 2 คนจะอยู่ด้วยกันมันคงไม่ใช่ความรักอย่างเดียว เง้อ คิดไม่ตก ตอนนี้เลยลองพิจารณาวีซ่าแบบเที่ยวไว้ด้วยค่ะ หนูว่า หนูคงโรคจิตอ่อนๆ น่ะค่ะ คือพอมาคิดว่า เฮ้ย เอาจริงหรอ เพิ่ง 22 เองนะ เพิ่งเรียนจบเอง จะใช้ Mrs. แล้วหรอ มันเลยกลัว ๆ อ่ะค่ะ แต่ก็อยากอยู่กับเค้านะคะ อยากอยู่ด้วยกัน คิดแบบคุณบีพี ก็นะ...เสียเวลาต้องกลับมาอีก ปวดหัวจัง พูดถึง Msn ที่คุยกัน บางช่วงก็หายไปแล้วอ่ะค่ะ ยิ่งช่วงแรก ๆ เพราะบางที คอมเจ๊ง ก็ต้องเอาไป format ใหม่ แล้วอย่างงี้ถ้า แฟนส่งดอกไม้มาให้ตลอด ตั้งแต่ที่จีบใหม่ๆ และเทศกาลต่าง ๆ ทุกปี (สั่งทางเน็ต) แล้วทางร้านเค้าจะถ่ายรูปเราไว้ แล้วเอาไปลงในเว็บ อย่างงี้น่าจะใช้เป็นหลักฐานได้ด้วยมั๊ยคะ เดี๋ยวหนูจะให้แฟนอ่านนะคะพี่ ขอบคุณอีกครั้งมาก ๆ เลย งั้นหนูทิ้งเมลล์ไว้ให้พี่นะคะ ถ้าไม่รบกวนพี่เกินไป พี่ช่วยบอกแนว ๆ จดหมายหนูหน่อยนะคะ จะขอบคุณมากมายเลย saycheese_111@yahoo.com ขอบคุณทุกคนมากเลยค่ะ เดี๋ยวจะไปจับเข่าคุยกันกะแมทว่าจะเอาไงกันดี จากคุณ : YipC - [ 31 ม.ค. 49 15:17:17 A:58.9.39.55 X: TicketID:053983 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ป้องกันการเข้าใจผิดค่ะ คือ เคยเจอกับแฟนมาหลายครั้งแล้วนะคะ แต่ละครั้งเค้าก็อยู่นี่ได้ประมาณ 2-3 อาทิตย์ เวลาแค่ 2-3 อาทิตย์ที่อยู่ด้วยกันที่นี่ ส่วนตัวคิดว่ามันสั้นไปน่ะค่ะ ที่จะเรียนรู้กันทั้งหมด ก็เลยกลัวว่าถ้าไปอยู่ด้วยกันจริง ๆ แล้ว อาจจะไม่เข้ากันหรือเปล่า บลา บลา บลา สารพัดที่สมองอันน้อยนิดจะคิดไปได้อ่ะค่ะ จากคุณ : YipC - [ 31 ม.ค. 49 16:01:27 A:58.9.39.55 X: TicketID:053983 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เรื่องจะแต่งงานย้ายมาอยู่ Uk นี่ลองเข้าไปอ่านที่บล๊อกดิฉันดูได้ค่ะ เรื่อง VISA พึ่งเขียนไว้ให้ ว่าที่แม่บ้าน UK คนใหม่ เผื่อจะเป็นประโยชน์บ้างค่ะ จากคุณ : virgo girl - [ 31 ม.ค. 49 17:45:19 ]

ความคิดเห็นที่ 18 แอบมาอ่านอีกแล้ว (ฮ่า ฮ่า ฮ่า) ตอบคุณ JorJor ให้นะคะ เพราะแฟนดิฉันก็ตัดเอาเป็นช่วงๆค่ะ เพราะตอนที่อยู่เมืองไทยจะคุยกันทาง เอ็มฯทุกวัน(ไม่เว้นวันหยุดราชการ) ของเราจะตัดคำหวานๆๆ(แบบอ๊วกๆ) ออกไป จริงๆถ้ามีตั้งแต่เริ่มคุยกันเลยได้ยิ่งดี ตอนเราขอครั้งแรก การที่ระบุวันเวลาที่คบหาหรือรู้จักกันอ่ะ เราจะทำให้มันสอดคล้องกัน(จริงๆแล้วแฟนเป็นคนจัดการหมดเรื่องเอกสาร) ส่วนคุณน้องยิปซีเดี๋ยวพี่เมลล์ไปให้นะ อ้อ ได้ฟังข้อมูลของคุณน้องแล้วทำให้พี่นึกถึงเพื่อน(เฮ้ย