ความคิดเห็นที่ 1 แลกกับความเป็นชนชาติที่ถูกสาป คุ้มมั้ยครับ จากคุณ : praphrut608 - [ 23 เม.ย. 49 01:28:15 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ยอมรับโดยสดุดีว่าคนยิวเก่งจริงๆ ตอนเรียน LLM Best Student ของรุ่นก็เป็นยิว ได้เกือบเต็มทั้ง 4 วิชา เก่งมากมายมหาศาล ญาติผู้ใหญ่ผมก็เคยเล่าให้ฟังว่าตอนเค้าทำ Doctor En Droit ที่ Paris เพื่อนที่เก่งที่สุดก็เป็นยิวฝรั่งเศส ไม่เห็นจะอ่านอะไร แต่อธิบายได้ทุกอย่าง.. วันๆ จีบสาวอย่างเดียว จากคุณ : Lawเก้อ - [ 23 เม.ย. 49 01:46:21 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ในฐานะคนที่ใกล้ชิดคนยิวที่สุด  คือสามีเราเอง  เค้าเก่งคำนวณมาก ๆ เลยนะ  พี่ชายเค้าเป็นดอกเตอร์ และลูกชายของพี่ชายเค้า เรียนเก่งมาก ๆ ไม่เคยได้ บีเลย  ได้แต่ เอ ตลอด  และได้ทุนเรียน ตลอด  เค้าไม่ได้เป็นคนที่เคร่งตำราเรียนเลยนะ  มีกิจกรรมตลอด  เล่นดนตรี กีฬา  และแต่งตัว เหมือนพวกฮิบฮอป   ส่วนความสัมพันธ์ในครอบครัวยิว  เราว่าน่ารักมาก ๆ เลยค่ะ  เค้าสนิทกันมาก ๆ และเวลาเจอกันก็ กอดกัน จุ๊บกัน  ไม่ว่า ปู่ย่าตายาย หรือหลาน ๆ จากคุณ : มาดามไร่องุ่น - [ 23 เม.ย. 49 02:20:45 ]

ความคิดเห็นที่ 4 จิงหรอคะพี่Lawเก้อ  เก่งจัง ขอบคุณB.F.Pinkerton ที่เอามาโพสให้อ่านกันค่ะ จากคุณ : giffy_mini - [ 23 เม.ย. 49 02:26:45 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าได้เคยอ่านพระคัมภีร์ไบเบิ้ล จะสรุปได้ว่ายิว/อิสราเอลเป็นชนชาติที่ได้รับการอวยพรจากพระผู้เป็นเจ้า ประมาณว่าบรรพบุรุษของเค้าได้รับพระพรส่งผลมายัง มายังลูก หลาน เหลน โหลน จากคุณ : ไฟเย็น (ไฟเย็น) - [ 23 เม.ย. 49 02:30:53 ]

ความคิดเห็นที่ 6 น่าจะจริงนะคะเพราะรู้จักอยู่คนหนึ่ง รวย ฉลาด รอบรู้ไปเสียหมดทุกเรื่อง แต่ก็งกสุดๆ จากคุณ : เก้าแก้ว (เก้าแก้ว) - [ 23 เม.ย. 49 02:57:37 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เหอ..... ท่าจะจริง o_O จากคุณ : Never gone - [ 23 เม.ย. 49 03:01:05 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แล้วทำไมยิวถึงเรียกว่าเป็นชนชาติที่ถูกสาบครับ จากคุณ : กันดั้ม - [ 23 เม.ย. 49 03:01:49 A:58.9.144.87 X: TicketID:083452 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นด้วยนะที่ว่าคนที่มีเชื้อสายยิวเก่งมากๆ เรียนเก่ง ทำงานก็เก่ง มีความสามารถ...แต่ไม่รู้ว่าที่สุดในโลกหรือเปล่า เรื่องความเก่งนี่ *Jews, Jewish จากประสบการณ์ของเราที่มีทั้งคนใกล้ชิดและเพื่อนๆ อยู่หลายคน นอกจากเก่งแล้ว เราว่า หน้าตาจะดีนะ สวยมากๆ - ขอโทษด้วยถ้าเป็นรสนิยมส่วยตัว. แต่ถ้ายกตัวอย่างให้เห็นชัดเจนก็ Natalie Portman จากคุณ : KiJi - [ 23 เม.ย. 49 03:05:36 A:58.136.66.207 X: TicketID:119146 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณนะครับสำหรับข้อมูล แต่ว่าเท่าที่อ่านๆดู (ลิงค์ที่คุณให้มา) ผมคิดว่าเค้าไม่ได้หมายความว่า "คนยิว" เก่ง แต่เป็นคนยิวที่เฉพาะเผ่าพันธ์ ไม่ได้รวมคนยิวทั้งหมดครับ (จำชื่อเชื้อสายเผ่าไม่ได้เเล้ว) เพราะฉะนั้น คงพูดไม่ได้ว่าคนยิว(เฉยๆ)เก่งกว่าคนชาติอื่นๆ ต้องเป็นคนยิวเฉพาะสายพันธุ์นี้เท่านั้น อีกอย่างหนึ่งคือ สิ่งนักวิชาการ articles ข้างบนกล่าวถึง เค้าเรียกว่าเป็น hypothesis ไม่ใช่เหรอครับ เป็นแค่สมมติฐาน เรายังพูดไม่ได้สักหน่อยว่า คนยิวสายพันธ์นี้เก่งแบบ genetically smart จริงๆอ่ะครับ จากคุณ : krisdauw (krisdauw) - [ 23 เม.ย. 49 03:33:14 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อย่างนี้ต้องจับเอามาเป็นพ่อพันธุ์ หรือแม่พันธุ์ จากคุณ : PatPDX - [ 23 เม.ย. 49 04:34:45 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สนใจศึกษาพวกชนชาติยิวมานานแล้ว ก็น่ายกย่องนะคะ ที่ชาวยิวเป็นชนชาติที่น่าสนใจมากที่สุดในเผ่าพันธ์อื่น ๆ มีตัวอย่างคนเก่ง ๆ มาให้เห็นกันหลายคน  ที่รู้จักที่สุด คงเป็น อัลเบริต์ ไอนสไตน์ เจ้าของทฤษฎีสัมพันธภาพ อันเลื่องลือ   ทฤษฎีของเขานี่ เป็นจุดเปลี่ยนแปลงโลกมาหลายครั้งแล้ว ไม่ว่า ระเบิดปรมาณู  นวัตกรรมเทคโนโลยีที่เราใช้อยู่ในปัจจุบันนี้ ดารา hollywood ก็มีกันเยอะแยะไป  คุณคงนึกถึง สตีเว่น สปีกเบริก์ เจ้าพ่อ hollywood ใช่ไหมเอ่ย  คนนี้ก็เป็นยิว อะไรเก่งขนาดนั้นนนน  มีดาราดัง ๆ อีกหลายคน Robert De Niro ,  Kevin Conter ฯลฯ   ดูภายนอกเป็นคนอเมริกันธรรมดา แต่มีเชื้อสายยิวอยู่ในสายเลือด เห......Jake Gyllenhaal ดารานำอันโด่งดังจากเรื่อง Brokeback Mountain ก็เป็นยิวด้วยแฮะ จำได้นะ ขอยืนยันอีกคนเจ้าค่า  ว่า เจ้าของรางวัลโนเบลหลายสาขา โดยเฉพาะ เศรษฐศาสตร์  ฟิสิกส์ เคมี  จำพวกวิทยาศาสตร์  ส่วนมากเป็นชาวยิว   คิดว่า อัลเฟรด โนเบล คงไม่ใช่ยิว ถ้าจำไม่ผิด เป็นชาวสวีเดน ร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นเคสน่าสนใจมากเลยค่ะ   อเมริกาเองก็ พวกคนใหญ่โตก็เป็นยิวหลายคน ใน Whitehouse ก็มี ดิกนีย์แหละ เป็นยิว แต่ในล็อบบี้น่ะ เป็นยิวซะส่วนใหญ่ คงอธิบายได้ล่ะมั้ง ว่า ทำไมอเมริกาสนับสนุนอิสราเอล ตอนนี้ ข่าวในอิสราเอลกับปาสเตสไตน์ ก็ยังระอุเดือดอยู่ เพราะพวกอิสราเอล ยึดปาสเตสไตน์น่ะคะ  และพยายามบอกว่า นี่คือ ดินแดนของชาวยิว อะไรประมาณนั้น ขอโทษนะคะ ที่เบี่ยงประเด็นเป็นการเมืองซะแล้ว แต่ว่า ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลที่ยืนยันได้ว่า ยิวเป็นชนชาติที่ฉลาดที่สุดในโลกนะคะ ไม่รู้เหมือนกันว่า พระเจ้าให้พรจริงเปล่าน๊า ทำไมพระเจ้าไม่เข้าข้างคนไทยตาดำ  ๆอย่างพวกเราบ้างหนอ ??? แล้วก็ปัจจุบันนี้ยังมีนักวิจัยยังคงศึกษาความเป็นมาของชนชาติยิวอยู่ จำไม่ได้ว่า เป็นของสถาบันไหนหว่า  เคยอ่านเจอในนิตยสาร TIME   จำไม่ได้แล้ว ถ้าเป็นไปได้ อยากได้ DNA สักเสี้ยวหนึ่งมาใส่ของเรามั่ง จะได้ฉลาดมั่งดิ แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 49 05:24:17 จากคุณ : KJ_FBI - [ 23 เม.ย. 49 05:07:25 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณ krisdauw ครับ ผมตั้งกระทู้นี้โดยไม่ได้อ้างอิงจากลิงค์ที่ว่ามา กระทู้ที่ตั้งนี้เป็นสิ่งที่สงสัยเอง ส่วน link นั่นเพิ่งจะลองหาดูตอนที่จะโพสต์กระทู้นี้ครับ เอาไว้อ่านประกอบเสริมเล่น ๆ (ยังไม่ได้ตามอ่านหมดเลย) โดยส่วนตัวผมเชื่อว่ามีบางอย่างที่อยู่ใน genetics ของคนยิวนะ ที่ทำให้คนยิวฉลาดที่สุดในโลก (เถียงได้) ไว้ถ้ามีเวลาจะหาข้อมูลแบบละเอียด ๆ อีกที อาจจะเคยมีงานวิจัยในอดีตมาบ้าง -------------- นักเรียนกฎหมาย SJD เก่ง ๆ ก็เป็นยิวหลายคนครับ โดยเฉพาะทาง Law & Economics นี่เกือบทั้งหมดเป็นยิวก็ว่าได้ ที่มหาวิทยาลัยหลายแห่ง ในวัน Yom Kippur ก็แทบจะกลายเป็นวันหยุดเหมือนกัน เพราะศาสตราจารย์ที่เป็นยิว เขาไม่สอนกัน มหาวิทยาลัยบางแห่งเช่น MIT, Chicago มีประเพณีการดีเบทโดยอาจารย์ที่เรียกว่า Latkes vs Hamentashen  ซึ่งก็เป็นของยิวแท้ ๆ เช่นกัน คนยิวเด่น ๆ ในหลายสาขาอาชีพ (อาจจะซ้ำ ๆ กัน ไม่ค่อยเป็นระเบียบเท่าไร) http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_Jews http://en.wikipedia.org/wiki/Category:Lists_of_Jews http://www.jinfo.org/ Jewish Americans http://en.wikipedia.org/wiki/Category:Jewish_Americans http://en.wikipedia.org/wiki/Category:Lists_of_Jewish_Americans British Jews http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_British_Jews Jewish Fellows of the Royal Society http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_Jewish_Fellows_of_the_Royal_Society Jewist Economists !! http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_Jewish_American_economists http://www.jinfo.org/Economics.html Jewish Scientists http://en.wikipedia.org/wiki/Category:Jewish_scientists Jewish American Scientists http://en.wikipedia.org/wiki/Category:Jewish-American_scientists แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 49 05:36:35 จากคุณ : B.F.Pinkerton - [ 23 เม.ย. 49 05:16:31 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เรียน คห ๘ จะเห็นได้ว่าประวัติศาสตร์ของชนชาติยิวนั้น ถูกชาติอื่นย่ำยีตลอดมา ตั้งแต่สมัยโรมัน ยันปัจจุบัน (ผมก็ไม่ค่อยแม่นประวัติศาสตร์นะครับ รู้แค่ผิวเผิน) จากคุณ : praphrut608 - [ 23 เม.ย. 49 06:01:37 ]

