ความคิดเห็นที่ 1 เดิมทีเรากะว่าจะไปเล่นหิมะที่ Snow City ซึ่งเป็นสวนสนุกที่สร้าง หิมะจำลองขึ้นมาให้เด็ก ๆ แห่งเมืองไร้หิมะอย่างสิงคโปร์ได้มีโอกาสสัมผัส และสนุกสนานกับหิมะได้บ้างเหมือนอย่างที่เด็กเมืองหนาวได้มีโอกาสลิ้มลอง ทุกปีเมื่อฤดูหนาวมาเยือน แต่เนื่องจากเมื่อเราไปถึงเจอะคิวยาวมากกกกกกกก ก็เลยต้องถอนตัวอย่างเสียไม่ได้ ประกอบกับเราไม่ได้เตรียมเครื่องนุ่งห่มที่เหมาะสม สำหรับเล่นหิมะอย่างร้องเท้าบู๊ท เสื้อที่ทำด้วยผ้าร่มกันน้ำ หรือ กางเกงผ้าหนา ๆ มาจากเมืองไทย (ข้างในนั้นหนาวมากค่ะ ติดลบเลยล่ะ) ก็เลยคิดว่าวันนี้เวลาและ โอกาสไม่อำนวยแล้วล่ะ ว่าแล้วก็ย้ายกองทัพไปเดินเล่นที่ Science Center ที่อยู่ ใกล้ ๆ กันดีกว่า เผื่อจะมีอะไรน่าสนใจให้ดูบ้าง เมื่อเราเดินไปเรื่อย ๆ ก็จะเจอกับ Kinetic Garden หรือสวนจลนศาสตร์ ก่อนเป็นด่านแรก ที่นี่ไม่จำเป็นต้องเสียบัตรผ่านประตูเข้าไปค่ะ ไปนั่งเล่นพักผ่อน หย่อนใจตามสบายได้เลย ตอนนี้หนุ่มโรบินกำลังเล่นเครื่องเล่นที่ให้แนวคิดเกี่ยวกับแรงดันไฮโดรลิก (Hydrolic Pressure) เป็นยังไงก็ไม่ทราบค่ะ เนื่องจากไม่ถนัดทางด้านฟิสิกส์ ใครจะกรุณามาอธิบายเพิ่มเติมเป็นวิทยาทานก็ต่อได้ในกระทู้ถัดไปนะคะ จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 5 ก.พ. 49 22:15:01 ]

ความคิดเห็นที่ 2 นี่คุณพ่อและคุณลูกกำลังทดสอบแนวคิดของ "เสียงก้อง (Echo) อยู่ค่ะ อุปกรณ์น่ารักเนอะ (เสียงพึมพำกับตัวเอง) เป็นรูปปากสีแดงจัดเหมือนปากเกอิชา อิอิอิ จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 5 ก.พ. 49 22:19:50 ]

ความคิดเห็นที่ 3 หน้าประตูทางเข้าก็จะมีสวนน้ำไว้ให้เด็ก ๆ เล่นแก้ร้อนค่ะ (ดูสิ วันนี้แดดเปรี้ยวเชียว) แต่ต้องเสียกะตังค์เข้าไปก่อนนะคะ ไม่งั้นไม่มีสิทธิ์ได้เล่นน้ำแก้ร้อนกันหรอก สำหรับค่าบัตรผ่านประตูเข้า Singapore Science Center ก็อยู่ที่ 6 เหรียญ   (สำหรับผู้ใหญ่) 3 เหรียญ (สำหรับเด็กที่อายุระหว่าง 3-16 ปี) และพิเศษสำหรับ ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไปก็จะเสียค่าผ่านประตูในราคาเพียง 3.60 เหรียญ เท่านั้นค่ะ จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 5 ก.พ. 49 22:29:10 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ที่หน้าเคาน์เตอร์ขายบัตรเข้าชม Science Center จะมีป้ายประชาสัมพันธ์ OMNIMAX Movie ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่จัดฉายในโรงภาพยนตร์ ที่มีชื่อเฉพาะของเค้าว่า “Omni-Theatre” Omni-Theatre จะเป็นโรงภาพยนตร์ขนาดยักษ์คล้าย ๆ กับโรงภาพยนตร์ IMAX ที่บ้านเรามีที่เมเจอร์ฯ รัชโยธิน (ตอนนี้มีที่ใหม่แล้วที่สยามพารากอนค่ะ) ในขณะนั้นมีภาพยนตร์ขายเทคนิคพิเศษ (เป็นสำคัญ) เข้าฉาย 2 เรื่อง คือ Star Wars (อันนี้จะเป็น The Art of Star Wars นำเสนอว่า เทคนิคด้านภาพที่ปรากฏบน จอภาพยนตร์เค้ามีที่มาที่ไปอย่างไร) และ Harry Potter and the Goblet of Fire จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 5 ก.พ. 49 22:43:02 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สำหรับท่านที่สนใจจะชมภาพยนตร์ก็ต้องซื้อตั๋วเข้าชมแยกต่างหากนะคะ (ไม่ได้ขายบริเวณเดียวกันกับตั๋วเขาชม Science Center) ต้องไปซื้อที่ หน้าโรงหนังโดยตรงค่ะ สำหรับค่าเข้าชมภาพยนตร์ สำหรับผู้ใหญ่ 10 เหรียญ สำหรับเด็ก 5 เหรียญ พิเศษสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าชมทั้ง Science Center และภาพยนตร์ เค้าก็มีตั๋ว Two In One รวมกันในราคาเดียว คือ 12.80 สำหรับผู้ใหญ่ และ 6.40 เหรียญสำหรับเด็ก รักชอบแบบไหนก็เลือกเอาเลยค่ะ จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 5 ก.พ. 49 22:56:33 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คุณ Tai-Sarunya หมดแรงหลับไปซะแล้วครับ กระทู้ยังไม่จบเลย อิ อิ จากคุณ : dont wanna no - [ 6 ก.พ. 49 06:11:32 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ข้อมูลรายละเอียด เยี่ยมมากค่ะ แว๊บบอกนิดนึง "อยากเห็นกระโปรงค่ะจารย์ต่าย เดือนมีนาพบกันชัวร์ ใส่ให้ดูหน่อยนะคะ" ป้าได้ผ้าที่ร้านขายผ้าถนน ARAB STREET มาแล้วค่ะ วันนั้นที่พวกเราไปกันเป็นช่วงปีใหม่ ร้านที่เคยซื้อดันปิดซะนี่ พอวันที่ 6 มกรา ก็ไปซื้อมาก่อนวันกลับเมืองไทย (น้องนู๋ข้าวหอมและอาจารย์ต่ายกลับกันวันที่ 2) ได้มาแล้ว แต่ยังหาแบบไม่ได้เหมือนกันเลย ฮ่าฮ่าๆ ผ้าผืนนี้ค่ะ สีชมพูเป็นตาูู่่ข่ายตาถี่ยิบๆเลย ผ้าซาตินมันวับเป็นซับใน(ในรูปผ้าอยู่ด้านล่าง) \/ \/ \/ จากคุณ : ป้าซิ่ง (Naomichan) - [ 6 ก.พ. 49 06:24:12 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มาเที่ยวกันต่อค่ะ ... หากเป็นไปได้และมีเวลาอยู่ต่อที่นี่นาน ๆ ดิฉันก็อยากใช้เวลาดูให้ทั่ว เพราะตัวเองมีความสนใจในเรื่องของวิทยาศาสตร์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ค่ะ เพราะนอกจากจะมีสิ่งที่น่าสนใจตามที่ท่านเห็นข้างบนแล้ว ที่เหลือ อยู่ภายใน Science Center ก็น่าสนใจมากไม่แพ้กัน อาทิเช่น - นิทรรศการทางเคมี - อิเล็คตรอนมหัศจรรย์ - วิศวกรรมการบิน - ความซับซ้อนของสิ่งมีชีวิต - เทคโนโลยีสารสนเทศ - การมองเห็นและภาพลวงตา (Optical Illusion) - พลังงาน - กายวิภาคศาสตร์ของมนุษย์ - นิทรรศการเกี่ยวกับหุ่นยนต์ - DNA และการถ่ายทอดพันธุกรรมโดยกฎของเมนเดล (บิดาแห่งพันธุศาสตร์) ฯลฯ ปล. Singapore Science Center อยู่แถว ๆ Jurong นะคะ มี MRT เข้า ไปถึงด้วยค่ะ สายสีเขียว โดยลงที่สถานี Jurong East MRT หรือหากใครเดินทางด้วย รถบัสก็ให้ขึ้นสาย 66, 178, 198 และ 335 ค่ะ จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 6 ก.พ. 49 11:46:20 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เรามาถึงที่สวนนกจูร่ง (Jurong BirdPark) กันแล้วค่ะ คุณเจ้าบ้านผู้ใจดีกรุณามา ส่งถึงที่เลย (ต้องขอขอบพระคุณมากค่ะ) เนื่องจาก Jurong BirdPark อยู่ไม่ไกล จาก Science Center เท่าไรนัก ... ค่าธรรมเนียมในการผ่านประตูเข้าไปชมสวนนกจูร่ง สำหรับผู้ใหญ่ 14 เหรียญ สำหรับเด็ก 7 เหรียญ เท่านั้นค่ะ นี่ยังไม่รวมค่า Panorail ที่ขายสำหรับผู้ใหญ่ 4 เหรียญ สำหรับเด็ก 2 เหรียญ ส่วนผู้พิการและทุพพลภาพนั้นเข้าชมฟรี!! นะคะ นอกจากนี้เค้ายังมีตั๋วโปรโมชั่นซื้อตั๋วเข้าชมสวนนก + Panorail ในราคาพิเศษ (แหะๆ จำไม่ได้ค่ะว่าซื้อมาเท่าไหร่) สำหรับดิฉันซื้อตั๋วแบบรวมนี้ค่ะ เนื่องจากไม่ แน่ใจว่าภายในสวนนกจูร่งจะมีอาณาบริเวณกว้างใหญ่แค่ไหน หากกว้างขวางแบบ สวนสัตว์เชียงใหม่ล่ะก็ หอบแฮ่ก ๆ แน่ คิดแล้วก็ยอมเสียค่า Panorail ในราคาพิเศษ ดีกว่าค่ะ ครั้นพอเข้าไปชมดูรอบ ๆ แล้ว สำหรับหนุ่มสาวที่มีสุขภาพดี ร่างกายแข็งแรงก็ไม่ถึง กับต้องเสียค่า Panorail ก็ได้ค่ะ เพราะในเขต Jurong Park ก็ไม่ได้กว้างขวางสัก เท่าไรนัก (หลาน ๆ สวนสัตว์เชียงใหม่) หากค่อย ๆ เดินรับลมชมวิวล่ะก็พอเดินได้อยู่ หรอกค่ะ แต่หากว่าท่านเป็นคนขี้ร้อน เหนื่อยง่าย และไม่ต้องการเสียเวลาเดินย้อนกลับ ดูอะไรเดิม ๆ ล่ะก็ ขึ้น Panorail ให้ฉ่ำอุราเล่น ๆ ก็ไม่เลวดีเหมือนกันค่ะ เพราะภาย ในติดแอร์เย็นเจี๊ยบ และวิ่งวนรอบ ๆ สวนนกในมุมสูง ทำให้สามารถเห็นทิวทัศน์ของ สวนนกจากด้านบนลงมาซึ่งก็แปลกตาและสวยดีเหมือนกัน หรือหากว่าใครหอบลูกจูงหลาน และพาคุณปู่ย่าตายายมาเที่ยวด้วยล่ะก็ ขึ้น panorail ก็ จะทำให้ท่านไม่ต้องเหนื่อยมากด้วยนะคะ Panorail ยี่ห้อการบินไทยค่ะ แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 49 01:02:08 จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 6 ก.พ. 49 13:08:50 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แปะเพิ่มอีก 2 ภาพ ก็หนีไปกินข้าวอีกล่ะ... จากคุณ : dont wanna no - [ 6 ก.พ. 49 13:14:56 ]

