ความคิดเห็นที่ 1 Depend on where you and your husband will live. If you live in the US; it's better to do in the US. If you will live in thailand, then it should be done in Thailand. When you buy a property or do anything relating to property, you will always need husband's acknowledgement, signature (if you get married officially in thailand) Wait for others to clafify more ka จากคุณ : BFR - [ 17 ส.ค. 49 15:13:52 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตอบเท่าที่รู้นะคะ เพราะตัวเองก็จดทะเบียนสมรสที่ไทยเหมือนกันค่ะ แต่ตอนนี้อาศัยอยู่ที่เบลเยี่ยมค่ะ ข้อ 1 ตอบ ไม่เสียสิทธิใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะเรื่องการซื้อที่ ซื้อบ้าน เพราะคุณจดทะเบียนสมรสนี่คะ ไม่ได้ขอยกเลิกสัญชาติไทยซะหน่อย ฉนั้น สิทธิความเป็นคนไทยก็ยังอยู่ครบเหมือนเดิมทุกประการค่ะ  แต่อาจจะยุ่งยากนิดอย่างที่คุณ คคห 1 ว่าแหละค่ะว่า ถ้าคุณต้องการซื้อ ขาย หรือทำธุรกรรมใด ๆ เกี่ยวกับ อหังสาริมทรัพย์ คุณต้องให้สามีเข้ามาเซ็นรับรู้ด้วยทุกครั้ง แต่ก็ถ้าเป็นสามี ภรรยากัน ถ้าซื้อบ้าน ก้คงซื้อเพื่ออยู่ด้วยกัน หรือซื้อเพื่อให้ครอบครัวเรา อันนี้ สามีก็มีสิทธิที่จะรับรู้ได้ด้วยอยู่แล้วนะคะ ก็ไม่เห็นว่าจะเป็นปัญหาเรื่องลายเซ็นต์สามี ข้อ 2 ไม่ทราบจริง ๆ ค่ะว่า อันไหนจะดีกว่ากัน เพราะส่วนตัวไม่เห็นความแตกต่างอะไรมาก เพราะเราก็ไม่ได้เสียสิทธิใด ๆ เลย แต่เราจะเสียคำนำหน้าชื่อ จากนางสาว เป็นนางทันที แต่ถ้าแต่งที่ประเทศสามีคุณ และไม่ได้แจ้งกับทางไทย คุณก็จะเป็นนางสาวตลอดกาล ณ ประเทศไทยค่ะ อิอิ แต่อาจจะยุ่งยากกับการทำวีซ่า (หรือเปล่า) เพราะถ้าแต่งที่ไทย วีซ่าก็จะเป็นวีซ่าติดตามสามี น่าจะง่ายกว่าวีซ่าอื่นนะคะ และอีกอย่างคือ ถ้าคุณแต่งที่ไทย และไปอยู่ต่างแดน ถ้าต้องมีการเลิก หรือหย่า คุณต้องมาทำเรื่องหย่าที่ไทยด้วยค่ะ คือยกตัวอย่าง แต่งแล้วไปอยู่เมกา เอกสารก็ส่งให้ทางเมกา ว่าคุณทั้งคู่ เป็นสามี ภรรยากัน ถ้าจะเลิกกัน ก็ต้องทำการหย่า ทั้งสองที่ คือทั้งทาง เมกา และ ไทย ค่ะ ดิฉันว่า แต่งที่ไหนก็ค่าเท่ากัน ขอเพียงรักกัน และอยู่ด้วยกันยืดยาว ไม่ท้าวยอดทอง กระบองยอดเพชรนะคะ โชคดีค่ะ จากคุณ : แม่นาง...น้ำดอกไม้ (manlika) - [ 17 ส.