ความคิดเห็นที่ 1 ประนามก่อนเลย แต่ขอบคุณ คุณ susie ผมได้ความรู้จาก blog คุณมากๆ ท่าทางจะโกรธจัด ยังไม่นอนอีกเหรอครับ จากคุณ : yodying_jung - [ 30 ก.ย. 49 03:41:38 ]

ความคิดเห็นที่ 2 โหย คนเรา ไม่ดีเลยนะเนี่ย ผมได้ความรู้เรื่องวีซ่า 90% จากคุณซูซี่เลย เคารพสิทธิกันหน่อยสิน๊า จากคุณ : Tum@EuroClub - [ 30 ก.ย. 49 04:13:23 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เห็นด้วยค่ะ ถ้าคุณ Susie จะทำเช่นนั้น ตอนนี้ถึงจุดที่จะต้อง screen คนอ่านแล้ว...พี่ไม่เห็นด้วยนะคะกับการ "ลอกข้อความ" ของคนอื่นไปใช้แบบนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วควรจะมีการติดต่อขออนุญาตเจ้าของ blog ก่อน และเมื่อนำไปแล้วก็ควรที่จะให้เครดิตเจ้าของ blog เช่นกัน... ทีแรกพี่กำลังจะแปล "DV 2008 Instruction" ให้กับผู้สนใจ...พอคุณ Susie บอกเรื่องนี้มาพี่คงต้องเปลี่ยนความตั้งใจซะแล้ว... และขอประณามการกระทำเช่นที่ยกตัวอย่างมากับ link ข้างบนนั้นค่ะ...ไม่เคารพสิทธิกันเลย.... จากคุณ : BMW (BlackmagicW) - [ 30 ก.ย. 49 04:17:15 ]

ความคิดเห็นที่ 4 โห.... ลอกกันเห็นๆเลยเนี่ย ตามมาให้กำลังใจครับ จากคุณ : Hed Question - [ 30 ก.ย. 49 04:26:59 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เฮ้อ เกลียดพวกก็อปปี้จริงๆ เราก็โดนบ่อยๆ ไม่ให้เครดิตกันเลย จากคุณ : shory - [ 30 ก.ย. 49 04:29:31 ]

ความคิดเห็นที่ 6 Too bad.... No guilt among those pirates!! Sorry about this krub... Please continue to do things that you're certain that it's a good deed... Take care, A.T. PS1: I don't mind if someone brought my writings because I intend to gather all of those, publish them and distribute the books in my own funeral. PS2: PS1 looks a joke but it's not krub... I really intend to do this.... Time is lovely but cruel.... Don't you think?... แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 49 06:02:15 แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 49 04:43:08 จากคุณ : amatuer translator - [ 30 ก.ย. 49 04:40:40 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คุณ ATขา  คิดไปไกลขนาดนั้นเชียวหรือคะ คริคริ สำหรับคนที่หน้าไม่อาย ขโมยข้อมูลความรู้ของน้อง Susieไปโดยไม่บอกกล่าว ขอให้รู้ว่าถูกประณาม เอาของๆน้องคืนม้า จากคุณ : PatPDX - [ 30 ก.ย. 49 05:51:06 ]

ความคิดเห็นที่ 8 this is the part of reason that I delete my blogg. จากคุณ : aomchan - [ 30 ก.ย. 49 06:09:19 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เอาอีกแล้ว พวกลอกเขาแบบดื้อๆ ไม่แม้แต่ให้เครดิท เจ้าของบลอก แย่จังเลย น้องซูซี่ น่าเอาไปลงที่ห้องสมุด พันทิพด้วยนะ ที่นั่นเขากำลังรณรงค์เรื่องนี้อยู่ จากคุณ : smartupid - [ 30 ก.ย. 49 07:30:23 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ความเห็นผมอาจจะไม่ "ต้องตา" ต้องอารมณ์ ท่านอื่น ๆ นะครับ แต่ผมเปิดไปดูมาทั้ง 2 ลิ้งค์ แล้ว ก็พบว่า มีการอ้างอิงแหล่งที่มานี่ครับ แล้วใน พรบ.ลิขสิทธิ์ ก็มีมาตราที่ อนุญาตให้ คัดลอก ไปใช้ได้ โดยไม่ผิดกฏหมาย อยู่ 2 หรือ 3 มาตรา ซึ่งถ้าว่ากันตามกฏหมายก็จะผิดในกรณีที่คัดลอกไปเพื่อใช้ประโยชน์ทางการค้า คือ กฏหมายอนุญาตให้ลอก หรือทำซ้ำได้ โดยมีเงื่อนไขกำกับ สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นนี้ ถ้าจะมองให้ผิด ก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า การคัดลอกไปนั้น มันทำให้เจ้าของเสียประโยชน์อย่างไร และมันถูกนำไปใช้เพื่อการค้าหรือไม่ ในความเห็นผม ความผิดทางกฏหมายไม่น่าจะมี และผู้คัดลอก ก็ได้อ้างอิงแหล่งที่มาไว้ด้วย ซึ่งน่าจะแสดงให้เห็นว่า ไม่ได้มีเจตนาจะคัดลอกไปแล้วอ้างว่าตนเองเป็นเจ้าของผลงาน ความผิดกรณีนี้มีเพียงประการเดียวคือ ผู้คัดลอกไปเผยแพร่ ไม่มีมารยาท คือไม่บอกกล่าว พูดจากับเจ้าของผลงานเสียก่อน ผมคิดว่า ถ้าใครเปิดไปเจอ ก็คงจะต้องตามลิ้งค์มาดูจากเว็บต้นกำเนิด ซึ่งก็จะทราบอยู่ดีว่า เจ้าของผลงานที่แท้จริงคือใคร แล้วอันที่คัดลอกของคุณ BMW เขาก็กล่าวขอบคุณไว้ด้วย พร้อมกับอ้างที่มา แล้วยังมีลิ๊งค์บล็อกคุณ BMW ด้วย ผมว่าคงมีเจตนาที่จะช่วยเผยแพร่ความรู้ จาก "วิทยาทาน" ที่คุณBMW ได้ให้แก่ทุก ๆ คนเสมอมาน่ะครับ เพราะ จากคุณ : ScaRECroW - [ 30 ก.ย. 49 07:55:14 A:69.255.141.91 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 การประนาม ก็เป็นมาตรการทางสังคมอย่างนึงในการลงโทษบุคคลเยี่ยงนี้ แต่..... ถ้าข้อมูลใดที่เราคิดว่า เราหวงแหน เป็นข้อมูลที่มีค่า ไม่อยากให้ใครลอกไปง่ายๆ ก็จงเขียนแล้วใส่ลิ้นชักล็อกกุญแจเก็บไว้ที่บ้านครับ จะได้ปลอดภัยจากพวกฉกฉวยประโยชน์เป็นของตนเอง แต่อย่างไรก็ดี เราได้ประโยชน์มากมายจากอินเตอร์เนท ความรู้มีอยู่ทั่วไปหมด อยากรู้เรื่องอะไร เราก็แค่คลิ๊กๆค้นๆเอาจากเนท ซึ่งผู้มีจิตศรัทธา ได้อุทิศความรู้ของตน เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ประชาชนทั้งโลก โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ ผมได้ประโยชน์ ได้ความรู้มากมายจากอินเตอร์เนท จากผู้เขียนนิรนามที่ได้อุทิศความรู้ไว้ให้แก่โลกใบนี้ และในทางกลับกัน ผมยินดีเป็นผู้เขียนนิรนามที่อุทิศสิ่งที่ผมพอจะรู้บ้าง กลับคืนสู่อินเตอร์เนทเช่นกัน โดยไม่สงวนสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ เพื่อให้ทุกคนใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ ใครอยากจะเอาไปทำอะไรก็เอาไป เชิญตามสบาย และ Free of charge !! No obligation !! No string tied !! ผมจะดีใจและภูมิใจยิ่งนัก ที่สิ่งที่ผมได้อุทิศให้ไปเป็นวิทยาทาน แล้วมันสร้างประโยชน์ให้กับผู้อื่นบ้าง แม้เพียงเล็กน้อยก็ปลื้มใจแล้ว จากคุณ : ช่างไฟ - [ 30 ก.ย. 49 08:01:21 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เห็นใจค่ะ เราก็ได้ความรู้จากบล็อคคุณซูซี่เยอะเหมือนกันนะ แต่ตอนนี้ได้วีซ่าแล้วก็เลยไม่ค่อยได้เข้าไป สงสารคนมาทีหลังเนาะ อดดูข้อมูลเลย พวกก๊อปเค้านี่นิสัยไม่ดีจริง ๆ ทำคนอื่นเค้าเดือดร้อนไปด้วย ร่วมประนามค่ะ จากคุณ : สุดสวย - [ 30 ก.ย. 49 08:05:35 A:222.123.73.44 X: TicketID:126292 ]

ความคิดเห็นที่ 13 การให้ความช่วยเหลือเป็นข้อมูลแนะนำ  เป็นเรื่องที่ดี แต่อย่างน้อยก็น่าจะบอกที่มาที่ไป  เรียกว่าเคารพเจ้าของความคิด  เจ้าของผลงานการให้ประโยชน์ต่อสังคมเป็นเรื่องที่ดีน่าสรรเสริญ  แต่การนำของคนอื่นมาแอบอ้าง  เป็นเรื่องน่าไม่อาย  ตะหาก แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 49 13:21:04 จากคุณ : หนูเล็กในเมืองนางฟ้า - [ 30 ก.ย. 49 08:22:44 ]

ความคิดเห็นที่ 14 http://www.intell.rtaf.mi.th/FairUsedNotice.asp จากคุณ : ScaRECroW - [ 30 ก.ย. 49 08:24:19 A:69.255.141.91 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณ ScaRECroW คะ...จาก link ข้างบนนั้นนะคะเป็นคำขอบคุณของคุณ Susie ที่เขียนไว้แต่เดิมน่ะค่ะ...จริงๆ แล้วที่ออกความเห็นข้างต้นนั้นก็อยากให้คนที่ copy ให้เครดิตคุณ Susie มากกว่าน่ะค่ะ...และก็เป็นเรื่องของ "มารยาท" ... งั้นขอเปลี่ยนคำพูดใหม่เป็น "คนที่จะ copy ข้อความใดๆ จาก blog (ของคนอื่น) ก็ควรจะขออนุญาตหรือบอก/แจ้งเจ้าของ blog ก่อน" ต้องขออภัยนะคะ หากใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมในตอนแรก... จากคุณ : BMW (BlackmagicW) - [ 30 ก.ย. 49 08:35:51 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นด้วยกับคุณช่างไฟมากๆค่ะ  ถ้าเมื่อไหร่ เราคิดที่จะเผยแพร่ข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต ก็ต้องทำใจเรื่องการคัดลอกและการเผยแพร่ต่อค่ะ คุณซูซี่จงภูมิใจในสิ่งที่คุณได้เผยแพร่ข้อมูลเหล่านี้ให้กับคนที่ไม่รุ้เถอะค่ะ แต่ถึงยังไงก็ขอประนามคนที่ไม่ได้ให้เครดิตเจ้าของข้อมูลค่ะ จากคุณ : smo - [ 30 ก.ย. 49 08:40:26 ]

