กรี๊ดดดดดดดด ค่ะ ตอนนี้อยู่เมืองไทยค่ะ
กินใหญ่เลยค่ะ อดอยากมาก เมื่อวานกินเอ็มเคสุกี้ค่ะ
รู้สึกว่าเมืองไทยเปลี่ยนไปมากกว่าเมื่อ 1 ปีครึ่งที่แล้ว
แต่เมื่อ 1 ปีครึ่งที่แล้ว ตอนกลับไปไม่ค่อยรู้สึก แต่ว่าตอนนี้รู้สึกมากกกกก
รู้สึกตัวเองเชยมากค่ะ ตามไม่ทันเลย
ที่เมืองไทยมีเทคโนโลยีมากมาย อุปกรณ์อะไรๆ เพียบ
ทุกสิ่งทุกอย่างวางขายเต็มไปหมด
รู้สึกว่าของแพงค่ะ สอบถามนักเรียนที่มารับที่ขอนแก่น บอกว่าตอนนี้ไข่ฟองละ 4 บาทแล้ว
กาแฟเย็นแพงมาก น้ำแข็งอัดเต็มแล้ว ดูด 2 ซ้วบหมดแล้ว 75 บาท
ขนม Gaufre ที่คล้ายๆ รังผึ้งแบบหนาม วงเล็กกระติ๊ดนึง อันละ 15 บาท และไม่อร่อย
วันที่ถึงกรุงเทพฯ ไปทำพาสปอร์ตใหม่ รวดเร็วมาก
ระบบการทำ การเรียกเบอร์ ตลอดไปจนถึงการจัดทำ รวดเร็วมาก การบริการดีมากๆ
คนเยอะมากๆ แต่ที่ก็ใหญ่มาก ทำให้รู้สึกว่าคนไม่เยอะ
รอก็แค่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
จำได้ว่าเมื่อหลายปีก่อนมากๆ ไปทำพาสปอร์ต ต้องวางแผนว่าครึ่งวันเลย รวมเวลารอด้วย
หลังจากนั้นนั่งรถทำธุระในกรุงเทพฯ รถติดพอใช้ได้แต่ว่าน้อยกว่าเมื่อปีครึ่งที่แล้ว
บนถนนมีรถแท็กซี่เต็มไปหมด เพื่อนบอกว่าขึ้นรถแท็กซี่ถูกกว่าขับรถเอง และไม่มีที่จอด
ตอนนั่งรถน้องสาวก็พอจะมองออก เพราะว่าจะไปไหนๆ ก็ต้องจ่ายๆๆๆ
แป๊บๆ อยู่แค่บนถนนเท่านั้น ต้องจ่ายแล้วเกือบ 500 บาท มันเร็วมากจนนึกว่าทำเงินหาย
คือชินกับการเดินทางแบบถูกๆ จ่ายค่าตั๋วรถไฟ แล้วก็เดิน
แต่นี่เดินทางในกรุงเทพฯ แบบขับรถ ทั้งค่าที่จอด ทั้งค่าโทลล์เวย์ ค่าทางด่วน ไป-กลับ
แป๊บๆ 500 บาทจริงๆ น้องสาวบอกว่า ตกใจอะไร นี่ธรรมดา ที่หลังอย่าบ่นอีก
ต่อไปให้ดิฉันเดินเอาละกัน รำคาญมาก
ค่ะ ทำการปรับตัวได้ 1 วัน ก็เริ่มงานเลยค่ะ
เริ่มโดยการซื้อเบอร์โทรศัพท์ค่ะ ต้องเรียนรู้เลยค่ะ ว่าเดี๋ยวนี้เขาทำอะไรกันอย่างไร
นักเรียนบอกว่าให้ไปซื้อเบอร์เอาง่ายๆ ก็ถามว่าง่ายจริงๆ หรือ ไม่ต้องใช้เอกสารแสดงที่อยู่อะไรหรือ
เขาบอกว่าไม่ต้อง ซื้อได้เลย ใช้ทันทีเลย บอกยี่ห้อและระบบให้เสร็จว่า ถ้าอยู่ไม่นานใช้แบบไหนๆ
