CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    มาเรียน ทำงานไม่ได้ ทำธุรกิจส่วนตัวกันไหม (2)

    เอาล่ะ กระทู้สอง
    เอาเป็นว่ากระทู้ต่อไปนี้เป็นประสบการณ์ และงานที่เพื่อนๆและคนรู้จักของเกือกซ่าทำมาก่อนจะมีธุรกิจเป็นของตัวเองนะคะ
    ใครที่มีประสบการณ์ หรืองานที่คิดว่านักเรียนน่าจะทำได้นอกจากร้านอาหาร ช่วยแชร์ด้วยนะคะ จะได้เป็นกระทู้ที่มีความประโยชน์หน่อย

    ตัวอย่างทีหนึ่ง

    เพื่อนเกือกซ่าอยู่เมืองใหญ่เมืองหนึ่ง ทำงานร้านอาหารอ่ะค่ะ แต่รับจัดดอกไม้ให้ร้านอาหารที่เค้าทำด้วย จัดดอกไม้แต่ละอาทิตย์ ร้านให้เงินเค้าครั้งละ 100 มีโถดอกไม้ขนาดใหญ่มากอยู่ที่เคาน์เตอร์และ จัดดอกไม้ในแจกันของทุกโต๊ะ เค้ามีหน้าที่เดินทางไปซื้อดอกไม้แล้วนำมาจัดเมื่อดอกไม้เฉา  พอจัดดอกไม้นานเข้า ก็เริ่มรู้ว่าซื้อดอกไม้ถูกได้ที่ไหน และดอกไม้แบบไหนที่คนส่วนใหญ่ชอบ  เริ่มไปเสนอจัดดอกไม้ให้ร้านไทยอื่นๆ
    เค้าขอวางนามบัตรไว้ที่เคาน์เตอร์ร้านอาหาร มีเจ้าของร้านและออฟฟิศหลายที่ติดต่อให้เค้าจัดดอกไม้ให้

    ในที่สุดเมื่อเรียนจบ เขาขอเข้าไปฝึกงานในร้านดอกไม้  จนเป็นคนจัดดอกไม้มือหนึ่งของร้าน ตอนนี้กำลังจะมีร้านเองแล้วค่ะ

    ตัวอย่างที่สอง

    คนนี้เป็นฝรั่งนะ เพื่อนสนิทกับเกือกซ่า อายุเยอะแล้วค่ะ เกษียณแล้ว
    คิดว่าเป็นไอเดียให้คนไทยได้นะคะ

    เขาเริ่มงานเป็นคนทุบบ้านค่ะ ด้วยรถกระบะเก่าๆอายุหลายสิบปี งานทุบบ้านที่นี่คือการ ทำลายโครงสร้างต่างๆ หรือเคลียร์พื้นที่เพื่อนสร้างบ้านนะคะ  เค้าทำงานดี ลูกค้าปากต่อปากทั้งนั้น ทำงานคนเดียวอยู่สามปีก็ทำคนเดียวไม่ไหว  (เค้าสารภาพว่าโง่อยู่สามปี เพราะงานหนักส่งผลกับสุขภาพหลัง ) หลังจากนั้นก็จ้างคนงานเป็นแม็กซิกัน และฝรั่งค่ะ  ณ วันนี้ มีแทรกเตอร์ cat  สามคัน. truck อีกหลายคัน และคนงานอีกเยอะ  เค้าเกษียณในแง่ไม่ทำงานแล้ว แต่ธุรกิจเค้ายังอยู่ค่ะ ทำงานแค่จัดการเอกสารและดูงาน

    เรื่องที่น่าสนใจคือในเมืองนี้มีคนบริษัทที่รับงานเป็นประจำแค่สองเจ้า คือ บริษัทเค้า กับบริษัทคู่แข่ง แต่ต่างคนต่างรับงาน เพราะมีตลาดกว้างพอควรค่ะ