ความคิดเห็นที่ 15 Jew was enslaved since Egypt Era. Interesting enough, they also have lots of genetic diorders..... They may be inbred more than other races causing more prevalence in genetic diseases. จากคุณ : amatuer translator - [ 23 เม.ย. 49 06:42:47 ]

ความคิดเห็นที่ 16 I confess I did not read the given links; too lazy!  The comments below are based solely on my observations and understanding. From the topic, we can identify into two main causes: nature (genes) versus nurture (circumstances/environments), or the combination of both.  For the genetic part, I will not discuss because, to my knowledge, there is no concrete scientific proof that Jews are more intelligent than other races genetically.   I think the nurture i.e. circumstances/environments plays a big role in shaping Jews for who they are.  Historically ever since prior to the Biblical period, Jews were subject to server harshness/hardships through WW II.   Jews were enslaved by Egypt; remember Moses.  Then the Roman Empire took control what it is Israel and Palestine today. Afterwards, the Crusade in Spain incident. Spaniards (Christians, Catholics to be precise) went on rampage slaughtered the Moors (Moslems) and Jews; and expelled them.  I figure probably because they were accused of not worshipping the almighty GOD (though to my understanding Judaism, Christianity and Moslem rooted from the same GOD).  In addition, Jews unlike Christians believe Jesus Christ (the Savior to Christians) is a prophet not the Messiah.  To Jews, the Messiah has y*/e*/t arrived. I suppose this caused the exodus.  Jews scattered to central and eastern Europe including Russia.  Then came the World Wars and with that the atrocity of the Holocaust.   Above demonstrate hardships Jews had to endure. There is a saying “Hardships build characters”.  Instinctively, humans tend to persevere through any adversity to survive.  The more ones have to endure, the stronger and the better prepared( hardworking, dedication, disciplined, etc) ones become. This is very appropriately applicable to the Jews and other races (e.g. Indian and Chinese) who were subject to the same tribulation.  Survival of the fittest rule remains truthful! Chinese and Indians were brought to S. Africa, Uganda (mostly Indians) and the Carribean as kulis (laborers) to work in plantations.  Nowadays, they are thriving in their adopted lands.  Many of them (later generations), like the Jews, are professionals e.g. lawyers, engineers, doctors, etc.  The Chinese in Thailand are a good example.  The children of Chinese immigrants are now professionals and well integrated into the mainstream Thai society. When we look at immigrants in general, it seems to form the same pattern. First generation struggled through; their children generations tend to flourish and integrate well in the mainstream society.   The notion that why Jews (mostly in America and/or Europe) are doing better than Asians. I believe, though superficial it may seem, it has to do with the physical appearances.  Jews in general look very much like Caucasians.  It is rather difficult to differentiate one from another.  I would have not been able to identify my doctors and friends as Jews, had I not seen their names (Levine, Siegel, Goldberg, etc).   I remember an interview of an author who is a Jew.  He did not realize he is Jews until his adulthood.  His parents moved out of the Jew neighborhood in New York; changed their names and converted themselves to Catholic to avoid discrimination. They, without suspicion from others, lived comfortably as Caucasians. He wrote a book about Jews who live in disguise like his parents.  If their Jewish identity is not revealed, it's unlikely for us to tell them apart from other Caucasians.   Beacuse discrimination in any form does exist, Jews are less likely to face racial discrimination when compared to other races (Chinese, Indians for example).  Other races because of their obvious difference in physical appearance tend to face discrimination more. Similarity in the cultures (western music, arts), religion and believes also contributes to the Jews’ success.  Asian cultures and believes are entirely foreign to the mainstreams (western world).  This therefore enables Jews to integrate and assimilate themselves into the mainstreams better than other races.     I doubt that Jews born and raised in Israel are doing better than other races.  You already compared to Singapore, Japan and Korea.  This therefore can attest to the nurture factor. Note: The historical part is not accurate as it should otherwise be.  I, as much as possible, tried to recollect from what I had read on/seen from documentaries over times. Thanks for this thought-provoking topic.  Very thought provoking, indeed .now my brain is numb; in a dysfunctional mode (it’s normally in this mode any way.....55555) แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 49 13:01:17 แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 49 08:49:06 จากคุณ : Thai Woman (ณารา) - [ 23 เม.ย. 49 07:23:20 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผิดแล้วครับคนที่ฉลาดที่สุดในโลกเป็นคนอินเดียคนหนึ่งทางเหนือครับ ลองเดาดูสิครับว่าเป็นใคร จากคุณ : สหาย - [ 23 เม.ย. 49 09:46:27 A:210.246.69.35 X: TicketID:098189 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้าไม่เก่งไม่ฉลาด ก็คงสูญพันธ์ไปแล้วล่ะครับ สภาพแวดล้อมบังคับ จากคุณ : ช่างไฟ - [ 23 เม.ย. 49 09:49:07 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เหอ เหอ ในสมัยนี้ชาวนิวยอรฺ์กบ้านเมีองตกอยู่ในกำมีอของยิว  เช่นเดียวกับบ้านเมีองชาวเยอรมันตกอยู่ในกำมีอของยิวในสมัยโน้น ทำให้คนเยอรมันออกมาแค้น  แต่ยิ่งทำให้ยิวแข็งกว่าเดิม  ใครจะไปทำอะไรยิวได้ ในเมีอ่คนยิวเขาเป็นพวกที่ฉลาด  นิวยอร์กก็ตอ้งหวานอมขมกลีน   ที่นิวยอร์ก Landlord จะไปเป็นของพวกคนยิวประมาณ 60% ดังนั้น หลายคนเช่นเราก็ตอ้งยอมจำนน ในการจ่ายค่าเช่าบ้านที่ขึ้นสูง อยู่ตลอดเวลา คนยิว นอกจากฉลาดแล้วเขายัง sexy  หลายๆคนจะเป็นดาราที่ดังๆของ Hollywood/TV   ตัวเราเองยังชอบยิวที่เก่งๆเช่น Babara Striesand, Madona, แม้แต่ Babara Walters เราก็หลงไหลในความเก่งของเธอ  เวลานี้คนใหญ่โตในรัฐสภาที่อเมริกาก็เป็นยิวเสียหลายๆคน  Senator และ Mayor ของนิวยอร์กเราก็เป็นยิว อ้าวก็เรานั่นเอง  ที่ดันไปเลีอกเขา ถึงแม้ว่าเผ่าพันธุ์ยิวบางคน จะออกไปหาส่วนนอกบ้างก็ดี  แต่เราก็รู้ว่ายิวก็คงเป็นยิวที่ฉลาดและเอาเปรียบชาวบ้าน บอกตามตรงว่าเราไม่อยากให้ยิวไปมีอิธิพลแต่อย่างใดในเมีองไทย  ไม่ว่าจะเป็นเช่นใด คนยิวเขาจะอยู่เชิดชูกับคนยิวพวกของเขาเท่านั้นเอง ประเทศไทยจะไม่มีวันได้อะไรจากยิว นอกจากจะเสีย แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 49 10:45:50 จากคุณ : เลิศพิสิฐ - [ 23 เม.ย. 49 10:42:07 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เหมือนชนชาติที่ถูกสาป โดนฆ่าเป็นแสนเป็นล้านคน ตั้งหลายครั้งตั้งแต่โบราณแต่ก็ยังเหลือรอดมาได้อย่างแข็งแกร่ง แถม Ashkenazie Jew ยังเป็นคนที่มีโรคทางพันธุกรรมแปลกๆ ที่เป็นแล้วตายตั้งแต่เด็กๆ ตั้งหลายโรค ที่คนเชื้อชาติอื่นในโลกเค้าไม่เป็นกัน จากคุณ : not urgent (it's not urgent) - [ 23 เม.ย. 49 10:59:54 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เมื่อกี้ไปถามรูมเมทมาครับ ทำไมยิวฉลาดจัง ... เค้าตอบว่า they have two brains, one's in their heads and the other's in their big noses... กร๊ากกกกกกกก ฮามากกกกกก แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 49 12:39:45 จากคุณ : PaLLMtOgO - [ 23 เม.ย. 49 11:26:16 ]

ความคิดเห็นที่ 22 อยากรู้เหมือนกันค่ะ เคยอ่านหนังสือเรื่อง "ยิว" ของท่านคีกฤทธิ์ ก็เล่าแต่ประวัติเท่านั้น... แต่เคยอ่านบทความงานวิจัยทาง DNA ครั้งหนึ่ง เขาบอกว่า ชาติไหนทำงานวิจัยก็มักจะบอกว่าชาติตัวเองนั้น "ฉลาดที่สุด" เช่น ฝรั่งเศส และอังกฤษ ต่างก็บอกว่าชาติตัวเองนั้นฉลาดที่สุด...อ่านกระทู้นี้แล้วก็เลยนึกไปถึงบทความนั้นเลย.... ตกลงทำไม "คนยิว" ถึงฉลาดที่สุดในโลกคะ?.... จากคุณ : BMW (BlackmagicW) - [ 23 เม.ย. 49 11:27:13 ]

