ความคิดเห็นที่ 1 พยายามไม่ทานข้าวนอกบ้านค่ะ ของใช้อะไรที่เราไม่ค่อยติดแบรนด์ก็จะซื้อโฮมแบรนด์แทนค่ะ ถ้าราคาต่างกันมาก ไม่งั้นจริงๆแล้วก็ไม่ค่อยอยากสนับสนุนโฮมแบรนด์เท่าไหร่ จากคุณ : yuy - [ 21 พ.ค. 49 17:36:03 A:59.167.174.111 X:203.26.206.129 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มาเห็นด้วยค่ะ พยายามไม่ไปทานข้าวนอกบ้าน ไม่ซื่อของ แบรนด์..เวลาเดินซ๊อบปิ้ง ดูของ ก็คิดถึงของ ที่เรามีแล้วอยู่ที่บ้าน อันนั้นเราก็มีแล้ว...อันนี้เราก็มีแล้ว ก็จะทำให้ เราไม่อยากซื้อ เพราะเรามีแล้ว ...ซื้อเฉพราะ ของที่จำเป็นต้องใช้..จริงๆ จากคุณ : whitelady - [ 21 พ.ค. 49 18:56:53 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ทำกับข้าวกินเอง เนื้อสัตว์ ซื้อแบบที่เป็นแพคใหญ่ๆค่ะ ช้อปที่ร้านลดราคา Marshall Ross TJMax Outlet Mall หุๆ จากคุณ : ปอมปอมเกิร์ล - [ 21 พ.ค. 49 19:17:30 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่มีที่ให้ฟุ่มเฟือยเลยค่ะ เพราะไม่มีที่ีให้ซื้อ วิธีที่ช่วยประหยัดได้ ของดิฉันแล้วดิฉันคิดว่าได้ผลคือ แต่ละอาทิตย์ ทำลิสท์เลยว่า เราจะทำกับข้าวอะไรบ้าง ต้องซื้ออะไรบ้าง แล้วออกไปซื้อมาตามนั้น ไม่มีออกนอกลิสท์ ทุ่นเวลาในการคิดกับข้าว และซื้อของที่ไม่จำเป็น จากคุณ : mrs.night owl - [ 21 พ.ค. 49 19:34:43 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มันยากมากเลยค่ะ ดิฉันพยายามแล้วพยายามอีก จะได้ก็เรื่องออกไปทานนอกบ้าน บอกแฟนว่าไปอาทิตย์ละครั้งพอ จากคุณ : ไอซ่า - [ 21 พ.ค. 49 20:02:11 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าเจอของที่อยากได้ ก็จะรอมันลดราคา ถ้าเป็นของเเพงก็จะยังไม่ซื้อ กลับบ้านไปนอนคิด 1 สัปดาห์ ถ้าผ่านไปเเล้วยังอยากได้อยู่ เเสดงว่าอยากได้พอสมควร ถึงจะกลับไปซื้อ ส่วนใหญ่เเล้วความอยากจะน้อยลง ทำให้ไม่กลับไปซื้อค่ะ คูปองค่ะ ตัดคูปองเก็บไว้ ไป subscribe พวกผลิตภัณฑ์เด็ก เค้าจะส่งคูปองมาให้ ยิ่งพวกของใช้ในบ้านที่ออกใหม่ๆ ของบริษัทใหญ่ๆ ก็เข้าไปดูใน website  บางทีเค้าจะมี printable coupon ให้ด้วย จากคุณ : Allergy Tested - [ 21 พ.ค. 49 20:39:33 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ของดิฉันก็ไปจ่ายกับข้าวอาทิตย์ละครั้ง กะงบประมาณว่าอาทิตย์ละร้อยเหรียญ (ทำลิสต์ไปด้วย)  ได้กับข้าวประมาณ 4-6 อย่าง ก็ทำมื้อเย็นเยอะๆสำหรับ 4 คน แต่ทานแค่ 2 แล้วแพ็คให้สามีเอาไปทานกลางที่ทำงานค่ะ กับของเราเองค่ะ ประหยัดได้อาทิตย์ละ 40 เหรียญเชียวนะ เดือนหนึ่งก็ร้อยกว่าเหรียญ เพราะถ้าซื้อทานก็มื้อละประมาณ 8-10 เหรียญ แค่แซนวิชเองก็ 6-7 เหรียญแล้ว (ในดีซีแพงค่ะ) เป็นอาหารที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการอะไรมากเลย รสชาติไม่ดีด้วย บางทีเขาไปทานร้านอาหารกับเพื่อนที่ทำงานก็ต้องจ่ายเยอะกว่านี้ บ้านดิฉัน ออกไปทานอาหารนอกบ้านอาทิตย์ละครั้ง เพราะถือว่าเป็นการ entertain ค่ะ เสื้อผ้าเครื่องสำอางนี่ดิฉันเป็นคนไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ค่ะ เครื่องประดับนีี่ไม่ใส่เลย เสื้อผ้าส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้ดิฉันซื้อจากร้าน REI ค่ะ ใส่ได้นานโคตรเลย มันทนจริงๆ กระเป๋ารองเท้านี่ก็นานๆซื้อที ส่วนใหญ่เสื้อผ้าลูกต้องซื้อบ่อยๆ เพราะเด็กโตเร็วมาก แป๊บเดียวเท้าเท่าเรือแล้ว แต่ก็ไปซื้อตาม Outlet  ?Mall ลด 50-70% ค่ะ ดิฉันใช้วิธี ไม่รู้ไม่เห็น ก็ไม่ซื้อค่ะ ถ้าไปเดินห้างบ่อยๆ บางทีไม่มีอะไรในหัวที่จะซื้อหรอก แต่ไปเห็นมันก็อยากได้ เป็นเรื่องอีก เลยไม่ไปเดินห้างบ่อยๆค่ะ พาลูกไปทำกิจกรรมอื่นๆยุ่งๆ ช่วยได้มาก เมื่อก่อนดิฉันซื้อหนังสืออ่านค่ะ เดี๋ยวนี้ ดิฉันใช้วิธีเช็คจากห้องสมุดว่ามีเล่มที่อยากอ่านไหม ส่วนใหญ่จะมีหมด ก็ไปยืมจากห้องสมุด วิธีนี้ช่วยให้ประหยัดเงินได้มากเลยค่ะ เพราะหนังสืออาจจะดูไม่แพง แต่ถ้าซื้อหลายๆเล่มก็เยอะเหมือนกันนะ พวกที่ยอมควักกระเป๋าซื้อคือ ตำราอาหารค่ะ แต่ถึงอย่างนั้นก็ซื้อตอนลดราคาเหมือนกัน :) ปกติดิฉันเป็นคนไม่งกนะ แต่พอแต่งงานนานๆไป กลายเป็นคนงกมากขึ้นๆ แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 49 21:02:35 จากคุณ : yinnerella - [ 21 พ.ค. 49 21:02:08 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จด..จด..และจด มันทุกอย่างที่ใช้สตางค์จ่ายไป มันจะช่วยให้รู้ไปในรายวันเลยว่า ตอนนี้ใช้เงินไปเท่าไหร่แล้ว ถ้าใช้มากๆ เห็นตัวเลขเยอะๆ แล้วยังไม่ถึงครึ่งเดือน บางทีมันช่วยเป็นการเบรคตัวเองนะ เสื้อผ้า ซื้อมือสอง อันนี้ช่วยประหยัดได้เยอะมากกกก อากาศร้อน ก็เปิดประตูหน้าต่างเอา ถ้าจะเปิดแอร์ ก็เปิดตอนจะเข้านอน พอตื่นมาก็ปิด (อันนี้อาจมีคนค้าน) สัตว์เลี้ยง ถ้าเลี่ยงได้ ก็อย่ามี ค่าหมอสัตว์ ค่าดูแลรักษา ค่าอาหาร และอื่นๆ ถ้าไม่มี ช่วยประหยัดได้เยอะ เคเบิ้ลทีวี ถ้าต้องมีก็เลือกอย่างเบสิคสุดๆ อย่างสิบช่องก็พอ หนังโรง อย่าไปดูเชียว แพงจะตาย รอให้ออกมาให้เช่าหรือยิ่งรอนานได้ เดี๋ยวห้องสมุดก็มีมาให้ยืมฟรีๆ เวลาเลือกซื้อรถ ก็พยายามเลือกไอ้ที่ mileage อยู่ในช่วง 30 ขึ้นไป ของใช้ในบ้านโดยเฉพาะของชิ้นใหญ่ๆ เช่น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องล้างจาน รถยนต์ ซื้อมาแล้วดูแลรักษาให้ดีๆ จะได้อยู่ไปนานๆ มีลูกสอนให้ลูกประหยัดแต่เด็กๆ เช่น อย่าให้ลูกหยิบใช้เงินเป็นของเล่น เพราะโตมาอาจไม่เห็นว่าเงินมีค่า (อันนี้แม่เค้าบอกไว้) อีกอย่างลูกประหยัด โตมา(หวังว่า)มันจะได้ไม่มาขูดรีดพ่อแม่มากนัก จากคุณ : Overseas - [ 21 พ.