ความคิดเห็นที่ 17 คุณ BMW ครับ ... ต้องขอโทษที่พาดพิง แล้วก็คอมเม้นผิดไปตรงจุดนั้น ก็ขอโทษนะครับ บอกตรง ๆ นะครับ โดยส่วนตัว ผมนับถือในน้ำใจของคุณ BMW และคุณ Susie มาก ๆ รวมถึงท่านอื่น ๆ ที่ได้เข้ามาไขปัญหาที่ผู้คนถามไถ่ ทุก ๆ ท่านเป็นคนแปลกหน้าที่ผมยกย่องอยู่ในใจเงียบ ๆ มาโดยตลอดตั้งแต่ผมยังไม่เข้ามาตอบกระทู้ (สถานะ ผู้อ่าน) แล้วก็รู้สึกปลื้มใจที่สังคม "เสมือน" แห่งนี้ มีความเอื้อเฟื้อให้แก่กันเสมอมา ก็ไม่อยากให้ "ความรู้" เหล่านั้นที่ผมเคยได้รับมา ทั้งส่วนที่เป็นความรู้ที่เกิดประโยชน์แก่ตัวผม (Need to Know) และความรู้ที่ประดับสมอง (Nice to Know) ต้องยุติลง เพียงเพราะความไร้มารยาทของคนไม่กี่คน น้ำใจของคุณทั้ง 2 คน เป็นกุศลครับ ผมประสบพบเห็นผมก็อิ่มใจ และผมก็เชื่อว่าคุณทั้ง 2 คนก็อิ่มใจด้วยเช่นกัน จากคุณ : ScaRECroW - [ 30 ก.ย. 49 08:49:36 A:69.255.141.91 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 จากคุณ : BMW (BlackmagicW) - [ 30 ก.ย. 49 09:00:18 ]

ความคิดเห็นที่ 19                                     แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 49 22:20:19 จากคุณ : นักแปลนอกบอร์ด (กริชนาคราช) - [ 30 ก.ย. 49 09:00:28 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ยอมไม่ได้ค่ะ มันไม่แฟร์เลยเนอะ จากคุณ : พาหนูหมาไปเที่ยว - [ 30 ก.ย. 49 09:35:08 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้าจะลอกไปทั้งดุ้นแบบนี้ ก็น่าจะบอกกล่าวกันนะคะ คือ คุณ Susie ก็ไม่ได้เสียผลประโยชน์อะไรหรอกเราว่า แต่เสียความรู้สึก เพราะกว่าจะหาข้อมูลมาได้ กว่าจะมานั่งเรียบเรียง นั่งเขียน ก็ใช้เวลามาก จากคุณ : Lilac Girl - [ 30 ก.ย. 49 09:57:12 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ปลอดภัย หรือ  ปิดกั้น ??  แล้วคนที่ไม่มีอมยิ้มจะทำไงอะจ้ะ ?? มันก๊อบไว้ในเวบก็คงเรียกร้องไมได่ ............ แต่ถ้าก๊อบไปลงหนังสือแล้วขาย ก็คงต้องโวยกันหน่อย ข้อมูลเพื่อสาธารณะค่ะ   อย่าคิดมาก จากคุณ : PaNok@Philharmonic - [ 30 ก.ย. 49 09:58:55 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คำถามที่มักพบบ่อย คำถาม: ข้าพเจ้ามีวีซ่าเข้าประเทศสหรัฐฯ ที่ยังไม่หมดอายุในหนังสือเดินทางเล่มเก่า วีซ่านี้ยังใช้ได้อยู่หรือไม่   ยังใช้ได้ในกรณีที่วัตถุประสงค์ในการเดินทางของท่านสอดคล้องกับประเภทวีซ่าที่ยังมีอายุอยู่ ท่านต้องแสดงหนังสือเดินทางเล่มเก่า พร้อมกับหนังสือเดินทางเล่มปัจจุบัน (ใหม่) เพื่อใช้เข้าประเทศสหรัฐฯ คำถาม: ข้าพเจ้าจำเป็นต้องมีวีซ่า เพื่อเข้าประเทศสหรัฐฯหรือไม่   พลเมืองไทยต้องมีวีซ่าในการเดินทางเข้าประเทศสหรัฐ แต่คนบางสัญชาติก็ไม่จำเป็นต้องใช้ คำถาม: ข้าพเจ้าจะชำระค่าวีซ่าได้อย่างไร     ผู้ยื่นคำร้องขอวีซ่าทุกท่านต้องชำระค่าวีซ่า (ไม่คืนเงิน) ในราคา 100 เหรียญสหรัฐฯ หรือเป็นจำนวนที่เท่ากันตามสกุลเงินไทย ผู้ที่ได้รับการยกเว้นจำพวกเดียวคือข้าราชการ เดินทางในหน้าที่การงาน และผู้ถือหนังสือเดินทางฑูต ท่านสามารถชำระเงินได้ ณ เคานเตอร์ “Pay at Post” 246 แห่ง ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทุกจังหวัดทั่วประเทศ คำถาม: ข้าพเจ้าเคยถูกปฎิเสธวีซ่า กรณีนี้คำร้องจะถูกนำมาพิจารณาใหม่หรือไม่ ท่านต้องทำการยื่นคำร้องครั้งใหม่ และนัดเข้าสัมภาษณ์ใหม่เป็นครั้งที่สอง ผู้ยื่นคำร้องที่เคยถูกปฏิเสธ สามารถยื่นคำร้องใหม่ได้ทุกเมื่อ หากสถานการณ์ของท่านได้เปลี่ยนไป หรือ หากสามารถยื่นเอกสารสนับสนุนแสดงถึงความผูกพันต่อประเทศไทยเพิ่มเติมจากเดิมได้ คำถาม: ข้าพเจ้าต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง เพื่อให้ได้รับวีซ่าเข้าประเทศสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่กงสุลทำการพิจารณาคำร้องเป็นรายกรณี ไม่มีเอกสารใดที่จะรับรองการออก หรือปฏิเสธวีซ่าเข้าประเทศสหรัฐฯ เนื่องจากแต่ละกรณีมีความแตกต่าง เอกสารที่ใช้ยืนยันได้หนักแน่นในการยื่นคำร้องของท่านหนึ่ง อาจใช้ไม่ได้เลยสำหรับท่านอื่น ถาม: ข้าพเจ้าได้รับวีซ่านักเรียนเรียบร้อยแล้ว ข้าพเจ้าสามารถเดินทางเข้าประเทศสหรัฐฯ ได้เมื่อไร ท่านจะเข้าประเทศสหรัฐได้อย่างเร็วที่สุด 1 เดือน ก่อนวันที่ระบุในแบบฟอร์ม I-20 ของท่าน ถาม: ข้าพเจ้าต้องทำอย่างไร ถ้าทำจดหมายยืนยันการนัดหมายหายไปก่อนวันสัมภาษณ์ แม้จดหมายยืนยันการนัดหมายจะหาย ท่านยังต้องไปสถานฑูตตามวัน และเวลาที่นัดไว้ พร้อมคำร้อง และเอกสารประกอบการยื่นคำร้องทั้งหมด ถาม: ข้าพเจ้าได้ทำการนัดหมายเข้าสัมภาษณ์ที่สถานฑูตแล้ว แต่ได้ทำหนังสือเดินทางหาย และ ได้ออกหนังสือเดินทางใหม่แล้ว ก่อน ถึงวันนัดหมาย ข้าพเจ้าต้องทำอย่างไร ท่านต้องไปสถานฑูตตามวันเวลาที่นัดไว้ และแสดงหนังสือเดินทางเล่มใหม่ หากท่านไม่สามารถออกหนังสือเดินทางเล่มใหม่ได้ก่อนวันนัดหมาย ท่านต้องติดต่อศูนย์บริการข้อมูลวีซ่า และทำการยกเลิก หรือ เปลี่ยนแปลงวันเวลา นัดหมายของท่าน ท่านจะไม่สามารถเข้ายื่นคำร้องที่สถานฑูตได้ถ้าไม่มีหนังสือเดินทางฉบับจริง ที่ไม่หมดอายุ ถาม: ถ้าข้าพเจ้าไม่สามารถไปสถานฑูตตามวันเวลาที่ได้นัดไว้ ข้าพเจ้าสามารถให้ผู้อื่นมาแทนได้หรือไม่ ถ้าท่านไม่สามารถไปสถานฑูต ตามวันเวลาที่ได้นัดไว้ ท่านต้องติดต่อศูนย์บริการข้อมูลวีซ่า และยกเลิก หรือ เปลี่ยนแปลงการนัดหมายของท่าน ท่านไม่สามารถให้ผู้อื่นมาแทนได้ ท่านต้องเข้าสัมภาษณ์ด้วยตัวเอง และ โอนถ่ายการนัดหมายให้ผู้อื่นไม่ได้ ตัวจริงของผู้ยื่นคำร้องเท่านั้นที่สถานฑูตอนุญาตให้เข้าได้ ถาม: ข้าพเจ้าต้องถูกพิมพ์ลายนิ้วมือ หรือไม่ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2547 ท่านต้องถูกพิมพ์ลายนิ้วมือ ในระหว่างทำการสัมภาษณ์ ท่านจะถูกพิมพ์ลายนิ้วมือที่นิ้วชี้ทั้ง 2 ข้าง โดยใช้เครื่องอิเลคทรอนิค ซึ่งกระบวนการนี้จะไม่ทำให้ท่านเสียเวลาเพิ่มเติมแต่อย่างใด ถาม: รหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) ของบริการข้อมูลวีซ่า ทางเว็บไซต์ และทางโทรศัพท์ ใช้แทนกันได้ หรือไม่ รหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) ของบริการข้อมูลวีซ่า ทางเว็บไซต์ (ราคาเท่ากับ 10 เหรียญสหรัฐฯ) และทางโทรศัพท์ (ราคาเท่ากับ 18 เหรียญสหรัฐฯ) ไม่สามารถใช้แทนกันได้ ท่านต้องทำการเลือกบริการที่ท่านต้องการ ก่อนทำการชำระเงินซื้อรหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) ถาม: ข้าพเจ้าสามารถเพิ่มเงินเพื่อเปลี่ยนรหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) ของบริการข้อมูลวีซ่า จากแบบเว็บไซต์ (ราคาเท่ากับ 10 เหรียญสหรัฐฯ) เป็นแบบโทรศัพท์ (ราคาเท่ากับ 18 เหรียญสหรัฐฯ)   ได้ หรือไม่ ไม่ได้ รหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) ของบริการข้อมูลวีซ่า ทางเว็บไซต์ (ราคาเท่ากับ 10 เหรียญสหรัฐฯ) และทางโทรศัพท์ (ราคาเท่ากับ 18 เหรียญสหรัฐฯ) ไม่สามารถใช้แทนกันได้ ท่านต้องทำการเลือกบริการที่ท่านต้องการ ก่อนทำการชำระเงินซื้อรหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) ท่านไม่สามารถเพิ่มเงินเพื่อเปลี่ยนรหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) หลังจากชำระเงินซื้อรหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) แล้ว ถาม: รหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) ของข้าพเจ้าใช้ไม่ได้ ต้องทำอย่างไร หากท่านซื้อรหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) จากที่ทำการไปรษณีย์ ท่านจะสามารถใช้รหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) นี้ได้ หลังเวลา 13.00 น. ของวันทำการถัดไปเท่านั้น เช่น หากท่านซื้อรหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) ในวันจันทร์ ท่านจะใช้ได้หลังบ่ายโมงของวันอังคาร แต่ทว่า หากท่านซื้อรหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) ในวันศุกร์ ท่านจะใช้ได้หลังบ่ายโมง ของ วันจันทร์ ซึ่งเป็นวันทำการถัดไปเท่านั้น หาก ท่านใช้ รหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) ตามที่ระบุไว้ข้างต้น และยังใช้ไม่ได้ กรุณาเขียนอีเมล์มายัง Thailand@us-visaservices.com กรุณาให้เวลาแก่เจ้าหน้าที่ในการตอบกลับ เพื่อทำการทดสอบว่าปัญหาของท่านเกิดจากอะไร ถาม: ทำไม ข้าพเจ้าจึงได้รับข้อความ ว่า หากข้าพเจ้าทำการยกเลิกนัดหมาย ข้าพเจ้าต้องทำการซื้อ รหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) ใหม่ ก.     สำหรับบริการข้อมูลวีซ่าทางเว็บไซต์: หากท่านได้ซื้อ และใช้รหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) ในการสร้างแฟ้มข้อมูลเฉพาะของท่านในระบบแล้ว ระบบจะแจ้งให้ท่านทราบถึงจำนวนครั้งที่ท่านจะสามารถทำการนัดหมาย และเปลี่ยนแปลงการนัดหมายได้ ในทุกครั้งที่ท่านมีการดำเนินการใดๆ ระบบจะแจ้งให้ท่านทราบถึงจำนวนครั้งที่เหลือดังกล่าวทุกหน หากท่านทำการนัดหมาย และ เปลี่ยนแปลงการนัดหมายใดๆ ครบ 3 ครั้ง ท่านจะได้รับข้อความนี้ หากต้องการทำการเปลี่ยนแปลงใดๆอีก ท่านต้องซื้อรหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) ใหม่   ข.     สำหรับบริการข้อมูลวีซ่าทางทางโทรศัพท์: ท่านสามารถใช้รหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) นี้ โทรศัพท์ไปยังศูนย์บริการข้อมูลวีซ่าทางทางโทรศัพท์ เพื่อทำการขอข้อมูล นัดหมาย หรือ เปลี่ยนแปลงการนัดหมายใดๆ สำหรับวีซ่าชั่วคราวได้ทั้งสิ้น 2 ครั้ง หากท่านต้องการโทรศัพท์ไปยังศูนย์บริการข้อมูลวีซ่าทางทางโทรศัพท์เป็นครั้งที่ 3 ท่านต้องซื้อรหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) ใหม่ ถาม:ข้าพเจ้าสามารถเข้าสู่ระบบ ทางเว็บไซต์ได้กี่หน ท่านสามารถเข้าไปยังเว็บไซต์ http://thailand.us-visaservices.com ได้หลายครั้ง แต่เมื่อถึงวันที่ท่านได้ทำการนัดหมายแล้ว ท่านจะสามารถเข้าสู่บัญชีข้อมูลส่วนตัวของท่าน เพื่ออ่านข้อมูลวีซ่าเท่านั้น ได้อีก 10 วัน หากท่านยังไม่เคยทำการนัดหมายเลย หรือ ได้ทำการยกเลิก การนัดหมายก่อนวันนัดหมามาถึง ท่านจะสามารถเข้าเว็บไซต์ ได้เป็นเวลาทั้งสิ้น 90 วัน นับจากวันที่ท่านซื้อรหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) โปรดทราบว่า ท่านสามารถใช้รหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) ของท่าน เพื่อดูข้อมูลที่เป็นวีซ่าชั่วคราว (NIV) และวีซ่าถาวร (IV) แต่ท่านจะสามารถทำการนัดหมายเพื่อเข้าสัมภาษณ์เฉพาะ หากท่านขอวีซ่าชั่วคราว เท่านั้น ถาม: ข้าพเจ้าสามารถเปลี่ยนแปลงการนัดหมายได้กี่หน สำหรับบริการข้อมูลวีซ่าทางเว็บไซต์: หากท่านต้องการเปลี่ยนแปลงการนัดหมาย ให้ไปที่ หน้าข้อมูลส่วนตัวของฉัน เพื่อตรวจว่าท่านสามารถทำการเปลี่ยนแปลง การนัดหมายของท่านได้อีกกี่หน ท่านสามารถทำการนัดหมาย และเปลี่ยนแปลงการนัดหมายได้ ทั้งสิ้น 3 ครั้ง ถาม: ระบบไม่มีวันนัดหมายว่าง เพื่อเข้าสัมภาษณ์ ได้ทันเวลาที่ข้าพเจ้า ต้องออกเดินทาง ข้าพเจ้า ควรทำอย่าไร หากท่านได้ทำการสร้างแฟ้มข้อมูลในเว็บไซต์แล้ว ให้ท่านเข้าสู่ระบบอีกครั้ง ในกรณีที่ท่านยังไม่ได้ทำการนัดหมายใดๆ เลย ให้ดูที่ตารางการนัดหมายอีกครั้ง ตารางการนัดหมายในระบบ มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เนื่องจากผู้ยื่นคำร้องท่านอื่น ได้ทำการยกเลิก การนัดหมายตลอด  แต่ หากท่านได้ทำการนัดหมายเรียบร้อยแล้ว และต้องการได้วันที่เร็วกว่า ท่านต้องยกเลิกวันนัดหมายเดิมของท่านเสียก่อน ท่านจึงจะสามารถกลับไปดูว่ามีวันนัดหมายที่เร็วกว่าเดิม หรือไม่ ถาม:  รหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) สำหรับบริการข้อมูลวีซ่า ทางโทรศัพท์ และ เว็บไซต์ มีอายุกี่วัน ท่านสามารถรหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) สำหรับบริการข้อมูลวีซ่า ทาง เว็บไซต์ ได้หลายครั้ง จนกระทั่ง 90 วันนับตั้งแต่ซื้อ หากไม่มีการนัดหมายใดๆ หากท่านได้ทำการนัดหมายแล้ว ท่านจะสามารถเข้าสู่บัญชีข้อมูลส่วนตัวของท่าน เพื่ออ่านข้อมูลวีซ่าเท่านั้น ได้อีก 10 วัน ท่านสามารถใช้รหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) นี้ สำหรับบริการข้อมูลวีซ่าทางโทรศัพท์ โทร.ไปยังศูนย์บริการข้อมูลวีซ่าทางทางโทรศัพท์ เพื่อทำการขอข้อมูล นัดหมาย หรือ เปลี่ยนแปลงการนัดหมายใดๆ สำหรับวีซ่าชั่วคราวได้ทั้งสิ้น 2 ครั้ง ภายใน 90 วันนับตั้งแต่ซื้อ หากท่านต้องการโทรศัพท์ไปยังศูนย์บริการข้อมูลวีซ่าทางทางโทรศัพท์เป็นครั้งที่ 3 ท่านต้องซื้อรหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) ใหม่ ถาม: หน้าจอของระบบ แจ้งว่า รหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) ของข้าพเจ้าใช้ไม่ได้ ต้องทำอย่างไร หากท่านซื้อรหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) จากที่ทำการไปรษณีย์ ท่านจะสามารถใช้รหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) นี้ได้ หลังเวลา 13.00 น. ของวันทำการถัดไปเท่านั้น “วันทำการถัดไป” หมายถึงวันจันทร์ ถึง ศุกร์ ยกเว้นวันหยุดราชการของประเทศไทย บริษัทไปรษณีย์ไทย และ สหรัฐฯ ถาม: ข้าพเจ้าซื้อรหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) แล้ว แต่ตัดสินใจไม่ขอวีซ่า ข้าพเจ้าขอรับเงินคืนได้หรือไม่ ไม่ได้ การซื้อรหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) เป็นการซื้อขาด ไม่มีการคืนเงิน ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น ถาม: หากข้าพเจ้าไม่ได้ไปสัมภาษณ์ ตามเวลาที่ได้นัดหมายไว้ ข้าพเจ้ายังสามารถเข้าไปเลื่อนวันนัดหมายโดยใช้ รหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN)  เบอร์เดิมได้หรือไม่ หากท่านได้ทำการนัดหมายแล้ว รหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) รหัสนี้ จะอนุญาตให้ท่านสามารถเข้าสู่บัญชีข้อมูลส่วนตัวของท่าน เพื่ออ่านข้อมูลวีซ่าเท่านั้น ได้อีก 10 วัน หากต้องการทำการเปลี่ยนแปลงใดๆอีก ท่านต้องซื้อรหัสเข้าใช้เฉพาะ (PIN) ใหม่ การเปลี่ยนแปลงการนัดหมายใดๆ ต้องทำก่อนวันนัดหมายจริง อย่างน้อย 2 วันทำการ © 2005-2006 TeleTech Government Solutions, LLC/CSC. All Rights Reserved. ท่านผู้อ่านคิดว่าอย่างไร อันนี้คือข้อมูลจาก web สถานฑูตอเมริกานะครับ ข้อมูลแบบนี้มีเยอะแยะไป ไม่น่าจะแสดงความเป็นเจ้าของเกินกว่าสถานฑูตนะครับ อีกแง่มุมนะครับ หวังว่าคงไม่เคืองนะครับ ผมมองต่างมุม จากคุณ : คำถามที่มักพบบ่อย (k_aunggulsant) - [ 30 ก.ย. 49 10:12:54 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เห็นใจค่ะ และทราบว่าก็คงเสียความรู้สึกนะคะ คงต้องทำใจ สำหรับตัวเองก็เคยเจอมาแล้วค่ะ เพลงจีนเนื้อหาจีนๆ ที่เรา แปลกับมือเป็นภาษาอังกฤษ พอเอาลงบล๊อกไม่นานก็ ไปโผล่อยู่ที่บล๊อกของอีกคนนึงในพันทิปนี่แหละ แถมยังเขียนประมาณตัวเองแปลเองอีกแน่ะ  -_-' เรียกว่าเอาไปทั้งดุ้น แบบไม่เปลี่ยนกระทั่งจุดที่แปลจากจีนผิด (ตั้งใจให้ผิดเพราะว่าคนร้องให้ฟังเขาอยากให้แปลออกมาแบบนั้น เฉพาะตัว) บล๊อกเพลง "The Moon Represent My Heart" แต่อย่างว่านะคะ ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะว่าเป็นแค่งานแปล ที่ใครๆ ก็มีสิทธิ์บอกว่าทำได้เหมือนกัน ฯลฯ ก็แล้วแต่จะ คิดค่ะ แต่ถ้าเป็นเราอย่างน้อยก็จะบอกเครดิตที่มาซักหน่อยอะค่ะ ตอนนี้ที่โต๊ะห้องสมุดเขามีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลกันเลยเรื่อง ก๊อปปี้งานนี่แหละ จากคุณ : Autumn Leaves - [ 30 ก.ย. 49 12:31:41 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ^ ^ ^ ความในใจจากน้องมะพร้าว ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจกับพี่ๆ ทุกๆ คนก่อนนะครับว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจากน้องมะพร้าวเองครับ น้องเป็นคนเตือนพี่ Susie เรื่องให้ใส่ password ลงใน Blog บางหน้าของพี่เค้า ซึ่งจริงๆ แล้วพวกเราไม่ได้หวงแหนความรู้หรือข้อมูลอะไรหรอกนะครับ แต่น้องมีความลับอย่างหนึ่งที่ทุกคน(อาจจะ)ไม่รู้ แต่น้องรู้ก็คือ (ขออนุญาตพี่ Susie เอาเรื่องนี้มาแฉนะครับ) วันที่สถานกงสุลอเมริกันประจำประเทศไทยเปลี่ยนระบบการยื่นขอวีซ่า น้องเป็นคนแรกที่โพสลงกระทู้พันทิปเพื่อแจ้งให้กับสมาชิกทราบ หลังจากนั้นพี่ Susie ก็ได้ศึกษารายละเอียดการยื่นขอแบบใหม่และปรับปรุง Blog ของตัวเอง เพื่อ update ข้อมูลให้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน น้องยังจำได้ว่ากว่า Blog เรื่อง Visa : USA จะเสร็จ พี่ Susie ได้ใช้เวลาทั้งวันทั้งคืน ไม่ได้หลับไม่ได้นอนหลายวัน ลองผิดลองถูก กว่าจะออกมาเสร็จสมบูรณ์ น้องขอถามหน่อยครับ? คนที่เสียสละขนาดนี้ทำไปเพื่ออะไรครับ? ในเมื่อวีซ่าของตัวเองก็มีแล้ว (สัมภาษณ์ระบบเก่า) และไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ต้องศึกษาระบบใหม่ให้เปลืองเวลาของตัวเองด้วย และน้องก็อยากจะทราบเหมือนกันว่า มีกี่ร้อยกี่พันคนที่เข้าไปอ่านขั้นตอนการยื่นขอวีซ่าใน Blog ของพี่ Susie แต่ไม่เคยมีแม้แต่คำว่าขอบคุณ มิหนำซ้ำยังคัดลอกข้อมูลไปโดยไม่ได้ขออนุญาต คำว่า “ขอบคุณ” พูดกันไม่ยากหรอกครับ และการทราบซึ้งน้ำใจของเจ้าของ Blog ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรด้วย มีหลายคนด้วยซ้ำที่เสนอ/แนะนำให้พี่ Susie ทำหนังสือคู่มือการขอวีซ่าขาย แต่พี่เขาไม่คิดว่าเรื่องนี้ควรเป็นธุรกิจด้วยซ้ำ พี่ Susie กลับอยากจะให้ทุกคนประสบความสำเร็จในการเตรียมตัว เตรียมเอกสาร และได้วีซ่าตามประสงค์ก็เท่านั้น ความตั้งใจของผู้หญิงคนนี้ ที่ไม่เคยหวังผลตอบแทน ไม่เคยเรียกร้องสินน้ำใจใดๆ น่ายกย่องแค่ไหนครับ? และถึงแม้เวปไซด์สถานกงสุลจะมีรายละเอียดบอกชัดเจน แต่การที่คนๆ หนึ่งเขียนอะไรที่เข้าใจง่าย และเข้าถึงคนที่ไม่รู้ ไม่เคย หรือไม่เข้าใจจริงๆ น่ะจะเป็นไรไปครับ น้องไม่ได้บอกนะครับว่าสถานกงสุลให้ข้อมูลไม่ดี แต่ Blog พี่ Susie สุดยอดจริงๆ วันนี้น้องไม่ได้ออกมาแก้ต่างหรือยกย่องพี่ Susie อย่างออกนอกหน้า แต่น้องอยากจะบอกว่าน้องชื่นชมพี่สาวคนนี้มาก แม้จะเพิ่งรู้จักและสนิทกันจากเวปพันทิปนี่เอง และบทเรียนราคาแพงหลายอย่างจากเวปนี้ ทำให้วันนี้ Coconut Dance ไม่มีอมยิ้ม ไม่มี My Blog และไม่ต้องการที่จะกลับไปเป็นสภาพที่เคยเป็นอีก สุดท้ายนี้ขออานิสงค์และผลบุญของคุณความดีที่พี่ Susie เสียสละเวลาส่วนตัว อุทิศเพื่อชาวไกลบ้าน จงนำมาส่งความสุขความเจริญ และเป็นฝั่งเป็นฝาในเร็ววัน และขอให้พี่ๆ ทุกคนเข้าใจและเห็นใจซังกุงคนสนิทคนนี้ของน้องมะพร้าวด้วยนะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : Coconut Dance - [ 30 ก.ย. 49 12:34:38 A:70.132.8.165 X: TicketID:115477 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ปล. ถ้าอ่านแล้วถูกใจ ก็โหวตให้ด้วยครับ Thank you in advance! จากคุณ : น้องมะพร้าว - [ 30 ก.ย. 49 12:36:45 A:70.132.8.165 X: TicketID:115477 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณนะคะที่ร่วมแสดงความคิดเห็น เมื่อคืนนี้ตั้งกระทู้เสร็จก็ไปนอนเลยค่ะ ง่วงมาก ๆ สิ่งที่เกิดขึ้น ใช้คำว่า "เสียความรู้สึก" น่าจะตรงใจที่สุด เป็นความจริงที่ว่าข้อมูลทั้งหมดเป็นข้อมูลสาธารณะที่มีการเปิดเผยในเว็บไซด์ของสถานทูตเพื่อให้บุคคลทั่วไปศึกษาก่อนดำเนินการขอวีซ่า ข้อมูลแบบนี้หาอ่านที่ไหนก็ได้ ... ใช่ค่ะ ถูกต้อง แต่จะเห็นได้ว่าข้อมูลที่เขียนขึ้นมาใส่ใน Blog ไม่ได้เป็นการหยิบมาแปลตรง ๆ เพราะเราไม่มีความถนัดทางภาษาอังกฤษเลยแม้แต่นิดเดียว และเราก็ไม่ได้สักแต่ว่าคัดลอกมาเท่านั้น แต่เราเอาประสบการณ์ของตัวเอง กับสิ่งที่ได้จากการเรียนรู้ศึกษาข้อมูลใส่ลงในหม้อ แล้วนำมาผสมผสานคลุกเคล้าปรุงรสเอามาเรียบเรียงขึ้นใหม่เป็นอาหารจานใหม่ ผ่านกระบวนการวิเคราะห์สังเคราะห์แล้ว ซึ่งไม่ได้ทำขึ้นด้วยสมองและสองมือเท่านั้น ถ้าแค่สมองและสองมือคงไม่มี Blog นี้เกิดขึ้น แต่ที่ทำทั้งหมดใช้ใจค่ะ อย่างที่น้องมะพร้าวได้บรรยายให้ทราบแล้ว เค้ารู้ดีที่สุดเพราะเราส่งร่างให้เค้าอ่านเพื่อขอความคิดเห็น ว่าเป็นอย่างไร อ่านแล้วงงมั้ย เข้าใจรึเปล่า มีตรงไหนต้องแก้บ้าง ลองตามเข้าไปดูใน Link แรก นำข้อมูล DV ไปใส่ในเว็บบอร์ด แม้แต่รูปของเรา รูปหน้าเราเองยังเอาไปด้วยเลย รูปนั้น crop และ retouch หน้าตัวเองมากับมือ การตั้งค่าเป็น Private มองได้สองด้าน ด้านหนึ่งเป็นการปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูลใน Blog อีกด้านหนึ่งเป็นการหยุดการกระทำที่เป็นดาบสองคมดังที่พี่คนนึงในที่นี้เคยให้ข้อคิดเมื่อนานมาแล้ว ว่าการช่วยเหลือให้คำแนะนำที่ดีเปรียบเสมือนดาบสองคม ทั้งช่วยผู้ที่ถูกต้อง ทั้งฆ่าผู้ที่ตั้งใจไปตายเอาดาบหน้าโดยทางอ้อม เหมือนส่งเค้าไปตายโดยที่เรามัวแต่รู้สึกปลาบปลื้มชื่นชมในผลกรรมดีของตัวเอง ทำแบบนี้ไม่ได้รู้สึกดีเลยนะคะ ไม่สบายใจมาก ๆ เพราะเห็นใจคนที่ต้องการจริง ๆ เพราะการปิด Blog แม้จะไม่ได้มีผลทำให้ถึงกับเดือดร้อนก็ตาม แต่ก็จะไม่ได้รับความสะดวกเช่นเดิมอีกต่อไป แต่เมื่อเห็นข้อมูลที่คุณ k_aunggulsant นำมาแปะใน คห.23 แล้ว ทำให้เราสบายใจขึ้นมากค่ะ แม้จะไม่มี Blog ของเรา ก็ยังมีแหล่งข้อมูลอื่น ๆ อีกมากมายที่จะช่วยผู้ต้องการขอวีซ่าได้โดยไม่เดือดร้อน ข้อไม่ดีก็คงจะมีเพียงเรื่องความสะดวกสบายที่ไม่เหมือนเดิมเท่านั้น ว่าง ๆ ก็แวะเข้าไปฟังเพลงกันนะคะ จะได้แก้อาการคิดถึงบ้าน ร้องเพลงไทยไว้เยอะเลยค่ะ จากคุณ : Susie - [ 30 ก.ย. 49 12:44:55 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ต่อไป  google ก็ต้องทำปุ่ม "Thank you" ในทุกๆครั้งที่เราค้นข้อมูล ฮิฮิ จากคุณ : ช่างไฟ - [ 30 ก.ย. 49 14:11:34 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เห็นใจพี่ซูซี่นะคะ เราก็เป็นคนหนึ่งที่เคยอ่านบล๊อคของพี่ซูซี่ และ ทำตามพี่ซูซี่จนวีซ่าผ่าน ต้องขอขอบคุณเวปบล๊อคของพี่ซูซี่มา ที่นี้ด้วยค่ะ ขอ ให้กำลังใจพี่ซูซี่ แระร่วมประณามคนที่ลอก เวปบล๊อคของพี่ซูซี่ด้วยคนค่ะ จากคุณ : sirin14 - [ 30 ก.ย. 49 14:35:15 ]

