มีทั้ง good & bad news อย่างไหนก่อนดี
bad news ละกัน
เจ้าหน้าที่ .... คืน พาสปอร์ตให้ผม หลังสัมภาษณ์เสร็จทันที
good news...
bad news เมือกี้...ผมย้อเย่นนน คร๊าบบบ ^ ^ "
เข้าเรื่องละกัน แบบเนื้อๆ เลยนะ
ขอวีซ่า F1 เรียนภาษาแล้วต่อโท
จบ ป.ตรี ทำงานประจำ 6 ปี ลาออกมาแล้ว 3 ปี ทำ freelance , เตรียมสอบ toefl gmat ,ช่วยที่บ้านจัดการงานเรืองอาคารพาณิชย์ให้เช่า
ตรงที่ลาออก มา 3 ปี นี่หล่ะ จุดอ่อนผมเลยหล่ะ ออกมาทำไมตั้ง 3 ปี ไม่ได้ทำงานประจำ แล้วเลือกเรียนภาษาที่เมืองใหญ่ Chicago อีก (เป็นไปได้ที่เจ้าหน้าที่คิดว่า ผมอ้างเรืองเรียนภาษา แล้วไม่กลับประเทศ)
ทำ freelance ก็แบบ ไม่มีหลักฐานอะไรที่พิสูจน์ว่า ทำงานจริงๆ มีคนให้งานอีกทีทางเน็ต ก็ทำในคอมแล้วส่งคืนทางเน็ต แล้วก็นัดไปรับค่าจ้าง เงินไม่ผ่านบัญชีเลย
มาถึงวันสัมภาษณ์ ก็มีเจ้าหน้าที่ เสื้อแดง เช็คเอกสารหน้าประตู ว่าเอกสารหลักๆ มีครบหรือไม่ ใบเสร็จรับเงินทุกใบมีหรือเปล่า จากนั้น
เช็คกระเป๋า แฟ้ม ของทุกอย่างพร้อมมือถือ ที่เราเอามา ผ่านเครืองตรวจอาวุธ แล้วให้เบอร์เราเก็บไว้มาแลกของคืนตอนกลับ
เดินเข้าไปข้างใน ซื้อ ซองเหลือง 50 บาทที่ไปรษณีย์ แล้วเข้าแถวรอ ระหว่างเข้าแถว ก็มีเจ้าหน้าที่เสื้อแดง มาคอยเช็คเอกสารอีกที ในแถวที่ยืนว่า ครบมั้ย ตรงช่วงนี้ เรายังพอจัดเอกสารได้ว่า อะไรต้องยื่นอะไรไม่ต้องยื่นเก็บไว้ เจ้าหน้าที่ เสื้อแดงจะบอกเราเอง
พอถึงหน้า counter เราก็ส่งเอกสาร ที่ จัดไว้แล้วผ่านช่องใต้กระจก เจ้าหน้าที่ถามว่า
ขอกี่คน .. 1 คนครับ ..ตอนนี้ทำอะไรอยู่...(อึ้งเล็กน้อย) ..เอ่ออ เตรียมสอบ toefl ครับ ...จะสัมภาษณ์ภาษาอะไร ...ไทยดีกว่าครับ (เอาง่ายไว้ก่อนดีกว่า) (เจ้าหน้าที่ ยักคิ้ว ทำปากแบะๆ) ...นี่เบอร์คิวนะคะ ...ครับผม (รับคิวแล้วเดินเข้าประตูไปนั่งรอในห้องแอร์)
ภายในห้องแอร์ มี ช่องสัมภาษณ์ เป็น counter เหมือนแบบธนาคาร แต่กระจกกั้นสูงปิดถึงเพดาน อีกฝั่ง มีคนนั่งรอบนเก้าอี้ เหมือน คนไข้รอหมอเรียกตามคิวเลย
รอสัก 20 นาที เครืองบอกคิว เบอร์ xx ช่อง 12 ค่ะ ....เดินดุ่มๆ ไปในช่อง เพื่อ scan นิ้วชี้ ซ้ายขวา เจ้าหน้าที่ผู้หญิงพูดไทยไม่ค่อยชัด ฟังไม่ค่อยรู้เรือง พอเราไม่เข้าใจ เขาก็ทำหน้า หงุดหงิด แบบพูดแค่นี้ไม่รู้เรืองเหรอไง เราก็ถาม Which one? left ? ok? right ? finish? ok.. จากนั้น เดินไปนั่งรอต่อ