ความคิดเห็นที่ 11 กลับมาต่อกระทู้ไวไวนะคะอ.ต่าย ลูกทัวร์รออยู่ค่ะ จากคุณ : morinaga - [ 6 ก.พ. 49 13:32:07 ]

ความคิดเห็นที่ 12 พ้นจากประตูทางเข้ามาแล้ว ทางซ้ายมือของเราก็เลือกที่จะเข้าชม World of Darkness ก่อนค่ะ ที่นี่เป็นตู้กระจกโชว์นกฮูกชนิดต่าง ๆ ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 17 ชนิด ที่เด่น ๆ และเป็น นางงาม (ตู้กระจก) ของที่นี่ก็คือ “Snowy Owl” หรือ นกฮูกหิมะที่เป็นนายไปรษณีย์ส่งข่าวให้ แฮร์รี่ พอตเตอร์ เข้าใจว่าเพราะเรื่อง Harry Potter นี่แหล่ะ ทำให้เจ้าตัวนี้กลายเป็นดาวเด่นขึ้นมา โดยปริยาย เพราะมีคนมุงดูและถ่ายรูปเต็มกันไปหมดเลยค่ะ นอกจากนั้นก็มีนกฮูกปลามลายู และ นกเค้าแมวชนิดที่อาศัยอยู่ตามยุ้งข้าว แต่ละพันธุ์ที่จัดแสดงก็จะอยู่ในห้องหรือสิ่งแวดล้อมที่สร้างให้เหมาะสมกับถิ่นที่อยู่ที่มันอาศัยอยู่ ตามธรรมชาติ เช่น นกฮูกหิมะเค้าก็จะจำลองภูเขาขนาดย่อมที่มีหิมะปกคลุมให้ นกเค้าแมวที่อาศัย อยู่ตามยุ้งข้าว เค้าก็จะจัดห้องให้เต็มไปด้วยฟางข้าวเหมือนในโรงนาน่ะค่ะ หรือ นกฮูกปลามลายู เค้าก็จะจัดที่จัดทางเป็นพื้นที่ชื้นแฉะแถบป่าโกงกางให้ ก่อนเข้าไปอยากจะเตือนนักท่องเที่ยวผู้ชอบบันทึกภาพทั้งหลาย กรุณางดถ่ายรูปใน World of Darkness นี้นะคะ เพราะเนื่องจากแสง flash วาบ ๆ จะไปรบกวนธรรมชาติของคุณฮูก เข้า ซึ่งก็คงไม่เป็นการเหมาะสมนักนะจ๊ะท่าน Photo Hunter ทั้งหลาย และอีกอย่างปากทางเข้า World of Darkness เค้าก็มีป้ายเขียนห้ามไว้แล้ว ดังนั้นเคารพกติกากันหน่อยก็จะน่ารักมากค่ะ (เหมือนขอความกรุณาปิดมือถือก่อนชมภาพยนตร์นั่นล่ะ อิอิ) จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 6 ก.พ. 49 13:44:38 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ต่อไปนี้ท่านที่ติดตามเที่ยวสวนนกจะได้เห็นพวก น้องนก จน เบื่อกันไปข้างนึงเลยนะคะ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นภาพโคลสอัพแบบใกล้ชิด (เพราะว่าถ้าไม่ใกล้ชิดกับเค้าแล้ว ภาพจะออกมาไม่สวยค่ะ) ซึ่งก็ต้อง ขอขอบคุณและให้เครดิตกับบางภาพจาก "น้องนู๋ข้าวหอม" ด้วยนะคะ กล้องของน้องนี่มันสุดยอดจริง ๆ เลยค่ะ ภายในสวนนกจูร่งจะมีที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากอีกมุมหนึ่งคือ มุมที่จัด ให้นกแก้วสีจ๊าบชนิดต่าง ๆ ได้ถ่ายรูปคู่กันกับนักท่องเที่ยวค่ะ ซึ่งมีทั้ง นกแก้วธรรมดา และไม่ธรรมดา นอกจากนั้นก็ยังมีนกแก้วมาคอว์ที่เป็น ตัวเรียกแขกด้วย มุมนี้เห็นคนต่อแถวเยอะเหมือนกัน เข้าใจว่าคงเสียตังค์อยู่หรอกค่ะ ไม่ได้ให้ถ่ายฟรีแน่นอน เพราะเค้ามีช่างภาพและเจ้าหน้าที่ของเค้าให้ บริการเราอยู่ด้วย ซึ่งแม้ว่าดิฉันจะเป็นคนรักสัตว์แต่ให้อิงแอบแนบชิด กับนกแลนี่ก็ไม่ไหวนะคะ 55555 แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 49 01:03:43 จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 6 ก.พ. 49 14:07:26 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของสวนนกจูร่ง คือ Flamingo กลุ่มนี้ล่ะค่ะ ในสวนนกจูร่งจะมีสระ Flamingo อยู่ 2 แห่ง คือ แห่งที่ท่านเห็นอยู่นี้ ซึ่งจะ เป็นสระน้ำขนาดกลางไม่ใหญ่ไม่เล็ก ที่นี่จะเป็นแหล่งอาศัยของฟลามิงโกสีส้ม สดแสบตา (วันนั้นกำลังล้อเล่นกับแสงแดดสวยดี) นามว่า Chilean Flamingo และอีกแห่งหนึ่งเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ซึ่งกว้างมาก ที่นี่จะรวมเข้าไว้ทั้งฝูง Flamingo และฝูง Pelican หรือนกกระทุงคาบลูก แบบที่เราเห็นในการ์ตูนน่ะค่ะ ซึ่งสระใหญ่ นี้จะเป็นที่รวมของ Flamingo สีชมพูซึ่งก็ดูหวานและน่ารักไปอีกแบบเหมือนกัน จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 6 ก.พ. 49 14:31:08 ]

