ความคิดเห็นที่ 1 ได้ข่าวมาว่ารัสเซียไม่ต้องขอวีซ่าแล้วครับ รอท่านต่อไปมายืนยันละกัน จากคุณ : sakdanuwat - [ 12 เม.ย. 49 15:28:40 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ได้ข่าวมาเหมือนกัน แต่ยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่สองรัฐบาลคุยกันไว้แล้ว แต่เริ่มหรือยังก็ไม่รู้ จากคุณ : Careless Prince - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 00:19:34 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าไม่ต้องขอก็จะดีมาก เห็นหลายคนบอกว่าไปเที่ยวเองอาจมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร ใครเคยไปมาแล้วแนะนำด้วยนะ ส่วนเรื่องวีซ่าจะลองหาข้อมูลดูอีกที ขอบคุณหลายหลายสำหรับ ความคิดเห็นทั้งสองอัน สงกรานตืนี้มีความสุขมากมากนะ จากคุณ : Habuhiah - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 19:08:10 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ต้องขอวีซ่าค่ะ ลองเข้าไปอ่านในนี้นะคะ http://weblog.manager.co.th/publichome/little_pun จะอยู่ราวๆเดือนมีนา ของปีที่แล้วค่ะ จากคุณ : pun@ru - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 20:25:37 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เปลี่ยนใจแล้ว...เอามาแปะให้อ่านเลยดีกว่า -:- Welcome To Russia -:- หลังจากสิ้นเสียงโทรศัพท์จากสหายรักที่เคยร่วมผจญชีวิตกันมาสมัยอยู่ที่มอสโคว์ ฉันจึงตัดสินใจเขียนเล่าประสบการณ์ลงใน  block แห่งนี้  ก่อนอื่นคงต้องแนะนำวิธีการขอวีซ่าเข้าประเทศรัสเซียกันก่อนนะคะ      เริ่มจาก - เตรียมเอกสารที่ใช้ในการยื่นขอวีซ่า 1.วีซ่าท่องเที่ยว 1. หนังสือเดินทางที่ยังมีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน และจะต้องมีหน้าว่างๆสำหรับประทับตราวีซ่าอย่างน้อย 2 หน้าติดกันขึ้นไป 2. รูปถ่ายหน้าตรง ขนาด 1-2 นิ้ว สี หรือ ขาวดำก็ได้ 1 รูป 3. เอกสารการจองโรงแรมในประเทศรัสเซีย ( ต้นฉบับ หรือ สำเนา) 4. จดหมายเชิญเข้าประเทศรัสเซีย ( ต้นฉบับ หรือ สำเนา) 5. แบบฟอร์มการขอวีซ่า  สามารถ download แบบฟอร์มได้ที่นี่ค่ะ http://www.thailand.mid.ru/forma.doc 2.วีซ่าธุรกิจ 1.หนังสือเชิญจากบริษัทฯ ห้างร้าน หรือ องค์กรธุรกิจที่มีสถานที่ที่ตั้งอยู่ในประเทศรัสเซีย โดยส่งสำเนาผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียก่อน หลังจากนั้นทางกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียจะพิจารณา และอนุมัติผ่านมาทางสถานทูตรัสเซียที่กรุงเทพ (ปกติจะใช้เวลาประมาณ 3 -4 อาทิตย์ ) จากนั้นผู้ที่ถูกเชิญก็จะต้องไปติดต่อขอรับวีซ่าที่สถานทูตรัสเซีย โดยเสียค่าธรรมเนียมตามระยะเวลาการขอรับวีซ่าเช่นเดียวกับ    วีซ่าท่องเที่ยว 2. หนังสือเดินทางและแบบฟอร์มการขอวีซ่า 3.