ความคิดเห็นที่ 206
เรื่องที่เหลือฮ่ะ ......
สืบเท้าไปจนยืนอยู่ตรงหน้านายมูรัต ส่งยิ้มให้กันอยู่นาน จนเกย่ารู้สึกว่าปากของเกย่าคงจะฉีกกว้างจนแทบจะถึงรูหูแล้วมั้ง
มูรัต ... "วีเก้สท์ 'ส" เป็นไง เกย่า... "ซุปเพอร์ อุนด์ เดี๊ยร์" ยอดมาก ๆ คุณล่ะ มูรัต ... "เคินเท่อะ นิชท์ เบ๊สเซ่อร์ ซายน์" เยี่ยมยอดเหมือนกัน -- ถ้าแปลตรงตัว จะแปลได้ว่า ไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้อีกแล้ว คือ ดีที่สุดเลยล่ะ เกย่า... "ดู ซี๊สท์ แซ้ร์ กู้ท เอ๊าส์" คุณดูดีมากเลย มูรัต ... หน้าแดง "ดูเอ๊าค์" คุณก็เหมือนกัน -- แล้วคราวนี้ก็แดงทั้งคู่ฮ่ะ โดยเฉพาะหูเกย่า
จากนั้นมูรัตก็ชี้บอกเกย่าว่าเราจะต้องเดินออกไปทางนี้ ป้ายเหนือทางออกเขียนไว้ว่า Greenwichpromenade ความหมายเหมือนภาษาอังกฤษนะฮะ แต่เขียนติดกัน เกย่าเห็นชื่อแล้วนึกถึงตำบลกรีนิช จุดเริ่มเขตเส้นแบ่งเวลาที่สหราชอาณาจักร ระหว่างที่เราเดินไป ถนนนั้นปูด้วยก้อนหินแกรนิตสีเทา และสองฟากนั้นก็เต็มไปด้วยอาคารร้านรวงน่ารัก ๆ บางตึกยังเป็นสไตล์ยุคกลางอยู่เลย ซึ่งเกย่าตื่นเต้นมากที่ได้เห็น เพราะลักษณะอาคารบ้านเรือนน่ารักกระจุ๊กกระจิ๊กแบบนี้ ไม่ค่อยจะได้พบเห็นกันในใจกลางของแบร์ลิน
ขณะที่เดินไปพร้อม ๆ กัน บางครั้งมือของเกย่า ก็ปัดไปถูกมือของมูรัตอย่างไม่ได้ตั้งใจ น่าเสียดายที่ต่างคนต่างก็มีถุงมือหนาเตอะกั้นอยู่ ไม่งั้นนะ ฮึ่ม ๆๆ
เราเดินไปจนถึงร้านไอศครีมสไตล์อิตาเลียนนะฮะ "คุณปลาทอง 9" มีไอศครีมสารพัดชนิดให้เลือกจนไม่หวาดไม่ไหวเลยล่ะ ลูกค้าทั้งคนหนุ่มคนสาวคนชรา เด็ก ๆ เบบี้ รอกันพรึ่บพรั่บ ออกันอยู่ตรงหน้าร้านฮ่ะ นิสัยอบ่างหนึ่งที่เกย่าไม่ชอบใจของชาวแบร์ลินก็คือ ไม่ชอบต่อคิวฮ่ะ อัด ๆ ออ ๆ กันเข้าไป ยังกะมุงดูเมียงูแน่ะ น่าแปลกใจที่อากาศหนาวขนาดนี้ คนยังมีกะจิตกะใจกินไอศครีมกันคลาคล่ำ เกย่าเคยถามอาจารย์ว่า ทำไมหน้าหนาว คนเยอรมันถึงยังชอบทานไอศครีม อาจารย์ตอบติดตลกว่า ก็เพราะไอศครีมช่วยทำให้อุ่นขึ้นน่ะสิ เพราะความเย็นของไอศครีมแค่ ติดลบ 5 องศาเซลเซียส แต่อากาศน่ะติดลบ 10 อืม อาจจะถูกของอาจารย์ก็ได้
มูรัต ... "ม้ากส์ ดู ไอ๊ซ์" ชอบไอศครีมมั้ย เกย่า ... " ย่าาา อาแบร์ ทซุ ฟีเล่ ล้อยเท่ เฮียร์" ชอบดิ แต่คนเยอะจังเลยอะ
มูรัตบอกว่า คนเยอะก็แสดงว่าน่าจะอร่อยนะ เลยไปอีกสองคูหา ก็มีร้านไอศครีมอิตาเลียนอีกร้านหนึ่ง แต่ลูกค้าบางตากว่ามาก เกย่ามองคนที่ออกันอยู่ร้านนี้ แล้วมองไปอีกร้านหนึ่ง สลับกันไป มูรัตรู้ทันเกย่า ว่าขี้เกียจยืนรอนานเลยบอกว่า ให้เกย่าไปนั่งตรงม้านั่งก่อน เลยหน้าร้านออกไปจะเป็นแนวปลูกต้นไม้ และแปลงดอกไม้ ซึ่งมีม้านั่งตั้งอยู่ เป็นระยะ ๆ ตลอดแนวยาวของถนนนะฮะ