ความคิดเห็นที่ 15 และแล้วก็มาถึงนกที่อยู่ในแถบขั้วโลกกันบ้าง จะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจาก Penguin Parade ที่นี่ไม่ได้มีการจัดโชว์การเดินแถวของ Penguin หรอกค่ะ ใครเคยดูสารคดี March of Penguin ก็คงจะผิดหวังกันสักหน่อย เพราะหาก penguin จะเดินแถวกันนั้น มันต้องมีจุดประสงค์เฉพาะบางอย่าง ไม่ได้นึกอยากจะเดินเมื่อไหร่ก็เดินเน้อ .. ที่นี่เช่นเคยค่ะ ก่อนที่เราจะเจอะ penguin ตัวจริงเสียงจริง จะมีการจัดนิทรรศการ เล่าเรื่องสิ่งมีชีวิตที่อยู่แถบขั้วโลก อันได้แก่ เพนกวิน ปลาวาฬเพชรฆาต และนกบิน ได้ชนิดอื่น ๆ ที่นี่จะมีเพนกวินอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4-5 ชนิด พูดไปก็คงไม่คุ้นเคยกันหรอกค่ะ (อิอิ) ดิฉันยังไม่คุ้นเล้ย 555 แต่มีชนิดหนึ่งที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี นั่นก็คือ เพนกวินจักรพรรดิ์ (Emperor Penguin) หรือ Majestic King Penguin จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 6 ก.พ. 49 14:54:21 ]

ความคิดเห็นที่ 16 พวก Penguin เหล่านี้จะถูกจัดแสดงไว้ในตู้กระจกที่มีการควบคุมอุณหภูมิเฉลี่ย ให้อยู่ที่ 16 องศาเซลเซียส และจัดให้มีสระน้ำให้เจ้าเพนกวินเหล่านี้ได้ว่ายน้ำลด ความอุ้ยอ้ายกันด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังมีการจำลองที่อยู่อาศัยของเพนกวินให้มีลักษณะ คล้ายคลึงกับถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติของมันในแถบทวีปแอนตาร์กติกอีกด้วย คือ มี แนวหิน หน้าผา (ตรงไหนเนี่ย มองไม่เห็น 5555) เวิ้งผาสำหรับวางไข่ และโพรงน้ำแข็ง เป็นอาทิ แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 49 01:06:18 แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 49 01:05:23 จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 6 ก.พ. 49 15:06:13 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ต่อมาเรามาถึงสระน้ำขนาดใหญ่ที่ดิฉันเคยเกริ่นไว้ข้างบนนิดนึงว่าเป็น ที่รวมของฝูงนกฟลามิงโกสีชมพูกับนกกระทุงคาบลูก ที่นี่เรามีนัดกัน ตอนบ่าย 2 ว่าจะชมโชว์ "Pelican Chitchat" หรือเมาท์สารพัด สารเพกับคุณกระทุง การโชว์ชนิดนี้ก็จะเหมือนการโชว์โฉม Pelican ชนิดต่าง ๆ เท่าที่จะหา ได้ในสระแห่งนี้ แล้วคุณครูฝึกหรือวิทยากรก็จะเมาท์เรื่องสัพเพเหระที่ เกี่ยวกับ Pelican โดยเมื่อเมาท์ ๆ ไป คุณวิทยากรก็จะป้อนคำถามไป เป็นพัก ๆ หากใครตอบได้ก็จะได้รางวัลเป็น magnet ติดตู้เย็นรูป Pelican ของสวนนกจูร่งแห่งนี้เป็นที่ระลึกให้ไปตื่นเต้นที่บ้านหนึ่งอัน คำถามที่เค้าถามก็ไม่ยากหรอกค่ะ ประมาณว่านก Pelican ที่พบในสวน นกจูร่งแห่งนี้มีกี่ชนิด แต่ละชนิดมีลักษณะเด่นอย่างไรบ้าง เราจะสามารถ สังเกตและแยกความแตกต่างของแต่ละชนิดได้อย่างไรบ้าง เป็นต้นค่ะ แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 49 00:56:03 แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 49 20:29:01 จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 6 ก.พ. 49 20:25:57 ]

ความคิดเห็นที่ 18 Pelican ที่จัดโชว์อยู่ในสวนนกจูร่งแห่งนี้มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 ชนิดโดย คุณวิทยากรได้คุยฝอยว่าที่นี่เป็นสวนนกแห่งเดียวที่ได้เก็บรวบรวมพันธุ์ Pelican ไว้มากที่สุดในโลก เท่าที่ดิฉันจำได้ก็มีพันธุ์ Dalmatian พันธุ์ออสเตรเลียน (จากรูปข้างบนมีถุงใต้จงอยปากสีเหลืองน่ะค่ะ) และ อื่น ๆ อีกหลายพันธุ์ 5555 ด้วยความที่จำไม่ได้ จากรูปข้างใต้จะเป็นสระน้ำให้ Pelican ลอยตัวเล่นอยู่ในนั้น เปล่าหรอก ค่ะจุดประสงค์ที่เค้าสร้างไม่ได้มีอยู่แค่นั้น แต่จะเอาไว้สาธิตการแสดงให้ Pelican กินปลา ซึ่งตอนที่มันงับกินปลานี่แหล่ะ เราจะเห็นถุงใต้จงอยปาก ของมันขยายขนาดออกมาซึ่งใครเลยจะรู้ว่าภายใต้จงอยปากแคบ ๆ อันนั้น มีความจุหรือความสามารถในการเก็บน้ำไว้ในปากได้ถึง 13 ลิตร ซึ่ง น้ำที่มันกินเข้าไปด้วยนั้นจะช่วยในการกลืนอาหารลงไปในท้องของมันค่ะ ตัวเลขความจุนี้ก็เป็นหนึ่งในคำถามชิงรางวัลอันทรงเกียรติ อิอิอิ (ใครจะจำ ไปตอบก็ได้นะคะ ไม่ว่ากัน ส่วนคำถามชิงรางวัลอื่น ๆ รบกวนติดสินบนไว้ ที่หลังไมค์นะคะ 55555) Pelican พวกนี้จะน่ารักก็ตอนเวลาที่มันกินปลานี่ล่ะค่ะ อยากเห็นถุงใต้ตา เอ๊ย! ถุงใต้ปากที่เอาไว้คาบลูกน้อย (ของคนอื่น) บ่อย ๆ ก็โยนปลาไปให้ มันสิคะ มันจะงับ ๆ แย่งกับปลาที่อยู่ในสระแทบไม่ทัน ... อ้อ! ที่เราเห็นคุณนกกระทุงหน้าตาหงอย ๆ หัวมีกระจุกโผล่ขึ้นมาไม่เหมือน ใคร ก็แปลว่านกกระทุงตัวนั้นร่วงโรยเข้าสู่วัยชราแล้วนะคะ ตามขนจากสีขาว จั๊วะ ๆ ก็จะเปลี่ยนเป็นสีเทา ท่าทางไม่แคล่วคล่องว่องไวเหมือนกระทุงรุ่นหลาน แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 49 01:08:20 จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 6 ก.พ. 49 21:09:14 ]