ความคิดเห็นที่ 23 โอย ขำคุณPaLLMtOgO แต่มันก็จริงนะ พวก jewish เนี่ยะจมูกเบ้อเริ่ม จากคุณ : Scooterella - [ 23 เม.ย. 49 11:36:42 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ฉลาด แต่ขี้เหนียวและชอบดูถูกคน จากคุณ : I hate them! - [ 23 เม.ย. 49 12:18:47 A:203.113.51.5 X: TicketID:077504 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เห็นด้วยครับว่า กลุ่มคนยิวฉลาดมากๆและไม่เป้นตัวก่อปัญหาให้บ้านเมืองเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มชนชาติเชื้ออื่นๆ ผมว่าสิ่งที่เพิ่มให้พวกเขา ได้เรียนรู้ ได้ปฏิบัติแต่ในทางค่อนข้างดี น่าจะมาจากการยึดถือขนบธรรมเนียมดั้งเดิมอย่างเเน่นเหนียว การต่อสู้เพื่อความอยู่รอด กับระบบครอบครัว ระบบสังคมที่ปลูกฝังมาแต่วัยเยาว์ จะไม่ค่อยได้เห็นเด็กๆหรือเข้าสู่วัยรุ่นชาวยิว ทำตัวเกเร หากไม่เรียนก็ต้องทำงาน ไม่ทำตัวให้เสื่อมเสีย มีการเข้าอบรมพิธีทางศาสนาจาก RABBI จากการไปโบสถ์ของคนทั้งครอบครัว เพื่อรับแต่ด้านดีงาม หากได้เรียนก็เรียนกันเอาจริงเอาจัง พ่อแม่ก็ส่งเสริมให้ไปได้ดีที่สุด เพราะฐานะการเงินก็ส่วนมากจะอยู่ในขั้นคนมีเงิน มีฐานะ หากนับคนที่ประสบความสำเร็จในนิวยอร์ก ไม่ว่าจะด้านไหน Finance , Estate, Medical, Lawfirm, College Professer,ฯลฯ จะพบว่ามาจากคนเชื้อชาติยิว มากที่สุด แบบที่คุณเลิศพิศิฐว่านะครับ คนยิวคุมนิวยอร์กทั้งเมืองไปแล้ว วันหยุดเทศกาลยิว มีผลกับคนทั่วไปหมด ทั้งการค้าและการงาน ว่าก็ว่านะผมชื่นชมกับชนชาวยิวมาก จนอยากให้ชาวไทยเราเอาอย่างส่วนดีๆจากเขาบ้าง เพราะไทยเราก้มีอะไรที่คล้ายๆกันนะ กับ Tradition หากแต่ genetic เองที่ผิดแผกไป จากคุณ : smartupid - [ 23 เม.ย. 49 12:26:14 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เป็นความเชื่อของเราว่าชนชาตินี้ถูกสร้างมาให้ฉลาดโดยพันธุกรรม  แต่นอกเหนือจากนั้น  พวกเขายังปลิ้นปล้อนและกลิ้งกลอก ที่สุดเช่นกันเห็นได้จากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่เป็นหุ่นเชิดให้พวกยิวอยู่ตอนนี้ จากคุณ : MaXaRoNi - [ 23 เม.ย. 49 12:53:19 ]

ความคิดเห็นที่ 27 IMHO, I think all races are somewhat equal.  When I was in high school, there was this Jewish kid who had a crush on me.  He was pretty cute, physically - didn't have the stereotypical Jewish characters. Intellectually, he was about average.  In fact, he was an idiot in a way that he told people that I was going out with him when I didn't!  So when we were in math class, one of our friends ask me right in front of him, whether I was going out with A***.  The answer was of course NO!  And his face was turning all red.  Imagine at the time that Jewish kid and me were both in grade 12, so he completely made a fool out of himself.  Those were the days. Anyway, my point is that not all Jews are geniuses, like every other race.  Maybe it's just nurture (and the family pressure...) แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 49 13:42:28 จากคุณ : ZT1260 - [ 23 เม.ย. 49 13:38:17 ]

ความคิดเห็นที่ 28 กำลังอยากรู้อยู่พอดีว่า ชาติไหนฉลาดที่สุดในโลก ได้อ่านแล้ว ดีใจมากที่ได้รู้อย่างที่ต้องการ ขอบคุณทุกท่านค้ะ จากคุณ : พนอจัน - [ 23 เม.ย. 49 13:52:00 ]

ความคิดเห็นที่ 29 Allow me to steer away to the main topic, but is still related to Jews.  A question lingering in my mind, but I y*/e*/t get the concrete answer.  Why Jews were subject to much dislike and unjustifiable (to my personal opinion) prejudice? In Charles Dickens’ novel, Oliver Twist, portraits Begin as a crook untrustworthy disgusting Jew.  Shakespeare’ the Merchant of Venice portraits Shylock as a ruthless staunch merciless Jew. I personally think the novels prejudicially exaggerate about Jews. Martin Luther, the German theologian, who broke off the Catholic church in Rome and found a new Christian church, the Lutheran; had rhetoric against Jews.  Tsar Nicolas expelled Jews from Russian soil causing the Jew exodus to the Americas.  Why?  I do not know the reason. Some possible reasons I came up are: It was believe that Jews identified Jesus Christ to the Romans.  Thus, Romans put Christ on the cross.  In other word, Jews, to Christians, were the traitors. Jews do not believe that Christ is the Messiah (the Savior); he is a prophet like Moses or Mohammed.  Christians believe that Christ is the Savior, the GOD’s son who sacrificed his life for their sins.  Thus, to submit oneself to Christ is the core of Christianity.  But Jews do not submit to such notion.  Jews are awaiting their Messiah. Jews believe they are the chosen ones.   To Christians, Christ was the chosen one to salvage their souls.  Christians believe every body is children of GOD. Jews, in ancient time, were accused of being infidel.  They worshipped icons as represents of GOD; and sacrificed animals to worship GOD.  This was against Christ preaching.   These are only the unsubstantial justifications I came up with.  If somebody can unbiasedly and without bigotry shed me some light on this, it will be great.  Thanks. จากคุณ : Thai Woman (ณารา) - [ 23 เม.ย. 49 13:59:30 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ชนชาติยิวเป็นชนชาติที่พระเจ้าเลือกครับตามแผนการของพระองค์ในการช่วยมนุษยชาติทุกเผ่าพันธ์ให้รอดโดยผ่านชาวยิวตามหลักการของคริสเตียนที่เขียนไว้ในไบเบิ้ลครับ  ผู้ใดทำงานผู้นั้นควรได้รับพระพรครับ  พระเยซูก็กำเหนิดตามพระบัญชาผ่านทางชาวยิวครับ  และพระองค์ก็ให้ชาวยิวทำงานที่ยิ่งใหญ่เพื่อมวลมนุษย์ทั้งหลายโดยให้ชาวยิวกำจัดพระเยซูตามแผนการของพระองค์เพื่อให้พระคำของพระเจ้าแพร่ออกไปทั่วโลกมิใช่แต่เฉพาะชาวยิว คือถ้าไม่มีชาวยิวคนทั่วโลกก็จะไม่รู้จักพระพรของพระเจ้าครับ ชาวยิวทำงานเพื่อพระองค์ จึงไม่แปลกถ้าชาวยิวจะได้รับพระพรมากมาย พระเจ้าทรงยุติธรรมเสมอ แต่ทำไมชาวยิวต้องไม่เชื่อถือพระเยซูและกำจัดพระเยซู แล้วต่อไปชาวยิวจะป็นอย่างไรลองศึกษาคัมภีร์ไบเบิ้ลดูนะครับ.. จากคุณ : makun - [ 23 เม.ย. 49 15:08:40 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ผมเชื่อว่ายิวที่ฉลาดเกิดจากการเลี้ยงดูครับ เคยมีคนทดลองเอาเด็กผิวดำให้ครอบครัวเลี้ยงดู แล้วเอาเด็กยิวไปให้คนดำเลี้ยงดู เด็กผิวดำก็กลายเป็นยิวผิวดำ เด็กยิวก็กลายเป็นไอ้มืดผิวขาว บ้านเราที่เด็กไม่ฉลาดส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเลี้ยงดูครับ พ่อแม่ชาวยิวจะเลี้ยงดูลูกอย่างดีจนถึงอายุที่พึ่งตัวเองได้ พวกเขาปลูกฝังสิ่งดีงามสอนลูกเสมอ เคร่งครัดในระบบ ครอบครัวมากๆ ลองออกมาเดินตามถนนในเมืองไทยดู มีอะไรคล้ายหรือ เหมือนกับยิวบ้างหละครับ? คนบ้านเราต้องปากกัดตีนถีบ ชนชั้นกลางยังส่งลูกไปอยู่ ในมือคนอื่นตั้งแต่เด็กยังต้องพึ่งพาพ่อแม่ เดี๋ยวนี้เด็กไทยต้องเข้าโรงเรียนตั้งแต่อายุเท่าไหร่? 2ขวบครึ่งนะครับ เรียกว่าร่างกายเติบโตไม่เต็มที่ สมองยังพัฒนาไม่ดีเลย ก็โดนส่งไปอยู่ในสภาพ แวดล้อมแย่ๆ แล้ว แล้วมันฉลาดได้ยังไงหละ? จากคุณ : Ace striker - [ 23 เม.ย. 49 15:59:08 ]

ความคิดเห็นที่ 32 เห็นด้วยกับหลาย ๆ ความเห็นว่ายิวฉลาดเกิดจากการเลี้ยงดู และสิ่งแวดล้อมบังคับด้วยส่วนหนึ่ง รู้จักคนยิวเหมือนกันค่ะ แต่ไม่ค่อยชอบ วัน ๆ นึกถึงแต่เรื่องการทำกำไร การสร้างรายได้ให้กับชีวิต (อันนี้เฉพาะคนที่เรารู้จักค่ะ) ไม่อยากให้คนไทยทุกคนฉลาดแบบนั้นหรอกค่ะ เพราะเท่าที่มีตอนนี้ก็วุ่นวายพออยู่แล้ว อิอิ อยากให้เมืองไทยเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยความสุขมากกว่าค่ะ ขออภัย จขกท. ที่นอกเรื่องค่ะ จากคุณ : Noise219 - [ 23 เม.ย. 49 16:22:02 ]

ความคิดเห็นที่ 33 คนยิวฉลาด แต่ไม่คิดว่าฉลาดที่สุดในโลกนะ โดยส่วนตัวคิดว่ายิวฉลาดเพราะ 1. กรรมพันธุ์ดี เพราะสมัยเมเสโปเตเมียโบราณ ครอบครัวหนึ่งแยกตัวออกมาจากชุมชน มาสร้างเผ่าพันธุ์ สร้างกฏ สร้างความเชื่อ ขยายเป็นอาณาจักรที่เจริญรุ่งเรือง (อาณาจักรบาบิโลน) แม้ในยุคอียิปต์โบราณถูกกวาดต้อนมาเป็นทาสให้อียิปต์ก็ตาม ก็มีส่วนทำให้อียิปต์เจริญรุ่งเรืองด้วยเช่นกัน และในยุคโมเสสยิวที่เป็นทาสก็พากันย้ายมาสร้างเป็นเมืองอิสราเอลได้ กลายเป็นประเทศอิสราเอลทุกวันนี้ 2. สงครามและการย้ายที่อยู่ ยิวผ่านสงครามและย้ายที่อยู่มามาก จึงมีการปรับตัวให้แข็งแกร่งเพื่อความอยู่รอด 3.การเลี้ยงดู เกี่ยวข้องกับการปฎิบัติตามกฏของศาสนาอย่างเคร่งครัด เท่าที่เข้าใจ ยิวนับถือศาสนายูดาย ซึ่งเป็นศาสนาที่มีกฏเคร่งครัดมากๆ เพื่อนำพาชนชาติยิวสู่ความเจริญ เช่น ยิวต้องแต่งงานกับยิว ผลที่ได้ก็คือได้พันธุ์ที่ดีขึ้นและเลวลง พันธุ์ที่เลวลงจะถูกกำจัดออกไปโดยธรรมชาติของสงคราม นั่นคือยิวจะดำรงเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไป เราเข้าใจอย่างนี้ค่ะ คนอื่นๆมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างคะ จากคุณ : umphanratna - [ 23 เม.ย. 49 17:01:38 ]