ค. 49 21:49:02 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เราประหยัดค่าโกรเซอร์รี่ไม่เคยได้ อาทิตย์หนึ่งเราช้อปครั้งเดียวก็จริง แต่บิลเราไม่เคยต่ำกว่า 120 แต่มันรวมข้าวของเครื่องใช้อื่นด้วยนะ เช่น กระดาษชำระ น้ำยาซักผ้า ซึ่งก็ ซื้อเฉพาะที่มันเซล หยินจ๋า ว่าจะถามนานแล้วว่า นอกจาก ซื้อกระดาษชำระที่ ทาร์เก็ต แล้ว มี อย่างอื่นที่ถูกกว่าซุปเปอร์อีกไหม พี่จะ ดูว่าคุ้มไหมที่ต้องไปช้อปหลายแห่งน่ะ จากคุณ : ปรารถนา - [ 21 พ.ค. 49 22:04:30 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่กินข้าวนอกบ้าน เพราะมันแพง แล้วกินทีไรผิดหวังทุกทีเพราะไม่อร่อย ดิฉันเลยจัดเป็น potluck party ในหมู่เพื่อนหญิงไทยที่นี่แทน อาทิตย์ละครั้ง กินกันม่วนทั่วหน้า ที่บ้านไม่มีเคเบิ้ลทีวี เปลือง ตอนแรกตอนหยุดรับเคเบิ้ล ดิฉันใจจะขาดเสียให้ได้ เหมือนคนติดยาแล้วกำลังเลิก คิดภาพออกมั้ยคะ ตอนนี้สบายมาก ไม่มีดูก็ไม่ดู ไม่ซื้อหนังสืออ่านเล่นฝรั่ง หาเอาตามห้องสมุดเพราะยังไงๆมันต้องมีอยู่แล้ว อินเตอร์เนตที่บ้านยังเป็นแบบdial up อยู่เลย จะติดแบบไฮสปีตก็เสียดายตังค์ ว่าจะเปลี่ยนแต่ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนเสียที อยากเล่นแบบไฮสปีตต้องไปเล่นบ้านเพื่อน ก๊ากก เวลาไปจ่ายกับข้าวอาทิตย์ละครั้ง ดิฉันจะจดเมนูก่อนว่าถายใน 7 วันกินอะไรบ้างแล้วซื้อตามนั้น ไม่ซื้อนอกเมนู ง่ายกว่าซื้อกับข้าวแล้วค่อยมาคิดเมนูเยอะเลยค่ะ สามีห่อข้าวไปกินที่ทำงาน เพราะพี่ท่านติดอาหารไทย ให้พี่แกกินแซนวิชแกบอกขอกินข้าวผัดไข่ดาวดีกว่า นี่ประหยัดไปได้เดือนละเป็นร้อยนะคะ เลี้ยงลูกแบบปลูกฝังให้รักความประหยัด ลูกดิฉันเมือก่อนมันเป็นเอทีเอ็มเดินได้ อะไรๆก็ร้องให้แม่ซื้อ เดี๋ยวนี้ให้เงินมันอาทิตย์ละ 7 เหรียญ(เพราะอายุ 7 ขวบ) เดือนละ 28 เหรียญ ถือว่ามหาศาลสำหรับเด็กอเมริกัน แต่ดิฉันบังคับให้ฝากแบ็งค์ ครึ่งนึง อีกครึ่งนึงเป็นงบส่วนตัวจะซื้ออะไรก็อยู่ในงบนั้น นอกจากเสื้อผ้าจำเป็นและอาหารที่แม่ออกให้ จะไปงานวันเกิดเพื่อนมันก็ต้องเอาตังมันซื้อของขวัญ ไปทาเก็ตถ้าอยากกินโค้กก็ต้องซื้อเอง อยากได้อะไรก็ต้องซื้อเอง ไม่มีการซื้อให้นอกจากวันเกิดหรือคริสมาส เพราะเงินเดือนตัวเองมี สองเดือนเท่านั้นแหละค่ะ มันกลายเป็นคนงกไปได้โดยปริยาย จะใช้สักบาทนี่คิดแล้วคิดอีก ของเล่นนี่ไม่เคยร้องขออีกเลย อยากได้อะไรจริงๆ จะขอให้พ่อเช็คในอีเบย์ก่อนว่ามีถูกกว่าที่ร้านหรือเปล่า หรือไปก็รอวันเกิดตัวเอง ต่อ ไม่ไปเดินมอล เพราะไม่เห็นก็ไม่อยาก ถ้าไปแล้วเห็นของที่ชอบ ก็จะกลับมาดูในอีเบย์ว่ามีถูกกว่าในนั้นหรือเปล่า จะซื้อต่อเม่อมีเซลเท่านั้น ดิฉันหัก 35 เปอเซนต์ ของเงินเดือนเข้า 401K ไปเลย ของสามีหัก 15 เปอเซนต์ แล้วรัฐบาลแมชให้อีก 15 เปอเซนต์ (เขาเป็นข้าราชการ) เงินที่เหลือก็ใช้เท่าที่มี รถที่ใช้ซื้อมาแบบเงินสดแล้วใช้จนตายแบบไม่ฟื้นแล้วถึงซื้อคันใหม่ อย่าซื้ออะไรเงินผ่อนนอกจากบ้าน ไม่มีตังค์ซื้อของชิ้นใหญ่ๆก็จะไม่ซื้อ รอเก็บตังค์ก่อน ทำอย่างดิฉันนี่ยากโคตรๆค่ะขอบอก แต่ทำไปแล้วจะชินไปเองค่ะ จากคุณ : flymom - [ 21 พ.ค. 49 22:18:50 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ค่าใช้จ่ายในบ้านก็จ่ายเท่าที่จำเป็นเช่นกันค่ะ ถ้าพวกเนื้อสัตว์หมด ก็จะไปซื้อที่ Farmer Market เอาค่ะ เนื้อสดและถูกกว่าที่อื่น เพราะทำจากหลังร้านสดๆเลยค่ะ.. ส่วนพวกกระดาษทิชชู่ ของใช้ภายในบ้านที่ซื้อยกโหลเป็นเซ็ท ก็จะเลือกไปที่ คอสโคเอาค่ะ ซื้อเป็นลังเป็นกล่องถูกกว่าค่ะ ..ตอนนี้ตัวเองก็เพลงๆเรื่องพวกสกินแคร์ลงไปบ้างค่ะ จะ้ชอบช้อปของใช้ลูกๆๆมากกว่าค่ะ ส่วนกะการค่าใช้จ่ายนี่ ไม่ตายตัวอ่ะค่ะ แล้วแต่อันไหนเริ่มหมด ก็จะบอกพ่อบ้านเลย ..ตอนนี้เวลาไปเดินห้างฯคนเดียว ต้องรีบกลับบ้านเช่นกันค่ะ ไม่งั้นตะบะแตกแน่ๆเลย... จากคุณ : tiktoth - [ 21 พ.ค. 49 22:30:47 ]

ความคิดเห็นที่ 12 พี่แจง รายการที่ซื้อจากทาร์เก็ตนะ  พวก สบู่ แชมพู ยาสีฟัน แปรงสีฟัน น้ำยาซักผ้า น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างห้องน้ำ อาหารหมา กระดาษชำระ แบดเตอรี่ ซีดีเปล่า ผ้าอ้อม baby wipes, energy bars, paper towels สเปรย์ทำความสะอาดต่างๆ ไวตามินต่างๆ แม้กระทั่ง prescription ของทาร์เก็ตนี่ก็ถูกกว่า CVS เยอะมากๆเลยนะพี่แจง แต่บางทีบริษัท insurance ของเรา อย่างหยินใช้ของ Cigna เค้าจะมี โปรแกรม tel-drug ถ้าสั่งซื้อจากเค้าก็จะถูกกว่าเยอะมาก ในกรณีที่เราใช้ยาตัวนี้เป็นประจำ (อย่าง pranatal care vitamin นี่กินตั้งแต่เริ่มท้องยันหย่านมลูก) เสื้อผ้าลูกนี่บางครั้งก็ทาร์เก็ตนะ ตอนมันลด 30% ถูกมาก แต่ต้องเลือกแบบดีๆหน่อย (ของ Genuine Kids นี่ OshKosh ทำนะ) ถ้าลูกเกิน 4 ขวบแล้ว ไม่ไหวเลยนะ แบบเสื้อผ้าของทาร์เก็ตทำแบบบเด็กสาวๆแล้ว จะทำให้ลูกแก่แดดอ่ะ ไม่เอาด้วยคนล่ะ เด็กๆก็ใส่เสื้อผ้าแบบเด็กๆไปสิ ต้องทำให้มันเป็นสาวเร็วกว่าอายุทำไม จากคุณ : yinnerella - [ 21 พ.