ความคิดเห็นที่ 30 นับถือพี่ช่างไฟนะคะ จากคุณ : Susie - [ 30 ก.ย. 49 14:43:25 ]

ความคิดเห็นที่ 31 พี่ซูซี่ตามมาให้ดูน่ะค่ะ ได้อ่านแล้วค่ะ รู้สึกว่า เสียความรู้สึกจริง ๆค่ะ ที่ไปลอกเขามาใส่เอง ก็ต้องทำใจเป็นเรื่องธรรมดาในอินเตอร์เน็ต มันขึ้นอยู่กับสามัญสำนึกของผู้เล่นอินเตอร์เน็ตเองน่ะค่ะ   อ้อ การใส่ Password ใน Bloggang น่ะ เป็นระบบความปลอดภัยที่ห่วยแตกที่สุดเท่าที่เคยพบ จริง ๆ แล้วเป็นอย่างนั้นมานานแล้ว ไม่ทราบว่าทุกท่านทราบหรือยัง ต่อให้ใส่ Password ก่อนเข้าดู blog  และถ้าอยากเข้าไปดู ก็ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่เปลี่ยนตัวเลขที่ URL  ก็เข้าได้แล้วค่ะ ไม่ยากเลยค่ะ ถ้าท่านใดที่ใส่ข้อมูลส่วนตัวใน bloggang โปรดระมัดระวังให้มากกว่าเดิมนะคะ ด้วยความห่วงใยค่ะ จากคุณ : KJ_FBI - [ 30 ก.ย. 49 15:01:02 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอเรียกพี่ ละกันนะครับ   ผมเพิ่งเข้าเวบพี่ เมือคืน เวบพี่ มีเนื้อหา มีประโยชน์มากเลย ก็เข้าใจที่มีคนมาแอบ copy ไปใช้อ่ะครับ คิดสะว่าเขาหวังดีอยากให้มีการกระจายข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากขึ้น ก็ได้นะ แต่เขาควรจะมาขออนุญาต พี่ก่อนนะ ผมเป็นกำลังใจให้ครับ แล้วผมจะยังเข้าไปอ่านได้อีกเปล่าอ่ะครับ แฮ่ะ ^_^ จากคุณ : ksomboon - [ 30 ก.ย. 49 16:50:29 ]