    ตัวอย่างที่สาม

    คนนี้เป็นแม็กซิกันค่ะ มารับงานทำงานบ้านให้เกือกซ่า
    เรารู้จักกันปีที่แล้วเพราะ เค้ามารับคลีนบ้านให้เพื่อนของเกือกซ่าอาทิตย์ละครั้ง ครั้งละสองชั่วโมง ได้ตังครั้งละห้าสิบ เค้าบอกว่า เค้าทำหกบ้านต่อวันค่ะ  แต่ละบ้านอยู่ในตึกเดียวกันทั้งนั้น คือไม่ต้องไปไหนเลย ทำอยู่ที่เดียวอ่ะค่ะต่อวัน

    หลังจากนั้น เขาก็บอกว่า เค้ามีลูกน้องแล้วนะ เอานามบัตรมาแจกด้วย บริการของเค้าคือ ทำความสะอาดบ้าน ทำความสะอาดกระจกร้านค้า และ ทำสวนค่ะ

    เค้าเป็นคนติดต่อและเอาลูกน้องไปหย่อนลงตามบ้านต่างๆด้วยรถกระบะ พอเย็นก็ไปรับ

    เร็วๆนี้เค้ารับทำความสะอาดพรมด้วยค่ะ ลงทุนซื้อเครื่องซักพรมมือสองมารับทำความสะอาด ค่าเครื่องสามพันค่ะ ซักพรมครั้งละ ร้อยถึงสามร้อย ครั้งนึงไม่กี่ชั่วโมง

    ลูกค้าเยอะมากค่ะ เพราะเอาใบประกาศมาติดที่อพาร์ทเม้นท์ที่เกือกซ่าอยู่  พวกคนในอพาร์ทเม้นท์เวลาจะย้ายออก บางทีก็ใช้เค้าทำความสะอาดให้ค่ะ เพราะถ้าทิ้งไว้สกปรก จะโดนชาร์ตจากอพาร์ตเม้นท์

    ตัวอย่างที่สี่

    คนไทยค่ะ แต่เค้ามีกรีนการ์ด
    เค้าไปเรียนนวด และได้เซอร์ทิฟิเคทมีสิทธิ์นวดอย่างถูกกฎหมาย  ตอนที่เรียน เค้ายังเป็นนักเรียนอยู่เลยค่ะ ก็เรียนไปด้วย เรียนนวดไปด้วย  แต่ละเมืองการเรียนเพื่อให้มีสิทธิ์นวดจะใช้เวลาต่างกันนะคะ  ที่เมืองนี้ใช้ 500 ชม.ในรร.ค่ะ ใช้เวลาประมาณ สองปีจึงจะได้ใบประกาศ

    เค้าทำงานนวดในสปาอยู่ปีนึง ก็ออกมาเปิดร้านเองค่ะ การเปิดร้านเองที่นี่ แทบจะไม่ต้องทำงานเองเลยค่ะ  หาโลเคชั่นดีๆ และให้เช่าเตียงเป็นเตียงๆไป และชาร์ตค่าเช่าร้านชาร์ตค่าไฟน้ำ  พออยู่ตัวเค้าก็เปิดนวดหน้า และทำผมด้วยค่ะ ขยายร้านออกไป กำไรดีมากค่ะ ตอนนี้ขยายไปสามร้านแล้ว
    แต่ต้องหาคนทำผม นวดหน้านวดตัวเก่งๆให้มาอยู่ที่ร้าน (อันนี้ต้องหาหน่อยค่ะ ถ้าไม่มีความสามารถทำเองก็ลำบากนิดหน่อย)