รูปถ่ายหน้าตรง ขนาด 1-2 นิ้ว สี หรือ ขาวดำ3 รูป - ระยะเวลาในการยื่นขอวีซ่า สถานทูตจะออกวีซ่าให้หลังจากได้รับแบบฟอร์มและพิจารณาหลักฐานแล้ว 7 วันทำการ โดยเสียค่าธรรมเนียมในอัตราปกติ (ประมาณ 1,700 บาท) ถ้าต้องการรับวีซ่าก่อน 7 วันทำการ จะต้องเสียค่าธรรมเนียมด่วนเพิ่มอีก 40 ดอลลาร์สหรัฐ ต่ำกว่า 3 วันทำการ เสียเพิ่มอีก 60 ดอลลาร์สหรัฐ และรับด่วนภายใน 1 วัน เสียค่าธรรมเนียมเพิ่มอีก 100 ดอลลาร์สหรัฐ รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ที่นี่ค่ะ www.thailand.mid.ru เวลาทำการของสถานทูต 08.00 น. – 11.00 น ที่สำคัญคือ  ตามกฎหมายเข้าเมืองของรัสเซีย เมื่อไปถึงปลายทางที่รัสเซียแล้วจะต้องนำหนังสือเดินทางพร้อมใบวีซ่าไปประทับตราลงทะเบียนกับกรมวีซ่าและการทะเบียน  (Visa and Registration Department) หรือที่สำนักงานของกรมฯในเมืองปลายทางภายใน 3 วันนับตั้งแต่ไปถึง โดยปกติแล้วผู้เชิญหรือโรงแรมที่พักจะไปจัดการลงทะเบียนให้ โดยเสียค่าธรรมเนียมประมาณ 30  ดอลลาร์สหรัฐ และควรได้รับหนังสือเดินทางคืนภายใน 1 วันค่ะ     ส่วนทุนไปเรียนต่อรัสเซียจะปิดรับสมัครประมาณกลางเดือนพฤษภานะคะ ถ้าสนใจติดต่อที่สถานฑูตรัสเซียประจำประเทศไทย 78 Sap Road (entrance from Soi Santiphap), Bangrak, Bangkok 10500, Thailand Tel: (662) 234-2012 Fax: (662) 268-1166 E-mail: consulru@cscoms.com Office Hours (for visitors): 09.00-12.00 (Monday-Friday) เฮ้อ  ตั้งใจจะเขียนเล่าเรื่องสนุกๆในชีวิตรันทดให้อ่านแท้ๆ แต่ตอนแรกก็มีแต่สาระล้วนๆ คอยติดตามตอนต่อไปนะคะ จากคุณ : pun@ru - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 20:33:30 ]

ความคิดเห็นที่ 6 -:- Let’s go to Russia -:- หลังจากที่พาไปเจอเรื่องสยองๆมาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้ขอพักพามาเที่ยวรัสเซียแทนนะคะ หลังจากครั้งแรกที่เล่าถึงวิธีการขอวีซ่าเรียบร้อยแล้ว คราวนี้มาดูเรื่องสายการบินบ้าง -:-  -:-  -:-  -:- ฉันเดินทางจากกรุงเทพด้วยเครื่องของการบินไทย (ถ้าออกเป็น Lufthansa  จะถูกกว่าค่ะ)และต่อเครื่องเป็น Lufthansa จาก แฟรงเฟิร์ต  แต่ถ้าใครต้องการเดินทางไปยังกรุง เซ็นต์ปีเตอร์เบิร์กล่ะก็ เลือกต่อเครื่องเป็น SAS จะสะดวกกว่าค่ะ  ข้อดีคือเรื่องน้ำหนักของ “ตู้เย็น” ใบยักษ์  แบบว่าเกินมานิดหน่อยก็ขอกันได้  แต่ข้อเสียคือราคาแพงค่ะ !!   อ้อ!!  