ถ้าแกเข้ามาอ่านก็อย่าว่ากันนะเพราะแค่เป็นไกด์ไลน์ให้น้องเค้า อิอิ) เพื่อนพี่คนนึงเค้าเคยมาอังกฤษแล้วนะ แค่อาทิตย์เดียวเพราะเค้าต้องกลับไปทำงาน แค่มาเที่ยวเฉยๆ หลังจากกลับไปแล้วหลายเดือนผ่านไป ก็มีโครงการจะกลับมาอีกทีแบบอยู่ยาวๆๆ คิดเหมือนคุณน้องยิปซีเนี่ยะแหล่ะ ตอนแรกกะว่าจะขอวีซ่าคู่หมั้น แต่ไปๆมาๆเป็นวีซ่าท่องเที่ยวดีกว่า(เพราะพี่เคยได้มาแล้วแบบครึ่งปี) เค้าก็อยากมาลองคบกันดูก่อนว่าไปกันได้ไหม ตอนนี้เค้าเพิ่งมาได้เดือนนึงมั้ง มาแบบท่องเที่ยว ลาออกจากงาน แฟนรับรองทุกอย่างให้ แน่นอนสถานฑูตเค้าไม่จัยร้ายที่จะพรากคนรักกันให้อยู่ไกลกันหรอก ก็เนาะกลับอีกทีก็ตอนวีซ่าใกล้หมดนั่นแหล่ะ ถ้าเค้าไปกันได้ก็จะกลับไปแต่งงานกันที่โน่น(ไทย) ส่วนคำว่าเสียเวลากลับไปอีกเนี่ยะ(คุณน้องกะว่าจะไม่กลับไปเมืองไทยเลยเหรอคะ อิอิ แซวเล่นๆอ่ะ) ดีที่สุดคือการจับเข่าคุยกัน วีซ่าท่องเที่ยวขออยู่กับแฟนได้หกเดือน ส่วนวีซ่าคู่หมั้นภายในหกเดือนถ้าไม่แต่งก็ต้องกลับมาขอใหม่หรือมาแต่งที่เมืองไทย(ท่องจำไว้ หนึ่งหมื่นห้าพันบาททททท อิอิ) เอออ แต่เราอยากรู้จัง(ถ้ามีคนมาตอบคำถามอีกที) ว่า ถ้าเรามีวีซ่าคู่หมั้นมาจากเมืองไทยแล้ว จ่ายค่าธรรมเนียมไปแล้ว มาที่นี่ยังต้องจ่ายค่าธรรมเนียมอะไรอีกหรือเปล่าน๊า เพราะต้องเปลี่ยนประเภทวีซ่าด้วย  (อยากรู้เฉยๆ) และเรื่องที่คุณน้องยิปซีบอกว่าแฟนส่งดอกไม้หรือของขวัญต่างๆมาให้ ก็ให้แฟนปริ้นอีเมลล์คอนเฟิร์มจากเวบที่ส่งของมาให้ก็ได้นี่ แฟนพี่ก็ใช้ตัวนั้นเหมือนกัน มีไรขนไปหมด ไม่จำเป็นต้องเป็นอีเมลล์คุณน้องคนเดียวก็ได้ ใช้ของแฟนก็ได้ เพราะเมลล์หากัน ของใครก็ได้ เพราะเป็นหลักฐานว่าเป็นแฟนกันจริงๆๆ นะจ๊ะ โชคดีจ๊ะ แล้วจะส่งเมลล์ไปให้นะ จากคุณ : Massy - [ 31 ม.ค. 49 22:42:37 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณคุณ Massy ค่ะ ก็เก็บที่คุยๆ กันไว้บ้างเหมือนกันค่ะ แต่ไม่ค่อยเป็นระบบเท่าไหร่ แถมบางอันก็ไม่มีวันที่ด้วยสิ ต้องเริ่มเก็บให้เป็นเรื่องเป็นราวแล้ว แต่ไม่รู้จะได้ใช้มั้ยเนี่ยสิ : ) จากคุณ : jorjor - [ 1 ก.พ. 49 17:19:13 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ลองเข้าไปดูที่เว็บนี้นะคะ มีข้อมูลค่อนข้างละเอียดมากสำหรับการขอ UK วีซ่า http://thailand-uk.com กำลังจะเดินทางด้วยวีซ่าคู่หมั้นเร็ว ๆ นี้เหมือนกันค่ะ แต่ว่าก่อนหน้านี้เคยไปด้วยวีซ่าท่องเที่ยวมาแล้ว เพราะเหตผลหลาย ๆ อย่างตามที่หลายท่านข้างบนกล่าวกันมานั่นล่ะค่ะ โชคดีนะคะ จากคุณ : ไปด้วย (A Blacksheep) - [ 2 ก.พ. 49 04:32:10 ]