ความคิดเห็นที่ 1 ฮิฮิ เจอมาแล้วคะ ถึงต้องกลับมาอยู่ที่นี่เป็นอีแจ๋วต่อไงคะ ถ้าสามีเป็นคนที่อยู่ประเทศที่พูดภาษาอังกฤษก็พอไหวคะ หรือประเทศที่คนไทยนิยมเรืยนภาษาก็พอไหว สามีดิฉันไม่ใช่อย่างว่า แถมไม่อยู่ในอายุเกษียน รัฐฯเค้าป้องกันสาวไทยเลี้ยงฝรั่ง หรือเข้ามาตักตวงคะ(เป็นความคิดที่ตลกมาก) ดิฉันเรียนจบสูงกว่าสามี พูดได้สามภาษา ทำงานออฟฟิต ได้รายได้น้อยกับสามีซึ่งเป็นพนักงานโรงงานแถวยุโรป แต่ครอบครัวเราไม่สามารถเลือกได้คะว่าใครจะทำหน้าทีอะไร เพราะรัฐฯไทยกำหนดให้หมดแล้ว สามารถออกนอกประเทศไทยทุกเดือนคะ แบบไปประเทศเพื่อนบ้าน แต่ดิฉันก็สงสารสามี มันไม่ใช่ชีวิตปกติของชีวิตคู่ที่ดี ดิฉันเลยตัดสินใจเป็นแจ๋วที่นี่ต่อคะ ถ้าคุณ apekop จะกลับไปอยู่จริงๆ รอเกษียณก่อนไม่ดีหรือคะ(ไม่รู้นะ)....ถ้าคุณตัดสินใจแล้ว ก็ขอให้โชคดีแล้วกันคะ จากคุณ : marzo (marzo) - [ 6 พ.ย. 49 02:26:17 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอแสดงความคิดเห็นแบบคนบางกลุ่มอาจไม่พอใจ เพระมีบางกลุ่มชอบมากที่บ้านเมืองเรามี คณะนี้เข้ามาควบคุม เพื่อจะยกเลิกระบบทักษิณ แต่สุดท้าย เห็น ตอนนี้ระบบทักษินก้อยังคงอยู่ ที่รัฐบาลใหม่สำเนามาหมดทุกโปรเจคเลย แต่ บางเรื่องที่ไม่น่าทำ ก้อแบบนี้ล่ะ ค่ะ เขายึดหลักสิทธิมนุษยชนค่ะ   เห็นข่าวตอนนี้ กำลังสมานฉันกับกลุ่ม ก่อการร้ายชายแดนอยู่ พร้อมออกอภัยโทษต่อกลุ่มโจรและขอโทษกลุ่มโจรค่ะ ลองไปหาอ่านดูค่ะ ตอนนี้เมืองไทยดูแปลกๆ ค่ะ อย่าพึ่งกลับเลย สำหรับ ผู้มีสามาเป้นฝรั่งนะค่ะ ดูไม่ค่อยน่าอยู่นักนะค่ะ ที่เมืองไทย ดูไม่ค่อยปลอดภัยนักค่ะ จากคุณ : jann - [ 6 พ.ย. 49 04:36:25 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อยากบอกว่ามันมีทั้งข้อดี และไม่ดีนะคะ มองในแง่นี้ดีมั้ยค่ะว่า ลองเอาตัวเองเป็นตัวอย่างก็ได้ เวลาเราจะเดินทางไปประเทศไหนๆดูมันลำบากยากเย็นซะเหลือเกินเวลาไปขอวีซ่าประเทศใหญ่ๆ บางทีโดนปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่มีเหตุผล เลยใช่มั้ยคะ และการที่เราจะมาอยู่ประเทศเค้ามันก็ไม่ง่ายสักเท่าไหร่นักหรอกนะคะ งานก็หาทำยากเค้าดูถูกเอเชีย ผิวเหลืองสมองไม่ดีอย่างนู้นอย่างนี้ มันก็ดีนะคะถ้าทางประเทศเราจะออกกฏเข้มๆจริงๆจังๆขึ้นมาบ้าง ต่างชาติจะได้เคารพเราบ้าง อีกอย่างคนไทยจะได้มีงานดีๆทำ ไม่ต้องสละต่ำแหน่งสูงๆให้ฝรั่งซะหมด ค่านิยมบูชาฝรั่งจะได้ลดๆลซะบ้าง อันกรณีของคนที่อยากกลับไปอยู่เมืองไทยจริงๆมันก็น่าเห็นใจค่ะ แต่มองภาพส่วนรวมแล้ว มันก็ดีนะคะ เพราะถ้าคุณกลับไปเมืองไทยบ่อยๆหลังๆเนี่ยคุณจะเห็นว่าฝรั่งที่อยู่เมืองไทย บางส่วนนะคะไม่ใช่ทุกคน บางส่วน(ใหญ่ด้วย)เป็นพวก Low Quality น่ะคะ มีความคิดแค่ไปอยู่เมืองไทยเอาสบาย ไม่รู้จักเคารพคนไทย ไม่ให้เกียรติ คนไทย ทั้งๆที่มาอยู่ในประเทศเราแต่ทำตัวกักคละ วางก้าม ว่าข้ายิ่งใหญ่ เงินข้าใหญ่ มันมีเยอะนะคะพวกนี้น่ะ ตอนนี้ฝรั่งที่มีคุณภาพและเป็นคนเก่งๆดีๆ ส่วนใหญ่หนีไปสิงคโปรกันหมดแล้วละค่ะ ดิฉันก็มีสามีฝรั่งค่ะ อยากกลับไปอยู่บ้านเหมือนกัน แต่คิดอีกที มันก็ดีนะคะประเทศเราจะได้ไม่กลายเป็นของตายให้ฝรั่งย้ายไปลงหลักปักฐานกันซะหมด แต่ยังงัยก็ขอเอาใจช่วยให้คุณหาช่องทางกลับไปอยู่เมือไทยได้ในที่สุดนะคะ เชื่อเถอะว่ากฏหมายน่ะมันจะมีช่องโหว่อยู่เสมอ แล้วสุดท้ายคุณจะมีทางออกที่ดีได้ล่ะคะ ปล.ขอแสดงความคิดเห็นนะคะ ไม่ได้ดูถูกหรือว่าใคร ไม่อ้างอิงหรือพาดพิงใครทุกคนมีเหตุผต่างกันไป มีที่มาที่ไปแตกต่างกันนะคะ   ยังไม่อยากมีชะตากรรมแบบ เจ้าของกระทู้ยอดฮิตเมื่ออาทิตย์ก่อนโน้นนะคะ น่ากลัวมากๆ แก้ไขเมื่อ 06 พ.ย. 49 05:59:47 จากคุณ : แสดงความคิดเห็นค่ะ (hamble pie) - [ 6 พ.ย. 49 05:36:26 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่คิดว่าเขาจะออกกฎหมายกีดกันคนมีสามีต่างชาติขนาดนั้นมั้งคะ คือถ้าจะเข้ามาอยู่ถาวรเลย ก็น่าจะทำวีซ่าเข้ามาเป็นเรื่องเป็นราว เป็น immigrant visa อะไรก็ว่าไป เหมือนที่ต่างประเทศก็เช่นกัน ต้องเป็นวีซ่า ผู้อพยพ ถ้าจะมาเที่ยวก็ใช้วีซ่าท่องเที่ยว ถ้าตั้งใจจมาอยู่จริงๆ ทำไมต้องใช้วีซ่าท่องเที่ยวแล้วออกไปต่อประเทศเพื่อนบ้านเดือนละครั้งด้วย เสียเวลาเปล่าๆค่ะ ทำไมฝรั่งที่เป็น expat ถึงอยู่เมืองไทยได้ เพราะเขามีวีซ่าทำงานที่ถูกต้องไงคะ อยู่กันสามปีห้าปี คิดว่ากฎหมายประเทศเราก็น่าจะเหมือนกับต่างประเทศคือ นำสามี หรือภรรยาชาวต่างชาติมาอยู่ด้วยกันได้ในประเทศไทย ลองสืบบค้นรายละเอียดกรณีนี้ดูก่อนไหม คิดว่ามีข้อยกเว้นนะ จากคุณ : yinnerella - [ 6 พ.ย. 49 09:53:30 ]