มีข้อแนะนำเรื่องอาหารบนเครื่องนิดนึงค่ะ คือว่าถ้าเราอยากได้อาหารอะไรเนี่ยให้เราแจ้งล่วงหน้าตั้งแต่วันจองตั๋วนะคะ   เจ้าหน้าที่ของ Lufthansa ดีกับฉันมั่กค่ะ ... ฮึ่ม ... เมื่อครั้งฉันเดินทางจากมอสโคว์กลับมากรุงเทพ ได้เกิดเหคุขัดข้องบางประการ จึงออก  boarding passให้ฉันได้เพียงใบเดียวคือ มอสโคว์-มิวนิค ส่วนอีกใบให้ฉันมาขอที่มิวนิค ฉันเริ่มสังหรณ์ใจยังไงชอบกล แต่ตอนนั้นอารมณ์อยากกลับบ้านมันมีมากกว่าอะไรทั้งปวง เลยคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร และสัญชาตญาณของฉันก็ถูกต้องเมื่อฉันมาถึงมิวนิคและพยายามมองหาเคาท์เตอร์การบินไทย แต่ปรากฏว่า ... ปั้น : ขอโทษค่ะ ฉันต้องการออก boarding passของตั๋วใบนี้ ไม่ทราบว่าฉันต้องไปที่ไหนคะ Ground : คุณต้องไปที่เคาท์เตอร์การบินไทย ปั้น : แล้วมันอยู่ตรงไหนคะ Ground : ข้างนอก ปั้น : ข้างนอก ! ?! -:-  -:-  หลังจากนั้น -:-  -:- ฉันงงเล็กน้อย   ข้างนอกเหรอ  แล้วฉันจะออกไปข้างนอกได้ยังไงล่ะ ในที่สุดก็... ปั้น : ขอโทษค่ะฉันกำลังหาเคาท์เตอร์ของการบินไทย  ไม่ทราบว่าอยู่ทางไหนคะ Guard:           ทางโน้น  ออกไปทางโน้นแล้วตรงไปเรื่อยๆ ปั้น : ขอบคุณค่ะ ฉันเดินไปตามที่พี่ Guard กล้ามใหญ่บอกฉันแต่ไม่ยักกะเจอ   เจอแต่ป้ายทางออก (exit) แปะอยู่บนประตูใบหนึ่ง ... ฉันตัดสินใจกลับมาหาพี่Guard กล้ามใหญ่คนเดิม พร้อมกับพยายามบอกว่าหาไม่เจอเลย   คงด้วยความรำคาญ  .. พี่ Guard คนดีของฉันเลยจูงมือฉันออกทางประตู exit ผ่านด่านตรวจอันแน่นหนาอย่างง่ายดาย   แต่ในความง่ายฉันกลับรู้สึกว่าความซวยกำลังมาเยือน  ... หลังจากที่ขอ boarding pass ได้แล้วก็ถึงคราวต้องกลับเข้า gate ใหม่ และแน่นอนมันต้องผ่านด่านตรวจอันแน่นหนา ต้องขออภัยท่านผู้อ่าน ณ ที่นี้ด้วยที่ฉันไม่อาจลงบทสนทนาที่แสนกินใจลงในที่นี้ได้   เพราะฉันเจ็บกระดองใจทุกครั้งที่นึกถึง เนื่องจากฉันต้องพยายามอธิบายว่าฉันแค่มาขอ boarding pass เพราะที่มอสโคว์ไม่ได้ให้มา พร้อมทั้งหอบเอาเอกสารทุกอย่างที่มี ตั๋วเครื่องบนทั้งไปทั้งกลับ บัตรนักเรียน แม้กระทั่งแบงค์รูเบิ้ล เพื่อยืนยันว่าฉันไม่ได้หนีเข้าเมือง   โชคยังดีที่ไม่ต้องไปตามหาตัวพี่ Guard กล้ามใหญ่คนนั้นมายืนยัน จนในที่สุดเขาก็ให้ฉันผ่านเข้า gateไปได้ พร้อมกับทิ้งท้ายว่า “อย่าทำอย่างนี้อีกนะ”  เฮ้อ  !! -:-  -:- กลับมาเข้าเรื่องต่อ   ถ้าใครชอบการเดินทางสบายๆบริการดีๆไม่เกี่ยงราคาขอแนะนำ KLM ที่ค่าตั๋วแพงที่สุด แต่ว่าที่นั่งสบาย บริการดี  และบรรยากาศรอบๆก็ดีค่ะ !! ส่วนสายการบินยุโรปเช่น British Airway  หรือ Air France จะแวะพักค้างคืนที่ ลอนดอน  หรือ ปารีส ก่อน๑ คืน   โดยสายการบินจะทำวีซ่าทรานสิทและที่พักให้ สำหรับนักศีกษาระวังอาถรรพ์ Air France ให้ดีนะคะ ฮุ ฮุ ฮุ เพราะเล่าต่อๆกันมาว่าใครกลับไปโดย Air France จะไม่ได้กลับมาอีก ตอนแรกที่รู้เรื่องนี้ฉันแทบจะวิ่งไปจองตั๋วเลยค่ะ อิ อิ  ^L^ สายการบินยุโรปที่ราคาถูกลงมาก็อย่างเช่น Swissair กับ Austrian Airline ก็ถือว่าดีค่ะ แต่ค่อนข้างเข้มงวดเรื่องน้ำหนักจึงไม่เป็นที่นิยมของนักเรียนไทย   แต่ถ้าต้องการสายการบินราคาค่อนข้างถูก บริการใช้ได้ เครื่องโอเค ก็คงต้องเป็นพวก Turkish airline กับ Finnair  ค่ะ ค่อนข้างเป็นที่นิยมเลยทีเดียว ถ้ามา Turkish airline ก็เตรียมทำใจกับอาหารและกลิ่นของคนข้างๆไว้นะคะ ส่วน Finnair บางเที่ยวบินแวะทรานสิต 12 ชั่วโมง ก่อนจองตั๋วเช็คดีๆ นะคะ และที่สนามบินก็ไม่ค่อยมีร้านค้าใน  duty freeค่ะ ฉันยังจำได้ว่า เคยเจอ อึ๊ ในห้องน้ำที่อีสทันบูล แล้วเคยจ่ายค่าเป็ปซี่ ๗ ยูโรกว่าๆ ที่เฮลติงกิ  !! ก่อนที่จะเล่าเรื่องร้องทุกข์เกี่ยวกับ Aeroflot ขอแนะนำสายการบินของประเทศในเครือ CIS หรือประเทศที่แยกตัวออกมาจากรัสเซียนะคะ มีสายการบินที่ให้บริการอย่างเช่น Aerosvit ของยูเครน จะทราสสิตที่ Kiev, Uzbekistan airline ทรานสิตที่ Tashkent Turkmenistan airline ทรานสิตที่ Ashkhabad   พวกนี้ราคาไม่แพงค่ะ   พอๆกับ Finnair และ Turkish airline แต่ต้องดูเรื่องสนามบินให้ดี เพราะพวกนี้จะลงจอดที่สนามบินภายในประเทศ (internal airport ซึ่งในมอสโคว์จะมีถึง ๓ สนามบินเชียวค่ะ ถ้านัดใครให้มารับต้องเช็คให้ดีนะคะ ...  ไม่งั้นแย่แน่เลย   Aerosvit  กับTurkmenistan airline จะบินมามอสโคว์ค่ะ สภาพครื่อง Turkmenistan  airline ดีมาก และราคาถูกที่สุด บริการโอเค (ถ้าเทียบกับราคา) ส่วน Uzbekistan airline จะบินมาเซ็นต์ปีเตอร์เบิร์ก นอกจากนี้แล้วยังมีสายการบิน Pulkovo   ปีที่แล้วเป็น shuttle  air บินตรงจากเซ็นต์ ปีเตอร์เบิร์ก มากรุงเทพ ปีนี้คงเปิดให้บริการได้   และ สายการบินภูเก็ตแอร์ไลน์  ที่คาดว่าปีนี้น่าจะเปิดบินตรงกรุงเทพ –มอสโคว์   ยังมีสายการบิน Sibirsk จะเปิดเที่ยวบินจากเมือง Novosibirsk (เมืองใหญ่ในซีกเอเชียของรัสเซีย)  มากรุงเทพ และสุดท้ายหากว่าคุณต้องการการเดินทางแบบตื่นเต้น ฮาๆ ขำๆ ปนสยองล่ะก็ ฉันขอนำเสนอ Aeroflot เป็นคำตอบสุดท้ายค่ะ (ถึงตอนนี้คงเข้าใจใช่ไหมคะว่า สยองของฉันหมายถึงอะไร) Aeroflot เป็นสายการบินเดียวที่เปิดเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพ มามอสโคว์ โดยมาลงจอดที่สนามบิน Sheremetyevo 2  ซึ่งเป็นสนามบินระหว่างประเทศ ดังนั้นถ้าต้องการต่อเครื่องมายังกรุงเซ็นต์ปีเตอร์เบิร์ก  หรือเมืองอิ่นๆในรัสเซีย