ค. 49 22:35:25 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เหมือนที่หลายๆคนบอกมาแล้วค่ะ - ไม่กินข้าวนอกบ้านบ่อยๆ นอกจากโอกาสสำคัญจริงๆ (เดี๋ยวนี้แม้โอกาสสำคัญก็ยังทำกินเองที่บ้าน แต่จะคิดเมนูที่หรูกว่าวันปกติหน่อย เช่น racks of lamb หรืออะไรที่ไม่ได้กินเป็นประจำทุกๆวัน) - ไม่รับเคเบิ้ลทีวี ดูแค่ช่องที่รับได้โดยไม่ต้องมีเคเบิ้ล (ปกติก็ไม่ค่อยได้ดูทีวีอยู่แล้ว) แล้วก็จำกัดการเช่าดีวีดีมาดูแค่อาทิตย์ละเรื่อง - เวลาซื้ออะไรไปจะจดบันทึกไว้ทุกอย่าง (ไม่เว้นแม้แต่กาแฟหนึ่งแก้ว) - จ่ายกับข้าวอาทิตย์ละครั้ง ทำลิสต์ไว้ล่วงหน้าว่ามีอะไรหมดต้องซื้อมั่ง จะได้ไม่ซื้อเลยเถิด - ซื้อเสื้อผ้าเฉพาะเวลาที่จำเป็นเท่านั้น อย่างเช่นเวลาต้องไปงานการหรือธุระใดๆ  ส่วนเสื้อผ้าใส่เล่นๆนี่ไม่ซื้อเลย รอรับของขวัญวันเกิดและคริสต์มาสอย่างเดียว เพราะพ่อแม่สามีจะซื้อให้ทุกปีอยู่แล้ว - อยากอ่านหนังสือเมื่อไหร่ก็ไปห้องสมุดเอา รวมทั้งหนังสือของลูกด้วย - เสื้อผ้าของลูกก็รับบริจาคเอาจากเพื่อนๆที่มีลูกรุ่นราวคราวเดียวกัน เพราะเด็กๆโตเร็วมาก ถ้าซื้อใหม่ใส่ไม่กี่ครั้งก็ใส่ไม่ได้แล้ว ไม่งั้นคุณปู่คุณย่าเค้าก็เสื้อให้หลานเป็นประจำอยู่แล้ว (ตั้งแต่มีลูกมานี่ ดิฉันยังไม่เคยซื้อเสื้อให้ลูกใส่แม้แต่ชุดเดียวค่ะ เหอๆ) - เวลาพาลูกออกไปทำกิจกรรม จะเลือกกิจกรรมหรือสถานที่ที่ไม่ต้องเสียเงิน แต่เด็กได้เรียนรู้ อย่างเช่น ไปฟาร์ม, สวนพฤษศาสตร์ ไม่งั้นก็พาไปโปรแกรมที่จัดตามห้องสมุดหรือ คอมมิวนิตี้เซ็นเตอร์ ซึ่งไม่ต้องเสียเงินแต่อย่างใด - ของอะไรที่จำเป็นหรือต้องการ แต่เราสามารถรอได้ก็จะรอจนกว่ามันจะลดราคาแล้วจึงจะซื้อ โดยคอยเช็คจากเว็บไซต์หรือใบโฆษณาอยู่เรื่อยๆ - เวลาซื้อเนื้อสัตว์ จะซื้อแฟมิลี่แพคเพราะถูกกว่า แล้วเอามาแบ่งเป็นถุงเล็กๆพอใช้ในแต่ละมื้อใส่ช่องแข็งเอาไว้ จะได้สะดวกเวลาเอาออกมาละลาย - สามีห่ออาหารกลางวันไปทำงานที่ทำงานทุกวัน เพราะซื้อแล้วมันแพง ไม่อร่อยด้วย (อย่างที่หยินบอกเป๊ะๆเลย) ที่สำคัญที่สุดคือ ดิฉันถือคติที่ว่า ไม่มีก็ไม่ใช้ (ไม่ใช่ไม่มีแต่จะใช้ซะอย่าง เพราะเครดิตสมัยนี้ขอกันง่ายจะตาย อย่างนี้ก็มีแต่แย่กับแย่อย่างเดียวนะ) แล้วก็มีงบประมาณรายจ่ายของแต่ละเดือนเอาไว้เลย จะได้รู้ตัวเองว่ามีลิมิตเท่านี้ เพราะถ้าไม่ทำลิมิตให้ตัวเอง โอกาสที่จะใช้เงินเลยเถิดมันมีมากค่ะ จากคุณ : Northernlife - [ 21 พ.ค. 49 23:26:46 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ทำคล้าย ๆ กับพี่แม่บ้านข้างบนอ่ะค่ะ ช็อปปิ้งเป็นรายอาทิตย์ ถ้าจะกดเงินสดออกมาก้อจดไว้ว่ากดออกมาวันไหน เท่าไหร่ และหลังจากนั้นก้อเอาไปใส่ไว้ที่ Microsoft Money ที่บ้านใช้โปรแกรมตัวนี้อยู่ค่ะ ดีมาก ๆ มันจะคำนวนให้หมดเลยว่า เดือนนี้เราใช้ไปเท่าไหร่ มีเก็บเท่าไหร่ และอีกปี หรือสองปีข้างหน้า ถ้ารายรับ และรายจ่ายเรามีประมาณเท่าเดิม มันจะบอกหมดเลยค่ะว่าเราจะมีเก็บเท่าไหร่ ที่สำคัญจะต้องบันทึก ทุก ๆ อย่างที่เราจ่าย และ รับ ไป พยายามไม่กินข้าวนอกบ้าน นอกจากอยากเปลี่ยนบรรยากาศ ทำแซนวิชให้สามีไปกินในที่ทำงาน เพราะสามีไม่ค่อยชอบซื้อกินเท่าไหร่ มันไม่อร่อย แพงด้วย พยายามไม่ซื้อของผ่อน และพยายามไม่ทำบัตรเครดิต เพราะบัตรเครดิตนี่เอง จะทำให้เราเป็นหนี้โดยปริยาย ถ้าพอเก็บเงินซื้อได้ ก้อจะเก็บเงินซื้อค่ะ จากคุณ : ~ลอร่านีนห์~ - [ 22 พ.