ความคิดเห็นที่ 1 เหอๆ ของผมนี่กำลังอยู่ในช่วงกำหนด Scope ของ PhD Project เลย.. ที่อยู่ในใจตอนนี้คือจะใช้กฎหมายและเคสของที่นี่ล้วนๆ ไม่ยุ่งกับเมืองไทยเลย สาเหตุก็ไม่ใช่เพราะอยากจะ go inter อะไรหรอกนะ.. แต่ข้อมูลที่ผมต้องใช้เอามาทำวิจัยนี่ ในอังกฤษถือเป็นข้อมูลเปิดเผย ใครๆ ก็ขอดูได้ แต่ข้อมูลแบบเดียวกันนี้ที่เมืองไทย ถ้าพ่อไม่ได้เป็นรัฐมนตรี หรือนามสกุล xxx ก็ไม่มีทางที่จะเอาออกมาได้ แทนที่ทำเรื่องเมืองไทยจะง่าย กลับจะยากกว่าหลายเท่า... ก็เลยทำเรื่องอังกฤษเพียวๆ นี่แหละ.. สะดวกกว่ากันเยอะ ความหวังของ Project นี้เหรอ... อืม.. เอาให้จบกลับบ้านได้เร็วที่สุดเป็นพอ.. อยากกลับไปทำงานเป็นเรื่องเป็นราว เป็นชิ้นเป็นอัน มากกว่ามานั่งวิจัย คิดเองเออเองไปวันๆ แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 49 10:35:10 จากคุณ : Lawเก้อ - [ 16 ก.ย. 49 10:32:57 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่ได้ทำเรื่องเมืองไทยเหมือนกันครับ เพราะไม่ค่อยมีความสามารถในการบริหารจัดการ data เท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นของประเทศไหน แต่พอมาทำงานแล้วก็วนเวียนกับ data ต่าง ๆ อยู่ดี ความคาดหวังเหรอครับ ก็คิดว่าถ้าได้ publish ก็คงดี แต่ไม่ได้คิดว่าจะได้ publish ใน Journal ระดับ top อยู่แล้ว แหะ ๆ ผมคิดว่าผมเองเป็นคนระดับธรรมดาน่ะครับ Journal ระดับ top คงจะหวังยากหน่อย  ตอนนี้ก็กำลังพยายามแก้ paper หนึ่งของ thesis อยู่เพื่อจะส่ง publish ครับ ตอนนี้กลายเป็นว่าอยากทำเรื่องอื่น ๆ ที่ไม่ค่อยเกี่ยวกับ thesis ตัวเอง อยาก move on ไปเรื่องใหม่ ๆ ที่ยังไม่รู้น่ะครับ แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 49 10:49:00 จากคุณ : Tony Almeida - [ 16 ก.ย. 49 10:47:42 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอแอบคุยด้วยคนได้ไหมคะ ไม่ได้ทำ thesis เกี่ยวกับเมืองไทยค่ะ ตอนนั้นสนใจเรื่องซื้อของออนไลด์ใน ebay มากไปหน่อย ก็เลยศึกษา WTO (GATS, GATT) ว่าตกลง ซื้อของออนไลด์ มันเป็น goods หรือเป็น services แล้วมันต้องตกอยู่ใน GATS หรือ GATTแล้วทำไมเสีย tax ไม่เหมือนกัน ทำตอนที่เขาประชุมโดฮาราวที่การ์ต้าพอดี ไม่ได้หวังว่าจะได้ลง journal อะไร เพราะตัวเองไม่ได้เก่งขนาดนั้น แค่อาจารย์ที่ปรึกษาได้ไปใช้อ้างอิงในงานเขาก็โอเคแล้วน่ะค่ะ ตอบคำถามคุณ BF ถ้าไม่ทำเกี่ยวกับเมืองไทย ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะคะ ดีกว่าที่ทำเรื่องที่อาจจะส่งผลกระทบในทางที่ไม่ดีต่อประเทศไทย แล้วอาจจะโดนลูกหลงโทษฐานพูดความจริง แบบห้องมาบุญครองตอนนี้ก็ได้ ^__________^ จากคุณ : PoUpeE - [ 16 ก.ย. 49 10:56:05 ]

ความคิดเห็นที่ 4 #k.Lawเก้อ, true krub. #khun T.A. can you tell the title of your thesis? ( or it's too public?)- maybe just what your thesis is about. Just curious. #khun Poupee.. what is it about in MBK room (never click there). Is it this one http://www.pantip.com/cafe/mbk/topic/T4707909/T4707909.html ? I have to read from the start ..thanks แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 49 11:04:36 จากคุณ : B.F.Pinkerton - [ 16 ก.ย. 49 10:59:15 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ทำสามเรื่องครับ หนึ่ง ทำไมคนถึงเป็นชู้ (An economic theory of adultery) สอง จะเสียตัวเมื่อไหร่ดี (My first time: An optimal stopping problem) เรื่องที่สามเป็น math เกี่ยวกับ multivariate Gumbel distribution จากคุณ : นาธ - [ 16 ก.ย. 49 11:11:44 A:24.211.130.49 X: TicketID:066295 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่ได้อยากจะลงพิมพ์อะไรครับ อยากจะรีบจบ กลับเมืองไทย หาแฟนเร็วๆ อิอิ จากคุณ : นาธ - [ 16 ก.ย. 49 11:34:46 A:24.211.130.49 X: TicketID:066295 ]