ก็ต้องเปลี่ยนสนามบินมาเป็น Sheremetyevo 1 ค่ะ ซึ่งผู้โดยสารต้องจัดการเอาเอง ถ้าทำอะไรไม่ถูกล่ะก็ ... ขอแนะนำให้ใช้บริการรถตู้เอกชนนะคะ โดยเดินออกจากประตูทางออก   เลี้ยวขวา ตรงมาเรื่อยๆสัก๑๐ -๒๐ เมตร จะเห็นฝูงชนยืนเข้าแถวกันอยู่... นั่นแหละค่ะ   ทางที่ดีเพื่อ make sure เขียนเป็นภาษารัสเซียว่า “ шереметьево 1” แล้วยื่นให้คนขับดู ค่าโดยสารประมาณ ๒๐ รูเบิ้ล ใช้เวลาประมาณ ๑๐ นาทีค่ะ หรือสามารถใช้บริการแท็กซี่สนามบินแต่ราคาแพง ทีเดียว ตลอดการเดินทางจะมีแอร์หน้าโหด  วาจาห้าวหาญ พูดภาษาอังกฤษที่ฟังไม่รู้เรื่อง มาคอยให้บริการคุณค่ะ   และวันดีคืนดีอาจได้เจอแอร์ตบหัวผู้โดยสาร(เมาๆ) ให้ดูอีกด้วย  -L- ” และถ้าคุณโชคดีได้เป็นคนไทยคนเดียว(หรือจำนวนน้อยมาก) ในเครื่องที่มีแต่ชาวรัสเซีย   คุณอาจได้พบกับบรรยากาศที่ตลาดสดยังอาย ถ้าโชคดีอาจมีหนุ่มรัสเซียชวนคุณไปดื่มเบียร์ท่ามกลางควันบุหรี่ที่พวยพุ่งมาจากห้องน้ำ   และอาจมีภาพหนุ่มสาวรัสเซียจูบให้คุณดูแทนภาพยนตร์ที่ฉายทางทีวี   นียังไม่รวมอาหารอัปลักษณ์ กับเรื่องสยองในห้องน้ำนะคะเนี่ย.... เฮ้อ !!  เรื่องสดุดียังไม่ทันหมดแต่ท่าทางว่าจะเขียนยาวไปแล้วค่ะ ถ้ามีโอกาสจะเขียนต่อภาคต่อไปนะคะ ... จากคุณ : pun@ru - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 20:34:10 ]

ความคิดเห็นที่ 7 -:- หาที่พักในรัสเซีย -:- สมัยก่อน(จนถึงตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่) การจะไปขอวีซ่าเข้าประเทศรัสเซียที่สถานทูตนั้นมักจะถูกเจ้าหน้าที่ไล่กลับให้ไปใช้บริการของบริษัททัวร์ซะเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์  ... อันนี้ก็ต้องเข้าใจเขาค่ะ   เพราะสมัยที่เป็นสังคมนิยมอยู่นั้นการเข้าๆออกๆประเทศนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องสำคัญทีเดียว บรรดา”คนหอบเป้” ไม่มีทางได้เข้าไปเหยียบประเทศนี้เป็นแน่ เลยเป็นช่องทางให้บริษัททัวร์ได้ทำมาหากินกันค่ะ แต่ใช่ว่าการไปเที่ยวรัสเซียจะต้องไปกับบริษัททัวร์เท่านั้นนะคะ ตอนนี้โลกมันเปลี่ยนไปแล้ววววว การจะเป็นคนหอบเป้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกในรัสเซียอีกต่อไปค่ะ อย่างที่เคยเล่าให้ฟังเมื่ือสมัยเขียนบล็อกนี้ใหม่ๆว่าการขอวีซ่าเข้าประเทศรัสเซียนั้น จำเป็นจะต้องมีหลักฐานการจองที่พักและจดหมายเชิญจากทางรัสเซีย   แล้วจะเอาจากไหนล่ะเนี่ย? ไม่ต้องเป็นห่วงไปค่ะ... นางฟ้าใจดีมาช่วยคุณแล้ว  อิ อิ ขั้นแรกนั้นเราต้องต่ออินเตอร์เน็ตเพื่อเชื่อมโยงโลกให้มันใกล้กันเสียก่อน จากนั้น search หาบริษัททัวร์ของรัสเซีย  บริษัทไหนก็ได้ค่ะ   เมื่ถูกชะตาแล้วก็เลือกมาสักอันนึง