ความคิดเห็นที่ 33 เข้าใจความรู้สึกของพี่ค่ะ     จากคุณ : kaykay - [ 30 ก.ย. 49 18:02:48 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เห็นด้วยกับ คห # 23 จากคุณ : PaNok@Philharmonic - [ 30 ก.ย. 49 18:07:06 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เข้าไปอ่านในเว็บเจ้าปัญหามา All Content Copyright 2003-2006,. Contactus Email: .... มี copyright กะเค้าด้วยวุ๊ย จากคุณ : LeeMiki - [ 30 ก.ย. 49 21:16:05 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เข้ามาให้กำลังใจคับ จากคุณ : next_gens - [ 1 ต.ค. 49 00:49:10 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เห็นใจพี่ทั้ง 2 ค่ะ หนูเพิ่งเป็นสมาชิกของพันทิปได้ไม่กี่วันเอง แต่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกของบ็อคพี่ ทุกวันนี้ต้องเข้ามาอ่านเน็ตทุกวันเรื่องของวีซ่า โดยอาศัยอ่านจากห้องไกลบ้าน และได้รู้จักพี่ซูซี่จากห้องนี้ และได้ติดตามอ่านในบ็อคของพี่ แต่ยังไม่ทันอ่านครบจนได้ข้อมูลทุกด้าน ก็เข้าไม่ได้ซะแล้ว แล้วงี้หนูจะทำไงค่ะ จากคุณ : มะเขือเทศสีชมพู (มะเขือเทศสีชมพู) - [ 1 ต.ค. 49 02:00:52 ]

ความคิดเห็นที่ 38 โหวตให้เจ๊ค่า...ขอประนามด้วยอีกคน  ยังไงก็เปนกำลังใจให้เจ๊ค่า..(^o^).. จากคุณ : SwEetY_KwAn - [ 1 ต.ค. 49 02:05:07 ]

ความคิดเห็นที่ 39 อย่าคิดมากนะครับ เสียใจด้วยที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่เชื่อเหอะว่า มันเกิดบ่อยแล้ว เพียงแต่เพิ่งจะเจอ ข้อมูลบนเน็ทเีนี่ย มันป้องกันยาก ที่อยากจะให้คน ทั่วไปอ่าน ได้ฟรี แต่ไม่อยากให้คนก๊อบ ก็ในเมื่อไม่ฟรี คนก็ยังเอาออกมา แจกจ่ายกันเลย การเอามาไว้ในเน็ทถือเป็นการเปิดเผยข้อมูล เป็นสาธารณะ เหมือน ห้องสมุดหนะครับ ใครจะค้น จะก๊อบ จะทำได้ก็ได้ ตามสะดวก เราไม่สามารถไปปิดกั้น หรือ รับรู้ว่าใครทำอะไร กับข้อมูลไปบ้าง มากน้อยเท่าไร เพียงแต่ว่า ถ้าพบแล้วเค้าก็จัดการทางกฏหมายกัน เคยคิดเหมือนกัน กังวลเหมือนกัน เพราะทำเว็บมาเยอะ และนาน หลังๆ คิดได้ ก็กลาย ไม่คิดมากครับ จากคุณ : Adore - [ 1 ต.ค. 49 02:12:56 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เป็นกำลังใจให้คุณซูซี่ด้วยนะคะ จากคุณ : ลูกแม่ดอกบัว - [ 1 ต.ค. 49 02:45:54 ]

ความคิดเห็นที่ 41 อย่างร่างกายผมเนี่ย ตอนนี้ผมก็ยังสงวนสิทธิ์อยู่นะ เพราะยังต้องใช้งานอยู่ แต่ถ้าผมตายเมื่อไร ผมยกให้เลย ใครอยากได้อะไรมาแคะเอาไปได้เลย ให้ทุกชิ้น จะตัดจะเฉือนจะแงะอะไรเอาไปได้หมด ส่วนเศษที่เหลือๆก็เอาใส่ถุงก๊อบแก๊บส่งให้ครอบครัวผม เพื่อเอาไปเผาตามพิธีทางศาสนาด้วยละกัน ผมไม่รู้จะหวงไว้ทำไม ในเมื่ออยู่กับเราก็ไม่ได้มีประโยชน์อีกต่อไป แต่ในทางกลับกัน มันไปอยู่กับคนอื่น ยังเกิดประโยชน์มากกว่า จากคุณ : ช่างไฟ - [ 1 ต.ค. 49 07:53:47 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ผมตักบาตร ตอนเช้า สาย ๆ พระท่านฉันเสร็จ หลังพระฉันเสร็จ ท่านมอบอาหารให้ลูกศิษย์วัด ลูกศิษย์วัดกินต่อ เอาเศษอาหารที่เหลือให้สุนัขกินต่อ ผมจะโกรธพระดีไหม ที่ท่านเอาอาหารที่เหลือไปให้เด็กวัดกินต่อ ถ้าผมโกรธพระ ผมก็คงต้องเลิกตักบาตร จากคุณ : ScaRECroW - [ 1 ต.ค. 49 10:12:37 A:69.255.141.91 X: ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขออนุญาตห้องศาสนา กระทู้การทำทาน มาให้พิจารณานะครับ  (เกี่ยวกันมั๊ยเนี่ย) http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y4739914/Y4739914.html จากคุณ : vanderzaz - [ 1 ต.ค. 49 11:56:50 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ผมกลับมองว่า ถ้าผมปลูกต้นแอปเปิ้ลไว้ในบ้าน แล้วต้นแอปเปิ้ลโตจนงอกงามสูงใหญ่ ออกผลแอปเปิ้ลมามากมาย จนคนเดินถนนผ่านไปมาเห็นเข้าก็เอ่ยปากขอผลแอปเปิ้ล ผมในฐานะเจ้าของบ้านก็ยินดีที่จะแบ่งผลแอปเปิ้ลลูกนั้นให้ไปแบบไม่เสียดาย คนที่กินไปก็เอ่ยปากชมว่าแอปเปิ้ลของผมนั้นลูกใหญ่และหวานกรอบมาก โดยที่เขาอาจไม่รู้ว่าผมต้องใช้เวลามากมายแค่ไหน บ่มใส่ปุ๋ย ดูแลกว่ามันจะใหญ่โต และแบ่งให้คนอื่นได้อย่างไม่เสียดาย แต่ก็ไม่ได้เรียกร้องผลตอบแทนในรูปแบบของเงินทองหรือคำขอบคุณ แต่ถ้ามีวันนึง คนที่เดินเข้ามากินอยู่ตลอดเวลา เขากลับขอลูกแอปเปิ้ลไปจำนวนมากเพื่อเอาไปแจกจ่ายให้คนอื่นได้ลองชิมบ้าง เจ้าของต้นก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรเพราะเห็นว่าต้นแอปเปิ้ลของตัวเองก็มีผลออกมาตลอด แต่เมื่อเขากลับเอาลูกแอปเปิ้ลของเราไปขาย หรือเอาไปให้คนอื่นกินต่อโดยที่ไม่ได้บอกว่าจริงๆแล้วเขาเอามาจากบ้านของเราแต่กลับอ้างว่าปลูกจากบ้านของเขาเอง ผมก็คงรู้สึกแย่และเสียใจ และก็คงเลือกคนที่เราจะมอบผลแอปเปิ้ลให้ดีกว่า อย่างที่รู้กันครับว่าผลแอปเปิ้ลมีอยู่ทั่วไป ถ้าคุณอยากกินผลที่เป็นมาตรฐานคุณก็หาซื้อได้ทั่วไป ซึ่งมันก็อาจจะดีกว่า สดกว่าไม่มีแมลง ลูกใหญ่กว่า แต่ถ้าคุณอยากกินลูกแอปเปิ้ลของผมซึ่งมันอาจจะมีมีแมลงไต่ตอม ลูกอาจจะไม่ใหญ่เท่าในซุปเปอร์มาเก็ต แต่หอมหวานกรอบ ฉ่ำน้ำ คุณก็ต้องมาขอจากผมครับ ไม่ใช่ขโมยไปหรือแอบอ้างเอาไป หรือถ้าคุณอยากจะได้ลูกแอปเปิ้ลที่มีรสชาติไม่เหมือนที่ไหนเลย คุณก็ต้องปลูกเองครับ เข้าใจคุณซูซี่มากครับ ใครไม่เคยโดนขโมยลูกแอปเปิ้ลไปคงไม่รู้สึก จากคุณ : เ ป้ - [ 1 ต.ค. 49 16:16:49 ]