ความคิดเห็นที่ 34 แต่ hypothesis ที่ Dr. Cochran ได้เขียนไว้นี่น่าสนใจนะครับ เขาบอกว่าหลังยิวถูกโรมไล่ในศตวรรตที่หนึ่ง ชาวยิวก็แตกแยกกระจายกันไป ยิวเผ่าที่ไปอยู่ยุโรปก็ได้ชื่อว่าเผ่า Ashkenazi ต่อมาในยุค Middle Age, ชาวยิวเผ่า Askenazi ก็ล้วนมาทำงานด้านการเงินกันหมด ที่เป็นแบบนี้เพราะ Christian ในยุคนั้นไม่ชอบการทำงานด้านการเงิน สุดท้ายก็ให้พวกยิวทำแทน ถ้าดูอย่างปัจจุบัน คนที่จะก้าวหน้าในการทำงานด้านการเงินก็คือคนที่ฉลาดกว่าคนอื่น ไม่รู้ว่าในอดีตเหมือนกันรึเปล่าแต่ถ้า assume ว่าใช่ก็หมายความว่าในสมัยนั้น คนยิวเผ่า ashkenazi ที่ฉลาดกว่าก็ได้ตำแหน่งสูงและชาวยิวที่ไม่ฉลาดเท่าก็ได้ตำแหน่งต่ำลงไป ประวัติศาสตร์ได้เขียนไว้ว่าชาวยิวที่อยู่ตำแหน่งสูงกว่ามักมีลูกมากกว่าชาวยิวที่อยู่ตำแหน่งต่ำลงไป นี่ก้อหมายความว่าเกิด natural selection ขึ้น คนที่ฉลาดกว่าได้ตำแหน่งสูงกว่า คนที่ตำแหน่งสูงกว่า ได้เงินมากกว่า คนที่ได้เงินมากกว่ามีลูกมากกว่า คนที่มีลูกมากกว่าก็มีสิทธิ์ถ่ายทอด gene ของตัวเองมากกว่าผู้อื่น บางคนอาจจะสงสัยว่าและคน Europe คนอื่นหล่ะ? หรือคนเผ่าอื่นหล่ะ? ไม่เป็นอย่างเดียวกันเหรอ ชาว Christian ในยุค Middle Age นี้ถูกแบ่งกันตามระบบศักดินามากกว่า คนที่ตำแหน่งสูงไม่ใช่คนฉลาดเสมอไป เพราะฉะนั้นจึงกล่าวได้ว่าชาวยิวเผ่า Ashkenazi ถูกระบบ natural selection แบบเลือกคนฉลาดมาสืบทอด ควบคุมมาตั้งแต่สมัย Middle Age จากคุณ : Bucky Badger - [ 23 เม.ย. 49 18:51:26 ]

ความคิดเห็นที่ 35 Interesting topic ka but i have no idea to comment. Thanks for creating this kratoo.. จากคุณ : The Phu (The phu) - [ 23 เม.ย. 49 21:48:32 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ผมคิดว่าสิ่งที่ชนชาติยิวมีมากกว่าชนชาติอื่นก็คือ "ทะเยอทะยาน อดทน เคร่งครัด ใฝ่รู้" และญี่ปุ่นก็เป็นอีกหนึ่งชนชาติที่มีคุณสมบัตินี้ จากคุณ : Comte - [ 23 เม.ย. 49 22:25:44 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอพูดในฐานะที่ที่เรียนป.ตรีมาเนี่ย มีชาวยิวเป็น majority ของนักเรียนนะคะ (น่าจะซักหกสิบเปอร์เซนต์กว่าๆมั้ง... เรียกว่าพวก Rosh Hashanah, Yon Kippur, Passover เป็นวันหยุดโรงเรียนทุกปี... แถมในโรงอาหารก็ยังมี kosher section ด้วย... (แต่ก็นะ... จนถึงป่านนี้ก็ยังดูไม่ค่อยออกอยู่ดีว่าใครยิวใครไม่ยิว... เรียกว่าตัวเองตาบอดทางสัญชาติอย่างแรง)) บอกตรงๆ ว่าพวกที่เก่งๆๆก็เก่งมากกกกกๆจริงๆ แต่ก็อย่างว่าพวกที่ธรรมดาๆก็มีเยอะ ไม่ใช่ว่าชาวยิวจะเก่งไปหมดซะทุกคน... (ก็แหงละนะคะ) ส่วนตัวแ้ล้ว คิดว่าเรื่อง gene ก็อาจจะมีส่วน แต่ไงๆเรื่องการเลี้ยงดูน่าจะมีส่วนเยอะเหมือนกัน เอาง่ายๆเลยนะคะ พวกเพื่อนชาวยิวเนี่ย หลังพระอาทิตย์ตกตอนเย็นวันศุกร ไปถึงพระอาทิตย์ตกตอนเย็นวันเสาร์เนี่ย พวกเค้าจะถือ shabbat กัน หมายความว่า นอกเหนือจะห้าม "ทำงาน" เนี่ย เค้าห้ามใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดนะคะ ห้ามดูทีวี ห้ามใช้คอมพ์ ห้ามเล่นเกมส์สารพัด ห้ามใช้รถยนต์ และอื่นๆอีกมากมายนับกันไม่ถ้วน เคยคุยๆกับรูมเมทตอนปีหนึ่ง (ที่เป็น orthodox jewish แบบเคร่งๆหน่อย) เค้าก็เล่าให้ฟังว่าส่วนใหญ่แล้วเนี่ย วันเสาร์ก็จะหมดไปกับการอยู่บ้านพูดคุยกับพ่อแม่และญาติๆสนิท จะว่าไป ลองให้เด็กๆเลิกเล่นเกมส์ซักหนึ่งวันต่ออาทิตย์ แล้วลองให้พวกเค้าได้นั่งคุยนั่งฟังพวกผู้ใหญ่ (ที่ฉลาดๆ) คุยกันดูซิคะ ส่วนตัวแล้วคิดว่าทำอย่างนั้นเนี่ย เด็กๆได้พัฒนาการไปได้เยอะกว่านั่งหน้าคอมพ์หน้าทีวีเยอะเลยนะคะ ทั้งทำให้เด็กโลกกว้างขึ้น พูดเก่งขึ้น มีเหตุผลหลักการมากขึ้นเยอะเลยค่ะ เพราะต้องนั่งคุยนั่งถกเถียงกับผู้ใหญ่ตั้งแต่เด็ก ในส่วนที่เกี่ยวข้องกัน การที่เค้าทำงานไม่ได้เลยหนึ่งวันเต็มๆเนี่ย ทำให้เค้ารู้จักการจัดการเวลาได้ดีกว่าคนทั่วๆไปนะคะ อย่างพวกเพื่อนๆที่เห็นเนี่ย วันธรรมดาเค้าก็จะขยันๆๆๆมากๆเพราะเค้าต้องทำให้เสร็จก่อนคืนวันศุกรจะมา จากคุณ : ISXJ - [ 23 เม.ย. 49 22:49:41 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เรื่องที่ คห ที่ ๒๙ ยกขึ้นมา ส่วนตัวแล้วคิดว่าที่พวกชาวยิวจะถูกไม่ชอบเยอะเป็นเพราะพวกเค้าเป็น target ที่หาง่ายค่ะ อย่างเช่น เวลาเศรษฐกิจไม่ดีเนี่ย ถ้าเค้าอยากจะโทษใคร เค้าก็จะหันไปโทษพวกชาวยิวที่ส่วนใหญ่จะรวยกว่าชาวบ้านเค้า และยิ่งใส่เรื่องศาสนาเรื่ิองจีซัสเข้าไปด้วยเนี่ย ยิ่งทำให้ชาวยิวเป็นพวกที่คนอื่นหาเรื่องให้เกลียดได้ง่ายไปเลย และเพราะว่าส่วนใหญ่เมื่อสมัยก่อนเนี่ย พวกอาชีพเกี่ยวกับเรื่องการเงินเนี่ยจะอยู่ในกำมือของพวกชาวยิวซะเยอะ เลยทั้งให้พวกเค้าได้รับการ stereotype ว่างกไปเลย ทั้งๆที่มันก็ไม่ใช่เรื่องจริงซะหน่อย (อยู่ป.ตรีมาสี่ปี เราว่าเรายังงกกว่าเพื่อนๆที่เจอซะส่วนใหญ่เลย... :P) แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 49 23:27:06 จากคุณ : ISXJ - [ 23 เม.ย. 49 22:56:28 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ส่วนเรื่องหน้าตา... มีคำพูดที่ได้ยินอยู่บ่อยๆว่า "ผู้หญิงชาวยิวเนี่ย เก้าในสิบคนจะสวยมากๆๆๆๆๆๆ และคนที่สิบ (ที่ไม่สวยเลยเนี่ย) จะเป็นนักเรียนของ(โรงเรียนที่เราจบมา)" แต่ก็ไม่จริงซะหน่อย... เราว่าเพื่อนๆเราก็ออกจะสวยน่ารักกันทุกคน :P จากคุณ : ISXJ - [ 23 เม.ย. 49 23:00:53 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ยีนที่ไม่ฉลาดมันก็ถูกกำจัดไปแต่แรกค่ะ โดยการคัดเลือกจากการสืบพันธุ์ หรือสงครามเหมือนที่คคห 33 ว่า  เป็นกฏของการอยู่รอดของ Darwin ค่ะ What doesn't kill you make you stronger. แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 49 23:25:43 จากคุณ : ' (bucky's) - [ 23 เม.ย. 49 23:24:12 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เป็นความจริงที่ผมยอมรับว่ายิวที่ผมรู้จักหลายคนฉลาดมาก แต่ยิวก็ยิวเถอะ ถ้าอยู่กระต๊อบ นอนยุงกัด ตาดูดาว เท้าเหยียบฝาบ้าน ทุกคืน กินก็แต่ปลาทูปลาร้ากับผักข้างรั้ว แถมได้กินมั่งไม่ได้กินมั่ง พ่อแม่ก็จบแค่ประถมสาม จะเอาอะไรมาฉลาดนักหนา จากคุณ : อิสวาสุ - [ 24 เม.ย. 49 00:11:31 A:71.114.94.143 X: TicketID:119068 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณที่เข้ามาร่วม share ideas กันนะครับ ได้เห็นภาพในหลาย ๆ มุมมอง ทั้งทางด้านพันธุกรรม การเลี้ยงดู สังคม และก็ศาสนา ที่ทำให้ชาวยิว เป็นชาวยิวอย่างที่เราได้เห็นกัน ผมคิดว่าเป็นไปด้วยเหตุผลทุกอย่าง เพียงแต่เหตุผลเรื่อง Genetics มันอาจจะพิสูจน์ไม่ได้ง่ายนักและก็เสี่ยงต่อประเด็นอ่อนไหวเรื่องชาติพันธุ์ด้วย ผมได้กลับไปอ่านหัวข้อในลิงค์ข้างต้นแล้ว รู้สึกว่าอันที่ดีที่สุดก็คืออันแรกของ new york metro แนะนำให้อ่านนะครับ ค่อนข้างจะครอบคลุมดีทีเดียว ( print ออกมาได้ตั้ง 15 หน้าแหนะ แต่ก็อ่านสนุกดี ได้ความรู้หลายอย่าง ) ประเด็นก็คือเขาจะพูดถึงเปเปอร์ของ Dr. Cochran และทีมงานนัก Geneticist ในงานวิจัยว่าสติปัญญาของชาวยิว Ashkenazim มีสูงกว่ากลุ่มประชากรอื่น ซึ่งอ่านจากบทความนี้เขาก็ไม่ได้สนับสนุนหรือขัดแย้งกับเปเปอร์นี้ เพียงแต่พยายามหามุมมองในหลาย ๆ มุม ทั้งจากนักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ คนยิว คนไม่ใช่ยิว ( อ่านบทความต้นฉบับได้จาก (http://homepage.mac.com/harpend/.Public/AshkenaziIQ.jbiosocsci.pdf ) ใน The Journal of Biosocial Science, CUP. เท่าที่ผมอ่านดู จากบทวิจารณ์ ก็รู้สึกว่างานวิจัยชิ้นนี้ยังไม่น่าเชื่อถือตามหลักวิทยาศาสตร์เท่าไร มีการทดลอง เก็บข้อมูลที่ไม่รัดกุมหลายอย่าง แต่สาเหตุหนึ่งที่ได้รับการเผยแพร่อย่างมากในสื่อใหญ่ ๆ ต่าง ๆ ทั้ง NYTimes, The Economist หรืออื่น ๆ ก็เป็นเพราะ.....คนยิวคุมสื่อ (บทความกล่าวไว้เป็นนัย ๆ )  มีนักวิทยาศาสตร์ที่มีเครดิตดี (และเป็นยิว) ออกมาโจมตีกระบวนการผลิตเปอร์ชิ้นนี้หลายท่าน ในเปเปอร์เขียนไว้ว่า ยิวมีจำนวน 0.25 เปอร์เซน ของประชากรโลก และ 3 เปอร์เซ็นต์ของประชากร USA แต่ก็เป็น27 % ของคนอเมริกันที่ได้รับรางวัล Nobel Prize , 25 % ของ รางวัล ACM Turing Award for computer science และ 50% ของผู้ชนะการแข่งขันหมากรุกโลก ( สำหรับรางวัลโนเบล ถ้าตัดเอาสาขาวรรณรรมกับสันติภาพออกไป สัดส่วนของคนยิวจะเยอะกว่านี้ครับ...) นอกจากนั้นบทความนี้ยังได้กล่าวไว้เหมือนกับที่หลาย ๆ คนได้ตอบเอาไว้ คือปัจจัยอื่น ๆ ที่ไม่ใช่พันธุกรรม เช่นการเลี้ยงดู สังคมวัฒนธรรม คัมภีร์ทางศาสนา ประเพณี ค่านิยมในครอบครัวคนยิว ที่ให้คุณค่ากับการศึกษา และสติปัญญา ฯลฯ มีประเด็นว่า ทำไมคนยิวถึงมักจะประกอบอาชีพแพทย์..( เพราะนอกจากเป็นอาชีพที่มีเกียรติแล้ว ยังสามารถใช้ติดตัวได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะต้องอพยพไปที่ไหน เป็นอาชีพที่มี barrier to entry ต่ำ) ในสมัยก่อนยิวมีจำนวน 1% ของ ประชากรเยอรมัน แต่สัดส่วนของแพทย์ที่เป็นยิวในเบอร์ลินมีถึง 50% และมี ถึง 60% ในเวียนนา http://www.nysun.com/article/22846 แต่ก็มีคนยิวหลายคนที่ไม่เห็นด้วยกับ stereotype ที่ว่าชาวยิวฉลาดที่สุดในโลก หนึ่งในนั้นคือ Ed Koch (อดีต Mayor of NYC) Ed เชื่อว่าคนเอเชียฉลาดมากที่สุดในโลก ยกตัวอย่างเด็กเก่ง ๆ ในอเมริกาที่เรียน medical schools กับ โรงเรียนสำหรับเด็กเก่ง ๆ ในนิวยอร์ก จะมีเด็กเอเชียนอเมริกาค่อนข้างมาก (Stuyvesant, Bronx Science) คนยิวบางส่วนก็ต้องอยู่ภายใต้ความกดดันที่จะต้องประสบความสำเร็จ (หรืออย่างน้อยก็ไม่ล้มเหลว) เหมือนกับคนยิวอื่น ๆ ที่เขาทำมา มีกรณีคนยิวหนึ่งซึ่งทำ list ชื่อคนยิวที่เขาไม่ต้องการจะเป็น หนึ่งในนั้นก็คือ CFO ของ Enron) แต่ผมก็คิดว่าความกดดันนั้น มันก็เป็นเหมือนตัวกระตุ้นที่จะทำให้เขาต้องทำงานหนัก เพื่อให้ประสบความสำเร็จไม่น้อยหน้าคนอื่น เป็น self-image ที่ติดกับตัวมาตั้งแต่เด็ก และมีแรงผลักดันในการทำสิ่งต่าง ๆ (เหมือน self-image ว่าเป็นคนไทยจะต้องทำอาหารเก่ง ใจดี บริการเก่ง ฮาๆๆ เล่าหน่อย ตอนอยู่ไทยผมไม่เคยทำกับข้าวเลยแม้แต่นิดเดียว แต่พออยู่นี้ทดลองทำเ่ล่น ๆ ก็สามารถทำอาหารไทยเลี้ยงเพื่อนได้ เพื่อนฝรั่งเขาก็ว่าอร่อย ...เป็น self-image ของคนไทยว่าต้องทำแบบนั้นได้ เหมือนกับพวกยิวคงจะคิดว่าตัวเองเป็นยิว ดังนั้นจะต้องเก่งเลข มีหัวทางคำนวณ ทางธุรกิจ ..มั้ง..) แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 49 00:46:49 จากคุณ : B.F.Pinkerton - [ 24 เม.ย. 49 00:12:35 ]