ความคิดเห็นที่ 5 กฎหมายนี้ไม่ได้ออกโดย คณะปฏิวัติอย่างที่เข้าใจนะคะ ออกมาจากรัฐบาลที่ผ่านมา แต่เพิ่งจะมีผลบังคับใช้ เห็นใจคุณ และเคยพูดเรื่องนี้ไปเเล้ว ในกรณีเลือกปฏิบัติระหว่างชายไทย ที่แต่งงานกับหญิงต่างด้าว และหญิงไทยที่แต่งงานกับชายต่างด้าว ชายไทยไม่ต้องแสดงหลักฐานอะไรมากเลย และภรรยามีสิทธิ์โอนสัญชาติตามสามีด้วย เคยพูดเรื่องนี้ไปนานแล้ว และถูกด่าไปนานเเล้วด้วยเช่นกันค่ะ ขำดี คิดในทางที่ดี ยังดีว่า เงินสี่หมื่นสองคนรวมกัน ถ้าผู้หญิงทำงานออฟฟิศในกรุงเทพ ตามปกติก็เกือบจะได้เเล้วนะ สามีช่วยหาอีกนิดหน่อย  แต่คนที่อยู่ต่างจังหวัด ทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ คงลำบาก เห็นใจคุณค่ะ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะว่ายังไง เรื่อง Visa run ทุกสามเดือน ดิฉันว่ามีข้อดีอยู่คือ ป้องกันไม่ให้พวกอาชญากรข้ามชาติ เข้ามาหนีในบ้านเราแล้วเเฝงตัวมาเป็นครูสอนภาษา พวกลวนลามเด็ก แน่นอนว่าเมื่อเขาล้อมคอกแบบนี้ คนดีๆ ก็โดนลูกหลงไปด้วย ตอนนี้เงิน400,000 บาทที่ต้องโอนมาจากต่างประเทศ ต่อปี ไม่พอแล้วเหรอคะ แล้วมันต้องเป็นเท่าไหร่ บางทีสภาพสังคมโดยรวมของบ้านเรา ดูได้จากกฎหมายที่ออกมานั่นเเหละค่ะ ได้แต่เซ็งนะ จากคุณ : mrs.night owl - [ 6 พ.ย. 49 10:01:42 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นด้วยกับคุณhamble pieและคุณหยินนะคะ จากคุณ : Favela - [ 6 พ.ย. 49 10:05:12 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถึงแม้สามีจะฝรั่งเหมือนกัน แต่เราเห็นด้วยกับรัฐบาลนะคะ เมื่อคุณสามีเป็นฝรั่ง ค่าใช้จ่ายอะไรต่างๆ ทางด้านวีซ่ามันก็ต้องให้สมน้ำสมเนื้อกับที่เราต้องเสียไปเวลาที่เราไปอยู่เมืองนอกค่ะ ไม่ใช่การกลั่นแกล้งฝรั่งหรอกนะคะ ทั้งนี้เงินที่เขาต้องการให้มีไว้เป็นการันตีนั้นก็ไม่ใช่ว่าเราจะต้องเสียไอ้สี่แสนบาทนั้นให้รัฐบาลนี่คะ เอาไว้เป็นประกันตัวเองแท้ๆ ฝรั่งที่มีการศึกษามีความรู้ ประกอบกับภรรยาที่มีการมีงานทำ สี่หมื่นต่อเดือนมันอาจจะไม่ยาก (ตามที่เขาพิจารณาไว้) เขาก็มีให้เลือกแล้วะนคะ คือมีเงินฝากต่อปีสี่แสนบาท หรือ เงินเดือนสองคนรวมกันสี่หมื่น ไม่น่ายากเกินไปนะคะ ค่าวีซ่าก็ไม่ถึงสองพันบาทนี่คะ ถูกกว่าค่าวีซ่าที่คนไทยต้องเสียในการพำนักอยู่ต่างประเทศอีก ดิฉันเข้าใจว่าเมืองไทยเป็นประเทศกำลังพัฒนาก็ไม่อยากให้คนจากประเทศที่พัฒนาถือโอกาสเข้ามาเสวยสวรรค์ด้วยการหลอกแต่งงานกะผู้หญิงไทย เอาเงินเข้ามาทิ้งไว้แล้วอยู่สบายๆ ด้วยเงินได้ที่มาจากธนาคารในประเทศของตัวเอง คุณทั้งสองคนรักกันจริงดิฉันว่าปัญหาหรืออุปสรรคอะไร ความรักก็ย่อมจะชนะได้ค่ะ อวยพรให้ด้วยค่ะ ดิฉันเองก็คงจะเจอปัญหาเดียวกันในอีกไม่ช้าไม่นานนี่แหละค่ะ จากคุณ : Smiley & Laurens - [ 6 พ.ย. 49 13:27:38 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นด้วยกับคุณ hamble pie อย่างยิ่งค่ะ จากคุณ : ktycoons (ktycoons) - [ 6 พ.ย. 49 14:31:49 ]

ความคิดเห็นที่ 9 การเปลี่ยนแปลงกฎหมายในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งน่าจะมีผลมาจากปัญหาที่หมักหมมมานานเรื่องมาเฟียฝรั่ง รวมถึงอาชญกร ที่แฝงตัวเข้ามาหาผลประโยชน์ในประเทศไทยทั้งแบบถูกและผิดกฎหมาย ไม่ใช่มาจากคมช.โดยตรง แม้ว่าการต่อวีซ่าของสามีในปีหน้า เราสองคนก็ต้องเจอปัญหานี้เหมือนกัน แต่โดยส่วนตัวแล้ว เห็นด้วยกับกฎหมายฉบับนี้ อย่างน้อยก็เป็นการสกรีนคนที่จะเข้ามาอยู่ในประเทศของเรามากขึ้นกว่าแต่ก่อน อย่างไรก็ดี ทุกปัญหามีทางออกค่ะ ค่อยๆคิด ค่อยๆศึกษาแล้วจะรู้ว่าในที่สุดแล้วมันต้องมีทางออก (ซิน่า) และโดยหลักมนุษยธรรมแล้ว ไม่มีใครอยากให้สามีภรรยาต้องแยกกันอยู่คนละประเทศค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : Never be Afraid to Dream - [ 6 พ.ย. 49 15:14:02 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณสำหรับความเห็นค่ะ ย้ำอีกนิดนึงว่า400000บาทที่เคยใช้เป็น extention visa 1ปี เป็นการันตี มันใช้ไม่ได้แล้วนี่สิคะ เพิ่งยกเลิกไปนี่เอง ดังนั้นไอ้เรื่อง เงิน4หมื่นบาทนี่แค่เปรียบเสมือนวีซ่าให้เค้าอยู่ต่อเท่านั้นเอง แต่working permit ยังไม่ได้นะ ต้อง6หมื่นขึ้น ง่ายๆเรยต้องลงทุนทำอะไรซักอย่าง เพื่อให้officially income เป็น40000+ เพราะกลัวเหลือเกิน ถ้าเกิดทำงาน แล้ววันใดวันหนึ่งตกงาน (ซึ่งอาจเป็นไปได้ เพราะเดี๋ยวนี้สัญญาว่าจ้างงานฝรั่งให้กันแค่ปีเดียวแล้วค่อยต่อใหม่ สัญญาว่าจ้างหลายๆปีเดี๋ยวนี้หายากมาก แทบจะไม่มีแล้ว)จะต้องออกนอกประเทศภายใน7วันทันที expat jobที่ดิฉันบอกหายาก เพราะสามีดิฉันเป็นวิดวะเขียนซอฟแวร์ เกี่ยวกับระบบแซทเทอร์ไลท์ ฟิวนี้ที่เมืองไทยหายากมากๆในไทยน่ะค่ะ (ถ้าเป็นพวกด้านmarketing รึอาจารย์สอนภาษา ยังพอมีโอกาสเยอะกว่า และสามีดิฉันไม่ใช่ native english speakerด้วย) นอกจากadapt ทำอย่างอื่นที่ความสามารถใกล้เคียง ถ้าเป็นสิงคโปร์นี่ยังพอโอเคค่ะ ยังมีงานด้านนี้เยอะ เคยเหมือนกันสมัครมาเป็นอาจารย์สอนวิดวะ(หาสาขาใกล้เคียง)โรงเรียนนานาชาติที่เมืองไทยอยู่ที่หนึ่ง เขียนสัญญาว่าจ้างกันเรียบร้อยแล้วสามีดิฉันก้อลาออกบริษัทที่ต่างประเทศแล้วด้วย หลังจากที่งานที่เมืองไทยได้เซ็นต์สัญญากันเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่า...จู่ๆเค้ามายกเลิกกระทันหัน บอกว่าเด็กที่โรงเรียนมีน้อยในปีนี้ จะเปลี่ยนให้เป็นพาร์ทไทม์แทน เลยไม่โอเค เพราะ จำนวนเงินเดือนพาร์ทไทม์ไม่พอกับการขอworking permit สุดท้ายต้องเริ่มต้นที่0 หางานเอาใหม่ในต่างแดนต่อ (ยุ่งอีก ลาจากงานเก่าแล้ว ต้องหาซื้อบ้านใหม่ เพราะงานใหม่อยู่ไกลกันคนล่ะเมืองเลย) แฟนดิฉันอารมณ์เสียมากๆ เรยไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเป็นครั้งที่2 ค่ะ ความรู้สึกของสามีดิฉัน เค้าแค่อยากมีหลักนิดนึงว่า จะไม่โดนทิ้งน้ำ ถ้าไปอยู่กับเราที่เมืองไทยค่ะ จากคุณ : apekop - [ 6 พ.ย. 49 17:48:13 A:81.83.124.66 X: TicketID:001572 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เอ ดิฉันอ่านกฏหมายล่าสุดของคุณ fonn กระทู้ในห้องใหญ่น่ะค่ะ เลยไม่รู้ว่าที่เขามาแปะเมื่อต้นเดือน มันโดนแคนเซิลไปแล้วมีกฏหมายใหม่ออกมาแทนแล้ว นำมาให้ดูกันบ้างนะคะๆ ไม่คอ่ยรู้เรื่องอะไรล่าสุดเหมือนกันค่ะ จากคุณ : Smiley & Laurens - [ 6 พ.ย. 49 19:28:34 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อ่านกระทู้นี้เมื่อคืน ทำให้นึกถึงคนรู้จักเลยโทรไปหา ว่ารู้เรื่องนี้หรือยัง ป้าแกอายุ 48 แล้วแต่งงานกับ ชาวเยอรมันวัยเกษียณ อยู่เปิดร้านชำเล็กๆ อยู่แถวสระบุรี-ลพบุรี มีบ้านหลังเล็กๆ กับรถเก่าๆ ( รุ่นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว) ป้าแกบอกว่า ยังไม่รู้หรอกเรื่องกฎใหม่อะไรพวกนี้ แกวันนี้จะให้ลุงเข้าเมืองไปดู แกบอกว่าถ้ากฎนี้เป็นจริง แกคงแย่ เพราะว่า รายได้ทั้งของลุงและของแกคงรวมกันไม่ถึง 40000 เราเลยถามแกไปว่า แล้วพอมีเงินสี่แสนไปขอวีซ๋าให้ลุงไหม แกบอกว่า ไม่มีหรอก ลุงเป็นแค่คนแล่เนื้อในเยอรมัน ตอนย้ายมาที่นี่ก็มีเงินไม่มาก ซื้อบ้าน ซื้นรถไปหมดแล้ว จะไปเอาที่ไหนสี่แสนมาขอวีซ่า แกฝากดิฉันมาโพสลงเน็ตว่า จะถาม คมช หรือใครก็ได้ที่รู้หรือเกี่ยวข้องงว่า "แกทำผิดอะไรค่ะ ทำไมต้องออกกฎบ้าๆ นี้มา ทำให้ครอบครัวแกแตกแยก" ทุกเช้าประมาณตี 5 แกกับลุงจะขับรถออกไปซื้อของเข้าร้านของชำแก ป้าแกมีลูกติด เรียนอยู่ มอ 6 ศิลปเยอรมัน ได้คะแนนเยอรมันสูงสุดในอำเภอ ตอนนี้เตรียมเอ็นเข้าศิลปกร เอกเยอรมัน ป้าแกบอก ลูกคนนี้เกือบไม่มีวันนี้แล้ว ถ้าไม่มีลุง เป็นชีวิตเรียบง่าย แต่มีความสุขมากๆ ทุกเดือนลุงกับป้า จะขับรถเก่าๆ นี้ไปสระเก้าเพื่อต่อวีซ่าให้ลุง จำได้ว่าลุงแกบอกว่า แกติดขัดข้ออะไรบอกอย่างไม่สามารถขอวีซ่าเกษียณได้ เลยต้องมาชายแดนทุกเดือน ดิฉันเคยเป็นเลขาให้เศรษฐีสวิตตอนอยู่กรุงเทพ ขอบอกว่า ชีวิตนายดิฉัน มีเงินเป็นร้อยๆ ล้าน แต่ไม่มีความสุขเท่ากับลุงกับป้าคู่นี่ค่ะ หลังจากอ่านกระทู้แล้ว เราก็เศร้าใจเหมือนกัน ทำให้นึกถึงตัวเอง เราเองกับแฟนก็ต่อสู้เรื่องวีซ่าในฮอลแลนด์ จะห้าปีแล้ว เพราะไอ้กฎบ้าๆ นี่เหมือนกัน เงินตัวเดียวเท่านั้นหรือ ที่จะสามารถกำหนดให้ใครสามารถอยู่ในประเทศได้ เวลาเห็นใครต้องโดนพรากผัวพรากเมีย เราจะมีความรู้สึกมากๆ ใครไม่เคยโดนไม่รู้หรอกว่าเป็นยังไง เลยขอใช้พื่นที่ในกระทู้บ่นหน่อยนะค่ะ เพราะคิดว่าถ้ากฎนี้จะใช้จริงๆ คงจะมีหลายคู่ในเมืองไทย ต้องแย่แน่ๆ จากคุณ : DutchEngel (DutchEngel) - [ 6 พ.ย. 49 20:06:16 ]