ความคิดเห็นที่ 45 สุดยอดค่ะ สำหรับคุณ Adore คุณช่างไฟ และคุณScaRECroW แถมด้วยคุณ vanderzaz จากคุณ : smo - [ 1 ต.ค. 49 16:16:57 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ตอนที่ตั้งกระทู้นี้แค่เสียความรู้สึก ไม่เคยเสียใจที่ไม่ได้รับคำขอบคุณ แค่รู้ว่าสิ่งที่ทำทั้งหมด เป็นการให้ความช่วยเหลือกับคนที่ต้องการขอวีซ่าก็ดีใจมากแล้วค่ะ แต่ตอนนี้เสียใจนะคะ "ท่านผู้อ่านคิดว่าอย่างไร อันนี้คือข้อมูลจาก web สถานฑูตอเมริกานะครับ ข้อมูลแบบนี้มีเยอะแยะไป ไม่น่าจะแสดงความเป็นเจ้าของเกินกว่าสถานฑูตนะครับ" คุณ k_aunggulsant คะ ถ้าคุณเคยเข้าไปอ่าน blog ของเรา คงจะไม่โพสแบบนี้ใน คห. 23 แน่ ๆ เพราะถ้าได้อ่านคงจะรู้ว่าสิ่งที่เราเขียนไม่เหมือนกับข้อความทั้งหมดที่คุณยกมา ถามหน่อยว่าจะมีซักกี่คนที่อ่านคำแนะนำในเว็บไซด์ของสถานทูตแล้วเข้าใจบ้างคะ เราคนนึงที่อ่านแล้วไม่เคยเข้าใจเลย คงมีแต่คนที่ทำงานด้านวีซ่าหรือคุ้นเคยกับการขอวีซ่าล่ะมั้งที่จะอ่านแล้วรู้เรื่อง เรารู้ซึ้งถึงหัวอกคนที่จะขอวีซ่า เพราะเราก็เคยเป็นมาก่อน เริ่มโดยไม่รู้เรื่องอะไรเลยมันยากนะคะ แต่โชคดีที่มีเพื่อนในบริษัททัวร์ให้คำปรึกษา เมื่อเราประสบความสำเร็จได้วีซ่าแล้ว เราจึงตั้งใจเขียนขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ต้องการขอวีซ่า เพื่อลดการตอบคำถามในห้องไกลบ้านเพราะในแต่ละวันมีคนถามเรื่องวีซ่ามากมาย และเพื่อให้คนที่ไม่รู้เรื่องเหมือนเราได้อ่าน อ่านแล้วต้องเข้าใจ แล้วทำได้เอง โดยเราต้องศึกษารายละเอียดให้เข้าใจอย่างถ่องแท้จึงจะเขียนได้ อธิบายอย่างง่าย ๆ เป็นขั้นตอน แบ่งเป็นเรื่องเป็นหมวดหมู่ รวมทั้งแปะ link ที่เกี่ยวข้องให้ด้วย ไหนจะจุดเล็กจุดน้อยเครื่องหมายต่าง ๆ ที่ต้องระมัดระวังในการกรอกแบบฟอร์มไม่งั้นจะมีปัญหากับระบบของแบบฟอร์ม ซึ่งเราไม่คิดว่าจะ search หาที่ไหนได้เพราะเป็นชิ้นงานเกิดจากประสบการณ์ของเราเอง เหมือนเราทำรายงานขึ้นมาฉบับนึง พอปรับระบบการขอวีซ่าใหม่ เราก็ต้องตามศึกษาวิธีการที่เปลี่ยนแปลงไปซึ่งมีความซับซ้อน มีขั้นตอนมากขึ้น แต่จะเขียนยังไงให้อ่านแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องยาก ไม่งั้นคนที่จะขอคงถอดใจแล้วไปจ้างพวกบริษัทรับทำวีซ่ากันหมด เสียเงินแพงเปลืองเงินเปล่า ๆ เราไม่ได้ทำงานในสถานทูต ไม่มีความเกี่ยวข้องกับสถานทูตนะคะ คุณคิดว่าเราทำแบบนี้เพื่ออะไร งานที่ถูกเขียนขึ้นมาใหม่เช่นนี้จะถือว่าเป็นของ ๆ เราได้หรือไม่ ถ้าเรา copy มาจากเว็บไซด์ของสถานทูตอย่างที่คุณเอามาแปะให้ดู เราจะไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะ ถ้าใครอ่านข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บของสถานทูตแล้วเข้าใจก็ดีค่ะ ดีใจด้วย เพราะเราไม่เคยเข้าใจค่ะ ตอนนี้ก็ได้แต่ขอให้ทุกคนโชคดีอ่านแล้วเข้าใจละกันนะคะ คุณ PaNok@Philharmonic คะ ปลอดภัยหรือปิดกั้น ขอตอบว่า Blog เป็นสิทธิของเจ้าของ Blog ค่ะ ในเมื่อเราเป็นคนผลิตงานชิ้นนึงขึ้นมา เราก็มีสิทธิที่จะเผยแพร่หรือหยุดเผยแพร่ได้ และคนที่มีอมยิ้มกับไม่มีอมยิ้มตอนนี้มีสิทธิเท่าเทียมกันแล้วค่ะ ขอบคุณหลาย ๆ ท่านที่ร่วมแสดงความคิดเห็น ขอบคุณ คุณ Adore คุณช่างไฟ คุณScaRECroW คุณ vanderzaz ที่ช่วยยกตัวอย่างให้ปล่อยวาง... จะพยายามนะคะ ขอบคุณคุณเป้ที่ช่วยอธิบายความรู้สึกได้อย่างตรงใจมาก ๆ เลยค่ะ   แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 49 18:05:18 แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 49 17:46:56 จากคุณ : Susie - [ 1 ต.ค. 49 17:36:55 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ผมก็ไม่คล้อยตามคุณเป้สักเท่าไร ต้นแอบเปิ้ลอยู่ในบ้าน คุณจะให้ใครหรือไม่ให้ใครก็ได้ ถ้าไม่ให้ใครก็เข้ามาเอาไปไม่ได้ นอกจากปีนรั้วเข้ามาขโมย ถ้าบ้านไม่มีรั้ว ก็ต้องบุกรุกเข้ามาอยู่ดี บทความลงในอินเตอร์เน็ท ไม่ได้อยู่ในบ้าน มันอยู่ในพื้นที่สาธารณะ คคห.แรกของคุณช่างไฟ ชัดเจนในตัวเองอยู่แล้ว ยกตัวอย่างว่า ถ้ามีใครค้นหาคำว่า "วีซ่า USA" บล็อกของคุณ Susie ก็น่าจะปรากฏออกมาให้เห็นด้วย แต่เราค้นหาต้นแอบเปิ้ลต้นที่คุณเป้บอกในอินเตอร์เน็ทไม่ได้ การเปรียบเทียบกรณีนี้กับทฤษฏีต้นแอปเปิ้ลจึงไม่น่าจะใกล้เคียงกับเรื่องที่เกิดขึ้นเท่าไรนัก การตอบที่ผ่าน ๆ มา สิ่งที่ผมต้องการจะสื่อก็คือ คุณ Susie เธอสร้างกุศลเล็ก ๆ สำหรับโลกใบนี้ แต่เป็นกุศลใหญ่ ๆ สำหรับผู้ต้องการความช่วยเหลือ มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผู้ที่เดือดร้อน ผมเชื่อว่าคุณ Susie เธอก็เกิดความปิติ ที่ได้รู้ว่าสิ่งที่เธอทำนั้น เป็นประโยชน์กับเพื่อนมนุษย์ ผมไม่อยากให้เธอต้องรู้สึกไม่สบายใจ เพราะความเลว ความไร้มารยาทของคนไม่กี่คน พฤติกรรมเลว ๆ ที่เกิด มันทำให้ "ความปลื้มปิติ" แปดเปื้อนด้วยโทษะ มันไม่คุ้มกันเลย แล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคือสำหรับผมก็คือ น้ำใจที่คุณ Susie เอื้อเฟื้อด้วยการให้ความรู้เป็นวิทยาทานนี้ ผมรู้สึกว่าไม่มีความแตกต่างอะไรเลยกับที่พระเวสสันดร ให้กัญหาชาลีแก่ชูชก เพราะผมเชื่อว่า การเสียสละ ไม่ว่าจะน้อยหรือมาก ใหญ่หรือเล็ก มันก็คือการเสียสละ จำนวนและขนาดหรือประเภทสิ่งของเท่านั้นเองที่ทำให้ดูแตกต่าง จากคุณ : ScaRECroW - [ 1 ต.ค. 49 18:24:27 A:69.255.141.91 X: ]

ความคิดเห็นที่ 48 เป็นกำลังใจให้คุณ Susie ครับ จากคุณ : bugsong - [ 1 ต.ค. 49 18:28:50 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ต้องต่ออีกนิด ผมเคยแปลงาน ลงเว็บไซท์ (ของทางราชการ) วันหนึ่งไปพบว่า อาจารย์คนหนึ่ง ของคณะรัฐศาสตร์ รามฯ ก๊อปงานของผมไป ลงในชีท รายวิชาที่เขาสอน ชีทนั้นขาย เขาก๊อปไปเพสท ทั้งหน้า แต่ตัดชื่อผมออก ขนาดที่ผมพิมพ์ผิด เขาก็ผิดที่จุดเดียวกัน ผมโกรธมาก เพราะ 1 เขาเป็นอาจารย์ 2 เอาไปใช้ไม่ว่าหรอก แต่ไม่ยอมแสดงการรับรู้ถึงที่มา 3 ตัดชื่อผมออกอีก มันแสดงให้เห็นว่า เขาต้องการขโมยไปใช้ประโยชน์ ทั้งในด้านการขายได้เงิน และเป็นเรฟเฟอร์เร๊นของตนเอง ที่อาจจะใช้เพื่อการขอตำแหน่ง ผศ. ได้ในอนาคต ผมโกรธมาก ในตอนแรก ก็กะว่าจะจัดการขั้นเด็ดขาดเลย จะทำหนังสือถึงอธิการบดีเลย ต่อมาความโกรธผมก็คลาย แค่เดินไปหา แล้ว "สั่ง" เขาว่า เขาต้องทำหนังสือขอโทษ และหนังสือขอบคุณให้แก่หน่วยงานของผม ผมสามารถทำให้เขาถูกไล่ออก และติดคุกได้ และมันจะเป็นคดีความข้ามกระทรวงเลยทีเดียว เรื่องไม่เล็กแน่นอน มหาวิทยาลัยจะเสียชื่อ คณะจะเสียชื่อ แต่ผมอาจจะได้รับชื่อเสียง อาจจะได้รับการเสนอเงื่อนไขเป็นเงินทอง เพื่อยุติเรื่องราว แต่ท้ายสุดผมนึกไปนึกมาก็ไม่รู้จะทำไปทำไม มันบาป เพราะมันจะมีทรากปรักหักพังเกิดขึ้นมากมาย ชีวิตคน (เลว) คนหนึ่ง สถาบันทางวิชาการคณะหนึ่ง และมหาวิทยาลัยที่มีนักศึกษามากที่สุดในประเทศเทย อีกแห่งหนึ่ง ผมก็เลยเลือกไม่จัดการขั้นเด็ดขาด จริงอยู่ มันเท่ากับเป็นการ ปล่อยให้คนชั่วลอยนวล ท้ายสุดผมก็ปล่อยให้เรื่องจบ เรื่องนี้ อาจารย์ที่ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หลายท่านได้รับรู้ อาจารย์ท่านหนึ่งบอกผมว่า "คุณเป็นคนที่มีความเมตตามาก" ผมก็ตอบท่านไปว่า สำหรับผมหากใครทำผิดกับผม ผมจะให้โอกาสเขาอย่างน้อย 1 ครั้ง แล้วอย่าให้มีครั้งที่ 2 ตามมา นั่นเป็นกรณีแรก กรณีต่อมา บทความของผมที่เขียนลงแม็กกาซีนเล่มหนึ่ง 8-9 ปีแล้ว ถูกนำไปลงเว็บบล็อก ของใครก็ไม่รู้ ผมเผอิญไปพบเข้าด้วยตนเอง อ่านดู เขาไม่ได้อ้างอิงว่าเอามาจาก แม็กกาซีนเล่มไหน แต่เขาบอกว่า บทความนั้น ใครเป็นคนเขียน ผมก็ไปตอบในบล็อกของเขาว่า ดีใจที่เขาช่วยนำมาเผยแพร่ต่อ เพราะแม็กกาซีนมันก็หลายปีแล้ว ปิดตัวไปแล้ว คนอ่านก็มีเพียงไม่กี่คน เขาเอามาใส่ในบล็อก ก็ทำให้มีคนได้อ่านเพิ่มขึ้นอีก ถือเป็นกุศล เพราะฉะนั้น สิ่งที่คุณเป้กล่าวทำนองว่า ใครไม่เคยโดนไม่มีวันเข้าใจ น่ะ I'm not one of them. <- - - ประโยคเท่ห์ จาก The Xmen หุหุ จากคุณ : ScaRECroW - [ 1 ต.ค. 49 18:57:59 A:69.255.141.91 X: ]

ความคิดเห็นที่ 50 ถ้ายังทำใจไม่ได้ ก็ขอให้ 1. เขียนเสร็จแล้วเก็บใส่ลิ้นชักล็อกกุญแจไว้ จะไม่มีใครก็อปปี้งานของคุณได้ หรือ 2. พิมพ์หนังสือขาย งานของคุณจะได้รับความคุ้มครองจาก พรบ.ลิขสิทธิ์ทันที จากคุณ : ช่างไฟ - [ 1 ต.ค. 49 20:48:12 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ก็ยังว่า ว่าทำไมเข้าบล็กคุณ susie ไม่ได้ คือหนูก็หาความรู้มาจากที่นั่นแหละค่ะ เพื่อนแนะนำมาว่าให้ไปหาดูบล็อกของคุณ susie แต่ช่วงนี้สอบ แลยไม่ได้ไปอ่าน พอจะอ่านอีกที อ่าว หายไปไหนไม่รู้ จิงๆแล้ว มันก็กระทบกับคนอื่นอีกหลายคนมากเลยนะคะ ที่มีคนมาทำอย่างนี้ แล้วอย่างนี้ ถ้าหนูจะเข้าไปดูข้อมูลนี่ต้องทำยังไงบ้างหรอคะ ขอถามตรงนี้เลยละกันนะคะ คือหนูกะจะไปเมกา มีนาหน้าน่ะค่ะ แต่กะจะทำวีซ่าตุลานี้ ทำได้มั๊ยละ แล้วต้องเอาอะไรบ้าง กะว่าจะจองคิดแล้ว แต่รู้สึกกลัวขึ้นมาซะงั้น อยากรบกวนคุณ susie กับเพื่อนๆห้องไกลบ้านช่วยหน่อยน่ะค่ะ จากคุณ : la_veander - [ 1 ต.ค. 49 23:25:05 A:202.28.248.134 X: ]