ค. 49 16:52:22 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณมากๆ ทุกคนนะค่ะ คิดว่าถ้าแต่งงานแล้ว กิ๊บจะอยู่ไทยคะ เพราะเนื่องจากหน้าที่ การงาน จากคุณ : กิ๊บ - [ 17 ส.ค. 49 17:37:53 A:124.121.91.230 X: TicketID:123963 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มาช่วยเสริมนะคะ หากซื้อบ้านและที่ดิน สามีจะต้องมาเซ็นต์ชื่อต่อหน้าเจ้าหน้าที่ว่าเป็นสินส่วนตัวของคุณ ไม่ใช่สินสมรสค่ะ ชื่อผู้เป็นเจ้าของบ้านคือชื่อของคุณคนเดียวค่ะ ดังนั้นจะต้องคุยกับสามีก่อนให้เข้าใจนะคะ คุยกันก่อนแต่งงานก็ยิ่งดี เค้าจะได้ทราบว่าเค้าไม่มีสิทธ์ซื้อบ้านและที่ดิน ถ้าแต่งงานไปแล้วเผื่อเค้าไม่เข้าใจ เดี๋ยวจะมีปัญหาในภายหลังค่ะ (ตามกฎหมายจะมีข้อยกเว้นว่าเค้าสามารถซื้อคอนโดได้ค่ะ) จากคุณ : หมูหวาน - [ 18 ส.ค. 49 02:14:25 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แต่งงานมาสามปีแล้วค่ะ แต่เรายังไม่จด เพราะเห็นว่ายังไม่ได้ประโยชน์อะไร หรือมีความจำเป็นใดในการจดทะเบียน เพราะอยู่ในเมืองไทยด้วยกันทั้งคู่  และคิดว่าไม่จดทะเบียนทำนิติกรรมสะดวกกว่าเยอะ สามีเข้าใจดีว่าเค้าไม่มีสิทธิ์ซื้อบ้านและที่ดิน และยินดีให้ใช้ชื่อเราทั้งหมด เท่าที่เห็นเพื่อนที่แต่งกับคนไทยส่วนมากก็ไม่จดทะเบียนเหมือนกัน การจดทะเบียนอาจเป็นข้อดีสำหรับคนต้องติดตามสามีไปอยู่ต่างประเทศ หากมีอุปสรรคในการขอวีซ่า  ซึ่งมันก็แล้วแต่ละบุคคล แต่ก็เห็นหลายคนใช้ นส.อยู่ที่เมืองไทย แต่ไปจดที่ต่างประเทศก็เยอะ   ซึ่งเราว่าดีกว่าแบบแรก เคยอ่านเจอบางคนที่มีปัญหาแล้วไปด้วยกันไม่ได้ แล้วหย่าที่โน่น  แต่กว่าจะขอร้องสามีให้กลับมาทำเรื่องหย่าที่เมืองไทยได้แทบแย่ หรือบางรายสามีไม่ยอมกลับมาหย่าให้ ต้องไปขึ้นโรงขึ้นศาลเพื่อทำเรื่องหย่าแต่ฝ่ายเดียว คิดดูแล้วยุ่งยากวุ่นวายกว่าตอนจดซะอีก แต่มีอีกแบบที่สาวไทยทิ้งฝรั่งก็มี  แต่งที่บ้านเค้า แล้วหนีกลับเมืองไทย ไม่กลับไปหย่าให้เค้า กลับมาก็เป็น นส.เหมือนเดิมทุกประการ  กรณีนี้เพื่อนสามีดิฉันเอง โดนสาวไทยทิ้ง ป่านนี้ยังตามหาตัวเธอไม่เจอ สรุปแล้ว ทบทวนถึงความเหมาะสม ความจำเป็นของตัวเราและตัวเค้า  ว่าควรหรือไม่ควร  มันก็แค่กระดาษใบเดียวที่ทำให้คนทั้งสุข หรือทุกข์แตกต่างกันไป  อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับบุญธรรมกรรมแต่ง ที่เล่ามาอย่าคิดมากเลยนะคะ แค่เล่าสู่กันฟัง จากคุณ : Sparkle - [ 18 ส.ค. 49 17:17:28 ]