ความคิดเห็นที่ 19 หลังจากเข้าชม Pelican Chitchat แล้ว เราก็ผ่านไปยังกรงแสดงนกไม่มีปีก อาทิ เช่น นกกระจอกเทศ นกอีมู นกกีวี ฯลฯ นกพวกนี้จะพบได้เฉพาะประเทศ ที่อยู่ในเขตร้อนเท่านั้นค่ะ ไม่อยากเอ่ยถึงนกพวกนี้มาก เพราะเราคงรู้จักนกพวก นี้กันดีแล้ว ตามสวนสัตว์ในบ้านเราก็มีให้เห็นแยะไป ในสวนนกจูร่งจะมีน้ำตกเทียมสร้างขึ้นมาเพื่อจำลองถิ่นที่อยู่ให้พวกนกที่อาศัย อยู่ในเขตน้ำตกหรือที่ชื้นด้วยนะคะ โดยบริเวณนี้เรียกว่าเป็น Waterfall Aviary ว่ากันว่า (ก็ทางสวนนกจูร่งเค้าว่าไว้นะค่ะ คงเป็นนักบ้าสถิติ อะไร ๆ ก็หาว่าของฉันใหญ่ที่สุดในโลก มากที่สุดในโลก สูงที่สุดในโลก อิอิ) น้ำตกเทียม ของเค้านี้ก็เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดที่สร้างขึ้นโดยมนุษย์ ตัวเลขจะเป็นกี่ฟุตกี่เมตรเค้า ก็ไม่ได้ให้ข้อมูลไว้ค่ะ ที่นี่จับภาพนกไม่ค่อยจะได้ค่ะเพราะนกเหล่านี้ถูกเลี้ยงให้บิน ได้อย่างอิสระภายในกรงที่กว้างใหญ่ มองหาอาณาเขตยังไงก็ไม่เจอ จะเจอก็แต่น้ำตก ฝีมือมนุษย์ที่เด่นเป็นสง่าอยู่นี้ เรียกได้ว่าเด่นดังยิ่งกว่าพวกนก ๆ ทั้งหลายที่อาศัยอยู่ใน นี้อีกค่ะ ใครเข้ามาทีนี่ก็จะมาถ่ายรูปกับน้ำตกเทียมนี้มากกว่ามาดูนก อิ อิ อ้อ! ข้อดีของที่นี่เมื่อเข้ามาก็คือ “แก้ร้อน” ได้ค่ะ เพราะที่นี่อากาศค่อนข้างเย็นและ ร่มรื่นดี มีต้นไม้ขนาดใหญ่ให้ร่มเงาปกคลุมคุ้มแดดคุ้มฝนและคุ้มภัยได้เป็นอย่างดี 55555 จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 6 ก.พ. 49 21:26:30 ]

ความคิดเห็นที่ 20 บ่ายคล้อยในยามที่แทบจะหมดแรง เราก็ขึ้นรถ Panorail ที่พะยี่ห้อการบินไทย (เนื่องจากเมื่อยขาเต็มที) ไปดูสวนนกที่เรายังไม่ได้ดู และเวลาก็ใกล้จะหมดเต็มที ดังนั้นคณะของเราต้องทำเวลาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ นกที่เรายังติดค้างได้แก่ นกหัวขวาน นกกระเต็น นกเงือก และนกแห่งสรวงสวรรค์ (Bird of Paradise) Bird of Paradise พอเข้าไปเห็นตัวจริงแล้ว ไม่ค่อยจ๊าบค่ะ ไม่ค่อยสมชื่อที่ตั้ง ไว้อย่างสวยหรูขนาดนั้น อาจเป็นเพราะว่ามีหางที่ยาวและงอนสวยแปลกจากนกอื่น จึงได้ชื่ออย่างนั้นมังคะ นกแห่งสวรรค์ของที่นี่บางส่วนได้รับมอบจากรีสอร์ตแห่ง หนึ่งบนเกาะบอร์เนียว ประเทศมาเลเซีย และส่วนหนึ่งนักปักษีวิทยาสามารถผสม พันธุ์ขึ้นได้เอง ซึ่งถือว่าที่นี่เป็นแห่งแรกที่ประสบความสำเร็จในการผสมพันธุ์เจ้านก แห่งสรวงสวรรค์นี้ .. เจ้าตัวเหลืองนี้มีชื่อว่า Lesser Bird of Paradise จับภาพไม่ค่อยได้ เพราะมีกรงขวางกั้น ดูแล้วชวนอึดอัดไม่ใช่น้อยค่ะ แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 49 22:01:13 จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 6 ก.พ. 49 21:53:05 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ข้าง ๆ กรงนกแห่งแดนสวรรค์ เค้าก็มี "นกพิราบเจ้าฟ้า" (Crowned Pigeon) อยู่ด้านข้าง อืม .. สงสัยว่าโซนนี้จะแบ่งเขตให้นกไฮโซอาศัยอยู่แฮะ แต่ละชนิดชื่อ อยู่สูงทั้งน้าน อิ อิ นกพิราบเจ้าฟ้านี้พบได้ทั่วไปในปาปัวนิวกินี และเกาะชวาด้านตะวันตก หน้าตาดู ออกจะหยิ่ง ๆ ไม่ค่อยรับแขกค่ะ ด้วยจะหลงในความงามและเครื่องประดับบนหัว ของตัวเองหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจนัก ... แต่ที่ดิฉันชอบก็คือสีของเค้าค่ะ ทั้งปีก ทั้งตัว และมงกุฏเป็นสีฟ้าเข้มสะใจ ตัดกับตาสี แดงเลือดหมูดูน่าเกรงขามจนไม่อยากเดินเข้าไปใกล้เลยค่ะ 5555 แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 49 22:06:41 จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 6 ก.พ. 49 22:13:05 ]

ความคิดเห็นที่ 22 แล้วก็มาถึงกรงนก Scarlet Ibis ไม่รู้ว่าภาษาไทยเรียกว่าอย่างไรนะคะ แต่ที่ชอบ (และคิดว่าหลาย ๆ คนคงชอบเช่นกัน) ก็คือตัวมันทั้งตัวเป็นสีแดงเข้ม ซ่อนความร้อนแรงเหมือนหญิงสาวเซ็กซี่ นก Scarlet Ibis นี้เป็นหนึ่งในนกที่เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติของประเทศ Trinidad and Tobago ค่ะ ตัวผู้ตัวเมียจะมีสีแดงสดเหมือนกัน ต่างกันที่ตัวผู้จะมีขนาดใหญ่กว่า เล็กน้อย นกชนิดนี้พบได้ทั่วไปในทวีปอเมริกา แอฟริกา เกาะมาดากัสการ์ นกชนิดนี้เป็น ทั้งนักบินและนักว่ายน้ำ ดังนั้นถิ่นที่อยู่ของมันมักจะเป็นที่ที่น้ำท่วมถึงทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม พวกมันชอบจะที่อยู่รวมกันและบินไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นฝูงค่ะ แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 49 01:16:48 แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 49 01:16:01 แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 49 01:10:54 จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 6 ก.พ. 49 22:35:40 ]