ความคิดเห็นที่ 43 เคยมีอาจารย์ที่ครุฯ เราให้ฟังว่า มีการวิจัยเกี่ยวกับทำไมยิวถึงฉลาด แล้วการวิจัยนี้ก็ได้ผลสรุปมาว่า มันเกิดขึ้นเนื่องจาก 1. พฤติกรรมการเลี้ยงดู 2. พฤติกรรมการละเล่นของเด็กชาวยิวค่ะ เพราะว่าเคสนี้เป็นเคสน่าสนใจว่าทำไมเด็กเขาถึงเก่ง ความเป็นจริงแล้ว การละเล่นเด็กไทยก็ทำให้ทักษะทางด้านพัฒนาการมีสูงขึ้นนะคะ ตามที่วิจัย แต่ปัจจุบัน เด็กไทยเล่นกับแป้นคีย์บอร์ด จึงทำให้พัฒนาการตกต่ำลง โดยเฉพาะด้านอารมณ์ เฮ้อ มองเขา แล้วย้อนกลับมาดูตัวเราเอง แล้วละเหี่ยใจค่ะ จากคุณ : zizzi - [ 24 เม.ย. 49 00:20:50 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ***** ขอพูดในสาขาเศรษฐศาสตร์ที่ผมพอรู้จักบุคลากรหน่อย...ถ้าหากสมมติว่าเสกให้คนเชื้อสายยิวที่เป็นนักเศรษฐศาสตร์หายไปจากโลก โลกนี้คงไม่มีวิชาเศรษฐศาสตร์อีกต่อไป เพราะส่วนใหญ่ของคนเก่ง ๆ ประมาณ 90% ขึ้นไป เป็นยิวทั้งหมด*** ลองเอาชื่อมาดูเล่น ๆ แล้วรู้สึกตะลึง เพราะมีแต่คนระดับชั้นนำของวงการ (เกือบทุกคน) นึกไม่ค่อยออกว่ามีใครที่เก่ง ๆ แต่ไม่ได้เป็นยิวบ้าง http://www.jinfo.org/Economists.html  สมแล้วที่มีเผ่าพันธุ์เป็นพวกทำอาชีพด้านการปล่อยเงินกู้มาตั้งแต่ศตวรรษที่สิบ คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ **** จากคุณ : B.F.Pinkerton - [ 24 เม.ย. 49 00:22:39 ]

ความคิดเห็นที่ 45 Fama ไงครับ ถึงว่า ยังไม่ได้ Nobel ซักกะที 55 จากคุณ : Eugene - [ 24 เม.ย. 49 01:21:50 A:129.215.135.194 X: ]

ความคิดเห็นที่ 46 มาอ่านค่ะ จากคุณ : Autumn Leaves - [ 24 เม.ย. 49 01:51:42 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ไม่ได้รู้เรื่องยิวหรอกนะค่ะ แต่ดูหนังเรื่อง The Pianist และ Europa Europa แล้ว สงสารชาวยิวมากๆ พวกเขาถูกกระทำเหมือนไม่ใช่มนุษย์ หนังจบ อดคิดไม่ได้ว่า สงครามสิ้นสุด ชาติที่กระทำต่อชาวยิว ได้ชดใช้อะไรให้พวกเขาบ้าง จากคุณ : คนรักหนัง - [ 24 เม.ย. 49 01:53:42 A:84.9.113.4 X: ]

ความคิดเห็นที่ 48 ทนไม่ได้ ตอ้งขอออกนอกเรี่องอีกครั้ง ผมเชี่อว่า หลายๆแห่งในโลก ที่เกลียดอเมริกา เพราะว่าต้นตอมาจากยิวครับ เนี่องจากคนยิว มีเผ่าพันธุ์เป็นพวกทำอาชีพด้านการปล่อยเงิน ทำให้เป็นต่ออยู่ที่อเมริกา มีพลังมีดที่น่ากลัว และพวกเขาก็ยึดถือขนบธรรมเนียมดั้งเดิมอย่างเเน่นเหนียว ไม่ว่าจะผิดหรีอถูก พวกเขาจะได้รับการช่วยเหลีอกอ่นเสมอไป   ผมทนไม่ได้ครับ ที่อเมริกาถูกเกลียดเนี่องมาจากยิว อเมริกาส่งเงินมากที่สุดออกช่วยเหลีอประเทศอิสราเอล  ตลอดมา  เพราะว่ายิวคีอพลังมีดของอเมริกา  ไม่ว่าจะเป็นเช่นใด คนยิวเขาจะอยู่เชิดชูกับคนยิวพวกของเขาเท่านั้นเอง นี้แหละที่ผมไม่พอใจมาก จากคุณ : เลิศพิสิฐ - [ 24 เม.ย. 49 02:04:41 ]

