ความคิดเห็นที่ 35
เข้าใจอารมณ์ของ จขกท. นะคะ...แต่อยากให้ลองพิจารณาย้อนกลับไปดูด้วยว่า สาเหตุที่ไม่ได้วีซ่านั้นเพราะอะไร?...ลองอ่านข้อความนี้ดูนะคะ...
"Applicants must demonstrate that they are properly classifiable as visitors under U.S. law by:
- Evidence which shows the purpose of the trip, intent to depart the United States, and arrangements made to cover the costs of the trip may be provided. ----> ข้อนี้คุณตอบว่าจะไป "จะไปกับคุณแจ๊คช่วยงานส่วนตัวเค้าและไปเที่ยวด้วย"...คำว่า "ช่วยงาน" แปลว่าคุณขอวีซ่าท่องเที่ยวและมีเจตนาจะมาทำงานและมาอยู่มากกว่าค่ะ....
- Depending on individual circumstances, applicants may provide other documentation substantiating the trip's purpose and specifying the nature of binding obligations, such as family ties or employment, which would compel their return abroad. ---> ข้อนี้สำคัญมากๆ เพราะคุณไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าคุณไปแล้วจะกลับมาแน่นอน เขาพิจารณาจากที่คุณ "ไม่มีงานทำ" ค่ะ...และอิงคำตอบจากข้อแรก...
พี่เห็นด้วยกับหลายๆ ท่านนะคะที่บอกว่า เขามี จนท.ตรวจสอบเอกสารระหว่างที่คุณรอเรียกสัมภาษณ์ ลองคิดดูนะคะว่าระยะเวลาตั้งแต่ยื่นเอกสารจนถึงได้เรียกสัมภาษณ์นั้น...นานแค่ไหน?...ช่วงเวลานั้นแหละค่ะที่เขาพิจารณาว่าคุณจะได้วีซ่าหรือไม่? ถ้าข้อมูลและเอกสารที่ยื่นประกอบไปครอบถ้วนตามที่ "US LAW required" (Immigration Act 214 b) บางคนไม่ถามอะไรเลยก็ได้วีซ่าค่ะ...เพราะฉะนั้นตรง 2 นาทีที่ว่านั้นอย่านำไปตัดสินว่าเขาทำงานไม่ได้เรื่องนะคะ....ระบบการทำงานเขามีค่ะ..
โดยปกติแล้ว จขกท. สามารถยื่น appeal ได้นะคะ ถ้ามั่นใจว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่เขากำหนดในการขอวีซ่าแต่ไม่ได้รับ "ความยุติธรรม" ในการพิจารณา...ก็ทำเรื่องยื่นต่อสถานทูตอเมริกาที่ประเทศไทยนี่เลยค่ะ...อย่ารอช้า!
พี่งงน่ะ...ทำไมต้องมาฟ้อง NGO ถึงอเมริกาด้วย? ถ้าจะเดินเรื่องก็ควรเดินให้ถูกช่องทาง...แนะนำให้เข้าไปอ่านข้อมูลต่างๆ จาก http://www.state.gov หรือเว็บไซต์ของสถานทูตอเมริกัน ก่อนจะฟ้องร้องจนถึงที่สุดนั้นควรมั่นใจว่าสามารถพิสูจน์ให้เห็นว่า จนท.ทำงานไร้ประสิทธิภาพจริงๆ...
โชคดีนะคะ...
Disclaimer: ข้อความนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านและตีความ
จากคุณ :
BMW (BlackmagicW)
- [
29 เม.ย. 49 09:11:20
]
|
|
|