ความคิดเห็นที่ 23 นก Scarlet Ibis สีสันร้อนแรงจังเลยค่ะ จากคุณ : morinaga - [ 7 ก.พ. 49 09:21:33 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ภาพต่อมาเป็นการโชว์ดารานกที่เป็นดาวดังของที่นี่นะคะ นกที่นำมาแสดง ก็ได้แก่ นกฟลามิงโก นกแก้วชนิดต่าง ๆ นกขุนทอง นกเงือก นกกระตั้ว เค้ามีชื่อเรียกการแสดงนี้ว่า All Star BirdShow โดยสถานที่โชว์ มีลักษณะเป็นที่นั่งครึ่งวงกลม ค่อนข้างใหญ่และจุคนได้มากทีเดียว ซึ่งตรง นี้ดิฉันคิดว่าเป็นข้อเสีย เพราะเราจะเห็นการแสดงและกิจกรรมของนกได้ ไม่ค่อยชัด ถ้าหากที่สวนนกจะจัดให้มีจอภาพขนาดใหญ่แสดงไว้ด้วย แบบ ในคอนเสิร์ตนักร้องชื่อดัง ก็จะดีน้อยค่ะ คนที่นั่งอยู่ไกลเวทีก็จะได้เห็นความ ฉลาดและความน่ารักของนกด้วย .. การโชว์ของนก Superstar จะเริ่มที่การเดินพาเหรดของนกฟลามิงโกค่ะ ซึ่งก็ทำได้น่ารักดี คุณนกฟลามิงโกเดินเตาะแตะออกมาเป็นฝูง และเดินวน ไปมาเหมือนออกมาประกวดนางงาม เอ๊ะ! เรียกว่าเหมือนนางแบบเดินบน แคทวอล์คดีกว่าค่ะ เพราะคุณเธอแต่ละนางขาเรียวยาวกันทั้งนั้น 5555 ถัดมาก็เป็นการโชว์ความฉลาดและเล่นกีฬาของเหล่านกแก้ว นกขุนทอง บ้างก็ให้นกเงือกบินโฉบไปมาระหว่างผู้เข้าชม ซึ่งก็เป็นที่สนุกสนานพอ ประมาณค่ะ คือช่วง 10 นาทีแรกก็น่าตื่นตาตื่นใจดี แต่พอนาทีหลัง ๆ การ แสดงก็เล่นมุกซ้ำ ๆ เริ่มจับทางได้และน่าเบื่อ พวกเราเลยขอลาจากสวนนก จูร่งนี้ไปแค่นี้ก็แล้วกัน อิอิอิ จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 7 ก.พ. 49 10:21:44 ]

ความคิดเห็นที่ 25 นอกจากมีโชว์ของเหล่านกดาราเด่นแล้ว ก็ยังมีโชว์อีกหลายประเภทที่เราพลาดไป เนื่อง จากเค้ามีตารางเวลาจัดแสดงเป็นเวลาที่แน่นอนและค่อนข้างห่างกันหลายชั่วโมง ที่น่าสนใจ ก็ได้แก่ - Fuji World of Hawks & Kings of the Skies (Birds of Prey Show) - Children's Parrot Chitchat - Penguin Chitchat - Hornbill Chitchat - Bee-Eater & Starling Chitchat ใครสนใจ มีเวลามาก ๆ และวางแผนดี ๆ ก็สามารถดูโชว์พวกนี้ได้หมดล่ะค่ะ วันนี้ลาจาก Jurong BirdPark ไปเพียงเท่านี้นะคะ หากใครสนใจจะมาเที่ยวที่นี่แต่ไม่มีรถเป็นของ ตัวเอง ก็สามารถนั่งรถบัสมาลงที่หน้า Jurong BirdPark ได้เลยค่ะ (สายที่ไปถึงก์คือสาย 194) รถบัสที่ว่านี้ก็สามารถใช้บัตร EZ-Link ได้ด้วย หรือจะมาโดย MRT ก็ได้นะคะ โดยลงที่ Boonlay Station (สายสีเขียว) แล้วต่อ bus มาถึงที่นี่ได้เช่นกัน แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 49 01:17:47 จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 7 ก.พ. 49 10:42:21 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ต่อมาเราจะเข้าเมืองไปทานอาหารค่ำสไตล์อินเดียที่ Little India กันแล้วค่ะ มื้อนี้เจ้ามือของเราก็เป็นคู่เดิมค่ะ คือคุณ Stephan และป้าซิ่ง วันนี้เราแวะมาที่ร้านอาหารอินเดียที่มีชื่อว่า Gayatri Restaurant ไม่บรรยายอะไรมากค่ะ จำโลโก้ร้านไว้ให้ดีก็แล้วกัน บริกรของเค้าค่อนข้าง ให้บริการดี ประทับใจ อัธยาศัยดี คุยเก่งมั่ก ๆ จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 7 ก.พ. 49 10:48:13 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เหมือนเดิมค่ะ ก่อนที่จะเริ่ม main dish เราก็ต้องทานสลัดกันก่อน ก่อนเริ่มมื้ออาหารจะมีคุณบริกรมาจัดโต๊ะและเตรียมจานข้าว (เอ๊ย! ใช่ จานข้าวซะที่ไหน เป็น “ถาดข้าว” ต่างหากล่ะ อิอิ) ให้เรา โดยอาหาร อินเดียทั่วไป เค้ามักจะทานบนใบตอง และใช้มื้อเปิบ ใครมือไม้ไม่สะอาด กรุณาเดินไปล้างมือเสียก่อนนะคะ เพื่อสุขอนามัยที่ดี ไม่เจ็บป่วยระหว่าง ทริป 5555 สลัดที่นี่จะมี 3 ชนิด ให้เลือกได้ตามชอบ ที่สากลหน่อยเห็นจะ เป็นสลัดที่อยู่ทางขวามือสุดน่ะค่ะ ใครทาน 2 แบบทางซ้ายมือไม่ได้ เค้าก็ มีแบบฝรั่งสำรองไว้ให้เรานะคะ เราสั่ง Naan หรือโรตีมาทาน (ถ่วงท้อง) คู่ กับสลัดก่อนค่ะ อันที่จริงแล้ว Naan จะอยู่คู่กับเราไปตลอดมื้ออาหารเสมือน เป็นคาร์โบไฮเดรตหลักที่อินเดียใช้ทานแทนข้าวสวยของไทยเราน่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 49 01:18:56 แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 49 22:59:54 จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 7 ก.พ. 49 10:57:08 ]