ปกติแล้วบริษัททัวร์ทุกที่  หรือเกือบจะทุกที่จะมีบริการออกจดหมายเชิญให้ค่ะ ส่วนราคาก็แล้วแต่ตกลง   แต่ถ้าคุณมีคนรู้จักอยู่ที่โน่น ให้เขาซื้อให้จะถูกกว่ามากเลยค่ะ ที่สำคัญต้องเก็บที่อยู่และเบอร์โทรของบริษัทที่ออกจดหมายเชิญไว้นะคะ เพราะเมื่อไปถึงรัสเซีย   ตามกฎหมายแล้วจะต้องนำพาสปอร์ตไปลงทะเบียนค่ะ ซึ่งก็ควรใช้บริการของบริษัทที่ออกจดหมายเชิญให้ แล้วเขาก็จะคิดค่าบริการเราอีกรอบค่ะ การลงทะเบียนนี้ไม่ควรใช้เวลาเกิน ๑ วันนะคะ ซึ่งเมื่อเราไม่มีพาสปอร์ตอยู่กับตัว  ก็ไม่ควรออกไปเที่ยวเตร่ที่ไหน ตำรวจที่โน่น   ร้ายยิ่งกว่ายุงอีกนะคะ ตามปกติแล้วถ้าไปกับบริษัททัวร์  ทางบริษัทจะจัดการทุกอย่างให้เสร็จสรรพเลยค่ะ แต่เกิดเป็นคนแบกเป้   ต้องอดทนค่ะ ... สู้ๆๆ เมื่อได้จดหมายเชิญมาเรียบร้อยแล้วก็ถึงคราวหาที่พัก ปกติไปไหนมาไหน  ตัวข้าพเจ้าก็จะใช้บริการ BB  (bed and breakfast ) เป็นประจำค่ะ ไม่ใช่แค่เรื่องราคาหรอกนะคะ แต่ชอบบรรยากาศที่ เรียบๆ ไม่ฟุ้งเฟื้อ น่ะค่ะ ทีนี้ BB ของที่โน่นค่อนข้างหายากนิดนึงค่ะ   ราคาก็ไม่ถูกตามสักเท่าไหร่ เรียกว่า ราคาและบริการจะถูกกว่า mini hotel ไม่มากนัก BB หลายแห่งจะทำควบกับ serviced apartment เรียกว่าถ้า BB เต็มก็จะแนะนำ apartment ให้แทน Apartment นั้นก็มีหลายแบบ หลายราคา หลายทำเลให้เลือกค่ะ ข้อดีก็คือจะได้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้านคนรัสเซียจริงๆ แถมเลือกได้อีกต่างหากว่าอยากได้กี่ห้องนอน กี่ห้องน้ำ กี่เตียง ที่สำคัญทุกอย่างในครัวก็กินได้หมดค่ะ อิ อิ ราคานั้นพอจ่ายได้ค่ะมีตั้งแต่คืนละ 10 US จนถึงหลายๆร้อย US ค่ะ ปกติแล้วเวลามีญาติๆ หรือญาติของเพื่อนๆมาที่นี่ ฉันก็จะหาที่พักรับรองเป็นพวก serviced apartment นี่แหละค่ะ เวบไซด์พวก serviced apartment จะมีรูปห้องพัก ให้เราดูค่ะ ชอบใจ ถูกใจห้องไหน ก็จองกันได้ตามสะดวกเลยค่ะ ส่วนมากจะจ่ายเงินค่ามัดจำก่อน เป็นจำนวนเท่ากับค่าเช่าห้อง ๑ คืนค่ะ ส่วนค่าเช่าที่เหลือจะจ่ายวันแรกที่เราไปถึงค่ะ โดยที่ค่าเช่าคืนแรกนั้นจะเป็นของ agency หรือบริษัทที่จัดหาที่พัก ส่วนเงินที่เหลือจะเป็นของเจ้าของ apartment ค่ะ เรียกว่างานนี้เงินเขากระเป๋าประชาชนค่ะ... ไม่ใช่นายทุน แค่นี้คงพอหาเป็นแนวทางหาที่พักในรัสเซียได้แล้วนะคะ เห็นไมคะ  ไปรัสเซียแบบไม่ต้องพึ่งพาบริษัททัวร์ก็ทำได้ค่ะ ป,ล.  ตอนนี้สถานฑุูตรัสเซีย มีเจ้าหน้าที่เป็นคนไทยแล้วนะคะ  คาดว่าเป็นคนไทยคนแรกตั้งแต่ก่อตั้งมาเลย  เธอชื่อว่า “น้องหน่อย” ค่ะ บริการดี  หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ใครไปติดต่อธุระไม่ต้องกลัวถูกดุนะคะ จากคุณ : pun@ru - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 20:41:02 ]