ความคิดเห็นที่ 49 โฮ่ เป็นกระทู้ที่ประเด็นเยอะมาก ผมรู้สึกตะหงิดๆกับความคิดเห็นของคุณเลิศพิสิฐนะครับ ขออธิบายว่าทำไมผมไม่เห็นด้วย และทำไมความคิดเห็นของคุณเลิศพิสิฐถึงเป็นกรณีนึงที่ใช้อธิบายข้อสงสัยของคุณณาราได้ ว่าทำไมคนถึงเกลียดยิว เอาเรื่องทำไมคนถึงเกลียดยิวก่อน เรื่องศาสนาก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ แต่ผมว่าปัจจัยอื่นๆมีดังนี้ 1. ชนชาติยิวเป็นชนชาติอพยพที่ไม่ค่อย integrate กับสังคมที่ตนเองไปอยู่ ดังนั้นคนจะจงเกลียดจงชังได้ง่าย เพราะจะถูกเพ่งเล็งว่าเป็นพวกอื่น เป็นคนอื่น ไม่ใช่กลุ่มเดียวกับตน 2. ยิ่งในช่วงยุคกลางเป็นต้นมา เมื่อระบบ finance ของยุโรปพัฒนาขึ้น โดยมียิวเป็นผู้ดำเนินกิจการที่สำคัญที่สุด (เพราะสมัยก่อนชาวคริสต์จะไม่คิดดอกเบี้ย เพราะถือว่าผิดหลักศาสนา เช่นเดียวกับที่สมัยนี้ชาวอิสลามจะไม่คิดดอกเบี้ย และมีระบบธนาคารอิสลามของตัวเอง) ก็กลายเป็นว่ารัฐบาลและนักธุรกิจหลายๆคน หลายๆประเทศ ก็ตกเป็นหนี้ของชาวยิว ชาวยิวจึงกลายเป็นนายทุนของแถบยุโรปและอเมริกาเหนือ 3. ทีนี้ในทางรัฐศาสตร์มี concept เรื่อง cleavage (เรียกกันอย่างงี้จริงๆนาคุณ ผมไม่ได้ลามก) คือร่องลึกซึ่งจะเป็นร่องแบ่งกลุ่มการเมืองต่างๆ (political allegiances) ซึ่งบังเอิญว่าฐานะของยิวเนี่ย ล้อมรอบด้วยร่องลึกถึงสามร่องด้วยกัน คือ ด้านเชื้อชาติ (คือหน้าตา สีผิว ไม่เหมือนคนอื่น วัฒนธรรม ประเพณีไม่เหมือนคนอื่น ไม่ integrate กับสังคม) ด้านศาสนา และด้านชนชั้น (คือเป็นนายทุน จะเป็นที่อิจฉา ริษยา และเกลียดชังจากคนจนได้ง่าย) ดังนั้นจึงเกิดความคิดเห็นขึ้นมาว่ายิวเนี่ยเป็นพวกต่างชาติที่เข้ามาสูบเลือดสูบเนื้อคนในประเทศ เป็นพวกที่ทำลายเศรษฐกิจประเทศ และด้วยความที่ยิวเป็นพวกที่อยู่ด้วยกัน สามัคคีกันอย่างเหนียวแน่น ทำให้เกิด conspiracy theory (ทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด) ได้ง่าย ว่าพวกนี้กำลังวางแผนล้มล้าง Western civilization ศาสนาคริสต์ ความดีงามทั้งหลายทั้งปวงในโลก ฯลฯ อยู่ (ดูตัวอย่างเรื่อง Protocols of the Elders of Sion - http://en.wikipedia.org/wiki/The_Protocols_of_the_Elders_of_Zion ) ด้วยสามข้อข้างบนเนี่ย ทำให้ยิวกลายเป็นแพะรับบาปที่ง่ายมาก เมื่อคนในชนชั้นปกครองต้องการสร้างกระแสบางอย่างหรือต้องการเบนความสนใจจากเรื่องบางเรื่อง โดยเฉพาะความผิดพลาดของตนเอง และก็ถูกใช้เป็นแพะรับบาปในประวัติศาสตร์โลกอยู่บ่อยครั้ง เช่น เยอรมันแพ้สงครามโลกครั้งที่หนึ่งก็โทษยิว เศรษฐกิจเยอรมันล่มก็โทษยิว ฯลฯ ------------------------------------------------- ทีนี้เรื่องทำไมยิวถึงฉลาด (ซึ่งผมไม่รู้มากพอที่จะบอกได้ว่าฉลาดที่สุดในโลกหรือเปล่า) ผมว่าส่วนนึงก็มาจากที่ยิวเป็นส่วนมากมาจากผู้อพยพและเพราะยิวส่วนมากรวยนี่แหละครับ ต้องอย่าลืมว่าค่าเรียนมหาลัย ค่าเรียนหมอ ฯลฯ ก็ไม่ใช่ถูกๆ และคนที่จบมหาลัย จบหมอ เป็นทนาย ฯลฯ ส่วนมากก็มาจากชนชั้นกลางและชนชั้นสูง และด้วยความเป็นผู้อพยพเนี่ย มักจะถูกสอนให้ฝังใจกับความยากแค้นของบรรพบุรุษและความสำคัญของการต่อสู้ให้ได้มาซึ่งความมั่นคงในชีวิต ------------------------------------------------- ส่วนประเด็นเรื่องความเห็นของคุณเลิศพิสิฐ อย่างที่ผมบอกข้างต้นว่าเพราะยิวไม่ค่อย integrate กับสังคมเลยถูกมองว่าเป็น "พวกอื่น" และทำให้เกิด conspiracy theories เกี่ยวกับพวกยิวง่าย แต่คุณคิดว่าคนยิวทำให้อเมริกาเสียผลประโยชน์อย่างเดียวหรอครับ ส่วนตัวผม ผมว่าถ้านักวิทยาศาสตร์ยิวไม่ได้อพยพมาอเมริกาเยอะแยะมากมายช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง อเมริกาคงไม่ได้สร้างอาวุธปรมาณูได้เป็นประเทศแรกของโลก และเป็นประเทศมหาอำนาจตั้งแต่ 1945 เป็นต้นมาหรอกครับ และถ้าไม่มีนักธุรกิจยิวมากมาย เศรษฐกิจอเมริกาคงไม่พัฒนาจนโตขนาดนี้ และจ้างงานได้มากขนาดนี้ อเมริกาจะไม่เป็นยักษ์ใหญ่ในวงการศิลปะ ดนตรี ภาพยนตร์ ละครได้ถึงขนาดนี้ คือความเห็นของคุณเลิศพิสิฐเนี่ยทำให้ผมนึกถึงคลื่นใต้น้ำอย่างหนึ่งของการเมืองไทย ที่มักจะโทษคนจีนว่าเป็นต้นเหตุของความย่ำแย่ต่างๆในประเทศ ด้วยความที่คนจีนเป็นกลุ่มคนที่คล้ายยิว คือ ไม่ค่อย integrate กับสังคมที่ตนเองอพยพเข้าไปอยู่ เกาะกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่น และมักจะประสบความสำเร็จทางธุรกิจ ซึ่งปรากฎการณ์เอาคนจีนเป็นแพะรับบาปที่มีมาตั้งแต่สมัย ร. 6 ที่ท่านทรงพระราชนิพนธ์บทความเรื่อง "ยิวแห่งบุรพทิศ" (Jews of the East - คือคนจีน) และบทความที่มีใจความคล้ายๆกันหลายเรื่อง จนถึงยุคชาตินิยมของจอมพล ป. ที่ห้ามคนสัญชาติไทยใช้ชื่อจีน ห้ามเรียนภาษาจีน ฯลฯ ซึ่งในยุคเดียวกันนักวิชาการหลายๆคนก็ออกมาพูดว่าเศรษฐกิจไทยไม่มีวันโตได้ เพราะนักธุรกิจส่วนมากเป็นคนจีน แล้วผลประโยชน์ส่วนมากก็จะตกอยู่กับคนจีน แต่เอาเข้าจริงๆเศรษฐกิจไทยก็โตวันโตคืนอย่างอัศจรรย์ยุค 80s ก็เพราะนักธุรกิจจีนเนี่ยแหละ คือผมว่าด้วยความที่ยิวตกเป็นแพะรับบาปมาตลอด มันง่ายที่จะ underestimate ว่าชาวยิว integrate กับสังคมมากแค่ไหน คนยิวเยอะแยะนะครับ ที่ไม่ได้เคร่งศาสนามาก ที่พูด Yiddish ไม่ได้แล้ว อย่างรายชื่อนักเศรษฐศาสตร์ที่คุณ B.F. Pinkerton เอามาโพส หลายๆคนก็มีเชื้อสายยิว แต่ครอบครัว convert เป็นคริสเตียนตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ปู่ย่า ตายายแล้ว เพราะพอไม่เป็นยิว แล้วทำมาหากินได้ง่ายขึ้น ไม่โดนกลั่นแกล้ง ไม่โดน discriminate ซึ่งหมายความว่าพอเอาเข้าจริงๆแล้วจะบอกว่าใครเป็นยิว ใครไม่ใช่ บางทีก็ลำบากนะครับ ตอนพรรคนาซีเรืองอำนาจในเยอรมันก็เจอปัญหานี้ ว่าเอาเข้าจริงๆบางทีก็ก้ำกึ่งว่าใครเป็นยิว ใครไม่เป็น โดยเฉพาะในเยอรมันมียิวเป็นจำนวนมาก ที่อยู่เยอรมันมาแล้วหลายชั่วคน ไม่ได้นับถือศาสนายิวแล้ว แต่งงานกับคนเยอรมันไปแล้ว ฯลฯ The point is don't confuse class issues with racial issues! ------------------------------------------------------- ขอแก้คุณณารานิดนึงนะครับ เจ้าพ่อเด็กขอทานในเรื่อง Oliver Twist ไม่ได้ชื่อ Begin นะครับ ชื่อ Fagin ส่วน Merchant of Venice ของ Shakespeare ก็ไม่เชิง "portraits Shylock as a ruthless staunch merciless Jew" นะครับ หนึ่งในความงามของบทละครของ Shakespeare คือตัวละครมักจะไม่เป็น caricature และมักจะมี logic ในการกระทำของตัวเอง อย่างบทพูดของ Shylock ข้างล่างนี่ผมว่าเป็นหนึ่งในบทพูดที่ anti-Semitic น้อยกว่าวรรณกรรมเรื่องยิวอีกหลายๆเรื่อง Shylock: I am a Jew. Hath not a Jew eyes? hath not a Jew hands, organs, dimensions, senses, affections, passions? fed with the same food, hurt with the same weapons, subject to the same diseases, healed by the same means, warmed and cooled by the same winter and summer, as a Christian is? If you prick us, do we not bleed? if you tickle us, do we not laugh? if you poison us, do we not die? and if you wrong us, shall we not revenge? (Merchant of Venice, Act III, Scene i) แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 49 17:01:57 จากคุณ : อนุมูลอิสระ - [ 24 เม.ย. 49 02:40:56 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ไม่เห็นข้อความของคุณเลิศพิสิฐข้างบน อ่านแล้วงงครับ "เนี่องจากคนยิว มีเผ่าพันธุ์เป็นพวกทำอาชีพด้านการปล่อยเงิน ทำให้เป็นต่ออยู่ที่อเมริกา มีพลังมีดที่น่ากลัว" คนยิวที่ไม่ได้ทำงานด้าน finance ก็เยอะนะครับ นักธุรกิจอเมริกันที่ไม่ได้เป็นยิวก็เยอะ คนที่วางรากฐานเศรษฐกิจอเมริกันบางคนอย่าง Henry Ford ก็ไม่ได้เป็นยิวนะครับ ส่วนเรื่องอิสราเอล นโยบายต่างประเทศของอเมริกาส่วนนึงมาจากผลของพวก Jewish lobby ก็ใช่ ผมไม่เถียง แต่อีกส่วนนึงก็มาจากการคำนวนของนักการเมือง ทหาร ทูต และฝ่ายข่าวกรองเรื่อง strategic interests ของอเมริกาในภูมิภาคตะวันออกกลางด้วย และยิวส่วนมากก็ไม่ได้โปรอิสราเอลอะไรนัก และถือว่าอิสราเอลเป็น failed dream ความฝันของพวก Zionist ที่จะเห็นประเทศที่สงบสุขก็ไม่ได้เป็นจริง (ลองดูบทสัมภาษณ์ของ Mike Leigh ผู้กำกับชาวยิว-อังกฤษดูสิครับ http://arts.guardian.co.uk/features/story/0,,1755767,00.html ) --- งึม ทำลิ้งค์ทีไรได้เรื่องทุกที มาแก้ลิ้งค์ เพราะลืมเว้นวรรคระหว่างปิดวงเล็บกับตัวลิ้งค์ครับ แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 49 17:00:28 จากคุณ : อนุมูลอิสระ - [ 24 เม.ย. 49 02:51:56 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ขอนับถีอคุณอนุมูลอิสระ  ที่ออกมาแย้งได้อย่างมีสาระจังเลยครับ ผมไม่ได้เกลียดยิวนะครับ  แต่อดไม่ได้ ที่ตอ้งออกมาลอบกัด เพราะว่าจะไปกัดตรงๆก็ไม่ได้  ผู้นำของผมที่นิวยอร์ก เป็นยิวไปทั้งน้าน บอกตามตรงว่าผมทั้งรักและปนกลัวๆยิวอ่ะครับ และไม่อยากให้เขามาจูงจมูกของอเมริกา และไม่จริงเหรอ ที่เดี๋ยวนี้คนอเมริกัน เวลาไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ จะตอ้งระวังตัวเผลอๆอาจโดนทำร้าย มันเรี่องอารายที่อเมริกาจะตอ้งไปสะแหน่เรี่องของอ่สราเอล  หากว่ายิวไม่มีอพธิพลมีดที่อเมริกา  ใครอยากจะรบกันเพราะว่าเกลียดกันผมไม่แคร์  แต่ว่ามาดึงเอาผมไปติดแหด้วยผมไม่ยอมครับ เงินของผมจากTax จะเข้าไปช่วยเหลีออดสราเอลกอ่นอี่นเลยแหละ หนังที่เราดูๆกันก็สร้างโดยชาวยิว ว่าเป็นชาติที่น่าสงสารถูกรังแกเสมอๆ แหะ แหะ ผมนอกเรี่องจริงๆ  ขอโทษ  จขกท ด้วยครับ จากคุณ : เลิศพิสิฐ - [ 24 เม.ย. 49 03:12:53 ]