ความคิดเห็นที่ 13 กระทู้โดนใจ โหวตดีมั๊ยเนี่ย..... สำหรับเรา เหตุผลที่เลือกที่จะอยู่เมืองไทย เพราะว่าไม่อยากทิ้งโอกาสดีๆในหน้าที่การงานแล้วก็พ่อ แม่ พี่ น้อง เพื่อน(ทั้ง)ฝูงไป และตัวสามีก็คิดว่าน่าจะเอาความรู้ที่มีมาใช้ที่เมืองไทยได้ (สามีเป็น Machinery drawer/design+แมคไควเยอร์- อันนี้พูดเอง)..ทีนี้ไอ้เจ้ากฎใหม่ที่พึ่งออกมามีผลบังคับใช้ 1ตุลาคมที่ผ่านมา มันมีผลต่อวีซ่าสามีเราพอสมควร (แหมคิดว่าจะรอดจากวีซ่าฮอลแลนด์ที่ไหนได้...) แต่เอานะ เมื่อเราปฏิเสธมันไม่ได้ ก็ต้องเผชิญหน้าต่อไป ชีวิตนี้ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆอยู่แล้ว ใช่มั๊ยคะ ตอนนี้ยังคิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะทำไง เอ๊..หรือสงสัยต้องขอเจ้านายขึ้นเงินเดือนซะดีมั๊ง ....เอิ้ก ....แพลบๆ รายละเอียดเพิ่มเติมตามลิงก์นี้ค่ะ http://imm.police.go.th/bkkimm/index.php คุณเจ้าของกระทู้ใจร่มๆก่อนนะคะ ค่อยๆคิดหาทางออก เป็นกำลังใจให้กันค่ะ จากคุณ : Pjanet - [ 6 พ.ย. 49 22:45:33 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ดิฉันเพิ่ง28 ส่วนสามี34 ก้อคงอีกนานค่ะ กว่าจะได้วีซ่าสำหรับคนเกษียณอายุ เรามาอยู่ต่างแดนได้เกือบ6ปีแล้วน่ะค่ะ พ่อแม่เราที่เมืองไทยมีลูกสาวคือเราคนเดียว เค้าทำกิจการส่วนตัวอยู่ ก้อว่าตั้งใจจะกลับไปช่วยท่านไม่อยากให้พ่อแม่ทำงานต่อแล้ว ถึงเวลาพักผ่อนแล้ว เราจึงอยู่ต่อต่างแดนถึงเกษียณไม่ได้จริงๆ รู้สึกผิดในใจว่าเป็นลูกอกตัญญู เพราะตั้งแต่เรียนจบการศึกษามาพักนึงก้อแต่งงานแล้วย้ายมาอยู่ที่นี่เลย ยังไม่ได้มีโอกาสทำงานจริงๆจังๆเลย อีกทางนั่นก้อสามี สามีเราก้อลำบากเรื่องวีซ่า เค้ากลับมาเพื่อเราเหมือนกันแต่จะต้องเจอปัญหาแบบนี้ พบกันคนละครึ่งทางค่ะ กำลังหาทางออกกันอยู่ค่ะ ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจค่ะ อยากให้กม.เข้มงวดกับต่างชาติที่เข้ามาเพื่อวัตถุประสงค์อื่น แต่อย่ามาเหมารวมกับคู่สมรสที่เค้ารักกันจริงๆแล้วตั้งใจจะอยู่เมืองไทยเลย สมัยที่เราย้ายมาอยู่ต่างแดนใหม่ โอเคอยู่ที่เค้าสตริคแสกนคนเข้ามาใหม่ ว่าแต่งงานเป็นสามีภรรยากันจริงนะ ไม่ใช่แต่งหลอกๆ เพื่อจะหาโอกาสมาหาเงินต่างแดน อันนั้นเราเข้าใจ ถึงกับมีตำรวจมาเคาะประตูเช็คหน้าบ้าน 2-3รอบ โอเค อยู่กินกันจริง ดังนั้น ผ่าน หลังจากสแกนเราแล้วเค้าก้อไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกับสิทธิในความเป็นพลเมืองของเราอีกเลย เราไม่ได้โดนกีดกันเรื่องการทำงานเหมือนที่เค้ากีดกันต่างชาติในเมืองไทยนะ เรามีสิทธิทำงานได้เหมือนพลเมืองของเค้า เสียแต่เพียงว่าภาษาเราไม่ได้เก่งทัดเทียมกับเค้า โอกาสในการที่เค้าจะรับเลยน้อยลงไปตามความสามารถ (ปท.ที่เราอยู่เค้าไม่ได้พูดอังกฤษกันน่ะค่ะ) เลยต้องทำใจยอมรับ แม้ว่าประเทศเราก้อเถอะเราก้ออยากจะรับคนที่สามารถพูดภาษาไทยได้เหมือนกัน ไม่ใช่เรื่องแปลก โอเคถ้าคุณเก่งหรือมีความสามารถเฉพาะด้านกับงานที่คุณถนัด คุณก้อสามารถถีบตัวเองขึ้นเสมอพลเมืองที่นี่ เราไม่ได้ว่าประเทศไหนดีกว่ากัน เพียงแต่เทียบให้เห็นว่า มันน่าจะให้โอกาสกันบ้างน่ะค่ะ จากคุณ : apekop - [ 6 พ.ย. 49 23:51:26 A:81.83.124.66 X: TicketID:001572 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เข้ามาอ่านอีกรอบค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะค่ะที่เข้าใจผิดว่า กฏนี้ มาจาก คณะปัจจุบัน งงอยู่ แต่ พออ่านๆหลายๆความเห็นก้อยังรู้สึกว่า เหมือนจะมีหลายๆคู่ต้องถูกพรากจากกันยังไงไม่รู้ถ้ามีแบบนี้จริง ก้อแย่ล่ะค่ะ เพราะอย่างของต่างประเทศ วีศ่าเขาก้อไม่ได้เรื่องมากอะไร นะ คือ แต่งงาน อยู่กันจริง รักกันจริง อะไรมันก้อได้อ่ะ สิทธิเหมือนกันกับคนของเขานะ  เวลาขอสัญชาติอ่ะไร ก้อไม่ได้ยุ่งยากแล้ว นะ  อีกอย่างเวลา ตอนแรกขอวีซ่า มาแต่งงาน เขาก้อไม่ดูเราอีกต่างหาก ว่าเรารวยแค่ไหน เขาจะสกีนว่าเราไม่ได้หลอกลวง เท่านั้นนะ ไม่รู้เมหือนกันค่ะ แต่จากการขอของด้วยเองนะค่ะ สามีก้อไม่ได้ร่ำรวยอะไร แค่มีงานทำ เป้นหลักแหล่ง ตัวเองก้อไม่มีเงินในบัญชี เป็นแสนๆ เลยด้วย แต่เราแต่งงานกันรักกัน ทำทุกอย่างถุกต้อง เขาไม่ดูบัญชีดิฉันเลยค่ะ มาให้กำลังใจค่ะ จากคุณ : jann - [ 7 พ.ย. 49 01:34:40 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ถ้าคิดกันเล่นๆก้อคือ กฏหมายกีดกัน  ฝรั่ง จนและกันสิทธิผู้หญิงไทยที่แต่งงานกับต่างชาติ  ข้ออ้างคือเมืองไทยเป้นประเทศที่กำลังพัฒนา   ก้อคล้ายๆ กับบางเรื่องบางอย่างที่เมืองไทยนั้นแหละ มีเงินสะอย่าง  เงิน เงิน เงินคือความถุกต้อง  เงินซื้อได้ทุกอย่าง แค่เข้ามาบ่นเล่นๆน่ะ ขอแสดงความเห้นใจกับจขกทด้วย Good luck จากคุณ : dolcevita (dolcevita) - [ 7 พ.ย. 49 05:56:53 ]