ความคิดเห็นที่ 8 -:- เตรียมตัวไปรัสเซีย -:- สวัสดีคับลุงๆป้าๆ เซียวยี้มาว่ายเสนอหน้าหล่อๆให้ลุงๆป้าได้หายคิดถึงแล้วคร๊าบบบ วันก่อนป้า iamnapa ขอให้แม่ผมช่วยเขียนเรื่องเกี่ยวกับการไปเที่ยวที่รัสเซียแบบกันเอ้ง ... กันเอง แต่แม่ไม่ว่างคับ... ลูกปลาน้อยเซียวฮื้อยี้ เลยขอรับอาสาตามประสาปลาขี้โม้เล่าให้ฟังเองคับป๋ม เริ่มแรกป้านภาบอกว่าอยากไปช่วงปิดเทอรมใหญ่ของปีหน้า ไปกันเองตามประสาครอบครัวสุขสันต์ เวลาในช่วงนั้นจะช้ากว่ากรุงเทพ 3 ชั่วโมงคับ ปกติแล้วเดือนมีนาคมของรัสเซียจะเป็นช่วงปลายฤดูหนาว น้ำแข็งจะเริ่มเฉอะแฉะเต็มถนนไปหมด เดินไปไหนต้องระวังคับ ... ไม่งั้นหกล้มก้นเขียวแบบแม่ผมแน่ๆเชียวอิ๊ อิ๊ เดือนเมษาก็เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้วคับ เริ่มมีแสงแดดให้ให้ชุ่มชื่นหัวใจบ้างแล้ว เวลาไปดูสถาปัตยกรรมต่างจะเห็นแสง เห็นเงา สวยงามดีคับ ดอกไม้จะแข่งกันบานนนน สะพรั่ง เกสง เกสร ปลิวฟุ้งกระจายเต็มฟ้าไปหมด... ถ้าเป็นโรคภูมิแพ้ควรหลีกเลี่ยงนะคับ ส่วนเดือนพฤษภาคมที่รัสเซียจะมีเทศกาล วันหยุดยาวเยอะแยะเลยคับ คนรัสเซียนิยมออกไปเที่ยวกันมาก เราจึงไม่ควรไปอีกเหมือนกันคับ ก็แหม.. ไหนจะต้องแย่งกันซื้อตั๋วเข้าพิพิธภัณฑ์ แย่งกันขึ้นรถเมล์ แถมยังพวกขี้เมาตามท้องถนนอีก... บายดีกว่าคับ บุ๋ม บุ๋ม บุ๋ม อากาศในช่วงใบไม้ผลิของรัสเซียจะหนาวไม่มากนักคับ แต่ลมค่อนข้างแรงและอาจมีฝนตกอยู่บ้าง ปกติแล้วเวลาแม่ผมไปเดินซ่าอยู่ตามท้องถนน ก็ใส่กางเกงยีนส์  เสื้อยืดแล้วก็แจ็กเก็ตขนเป็ดบางๆ ใส่กับรองเท้าหนัง... เพราะว่ารองเท้าผ้าใบจะไม่กันน้ำคับ ที่สำคัญต้องสวมหมวกอำพรางใบหน้าอันงดงามด้วยคร๊าบบบ.. อิ อิ หลังจากเลือกได้แล้วว่าจะไปช่วงไหน เซียวยี้ขอแนะนำว่าควรเดินทางให้ถึงที่โน่นในวันและเวลาทำการของสถานทูตนะคับ เผื่อว่ามีปัญหาอะไรจะได้มีคนช่วยเราได้ นี่คับ.. เบอร์โทรของสถานทูต 8 - 095-208-0817 ไหนๆก็ตัดสินใจเสียค่าตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวกันแล้ว เซียวยี้ขอแนะนำว่าให้อยู่ที่โน่นสัก  7-10 วันนะคับ เที่ยวที่มอสโคว์ เซ็นต์ปีเตอร์เบิร์ก แล้วก็กลุ่มมืองวัฒนธรมมที่เรียกว่า the Golden Ring และถ้าอยากหลีกเลี่ยงผู้คนและความวุ่นวายในสนามบิน ลองเปลี่ยนเส้นทางจากกรุงเทพ – มอสโคว์  มาเป็นกรุงเทพ – เซ็นต์ปีเตอร์เบิร์กดูนะคับ เพราะสนามบิน  Pulkovo ที่เซ็นต์ปีเตอร์เบิร์กเล็กกว่า และมีเที่ยวบินมาลงน้อยกว่าที่มอสโคว์เยอะเลยคับ นอกจากนี้หารถต่อไปยังตัวเมืองเซ็นต์ปีเตอร์เบิร์กก็ง่ายและถูกกว่าด้วย