ความคิดเห็นที่ 17
แหะๆ ต้องขอโทษที ไม่ได้มาอัพนาน ติดสอบ และรายงานสุมหัวคะ
เรื่องจัดกระเป๋า แนะนำให้เอาเสื้อผ้าธรรมดาๆ ไป เพราะช่วงเดือนที่ไป อากาศหนาวไม่นานคะ จะอุ่นๆ แล้วก็ร้อนซะมากกว่า เสื้อกันหนาวก็เอาที่หนาๆ ไปซักหนึ่งตัว แล้วก็แจ็คเก็ตซักสองสามตัว เสื้อยืดธรรมดาซักหกเจ็ดตัว กางเกงสามสี่ตัว ถ้าเน้นเอาเสื้อผ้าไปเยอะ ตอนขากลับกระเป๋าจะไม่พอใส่ของฝากนะคะ ^^ ส่วนพวกมาม่า อาหารกระป๋อง เครื่องปรุงก็อาจจะแชร์กับเพื่อนที่อยู่ด้วยกัน แบ่งกันเอาไป แต่อาหารที่นั่นก็อร่อยนะคะ ไม่ใช่ไม่อร่อย แต่กินนานๆ ไปอาจจะเลี่ยน ข้าวสวยก่าแกงเผ็ดๆ ร้อนๆ เนี่ยแก้โรคคิดถึงบ้านได้ดีเลย
อย่างที่เคยบอก กิจกรรมยอดฮิตของ GC คือ hiking เป็นการเดินลงไปตามไหล่เขาซึ่งเรียกว่า Trail ลงไปข้างล่าง เพื่อชมธรรมชาติและแคมปิ้ง ทางลงจะมีหลายทางคะ ก็แบ่งตามระดับของประสบการณ์ของคนที่เดินลงไป ทางที่ง่ายที่สุดและชันน้อยที่สุดก็คือ Brightangel Trail คะ เหมาะสำหรับ Beginner ขั้นแรกเขาจะเน้นให้ลงไปแค่ 1.5 ไมล์ ขึ้นก็ 1.5 ไมล์ รวมเป็นสามไมล์ ก็จะเห็นอาไรนิดหน่อย แต่ถ้าเริ่มขั้นโปรหน่อยก็ นี่เลย South Kaibab ชันมากๆๆๆๆๆ เดินลงได้ แต่ห้ามเดินขึ้นนะคะ ตอนที่เราไป เราไปกะฝรั่งที่ทำงานด้วยกัน ลง South Kaibab นี่แหละคะ (ครั้งแรกที่hike ด้วย แหะๆ ) ลงไปตอน หกโมงเช้า ลงไปพร้อมๆ กับที่พระอาทิตย์กำลังขึ้นพอดี สวยดีคะ ลมพัดเรื่อยๆ ก็พัดฝุ่นปลิวขึ้นมา แว่นกันแดดจำเป็นมากๆ กันแดด กันฝุ่น (ใครภูมิแพ้ฝุ่นม่ายแนะนำให้ลงนะ) ของที่ต้องพกลงไปด้วยคือ น้ำ (อย่างน้อย สามลิตร) ขนมเค็มๆ เช่นเลย์ มันฝรั่งทอด , ลูกอมหวานๆ เช่น weather original , power bar ( กินแล้วจามีแรง) , ครายกินกระทิงแดงก็พกลงไปก็ได้นะคะ มีขายเปนกระป๋อง จาได้มะแตก ไม่ต้องพกของปายเยอะมากมายนะคะ ไม่งั้นจะหนักเกินทำให้ไม่มีแรงเดิน เราก็เดินปายเรื่อยๆๆ จนถึงจุดพัก ก็พัก เติมน้ำ แล้วเดินต่อ แล้วก็มาขึ้นที่ Brightangel Trail รวมๆ แล้วก็ 16 ไมล์คะ (เกือบๆ 30กิโล) ขึ้นมาถึงก็ หกโมงเยนพอดี แบบว่า ตอนลง13 ไมล์ ใช้เวลาแค่ห้าชั่วโมงอะ แต่ตอนขึ้น สามไมล์ใช้เวลาห้าชั่วโมง - -" สภาพตอนขึ้นมาก็ เรียกได้ว่าเดี้ยงคะ นิ้วโป้งเท้าทั้งสองข้างตรงขอบเล็บอะคะ บวมเป่งเลย เพราะก่อนไปไฮค์เราไม่ได้ตัดเล็บเท้าให้สั้นก่อน ทำให้ตอนเดินเล็บมันจิกเข้าที่โคนเล็บ ปวดมากๆ สำคัญเลยนะคะ ตัดเล็บเท้าให้สั้นก่อนไฮค์ ส่วนขาทั้งสองข้างก็ปวดมากๆๆๆๆ โดยเฉพาะแถวสะโพกคะ สภาพโทรมสุดๆๆ รองเท้าและขากางเกงเตมไปด้วยฝุ่นดินทราย เดินกะเผลกๆ เลยแหละ แล้ววันนั้นเราก็กลับบ้านอาบน้ำ นอนตั้งแต่หนึ่งทุ่ม ตื่นมาอีกทีเก้าโมงเช้าของอีกวัน ตอนนอนทรมานมากคะ จะขยับตัวแต่ละทีนี่ ปวดไปหมด พอตอนลุกจากเตียงก็ปวดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มากๆๆๆ จะเดินไปไหนต้องให้เพื่อนพยุงไป หะหะ กะเผลกไปหลายวันเลยคะ ลางานไปสามสี่วัน พอขาหายปวดก็ยังมีปัญหาที่โคนเล็บมันบวมคะ ก็คิดว่ารอไปซักพักเดี๋ยวก็หาย เพราะคิดว่าช้ำเฉยๆ แต่มันไม่หายซักที ตัดเล็บก็ไม่ได้ เพราะกระเทือนมากๆ เลยต้องไปหาหมอ หมอใช้เลเซอร์เจาะตรงเล็บ ให้น้ำหนองออก เค้าบอกที่มันบวมเพราะมีหนองอยู่ข้างใน พอน้ำออกหมด หมอก็บอกว่า อีกซักสองสามอาทิตย์เล็บจะหลุดออกไปเอง ประมาณสองอาทิตย์ต่อมา เราก็เลยจัดการ ดึงเล็บออกเอง อิอิ พอดีจะตัดให้มันสั้นอะคะ ตัดไปตัดมา มันเข้าไปครึ่งนึงแล้ว เลยค่อยๆ เล็มออก แล้วก็หลุดหมดเลย - -" นิ้วโป้งเท้าทั้งสองข้างเลยนะคะ หลังจากนั้นก็มีปวดบ้าง จนต้องลางานครึ่งวัน เรียกได้ว่า เช็คงวดนั้นแทบไม่เหลือตังเลยคะ แต่ตอนดึงเล็บออกแผลเริ่มแห้งแล้วละคะ เลยไม่มีเลือดไหล เพื่อนเห็นแทบเป็นลมกันหมด อิอิ ตอนเราดึงก็แทบจะเป็นลมเหมือนกันคะ เฮ่อๆๆๆ จนถึงวันนี้ เล็บขึ้นแล้ว แต่ยังไม่เต็มเลย เหอๆๆ อาจจะปีหน้านู่นคะ ถึงจะขึ้นเต็ม มานค่อยๆ ขึ้นอ่า ก็ถือว่าเปนประสบการณ์ที่ดีมากๆ ถึงจาเจ้บตัวแล้วก็เสียรายได้ แต่ก็เรียกได้เต็มปากเลยคะว่า " คุ้ม " เพราะงั้น ทุกคนห้ามพลาดHiking เด็ดขาดนะคะ แต่ถ้าไม่อยากเจ็บตัวมาก การเตรียมตัวดีก็เป็นสิ่งสำคัญ วันนั้นเราเตรียมตัวไม่ดีเท่าไหร่ ก่อนวันไปไฮค์เข้าเมืองไปช็อบปิ้งมาคะ กลับมาก็สี่ทุ่ม กว่าจะจัดของ อาบน้ำ กว่าจะได้นอนก็ตีสองคะ คนที่ไปด้วยเค้านัดตีห้าครึ่ง ต้องตึ่นตี 4 มาเตรียมตัว และรอรถ ไปถึงจุดนัดเกือบไม่ทันแน่ะ แล้วก็เดินๆ ทั้งวัน จนผลออกมาเป็นอย่างที่เล่าให้ฟังคะ อิอิ ก่อนไปไฮค์ก็ต้องพักผ่อนให้เพียงพอนะคะ เตรียมของให้พร้อม น้ำ ขนม ยา ฯลฯ ที่สำคัญห้ามไปคนเดียวเด็ดขาด พอลงไปข้างล่างแล้วจะไปไหนมาไหน ให้ไปกับเพื่อนเป็นกลุ่มๆ หรือเป็นคู่ๆ เสมอๆ นะคะ เพราะจะเกิดอาไรขึ้นก็จะได้มีคนช่วยทัน หรือเรียกคนมาช่วยได้ เพราะเคยมีเหตุการณ์ไม่นานมานี้เองคะ เด็ก W&Tชาวยูเครน ลงไปไฮค์กับฝรั่งที่ทำงานที่เดียวกัน ลงไปถึงแม่น้ำเลยคะ (ข้างล่างจะมีแม่น้ำ โคโรลาโด้) แล้วเขานั่งกินข้าวกันริมแม่น้ำ ซักพัก เด็กคนนั้นบอกจะไปหาที่ทำธุระส่วนตัว แล้วก็หายไปทางพุ่มไม้ แล้วก็หายไปเลย จนคนที่ไปด้วยไปตามหา หาอยู่ 8 ชั่วโมงก็หาไม่เจอคะ จนต้องเรียก Ranger มาช่วยหา แต่ก็ไม่พบ สุดท้าย พบศพของเด็กคนนั้นสองวันต่อมา ลอยอยู่ในแม่น้ำคะ เขาก็คาดกันว่าคงไปปัสสวะ แถวแม่น้ำ แล้วลื่นตกลงไป จมน้ำตาย อันตรายมากๆ เพราะงั้นห้ามไปคนเดียวเด็ดขาดนะคะ
จากคุณ :
Chere
- [
3 ต.ค. 49 17:41:39
]
|
|
|