ความคิดเห็นที่ 17 I found this post on WWW.THAIVISA. COM about how to become a PR.It is very useful. http://www.thaivisa.com/forum/index.php?s=4a5c65f63e4cf31e087166c75ec1bbce&showtopic=74654 จากคุณ : mrs.night owl - [ 7 พ.ย. 49 08:53:03 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นด้วยกับคุณ hamble pie ค่ะ เราว่ากฏหมายนี้ด้านดีมันก็มี คือลดพวกฝรั่งที่เป็นจำพวกมาเฟีย หรือ low qualityจากที่เราเห็นมายิ่งแถวถนนข้าวสารตอนนี้พวกฝรั่งไร้คุณภาพ ทั้งพวก sex tourist มีเยอะมาก พวกนี้มาเที่ยวพอเงินหมดก็หาทำงาน รร สอนภาษา ปริญญาก็ไม่มีแล้วเด็กนักเรียนจะได้อะไร จากคุณ : เห็นด้วย - [ 7 พ.ย. 49 12:22:23 A:58.136.169.112 X: TicketID:124230 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ความคิดเห็นของเรา ก็เห็นด้วยกับกฏหมายการห้ามออกไปต่อวีซาท่องเที่ยวเกินสามครั่ง ใครมาเที่ยวแล้วไม่กลับก็เชิญให้กลับ อันนี้ไม่ว่ากัน แต่เมืองไทยไม่มีวีซาแต่งงานสำหรับคนที่มีความรักกับต่างชาติ คนที่จะเข้าไปอยู่กินกับหญิงไทย ต้องมีเงินเป็นประกัน ต้องมีบริษัทรับรองให้ทำงาน ไม่สามารถอยู่อย่างพอเพียงได้ ต้องอยู่ด้วยเงิน เท่านั่น อันนี้เราไม่ค่อยจะเห็นด้วย ถ้ากลัวการหลอกล่วง ก็วีซาปีต่อปี พร้อมมีการตรวจสอบ ว่าแต่งเท็จ แต่งจริง ก็เหมือนที่เรามาแต่งกับสามีที่ประเทศนี้ เขายั่งตรวจสอบเรา สามีตกงาน เราไม่มีงานทำ รัฐบาลเขายั่งไม่ส่งเรากลับบ้านเลย นี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวนะค่ะ จากคุณ : คิดไม่ออก - [ 7 พ.ย. 49 22:51:32 A:84.176.95.159 X: TicketID:128353 ]