ความคิดเห็นที่ 7 #5 really? I think you are not kidding right? Wanna read it when it's done:). Is it the Becker style? I believe your work will be fastinating. --- By saying Journal, I don't mean it must be a prestigious journal. My goal is to get it published in any peer-reviewed journal (maybe about public policy,education or anything that is not too hard - nothing like JPE, QJE etc anyway it's better to aim high that when you fail, you're still in a good position, better than set the goal too low, it's a rule of thumb for success). แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 49 11:57:44 จากคุณ : B.F.Pinkerton - [ 16 ก.ย. 49 11:52:39 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มารออ่านเหมือนกันครับ น่าสนใจ โดยเฉพาะสาย ฮูแมนนิตี้ กับโซเชียว ซายอึ่น อิอิ จากคุณ : เมื่อลมแรง...ใบไม้ก็ร่วง - [ 16 ก.ย. 49 12:19:40 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ^ ^ ยังไม่มีโอกาสได้เรียนต่อกะเค้า แต่ก็อยากเมาท์หัวข้อที่สนใจครับ "Impact of Using Brand Name Merchandises in GLBT Group" M.A. in Cultural and Social Anthropology - Ph.D. in Women, Gender & Sexuality (DEWGS) จากคุณ : Sales Specialist - [ 16 ก.ย. 49 12:51:02 A:70.132.24.138 X: TicketID:115477 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เรียนทาง International Business ทำหัวข้อ Human Resource Management (ของ Korea & Japan) ค่ะ ไม่ได้คาดหวังอะไร ให้จบก็พอ แต่คะแนนได้ top 5 เฉยเลย...555 ขอโม้หน่อย ปล. ขอให้น้องๆ ที่ยังเรียนอยู่ จบไวๆ เลิศๆ นะจ๊ะ จากคุณ : ซอด้วง - [ 16 ก.ย. 49 17:27:04 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ยังไม่มีโอกาสเรียนครับ แต่มีแนววิทยานิพนธ์ที่แปลกแยกจากชาวบ้านอยู่ในหัวแล้ว อาจไม่ popular แต่ผมสนใจเรื่องนี้จริงๆครับ เรื่อง แนวคิดฝ่ายซ้ายของ Marx และการนำมาใช้ในรูปแบบของ Welfare State : ความเป็นไปได้ในการนำมาใช้กับประเทศไทย ครับผม จากคุณ : Aristotle - [ 16 ก.ย. 49 18:48:05 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่ทำเกี่ยวกับไทยก็ไม่น่าจะผิดนะครับ สำหรับความคาดหวัง ผมว่าทุ่มทุนทุ่มเวลาตั้งหลาย ยังไงก็คงคาดหวังละครับว่าต้อง publish ลง Journal ดีๆ แต่จะได้หรือป่าวอันนั้นคงต้องรออีกทีนึง :-) จากคุณ : หนุ่ยนะครับ - [ 16 ก.ย. 49 20:21:15 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอให้โชคดีสมปรารถนากันทุกท่านนะครับ จากคุณ : B.F.Pinkerton - [ 17 ก.ย. 49 02:11:53 ]