ความคิดเห็นที่ 52 i think successful nations tend to have some underlying similarities: 1) tortured history 2) strong national spirit (perhaps stemming from the former) 3) strong work ethics 4) strong social values (nationa/family/religion/etc.) 5) large population for 1 - 4, i'd be referring to japanese, chinese, koreans, and singaporeans for 5 i'd add indians and jewish it is easier to see nations that are not as successful, i think.  thailand, for example, have a too comfortable history, no nothing at all, so we end up like blah.  the brits and americans, while they enjoyed a period of dominance, fell complacent and rested on their laurels, being overtaken by the other nationalities; this compounded by the lack of any strong social values/ethics due to the decline of christianity, any real religion for americans would be hollywood, imho. constrasting between the successful and not so successful nations, it is easy to see why some countries do much better than the others. จากคุณ : ! o_o ! - [ 24 เม.ย. 49 03:45:34 ]

ความคิดเห็นที่ 53 K. อนุมูลอิสระ, Thanks for the explanation and correction.  Indeed, it's Fagin.  The quote (Merchant of Venice, Act III, Scene i), well expresses Shylock's feeling.  After all, he has the same race like us all, the human race! About the integration, I find Jews in America tend to integrate and assimilate with the American culture well.  Many (probably most) Jews I know including older generations are intermarried to Gentiles.  For the pre WW generations and in Europe, seems to be different. จากคุณ : Thai Woman (ณารา) - [ 24 เม.ย. 49 04:45:54 ]

ความคิดเห็นที่ 54 Jews strongly believe in the notion of the given land. So even for Jews who don't live in Israel, they strongly support for the settlement in the areas. They donate money to support this religious ideology. Donation for this activity comes from Jews in every country.... Think about it: Most of Jews are really rich and financially influential in many countries (US and UK included).... So many foriegn affairs in many countries can be affected by this "donation" favoring Jewish settlement and Israel..... Anyway I personally am impressed with their intelligence and traditions. จากคุณ : amatuer translator - [ 24 เม.ย. 49 10:09:11 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ... ยิว ให้ทิปน้อยอ่ะ ... ฮ่าๆๆๆๆ แถมเคี่ยวทุกเซ็นเลยบอกให้  เคยให้ผม สามบาท แต่กินไปทั้งโขยงหกสิบกว่า  ดูแลดีแทบตาย ก้อเลยเอาไปคืน แล้วบอกว่า you need this money more than me ... เขาเลยบอกว่าจะคุยกับเมเนเจอร์ เหมือนหนังเรื่องwaiting แล้วผมก้อบอกว่า i'm the manager ... กร๊ากกกก  วันถัดมา ร้านผมลงโคสนาในหนังสือพิมพ์ยิวท้องถิ่น คราวนี้ มากันเต็มเลย - -' ฝนตกขี้หมูไหล คนยิวใหม่ๆมาเต็มเลย T.T ... จากคุณ : PaLLMtOgO - [ 24 เม.ย. 49 11:07:32 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ^ ^ ถ้าเป็นผมก็จะรับเงินคืนมาจากพี่ปาล์มด้วยความยินดี พร้อมกับบอกว่า Thanks a lot! You're a really nice guy!. I appreciate that! จากคุณ : praphrut608 - [ 24 เม.ย. 49 12:13:14 ]

ความคิดเห็นที่ 57 "แต่ก็มีคนยิวหลายคนที่ไม่เห็นด้วยกับ stereotype ที่ว่าชาวยิวฉลาดที่สุดในโลก หนึ่งในนั้นคือ Ed Koch (อดีต Mayor of NYC) Ed เชื่อว่าคนเอเชียฉลาดมากที่สุดในโลก ยกตัวอย่างเด็กเก่ง ๆ ในอเมริกาที่เรียน medical schools กับ โรงเรียนสำหรับเด็กเก่ง ๆ ในนิวยอร์ก จะมีเด็กเอเชียนอเมริกาค่อนข้างมาก (Stuyvesant, Bronx Science) " จากคุณ B. F. Pinkerton อันนี้ขอสนับสนุนคุณ B F P ด้วยครับ นาย Koch นี่เรียกว่าเป็นแมร์ขวัญใจคนนิวยอร์กสมัยหนึ่งทีเดียว แกทำตัวติดดินดีจังเลย พูดจาฉะฉานแฝงตลก แต่คำพูดแต่ละคำ คมและส่อแววฉลาดทันคน แกมีไรที่เอาใจใส่ชอบคนเอเชี่ยนเป็นส่วนตัวจริงๆด้วย ร้านที่ไชน่าทาวน์ นี่แกไปกินหมด และให้ถ่ายรูปแกมาโชว์หน้าร้านด้วย โรงเรียนStyvesant นี่เป็นความภูมิใจของแกอย่างออกหน้าออกตา เด็กเอเชียเสียกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ (หุหุ รวมทั้งหลานผมด้วย ผมเคยกล่าวไว้ในเรื่องเล่าฯตอน9/11 ) จากคุณ : smartupid - [ 24 เม.ย. 49 14:00:59 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ซักเรื่องก่อนจากกันนะครับ เล่าเรื่องอิสราเอลแล้ว ไม่เล่าเรื่องการทหารเขาบ้างก็กระไรอยู่.. เหมือนทานกะเพราแบบไม่ใส่ใข่ดาว เพิ่งทานมาตะกี้เอง เรื่องกองทัพอากาศเขานะครับ นักบินเครื่องบินรบที่เก่งที่สุดในโลก เขายกให้พี่ยิวนี้แหละครับ ในสงครามอ่าวพี่กัน ก็ได้ใช้บริการนักบินของพี่ยิวเขาด้วย นักบินรบทั่วไป มือระดับยอดจริงๆเท่านั้น จะได้รับการเลื่อนชั้น โดยจะถูกส่งไปฝึกบนเรือบรรทุกเครื่องบิน หากทำผลงานได้ดีเด่น จะได้รับการส่งไปฝึกบินในทะเลทราย ซึ่งถือว่าเป็นสุดยอดของนักบินเครื่องบินรบของโลกแล้วครับ พี่ยิวเราอุดมไปด้วยกลุ่มนักบินประเภทหลังสุดนี้ เมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว อิรักต้องการสร้างโรงไฟฟ้าปรมาณู ฝรั่งเศสเข้าไปประมูลสร้างให้ พี่ยิวค้านสุดตัว ร้องไปทั่วโลกว่า อิรักจะสร้างระเบิดปรมาณูได้ใน 5 ปี ถ้าโครงการโอซิรักนี้แล้วเสร็จ แต่ทั่วโลกก็ยังทำอะไรไม่ได้ อ้างว่ามันเป็นเรื่องของอิรักเค้า และที่สำคัญฝรั่งเศสก็มีส่วนได้เสียอยู่มาก อิสราเอลโวยว่า อิรักจะสร้างไปทำไม ในเมื่อมีน้ำมันดิบสำรองอยู่มาก จะสร้างโรงไฟฟ้าน้ำมัน ซักกี่แห่งก็ยังได้ สังคมโลกก็ยังเฉยอยู่อีก การก่อสร้างดำเนินไปกว่า90% อิรักรู้ว่ายิวเอาจริงแน่ครั้งนี้ เตรียมการป้องกันไว้ชัดเจน ประกาศว่า โรงไฟฟ้าโอสิรัก พร้อมรับมือหน่วยคอมมันโดของอิสราเอลตลอดเวลา แน่จริงบุกมา... การบุกเข้าทำลายโรงไฟฟ้านี้ มีวิธีเดียวครับ คือต้องส่งหน่วยคอมมานโดเข้าจัดการ เนื่องจากอิรักไม่มีพรมแดนติดกับอิสราเอล มีประเทศจอร์แดน และซาอุฯคั่นขวางอยู่ จะทำอะไรก็ติดขัดสองประเทศนี้ และทั้งสองประเทศนี้ก็ไม่ได้รักลอบชอบพออะไรกับพี่ยิวของเราเล๊ยยย.. อิสราเอลเปิดกลยุทธ์ใหม่ อีกแล้วครับท่าน ใช้เครื่องบินโจมตีแค่16ลำ F 15 แปดลำ มีหน้าที่เปิดทาง ชี้เป้า คุ้มกัน F 16 แปดลำ มีหน้าที่ทิ้งระเบิด ในระยะต่ำ เนื่องจากระยะทางไกลมาก F 16 จะบรรทุกระเบิดได้เพียงลำละสองลูกเท่านั้น เช้ามืดวันอาทิตย์ เครื่องบินทั้ง 16 ลำ บินขึ้น ทุกลำบินเป็นกลุ่มใกล้กันที่สุด ว่ากันว่า ปีกแทบจะเกยกันทีเดียว เรดาร์ของสองประเทศจับภาพได้เป็นเครื่องบินขนาดใหญ่ลำเดียว เมื่อมีการถามมาจากภาคพื้นดิน นักบินยิวตอบไปว่า เป็นเครื่องบินพานิช บินขนส่งตามปกตินะ แปดโมงครึ่งวันนั้น นายกยิวประกาศทางวิทยุว่า ไม่มีโรงไฟฟ้าโอสิรักอีกแล้ว ทหารยิวทุกคนปลอดภัย กองทัพไม่มีความเสียหาย จากการกระทำครั้งนี้ สหประชาชาติมีมติให้ประณามอิสราเอล และประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง ก็ยังไม่มีโรงไฟฟ้าปรมาณูมาจนทุกวันนี้ เล่าให้ฟังเรื่องเครื่องบินอีกนิดนะครับ นิดเดียวเอง มีอยู่ประเทศนึง ซื้อเรือบรรทุกเครื่องบินมาใช้ ซื้อเครื่องบินมาเจ็ดลำ ประจำการบนเรือ เป็นเครื่องบินเก่าที่เค้าไม่ใช้กันแล้ว ปัจจุบันทั้งเจ็ดลำ บินไม่ได้ซักลำ ที่พูดถึงนี้ ก็ประเทศสารขัณท์นั่นแหละครับ แฮะ..แฮะ..จบแล้วครับ มีภาคสี่ต่อรึเปล่านะ จะมาแอบยืมหัวข้อ แล้วฝอยต่อ โดย กว้าง เมื่อ 4 ส.ค. 48, 16:27 น. http://www.trekkingthai.com/cgi-bin/webboard/print.pl?content=9279&board=backpacker จากคุณ : Ann - [ 25 เม.ย. 49 07:44:14 A:210.1.27.162 X: ]