ความคิดเห็นที่ 20 แต่ที่ข้องใจก้อคือทำไมเค้าไม่แยกกม.ระหว่างtourists และคู่สมรส ในเรื่องของการรันวีซ่า ทำไมต้องดำเนินการภายใต้กม.การรันวีซ่าเดียวกัน ทำไมจะต้องเอาตัวเงินมากำหนดกฎเกณฑ์เพื่อนแลกกับการอยู่ โอเคเราอาจจะหาได้มากกว่า4หมื่น/เดือน หรืออาจจะน้อยกว่าก้อได้ เป็นเรื่องที่กำหนดไม่ได้เสมอไป วันนึงเราอาจตกงาน สามีเราต้องถูกกระเด็นไปนอกประเทศ โอเคใครมีเงินก้ออาจจะมาลงทุนทำอะไร เก็บกินค่าเช่ากัน อาจจะมีสร้างอพาตเม้นท์ ห้องเช่า รึธุรกิจอะไรกันที่เป็นรายได้ที่คงตัวทุกเดือนๆ แต่ก้อมีเหมือนกันคู่ที่เป็นมนุษย์เงินเดือน บางเดือนอาจไม่มีงานให้ว่าจ้าง อ่าว ทำไงล่ะทีนี้ มีเวลาออกนอกประเทศภายใน7วันทันที ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ยังไม่ได้เตรียมเรย+เวลาทำใจกำลังโดนพราก นี่ก้อภรรยาฉัน ลูกฉัน บางคู่อยู่อย่างสมถะ อยู่ในพื้นที่ชนบท มีรายได้พอเลี้ยงชีพ เงิน4หมื่นนี่ มันสูงเกินไปสำหรับวิถีการดำรงชีพของคนบางคนในชนบท แต่มันก้อเพียงพอที่ไม่ได้ทำให้ใครเดือนร้อน แต่มันก้อต้องกลับกลายมาเป็นเงื่อนไขเพื่อแลกกับการอยู่ ตย.กรณีของเคสคห12. มันเกิดขึ้นจริงๆมาแล้ว กระเทือนมากๆ คาดว่าอีกไม่นานฝรั่งคงหายจากเมืองไทยเป็นที่สมใจตามเป้าหมาย แต่คนดีๆก้อกระทบไปด้วย ตอนนี้องค์กรต่างๆที่เข้ามาช่วยเหลือประเทศเรา อย่างบางองค์กรในพัทยาที่ต่างชาติเข้ามาช่วยเหลือปัญหาโสเภณีในบ้านเรา คนติดยา เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ และอีกหลายๆองค์กรที่เข้ามาช่วยโดยไม่ได้อะไร กำลังโดนคุกคามภายใต้กม.เดียวกัน พวกเค้าต้องออกไป มันอาจจะเป็นเรื่องเล็กๆสำหรับใครบางคน แต่ถ้าเจอกับตัวเองจริงๆมันพูดไม่ออกเลยจริงๆ น.ส.พ.ต่างปท. มีข่าวเรื่องวีซ่านี่อยู่เหมือนกัน คิดว่าไม่น้อยแล้วล่ะที่หลายๆคนสะเทือนกับสถานการณ์แบบนี้ จากคุณ : apekop - [ 7 พ.ย. 49 22:53:53 A:81.83.124.66 X: TicketID:001572 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นใจคุณเจ้าของกระทู้มากๆนะคะ เพราะเราเคยเกือบจะต้องย้ายไปอยู่ไทย โดยที่สามีเราไม่มีงานรองรับ คือจะไปหางานที่นั่นน่ะค่ะว่าง่ายๆ เพราะตัวเราจะกลับไปเรียนต่อให้จบ แต่ก้อเป็นไปไม่ได้ เพราะกฏหมายเป็นแบบนี้ สามีเราเขากลัวโดนลอยแพ แล้วจะทำยังไง??? แต่สรุปแล้ว สามีเราก้อได้งานใหม่ที่ดี ก้อเลยไม่ต้องย้ายกลับไปไทย โล่งมากๆ แล้วพอตอนนี้กฏหมายใหม่ตัวนี้ออกมา แย่หนักกว่าเดิม เรา 2 คนหดเหี่ยวไปเลยค่ะ เห็นด้วยกับคุณ ความเห็นที่ 19 มากๆนะคะ ที่วีซ่าท่องเที่ยวก้อท่องเที่ยว คนแต่งงานก้อวีซ่าแต่งงาน เห็นด้วยมากๆๆๆๆ เพิ่มนิดนะคะ เราเพิ่งเราให้พ่อแม่เราฟัง พ่อแม่เราก้อ งง มาก+โกรธมากกะกฏหมายแบบนี้ ก้อแสดงว่า เราก้อไม่มีโอกาสที่จะกลับไทยไปตั้งหลัก ในสักวันนึงข้างหน้า เพราะอย่างไรสามีเราก้อไม่สามารถอยู่เมืองไทยได้กับเราระยะยาวๆ อีกอย่าง สามีเราอายุยังน้อย เพิ่งเริ่มทำงาน จะหาเงินที่ไหนมา 4 แสน เล่นเอาพ่อแม่เรา ลมจับ เฮ้ออออ ยังคุยกันเลยค่ะว่า มันกระทบกับคนหลายคนมากที่เขารักกันจิง มีเงินไม่มาก แต่มีความสุขมากๆๆ ไหนจะครอบครัวที่มีลูก โอ๊ย สารพัด..... เอากำลังใจช่วยคุณเจ้าของกระทู้อีกครั้งนะคะ เราขอโหวตแล้วกัน อ้อ สามีเราก้อไม่ได้พูดอังกฤษ ก้อเป็นเรื่องยากที่จะไปสอนภาษา บวกกัยตอนนี้คนสอนภาษาต้องมีดีกรีหบายๆอย่างด้วย แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 49 04:15:43 จากคุณ : มินะของน้องมด - [ 8 พ.ย. 49 04:11:05 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เข้ามาอ่าน แล้วฝันสลายเช่นกันอยากกลับไปอยู่เมืองไทยเหมือนกัน แต่เพราะยุ่งยากเลยอยู่เป็นแจ๋วที่นี่ต่อไป แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 49 02:03:03 จากคุณ : แมวต่างแดน - [ 8 พ.ย. 49 04:14:18 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ข้อมูลจากกระทรวงต่างประเทศ การตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว (Non-Immigrant Visa) ประเภท O คือ การให้ความอุปการะแก่หรือรับความอุปการะจากบุคคลสัญชาติไทย โดยเป็นบิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตร อายุวีซ่า   1) 3 เดือน สำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักรได้ครั้งเดียว (Single Entry)   และ 2) 1 ปี สำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักรได้หลายครั้ง (Multiple Entries) ค่าธรรมเนียม 2,000 บาท (Single Entry) และ 5,000บาท (Multiple Entries) 1.จำนวนเงินที่คนต่างด้าวต้องมีติดตัวขณะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร คือ คนละไม่น้อยกว่า 20,000 บาท ครอบครัวละไม่น้อยกว่า 40,000 บาท เอกสารที่ต้องนำไปแสดง ได้แก่ - หนังสือเดินทางที่มีอายุใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน - แบบฟอร์มวีซ่าที่กรอกข้อความสมบูรณ์ - รูปถ่ายขนาด 2 ½ นิ้ว จำนวน 2 รูป (ถ่ายในระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน /ไม่สวมหมวกและแว่นตาดำ) - บุคคลในครัวเรือนหรือในความอุปการะ (O) - หลักฐานการเป็นบิดา มารดา บุตร / สูติบัตร / ใบสำคัญการสมรส - หนังสือรับรองการทำงาน ใบอนุญาตทำงานที่ยังมีอายุใช้งาน - หลักฐานแสดงว่าคู่สมรสเป็นคนสัญชาติไทยหรือเป็นผู้ที่มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร หลักฐานแสดงฐานะทางการเงิน - หนังสือจากสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลใหญ่ องค์การระหว่างประเทศ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ - การใช้ชีวิตบั้นปลายในประเทศไทย หลักฐานแสดงฐานะทางการเงินหรือหลักฐานการได้รับเงินบำนาญ 1)  กรณีผู้ร้องอายุ 60 ปีขึ้นไป ต้องมีเงินฝากไม่น้อยกว่า 200,000 บาท หรือมีรายได้ไม่น้อยกว่าเดือนละ 20,000 บาท 2)  กรณีอายุไม่ถึง 60 ปี แต่ไม่น้อยกว่า 55 ปี ต้องมีเงินฝากไม่น้อยกว่า 500,000บาท  หรือมีรายได้ไม่น้อยกว่าเดือนละ 50,000 บาท หากเป็นการขอขยายระยะเวลาพำนักระยะยาว คือ 1 ปี สำนักงาน ตรวจคนเข้าเมือง จะพิจารณาโดยใช้หลักเกณฑ์ที่เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2541ให้อำนวยความสะดวกในการเข้าเมืองให้แก่คนต่างด้าวทุกสัญชาติซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปีบริบูรณ์ ซึ่งประสงค์จะขอรับการตรวจลงตราเพื่อเข้ามาพำนักในราชอาณาจักรระยะยาว คราวละไม่เกิน 1 ปี   รหัส O-A โดยใช้หลักเกณฑ์ว่าผู้ร้องต้องมีหลักทรัพย์เป็นเงินฝาก 800,000 บาท หรือมีรายได้เดือนละ 65,000 บาท  หรือมีเงินฝากและรายได้รวมกันไม่น้อยกว่า 800,000 บาท) รายละเอียดเพิ่มเติ่ม http://www.mfa.go.th/web/934.php จากคุณ : Varnamo - [ 8 พ.ย. 49 15:49:25 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เงินคือตัววัด quality ของฝรั่งหรือคะ... แล้วมาเฟียฝรั่งหรือพวกเศษฝรั่งไม่มีเงินหรือคะ.... ....................................................................... อยากบอกว่าเงินเดือนพนักงานออฟฟิตที่ กทม.เกือบสี่หมื่นก็จริง สามีก็ต้องมีรายได้(ที่เสียภาษี)รวมกันคะ ไม่ใช่เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวแล้วเอารายได้มารวมไม่ได้คะ (ยืนยัน นั่งยัน)..ดีไม่ดีโดนข้อหาด้วย ไม่มีใบอนุญาติทำงาน ทำไมเปิดร้านได้ (โดนมาแล้วคะ)มันมีวิธีที่ง่ายคะ เพียงแต่ว่าคุณต้องมีเงิน..ญาติพี่น้องสามารถบรรจุฝรั่งเข้าทำงาน (อันนี้ก็ต้องขออนุญาติเช่นกัน) คิดดีๆก่อนนะคะ ไม่งั้นเสียเงินเสียทอง สุดท้ายต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกหน.. จากคุณ : marzo (marzo) - [ 9 พ.ย. 49 02:25:40 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เห็นว่าควรจะมีแม่บ้านต่างแดน เข้าร่วม ครม นะคะ เพราะทุกวันนี้คาดว่าพวกคนออกกฏหมายน่ะเค้าไม่ get กับปัญหาของพวกเราแน่นอนค่ะ พวกสส หรือรัฐมนตรีพวกนั้นเค้าไม่ได้มีสามีเป็นต่างชาติอย่างเราค่ะ เค้าไม่เข้าใจหัวอก (แฟ็บๆ )ของเราหรอกค่ะ จากคุณ : hamble pie (hamble pie) - [ 9 พ.ย. 49 03:37:08 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เราเห็นด้วยกับคุณ hamble pie มากๆเรยค่ะ มันพอจะมีทางไหนบ้างไหมคะที่ให้ ครม.เค้าเข้าใจ และรับทราบปัญหาของพวกเราๆ ??? (ซีเรียส) ก่อนจะออกกม.นี้ ดิฉันก้อลำบากใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเรื่องworking permit ที่ได้ยากเย็นเหลือเกิน พอมาเจออันนี้อีกตูม โอ้โห...ต้องมีเงินๆๆๆอย่างเดียวถึงจะอยู่บ้านเราได้ เราคิดว่าหลายคนที่เจอกับตัวเองคงสะเทือนไม่น้อย+ยังมีอีกหลายคู่อื่นๆ(ไม่น้อยเลยจริงๆ)ที่ไม่ได้เข้ามาในร่วมแสดงความคิดเห็นบอร์ดนี้ก้อประสบปัญหาอยู่เหมือนกัน จากการที่ดิฉันได้ติดตามข่าวสารเรื่องนี้มาตลอดตั้งแต่วันที่กม.ฉบับใหม่ออกมา คุณmarzoคะ ดิฉันมีความเห็นส่วนตัวอยากแนะนำค่ะ ในเคสของคุณคุณเป็นพนักงานเงินเดือนคงตัว ลองเอารายได้จากทางอื่นมารวม เช่นรายได้ให้เช่าจากอสังหาริมทรัพย์ เช่นห้องเช่า รึอพาตเมนท์ พอเป็นสเตทเม้นท์ที่คงตัวซักให้ค่าเช่าเพิ่มอีกนิดหน่อย+เงินเดือนคุณ เป็น4หมื่นก้อโอเคแล้วน่ะค่ะ ที่แนะนำด้านอสังหาริมทรัพย์เพราะว่า ภาษีจะโดนน้อย เช่นซื้ออพาตเม้นเก็บเป็นค่าเช่าซัก4ห้อง เก็บค่าเช่าห้องละ2500บ. ก้อได้ หมื่นนึงและ ภาษีหักไป7% ของรายได้ คุณเสียภาษีตรงส่วนนีแค่700บ. ซึ่งเป็นทางออกที่ดีดีสุดเท่าที่ดิฉันพอคิดได้ในตอนนี้ค่ะ รึอาจจะเป็นบ้านเช่าก้อได้ค่ะ เพราะถ้าเราจะหารายได้จากการทำธุรกิจประเภทที่จ้างคนมาทำนี่ยุ่งยากกว่าเยอะค่ะ เพราะจะต้องproof รายได้ที่แน่นอน แถมขายดีภาษีตามตูดอีกบานกว่า เหอะๆ ตอนนี้ดิฉันกำลังหาทางอยู่เหมือนกันค่ะว่าจะเอายังไงดี ปวดหัวจังเลยทั้งสามีทั้งเรา เฮ่อ...ได้แต่หวังว่ากม.มันจะออกมาดีกว่านี้...............เพี๊ยง จากคุณ : apekop - [ 9 พ.ย. 49 04:52:40 A:81.83.124.66 X: TicketID:001572 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ฮือ ๆ เราเองก็คิดหนักกับปัญหานี้เพราะอีกไม่กี่วีนเราก็ต้องออกจากประเทศแล้ว แต่ที่สำคัญเราเองก็ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่หนาย เพราะทำวีซ่าไปแต่ล่ะปรเทศมันยากเหลือเกิน ทำไมกดหมายเหมือนกีดกันให้คู่ที่เค้ารักกัน หรือสมรสกันกลายเป็นเรื่องยากเข้าำไปอีก สามีก็เครียดมากเลยอีกอย่างเราอายุยังน้อยด้วยแฟนเรามาจาก cannada อายุ 24 เองยิ่งยากที่จะได้อยู่เมืองไทย จากคุณ : มดส้ม (Somo2527) - [ 10 พ.ย. 49 00:44:37 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เรื่องเงิน 400000 น่ะ นี่รู้มาตั้งนาน2 ปีที่แล้ว เพราะบังเอิญช่วยหาให้เพื่อน เค้าก็อยากจะย้ายไปเมืองไทย ส่วนเรื่อง วีซ่าที่ต้องออกไปแสตมป์นอกเมือง นี่ก็มีมานานแล้วเช่นกัน เพราะแต่เฉพาะคนที่มาทำงานเมืองไทย มีเวิร์คเพอร์มิท ต้องออกไปแสตมป์ต่อนอกเมือง แต่คนที่มีสามีเป็นคนต่างชาติ แบบ แต่งงาน คุณสามารถขอวีซ่าได้ รวดเดียวแบบ 1ปี (ปรกติทุก 3เดือน)และต้องโชว์เงินไม่ต่ำกว่า หลังจาก 1 ปี ต้องออกนอกประเทศ 4000000 ในแบ้งค์ ทุกครั้งที่ไปขอต่อ และคิดว่า หลัง 1ปี ต้องออกไปแสตมป์ นอกประเทศ จากคุณ : อยากช่วย (lekx) - [ 10 พ.ย. 49 02:20:40 ]