ความคิดเห็นที่ 14 บางทีอยู่เมืองนอก ถ้าจะทำ topic ที่เป็นไทยมากๆ ก็จะหา source ลำบากอะครับ โดยเฉพาะ online source ของประเทศไทยยังไม่ค่อยแพร่หลายนัก ยิ่งถ้าเป็นข้อมูลเชิงลึกมากๆ ก็ไม่ค่อยลง online กัน จากคุณ : praphrut608 - [ 17 ก.ย. 49 07:34:01 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ใช่แล้วท่านพี่ผิงเขอ กระบวนท่าของผู้น้องผสานขึ้นจากคัมภีร์ของผู้ได้ประกาศิตไร้ระฆังทั้งสาม อันได้แก่ ท่านปรมาจารย์การีแห่งสำนักเมืองชิ อัจฉริยะผู้วิกลจริตแห่งแคว้นเสื้อใหม่ และท่านผู้เฒ่าออมันแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ จากคุณ : นาธ - [ 17 ก.ย. 49 09:43:25 A:24.211.130.49 X: TicketID:066295 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ทำเรื่องในนี้แหละ ไม่ลำบากหาข้อมูล แรกๆ ก็หวังว่าจะโด่งดังจากงานวิจัยตัวเอง (หุหุ) แต่ทุกวันนี้นั่งนับวันจบเลย ขอจบเป็นพอ... จากคุณ : teddy (littleteddy) - [ 17 ก.ย. 49 10:51:14 ]

ความคิดเห็นที่ 17 FYI, to translate from #15 ผู้ได้ประกาศิตไร้ระฆัง (No bell) = Nobel laureates ท่านปรมาจารย์การีแห่งสำนักเมืองชิ = Gary S. Becker of (the University of) Chicago อัจฉริยะผู้วิกลจริตแห่งแคว้นเสื้อใหม่ = John F. Nash of (Princeton) , New Jersey ท่านผู้เฒ่าออมันแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ = Robert J.Aumann, (Hebrew University) of Jerusalem --- Your work is interesting, I look forward to reading it, good luck :) แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 49 22:12:11 แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 49 11:55:48 แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 49 11:55:21 จากคุณ : B.F.Pinkerton - [ 17 ก.ย. 49 11:42:19 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ผมทำหัวข้อก็มีเมืองไทยร่วมอยู่ด้วย ASEAN Security Cooperation on counterterrorism after 11 september 2001 จากคุณ : zizi lazy - [ 17 ก.ย. 49 14:36:06 ]

ความคิดเห็นที่ 19 #11 หัวข้อก็ไม่ได้แปลกแยกจากชาวบ้านนะครับ จารย์เอนก (เหล่าธรรมทัศน์) แกเย้วๆเรื่องรัฐสวัสดิการก้าวหน้าของแกมาหลายปี จนจะกลายเป็นแผ่นเสียงตกร่องอยู่แล้ว ที่งงนิดหน่อยคือจะเอาทฤษฎีมาร์กซ์มารวมกับทฤษฎีรัฐสวัสดิการยังไง ในเมื่อมาร์กซ์คิดว่ารัฐสวัสดิการเป็นแนวคิดล้าหลัง เป็นความพยายามของชนชั้นเจ้าสมบัติ (bourgeoisie) ที่จะให้สินบนชนชั้นแรงงาน เพื่อให้ไม่เกิดการอภิวัฒน์สังคมนิยมขึ้น ส่วนตัวยังไม่มีหัวข้อวิทยานิพนธ์ครับ ที่สนใจก็มีเรื่อง เศรษฐกิจผิดกฎหมายในเมืองไทย (ออกแนว หวย ซ่อง บ่อน ยาบ้า ของจารย์ผาสุก et al - หาข้อมูลไม่ได้แหงๆ ไม่งั้นก็โดนตำรวจยิงตายก่อนเขียนจบ ออกแนวห้องมาบุญครองอย่างที่คุณปูเป้บอก) corporate governance and corporate responsibility in Thailand - สถานการณ์ตอนนี้ และ ขั้นตอนต่อไปของการพัฒนา, effectiveness ของการใช้กฎหมายกับแรงกดดันจากประชาสังคม international policy network and economic policy-making process in Thailand - อยากดูสองด้าน คือเครือข่ายของข้าราชการที่มักจะรู้จักเจ้าหน้าที่ WB / IMF เป็นการส่วนตัวจากสมัยเรียนนอกหรือตอนประชุม กับ เครือข่ายนักธุรกิจไทยเชื้อสายจีน กับนักธุรกิจเชื้อสายจีน ในฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน ฯลฯ (ทำยากมากกกกกกก - qualitative data ล้วนๆ) อีกด้านนึงที่คล้ายๆกับข้างบนคือ สนใจด้านผลกระทบของนักเรียนนอกและอิทธิพลแนวคิดแบบตะวันตกกับการปฏิรูปการเมืองไทยในยุครัชกาลที่ 5-7 (แหวกแนวจากสาขาที่เรียนอย่างแรง และ ที่ที่เรียนอยู่ปัจจุบันไม่มีซุปแหงๆ) FTA จากมุมมอง