ความคิดเห็นที่ 28 มาที่ main dish ของเรากันล่ะค่ะ แน่นอนคงต้องหนีไม่พ้นแกงอินเดียเผ็ดร้อน แน่ ๆ เพราะไหน ๆ สั่ง Naan มาทานแล้ว เพื่อให้เข้ากันได้ดีก็ต้องหาอะไรเผ็ด ๆ ทานกันสิจ๊ะ แกงอินเดียที่นี่ถ้าจะให้แปลกและอร่อยแหวกแนวไม่เหมือนใคร ต้องใส่ "หัวปลา" ค่ะ ไม่ใช่ใส่ไก่เน้อ แต่เป็นปลาอะไรก็ไม่รู้ล่ะ รสชาติอร่อยดี ใช้ได้ทีเดียวล่ะค่ะ ดิฉันถามเจ้าภาพที่พามาว่าสูตรแกงอินเดียใส่หัวปลานี่เป็นอาหารแจ้งเกิดของร้านนี้ เหรอ คุณเจ้าภาพบอกว่าไม่เชิง เนื่องจากเมนูนี้คุณสามารถพบได้ทั่วไปตามภัตตาคาร อาหารอินเดียในมาเลเซีย แถวนี้อยู่ใกล้ ๆ กับมาเลเซียก็เลยสั่งมาทานดู แล้วก็คิดไม่ผิด จริง ๆ ค่ะ อันที่จริงแล้วมีอาหารดับความเผ็ดอีกเมนูนึงก็คือ "ไก่ย่าง" ค่ะ ไก่ย่างของที่นี่จะใช้อกไก่ มาย่าง ไม่ได้ใช้เนื้อสะโพก เลยขาดความมันไปนิดนึง แต่ให้อภัยได้เพราะเราทานคู่กับ แกงอินเดียแล้ว จะเพิ่มความมันให้เลี่ยนเกินไปทำไมล่ะคะ ... อ้อ! แกงอินเดียหัวปลานี้เค้าใส่ผลกระเจี๊ยบด้วยนะคะ ท่าทางจะอร่อยไม่หยอก เพราะ เห็นป้าซิ่งของเราชอบทานมากเป็นพิเศษ แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 49 01:19:49 แก้ไขเมื่อ 07 ก.พ. 49 23:02:45 จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 7 ก.พ. 49 15:20:11 ]

ความคิดเห็นที่ 29 หลังมื้ออาหารคุณ Stephan แนะนำให้เราสั่งน้ำมะม่วงมาทานเพื่อดับกลิ่นเครื่องเทศ อินเดียภายในทางเดินอาหารและปากของเรา น้ำมะม่วงของที่นี่ก็เป็นสูตรตามแบบแขก เค้าค่ะคือเน้นนมเป็นส่วนประกอบหลัก แล้วใส่น้ำมะม่วงเข้าไปรสชาติเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ เหมือนเราดื่มโยเกิร์ตรสมะม่วงน่ะค่ะ แต่ออกจะข้นอยู่สักหน่อย ใครไม่ชอบแบบข้น คลั่กขอแนะนำให้ปล่อยให้น้ำแข็งมันละลายสักครู่นะคะ แล้วก็จะทานได้อย่างอร่อย เหาะเหมือนกัน (เข้าใจว่าคนไทยเราไม่นิยมทานนมข้น ๆ แบบแขก) ภาพนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับน้ำมะม่วงนะคะ 555 คือว่าเราเห็นในครัวคุณ chef เค้า ผัดกุ้งเมนูนี้อย่างขะมักเขม้น ไม่สบตาใครเลย ด้วยความที่เราเห็นอาหารจานนี้หน้าตา น่าทานมั่ก ๆ (ด้วยมีกุ้งผัดพริกตัวเขื่องชวนยั่วน้ำลายยิ่งนัก) เราก็เลยแอบถ่ายรูปนี้ เก็บไว้เป็นที่ระลึก เพราะด้วยเศษกะตังค์ในกระเป๋าของเราคงไม่มีความสามารถทาน กุ้งเผ็ดเมนูนี้ได้แน่ ๆ จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 7 ก.พ. 49 15:37:12 ]

ความคิดเห็นที่ 30 พอทานอาหารกันจนอิ่มหนำสำราญแล้ว เราก็เริ่มขยับแข้งขยับขา ไปเดินเล่นแถว Little India กันค่ะ ที่นี่แสงสีงดงามตาจริง ๆ และ ค่อนข้างจอแจ ต่างกับ Arab Street ที่ค่อนข้างเงียบ ลักษณะร้านรวงเค้าก็เหมือนแถวพาหุรัดบ้านเราล่ะค่ะ คือเป็นห้องแถว ขายผ้า เครื่องประดับ ร้านเพชรพลอย ร้านทองมากมาย มีทั้งที่ดูมีระดับ และแบบธรรมดา อย่างในภาพนี้เป็นเครื่องประดับใส่กับชุดส่าหรี ราคาถูกค่ะ ใครสนใจ จะซื้อไปฝากหลานสาวตัวเล็ก ๆ หลาน ๆ ก็จะปลื้มใจมากทีเดียว ดิฉัน เห็นแล้วยังอยากได้เลย เพราะมัน colorful เสียเหลือเกิน แต่คงไม่เหมาะ เท่าไรนัก ขัดกับบุคลิกค่ะ 5555 จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 7 ก.พ. 49 16:21:44 ]

ความคิดเห็นที่ 31 มาจับผิดได้หลายที่ครับ (แปลว่าตั้งใจอ่านนะครับเนี่ย...) เดี๋ยวว่าง ๆ จะบอกครับ เที่ยวสวนนกน่ะ ร้อนมาก อย่าลืมพัดครับ ร้อนเป็นอันตรายต่อตับเลยล่ะ ใครว่าต้นไม้เยอะ แล้วเย็น ผมละเถียงหัวชนเต้าหู้เลย... กรุณาพกพัดไปด้วยจะดีมากครับ ถ้าจำไม่ผิด naan เป็นโรตีแบบแป้งข้าวสาลีครับ สะกดด้วย double a นะครับ naan เวลาอ่านจะนานกว่าปกติ 5 5 5 นานนน~ จากคุณ : dont wanna no - [ 7 ก.พ. 49 17:34:32 ]

ความคิดเห็นที่ 32 Anou~ ... ภาพที่เห็นนี้เป็นสีสันแห่งอาภรณ์ค่ะ ชุดส่าหรีพวกนี้ เค้าให้หุ่นสวมโชว์ตั้งขายอยู่หน้าร้าน สีสันตัดกันเจ็บดีค่ะ บวกกับ มีแสงระยิบระยังออกมาจากชุดด้วย สวยดี เล่นเป็นสีรุ้งแบบนี้ .. ผ้าที่ Little India จะต่างกับที่ Arab Street (แบบที่ป้าซิ่งเอา มาโชว์ในรูป #7) คือ ผ้าของ Little India จะเน้นพิมพ์ลายและมี กระจกอันเล็ก ๆ ติดเพื่อให้แสงเงาล้อเล่นกับไฟ แต่ผ้าที่ Arab Street จะเน้นความเริ่ดหรูอลังการมากกว่า ผ้าที่ขายจะดิ้นเงินดิ้นทองเน้น การปักลวดลายด้วยเลื่อม บางชนิดที่หรูหรามาก ๆ ก็จะเน้นให้ลาย มีมิติลึกนูนมากหน่อยค่ะ ยี่ห้อผ้าหรูดูดีมีระดับที่รู้จักกันดี "Alta Moda" ก็เป็นตัวอย่าง หนึ่งของผ้าแนวนี้ค่ะ จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 7 ก.พ. 49 22:22:27 ]

ความคิดเห็นที่ 33 แล้วก็เหมือนที่อื่น ๆ ค่ะ ที่นี่ชุมชนของแขกอินเดียย่อมอยู่คู่อารยธรรม และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประชาชนคนธรรมดาก็ต้องคอยหาข้าวตอกดอกไม้ เพื่อเอาไปสักการะบูชาเทพยดาฟ้าดิน ประกอบกับบริเวณนี้มีวัดแขก ที่มีจุดเด่นเป็นสิ่งก่อสร้างสถาปัตยกรรมคล้ายพุทธคยาด้วยค่ะ ใครที่ เคยมาสิงคโปร์แล้วหรือเป็นนักท่องเที่ยวตัวลงคงนึกมุมนี้ออกนะคะ ภาพที่เห็นเป็นรถเข็นขายพวงมาลัยสีสันสุดจ๊าบ (บอกแล้วว่าวันนี้ที่ Little India จะเน้นความมีสีสันฉูดฉาดบาดตา) ร้อยดอกดาวเรือง สีเหลืองเข้ม ข้าง ๆ จะเป็นรถเข็นขายดอกกุหลาบและดอกไม้ที่เน้น สีแดง เข้าใจว่าที่นี่ก็คงมีประชาชนนับถือพระตรีมูรติเยอะเหมือนกัน จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 7 ก.พ. 49 22:34:09 ]