ความคิดเห็นที่ 29 สวัสดีค่ะคุณอยากช่วย(lekx) ตอนนี้กม.มันเปลี่ยนไปแล้วค่ะ ตามที่เคยใช้ต่อวีซ่า1ปีจากเงิน4แสนในบัญชีไทยใช้ไม่ได้แล้วค่ะ 40000นี่มันเพิ่งมีค่ะ คล้ายๆการันตีแทนตัวเราค่ะ (ไม่ใช่การขอworking permit นะคะ แต่นี่เงินเพื่อการันตีเราอยู่เท่านั้นค่ะ)สำหรับกม.ใหม่นี่ จึงลำบากกันถ้วนหน้ายิ่งกว่าเก่า จากคุณ : apekop - [ 10 พ.ย. 49 04:36:43 A:81.83.124.66 X: TicketID:001572 ]

ความคิดเห็นที่ 30 http://www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H4832876/H4832876.html จากคุณ : fonn - [ 11 พ.ย. 49 20:11:58 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เรื่องรายได้นี่สำหรับคู่ที่อยู่เมืองไทยติดต่อมานานแล้ว เท่าที่อ่าน เขามีข้อยกเว้นสำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาก่อนที่คำสั่งนี้จะบังคับใช้นี่คะ ดังนี้ค่ะ "เว้นแต่คนต่างด้าวนั้น ได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรก่อนที่คำสั่งนี้มีผลบังคับใช้ และได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรกรณีสมรสกับหญิงไทยต่อเนื่องตลอดมา" แต่สำหรับผู้ที่จะเข้ามาหลังจากนี้ ก็คงต้องดูกันไปค่ะ ว่าจะทำอะไรกันได้บ้าง จากคุณ : แม่ลูกตาล - [ 13 พ.ย. 49 17:06:46 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ถูกต้องค่ะคุณแม่ลูกตาล แต่....คนที่เข้ามาอาศัยอยู่ก่อนคำสั่งใหม่นี่ มีบางคนเหมือนกันค่ะที่เขาไม่ได้ฝากเงินในบัญชี4แสนมาก่อน(เค้าไปรันวีซ่าเองทุก3เดือน) มีผลสะเทือนเหมือนคนที่เข้ามาทีหลังคำสั่งเช่นกันค่ะ คือเค้าต้องหาทางเอาตัวรอดกับกม.เหมือนคนที่จะเข้ามาอยู่ใหม่ค่ะ ถ้าใครฝากบัญชีการันตี4แสนก่อนคำสั่งใหม่ออกก้อนับว่าโชคดีไปค่ะ จากคุณ : apekop - [ 13 พ.ย. 49 23:29:23 A:81.83.124.66 X: TicketID:001572 ]

ความคิดเห็นที่ 33 คนที่เข้ามาอยู่ก่อนคำสั่งใหม่ แต่ต้องเข้าออกประเทศทุก 3 เดือน คิดว่าระเบียบใหม่เค้าอยากให้ทำเรื่องวีซ่าให้ถูกประเภทน่ะค่ะ คือถ้าแต่งงานมีครอบครัวอยู่ที่เมืองไทยและมีวีซ่าถูกประเภทก็จะไม่ต้องวิ่งเข้าวิ่งออกทุก 3 เดือน จากคุณ : fonn - [ 14 พ.ย. 49 00:44:34 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณสำหรับความเห็นค่ะ ย้ำอีกนิดนึงว่า400000บาทที่เคยใช้เป็น extention visa 1ปี เป็นการันตี มันใช้ไม่ได้แล้วนี่สิคะ เพิ่งยกเลิกไปนี่เอง จากคุณ : apekop - [ 6 พ.ย. 49 17:48:13 A:81.83.124.66 X: TicketID:001572 ] ไม่เข้าใจคะ เท่าที่อ่านดู กฎใหม่ตอนนี้ก็ยังต้องมีเงินฝากเหมือนเดิมนี่คะ หรือว่าดิฉันเข้าใจไม่ถูกต้อง รบกวนช่วยชี้แจงด้วยคะ อยากกลับบ้านเหมือนกัน จากคุณ : พยูนปลิวลม (พยูนปลิวลม) - [ 14 พ.ย. 49 02:23:10 ]

ความคิดเห็นที่ 35 คุณ fonn คะ ดิฉันเองก้อคิดแบบนั้นเช่นกันค่ะ ควรที่ทำให้ถูกต้องตามประเภทของวีซ่า อันนี้เห็นด้วยค่ะ แต่วีซ่าแต่งงานสำหรับบางคู่เป็นเรื่องที่ลำบากมากกับข้อจำกัดในหลายๆเรื่อง อย่างเช่นเรื่อง documents required+เงินลงทุน ด้วยพื้นฐานที่ชาวต่างชาติห้ามมาแย่งงานคนไทยทำนอกจาก ได้working permit เป็นเรื่องเป็นราวไป หรือหาเงินมาลงทุนทำอะไรก้อได้เพื่อให้มีเงินงอกเงยขึ้นมาเป็นการันตีในการอยู่ บางคนอาจจะยังหางานไม่ได้ในทันทีทันใด มันก้อยากอยู่ค่ะ สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยกัน มันน่าจะมีอะไรที่โอนอ่อนได้มากกว่านี้ สำหรับการขอวีซ่าแต่งงาน สำหรับความเห็นส่วนตัวดิฉัน การขอวีซ่านี้น่าจะพิจารณาตามหลักเหตุสมควรในการอยู่ในราชอาณาจักรไทย ไม่ใช่ตัวเงินเป็นหลักในการพิจารณาคน มันน่าตลกมากเรย มันวัดได้เรยว่ารัฐต้องการอะไร สกรีนคนจากอะไร - คนต่างด้าวที่เกษียณแล้ว ถึงมีสิทธิอยู่เมืองไทยได้ตลอดชีวิต (เหตุผลอะไรเหรอ?? อยากรู้จริงๆ) - thaielitecard สำหรับฝรั่งวีไอพี ที่ซื้อในราคา1ล้านบาทเพื่อขอแลกกับวีซ่าในการอยู่5ปี กับสิทธิพิเศษต่างๆ (ฝรั่งที่เลวๆที่ซื้อไม่มีเหรอ)ไม่successค่ะ รัฐจ้างคนมา20คนเพื่อดำเนินการ เปิดบริษัททำการนี้ด้วยงบ500ล. ตั้งเป้าว่าเดือนนึงจะได้เป้าซักล้านคน เพื่อหวังว่าฝรั่งหน้าโง่จะแห่กันมาซื้อ ที่ไหนได้เดือนที่ผ่านมารายได้ 0% ค่ะ เพราะไม่มีใครsupport ความคิดนี้ซักราย (น่าอายมั้ย....ฝรั่งเค้าจะมองเราว่ายังไง รู้สึกซักนิดมั้ย) ดิฉันขอใช้สิทธิออกความเห็นในฐานะที่ดิฉันเป็นคนไทยคนนึงที่อยู่ในประเทศที่มีระบอบประชาธิปไตย หวังอยากให้เกิดความยุติธรรมในสังคม หวังว่าคงไม่ไปเตะจมูกใครเขาเข้าละกัน คุณพยูนปลิวลมคะ ถ้าคุณเข้าไปอ่านในเวปกระทรวงต่างประเทศหน้าแรกภาคภาษาไทย มันอธิบายแค่ภาพรวมๆยังเห็นรายละเอียดไม่ชัดเจนมากค่ะ ลองเข้าไปตรงนี้ค่ะ ในหัวข้อ visa/consular http://www.mfa.go.th/web/12.php กม.ใหม่ยังต้องมีเงินฝากเหมือนเดิมค่ะ เพิ่มเติมนี้ดนึง....คือได้เฉพาะต่างด้าวที่มีอายุไม่ต่ำกว่า55ปี+เงินฝาก800000 อย่างคห.23กล่าวถูกต้องแล้วค่ะ จากคุณ : apekop - [ 14 พ.ย. 49 21:18:55 A:81.83.124.66 X: TicketID:001572 ]