เว้ากันซื่อๆก็เหมือนสนามบินดอนเมืองกับเชียงใหม่น่ะคับ เรื่องสายการบินต่างๆแม่ผมเคยเขียนโม้ไว้ครั้งนึงสมัยเขียน Blog นี้ใหม่ๆ ส่วนเรื่องการขอวีซ่าและเรื่องที่พักก็เพิ่งเขียนไปเมื่อไม่นาน ลองหาดูนะคับ เผื่อจะเป็นประโยชน์บ้าง คราวนี้ก็มาถึงเรื่องสำคัญอีกเรื่องนึงคือเรื่องค่าใช้จ่ายคับ ค่าตั๋วเครื่องบินน่าจะหาได้ในราคาไม่เกิน 30,000 บาท แต่แน่นอนคับราคาอาจเพิ่มไปอีกถามสภาวะน้ำมันแพง ( มาก) ค่าทีพักถ้าอยู่ที่ Apartment 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ น่าจะราวๆ 100 US  ต่อคืน ค่าอาหารนั้นไม่ค่อยแพงคับ 10 US  ต่อมื้อ ต่อครอบครัวเล็กๆน่ารัก น่าร๊ากก็ถือว่าเยอะแล้วคับ แต่ว่าเป็นอาหารพื้นๆแบบชาวบ้าน ชาวบ้านนะคับ อ้อ ...ถ้าไปตามร้านอาหารควรต้องให้ทิปเขาไปนิดหน่อยนะคับ ที่นี้ก็มาถึงค่าเดินทางกันบ้าง ถ้าเป็นการเดินทางภายในเมืองก็จะแพงตรงค่าแท็กซี่แหละคับ แท็กซี่ที่โน่นไม่เหมือนที่บ้านเราตรงที่รถยนต์ทุกคันบนท้องถนนพร้อมที่จะเป็นแท็กซี่ได้ตลอดเวลา เรียกว่าถ้ารถคันไหนจอดแล้วตกลงราคากันได้  ก็โอเคเลยคัย ส่วนค่าโดยสารเมโตร แล้วก็รถเมล์อื่นๆก็สักสิบกว่าบาทล่ะคับ ปกติแล้วเมโตรหรือรถไฟใต้ดินจะออกแบบให้จ่ายเงินครั้งเดียวคับ จะอยู่ใต้ดินนานเท่าไหร่ก็ได้ ไปกี่สถานีก็ได้ จนกว่าจะออกจากสถานี   ราคาเดียวทั้งสายคับ ซึ่งรวมถึงรถเมล์และรถรางของที่โน่นด้วยเหมือนกันนะคับ ค่าเดินทางระหว่างเช่นมอสโคว์ – เซ็นต์ปีเตอร์เบิร์กนั้นก็มีหลายราคาคับ ถ้าไปรถไฟตู้นอนออกจากมอสโคว์ตอนกลางคืน ถึงเซ็นต์ปีเตอร์เบิร์กตอนเช้า ราคาน่าจะราวๆ 20 US ต่อเที่ยว แต่ถ้าเป็นเครื่องบินจะประมาณ 100 US  กว่าๆ ต่อหนึ่งเที่ยวไปกลับคับ ส่วนค่าเดินทางไปเมืองรอบๆมอสโคว์นั้นค่อนข้างถูก ไม่กี่สิบบาทหรอกคับ สุดท้ายเป็นค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ หลักๆที่ควรไปและต้องเสียแน่นอนก็คือ Kremlin , Hermitage   ค่าเข้าชมประมาณ  10 US อาจน้อยกว่าหรือเกินมาไม่มาก ที่อื่นๆนั้นไม่แพงมากคับ บางที่ก็ไม่เสียค่าเข้าชมเลย ส่วนค่าเข้าชมบัลเลย์ หรือฟังโอเปร่านั้นแล้วแต่โรงละครและที่นั่งคับ ถ้าเป็นโรงละครบรรลือโลกอย่างบอลชอย และมารินสกี้ก็ค่อนข้างแพงทีเดียวเชียว ถ้าที่นั่งแบบไม่เลิศหรูมากสัก 50  US ก็หาได้คับ แต่ถ้าโรงละครธรรมดา 10 – 20 US  ก็ได้แล้วล่ะคับ บุ๋ม บุ๋ม บุ๋ม ร่ายยาวมาซะเยอะเลย  วันหน้าวันหลังเซียวยี้จะหนีแม่มาโม้ให้ฟังใหม่นะคับ วันนี้เหนื่อยแล้วล่ะคับ.. ลาไปก่อนนะคับมิตรรักแฟนเพลงทั้งหลาย บุ๋ม บุ๋ม บุ๋ม จากคุณ : pun@ru - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 20:42:59 ]