อุ๊ย มาปูเสื่อรอกัน ยังกะหนังกลางแปลงเลยนะฮะ เดี๋ยวหนูก็อดใจไม่ไหว ย้อนอดีตความหลัง สมัยต้มข้าวโพดไปขายกลางลานฉายหนังซะเลย อิอิ
พักเรื่องภาษีเอาไว้แค่นี้ก่อน รอถามท่านผู้เชี่ยวชาญวันอาทิตย์ แล้วจะ (ต้อง) กลับมาแก้ไขข้อความกันอีกทีฮ่ะ
กลับมาที่ร้านอาหารไทยกันต่อนะฮะ จะว่าไปรายได้ของร้านอาหารไทยที่นี่ ในกรณีขายดีเป็นเทน้ำเทท่า (ไม่ใช่เอาไปเททิ้ง อย่างศรีธนญชัย ช่วยยายขายขนม) หากเทียบดูราคาอาหารต่อจานแล้ว ก็หรูหราฟู่ฟ่ากันอยู่ไม่น้อย ส้มตำไทย มีกุ้งแห้งห้าตัว ชิ้นเท่าปลายก้อย กะถั่วลิสงคั่วเม็ดน้อย ๆ อีกสิบสี่ซีก ผสานวิญญาณมะละกอ ห่อแทรกด้วยกายาแครอท ไม่มีแคบหมูทอดแถมมาข้างจานแต่อย่างใด ราคาโดยทั่วไปก็ตกจานละไม่ต่ำกว่า 10-15 ยูโรนะฮะ แอร๊ยย ตัวทำกำไรชั้นหนึ่งเลยนะ ตำบักหุ่งเนี่ย
ครี้งหนึ่งเกย่าเคยไปทานอาหารไทยที่ร้านซึ่งมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในแบร์ลิน แน่นอนว่าราคาก็สูงตามป้ายประกาศคุณภาพในหน้าหนังสือแนะนำอาหารร้านอร่อยไปด้วยนะฮะ ช่วงนั้นคุณป้ากลับไปเมืองไทย แต่คุณลุงติดงานตามไปด้วยไม่ได้ เกย่าเลยรับอาสาทำหน้าที่ภรรยาที่ดี เอ๊ย ทำหน้าที่ดูแลเฝ้าคุณลุงไม่ให้คลาดสายตาไปหาสาวที่ไหนแทนคุณป้าฮ่ะ ถึงจะรับหน้าที่พ่อครัวหัวป่าก์ทำอาหารไทยให้คุณลุงคุณป้าทานแทบทุกวัน แต่นานเข้า เกย่าก็เริ่มเบื่อฝีมือของตัวเองบ้างเหมือนกัน
ได้โอกาสคุณป้าไม่อยู่บ้าน ชวนคุณลุงไปเริ่งร่าหรรษา หาอะไรทานกันข้างนอกดีกว่า แต่พิซซ่าเกย่าก็ไม่ชอบ... โดเน่อร์ตุรกี ลุงร้องยี้ "ผมไม่รับ"...ตับห่านฝรั่งเศสแสนทารุณสงสารสัตว์ ...อาหารอินเดียมังสวิรัติ แป้งเยอะอึดอัดเกิน... อาหารจีนเมินซะเถอะ มันก็เยอะเกลือก็แยะ... ขาแกะย่างตามอย่างกรีก... คุณลุงอ้างว่าเหม็นสาบ... งั้นลาบเป็ดเอาไหมฮะ... เออดีว่ะไปกันเล้ยยยย สรุปว่า เราก็ตกลงใจไปร้านอาหารไทยกันฮ่ะ และร้านที่เกย่าเลือก ก็คือร้านที่ได้รับรางวัลอาหารรสเลิศ จากหนังสือนักชิมของแบร์ลินประจำปีนั้น
นั่งรถเบนซ์คันโก้ของคุณลุง (ทำไมแฟนชั้น ไม่รวยอย่างนี้บ้างฟะ) ข้ามสะพาน Glienicker Bruecke ซึ่งเชื่อมสองฝั่งระหว่าง
พอตสดัมกับแบร์ลิน ตรงไปยังเขตแบร์ลินซิตี้เวสต์ โดยจุดหมายปลายทางคือร้านอาหารไทย ซึ่งได้รับรางวัลการันตีคุณภาพและรสชาติที่ว่า.....
เกย่านั้นลงจากรถแล้ว ก็เดินตามหลังคุณลุงต้อย ๆ เพราะยังติดนิสัยให้เกียรติผู้อาวุโสกว่าจากเมืองไทยมา ซึ่งมักจะโดนคุณลุงเอ็ดเอาเป็นประจำ ท่านบอกว่า จะมาตามหลังอยู่ทำไม ไม่ได้ล่ามโซ่ให้เดินตามอย่างทาสนะ แต่ถึงจะถูกเอ็ดกี่ที เกย่าก็มิอาจเลิกนิสัย ค้อมตัวลงต่ำยามเดินผ่านผู้ใหญ่ หรือ เอามือปิดคอเสื้อเวลาก้มลงหยิบของตก (อิอิ) ได้เลยล่ะฮ่ะ แหม วัฒนธรรมหญิงไทยใจงามชิมิคะ
พนักงานในชุดล้านนาไทย มายืนพนมมือไหว้สวัสดี ต้อนรับตั้งแต่หน้าประตูเลยนะฮะ เกย่าก็ยกมือไหว้ตอบและกล่าวสวัสดีกลับไปอย่างชัดถ้อยชัดคำ เพื่อย้ำว่า หนูก็คนไทยค่ะ ด้วยเหตุที่หน้าตาของเกย่าละม้ายไปทางเอเชียตะวันออก มากกว่าไทย จะคล้ายไต้หวัน จีนแผ่นดินใหญ่ เกาหลี หรือญี่ปุ่น ก็ช่างเถอะนะฮะ ประเด็นก็คือ ผิวขาวจัด ตาสีอ่อน และผมก็น้ำตาลธรรมชาติชัดเจน ต่างจากคนไทยในสายตาฝรั่งทั่ว ๆ ไป แต่เกย่าไม่ใช่ลูกครึ่งนะฮะ จะครึ่งชายครึ่งหญิง หรือลูกผสมแม่นางเสี่ยวชิง กะอ้ายลุ่มน้ำปิง ก็ไม่ใช่ทั้งนั้นฮ่ะ
บริกรชายเดินนำสองลุงหลาน ต่างผิวพรรณและสัญชาติไปยังที่นั่งเรียบร้อยแล้ว บริกรหญิง ซึ่งหน้าตาก็บอกถิ่นฐานภูมิลำเนา แต่เอาชุดล้านนามาห่มเจียมนั้น ก็เดินมากล่าวสวัสดี พร้อมมีเมนูมาให้
" กู่ เทนนน อ๊าาาเบน...เท่อะ" เธอทักทายคุณลุงซึ่งนั่งตรงข้ามกับเกย่า ด้วยภาษาเยอรมันที่ชัด จนเกินความจำเป็นมาก คุณลุงเหลือบมองตาเกย่า แล้วหันไปยิ้ม ทักทายตอบ
" ซา หวัด ดี คา คุณ น้องง" เกย่าจนใจ ไม่รู้จะใช้อักขระ อักษรไทยที่มีอยู่ ถ่ายทอดเสียงของคุณพี่บริกรหญิงได้อย่างไร เอาเป็นว่า นึกภาพดีเจแชแนลวี ที่พูดไทยสำเนียงลูกครึ่ง ผสมกับพี่อุ้ม สิริยากรก็แล้วกันนะฮะ คำว่า "คุณน้อง" ของเธอนั้น เสียงสั้นมาก ๆ พอ ๆ กับ "คุณน็อง" ที่มีไม้ใต่คู้ แต่เสียงวรรณยุกต์ตรีกำกับ ดับเบิ้ลอยู่ด้วยน่ะฮะ
ก่อนที่เกย่า จะเอ่ย สวัสดีตอบรับกลับไป เธอก็ยิ้มให้เกย่า เห็นฟันด้านหน้าครบทุกซี่ ตัดกับริมฝีปากฉาบลิปสติกสีแดงสด แล้วพูดว่า...
"แฟ็น คุณ น็อง เหรอะ ค้า" เธอสงสัยใคร่รู้ว่า ผู้ชายวัยกลางคน มาดอาเสี่ย ที่นั่งอยู่ตรงข้ามเกย่าเนี่ย เป็นคุณซะมีหนูอ๊ะป่าว (กรุณาเลียนเสียงเธอตามที่ พยายามถอดเสียงคำอ่านไว้ให้ฮะ จะได้อรรถรสมาก)"
เกย่าขำเสียงแอ๊คเซ่นของเธอจนลืมโกรธ ในความสู่รู้จุ้นจ้านจนเกินงามนั้น จึงได้แต่ระบายยิ้มไปทั่วหน้า
คุณลุงมองตาเกย่า แล้วยักคิ้วเลิ่กลั่ก เป็นเชิงถาม ปนพิศวงงงงวย
" เหม่-นู้ เฟื้อ ซี" เธอพูด พลางส่งเมนูอาหารให้คุณลุง
" เมนู คา คุณน็อง" เธอหันมาส่งเมนูให้เกย่า
เกย่าก็รับมา และขณะจะเปิดอ่านด้านใน
" ร็าว ไม้ มี พะซา ทาย นาคา คุณ น็อง " -- เข้าใจที่เธอพูดไหมฮะ ถ้าไม่ เดี๋ยวจะกลับมา เป็นล่ามถอด ทาย เอ๊ย ไทย ให้ทีหลังฮ่ะ
" ว้าส ซ้ากเท่ะ ซี้ " ประโยคนี้ คุณลุงถามเกย่า ว่าคุณบริกรหญิงพูดอะไรไปตะกี้
แต่คุณบริกรสาวผู้หูไว ก็อาสา (โดยเรามิได้ร้องขอ) ตอบคุณลุงแทนเกย่า
" อิ๊คเช่อะ มายเน่อะ เวียร์ ฮ้าเบ้น ไคน์ ไทแลนดิ้ชเช่อะ ฉะปร๊ากเฮ่อ เหม่นู้ เฮียร์" เธอบอกว่า ไม่มีเมนูภาษาไทย (ให้อีตาหัวน้ำตาลที่นั่งอยู่ตรงนี้น่ะ)
ฟังน้ำเสียงของคุณเธอ ผสานกับรอยยิ้มเหยียดเล็ก ๆ ตรงมุมปาก แล้ว เกย่าก็แน่ใจว่า เธอคงจะสำคัญผิดคิดไปว่า อีตาฝรั่ง มาดอาเสี่ย ที่นั่งอยู่เนี่ย ไปหิ้วเกย่ามาจากที่ไหนสักแห่ง อิอิ.....
" อาแบร์ เว้ลเช่ะ ชปร๊าคเฮ่ะ ชเต้ททึ เฮียร์ " ด้วยภาษาเยอรมันสำเนียงกลางที่ชัดเจน คุณลุงถามบริกรสาว ก่อนจะชี้นิ้ว ให้เธอดูในเมนู
Som-Tam Thai
Lap Kai
Yam Ta-Lay
ชื่ออาหารพิมพ์ด้วยภาษาไทยคาราโอเกะ ขนาบเคียงข้างด้วยคำอธิบายลักษณะอาหาร จานนั้น ๆ เป็นภาษาเยอรมัน
" โอ๊ว ยา เกะนาว" -- โอว ใช่ จริง ๆ เธออุทาน เมื่อเห็นว่า ภาษาไทยในเมนูก็มีนะ(ยะ)
เกย่าไม่อยากจะถือสาหาความอะไรเธอ เพราะเห็นพฤติกรรมของสาวไทย "บางนาง" ที่นี่มาจนชิน จึงสั่ง ผัดไก่เม็ดมะม่วงหิมพานต์ อาหารจานโปรด เป็นจานหลัก หลังจากที่อาหารเรียกน้ำย่อยนั้น สั่งทอดมันกุ้งไปแล้ว
" โอว คุณน็อง คา ไก ผัด เม้ด มะม็วง คิด ว้า ไม่ ทุ้ก จาย นาคา " เธอแย้ง
"ทำไมเหรอฮะ" เกย่าถาม
"มาน จา ไม้ เผ็ด นาคา เมือน อาหัน จีน มั่ก กวา คา" เธอบอก
เกย่าฟังคำแนะนำของเธอ ก็ดูเข้าทีดีอยู่ เลยเปลี่ยนใจสั่ง ยำปะการังแทน แอร๊ยยย เผ็ดแซ่บ แสบลำไส้ใหญ่ ในตอนเช้าวันถัดไป ม้ากกก ค่าาา
อาหารที่คุณลุงสั่งนั้น คือ กระทงทองทอด และลาบเป็ดนะฮะ ท่านสั่งแม่โขงมาด้วย เพราะคุณบริกรสาวบอกว่า เหล้าไทยแรงซู่ซ่าฮ่ะ เอิ๊ก ๆ
อาหารคืนนั้น อร่อยเลิศสมคำโฆษณา และการันตีฮะ เราสั่งอาหารเพิ่มอีกสองสามอย่าง แต่ไม่ทานของหวาน เบ็ดเสร็จมื้อนั้น จ่ายไปร่วมร้อยยูโรทีเดียว.....
ทานอาหารร้านหรูกันไปแล้ว เดี๋ยวพาไปชิมร้านไทยราคาถูกกว่าบ้างฮ่ะ ลองมาดูกันว่าบรรยากาศ และการบริการ ตลอดจนรสชาติอาหารเป็นเช่นไร..................
แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 49 15:04:29
แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 49 15:01:55
แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 49 03:55:44
แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 49 01:04:28
แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 49 01:02:12
แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 49 00:44:18
แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 49 00:39:19
แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 49 23:54:39
แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 49 23:51:04
แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 49 23:47:26