international relations - ผลกระทบของความล้มเหลวของการเจรจาการค้าพหุพาคีและอำนาจต่อรองของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา รวมเรื่อง regional integration (EU, Asean, บรรดาผู้เกลียดอเมริกา ฯลฯ) ด้วย ------------------------------------------- เรื่องไม่ทำวิทยานิพนธ์เรื่องเมืองไทยผมว่าไม่ผิด แต่นักเรียนนอกไม่ว่าจะทุนหลวง ทุนส่วนตัว (โดยเฉพาะพวกที่มาตั้งแต่เด็กๆ) ควรอ่านเรื่องเมืองไทยเยอะๆ อย่ากลับไปเมืองไทยแล้วรู้เรื่องแต่เรื่องประเทศอื่น จะพาประเทศไทยเจ๊งได้ง่ายๆ ---------------------------------------- ส่วนความคาดหวังไม่มีฮะ ไม่หวังลง journal แต่อยากให้เป็นประโยชน์อะไรซักอย่าง เช่น มีคนเอาไปทำวิจัยต่อยอด หรือ จารย์เอาไปใช้ในโปรเจ็คที่ตัวเองทำอยู่ อะไรเทือกนั้น จากคุณ : อนุมูลอิสระ - [ 17 ก.ย. 49 15:27:51 ]

ความคิดเห็นที่ 20 โหห พี่นาธกับพี่ B.F. ล้ำลึกยิ่งนัก ตอนแรกผมอ่านก็นึกว่าพี่นาธพูดเป๊กๆ - -* ที่แท้แฝงไว้ด้วยข้อความอันแยบยล จากคุณ : เมื่อลมแรง...ใบไม้ก็ร่วง - [ 18 ก.ย. 49 00:38:23 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอมีส่วนร่วมด้วยตอบคำถามด้วย เคยคิดจะทำ thesis เกี่ยวกับสถาบันการเงินของเมืองไทย แต่คิดไปคิดมา ไม่ทำดีกว่า เพราะรวบรวมข้อมูลได้ยาก ข้อมูลที่สามารถหาจากทาง internet ยังมีน้อย ต้องไปที่ xerox เองที่ห้องสมุดตลาดหลักทรัพย์ ต้องสมัครสมาชิก ต้องเสียเงิน ปัญหาเยอะแยะมากมาย เข้าใจเลยว่าทำไมเพื่อนๆที่เรียนปริญญาโทเมืองไทยแบบทำ thesis ถึงจบกันช้าแล้วก็บ่นนักบ่นหนาว่าหาข้อมูลไม่ได้ พอดีว่าค่อนข้างโชคดี ในประเทศที่เรียนอยู่ บริษัทต่างๆค่อนข้างเปิดกว้างในนักศึกษาเข้าไปทำ thesis ได้ มีอยู่หัวข้อนึงน่าสนใจเป็นงานทางด้านวิจัยตลาด ถึงแม้จะขัดกับหัวข้อทาง finance ที่ตั้งใจไว้แต่แรก แต่ก็คิดว่าเอาประสบการณ์การทำงานกับบริษัทต่างชาติไว้ก่อนดีกว่า ทำเรื่องไหน ก็จบได้เหมือนๆกัน...ก็เลยลองสมัครไปที่บริษัท และสัมภาษณ์ผ่าน เลยได้ทำ ได้เงินด้วย(ข้อนี้สำคัญที่สุด ฮ่าๆ) ส่วนเรื่องตีพิมพ์ใน journal นั้นไม่เคยคิดเลยค่ะ ไกลเกินฝันมากๆ จากคุณ : Always On Vacation - [ 18 ก.ย. 49 17:13:44 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มาตอบคุณ B.F. ครับ Thesis ผมทำเป็น 3 papers ครับ (เป็นประเภทเบื่อง่ายครับ ทำเรื่องเดียวกันนาน ๆ ไม่ไหว) 1. Duopoly with financially constrained firms 2. Predation threat and debt contracts 3. In-house R&D: Property rights and financial constraints พอดีตอนนี้มีเหตุบังเอิญให้ไปเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจชุมชนเลยเริ่มสนใจเรื่องนี้ครับ จากคุณ : Tony Almeida - [ 18 ก.ย. 49 22:25:00 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คห.๑๙ ผลกระทบของนักเรียนนอกและอิทธิพลแนวคิดแบบตะวันตกกับการปฏิรูปการเมืองไทยในยุครัชกาลที่ 5-7 น่าจะลองอ่านงานของ รศ.ดร.กุลลดา เกษบุญชู มี๊ด ของรัฐศาสตร์จุฬา ดูนะครับ ท่านทำเรื่องประมาณนี้ ประมาณผลกระทบของการปฏิรูปสมัย ร.๕ ที่เกี่ยวกับการให้การศึกษามากขึ้น ต่อความมั่นคงของสถาบันกษัตริย์ ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง ๒๔๗๕ Mead, Kullada Kesboonchoo (2004) The rise and decline of Thai absolutism. London ; New York : RoutledgeCurzon. จากคุณ : ANU-boy - [ 19 ก.ย. 49 19:41:37 A:130.56.33.2 X: ]