ความคิดเห็นที่ 36 คุณ apekop คะ แม้ว่า ระเบียบใหม่ออกมาและมีผลบังคับใช้ไปแล้ว แต่ว่าที่ผ่านๆมาเค้าก็มีการยืดหยุ่นให้ได้ เช่น แต่เดิม ใช้หลักฐานบัญชีเงินฝาก 2 แสน แล้วเปลี่ยนมาเป็น 4 แสนได้ประมาณ 3 ปีมาแล้วก็จริง แต่เวลาที่เราไปต่อวีซ่ากับสามี ก็ได้คุยกับ ตม.ที่สวนพลู ซึ่งเค้าก็บอกว่ายืดหยุ่นให้ได้ ในกรณีที่เป็นสามีภรรยากันจริงๆ แต่มีเงินฝากไม่ถึงที่กำหนดไว้ เค้าก็อนุญาติให้อยู่ต่อได้ เพียงแต่ว่าอาจจะไม่ได้ 1 ปี เช่นถ้ามีมาแสดง 2 แสน อนุญาติให้อยู่ต่อ 6 เดือนก่อน หลังจากนั้นก็ค่อยว่ากันอีกที เพราะเค้าก็ต้องใช้หลักมนุษยธรรมด้วย อันนี้ จพง.เป็นคนบอกนะคะ เราว่าถ้าเป็นครอบครัวจริงๆก็ไม่น่าจะต้องห่วงอะไรมาก ยังไงก็ต้องลองสอบถามข้อมูลกับ สนง.ตม.ให้แน่ๆอีกทีน่าจะดีกว่าค่ะ จากคุณ : fonn - [ 15 พ.ย. 49 01:07:30 ]

ความคิดเห็นที่ 37 คุณfonnคะ ตอนนี้ดิฉันอยู่ต่างปท.ค่ะ กำลังจะย้ายเข้าไปเมืองไทยกันปีหน้านี้ค่ะ ถ้าดิฉันกลับไปก่อน1ตุลาที่คำสั่งใหม่เพิ่งออก ดิฉันคงไม่ปวดหัวขนาดนี้ค่ะ เพราะเงินการันตี4แสนดิฉันก้อพร้อมจะแสดงให้ตามถูกต้องค่ะ ที่ปวดหัวอยู่ตอนนี้ก้อคือ 4แสนเพื่อขอวีซ่าอยู่1ปีมันใช้ไม่ได้แล้วค่ะ สำหรับกรณีคุณอาจจะอยู่ที่เมืองไทยก่อนกม.ใหม่ออกมา อันนั้นโชคดีมากๆเลยค่ะ เพราะสามารถถือสิทธิ์ตามกม.เก่าได้ค่ะ แต่กรณีดิฉันต้องปฏิบัติตามคำสั่งใหม่ค่ะ สามีคุณfonnอยู่ที่เมืองไทยนานรึยังคะ? จากคุณ : apekop - [ 15 พ.ย. 49 02:01:49 A:81.83.124.66 X: TicketID:001572 ]

ความคิดเห็นที่ 38 คุณ apekop ดิฉันเห็นใจมากๆ ขอให้ประสพความสำเร็จในการหาข้อมูลต่อไปนะค่ะ จากคุณ : lekx - [ 15 พ.ย. 49 05:43:28 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เข้าใจค่ะว่าคุณ apekop อยู่ ตปท.แต่เราพูดถึงคนที่เข้าๆออกๆทุก3เดือนก่อนระเบียบใหม่ไงคะ ว่าถ้าอยู่เป็นครอบครัวจริงๆและจะขอวีซ่าให้ถูกประเภทก็น่าจะทำได้ ส่วนผู้ที่เข้ามาหลังระเบียบใหม่ก็ต้องรอดูต่อไปค่ะ ว่าเค้าจะยืดหยุ่นให้บ้าง เหมือนกับระเบียบก่อนหน้ารึเปล่า เริ่มสงสัยตัวเองแล้วว่าให้ความเห็นถูกเรื่องรึเปล่า ถ้าผิดเรื่องก็ขออภัยค่ะ อ้อ ลืม..สามีเราอยู่เมืองไทย 6 ปีค่ะ ยังไงเมลล์มาคุยกันมั้ยคะ จิ้มอมยิ้มเราได้ป่าวเอ่ย แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 49 12:44:20 จากคุณ : fonn - [ 15 พ.ย. 49 12:33:37 ]

ความคิดเห็นที่ 40 หลังไมค์แล้วค่ะคุณ fonn ขอบคุณมากค่ะ ว้า วันนี้ก้อกะจะโทรไปถามรายระเอียดเพิ่มเติมที่immigration office ที่เมืองไทยเหมือนกันค่ะ  แต่..เหตุด้วยข้าพเจ้าตื่นไม่ทันเวลาที่เมืองไทยเปิดทำการ หุหุ...วันหลังๆ มีอะไรใหม่ๆจะมาอัพเล่าให้ฟังค่ะ การขอวีซ่าให้ถูกประเภททำได้ค่ะ คือofficially income 2คนสามีภรรยารวมได้ถึง4หมื่นทุกๆเดือนค่ะ   ถ้าทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน รายได้คงที่ตลอดไม่มีปัญหาค่ะ ถ้าได้งานexpat อูย... เพอร์เฟค เพราะบริษัทจัดการให้เสร็จสรรพ ถ้าทำกิจการร้านค้าส่วนตัว ต้องเป็นรายได้เป็นทางการที่สรรพากรเค้าประเมิณให้เราน่ะค่ะ(โมเมเองไม่ได้)( บอกไปมาก จ่ายไปมาก บอกน้อย เค้าประเมิณให้ต่ำ ไม่พอขอวีซ่า) ถ้าincome ข้ามประเทศ อย่างกรณีที่บางคนมีรายได้รายต่างประเทศเข้าทุกเดือนๆ จริงอยู่ ต้องผ่านembassy พรู้ฟมาด้วย ดังนั้นประเทศเค้าจะรู้ทันทีว่าเงินออกนอกประเทศ ตัวอยู่นอกประเทศ เค้าจะดึงภาษีเข้ารัฐเค้าทันที รายได้มาถึงมือจริงๆแค่บางส่วนเท่านั้นค่ะ (มาถึงมือเราติ๊ดเดียว)  รายได้ตรงผ่านแบงค์ไทยทุกเดือนๆ เค้ายังไม่เชื่อค่ะ เล่าให้ฟังฝรั่งอเมริกันบางคนแค่ยกนิ้วสาบานกับembassy ว่าเค้ามีรายได้4หมื่นจริง(สาบานกับพระเจ้าที่สถานฑูต แล้วเค้าเชื่อด้วยนะ งงมาก) เค้ามาเขียนเล่าให้ฟังในเวปthaivisa ว่าเค้าผ่านมาได้วิธีนี้นะ เท่านั้นแล่ะ เกิดคนที่ในimmigration officeมาอ่านเจอเลยเปลี่ยนกฎใหม่เรย (ซวยเรย) คือรายได้ที่เข้ามาจากต่างปท.ต้องพรู้ฟโดยembassy ด้วย และพรู้ฟจากต้นตอของเงินด้วยคู่กันเรย รายได้ทุกอย่างต้องเซ็นต์รับรองอย่างเป็นทางการค่ะ ไม่ใช่ไม่มีโอกาสนะคะ อย่าคิดแบบนั้น เพียงแต่ยกให้เห็นหลายๆกรณีเท่านั้นค่ะ มองดูหลายๆเคส เผื่อเราอาจจะตรงกับเคสไหนบ้างก้อได้ ตอนนี้ทำใจสบายๆค่ะ ไม่อยากซีเรียสแล้ว เป็นไงเป็นกันค่ะ จากคุณ : apekop (apekop) - [ 15 พ.ย. 49 20:16:41 ]