เกย่าจึงเดินไปนั่งจุ๊มปุ๊กอยู่ ขณะที่สายตาก็เหลือบมองไปที่มูรัต ซึ่งกำลังรอเข้าแถวซึ่งไม่ค่อยจะเป็นคิวนั้นอยู่ มูรัตหันมายิ้มให้เกย่าเป็นระยะ ๆ ซึ่งเกย่าเองก็ยิ้มตอบไปเช่นกัน นานแค่ไหนแล้วนะ ที่ไม่เคยมีใครมายืนต่อแถวซื้อไอศครีมให้แบบนี้ นานจนแทบจะจำไม่ได้เลยน่ะสิ เพราะนอกจากป๊ะป้า กะมาม้า ตอนเกย่ายังเป็นเบบี้อยู่ ก็ไม่มีใครอื่นมาทำอย่างนี้กับเกย่าเลย
ไอศครีมร้านนี้ลูกละ 50 เซ็นต์นะฮะ ถือว่าราคาย่อมเยาที่สุดแล้วในแบร์ลิน สำหรับไฮศครีมโอมเมดสไตล์อิตาเลียน ที่ไม่ใช่แบบยี่ห้ออย่างลางนีส (Langnese) พูดถึงไอศครีมยี่ห้อลางนีสแล้ว อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมจะต้องเปลี่ยนชื่อไปให้ไม่เหมือนกันในแต่ละประเทศด้วย ทั้ง ๆ ที่สัญลักษณ์ก็เป็นหัวใจรูปตัวดับเบิ้ลยู เหมือน ๆ กัน เพื่อน ๆ ของเกย่าจากปารีสบอกว่า ในฝรั่งเศสไอศครีมยี่ห้อนี้ใช้ชื่อมิโกะ (Miko) ในขณะที่ในประเทศไทย เรารู้จักกันในชื่อไอศครีมวอลล์ (Wall) เกย่าไม่แน่ใจว่า มิตรรักนักอ่านจากประเทศอื่น ๆ จะพบเห็นไอศครีมยี่ห้อดังกล่าว ในนามอื่นอีกหรือไม่
"เอารสอะไร เกย่า" มูรัตตะโกนถามมา ตอนแรกกะจะตอบว่าสตรอเบอรี่ แต่เกรงว่าจะกระแดะเกินไป เลยเปลี่ยนใจเป็น อะมาเร็ตโต้ (Amaretto) แทน "รสเดียวเหรอ กี่ลูกล่ะ ใส่โคน เหรอ" มูรัตถามมาอีก "อืม ลูกเดียวพอ" เกย่า ตอบ ขืนทานมาก ๆ เกิดอ้วนเป็นตุ่มขึ้นมา ก็หมดสวยสิยะ
ไม่ถึงอึดใจ นายมูรัตก็เดินยิ้มร่า ถือไอศครีมมา 2 โคน อะมาเร็ตโต้ให้เกย่า และมอคค่า (Mocca) สำหรับเค้าเอง เกย่ามองมูรัตใช้ปลายลิ้นตวัดไอศครีมเข้าปาก แล้วก็หัวเราะออกมา
มูรัต... "ว้อส" เกย่า... "นิชท์, ดู บิ๊สท์ ฮึบช์ " เปล่า คุณน่ารักดี
เดินไปพลาง เลียไอศครีมไปพลาง ทางที่เดินอยู่ก็ค่อย ๆ ลาดลง ๆ มุมซ้ายของถนนเกย่าก็เจอเข้ากับตู้โทรศัพท์สีแดง สไตล์อังกฤษเป๊ะ ตั้งอยู่ มีประกาศติดอยู่ข้าง ๆ ให้อ่านด้วย จึงได้ความรู้ว่า Greenwichpromenade นี้ ได้รับความร่วมมือจากตำบลกรีนิชของอังกฤษในการพัฒนาและตกแต่ง บริเวณโดยรอบให้เป็นของขวัญแก่ผู้ที่อยู่อาศํยที่นี่ เมื่อเดินต่อไปตามทางลาด ทะเลสาบเทเก้ลก็ปรากฏต่อสายตาตรงหน้าฮ่ะ กรี๊ดดดดดดดดดดส์