ตกลงเลยไปซื้อ คนขายอธิบายอย่างดี พร้อมเอาซิมอะไรๆ ใส่ให้เรียบร้อย
บอกว่าในนี้มีเงินอยู่แล้ว 50 บาท จะเติมเลยใหม่อีก 250 บาททันที
อ่านๆ รายละเอียดเป็นโปรโมชั่น โทรภายในหลังเที่ยงคืนถึง 4 โมงเย็น (สรุปคือเกือบทั้งวันตอนกลางวัน)
โทรได้ครั้งละ 3 บาท กี่นาทีก็ได้ โทรไปไหนในประเทศไทยก็ 3 บาท
เปิดเบอร์พร้อมเลยในราคา 199 บาท (มี 50 บาทสำหรับให้โทรออกอยุ่ใน 199 บาทแล้ว)
ตกใจและกรี๊ดดดดดดสุดขีดค่ะ ทำไมมันถูกแบบนี้ แล้วจะโทรอะไรกันนักกันหนาหรือ
ถึงว่าใครๆ จึงมีโทรศัพท์มือถือกันหมดแล้ว อะไรนิดอะไรหน่อยก็โทรกันใหญ่เลยค่ะ
เด็กนักเรียน ลูกเด็กเล็กแดงมีโทรศัพท์ประจำกายกันทุกคนค่ะ
แล้วเลยเหลือบๆ ดูราคาโทรศัพท์ ราคาถูกมากคือ ไม่ถึง 2000 บาทก็ได้โทรศัพท์แล้ว
แต่เด็กบอกว่า นี่มันแค่ธรรมดา ถ้าจะเอาดีๆ ก็เป็นหมื่น
เพื่อนบางคนเปลี่ยนโทรศัพท์เป็นว่าเล่น และบริษัทก็แข่งกันโปรโมชั่นใหญ่เลย
เลยถามว่า แล้วจะโทรอะไรกันหรือทั้งวันเลยหรือ เขาก็บอกว่าก็มันสะดวก โทรง่ายและถูกก็เลยโทรกันใหญ่
ที่กำลังตกใจอีกอย่างคือ รู้สึกว่าเวลาคุยอะไรๆ นี่ หัวข้อการคุยจะเป็นเรื่องการซื้อของ
และสิ่งของต่างๆ ราคาเท่าไรๆ ว่าถูกนะ ว่าแพงนะ แต่ว่าซื้ออะไรทำนองนี้
เพื่อนโทรมาคุย (หลังจากโทรไปบอกว่ามีเบอร์แล้ว) ก็บอกใหญ่ว่านี่ เธอชอปเพลินแน่ เพราะอะไรก็ถูก
ยิ่งถูกใหญ่ถ้าเธอเอาเงินยูโรแลกออกมา เลยตอบว่า ไม่ใช่นะ ฉันคิดว่ามันแพงนะ
ฉันพบว่าเมืองไทยของแพงขึ้นนะ และฉันก็ไม่เทียบเงินแลกด้วยนะ
ฉันเทียบจากเงินเดือนขั้นต่ำของคนไทยเอง กับเงินที่คนไทยเองต้องจ่ายเพื่อกินอยู่ ฉันเห็นว่าแพงนะ
แต่เพื่อนดิฉันบอกว่า อย่าไปคิดอย่างนั้น เอาเงินมาใช้ให้สบายๆ เลยดีกว่า
มีอะไรให้ไปเที่ยว ห้างอะไรต่างๆ โรงหนัง ร้านฟังเพลง ฯลฯ
เดี๋ยวมากรี๊ดต่อ ทำงานก่อนค่ะ เดี๋ยวเขาไม่จ่ายตังค์
แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 49 17:49:41
จากคุณ :
พธูไทย 
- [
20 ก.ค. 49 15:14:31
]
@@@@@ กรี๊ดดดดดดดดดดดด อยู่เมืองไทยค่ะ @@@@@