ค. 49 00:52:51 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เข้ามาเพิ่มว่า อีกนิดค่ะ บ้านดิฉันเพิ่งปลดหนี้บัตรเครดิตทั้งหลายแหล่หมดไปเมื่อสองสามเดือนก่อนค่ะ จากค่าดอกเบี้ยบัตรเครดิตเดือนละหลายร้อยเหรียญ (ดอกอย่างเดียวนะเนี่ย) กลายเป็น 0 โอ้โห ประหยัดไปได้เยอะค่ะ เดี๋ยวนี้ใช้เงินสดค่ะ ไม่ใช่บัตรเครดิตอีกแล้ว ปลพี่แจง ครอบครัว 4 คน ซื้อกับข้าวอาทิตย์ละ 120 ถือว่าโอเคแล้วนะ บ้านหยินอยู่กันแค่ 3 คนอ่ะ แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 49 01:11:39 จากคุณ : yinnerella - [ 22 พ.ค. 49 01:10:40 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ดิฉันอยู่โตเกียว  มีลูกสองคนกำลังเจริญเติบโต จึงต้องประหยัดให้มาก คือ - ทานอาหารนอกบ้านนาน ๆ ครั้ง ในเทศกาล เช่น วันเกิด วันแม่ หรือ ลูก ๆ ทำอะไรที่น่าชื่นชม ยินดี เช่น ได้รับประกาศฯ เรียนดี  เป็นต้น  ส่วนมากจะทำอาหารเองที่บ้านเพราะมีครบตำราทั้ง ไทย ญี่ปุ่น จีน ฝรั่ง เวียดนาม - จดทุกอย่างที่จะซื้อ  และวางแผนว่าเดือนหน้านี้ขาดอะไรและจำเป็นมากมั้ยที่จะต้องมี ทั้งของในครัวและของใช้ส่วนตัว - เสื้อผ้าลูกจะไม่ซื้อราคาแพง แบรนด์เนม เพราะไม่จำเป็น และจะเก็บเสื้อผ้าพี่คนโตไว้ให้น้องคนเล็ก แม้ว่าจะอายุห่างกัน 5 ปี แต่เด็กผู้ชายเสื้อผ้าไม่ค่อยมีลูกเล่นแตกต่างเท่าไหร่  ส่วนที่ไม่ต้องการที่อยู่ในสภาพดีเราก็เก็บไว้ไปบริจาคค่ะ ทำเป็นประจำทุกปีตั้งแต่เราอยู่ออสเตรเลีย - ไม่ใช้ของแบรนด์เนม โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่นนี่คนคลั่งของแบรนด์เนมมาก  หากบ้าตามคงกระเป๋าฉีกแน่นอน  ดิฉันเลยถือคติว่า กระเป๋าตังค์ยี่ห้อไหนก็ไม่สำคัญเท่ากับจำนวนเงินที่เรามีไว้ในกระเป๋า - กันเงินเก็บไว้ทุก ๆ เดือน ในส่วนนี้ดิฉันกับสามีไม่มีความชำนาญเราจึงให้บริษัทที่เขาเชี่ยวชาญเป็นธุระจัดการให้ พอเพียงสำหรับเป็นทุนการศึกษาให้ลูกในอนาคต -  พอใจในสิ่งที่ตนมี  และสอนไม่ให้ลูกฟุ่มเฟือย  ลูกดิฉันพอเห็นราคาของ 200  เยนก็บอกแม่ว่าแพงแล้วค่ะ จากคุณ : CK@fort. - [ 22 พ.ค. 49 07:59:27 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ก่อนนี้ ใช้เงินไม่ค่อยคิดมาก เพราะทำงานนอกบ้าน มีสังคม พอเลิกทำงานประจำ..ต้องเปลี่ยนแปลงชีวิต..ย้ายที่อยู่(ด้วย) มีของต้องโล๊ะทิ้งไป มากมายก่ายกอง บางอย่างใช้ยังไม่คุ้มค่า บางอย่างเก็บลืมก็มี ตอนนี้ รายจ่ายเปลี่ยนไปเยอะมาก.. ลดซื้อพวกเสื้อผ้า เครื่องสำอางค์ รองเท้า กระเป๋า ได้ถึง 80 % อาหารก็ทำกินเอง..