ขอความนี้เป็นเรื่องเล่าจากเพื่อนคนหนื่ง ( นิรนาม )
" ก่อนอื่นต้องขอออกตัวไว้ก่อนเลยนะครับ ผมรักครอบครัวผม และไม่ได้ต้องการประจานคนในครอบครัวและไม่ได้ต้องการให้ใครมาสงสาร เพียงแต่อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับทุกๆท่าน
ปัจจุบันครอบครัวผมมีด้วยกันอยู่ 5 คน แม่ผมอายุ 60 พี่ชายผมอายุ 34 พี่สาวผมอายุ 33 ส่วนตัวผม 27 และแฟนผม24 ปี เดิมทีเราอยู่กัน 3 คน มีผม แม่ และแฟนผม เพราะพี่ๆผมทำงานอยู่ที่กทม.กันหมด แต่พี่สาวผมจะกลับบ้านทุกเสาร์
อาทิตย์ ส่วนพี่ชายผมไม่ค่อยกลับบ้าน อ้อพ่อผมเสียไปได้ 7 ถึง 8 ปี แล้ว มาว่าถึงเรื่องของพี่ชายผมเลยดีกว่า พี่ชายผมจบจากมหาลัยมีชื่อแถวรังสิต คณะเภสัช ย้ำนะครับเภสัช ทำงานได้เงินเดือน เดือนละ 40000 บาท ไม่ขอบอกนะครับว่าที่ใหน ปัจจุบันไม่มีรายได้ เดี๋ยวผมจะบอกว่าทำไม ตั้งแต่เรียนจบมาพี่ผมไม่เคยส่งเสียพ่อแม่ จะส่งก็น้อยมากถ้าเทียบกับที่พ่อแม่ส่งมันเรียน ล่าสุดหายไป 2 ปี ไม่ติดต่อทางบ้านเลย จนเมื่อกลางเดือนที่แล้วเพื่อนมันมารับแม่ผมไปดูมันที่โรงพยาบาล พี่ผมเป็น HIV ครับ อ้อลืมบอกไป พี่ผมเป็นเกย์ครับ
สุดท้ายทุกวันนี้กลับมาอยู่ที่บ้าน เชื่อผมเถอะครับไม่มีใครรักคุณเท่ากับครอบครัวของคุณหรอกครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นยังไง คุณก็คือคนในครอบครัว คุณก็คือลูกของแม่ที่เลี้ยงดูคุณมา สำนึกเถอะครับ ไม่ว่าเค้าจะต้องเลี้ยงคุณไปจนวันตายของคุณ เค้าก็ต้องทำ เพราะคุณคือลูกของเค้า ปัจจุบันแม่ผมไม่มีรายได้นะครับ ได้เงินจากที่ผมและพี่สาวให้ทุกเดือนเท่านั้น
ผมสงสารแม่ผมมากครับ เชื่อมั๊ยแม่ผมไม่ร้องให้เลยแม้แต่น้อย กลับดีใจด้วยซ้ำที่พี่ชายผมกลับมาอยู่บ้าน แต่ในใจลึกๆผมรู้ว่าแม่เสียใจมากเพราะเวลาของพี่ผมเหลือน้อยลงไปทุกที ทุกวันนี้ผมพยายามทำทุกอย่างให้พี่ผมอยู่ได้นานที่สุดเพื่อแม่ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ผมไม่ค่อยถูกกับพี่ผมด้วยซ้ำ ผมไม่ชอบมัน เพราะมันไม่ดูแลพ่อแม่เอาแต่ความสุขของตัว ส่วนพี่ผมก็ไม่ชอบผมเพราะผมเป็นลูกเมียน้อยของพ่อ
แม่ของพี่ชายผมที่ผมดูแลอยู่ทุกวันนี้เป็นแม่เลี้ยงของผมนะครับ แต่ท่านก็เลี้ยงผมมาตั้งแต่ 7 ขวบ ตั้งแต่พ่อกับแม่แท้ๆของผมเลิกกัน ผมรักท่านมากท่านไม่เคยคิดว่าผมเป็นลูกของเมียน้อยของสามีท่านเลย กลับรักผมเหมือนลูกแท้ๆของท่าน ทำให้ผมไม่เคยทิ้งท่าน และรักครอบครัวของผมมาก พวกคุณลองคิดดูนะครับ
การศึกษาบางครังก็ไม่ทำให้จิตใจของคนดีขึ้นได้ และโรคร้ายก็ไม่ปรานีคนที่ประมาท ใช้ชีวิตอย่างไม่ระมัตระวัง จบถึงเภสัชยังเป็นเอดส์ได้ เพราะความที่ชอบเที่ยว และสุดท้ายนะครับคนที่รักคุณที่สุดก็ไม่พ้นครอบครัวของคุณเอง
ทุกวันนี้ผมอโหสิกรรมทุกๆอย่างให้พี่ผมแล้ว และสุดท้ายนี้ผมอยากให้เรื่องของครอบครัวผมเป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกๆคนที่เข้ามาอ่านนะครับ ว่าโรคร้ายไม่ปรานีคนที่ประมาทนะครับ และถ้าคุณยังมีโอกาสนะครับพยายามทำในสิ่งที่ดีให้กับครอบครัวของคุณมากๆ รักครอบครัวของคุณให้มากๆ ก่อนที่จะหมดโอกาสนะครับ ขอบคุณทุกคนนะครับที่อดทนอ่านเรื่องของผม และหวังว่าคงจะเตือนใจใครๆได้บ้างนะครับถ้าท่านยังหลงผิดอยู่ ":
แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 49 11:47:48
จากคุณ :
xingto16
- [
3 ก.ย. 49 11:44:53
]