ความคิดเห็นที่ 34 คุณ dont wanna no ขอบคุณสำหรับ comment และการติดตามอ่านแบบไตรภาค นะคะ อิ อิ น้อมรับฟังคำติชมและคอยแก้ไขจุดที่ผิดอยู่เสมอนะคะ สำหรับคำว่า "Naan" เช็คแล้ว สะกดแบบนี้จริง ๆ ค่ะมี a สองตัว และอ่านนานกว่าปกติ แสดงว่านี่เข้าใจผิดมาตลอดเลยนะเนี่ย อิอิ ต้องโทษร้านบางร้านที่พิมพ์ผิดทำให้เราจำมาผิด ๆ (อิอิ รำไม่ดี โทษปี่โทษกลองซะงั้น) เดี๋ยวจะขึ้นไปแก้ที่เขียนผิดข้างบนค่ะ จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 7 ก.พ. 49 22:52:31 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ป้าซิ่งคนงามฮะ ผ้าของป้าสีชมพูกลีบดอกบังหลวงนี้สวย ๆ หวานมาก ๆ ค่ะ เดี๋ยวนี้ คุณป้าซิ่งของหนูจะเปลี่ยนแนวมาแต่งหวานแล้วเหรอคะ คราวก่อน ก็เห็นชุดของป้าซิ่งที่ตัดด้วยผ้าแบบนี้สีน้ำทะเลสวยไม่แพ้กัน เดือนมีนาฯ ไม่รู้ตัดกระโปรงทันรึเปล่า สงสัยต้องรีบหาแบบซะแล้ว (ความจริงไม่ต้องหาแบบก็ได้นะคะ เพราะต้องการเน้นลวดลายอยู่แล้ว) แต่ไม่รู้ว่าช่างตัดจะว่างรึเปล่านะซีคะ .... ===== คุณ Morinaga คะ ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านเสมอ ๆ เช่นกัน กระทู้หน้าพาไปเที่ยว สวนกล้วยไม้ หากยังไม่เบื่อกันซะก่อน ต้องคอยติดตามนะคะ จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 7 ก.พ. 49 22:57:27 ]

ความคิดเห็นที่ 36 สวัสดีอีกรอบค่ะทุกท่าน แหม!... อิฉานคิดถึงอาหารภาระตะอีกแล้ว เห็นรูปทำเอาน้าลายย้อยได้อีกรอบนะเนี่ย ส่วนรูปอาบังกำลังผัดกุ้งในกะทะนั้น อิฉานก็ได้ลิ้มรสมาแล้ว อร่อยมากๆ กุ้งตัวเบ้อเล่ง {วัดขนาดจากใบหน้าของป้าซิ่งได้เลยจ้า} รูปเมื่อคราวกะโน้น แต่งแขกไปกินเสียด้วย อิๆฮ่าๆ ไม่เกรงใจคนข้างๆจะแต่งส่าหรี่ไป ห่วงยางรอบเอวป้าก็มีอยู่แล้ว ไม่เหมือนให้มันรู้ไป ป.ล.จารย์ต่ายมีแซวนะจ๊ะ มาบอกว่าป้าซิ่งจะเปลี่ยนแนวหวานแล้วเหรอ !! แง่บๆ เสื้อผ้าสีชมพูแบบในรูปไม่ค่อยมีกะเขาเลย เปิดตู้มา โห๊ะๆมีแต่สีดำๆเต็มตู้ ก็ตัดเก็บไว้ไปงานมงคลอะจ้า ป้าำกำลังคิดออกแบบ แบบว่า 10 ปีในอนาคตก็ยังไม่ล้าสมัย เป็นโจทย์ที่คิดยากไหมล่ะ (คิดแค่ครึ่งปีพอ) ส่วนผ้าของจารย์ต่ายออกแบบง่ายกว่าเยอะ เอาลายผ้าให้ลงมาเข้าไว้ ใส่แล้วจะดูผอม และ พริ้ววววว จากคุณ : ป้าซิ่ง (Naomichan) - [ 8 ก.พ. 49 07:08:14 ]

ความคิดเห็นที่ 37 โอ้โห... เห็นกุ้งที่ป้าถือ กับกุ้งที่เชฟผัดในกระทะ คคห น้ำมะม่วงแล้ว.... อารายมันจะใหญ่อย่างนี้... ตัวเดียวอิ่มแน่ๆ.. ศูนย์วิทยาศาสตร์เด็ก (แปลตรงตัว) ที่นั่นดูดีกว่า พิพิธภัณฑ์เด็กบ้านเราที่จตุจักรเยอะเลยนะครับ... ที่ Jurong Bird park นี่ผมก็จำไม่ได้แล้วว่าร้อนแบบที่พี่โด้นว่ารึเปล่า.. ไปตั่งแต่สมัยประถม สงสัยสมัยนั้นยังเด็กไม่สนใจเรื่องร้อนไม่ร้อน... มัวแต่ตระการตา...   Panorail ยี่ห้อการบินไทย นี่.. LOGO ใหม่ด้วยนะเนี่ย... ขอบคุณจารย์ต่ายที่พาเที่ยวอย่างละเอียดครับ... คราวหน้าจะมาแข่งจับผิดกับแฟนประจำมั่ง... ฮิฮิ... จากคุณ : Philamoniker (namit) - [ 8 ก.พ. 49 09:33:19 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ศูนย์วิทยาศาสตร์เด็ก จากคุณ : ป้าซิ่ง (Naomichan) - [ 8 ก.พ. 49 09:48:32 ]

ความคิดเห็นที่ 39 โรบิ้นหล่อเหลือหลาย.... จากคุณ : กาปุ้ย - [ 8 ก.พ. 49 10:56:40 ]

ความคิดเห็นที่ 40 วันนี้เข้ามาเช็คกระทู้นี้ก็มีที่ให้ได้หัวเราะตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มทำงาน 5555 สงสัยวันนี้จะโชคดีทั้งวัน .... ================ ขำป้ามากค่ะ ---> ไม่เกรงใจคนข้างๆจะแต่งส่าหรี่ไปห่วงยาง รอบเอวป้าก็มีอยู่แล้ว ไม่เหมือนให้มันรู้ไป <--- อันนี้หนูรู้ว่าป้าทำได้ค่ะ 55555 กุ้งนั้นตัวใหญ่ได้ใจจริง ๆ คราวหลังหากกินไม่หมดป้าซิ่งอย่าลืมเอา Obentou ไปใส่แล้วเอากลับมาฝากหนูที่เมืองไทยนะคะ กินกันสองคน เชื่อเลยว่าไม่หมดแน่ ๆ 5555 โอ๊ยโย๋ว ... เสื้อเชิ้ตที่ป้าสวมไปกินกุ้งนั้นสวยมากค่ะ แนวอาร์ตดีค่ะ หากใส่ คู่กับกระโปรงยาวกรอมเท้าหรือสี่ส่วนสีดำสนิทจะเข้ากันได้มาก จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 8 ก.พ. 49 12:04:22 ]

