PANTIP.COM : H4508484 ทำไม requirement ของมหาลัยในแคนาดาถึงสูงจังล่ะครับ [ศึกษาต่อต่างประเทศ]

ความคิดเห็นที่ 4

อ่ะจ้ะ มาแล้วตามคำชวนของคุณ Jumbo แต่พอดีไม่ได้อยู่ใน field computer science นะคะ ตอบกลางๆ ในภาพรวมด้วยประสบการณ์และความเห็นส่วนตัวแล้วกัน

1. เรานี่แหละค่ะ เกรดต่ำกว่าเกณฑ์กระฉูด แต่เข้าไปได้ด้วยคุณสมบัติ มีประสบการณ์ทำงานสายตรงกับสาขาที่เรียนมา 3 ปีครึ่ง ได้ทุนจากหน่วยงานรัฐ recommendation letter จากคนสำคัญที่ทำงานใน field เดี่ยวกับเราในประเทศไทย และโปรแกรมเป็นโปรแกรมที่เน้นการพัฒนาบุคลากรให้ทั้งแคนาดาและนานาชาติ ทาง program director ไปพูดกับ admission committee มหาลัยให้จนเขาใจอ่อนยอมให้ลงเรียนแบบมี condition 1 เทอม ผ่านเกณฑ์ที่เขาตั้งไว้ (เฉลี่ย B+ สามวิชาหลัก) จึงได้รับเข้าเรียนแบบปกติในเทอมต่อไป เลขาฯ ที่โปรแกรมบอกว่า เราเข้าเรียนได้เพราะ program director มี power ค่อนข้างมาก และเป็นนักเรียนต่างชาติที่ได้ทุนจากรัฐมา ตอน defend เขาใช้จุดว่า มหาวิทยาลัยน่าจะสร้างโครงข่ายระดับนานาชาติด้วยการให้โอกาสคนที่ได้รับคัดมาจากชาตินั้นๆ แล้ว ถ้าเรามาด้วยทุนส่วนตัว และ program director ไม่ได้พอใจ profile ของเรา คงจะโดนคัดใบสมัครทิ้งไปตั้งแต่แรกแล้ว ไม่มีโอกาสได้เข้า committee ด้วยซ้ำ อันนี้เป็นประสบการณ์ที่เป็นข้อยกเว้นนะคะ เล่าสู่กันฟัง แต่บอกตามตรงว่า เขา strict ตาม requirement ค่อนข้างมาก แต่เกรดของคุณจัดว่าโอเค ถ้ามีประสบกาณ์ทำงานมากหน่อย มีหัวข้อ proposal ที่น่าสนใจ อาจจะมีโอกาสได้รับการพิจารณามากกว่าค่ะ ต้องลองถามตัวเองว่ามีอะไรดึงดูดให้ admission staff และ program director เขาสนใจคุณมากกว่าคนที่ผ่าน requirement ทุกข้อ (ซึ่งถ้าเกินจำนวนรับ ก็ต้องไปคัดกันอีก)

2.เมืองทางฝั่งตะวันตกไม่หนาวเท่าตะวันออกค่ะ ลองดูรายละเอียดเรื่องอากาศที่เวบของแต่ละเมืองได้ค่ะ

3. ทราบว่า U of Waterloo มีชื่อเสียงทางวิศวะ และคอมพิวเตอร์ แต่ U อื่นไม่ทราบค่ะ (แต่เมืองนั้นหนาวนะเออ)

4. ranking ของทาง computer science ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เคยเห็นแยกแบบ undrgrad และ grad และ medical science โดยภาพรวมมากกว่า แต่มาตรฐานพอๆ กันหมดทุกแห่งค่ะ และเข้ายากเหมือนกันหมดด้วย อ้อ Universite de Montreal เรียนเป็นภาษาฝรั่งเศสค่ะ ส่วน McGill เรียนเป็นภาษาอังกฤษ แต่อยู่ในเมือง Montreal ที่ชาวบ้านร้านตลาดพูดฝรั่งเศสเป็นส่วนใหญ่ ป้ายตามถนนหนทางเป็นภาษาฝรั่งเศสประมาณ 90% คิดให้ดีก่อนจะมาเรียนใน Quebec province

5. วีซ่าขอไม่ยากค่ะถ้าเอกสารครบ ใช้เวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ถ้าตรวจร่างกายไม่มีปัญหา มีเวลาสองเดือนทัน แต่ไม่มีคุ้มที่จะรีบค่ะ ถ้าจะมาเรียนภาษา 6 เดือนคงได้วีซ่า visitor จะเรียนต่อต้องกลับไปทำวีซ่านักเรียนมาใหม่จากไทย แล้วยังต้องมาทำเรื่องเข้า U อีก มหาวิทยาลัยเปิดเดือน September มีไม่กี่แห่งที่รับ winter term ด้วย แนะนำว่าตอนนี้ทำเรื่องสมัครเขาเรียนให้ได้ที่เรียนก่อนค่ะ น่าจะทราบผลประมาณ May 2007 สำหรับเข้าเรียนเทอม Fall 2007 ได้ตอบรับเรียบร้อยค่อยไปเรียนภาษาที่เมืองที่จะไปเรียนต่อ จะได้ปรับตัวไปด้วย และมาเริ่มชีวิตการเรียนที่หน้าร้อนดีกว่าหน้าหนาวค่ะ

6. แล้วแต่เรียนที่ไหนด้วยค่ะ ขึ้นกับค่าเล่าเรียน และค่าครองชีพของเมืองนั้นๆ คิดซะว่าค่ากินอยู่เดือนละ 1000 CAD (แบบประหยัดๆ นะ) บวกค่าเล่าเรียนเข้าไป เป็นค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ค่ะ

คำแนะนำส่วนตัวคือ ตอนนี้คุณยังไม่มีสิทธิเลือกที่เรียนค่ะ ควรสมัครไปให้หมดทุกที่ไม่ว่าที่ประเทศไหน ดูที่หลักสูตรน่าสนใจ ตรงความต้องการ และค่าใช้จ่ายรับได้ แล้วพอเขาตอบรับแล้วค่อยมาเลือกอีกทีว่า เมืองไหนน่าอยู่กว่ากัน การเรียนระดับ โท-เอกในแคนาดาเน้นประสบการณ์การทำงานค่อนข้างมาก แม้บางทีจะไม่กำหนดใน requirement แต่การเรียน การทำ project จำเป็นมากค่ะ ถ้าไม่มีมาเลยจะเรียนลำบากค่ะ ขนาดเราทำงานตรงสายมากๆ มาแล้ว ไปลงเรียนวิชาที่ไม่มีพื้นด้านนั้นมาก่อน เข้าไปในห้องเหวอมาก ต้อง drop ออกเลย ใจไม่สู้ค่ะ discuss ไม่ได้เลย ใบ้กิน

ทั้งหมดเป็นความเห็น และประสบการณ์ส่วนตัวนะคะ ใครมีข้อแนะนำอย่างไรก็มาเพิ่มเติมแก้ไขแล้วกัน

จากคุณ : @dd@ - [ 5 ก.ค. 49 07:51:05 ]