ความคิดเห็นที่ 52 ขอให้กำลังใจคนสวยรวยน้ำใจ แบบคุณ Susie อย่าท้อถอย เป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจครับ ว่าเราคือ Master และ เป็น ตัวจริงเสียงจริง บอกตรงๆในเรื่องการขอ Visa  USA คุณเป็น Reference ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง อละ คนในไกลบ้าน ก็รู้จักคุณ ในฐานะผู้ให้ ที่มีน้ำใจงามครับ ถ้าเราคิดได้ว่า เป็นการทำบุญครับ เราจะสบายใจ เนื่องจาก มันควบคุมยากจริงๆ เด็กบ้านนอก Version อยากติดต่อ คุณ Susie ไปประกวดนางสาวไทย จากคุณ : เด็กบ้านนอก (Cozmen) - [ 1 ต.ค. 49 23:52:09 ]

ความคิดเห็นที่ 53 จขกท กำลังบำเพ็ญทานบารมีและเป็นการฝึกละตัวกูของกูอีกด้วย เรามาช่วยสนับสนุนและให้กำลังใจกันดีกว่า อานิสงส์ของการสร้างทานแบบนี้ ผู้ให้เกิดมาอีกกี่ชาติก็จะเป็นผู้มีปัญญาดีและก็จะมีบริวารมาก คิดเสียว่าเราจุดคบไฟให้แสงสว่าง พอมีคนมาขอต่อคบไฟนั้น ไฟของเราไม่ได้สว่างน้อยลงเลย กับยิ่งสว่างมากขึ้นด้วยคนทั้งหลายช่วยกันเพิ่มแสงสว่างนั้น บุญที่จขกทสร้างไม่มีใครลักขโมยเอาไปได้ อย่าใจเสีย เสียดายเลย... จากคุณ : ๘ - [ 2 ต.ค. 49 00:08:28 A:125.24.247.248 X: ]

ความคิดเห็นที่ 54 ขอระบายความในใจด้วยคนค่ะ... เรื่องนี้...ตอนแรกก็ไม่เห็นด้วยที่มีคน copy ข้อมูลจาก blog ของคุณ Susie คือ ถ้าบอกกันสักคำว่าจะเอาไปช่วยเผยแพร่และบอกว่าเอามาจากที่ไหน หรือไป rewrite ใหม่ ก็โอเคนะคะ และแถมมีบางคนบอกว่าข้อมูลเหล่านี้หาที่ไหนก็ได้มีเยอะแยะ...ก็เสียใจนะคะ...บางคนอาจจะไม่รู้ว่าที่เราจะทำ blog นั้น ทำ "ด้วยใจ" จริงๆ...แบบช่วยกันคนละไม้คนละมือ แล้วก็เอาไปฝากแปะไว้ใน blog ของคุณ Susie ด้วยเจตนาอยากที่จะช่วยคนที่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรและจะต้องทำอะไรบ้าง...(เคยไม่รู้มาก่อน จึงเข้าใจความรู้สึกของคนที่ไม่รู้จริงๆ) พอมีเรื่องนี้เกิดขึ้นก็ต้องกลับมาคิดใหม่อีกรอบว่า เจตนาของเราจริงๆ คืออะไร? คือ ต้องการช่วยเหลือคนอื่นใช่ไม๊? กอปรกับคำแนะนำและให้ข้อคิดจากคุณช่างไฟ (ขอกรี๊ด 3 ที...ปลื้มค่ะ), คุณ ScaRECroW, และน้อง vanderzaz...ยิ่งย้ำเตือนสติให้เห็นว่า ไม่ควรเอา "คำพูด" หรือ "การกระทำ" ของคนบางคนมาทำให้เจตนาเดิมของเราเปลี่ยนไป...เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นจะตกไปอยู่กับคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ (ตาดำๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือ) มากกว่า... ดังนั้น...พี่ฝากถึงน้อง Susie ด้วยว่า...จิตใจเราต้อง "พกหิน" อย่า "พกนุ่น"...และจริงๆ แล้วเจตนาของเราก็คือ ต้องการช่วยเหลือคนอื่น ความสุขของเราก็อยู่ตรงนี้แหละ...อย่าให้คำพูดหรือการกระทำของคนอื่นมาบั่นทอนความตั้วใจดีของเราเลย...ในเมื่อเราตัดสินใจที่จะเอาข้อมูลลงใน blog นั้นแล้ว ก็ต้อง "ทำใจ" อย่างเดียว...พี่เชื่อว่ามีคนเห็นความดีที่เราทำค่ะ...(ถึงแม้จะโดนหมั่นไส้บ้าง...ก็ช่างเถอะ!) ดูเจตนาของคุณช่างไฟและคุณ ScaRECroW สิคะ....โดยเฉพาะคุณช่างไฟ ปกติจะไม่ออกความเห็นในกระทู้เป็นรอบที่ 2 (ถ้าไม่ใช่กระทู้การเมือง).... ขอบคุณคุณทั้งสองคนนะคะที่ช่วยรั้งสติไม่ให้ "น้อยใจ" ไปกันใหญ่... สุดท้าย...ขออนุญาตถามคุณ ScaRECroW ว่า DC เป็นอย่างไรบ้างคะ? ซื้อโทรศัพท์หรือยังคะ? จากคุณ : BMW (BlackmagicW) - [ 2 ต.ค. 49 00:28:42 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ^ ^ ^ ความคิดเห็นที่ 41 อย่างร่างกายผมเนี่ย ตอนนี้ผมก็ยังสงวนสิทธิ์อยู่นะ เพราะยังต้องใช้งานอยู่ แต่ถ้าผมตายเมื่อไร ผมยกให้เลย ใครอยากได้อะไรมาแคะเอาไปได้เลย ให้ทุกชิ้น จะตัดจะเฉือนจะแงะอะไรเอาไปได้หมด ส่วนเศษที่เหลือๆก็เอาใส่ถุงก๊อบแก๊บส่งให้ครอบครัวผม เพื่อเอาไปเผาตามพิธีทางศาสนาด้วยละกัน ผมไม่รู้จะหวงไว้ทำไม ในเมื่ออยู่กับเราก็ไม่ได้มีประโยชน์อีกต่อไป แต่ในทางกลับกัน มันไปอยู่กับคนอื่น ยังเกิดประโยชน์มากกว่า จากคุณ : ช่างไฟ - [ 1 ต.ค. 49 07:53:47 ] -------------------------------------------------------- Who needs your body? Even though I don't, I do wanna know whether your body really has a truly heart or not! Khun ScaRECroW Are you misunderstood something? If you are not, maybe me. Mrs. Vanderzaz Stop using your son log in, please? But if it was really Vanderzaz, I appreciated your comment and hope you could do what you said! How do you enjoy surviving in L.A. so far, anyways? จากคุณ : Coconut Dance - [ 2 ต.ค. 49 01:03:55 A:70.231.232.128 X: TicketID:115477 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ไปกันใหญ่แล้ว... คุณ Coconut Dance ไม่น่ารักเลย...พี่ไม่เห็นด้วยนะคะสำหรับความเห็นที่ 55... คนเราเสียใจ, โกรธ, น้อยใจ ได้ แต่ก็ควรกลับมาคิดด้วยว่า ที่คนอื่นๆ พูดหรือแนะนำนั้นเป็นอย่างไร? ขอตอบแทนคุณช่างไฟ...พี่เองก็บริจาคทั้งร่างกายและดวงตาหากพี่ตาย...และพี่ก็เชื่อว่าร่างกายที่เราบริจาคนั้นจะเป็นประโยชน์แก่คนอื่นแน่นอน...และเจตนาของคุณช่างไฟก็ต้องการเตือนสติว่า...ถ้าอะไรที่เป็นประโยชน์แก่คนอื่น ก็อย่าไปหวงเลย ตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้...อันนี้พี่เห็นด้วยนะคะ... ขอตอบแทนคุณ ScaRECroW....พี่ว่าคุณ Coconut Dance นั่นแหละที่เข้าใจผิด เพราะว่าคุณ ScaRECroW ต้องการจะชี้ให้เห็นอีกมุมมองหนึ่ง ถ้าเขามีเจตนาไม่ดีแค่เข้ามาในกระทู้หนเดียวแล้วก็ไปก็ได้...ไม่จำเป็นต้องมานั่งอธิบายหรือยกตัวอย่างเรื่องต่างๆ ให้อ่านกัน... ขอตอบแทนคุณ Vanderzaz... ถึงแม้จะเป็นคุณแม่ของน้อง Vanderzaz  มาตอบ พี่ก็เห็นด้วยว่าเป็นคำแนะนำที่ดี....หรือถ้าเป็นตัวของน้อง Vanderzaz  พี่ก็ยังยืนยันว่าเป็นคำแนะนำที่ดีค่ะ... พี่ไม่อยากให้เรื่องเล็กๆ กลายเป็นเรื่องใหญ่โตและผิดใจกันไปมากกว่านี้นะคะ สรุปก็คือ....ถ้าเห็นว่า "ข้อมูล" นั้นเป็นข้อมูลที่สำคัญก็อย่าใส่ลงไปใน blog หรือ myspace เก็บใส่ file ไว้ใน computer ที่บ้านดีกว่า...แต่ถ้าอยากใส่ blog ก็แปลว่าต้องการเผยแพร่ให้คนอื่นได้รับทราบ ก็ต้อง "ทำใจ" หากเกิดการคัดลอกแบบนี้เกิดขึ้น... ถ้าจะโกรธพี่อีกคน...พี่ก็ไม่ว่านะคะ... แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 49 03:25:20 จากคุณ : BMW (BlackmagicW) - [ 2 ต.ค. 49 01:43:06 ]