ถ้าหากว่าเกย่าเป็นผู้หญิง เกย่าก็คงจะไม่รีรอที่จะดึงมือมูรัตให้วิ่งไปด้วยกันที่ทะเลสาบ และหากมูรัตเป็นชาวเยอรมัน ไม่ใช่ตุรกี เกย่าก็อาจจะกล้าทำอย่างนั้น เพราะการแสดงออกในที่สาธารณะของเกย์และเลสเบี้ยนในเยอรมันนั้นเป็นสิ่งที่สามารถทำได้อย่างเสรี (แต่ก็ไม่ถึงกับมาปั่มปั๊ม กันให้คนดูนะฮะ) การจับมือถือแขน การจุมพิตกัน ถือเป็นเรื่องปกติ อาจจะมีคนมองมาด้วยสายตาไม่ชอบใจบ้าง แต่เขาเหล่านั้นก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเป็นสิทธิของพลเมืองที่สามารถแสดงความรักต่อกันในที่สาธารณะได้ ตราบใดที่ยังไม่เข้าข่ายอนาจาร
ทางเดินริมทะเลสาบนั้น ได้รับการจัดทำและดูแลอย่างดียิ่ง สองข้างทางเป็นต้นไม้ใหญ่ ปลูกเรียงต่อกันเป็นแนวสุดสายตา ในฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วง บรรยากาศจะสวยมากกว่านี้มาก เกย่ากับมูรัตค่อย ๆ เดินไปจนถึงริมทะเลสาบที่น้ำใสแจ๋ว มีก้อนน้ำแข็ง ลอยอยู่ทั่วไป น้ำใสจนมองเห็นก้อนหินมากมายอยู่ใต้ผืนน้ำ ปลาตัวโต ว่ายไปมาอยู่ข้างล่างนั่น ท่าจอดเรือนั้นว่างเปล่า เพราะเรือนำชมทะเลสาบ และสายน้ำฮาเวล (Havel) จะหยุดให้บริการในหน้าหนาว
ปกติพื้นน้ำของทะเลสาบจะแข็งตัวขาวโพลนไปทั้งหมด แต่สัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ปีนั้น อากาศได้อุ่นขึ้นจนแตะระดับ 10 องศา แผ่นน้ำแข็งจึงละลายไปมากแล้ว ถึงแม้ว่าในวันเสาร์ที่เกย่ากับมูรัตไปที่นั่น ลมหนาวจะกลับมาอีก แต่ก็ไม่แรงพอที่จะทำให้ทั้งทะเลสาบกลายเป็นลานสเกตน้ำแข็งใหม่ได้ทัน แสงแดดที่เจิดจ้า เพราะท้องฟ้าสีครามสด ปราศจากเมฆคอยบดบัง ช่วยให้รู้สึกอุ่นขึ้นมากทีเดียว
ท่าจอดเรือ เป็นสะพานยาวยื่นเข้าไปในทะเลสาบ เกย่าชวนมูรัตเดินไปจนถึงปลายสะพาน ซึ่งมีฝูงนกน้ำ เป็ด และหงส์ ว่ายเรียงรายอยู่มากมาย ถึงแม้จะป็นหน้าหนาว นกน้ำเหล่านี้ก็ไม่ได้อพยพไปไหน เพราะมีผู้เยี่ยมชม และเจ้าหน้าที่คอยนำอาหารมาเลี้ยงดู จนอิ่มหมีพีมัน อ้วนปี๋กันทุกตัว เวลาหนาวมาก ๆ เวลาผิวน้ำเริ่มจับตัวเป็นน้ำแข็งนั้น เท้าของหงส์ หรือเป็ดบางตัวก็ถูกน้ำแข็งจับติดล็อคแน่นอยู่ ไปไหนไม่ได้ คนพบเห็นก็จะโทรไปแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยปลดปล่อยนกโชคไม่ดีตัวนั้นให้เป็นอิสระ
บรรดาหงส์ที่ทะเลสาบนั้นคุ้นเคยกับผู้คนอย่างดี และไม่รีรอที่จะปรี่เข้ามาขออาหารเมื่อเห็นเรา เรียกว่าใช้ จงอยปากมาจิ้มตรงมือกันเลยทีเดียว เกย่าไม่กลัวหงส์ เพราะที่บ้านคุณปู่คุณย่าที่ต่างจังหวัดมีห่านหลายตัว และเกย่าก็คุ้นเคยกับพวกมันอย่างดี พอจะดูออกว่า ตอนไหนที่พวกห่านไม่พอใจ และตั้งท่าจะโจมตีผู้บุกรุก
พอเห็นเหล่าหงส์ เดินรี่เข้ามาหา เกย่าก็ล้วงเป้ เอาขนมปังแซนวิชที่เอาติดตัวมาเป็นอาหารว่างนั้น บิให้