จ่ายของสด มาทำกินเอง ประหยัดได้กว่า 50 %เชียวนะ ไม่จำเป็นไม่ออกบ้าน..เบื่อ ขี้เกียจ เวลาที่มี..แค่อ่านอะไรต่อมิอะไร ดูทีวี ฟังวิทยุ อยู่ที่บ้าน เวลาก็ไม่ค่อยพอเลย ออกกำลังกาย ก็เต้นตามเพลงที่บ้าน..ไม่ต้องไปยิม ชีวิตครบ(พอใจ) รายจ่ายไม่มีเกินจำเป็น ไม่ได้จ่ายของมาเหลือทิ้ง.. มีเงินเหลือมากกว่าก่อนเยอะเลย ค่ะ จากคุณ : samranjai - [ 22 พ.ค. 49 09:28:02 ]

ความคิดเห็นที่ 18 กลับมาอีกครั้งค่ะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆจากทุกคนเลยนะคะ ยากเหมือนกันนะ แต่จะลองพยายามดูค่ะ :-) จากคุณ : Khat - [ 22 พ.ค. 49 09:44:55 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ต้องขอบคุณคุณ Khat ด้วยนะค่ะเนี่ย ได้ข้อคิดไปเยอะเลยค่ะ ดิฉันก็อยากทำได้เหมือนกัน เพราะถ้าขืนไม่ทำอะไรสักอย่าง สงสัยจะซี้แหงแก๋ในเร็ววันแหง ๆ เรื่องซื้อของกินเป็นอาทิตย์เนี่ย ทำไม่ได้สักที ไปซื้อทีไร ได้ของเกินที่อยากได้ทุกที แล้วก็ไปร้านโกรเซอรี่กันเกือบทุกวัน ไม่เราก็พ่อบ้านล่ะ   เรื่องกินนอกบ้าน ก็ยังโอเคบ้าง เพราะไม่ได้ไปกินกันบ่อย ๆ บางทีสองอาทิตย์ไปกันทียังมีเลย คิดดู๊... ถ้าให้ไม่ไปเลย ก็เบื่อนะ เพราะบางทีเราก็เหนื่อย ๆ เบื่อ ๆ  อยากกินแบบสบาย ๆ ไม่ต้องมานั่งเก็บกวาดครัวบ้างสิ จากคุณ : gw - [ 22 พ.ค. 49 10:11:27 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่มีเวลาไปดู และบางทีต้องซื้อยังไม่มีเวลาไปซื้อเลย ก็เลยประหยัดโดยปริยาย ที่ทำรายการว่าต้องซื้ออะไรบ้าง เพื่อที่ว่าจะต้องบอกตัวเองว่า นี่ต้องซื้อแล้วนะ มันขาดหรือมันไม่มีแล้วนะ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเพิ่งไปซื้อชุดจะไปงานแต่งงาน ทีแรกกะว่าจะใส่ชุดที่ใส่ประจำมาทุกงาน กับอีกชุดที่ซื้อไปเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว แต่สามีบอกว่า เมื่อไรจะไปซื้อชุดใหม่เสียที เพราะว่าใส่ทุกงานแล้ว เขาอยากให้ใครๆ เห็นภรรยาในชุดใหม่มั่ง เผื่อจะเป็น talk of the town มั่ง เลยต้องไป ก็ตั้งเวลาเอาไว้เลยว่า 2-3 ชม. เท่านั้น สรุปได้มา 1 ชุด ไม่แพง ก็คิดว่าทำเวลาได้ดี เพราะได้ซื้อมา 1 ชุด ปกติจะเบื่อก่อนและจบด้วยการไม่ซื้อเพราะเบื่อกับการลอง จากคุณ : พธูไทย - [ 22 พ.ค. 49 17:31:01 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เข้ามาเก็บเคล็ดไม่ลับของคุณแม่บ้านค่ะ ^.^ จากคุณ : OSaKet - [ 22 พ.