ความคิดเห็นที่ 41 คุณ ณ มิตร กลับมาจากบินรอบโลกแล้วเหรอคะ เพิ่งรู้นะคะว่าที่เมืองไทยก็มีพิพิธภัณฑ์ เด็กที่แถวจตุจักรเหมือนกัน แบบว่าไม่ค่อยได้เดินไปแถวนั้นน่ะค่ะ เพราะ ร้อนเหลือเกิน อ้อ! เคยได้ยินว่าแถวปทุมธานีก็มี Scientific Park สำหรับ เด็กนี้เหมือนกัน ไม่รู้ว่าตอนนี้พัฒนาไปถึงไหนแล้ว เค้าคาดหวังกันว่าที่นี่จะ สามารถเสริมสร้างความรู้และจินตนาการให้กับเด็กไทยได้เหมือนกับ "ศูนย์วิทยาศาสตร์เด็ก" (อิ อิ เอาด้วย) ที่สิงคโปร์น่ะค่ะ ปล. คราวหน้าเบื่อขับเครื่องบินก็ขอย้ายตำแหน่งมาขับ Panorail ที่สิงคโปร์ สิคะ เท่ได้เหมือนกันนะคะ =========== หนูกาปุ้ย ขอบคุณนะคะที่เข้ามาเยี่ยมเสมอ น้องโรบินหล่อขึ้นทุกทีที่เจอค่ะ ยิ่งช่วงที่ไป สิงคโปร์พี่เห็นพัฒนาการของเค้าเยอะมาก คือพูดเก่งมาก ๆ ฉลาด แถมหล่อขึ้น มากอีกต่างหาก ขนตาน้องเค้าจะยาว (เป็นเซนติเมตร) จมูกโด่งขึ้นมาก ผิวเริ่ม ขาวเหมือนฝรั่งตัวจริงเสียงจริงแล้วล่ะค่ะ อนาคตมีแววเป็นดาราประดับวงการ บันเทิงแน่นอน (ว่าแต่ป๊ะป๋าน้องโรบินจะยอมรึเปล่าน่ะสิ อิ อิ) [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 8 ก.พ. 49 12:27:54 ]

ความคิดเห็นที่ 42 อ.ต่าย ตามมาดูจ้ะ แต่เราไม่ย้อนเข็มนาฬิกาถอยไป 20 ปีหรอกจ้ะ เพราะตอนนี้วัยยังได้ยู้.... อิอิ จากคุณ : รักสีส้มอมเปรี้ยว - [ 8 ก.พ. 49 17:33:07 ]

ความคิดเห็นที่ 43 หง่ะ.............. พี่ต่ายไปบ้านผมมาด้วยหรอ ก็ BirdPark ไง อิอิ ผมชอบนกนะ เป็นสัตว์ที่ผมชอบมากเลย โอ้ว.... น้องโรบิ้นก็หล่อจิงๆ โตขึ้นเป็นดาราเลยดีมะป้าซิ่ง จากคุณ : House Of FlyingBird - [ 8 ก.พ. 49 18:15:22 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ที่ SCB Park ก็มีศูนย์อะไรน้า สำหรับเด็กที่น่าพาไปเหมือนกันครับ... ว่าจะไปซ่อกแซ่กหลายทีแล้ว... โดนสวนรถไฟดึงดูดไปก่อนทุกที เลยต้องเลี้ยวพวงมาลัยไปทางนั้น.. แฮะๆ จากคุณ : ณ มิตร (namit) - [ 9 ก.พ. 49 04:37:41 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ได้เห็นสวนนกJulong ที่โด่งดัง  ทำให้กระตุ้นต่อมอยากไปเที่ยวสิงคโปร์มากขึ้นครับผม... นกฟลามิงโก เค้าก็ส้มดี ที่ญี่ปุ่นก็สีสด แต่ไหงที่สวนสัตว์เมืองไทยสีซีดเชียวครับ.... (เกิดสงสัยขึ้นมากระทันหัน) แต่ผมว่าสวนสัตว์ลักษณะนี้น่าจะมีมากๆครับ เพิ่อปลูกฝังให้เด็กๆรักธรรมชาติรักสัตว์ และผู้ใหญ่ก็ได้เที่ยวพักผ่อนได้ด้วย... ตามด้วยแกงอินเดียน่าหม่ำจริงๆ อยู่นี่ผมก็ทานบ่อยฮะ เพื่อนแขกเยอะอ่ะครับ กินเสร็จตัวหอมฟุ้ง!!(ปล. แอบปล่อยไก่เรียก"นัน"มานานเหมือนกันครับ อิิอิ) เหมือนเดิมครับ ต้องขอทักทาย Special guest ทุกท่านขอรับครับ กระทู้รวมดาวจริงๆ... และสุดท้าย ท้ายสุด ขอบคุณพี่ต่ายครับที่พาเที่ยว จะมีภาคต่อไปเมื่อไหร่ครับ แอบหวังเล็กๆ(^ ^) จากคุณ : อัยคุง - [ 9 ก.พ. 49 21:47:27 ]

ความคิดเห็นที่ 46 อิ อิ กระทู้รวมดาว ... ดาวจริง ๆ ค่ะอัยคุง รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากมาย ขอบคุณ คริษ-รักสีส้มอมเปรี้ยว มากนะจ๊ะ ที่เข้ามาตามคำขู่ ป๋าเบิร์ดฮะ กว่าจะเข้ามา ... ตอนแรกนึกว่าป๋ายุ่งกับงาน ใหม่ซะอีกคะ ที่ไหนได้ป๋ายุ่งกับการเป็นพ่องานจัด meeting เด็ก ๆ อยู่นี่ อิอิอิ คุณ ณ มิตร คราวหน้าไปซ่อกแซ่กที่ SCB Park บ้างนะคะ จะรอดูรูปค่ะ อัยคุง มาแว้ววว ... พี่เดาว่าอัยคุงต้องชอบเที่ยวสวนสัตว์ สวนนก aquarium เหมือนพี่แน่ ๆ เลย ดีใจค่ะที่ชอบ สำหรับตอนต่อไปยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะเขียนเสร็จเมื่อไหร่ เพราะเร็ว ๆ นี้พี่จะมีสอนค่ะ ร้างลาการสอนมานาน (สนิมเกาะหมด แล้ว) ต้องเตรียมดี ๆ หน่อย อย่างไรก็ตามหากเรียบร้อยแล้วจะส่งเที่ยบเชิญไปนะคะ ขอบคุณ ที่ติดตามชมเสมอค่ะ จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 10 ก.พ. 49 12:12:27 ]

ความคิดเห็นที่ 47 สิงคโปร์ เมืองนี้เคยอยู่ แต่จำอะไรไม่ค่อยได้ ประทับใจ แต่เพียงฝ่ายค้านคนเดียว ซึ่งมีคนเดียวในรัฐสภา ไปร่วมฟังปาฐกฐาของเขา ในครั้งที่เขามาเยี่ยม ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ นับถือในความกล้าหาญของเขา ที่กล้า ที่จะยืนอยู่ในทิศตรงข้ามกับรัฐบาล ตอนหลังผู้นี้ก็โดนเล่นงานจากรัฐบาล สิงคโปร์ ทางอ้อม คือ การหาเรื่องฟ้อง ไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นคนล้มละลายไป นั่นคือความประทับใจ และความทรงจำ หนึ่งเดียวที่ได้จากการไปศึกษาที่สิงคโปร์ จากคุณ : ยาโมเมะ - [ 11 ก.พ. 49 20:54:44 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณนะคะคุณ ยาโมเมะ ที่เข้ามาเยี่ยมชม และทิ้งข้อคิดเห็น อีกด้านที่ไม่รู้ไว้ด้วยค่ะ จากคุณ : Tai-Sarunya - [ 11 ก.พ. 49 21:30:35 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ฮ่าๆๆๆ ใช่แล้วครับพี่ต่าย งานที่ผมจัดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จบไปด้วยดีแล้ว มีแต่คนชม ไอ้ที่เหนื่อยจากการวิ่งไปดูร้านโน้นร้านนี้ โทรหาคนโน้นคนนี้  ปวดหัวกับเรื่องร้านเรื่องคน ต่างๆนาๆ หายเป็นปลิดทิ้งเลยครับ งานผมผ่านไปแล้ว รอแต่งานของ @Japan นี่ละว่าจะจัดเมื่อไร พี่ต่ายต้องสอนอีกแล้วหรอ ครับ รู้สึกนานจิงด้วยที่ห่างหายไป ขอให้โชคดีนะพี่ จากคุณ : House Of FlyingBird - [ 12 ก.พ. 49 11:33:48 ]

ความคิดเห็นที่ 50  ตามน้องต่ายมาเที่ยวค่ะ ชอบสีสันนกแก้วจริงๆ  จ๊าบมาก จากคุณ : jan_tanoshii - [ 21 ก.พ. 49 19:20:04 ]