มูรัต... "ฟ้อร์ซิซ, ซี เคิ้นเนิน แซร้ อาเกร้สสีฟ ไซน์" ระวังนะ บางที พวกมันก็ก้าวร้าวมากเลยล่ะ เกย่า... "ม้าค เดียร์ คายเน่ะ ซ้อร์เกน, อิ๊คช์ เค้นเน ซี " อย่าห่วงไปเลย ผมรู้จักพวกมันดี
แต่เกย่าก็ไม่ได้ให้ขนมปังกับหงส์มากมาย ถึงแม้ว่าจะเป็นชนิดโฮลวีต ซึ่งเป็นผลดีต่อสุขภาพมากกว่าขนมปังขัดขาว แต่เท่าที่ดู หงส์พวกนี้ ชักจะมีปัญหาน้ำหนักเกินกันแล้วล่ะ
หยอกล้อพวกหงส์อยู่ครู่หนึ่ง เพิ่งสังเกตว่านายมูรัตยืนเสียห่างเลย ฮะ ฮะ นึกว่าจะแน่ ที่แท้ก็กลัวหงส์จะงับเอานี่นา
เกย่า ... "ฮ้าสท์ ดุ อ๊างสท์" กลัวเหรอ มูรัต... "เน่ะ, อิ๊ค คาน ดิ๊ค ฟอน เฮียร์ เบ้สเซ่อร์ เซเฮน" ..... คำตอบของนายมูรัต เล่นเอาเกย่าอายม้วนไปเลยลอยู่ตรงนี้ ผมมองคุณได้ชัดกว่าน่ะ ... แต่จริง ๆ ก็กลัวหงส์งับนั่นล่ะ ทำมาเป็นฟอร์ม รู้หรอกน่า
เกย่าเดินไปกับมูรัตรอบ ๆ ทะลสาบ อากาศสดชื่นมาก ๆ เราไม่ได้คุยอะไรกันมาก นอกจากยิ้มให้กัน และเดินไปเรื่อย ๆ สบาย ๆ จู่ๆ มูรัต ก็บอกว่า รู้จักสถานที่อีกด้านหนึ่ง ของทะเลสาบ แต่เราต้องข้ามถนนไป ไม่ค่อยมีใครที่นั่นเกย่าสนใจจะไปดูไหม มีหรือจะปฏิเสธ ไปไหนไปกันอยู่แล้ว
เดินตัดถนน ซึ่งเป็นสะพานไปยังอีกด้านหนึ่ง ข้างล่างสะพานนั้นเป็นช่องคอคอดรอยต่อระหว่างทะเลสาบกับสายน้ำฮาเวล น้ำลึกมากจน แสงแดดที่สาดจ้าต้องผิวน้ำนั้น สะท้อนประกายอย่างมรกตน้ำงาม พอเดินไปถึงอีกด้าน ก็เป็นทางเดินหินปนดิน ลาดชันลงไป ทางลงนั้นค่อนข้างแคบ มูรัตเดินนำเกย่าลัดเลาะต่ำลงไป สองข้างทางได้ยิน
เพียงเสียงนกร้อง นอกจากนั้นก็ไม่ได้ยินอย่างอื่นอีก เดินบ้าง ลื่นบ้างตามหลังมูรัตไปครู่ใหญ่ ก็มาโผล่ตรงลานหิน ที่วิวด้านหน้าเป็นทะเลสาบอีกด้านหนึ่ง จุดที่ยืนอยู่บนลานหินนั้นเป็นคล้ายผาสูงชัน และตรงด้านข้างก็มีทางซึ่งแคบมาก ลดเลี้ยวลงไปยังผืนน้ำทะเลสาบด้านล่าง ซึ่งมองเห็นหาดก้อนกรวดเล็ก ๆ ว่างเปล่า ไร้เงาผู้ใด
แสงแดดสาดส่องที่ลานหิน เกย่าลองเอามือจับตรงพื้นหินดู ค่อนข้างอุ่นดีทีเดียว มูรัตถอดเสื้อแจ็คเกตออก แล้วปูลงบนลานหินก่อนจะเอนตัวนอนลงไป (ใครจำฉากไตเติ้ลได้บ้างฮะ คริ คริ...) เกย่าค่อย ๆ ทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ มูรัต
เกย่า.... "แซ้ร์ ชุน วุ้นเดอร์ชุน" สวยจัง สวยมาก ๆ มูรัต... "ซิ๊สท์ ดู๊, อิ๊คช์ เคนเน ดิ เบ๊สเต" เห็นไหม บอกแล้ว ว่าผมรู้สิ่งที่ดีที่สุด ผู้ชายชาวตุรกี มักจะขี้โอ่ อย่างนี้ล่ะฮะ ใครจะคบเป็นแฟนต้องทำใจหน่อย คริ คริ
เกย่ามองใบหน้าอันน่ามองของมูรัต จินตนาการไปว่าริมฝีปากบางเฉียบได้รูปนั้นค่อย ๆ จุมพิตลงมา บรรยากาศเป็นใจช่างให้เหลือเกิน อ่าาาาาาา ....