ความคิดเห็นที่ 41 สวัสดีอีกครั้งคะคุณ apekop เท่าที่ดิฉันอ่านดูในเวปกระทรวงต่างประเทศทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ข้อมูลก็เหมือน ๆ กัน ดิฉันได้อ่านกฏหมายใหม่แล้วด้วย  ในกระทู้นี่แหละคะ เนื้อหาก็ประมานที่คุณเล่ามา ส่วนตัวดิฉันคิดว่าเงินฝากโชว์ในบัญชีมันขึ้นอยู่กับวีซ่าที่คุณจะขอด้วยนะคะ ดิฉันพอรู็้็มาบ้างว่า ในความเป็นแล้วมันก็ไม่ได้เปะ ๆ อย่างที่เขาออกกฏหรอกคะ ตอนนี้ดิฉันกำลังปรึกษากับคุณอา เหมือนกัน ซึ่งเขาคุยกับ ตม โดยตรงเลย วันศุกร์จะโทรเอาคำตอบอีกที ดิฉ้นจะกลับสิ้นเดือนนี้แล้วคะ ไปเริ่มต้นใหม่เหมือนกันที่ 0เลย ฝากไว้นิดหนึ่งคะ เมื่อคุณทำถูกกฏทุกอย่าง อย่ากังวลไปเลยคะ ดูเพื่อนบ้านเราสิคะ ไม่มีอะไรสักอย่าง ยังอยู่ได้เลย ถ้าดิฉันเข้าใจไม่ถูกยังไง บอกด้วยนะคะ ยินดีรับฟัง Good night ka จากคุณ : พยูนปลิวลม - [ 16 พ.ย. 49 06:16:37 ]

ความคิดเห็นที่ 42 คุณพยูนปลิวลมคะ ถ้ามีข่าวสารใหม่ๆจากทางตม. อัพให้ฟังบ้างนะคะ :) ดิฉันพยายามติดต่อตม.ทางโทรศัพท์เหมือนกันค่ะ แต่โทรไปเจอเวลาทำการปิดแล้วทุกที(เวลาฉิวเฉียดช่วงตื่นพอดี) แต่เดือนหน้าดิฉันก้อจะกลับไปเยี่ยมบ้านที่เมืองไทยเช่นกันค่ะ อาจจะต้องรอไปเคลียร์ทางออกที่นั่นเหมือนกันค่ะ ปีหน้าดิฉันก้อต้องไปเริ่มที่0เช่นกันค่ะ ยังไงก้อขอให้ทุกๆคนโชคดีนะคะ (ปล. เวปimmigration office บางคนอาจจะไปเจอตรงหลักเกณฑ์พิจารณาต่างด้าวที่เข้าอยู่ในราชอาณาจักร ตรงนี้ http://www.immigration.go.th/nov2004/doc/declaration4extend.doc เค้ายังไม่อัพเดทค่ะ ยังเป็นข้อมูลเก่าค่ะ ข้อมูลใหม่เค้ายังไม่อัพมาเลย) จากคุณ : apekop (apekop) - [ 16 พ.ย. 49 18:00:49 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอถามนะคะ ว่าใครพอจะมีความรู้บ้างถ้าฝรั่งสามารถขอสัญชาติไทย ได้มั้ย ขอเป็นพลเมืองไทยเลยอ่ะค่ะ เพราะเข้าใจว่าถ้าทำอย่างนั้นมันคือการแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่งสำหรับคู่ที่อยากกลับไปตั้งรากฐานในประเทศไทย ถ้าเราจำไม่ผิดนะเราว่าเราเคยเห็น ฝรั่งที่ดอนเมืองเข้าคิวตรวจคนเข้าเมืองถือพาสปอร์ตไทยล่ะ เข้าทำได้ด้วยเหรอคะ จากคุณ : hamble pie (hamble pie) - [ 17 พ.ย. 49 05:01:19 ]

ความคิดเห็นที่ 44 สวัสดีค่ะ ดิฉันเคยมีประสบการณ์มีคนรู้จักที่มีสามีเป็นชาวต่างประเทศ เคยเดินเรื่องเอกสารพวกนี้อยู่ ทำยังไงก็ไม่ได้วีซ่าซักที เดี๋ยวขาดเอกสารตัวนั้นบ้างตัวนี้บ้าง (แต่เอกสารมันก็เยอะจริง ๆ ) เคยท้อแม้กระทั้งไปนั่งร้องไห้ที่ ตม. มาแล้ว แล้วยิ่งมาเจอกฏหมายใหม่เข้าไปอีก เค้าก็แทบจะหมดหวังกันไปเลย แต่ตอนนี้พี่เค้าได้วีซ่ามาแล้วล่ะค่ะ เป็นวีซ่า 1 ปี Multiple visa ( 1 ปี จริง ๆ เพราะเห็นมากับตา ) พอได้ ดีใจร้องไห้กันใหญ่อย่างน้อยก็ไม่ต้องมาเดินเรื่องทุก ๆ 1 หรือ 3 เดือน เพราะพี่เค้าอยู่ต่างจังหวัดด้วย ดิฉันล่ะก็นับถือในความพยายามของพวกเค้าจริง ๆ ถ้าพี่ ๆ หรือเพื่อน ๆ มีข้อสงสัยอะไรก็คลิกมาที่อมยิ้มฝากข้อหรือความหรืออีเมล์ไว้นะค่ะ จะเอาข้อมูลไปบอกพี่เค้าต่อเผื่อจะช่วยเหลือกันได้ ( พอดีพี่เค้าไม่ได้เรียนมาสูงเลยใช้คอมไม่เป็นหน่ะค่ะ ) ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ผู้มีรักแท้ทุกคนนะค่ะ ทุกปัญหาย่อมมีทางออกค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : คลีน - [ 1 ธ.ค. 49 22:50:39 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ของเราเองสามีก็ยังไม่เกษียณอายุ แต่ปีหน้าวางแผนจะไปอยู่เมืองไทยเราเองทำงานให้สามีค่ะ สามีทำงานโปรแกรมคอมเขามีเงินเข้าทุกเดือนและส่วนมากลูกค้าจะโอนในบัญชีธนาคารสวิสหรือของอเมกา สำหรับปัญหาฎหมายใหม่ออกก่อนทักษันจะโดนรัฐประหารอีกน่ะค่ะ มีอีกแบบก็คือเปิดบริษัทแต่ต้องทีคนไทยในบริษัท7คน และคนถือหุ้นคนไทยและทำรายได้มากกว่า4หมื่นบาทต่อเดือน กฎหมายออกมาก็หลังจากเรื่องคนต่างชาติหนีคดี มาเมืองไทยกันมากและโดนตามจับในประเทศของเรา เราถือว่าดีกับประเทศเราน่ะเพราะคนไทยไปอยู่ประเทศต่างๆมันก็ไม่ง่ายเหมือนกันทำให้เหมือนๆกันดีสุด ลองเรามาอยู่ยุโรปแล้วไม่มีงานพูดไม่ได้ เขาก็ส่งเรากลับเหมือนกันล่ะ เรื่องสัญชาติไทย ต้องอยู่ไทยมากกว่า5ปีและถือวีซ่าแบบ1ปี ตลอด5ปี 100 ต่อปีต่อประเทศ และทำเหมือนขายสลากน่ะค่ะ 2 หรือ3แสนบาท มีการทดสอบเขียนและอ่าน จากคุณ : jsd_t - [ 6 ธ.ค. 49 04:14:27 ]

ความคิดเห็นที่ 46 อ่านมาหลายกระทู้ มีกระทู้นี้ล่ะ คอมเม้นยาวๆ ทั้งนั้นเลย มีประโยชน์มากด้วย รู้สั้นๆ เพียงว่า อายุมากวก่าห้าสิบ ขอวีซ่าอะไรไม่รู้ จำไม่ได้ ได้ หนึ่งปี มีเงินฝาก แปดแสนบาท หรือ เงินรายเดือน หกหมื่นห้า ไม่หนักใจอะไร เพราะแก่แล้ว เอาใจช่วย คนที่อยากกลับบ้านเราที่อายุยังน้อยอยู่แล้วกัน ให้มีกฎหมายหรือข้อยกเว้นสำหรับ คู่ที่แต่งงานกับชาวต่างชาติ จากคุณ : rattana.uk - [ 12 ธ.ค. 49 14:06:53 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ดิฉันเคยเจอฝรั่งอเมริกัน เอา passport ไทยออกมาโชว์ให้ดูค่ะ  เขาบอกว่าได้ตระเวณไปหลายประเทศ ชอบเมืองไทยมาก แม้ไม่ perfact but the best ก็เลยอยากมาอยู่ชั่วชีวิต   เป็นดอกเตอร์ ยังหนุ่ม อายุไม่ถึง 40  โสด  และสามารถ พูด อ่าน ภาษาไทยได้ จากคุณ : prettypetite - [ 16 ธ.ค. 49 17:21:01 ]