ความคิดเห็นที่ 2 เอกสารควรจะแปลไป แต่เอกสารน่ะ หอบไปกับตัว ระวังนะคะ เจอค้นขึ้นมา เค้าเจอเอกสารที่คุณจะหอบมาแต่งงาน คุณโดนเด้งกลับทันทีค่ะ จากคุณ : Lilac Girl - [ 9 ก.ย. 49 21:13:09 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ส่งเอกสารไปให้แฟนที่โน่นก่อนดีมั้ย กันไว้เผื่อเหตุการณ์เช่นคุณ Lilac Girl กล่าวไว้เกิดขึ้นจริง ทั้งๆที่ แต่งงานก็เรื่องของเราเนาะ แหม๋ๆๆๆ ทำไม ต้องกีดกัน กัน น้อๆๆๆๆ อิอิ   เอาเป็นว่า เอกสารที่ใช้น่าจะมี  บัตรประจำตัว  ใบเกิด  ทะเบียนบ้าน  ใบตรวจสุขภาพ  ใบรับรองจากสถานีตำรวจ (ไม่รู้เค้าเรียกว่าอะไร) คร่าวๆ น่าจะมีเช่นนี้นะคะ  แต่ไม่แน่ใจ  รอท่านอื่นมาเพิ่มเติมค่ะ ..... แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องมีการแปล และส่งไปรับรองจากกระทรวงด้วยนะคะ ..... โชคดีค่ะ จากคุณ : TG Forever - [ 9 ก.ย. 49 22:13:03 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณค่ะ คุณ Lilac Girl และคุณ TG Forever คงต้องเตรียมเอกสารและแปลไว้ แล้วค่อยให้ญาติส่งตามไปให้ทีหลัง ขอบคุณอีกครั้งค่ะ หากเพื่อนๆ ท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมช่วยแนะนำด้วยค่ะ จากคุณ : จขกท - [ 10 ก.ย. 49 08:52:58 A:58.8.118.134 X: ]

ความคิดเห็นที่ 6 เท่าที่ทราบ รู้สึกว่า พอไปจดทะเบียนที่นั่น ต้องเสียค่าปรับด้วยนะคะ แต่จำไม่ได้ว่ากี่ร้อยเหรียญ (ในกรณีที่คุณรอดพ้นด่านตรวจคนเข้าเมือง) เพราะเค้าถือว่าคุณเข้ามาในสถานะที่ผิด  นอกจากนั้นก็ไม่มีปัญหาค่ะ  แต่แนะนำว่า ให้ปรึกษาทนายด้วยนะคะ ว่าจะต้องมีขั้นตอนอะไรบ้าง หลังจากจดทะเบียนแล้ว  ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก แต่เยอะค่ะ จากคุณ : Omelet_Kai-Warn - [ 11 ก.ย. 49 00:05:56 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ปรึกษาทนายเป็นอันดับแรกครับ แล้วสิ่งที่คุณอยากรู้ก็จะได้รู้ทั้งหมด ค่าทนาย เคยทราบมาว่าประมาณ 1500$ นะครับ ตัวเลขนี้ไม่แน่ใจ ยังไงรอคนที่รู้มาตอบอีกที โชคดีครับ แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 49 10:39:45 จากคุณ : rider_ryuki (rider_ryuki) - [ 11 ก.ย. 49 10:39:14 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ค่าทนายแพงเหมือนกันเนอะ ถ้าจำเป็นก็ต้องใช้ ไม่แน่ใจว่าถ้าเราศึกษาข้อมูลต่างๆ และปรึกษาทนายเพียงเบื้องต้นเพื่อขอข้อมูลและคำแนะนำ ไม่แน่ใจว่าจะได้หรือป่าว จากคุณ : จขกท - [ 11 ก.ย. 49 20:45:07 A:58.8.127.178 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 ที่อเมริกา แค่โทรไปปรึกษาก็โดนเก็บตังค์แล้วค่ะ  ถ้าเกี่ยวกับกฎหมาย  ไม่มีอะไรฟรีค่ะ คุณไปแบบนี้ก็เสี่ยงพอสมควรอยู่แล้ว กับการที่คุณจะเปลี่ยนสถานะจากพลเมืองชั้นสาม เป็นพลเมืองชั้นสอง คุณยังกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายอยู่เหรอ อยู่ที่นั่นถ้าคุณโดน Black List ทุกอย่างก็จบ ไม่ได้อยากจะขู่ แต่เมื่อคุณพายเรือไปเกือบจะถึงฝั่งแล้ว ทำไมอยู่ดีๆก็จะกระโดดข้ามฝั่งล่ะคะ ส่วนค่าทนาย ขึ้นอยู่กับแต่ละคนค่ะ คุณอาจให้แฟนคุณหาข้อมูลก่อนก็ได้ เค้าควรที่จะสามารถหาคนแนะนำทนายดีๆได้  ทนายบางคนคิดเป็นครั้งๆที่มาปรึกษา ทนายบางคนคิดเป็น project เลย คือจัดการให้จนกว่าจะเสร็จ ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับคุณแล้วล่ะคะ ว่าจะเลือกแบบไหน ทนายบางคน แค่คุณอีเมล์ไปถามคำถาม ก็โดนเก็บตังค์แล้วล่ะ ค่าเสียเวลาของเค้า จากคุณ : Omelet_Kai-Warn - [ 11 ก.ย. 49 22:51:40 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณมากค่ะคุณ Omelet_Kai-Warn บางครั้งทุกคนก็มีเหตุผลส่วนตัวที่ต้องทำแบบนี้น่ะค่ะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำอีกครั้งค่ะ จากคุณ : จขกท - [ 13 ก.ย. 49 20:03:26 A:58.8.118.198 X: ]