"เกย่า" เสียงเรียกของมูรัตปลุกเกย่าตื่นจากภวังค์ แล้วชี้มือไปที่ทะเลสาบที่น้ำใสราวกับกระจกนั้น แล้วพูดขึ้นว่า เราไปว่ายน้ำกันไหม
"จะบ้าเหรอ ลงไปก็หนาวตายพอดีน่ะสิ"
"ทำไมล่ะ คนรัสเซีย เค้ายังทำกันเลย ดีต่อสุขภาพ" มูรัตยังคงไม่หยุดเรื่องตลก
"งั้นมูรัต ลงไปก่อนแล้วกัน ถ้าไม่ตาย เดี๋ยวตามไป"
แล้วเราก็หัวเราะดังลั่น เพราะไม่ต้องเกรงว่าใครจะมาได้ยิน
แล้วมูรัตก็พูดขึ้นว่า อีกไม่กี่วัน เค้าก็ต้องกลับไปตุรกีแล้ว วันพุธนี้ เค้าจะต้องขอสอบปิดคอร์สก่อนเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ
"เคิ้นเนิ่น เวียร์ ฮ้อยเท่ะ น้าคท์ บาย เมียร์ ทซุซามเมน แล้ร์เน้น" คืนนี้เราไปติวหนังสือกันที่ห้องผมได้ไหม--มูรัตเอ่ยขึ้น ก่อนจะยิ้มให้
เกย่าช็อคเพราะไม่คิดว่าจะได้ยินคำถามนี้ ตลอดเวลาตั้งแต่ เราพบกันที่สถานีรถไฟใต้ดิน จนมาซื้อไอศครีม ตอนเล่นกับหงส์ และระหว่างที่เดินมาจนถึงลานหินนี้ เราไม่ได้พูดอะไรเลยเกี่ยวกับจดหมายของเกย่า
"โอเค, อาแบร์ อิ๊ค มุส มายเน่ะ ท้านเท่ะ เบไชด์ ซาเกน" ตกลง แต่ผมบอกคุณป้าก่อนนะ
หลังจากนั้นเกย่าก็โทรขออนุญาตคุณป้า ท่านเป็นห่วงเกย่ามาก และบอกให้ระวังตัวให้ดี ย้ำหลายครั้งว่า จะต้องป้องกันตัวเอง ก๊ากกก...พูดยังกะเกย่าจะไปออกสมรภูมิแน่ะฮะ
แล้วคืนนั้นเกย่าก็ไปติวหนังสือที่ห้องของมูรัต หนังดำเนินใกล้มาถึงฉากไคลแมกซ์แล้ว เกย่าไม่แน่ใจว่าจะเลือกฉากใดมากั้นจากเตียงดี ในหนังบางเรื่อง เค้าใช้โคมไฟหัวเตียง บ้างก็ใช้แจกันดอกไม้ บางทีก็เป็นฉากฝนที่กำลังตกหนักนอกหน้าต่าง แต่ที่แน่ ๆ เซ็นเซอร์ของหนังเรื่องนี้ ไม่มีตอนต่อให้อีเมล์มาขอกันนะฮ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
ขอบคุณที่ติดตามชมฮ่ะ ขอให้สนุกกันทุกท่านนะฮะ จุ๊บ ๆ ๆ
จากคุณ :
เกย่า
- [
15 ก.พ. 49 20:56:20
A:213.23.162.244 X: TicketID:115691
]
|
|
|