ความคิดเห็นที่ 59 โอ้วข้อมูลแน่นมากครับ  ถ้าจะให้ดี ต้องกล่าวถึงตอนอิสราเอล โดนพวกอาหรับรุมกินโต๊ะด้วยนะครับ อิสราเอลชนะรอบนั้นถือเป็นสุดยอดแห่งชัยชนะเลยทีเดียว เป็นที่ยอมรับเลยว่า อิสราเอล มีแผนการรบที่ดีที่สุดในโลก จากคุณ : PaLLMtOgO - [ 25 เม.ย. 49 11:19:27 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เห็นด้วยกับ คห.17 พระพุทธเจ้าไม่ได้เรียกว่าฉลาดในเรื่องโลกแบบยิวหรอก เรียกว่าฉลาดแบบรู้เท่าทันทุกสิ่งทุกอย่าง มันผ่านระดับของโลกไปแล้ว และไม่สิ้นสุด ลองเปรียบเทียบดูว่าคนยิวจะรู้ผลเฉพาะว่าเมื่อไหร่ผลประโยชน์จะเกิดขึ้นกับตน แต่ระดับอรหันต์จะคิดว่าเมื่อผลประโยชน์เกิดขึ้นแล้ว มันกระทบคนอื่นหรือเปล่า เพราะรู้ว่าถ้าไปกระทบคนอื่นเมื่อไหร่ มันจะกลับมากระทบตัวเองในวันหนึ่งข้างหน้า คนยิวจึงมีปัญหาตลอดเพราะคิดไม่ถึงตรงจุดนั้น เราว่ามันเป็นความฉลาดคนละระดับกันนะ อันหนึ่งเป็นความฉลาดที่ทำให้เกิดปัญญา อีกอย่างเป็นความฉลาดที่มาพร้อมกับปัญหา  และเป็นที่น่าภูมิใจเพราะความฉลาดในแบบแรกมีวิธีที่จะทำได้โดยไม่ต้องอาศัยชาติเชื้อเผ่าพันธุ์ ขอแค่เป็นมนุษย์เท่านั้น และที่สำคัญยังอยู่ใกล้ตัวเรามากๆ แล้วทำไมเราถึงมองข้ามมันไปหาความฉลาดแบบอื่นซะ  ทั้งๆที่เราสร้างมันได้เอง ถ้าอยากให้ลูกฉลาดไม่ต้องเลี้ยงแบบยิวก็ได้ เลี้ยงแบบพุทธเคร่งๆก็ฉลาดได้แบบครอบจักรวาล  ใกล้เกลือกินด่างแท้ๆ จากคุณ : Friday13th - [ 25 เม.ย. 49 22:24:55 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ขอวกกลับเข้าไปตอบคำถามเรื่องที่ถามว่าทำไมคนยิวถึงฉลาดนะคะ จากประสบการณ์ส่วนตัวที่ไปทำงานวิจัยในสถาบันวิจัยแห่งหนึ่งในอิสราเอลนานถึงห้าปี ขอตอบว่าเป็นเพราะการเลี้ยงดูและระบบการศึกษาของยิวที่สอนให้เด็กรู้จักคิดและค้นหาคำตอบในทุกๆเรื่องๆโดยไม่มีการปิดกั้นหรือถูกติเตียนว่าไม่เคารพผู้ใหญ่ ดิฉันเคยเห็นเด็กนักศึกษาปริญญาตรีโต้แย้งกับอาจารย์ระดับศาสตราจารย์แบบไม่ลดราวาศอก แต่หลังการโต้แย้งอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อนผ่านไป เขาก็ยังคุยกันได้ด้วยดี ในสถาบันวิจัยที่ดิฉันได้ไปทำงานอยู่นั้นจะมีการจัดอบรมให้การศึกษานอกระบบกับเด็กนักเรียนหลายๆระดับอยู่เสมอ การอบรมที่ให้นั้นไม่ใช่ทำแบบขอไปทีอย่างทีอื่นด้วย เค้าจะอธิบายกันอย่างละเอียดยิบ ยกตัวอย่างเช่น คราวหนึ่งมีการอธิบายให้เด็กมัธยมต้นฟังเรื่อง Human Genome พร้อมการสาธิตเกี่ยวกับการทำ PCR ด้วย ดิฉันถามเขาว่ามันไม่ยากเกินไปสำหรับเด็กระดับนี้หรือ เขาตอบว่าอย่างนี้ค่ะ ไม่มีอะไรที่ยากเกินไปสำหรับการเรียนรู้ของเด็กหรอก เด็กที่ฉลาดมากๆเค้าก็รับได้เร็วหน่อย ที่ฉลาดน้อยก็ฟังเรื่อยๆฟังบ่อยๆก็ค่อยซึมซับไปเอง ดิฉันจึงไม่ประหลาดใจที่พวกเขาจะเป็นคนฉลาดช่างคิดเลยค่ะ พวกชาวยิวนี่ชอบอธิบายและชอบสอนกันมาก เพราะเค้าจะบังคับให้เด็กนักศึกษาปริญญาเอกสอนเด็กปริญญาตรี ต้องขอบอกว่าเป็นการสอนแบบจริงๆจังๆ ไม่ใช่แบบ TA เท่าที่เห็นในอเมริกานะคะ เพราะตัวนักเรียนปริญญาเอกนั้นจะได้เงินอุดหนุนจาการสอนแล้ว ยังมีหน่วยกิตบังคับอีกกลายๆ วิชาที่ยากและประยุกต์ขั้นสูงหน่วยกิตก็จะมากด้วย ขอยกตัวอย่างอีกอันหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าคนยิวนั้นช่างคิดช่างถาม ตัวดิฉันนั้นชอบดื่มน้ำอุ่นก็ต้องมีการผสมระหว่างน้ำร้อนกับน้ำเย็นใช่ไหมคะ เพื่อนร่วมงานมาเห็นเข้าก็ถกกันว่าการกดน้ำร้อนลงถ้วยก่อนแล้วตามด้วยน้ำเย็น กับการกดน้ำเย็นก่อนแล้วตามด้วยน้ำร้อน อันไหนจะทำให้น้ำในถ้วยร้อนนานกว่ากัน ลองคิดกันดูไหมคะ นอกจากนี้เค้าก็ยังคิดถามไปได้ทุกเรื่อง บางทีถามไปถามมาตอบไม่ได้ เค้าก็จะไม่ยอมแพ้ จะต้องไปค้นหาคำตอบมาตอบคุณให้จนได้ ดิฉันก็เป็นนะคะที่ตอบไม่ได้แล้วก็บอกว่าไม่รู้ แล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไป แต่ชาวยิวจะไม่ทำเช่นนั้น เค้าจะไม่ยอมแพ้จนกว่าเค้าจะทราบคำตอบ บางทีมีการลงความเห็นแตกเป็นสองประเด็น เราก็จะทำการทดลองกันว่าใครถูกใครผิดดดยมีเดิมพันเป็นขนมเค้ก ผู้แพ้จะต้องอบขนมมาเลี้ยงทุกคนในแลป จากคุณ : nan1506 (nan1506) - [ 26 เม.ย. 49 10:07:13 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เคยมีคนติดตามเด็กยิวที่เติบโตในสังคมยิวที่ถูกเลี้ยงดูให้เด็กกระตือรือร้น ทะเยอทะยาน กับเด็กยิวที่ถูกเลี้ยงดูอย่างสุขสบาย เด็กยิวที่สุขสบายจะไม่มีคุณสมบัติที่เราเห็นได้ชัด ดังนั้นน่าจะเป็นได้ว่าปัจจัยเรื่องการเลี้ยงดูน่าจะมีบทบาทมากที่สุด ประเด็นที่คนเกลียดยิว น่าจะเป็นเพราะคนเขามีลักษณะพิเศษ แบบวัฒนธรรมที่เฉพาะกลุ่ม แตกต่าง และไม่คล้อยตามในแต่ละสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังเป็นกลุ่มที่ประสบความสำเร็จสูง ทำให้คนพื้นที่หรือคนชาติอื่นที่ติดต่อด้วยเกิดทัศนคติลบได้ไม่ยาก โดยส่วนตัวคิดว่าคนเลวคนดีก็คงมีบ้าง เพียงแต่การแสดงออกของเขาทำให้เรารู้สึกว่าเขาเห็นแก่ตัวได้ง่าย แต่ตัวเขาไม่รู้สึกอย่างนั้น ที่สำคัญคือเขาไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดกับเขาอย่างไรมากกว่า นำมาซึ่งปัญหาเชื้อชาติมากมาย ในสายวิชาการที่มีคนยิวเป็นกลุ่มหลักและคุมอำนาจอยู่ เชื่อว่าการคัดเลือกนักวิชาการใหม่ ๆ หรือแพทย์ เข้าร่วมทีม คนยิวย่อมมีแนวโน้มที่จะเลือกยิวมากกว่าเป็นธรรมดา ซึ่งก็เป็นปัญหาที่ตัวเองก็ยังรู้สึกครับ เพียงแต่ไม่ได้ไปโวยวายอะไรมาก จากคุณ : melatonin - [ 26 เม.ย. 49 13:28:10 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ขอบคุณทุกท่านที่ีมาร่วมแบ่งบันความรู้กันนะครับ เป็นประเด็นน่าสนใจที่น่าจะได้เอามาคุยกันอีก จากคุณ : B.F.Pinkerton - [ 2 พ.ค. 49 23:54:45 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ตามมาอ่านค่ะ  สนุกดีนะคะ จากคุณ : girlly_girl - [ 6 พ.ค. 49 00:33:58 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ขอบคุณครับ ได้ความรู้ขึ้นเยอะเลย จากคุณ : สวี่เหวินเฉียง - [ 7 พ.ค. 49 12:58:32 ]