ความคิดเห็นที่ 57 I agree with K. ช่างไฟ in this case.... If your intent is purely about giving, don't expect all people to recognize or honor you... There will be some (small number) people taking advantages from your works.... If you cannot tolerate it, you have to sacrifice the giving part... It's your choice... Mine? I choose to continue my things which I've believed that they are good things.... P.S. To K. Coconut Dance, organ donations are much more commendable acts than VISA.... If my kids needed an organ to extend their lives and K. ช่างไฟ's organ were the matched one... I would pay tribute to him everyday.... American VISA? Is that a big big deal than lives? แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 49 04:04:44 จากคุณ : amatuer translator - [ 2 ต.ค. 49 03:05:53 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ที่จริงคุณSusie น่าจะภูมิใจมากๆเลยนะคะที่ข้อมูลจากblog ของคุณช่วยเพื่อนร่วมชาติในการเตรียมตัวขอวีซ่าอเมริกาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใครมากมายหลายคนได้ตั้งกระทู้ขอบคุณคุณเป็นการส่วนตัว มากที่สุดในห้องนี้เลยก็ว่าได้ ความสำเร็จของคุณมันบรรลุไปแล้ว จงภูมิใจเถิด เรื่องอื่นเป็นเรื่องประติ๋วเดียว อย่าคิดมากเลย แค่ยอมรับสักนิดหนึ่งว่าตามกม. ไม่ว่าคุณจะสร้างสรรบทความอะไรขึ้นมาด้วยตัวเอง แต่เจ้าของลิขสิทธ์ที่แท้จริงคือผู้ที่จดลิขสิทธ์ตามกม.ก่อน บางทีก็เป็นเรื่องที่ขัดใจใช่มั๊ยคะ ในโลกแห่งความเป็นจริงมันเป็นอย่างนั้น ขนาดกระเป๋ายี่ห้อ Kipling ที่สร้างสรรค์โดยศิลปินชาวเบลเยี่ยม ยังตกเป็นของพ่อค้าคนไทยเลยค่ะ จากคุณ : ตาน - [ 2 ต.ค. 49 03:43:19 A:84.197.61.55 X: TicketID:105576 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ตอบคุณ BMW ครับ 1 ตกเครื่องบินที่ JFK เพราะกระบวนการของ TSA กระเป๋าไปได้ คนไปไม่ได้ (อาจจะเป็นเพราะไม่ได้เบ่งด้วย A1) 2 ต้องไปขึ้นเครื่องที่ ลากัวเดีย มา ดีซี 3 ทำอะไรยังไม่ได้เลย ต้องรอการโปรเซสเอกสารที่ประกอบด้วย - รายงานตัว สอท. - รายงานตัว State Dep. - รายงานตัว Pentagon - รอขอ SSN - รอ State Dep ตอบรับ ถึงจะเปิดบัญชีธนาคารได้ ถึงจะทำใบขับขี่ได้ และอะไรอีกหลายอย่าง 4 โทรศัพท์ซื้อเองไม่ได้ เพราะต้องซื้อแบบ Diplomat 5 ตอนนี้ ใช้โทรศัพท์ เติมเงิน ของออฟฟิส ที่ซื้อเก็บไว้ ปกติเขามี 4 เครื่อง เอาไว้ส่งไปให้คนที่มาราชการ ใช้ คืออยู่รัฐไหน ก็ส่งเมล์ไปให้ที่โรงแรมเลย เขาก็จะสื่อสารได้ 6 เข้าอพาร์ทเม้นแล้ว เป็นห้องนอนว่าง ๆ ห้องโถงว่าง ๆ ไม่มีอะไรเลย มีแต่ของติดห้องพวกตู้เย็น เตาอบ ไมโครเวฟ หลอดไฟ 7 ซื้อของไปร่วม 1000$ แล้ว ยังไม่เห็นอะไรเป็นเรื่องเป็นราวเลย 8 วันนี้ได้โต๊ะกินข้าว เก้าอี้มาแล้ว ค่อยยังชั่วหน่อย ไม่ต้องนั่งกับพื้นให้หลังงอ 9 ยังซื้อรถไม่ได้ เพราะไม่มีใบขับขี่ 10 เสาร์-อาทิตย์ ไปสอบ ป โท ราม (ภาคต่างประเทศ) มา คร่าว ๆ ก็เท่านี้ แต่ก็แปลกใจ ทำไมมาเมกาแต่ละครั้งเจอแต่เรื่อง โดยเฉพาะ ตกเครื่องบินเนี่ย ซ้ำสองแล้ว จากคุณ : ScaRECroW - [ 2 ต.ค. 49 08:01:19 A:69.255.141.91 X: ]

ความคิดเห็นที่ 60 เป่านกหวีด ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!! รักกัน รักกัน รักกัน รักกัน รักกัน รักกัน รักกัน รักกัน รักกัน รักกัน รักกัน รักกัน รักกัน รักกัน รักกัน รักกัน รักกัน รักกัน รักกัน รักกัน รักกัน รักกัน รักกัน นู๋รักอาเจ๊ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทั้งหลายเท่ากันหมดทู๊กกกกก คน หันมารักกัน รักน้องสงสัย ดีกว่าทะเลาะกัน เนอะๆๆๆๆๆ จากคุณ : น้องสงสัย - [ 2 ต.ค. 49 08:31:23 A:64.31.188.177 X: TicketID:103567 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ขออนุญาต จขกท. คุยกับคุณ ScaRECroW (เพราะคุยกันหลังไมค์ไม่ได้น่ะ)... เรื่องตกเครื่องบินในอเมริกาเป็นเรื่องปกติค่ะ แต่ตัวเองเคยเจอแค่หนเดียวนะคะ ตอนนั้นจะไป Las Vegas (ไปดู concert Elton John) เจอเครื่องบินยกเลิกเที่ยวบินซะงั้น...เลยต้องเปลี่ยนเป็นขับรถจาก CA ไป Las Vegas แทน.... อาทิตย์ที่แล้วคุณสามีก็ไปราชการที่ DC เพิ่งกลับมาวันเดียวกับที่คุณ ScaRECroW เดินทางมาถึงค่ะ...เห็นบอกว่าช่วงนี้ DC คึกคักเพราะขึ้นปีงบประมาณใหม่ นักการเมืองและ senator มาทำงานกัน (โรงแรมในเมืองเลยเต็ม)... ถ้าว่างๆ มาเที่ยวแถวๆ CA อย่างลืมส่งข่าวมานะคะ...จะชวนคุณ "นายคลิค" มายืนรอรับอีกคนค่ะ...และขอบคุณนะคะสำหรับความคิดเห็นดีๆ ...ขอบคุณจริงๆ ค่ะ... จากคุณ : BMW (BlackmagicW) - [ 2 ต.ค. 49 08:42:22 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เห็นใจคุณ Susie เหมือนกันค่ะ เพราะเราก็เข้าไปอ่านบล๊อกเกี่ยวกับวีซ่าอเมริกา ได้ความรู้มากเลย แต่อาตู้ไมได้ก๊อบปี้มาใส่ในเครื่อง แต่ยังอ่านไม่ทันจบ ก็เข้าไม่ได้ซะแล้วอ่ะ แต่ก็เห็นด้วยกับคุณ BMW (BlackmagicW) กับคุณช่างไฟเหมือนกันค่ะ พกหิน อย่า พกนุ่น จากคุณ : อาตู้อาเตว - [ 2 ต.ค. 49 09:09:19 ]

ความคิดเห็นที่ 63 นับถือน้ำใจคุณซูซี่นะค่ะ เพิ่งเคยเข้าไปอ่านครั้งหนึ่ง ตอนนี้เข้าไม่ได้แล้ว... สิ่งที่คุณช่างไฟและคนอื่น ๆ เขียน มันก็จริง นะค่ะ   การให้โดยไม่หวังผลตอบแทน เป็นการให้โดยแท้จริงนะค่ะ ใครก๊อปปี้ไป ก็ให้เขาทำไปเถิ๊ด  คิดซะว่า เขาช่วยเรา ช่วยเหลือคนอื่น โดยการนำผลงานเราไปเผยแพร่ ถึงแม้จะไม่มีใครรู้ว่าเราเป็นคนเขียนก็ตาม  ตราบใดที่มันไม่ได้ทำร้าย หรือทำความเสียหายให้ใคร  การปิดทองหลังพระ สบายใจดีออกค่ะ... จากคุณ : gw - [ 2 ต.ค. 49 09:45:02 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ถูกคัดลอกไปแบบนั้น เป็นเราจะภูมิใจมากกว่านะคะ ที่ผลงานเราดี เราดัง จนคนเห็นประโยชน์ ให้ความสำคัญจนนำไปลอก เราก็มีผลงานเขียน และถูกนำไปลอกเช่นกัน ไปแปะในไดอารี่ส่วนตัว เราก็ไม่ได้โกรธอะไร กลับรู้สึกภูมิใจอย่างที่บอก ข้อมูลของคุณซูซี่มีประโยชน์ต่อทุกๆ คนมาก ใครๆที่อ่านแล้วก็ชื่นชมคุณ คุณเองก็มีความสุขที่ได้ " ให้"  เราอยากให้คุณยิ้ม แล้วให้อภัยคนนั้น แล้วคุณจะมีความสุขมากขึ้นค่ะ ขอบคุณคุณซูซี่ด้วยนะคะที่เขียนข้อมูลให้ประโยชน์กับเราเช่นกัน เพราะเราก็กำลังรอสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาอยู่ ได้ไปอ่านblog ของคุณบ่อยๆ หวังว่า...พวกเราทุกคน คงได้อ่านข้อเขียนที่มีประโยชน์เหล่านั้นอีกครั้งนะคะ :) จากคุณ : ไอบีม - [ 2 ต.ค. 49 10:05:26 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ^ ^ ^ Oh yeah yeah ...... I might be dumb somehow! Sorry for misunderstanding something. Let it goes on the folk’s way. For me, it’s enough! P E R I O D จากคุณ : Coconut Dance - [ 2 ต.ค. 49 23:09:38 A:70.231.240.107 X: TicketID:115477 ]

ความคิดเห็นที่ 66 เข้ามาอีกรอบครับ พอดีคุณซูซี่หลังไมค์ไปขอบคุณน่ะครับ ผมมีความเห็นในมุมมองของผมนิดนึง หวังว่าจะไม่เป็นการ "ต่อความยาว สาวความยืด" กันต่อไปหรอกนะครับ ผมมองในแง่ดีนะ เพราะถ้าเราใช้ลิงก์จากหน้านาย admin (ของ web นั้นนาครับ อิอิ) มา มันก็ต้องมาเข้าที่ blog ของคุณซูซี่อยู่ดีใช่ไหมครับ ยังไง user ก็รับรู้ได้ว่าอันนี้ มันเป็น blog ของใคร เขียนไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ยิ่งถ้าเป็นบรรดา "ขา" ทั้งหลายในไกลบ้าน ก็คงไม่ต้องสาธยายกันมากมาย แบบว่าเจ๊ซูซี่น่ะ hot ซะ! ใช่ไหมครับ? หรือใครจะเถียง? สำหรับความเห็นต่างๆ ผมว่ามันก็อย่างนี้แหละครับ บางครั้งเราอาจตีความมากไป เพราะบางทีเราก็กำลังบ่จอย หรือบางทีก็อาจกำลังอินเลิฟ อคติก็เลยเกิด (วกเข้าไปศาสนาซะได้) ก็เลยอาจจะเอนไปมา ตามประสาต้นอ้อลู่ลม ความเป็นจริงแต่ละท่านก็ปรารถนาดีต่อกันนะ เท่าที่ผมอ่าน คำพูด (หรือข้อความ) บางครั้งมันก็อาจจะไม่หวานหู (หรือหวานใจ) แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขา (หรือเธอ) จะไม่ได้ คุณหรอกนะ ผมเคยทำเรื่องขอวีซ่ามา เข้าใจเช่นกันว่ามันยุ่งยากมาก มีเรื่องหยุมหยิม รายละเอียดปลีกย่อยเยอะ ยิ่งตอนนี้เปลี่ยนไปใช้แบบใหม่แล้ว ก็เลยหาที่ปรึกษาที่ "โปร" ได้ยากหน่อย blog วีซ่าของคุณซูซี่ ได้รวบรวมเรื่องราวต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ ไขปัญหาเรื่องต่างๆ ของวีซ่าได้ ทำความกระจ่างให้ปรากฏ บวกกับที่น้องมะพร้าวมาช่วยแบ่งปันประสบการณ์การขอกรีนการ์ดอีก ผมต้องขอปรบมือให้ก่อนลาไปวันนี้นะครับ จากคุณ : bugsong - [ 5 ต.ค. 49 14:07:31 ]

ความคิดเห็นที่ 67 หลังจากที่ปิด blog เรื่องวีซ่าอเมริกาไประยะหนึ่งเพื่อปรับปรุงมาตรการความปลอดภัย จากที่ไม่เคยมีเลย ให้มีขึ้นมาบ้าง ขณะนี้ Blog "Visa : USA" เปิดให้บริการตามปกติแล้วค่ะ จากคุณ : Susie - [ 6 ต.ค. 49 22:32:14 ]

ความคิดเห็นที่ 68 http://v2.zmeal.com/board/index.php?showforum=41 http://www.pantip.com/cafe/food/topic/D4646475/D4646475.html หุหุ จากคุณ : เด็กกรุง - [ 18 ต.ค. 49 17:56:27 ]