    ตัวอย่างที่ห้า เพื่อนเกือกซ่าค่ะ มีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์เยอะมาก
    เค้ารับซ่อมคอมให้ฝรั่งค่ะ รับไปตามบ้านเลย เอานามบัตรไปทิ้งไว้ตามอพาร์ทเม้นท์คนแก่ (รีไทร์เม้นท์อพาร์ทเม้นท์) คนแก่หรือคนที่ไม่ค่อยมีเวลา เค้าชอบให้มีคนไปแก้ไขปัญหาด้านคอมให้ค่ะ  เพื่อนเกือกซ่าชาร์ตประมาณ เจ็ดสิบเหรียญต่อครั้ง ถ้าไปใกล้ๆ ก็ห้าสิบ รายได้ดีนะคะ

    เกือกซ่าชอบคุยกับคนค่ะ ว่าเค้าเริ่มธุรกิจมาจากอะไร เพื่อจะได้มีไอเดีย
    เรื่องที่คนเล่ามา อาจจะดูง่ายนะคะ แต่เชื่อว่าไม่ได้ง่ายเหมือนโรยกลีบกุหลาบเท่านั้น  ทุกคนเริ่มอย่างลำบากกัน

    ที่เห็นได้ชัดเลยคือร้านอาหารได้กำไรที ก็ได้เยอะเลย แต่เกือกซ่าไม่ค่อยชอบกิจการร้านอาหารเพราะมันจุกจิกมากค่ะ ต้องอยู่กับร้านตลอด และปัญหาเรื่องคน ชอบการลงทุนแบบที่ไม่ต้องยุ่งกับลูกจ้างมากๆ

    ตอนนี้งานหลักของเกือกซ่าคือ ซื้อ-ขายรถมือสองค่ะ งานนี้ต้องมีเงินและคนที่ดูรถเป็น รวมทั้งช่างเจ้าประจำของเราค่ะ โชคดีที่เกือกซ่ามีทั้งสามอย่าง และได้กำไรพอสมควรที่จะไปลงทุนกับการทำบ้านให้เช่า และ ลงทุนในอสังหา เวลาที่เราทำงานซื้อขายอย่างนี้ เรื่องสำคัญคือต้องมีคอนเน็กชั่นกับกลุ่มลูกค้าค่ะ  กลุ่มลูกค้าของเกือกซ่าคือเด็กเอเชียที่มาเรียนภาษา  พอมีคนซื้อกับเกือกซ่าคนนึง ก็มีมาเรื่อยๆ เหมือนปากต่อปาก  เรื่องกม.และแท็กซ์ ไม่ยุ่งด้วยค่ะ  ทริกในการซื้อขายเป็นฟามลับ   แต่จำเอาไว้อย่างว่า อย่าใส่ชื่อเป็นคนขายรถหลายคัน เพราะจะโดนภาษีค่ะ


    จริงๆแล้วการทำธุรกิจของคนที่ไม่มีใบเขียว ง่ายๆก็ซื้อมาขายไปค่ะ ขอแค่จับทางถูก มีเงินทุนบ้าง เกือกซ่าไม่ค่อยชอบการมีหน้าร้านหรืออฟฟิศ เพราะต้องยุ่งกะภาษี และ overhead ที่แน่ๆขอย้ำค่ะว่า งานและเงินไม่ได้มีแค่ร้านอาหาร ต้องมองหาค่ะ

    ย้ำอีกทีว่า  การเริ่มต้นธุรกิจ ไม่มีงานอะไรที่รวยเร็วมากๆนอกจากค้ายา
    ค่อยๆเริ่มจากสิ่งที่เราสนใจและมีความสามารถนะคะ อยู่ที่เมกาข้อดีอย่างคือค่าเงินเค้ามากกว่าเมืองไทย ถ้าทำงานที่เอาเงินไปใช้เมืองไทย มันก็เยอะอ่ะค่ะ
    5 ปีที่มาเรียน ใช้เวลาให้คุ้มนะคะ อย่าโดดล่ะ

    แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 49 17:35:16

    แก้ไขเมื่อ 08 ก.พ. 49 17:31:55

    จากคุณ : เกือกซ่าสีชมพู - [ 8 ก.พ. 49 17:24:12 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป