ความคิดเห็นที่ 1 ซื้อของอินเตอร์เน็ต ถ้าไม่มีบัตร ต้องส่งเงินไปก่อนแล้ว จึงจะได้ของ เช่น พวกโต๊ะประมูลต่างๆ ถ้าใช้บัตรเครดิต ทางร้านจะหักค่าสินค้าจากบัตรเมื่อได้ ส่งของออกมาแล้ว จากคุณ : อ.ปมโปโกะ - [ 21 มี.ค. 49 08:13:02 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอต่อว่านิดหนึ่งได้ไหมค่ะ "พวกน้าๆ" และ "น้าๆ" นี่ฟังไม่รื่นหูเอาเสียเลยอ่ะ (แทงใจคนที่กำลังกังวลเรื่องริ้วรอย (^^;) ) การซื้อของทางอินเตอร์เนตก็มีบ้างเหมือนกันที่สามารถเลือกจ่ายเงินตอนรับของแบบที่เรียกว่า "daibiki" ซึ่งการเลือกการจ่ายแบบนี้จะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มมาด้วย จากคุณ : เอส (SMS from Japan) - [ 21 มี.ค. 49 10:27:03 ]

ความคิดเห็นที่ 3 - หากไม่อยากชำระโดยบัตรเครดิต เดี๋ยวนี้การซื้อของทาง เนต หรือ / mail order หลายที่ให้จ่ายเงินตอนมาส่งของ ได้ค่ะ แบบยื่นหมูยื่นแมว แต่ก็อย่างที่คุณSMSบอก จะต้อง เสียค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น แต่ไม่มากค่ะ เวลาส่งของไทยขายที่เมืองไทย ควรระวัง - มั่นใจว่าค่าของคุ้มกับค่าส่ง (เพราะทางไปรษณีย์อากาศ ราคาไม่ถูกค่ะ) - ค่าภาษีที่เมืองไทย (ส่วนใหญ่จะโดนสุ่มค่ะ ให้ทำใจไว้ ได้เลยว่าหากโดนเปิดขึ้นมา มีแนวโน้มที่จะต้องเสียภาษี เยอะ) - ของหาย (ชนิดหาร่องรอยไม่ได้ และไม่มีคนรับผิดชอบ ซึ่งคุณทำป้องกันได้ก็เพียงส่งแบบลงทะเบียน แต่ค่าส่งก็ ยิ่งแพงขึ้นไปอีก) - พวกกล้อง เลนส์ ได้ยินมาว่าซื้อจากญป จะไม่ประกันที่ เมืองไทย แล้วถ้ารัหว่างขนส่งไป ของชำรุด/แตกหัก (ใคร จะรับผิดชอบเอ่ย) - การจ่ายเงิน (คุณจะเช็คได้อย่างไรว่าลูกค้าโอนเงินให้ แล้ว หากคุณอยู่ทางนี้เช็คลำบากมาก คุณต้องมีคนช่วยคุณ ทำธุรกิจนี้อยู่ทางเมืองไทยด้วย หรืออย่างดีคุณต้องเปิดขอ ใช้ Internet banking เพื่อที่คุณจะเช็คว่าลูกค้าโอนเงินมา แล้วหรือยัง...ทวงก็ลำบากนะคะ) พี่ว่าคุณหาของจากเมืองไทยมา เช่าที่ขายตามflee market ท่าจะง่ายกว่านะคะ แต่อย่าถามว่าทำยังไงนะคะ หากพี่รู้ก็รวยไปนานแล้ว จากคุณ : fudge-a-mania - [ 21 มี.ค. 49 10:38:40 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คิดว่าหลาน(ก็เขาเรียกเราน้า นี่นาาา) น่าจะหางาน Part-Time ..หรือญี่ปุ่นเรียกว่า อารุไบ๊โตะ ทำจะดีกว่า..ถ้าหากอยากช่วยทางบ้านจริงๆ..ตั้งใจทำ ไม่เกี่ยงงาน เดือนนึงก็ได้พอสมควร..จะปรึกษาเรื่อง อารุไบ๊โตะ..ก็ถามน้าๆแถวๆนี้ดูน๊ะ..มีผู้รู้มากมายหลายท่าน..อิอิ.. หาอะไรทำอย่างที่หลานบอกมาข้างบน..หลายๆคนก็คิดกันอยู่ และก็คิดกันมาเป็นสิบๆปีแล้ว สำหรับนักเรียนไทย..นอกจากนักเรียนไทยแล้ว..ยังมีคนไทยในญี่ปุ่นอีกเป็นหมื่นคน หลายๆคนก็คงคิดคล้ายๆกัน..บางคนอาจมีคนรู้จักมากกว่าหลาน ยังทำไม่ได้เลย..ธุรกิจมันไม่ง่ายอย่างที่คิดน๊ะหลานน๊ะ.. อย่างที่น้าๆข้างบนว่ามาแหละ..ปัญหายังมีตามมาอีกมาก..ไม่ใช่แค่ออร์เดอร์ ซื้อมา ส่งให้ รับของ แล้วจบแค่นั้น..หลานจะเอากำไรตรงไหน..ไปเดินหาของ ค่ารถไปกลับ ค่าเหนื่อย ค่าโน่นค่านี่ บวกกำไรเข้าไปอีก..แล้วของมันจะราคาเท่าไหร่ง.คนฝากซื้อจะแฮปปี้ไม๊...ไม่หมูเลยน๊ะหลาน..ถ้าจะทำให้มีรายได้ดีน่ะ.. คิดช่วยเหลือทางบ้าน..รู้จักคิดทำมาหากิน เป็นความคิดที่ประเสริฐแล้วหลานเอ้ย..น้าสนับสนุน..แต่ถ้าหลานคิดจะทำอย่างที่หลานว่า..น่าอยากให้ไตร่ตรอง แล้วเอาตะแกรงร่อนดูซักสิบกว่าหนน๊ะหลาน..ว่าถ้าหลานคิดได้ ก็คงมีคนอื่นเคยคิดมาแล้ว..แล้วทำไมไม่มีคนทำต่อละ(นอกจากบ.ที่ทำจริงจัง).. อารุไบ๊โตะ..คือคำตอบแรกและง่ายที่สุดของการช่วยเหลือตัวเองในญี่ปุ่น..ได้ทำงาน มีประสบการณ์ ..เผลอๆได้งานใน บ.ที่เกี่ยวข้องกับโบเอกิ..อาจได้ไอเดียแจ่มๆและประสบการณ์ วิธีการ มาเริ่มของเราเองก็ได้..ไม่ต้องไปลองผิดลองถูกเองให้เสียเวลา.. จากคุณ : Carpenters - [ 21 มี.ค. 49 11:42:10 ]

ความคิดเห็นที่ 5 หวาวว ได้คำแนะนำจากลุง ช่างไม้เพี่ยบเรย  ขอบคุณงับ  หึหึหึ จากคุณ : Rym รีมมาโร่ - [ 21 มี.ค. 49 14:36:25 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สนใจงานอารุไบ ไหมครับ? กำลังรับสมัคร 1 เพศชาย 2 รูปร่างหน้าตาดี 3 ทำงานแค่ช่วงกลางคืน และอาจจะต้องทำกลางวันด้วยในบางวัน 4 ค่าแรงแล้วแต่ต่อรอง ตำแหน่ง " แฟนผมไง" อิอิ จากคุณ : House Of FlyingBird - [ 21 มี.ค. 49 16:19:48 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตำแหน่ง ข้างบน น่ากัวนะเนี่ย แนะนำ อารุไบ เหมือนกันครับ ค่าแรงโอเคทีเดียว หาไม่ยาก (อย่าเลือกงานแล้วกัน) ติดที่ว่า ทำได้ไม่เกิน 4 ชม. ต่อวัน อันนี้หลบเลี่ยงกันได้ แต่ระวังไว้ก็ดี สถานที่ผมเคยทำ อารุไบ ตอนเรียนที่นู่นนะ 1. ยามาโตะ คุโระเนโกะ อันนี้ผมเป๋อๆ เข้าไปสมัคร พูดญี่ปุ่นไม่ได้เลย แต่ฟังรู้เรื่องบ้าง ได้ 950/ชม. โอที 1200/ชม. ทำงานลากพัสดุ เอามาลงสายพาน ทำวันละ 3 ชม. มีข้อแม้ด้วยนะ ทำ 2 เดือน เว้น 1 เดือน ทำงานช่วง 1ทุ่ม-4ทุ่ม 2. ร้านอาหารไทย อันนี้เจอร้านดีก็โอเคนะครับ เจอร้านแย่โดนเอาเปรียบง่ายๆเลยครับ ดูให้ดีละกัน 3. ทำวีดีโอละครไทย ให้เช่า อันนี้ต้องมีสังคมคนไทย กว้างหน่อยนะ รายได้ดีมาก เลยครับ 4. หาเพื่อนไปขายอาหารไทย แบบออกงาน อันนี้ก็ดีนะครับ สนุก ได้เงิน เหนื่อยหน่อย แต่จะรู้สึกดีใจมากเวลาคนญี่ปุ่นกินแล้วบอกเราว่า โออิชิ แม้เขาจะโกหกก็ตาม 5. ส่งหนังสือพิมพ์ อันนี้ต้องตื่นเช้าหนอ่ย แล้วก็ต้องมีจักรยานด้วยนะ ไม่งั้นแย่แน่ 6. สอนภาษาไทย อันนี้ใครอย่าคิดว่าง่าย ยากพอดูแต่ก็ไม่ยากเกินไปหรอกสำหรับเราคนไทย สอนเด็กลูกคนไทยที่อยู่ที่ญี่ปุ่น หรือคนญี่ปุ่นที่อยากเรียนก็ได้ครับ แต่ต้องมีเทคนิคการสอนดีๆ หนอ่ยนะ รุ่งเลย ผมเคยมีนักเรียนมากสุด 6 คน เรียนกันสนุกเลย สอนชั่วโมงละ 1000 เยน/คน สัปดาห์ละ 2 วัน บางวันก็พาออกไปเรียนตาม โคเอน บางทีก็เรียนในบ้านนักเรียน หรือตามที่ต่างๆ เพื่อที่นักเรียนจะไม่เบื่อนะครับ แล้วก็ต้องขยันเดินหาหนังสือมาใช้สอนพวกเขาด้วยนะครับ ที่เคยทำมาก็มีแค่นี้อ่ะครับ ยังไงก็ลองดูนะ มองด้วยตัวเองดีกว่าว่าเราถนัดวิธีไหนที่สุด จากคุณ : PicKaJuu - [ 21 มี.ค. 49 20:18:47 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แหะๆ...ลืมบอกไป..ตอนนี้ผมก็ทำงานร้านอาหารไทยอยู่อ่ะครับ....เงินก็ได้พอสมควรอ่ะครับ....พอจะอยู่ได้...แต่เนื่องด้วย...ตอนแรกมาเรียนภาษาฯแค่ 6เดือน...ก็อาจจะต้องกลับ...แต่ผมว่ายังไม่ก่งพอที่จะพูดญี่ปุ่นอ่ะครับ...เลยลองสอบเซมมง...แล้วติด...ซึ่งก็ไม่น่ายากเกินไปสำหรับการเข้า...เอาเงินอ่ะนะ...ผมว่า...อยู่อีก 2ปี ก็นานเนอะ และด้วยสาเหตุนี้...ผมมีไบท์ทำแล้ว....จึงบอกแม่ไปว่า...จะหาค่ากินค่าอยู่เอง...ให้แม่จ่ายค่าเรียนกะค่าหอให้อ่ะครับ...ซึ่งเค้าก็จ่ายให้เยอะแล้วเนอะ...เงินค่าไบท์ก็พออ่ะครับ...แต่ก็อยากจะได้เพิ่มอีกนิดๆหน่อยๆก็ยังดี....ถ้าสามารถทำได้ ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นทุกๆความเห็นเลยนะคร๊าบบบ ปล. คือห้องกล้องเค้าจะเรียกผู้ชายว่า "น้า" แต่สำหรับผู้หญิงว่า "ป้า" อ่ะครับ...แหะๆๆ....โทดทีครับลืมตัวๆ จากคุณ : มันจะซ้ำอีกมะ - [ 21 มี.ค. 49 23:25:53 ]

ความคิดเห็นที่ 9 พี่อย่ายอมแพ้นะคร้าบบบ  เรื่องภาษาอยู่ๆไปได้แน่นอนคับป๋ม  สุ้ๆสุ้ตาย จากคุณ : Rym รีมมาโร่ - [ 22 มี.ค. 49 00:05:47 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สนใจงานอารุไบ ไหมครับ? กำลังรับสมัคร 1 เพศชาย 2 รูปร่างหน้าตาดี 3 ทำงานแค่ช่วงกลางคืน และอาจจะต้องทำกลางวันด้วยในบางวัน 4 ค่าแรงแล้วแต่ต่อรอง ตำแหน่ง " แฟนผมไง" อิอิ ^ ^ มาหาเรื่องกันดีกว่า ตำแหน่ง ->> แฟนผมไง  แสดงว่าเจ้าของกิจการเป็นผู้ชาย รับสมัคร ->> ผู้ชาย  แสดงว่าเจ้าของกิจการเป็น... อิอิ จากคุณ : Thechila - [ 22 มี.ค. 49 08:18:32 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าอยากจะทำจริงๆ..แนะนำว่าลองหาของที่ตลาดกว้างกว่านี้จะดีกว่า..เช่น เครื่องสำอางค์.. ที่จริงหิ้วเครื่องสำอางค์นี่ คนทำกันเยอะแล้ว..เช่น "เจ๊เล้ง"..แต่ดูๆตลาดก็ยังต้องการอีก..เพราะผู้หญิงเดี๋ยวนี้ รักสวยรักงามมากขึ้นเยอะเลย..แล้วช่วงนี้ของปลอมก็เยอะแยะ อันตรายมาก.. ถ้าหากมีใครหิ้วของแท้ จากญี่ปุ่น ราคายุติธรรมมาขายละก็..โอกาสซื้อมีสูงกว่าก่อนมากๆ.. ทำแบบเจ๊เล้ง..สมัยเริ่มแรก ก็ง่ายๆ..ซื้อเครื่องสำอางค์จากต่างประเทศ ..แล้วจ้างพวกแอร์ สจ๊วต หิ้วเข้ามาให้..อันนี้ต้องยอมรับ เจ๊แกมีเครือข่ายหลายประเทศ..ปัจจุบันรวยเป็นร้อยเป็นพันล้านแล้ว..ก็เครื่องสำอางค์หิ้วนี่แหละ.. ที่จริงก็รู้ว่า..เครื่องสำอางค์ฝากแอร์ สจ๊วต หิ้วเข้ามาขาย..ก็มีคนทำกันเยอะอยู่แล้ว..แต่โดยความเห็นส่วนตัวแล้ว ตลาดยังใหญ่พอที่จะรับได้สำหรับคนที่คิดจะเริ่มต้น..และที่สำคัญ ต้องมีเครือข่ายกว้างพอ.. เครือข่ายที่ว่า ที่สำคัญๆก็คือ.. 1 เครือข่ายกองทัพมด..คุณต้องมีเพื่อนหรือคนรู้จักที่เป็น แอร์ (โทรทัศน์ พัดลม ตู้เย็น ใช้ไม่ได้น๊ะ..) ..แอร์ฮอสเตส หรือสจ๊วจน่ะ ..เป็นตัวกลางหิ้วของให้.. หรือไม่ไก้เพื่อนที่มีบริษัททัวร์ มีทัวร์ญี่ปุ่นบ่อยๆ..ให้ช่วยหิ้วมาให้..อันนี้ต้องฝีมือหน่อย เพราะต้องเจรจาให้ลูกทัวร์ช่วยขนให้ซึ่งยากเอาการ..แต่ถ้าได้ ดีไม่แพ้พวกแนกเลย.. 2 เครือข่ายจัดจำหน่าย..ต้องหาช่องทางจัดจำหน่ายก่อน ..ถึงจะรู้ว่าที่ไหน ต้องการอะไร..เมืองไทยราคาเท่าไหร่..ส่งแคตตาล๊อกไปยั่วน้ำลาย บางรุ่นที่ไม่มีในเมืองไทย..ส่งเสริมการขายต่างๆนาๆเป็นต้น.. อันนี้หาไม่ยากหรอก ..ถ้าจะเริ่มที่ละน้อยๆก่อน..ถ้าเจอคนเก่งๆ ช่ำชองเรื่องเครื่องสำอางค์ พูดเก่งๆขายเก่งๆ..ก็เป็นอันใช้ได้.. ที่สำคัญอีกอีกอย่างหนึ่ง..ที่จะทำให้คุณกำไรมากขึ้น..อาจจะมากกว่าเดิม 15-30% เลยก็ว่าได้คือ..ช่องทางซื้อ.. ถ้าคุณเอาแบบง่ายๆ..คือซื้อตามร้านค้าทั่วๆไป..บางทีมีช่วงลดราคาบ้าง..ก็อาจได้ราคาเครื่องสำอางค์บางชนิดที่ถูกกว่าไทยพอสมควร..แต่อาจบวกกำไรไม่ได้มาก..เพราะอย่าลืมว่าคุณต้องขายถูกกว่า.. ซึ่งจุดขายสำคัญไม่ใช่แค่ของแท้..แต่ต้องถูกกว่าด้วย..จะนิดหน่อยก็ยังถือว่าถูกกว่า.. จะมีร้านค้า กึ่งๆร้านขายยา ที่ขายเครื่องสำอางค์สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยว..ที่ไกด์ส่วนใหญ่ ทั้งจากเมืองไทย และประเทศอื่นๆ มักนิยมพาลูกค้าไปเลือกซื้อ..มีมากแถวๆ อิเคบุคุโระ ชินจูกุ เป็นต้น.. ร้านค้าพวกนี้ จะให้ส่วนลดแก่ลูกค้า..ซึ่งแน่นอนถูกกว่าเดินซื้อตามห้าง หรือร้านอื่นๆ 10-20% แล้วแต่สินค้า..แถมยังมีค่าคอมมิชชั่น ให่กับไกด์อีกงามทีเดียว (ขอสงวนที่จะไม่บอก เพราะอาจไม่สมควรที่จะเปิดเผย).. ร้านค้าพวกนี้ ไม่นิยมรับแขกขาจร..ต้องหน้าคุ้นๆเท่านั้น หรือไม่ก็มีไกด์พามา..คุณต้องเข้าไปตีสนิท ..อาจจะบอกว่าเป็นไกด์ กำลังจะพาลูกทัวร์มาลง..สอบถามราคา ค่าคอมฯ ..แล้วค่อยเอาลิสต์ออร์เดอร์มาทีหลัง..บอกว่าลูกค้าต่างชาติไม่สะดวกมา..ฝากลิสต์มาซื้อให้..อะไรทำนองนี้แหละ..คุณก็จะได้ทั้งส่วนลด และค่าคอมฯ.. ที่สำคัญ..คุณต้องไม่บอกว่าซื้อเพื่อส่ง..ต้องย้ำว่าเป็นลูกทัวร์ที่มาเที่ยว แล้วมาซื้อที่นี่..เพราะถ้าคุณบอกว่าซื้อเพื่อส่ง..ราคาอาจลดไม่ถึงใจเท่ากับวิธีแรก..ที่คุณจะได้ถึงสองต่อ.. ร้านค้าพวกนี้จะมีทั้งร้านใหญ่และร้านเล็ก..การเจรจาต่อรองเขี้ยวไม่แพ้คนจีนในฮ่องกงเลย..เพราะต้องเจอแขกจากฮ่องกงและไต้หวันมากกว่าคนไทยเสียอีก..ต้องลองไปติดต่อทีละร้านดู..ร้านใหญ่ๆไม่น่าจะสนใจคุยด้วยกับมือใหม่ซะเท่าไหร่..เพราะขายดีอยู่แล้ว.. ลองหาดูร้านเล็กๆ ..ที่บางร้านมีทำกันสองคนผัวเมียบ้าง..พ่อๆแม่ๆลูกๆบ้าง..ท่าทางหน้าตาใจดี..ค่อยๆสร้างความสัมพันธ์ ..ยิ่งสนิท ยิ่งเพิ่มโอกาสต่อรอง.. เมื่อได้เครืองข่าย ครอบทั้ง สามแล้ว..ก็เป็นอันเริ่มธุรกิจได้..ช่วงแรกๆ อาจต้องใช้วิธีซื้อบายออร์เดอร์ก่อน.. เพื่อลดความเสี่ยงในการสต๊อกของ..อาจจะเริ่มจากคนรู้จักก่อน เป็นการฝึกไปในตัวด้วย.. ก่อนเริ่มต้องศึกษาให้หนัก..ต้องเดินห้าง ดูสินค้า ศึกษา..เช็คราคากับร้านคู่ค้าที่เราจะซื้อ..ส่งแค๊ตตาล็อกให้ทางเมืองไทย..ทางเมืองไทยก็ต้องศึกษาตลาด เช็คราคา..ศึกษากันไปมานานกว่าจะได้ออเดอร์ ล๊อตแรก..ต้องอดทน.. แน่นอน..มีคนคิดและทำวิธีนี้อยู่มากแล้ว..แต่โอกาสก็ยังคงมีอยู่..เพราะตลาดโตขึ้นเรื่อยๆ..และที่สำคัญ ถ้าคุณรู้แหล่งซื้อได้ถูกกว่าคนอื่น..นั่นก็หมายถึงอำนาจในการช่วงชิงตลาดคุณก็มากขึ้นเช่นกัน.. สู้ๆ แก้ไขเมื่อ 22 มี.ค. 49 11:17:46 จากคุณ : Carpenters - [ 22 มี.ค. 49 11:14:14 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ที่แนะนำไว้ข้างบน..เครื่องสำอางค์นั้น..ต้องย้ำว่ามีคนทำเยอะมากแล้ว..แต่ถ้าคุณแน่ใจว่าสามารถหาตลาดรองรับเองได้..ก็ไม่น่ามีปัญหา..ก็เหมือนๆกับที่เวลาเราไปญี่ปุ่น เพื่อนๆพี่ๆน้องๆญาติๆ ก็จะฝากซื้อกันเพียบเลย..อะไรทำนองนั้นแหละครับ..เริ่มจากคนใกล้ตัว ถ้ามีมากก็เริ่มได้ไม่ยาก. ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ..อุปกรณ์กอล์ฟมือสอง..อันนี้คนก็ทำกันเยอะมากแล้วเช่นกัน..เพราะราคาอุปกรณ์กอล์ฟมือสอง ที่ญี่ปุ่น ถูกกว่าเมืองไทยมากๆเลยทีเดียว..ขายกันมากแถวๆ โอคาจิมะจิ.. แต่ส่วนใหญ่ที่ทำกันอยู่เห็นเป็นในรูปแบบยกล๊อต..คือผู้เชี่ยวชาญบินไป เลือกๆๆๆ..ต่อรอง แล้วก็ซื้อๆๆๆ..ยกมากันที่เป็นตู้คอนเทนเนอร์..แล้วเอามาข่ายส่งให้กับร้านค้าอุปกรณ์กอล์ฟเมืองไทย..บางทีก็มีคนมาเหมาไปทั้งตู้..ไม้เก่ามากๆบ้าง เก่ากลาง เก่าน้อย คละกันไป.. อีกแบบหนึ่งก็คือ ซื้อแบบเป็นชิ้นๆ มีราคาหน่อย..อาจจะเลือกรุ่นที่กำลังนิยม และราคาดีๆ..ส่วนใหญ่จะเป็นไดร์เวอร์มากกว่าชุดเหล็ก..เพราะการขนจะคุ้มกว่า ไดร์เวอร์อันเดียว เบากว่าด้วย..ชุดเหล็กเป็นสิบอันต่อชุด หนักกว่าด้วย.. แบบนี้ คนที่ซื้อทางญี่ปุ่นต้องมีความชำนาญเรื่องอุปกรณ์กอล์ฟมากพอสมควร..ไม่ใช่ใครก็ซื้อได้..เพราะซื้อผิดเสป็คนิดเดียว..หมายถึงลูกค้าไม่เอาทันที.. บางทีเราเห็นๆว่าทั้งยี่ห้อ รุ่น เหมือนกันเดี๊ยะ..แต่ก้านไม่เหมือนกัน..บางที ทั้งยี่ห้อ รุ่น ยี่ห้อก้านเหมือนกันเด๊ะ..แต่เสป็คก้านไม่เหมือนกัน..ก็เป็นอันต้องหาคนอื่นมาซื้อแทน..มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนพอสมควร.. มีคนทำแบบนี่อยู่มากเหมือนกัน..แต่ส่วนใหญ่จะมีคนญี่ปุ่นคอยซื้อให้ที่ญี่ปุ่น..แล้วมีคนไทยคอยหาลูกค้าซื้อให้..บางทีก็เป็นร้านค้ายอมเสี่ยง สั่งเอารุ่นที่คิดว่าขายได้ง่าย เอามาเลย..เพราะยังไงๆก็ถูกกว่าเมืองไทยมาก.. ที่สำคัญที่สุดคือวิธีขน..ถ้าส่งกลับมาก็โดนทั้งค่าส่งและภาษีแถมระยะเวลาด้วย..แต่ถ้าทำได้ก็ยังมีกำไร.. เคยมีคนคิดว่า..ถ้าใช้บ.ทัวร์ช่วยจะได้ไหม? คำตอบก็เหมือนๆเครื่องสำอางค์คือ..ได้ แต่ยาก..เพราะลูกทัวร์ที่ไปเที่ยว ต่างก็มีกะตังค์กันทั้งนั้น..อยู่ดีๆจะให้เขาหิ้วโน่นหิ้วนี่เข้ามาให้ ผ่านศุลกากร คงไม่ใช่เรื่องง่ายในการเจรจา..บ.ทัวร์เองก็คงกลัวเสียชื่อเสียง.. แล้วใช้กลุ่มแอร์ได้ไม๊...คำตอบคือ..ไม่น่าได้ เพราะอยู่ดีๆ พวกนี้จะมีถุงกอล์ฟ อุปกรณ์กอล์ฟ พ่วงกลับมาด้วย คงโดนจับตามองน่าดู..เป้นอันตรายต่อวิชาชีพ.. ธุรกิจนี้ บอกตรงๆว่าถ้ามีวิธีขนส่งที่ดี..มีคนหาของ ต่อรองที่เก่งๆทางญี่ปุ่น..มีคนขายที่ชำนาญและรู้ตลาดอุปกรณ์กอล์ฟเมืองไทยดีๆ..ก็เริ่มไม่ยาก..เป็นธุรกิจหนึ่งที่น่าจับตามอง.. นักกอล์ฟเมืองไทยสมัยนี้ คลั่งไคล้ในอุปกรณ์กันมาก..ชนิดที่ว่า หลายๆคนเปลี่ยนอุปกรณ์กันปีละหลายๆหนเลยทีเดียว.. จากคุณ : Carpenters - [ 22 มี.ค. 49 12:09:44 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เราจับธุรกิจเครื่องสำอางค์อยู่ค่ะ เพราะข้อจำกัดมันมีน้อย คือคนส่วนใหญ่จะรู้สรรพคุณกันอยู่แล้วและสั่งเรามา และเป็นสิ่งที่เราสนใจอยู่ด้วย รายได้ดีค่ะ เกินกว่ากำไร 30เปอร์เซ็น วิธีการ คือ มีเพื่อนเป็นแอร์เยอะ ๆ ฝากเค้าหิ้วให้เค้ากิโลละร้อยบาท พอขอถึงไทยก็ให้ทางบ้านเราจัดส่ง เราเป็นฝ่ายจัดซื้อ เรื่องเช็ดบัญชี ก็ใช้อินเตอร์เนทตอนนี้ของกรุงเทพ กับ กสิกรสะดวกดีค่ะ เงินเข้าถึงไปซื้อค่ะ เคยขายพวกกล้องดิจิตอลอยู่เหมือนกันแต่มีปัญหากับประกันและรุ่นใหม่ ๆ และเราไม่ค่อยมีความรู้มาก ก็เลยรู้สึกว่าไม่ค่อยสำเร็จเลย แต่ยังไงเราว่า ขายของอย่างนี้มันเงินไม่เป็นล่ำเป็นสันเท่า ทำไบโตะ หรือสอนภาษาไทยค่ะ ขายของมันขายดีเป็นช่วง ๆ แล้วแต่ของมันติดเทรนด์ จากคุณ : il y a - [ 23 มี.ค. 49 07:37:26 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตอนส่งกล้องดิจิตอลกลับไทย เราส่งแบบ 1 สัปดาห์ถึง เคยส่งไปสองสามครั้ง คนซื้อร้บผิดชอบค่าส่งเอง ไม่เคยโดนเปิดกล่องนะคะ คงดวงดี ความรู้คุณอาช่างไม้ให้มา มีประโยชน์มากเลยค่ะ จะเก็บเอาไว้ประยุกค์ใช้ จากคุณ : il y a - [ 23 มี.ค. 49 07:44:00 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณ มันจะซ้ำอีกมะ เห็นบอกว่าตอนนี้ทำงานพิเศษที่ร้านอาหารไทยอยู่ ไม่ทราบว่าพอจะรู้ไหมค่ะว่ามีที่ไหนเค้าต้องการรับพ่อครัวคนไทยบ้างรึป่าว  มีญาติของคนที่รู้จักเค้าฝากถามมาค่ะ  ถ้าพอทราบยังไงช่วยบอกด้วยนะคะ จากคุณ : SMS from Japan - [ 23 มี.ค. 49 11:04:47 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เบิร์ดจ๊ะ ตำแหน่งที่น้องเปิดรับสมัครยังว่างอยู่อ่ะเปล่า แบบว่าพี่ขี้เกียจนั่งแปลงานรับเงินที 2-3 หมื่นบาทแล้วล่ะ อยากทำงานสบาย เป็นแฟนน้องนี่จะได้เท่าที่พี่เคยได้หรือเปล่า รับรองว่าพี่การันตีผลงาน ไม่ผิดหวังแน่นอน จากคุณ : ชัย (Chaibangkok) - [ 23 มี.ค. 49 15:49:10 ]