ค. 49 17:57:27 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็น (เข้าห้องน้ำอาศัยไฟห้องอื่น)   เวลาล้างจาน น้ำล้างจานจะลองไว้ซักผ้าถูบ้าน จะประหยัดการใช้น้ำ ไม่เปิดทิ้งขว้าง   ก่อนออกไปจ่ายกับข้าว จะเปิดตู้เย็นดูว่า ยังมีอะไรอยู่บ้าง ผักอะไรมีอยู่ พยายามใช้ให้หมด   ก่อนไปเที่ยวสามีจะกำหนดว่า วันนี้จะใช้เงินเท่าไหร่ ให้เรารับปากว่า วันนี้จะไม่ใช้เกิน(แต่ก็เกินประจำ)   น้ำที่สระผม จะลองใส่อ่าง แช่ทำความสะอาดเท้า ล้างห้องน้ำ   ตัดผม ทำผม ทำเล็บ ด้วยตัวเอง อยู่ญี่ปุ่นสิบปี เข้าร้านทำผม วันแต่งงานวันเดียว   ไปไหนขี่จักรยาน เพราะไม่ซื้อรถ ไปไหนต้องคำนวณค่ารถไฟ     ซื้อผักผลไม้ตามฤดูกาล อะไรหน้าไหนถูกก็ซื้อกินจนกว่าจะหมดฤดู จากคุณ : พนอจัน - [ 22 พ.ค. 49 19:52:55 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณจ๊ะหยิน เห็นรายการประหยัดของแต่ละท่านดิฉัน มีความรู้สึกผิดจัง จะพยายามทำตามมั่ง จากคุณ : ปรารถนา - [ 23 พ.ค. 49 01:51:15 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เพิ่งได้เข้ามาอ่านวิธีประหยัดคุณแม่บ้าน  ถ้าได้เอาไปปฎิบัติบ้าง ดิฉันและสามีคงจะมีเงินเก็บมากกว่านี้ จากคุณ : แม่โคล่า (chuamalee) - [ 23 พ.ค. 49 02:59:57 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อ่านแล้วได้ความรู้และทิปในการประหยัดดีจังค่ะ ที่สำคัญอ่านไปรู้สึกผิดไป บ้านนี้แม่บ้านขี้เกียจทำกับข้าวค่ะ ทานข้าวนอกบ้านประจำเลย จากคุณ : ...kiki... - [ 23 พ.ค. 49 07:48:12 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อ้อ ต้องถามดิฉันค่ะ แบบหนืดเลย เพราะก่อนอาบน้ำเราต้องรอน้ำอุ่นใช่มะ ก็เอาถังรองน้ำไว้ เพื่อใช้รดน้ำต้นไม้ต่อ และ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่นเปิดตู้เย็นบ่อยๆ ก็เปลือง วิธีการรีดผ้า รีดชิ้นใหญ่ก่อน และชิ้นเล็กๆ เช่นผ้าเช็ดหน้า รีดหลังชักปลั๊กออก ผ้าม่านในห้องน้ำ ก็ใช้สีอ่อนเพราะตอนกลางจะได้ไม่ต้องเปิดไฟ เวลาเข้าห้องน้ำ เลิกจากด้วยเครดิตการ์ด โดยเด็ดขาด ซื้อเสื้อผ้าลูกก็ให้ซื้อช่วงลดราคาเท่านั้น คิดทบทวน หนักๆในสิ่งที่จะจ่ายง่าย ๆ เช่น ของเล่นลูก หรือ ของแต่งตัว แต่งบ้าน จากคุณ : คนไม่เคยจน (lekx) - [ 23 พ.ค. 49 21:05:42 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คิดอยู่อย่างเดียวค่า..ใช้ของที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และวางแผนการใช้งานล่วงหน้า....ตามใจตัวเองบ้างนาน ๆ ครั้ง.. และ..ปลูกผักไว้กินเอง..ผักชี..ต้นหอมได้ตลอดปี..และผัก ตามฤดูกาล..ประหยัดไปได้เยอะจริง ๆ อย่างผักชีที่นี่4-5 ก้านก็ 200 เยน..แล้ว.. ตอนนี้มีผักกินทุกวัน..ประหยัดดีค่ะ... อีกอย่างค่ะ..อายจัง..ที่บ้านชอบแช่น้ำร้อน...น้ำที่เหลือ ก็จะมาซักผ้าเพราะเครื่องซักผ้าในห้องอาบน้ำ...จะทิ้งก็เสียดายน้ำ... จากคุณ : ukako - [ 24 พ.ค. 49 09:58:59 ]