อีกไม่ถึง 5 นาที ..มีเสียงบอก... เบอร์ xx ช่อง 9 เราก็รีบเดิน ดุ่มๆ ไปเช่นเคย ไม่รู้หรอก ใครสัมภาษณ์ช่องไหน มาถึงก็ เจอเจ้าหน้าที่ผู้หญิง ผมยาวสีทอง ผอมๆ ไม่ใส่แว่น (น่ารักดีแฮ่ะ...เกี่ยวมั้ยนี่)
สวัสดีครับ ..Good Morining.... (ยิ้มให้เขา 1 ที)
Good morning (ยิ้มตอบกลับมา.. แล้วก็ถามเป็นภาษาอังกฤษ ตลอด ฟังไม่รู้เรืองหรอก แต่พอจับใจความได้ แปลไทยละกันนะ)
คุณจะไปเมกา ทำไมคะ
ไปเรียนภาษาครับ
เรียนที่ ไหนคะ
รร..... ที่ ยู..นี้ครับ
###########
Execuse me ?? (ฟังไม่ทันนินา)
ทาม มาย เลือก โรง เรียน นี้ คะ
ตอนแรก เลือก ไว้ สามแห่ง ครับ .. 1.. 2... 3...ซึ่งทั้งสามแห่ง มีชื่อเสียง สำหรับ นร.ไทยนะ แต่ ผมตัดสินใจเลือกที่นี่ ครับ
##########
Execuse me?? (ฟังไม่ทันอีกแล้ว ขอสัมภาษณ์ไทยนะ บ่ใจ่ อังกิด)
แล้วทำไม เลือก ที่นี้หล่ะ(ย้ำอีกคำถามเดิมอีกแฮ่ะ)
ผมเลือกที่นี่ เพราะ วิธีการสอน และ มีศูนย์คอมพิวเตอร์ ที่ดีเลิศ ครับ (แปลได้แบบนี้จริงๆ นะ)
##########
อ้อ..ผมจะสมัครงาน...
No !! คุณทำอะไรหลังจากเรียนจบ ป.ตรี
(เอ้ย ฟังผิดนิหว่า) หลังจากจบ มหาลัย... ผมทำงานเป็น ... ในบริษัท....
แล้วจากนั้นหล่ะคะ...(เจ้าหน้าที่ถามพร้อมมองตาผม) (นี่หล่ะ จุดอ่อนผมโดนสะแล้ว)
ผมเตรียมตัวสอบโทเฟิลและจีแมท และช่วยคุณแม่ จัดการสินทรัพย์ให้เช่า แล้วทำงานเป็น....แบบ part time ครับ ..(แล้วเจ้าหน้าที่ก็ดูใบรับรองการทำงานทั้งบริษัทแรก พอเปิดหนังสือรับรองฯ บริษัทที่สอง ผมก็ชี้ไปที่หนังสือนั้นแล้วบอก yeah )
ภาษาคุณก็ดีนินา ไปเรียนทำไมอีกหล่ะ
(อ้าว เครียดเลย แต่ยิ้มๆ ตอบไปว่า ) หากคุณมาเห็นคะแนนโทเฟิลผม คุณจะรู้ว่า my weak point is speaking and listening ( นึกในใจ ผมยังฟังคุณ ไม่ทันเลย แถมตอบผิดคำถามอีกต่างหากนี่ไง ถึงไปเรียน)
เจ้าหน้าที่ฟังแล้วก็ ยิ้มๆ จากนั้น ..เจ้าหน้าที่ พูดอะไรอีก จำไม่ได้ แล้ว...แต่ จับความได้ว่า ดิฉันจะให้วีซ่าคุณนะคะ .. bla bla bla
ohhh Thank you very much ขอบคุณครับ ยิ้มหวานให้ อีก 1 ที
เจ้าหน้าที่ ก็ยิ้มหวานส่งมาให้อีก 1 ที
พอหันเดินออกมา รู้สึกได้เลยแบบ คนที่นั่งรอ มองผมเป็นสายตาเดียวเลยอ่ะ จะแสดงอาการดีใจ กำมือตีศอกร้อง yeah ก็เกรงใจคนอื่น นึกไม่ออก เอ้ย ทำไงต่อ ต้องไปหาเจ้าหน้าที่ไหนอีกเปล่า หรือ กลับเลยดี แล้วออกทางไหนฟะ ... แปปนึงก็มองเห็นทางออก ก็เดินออกไปดุ่มๆ เช่นเคย .. โอ้วว พระเจ้า โล่งไปหมด
ผมตอบแบบ พูดไม่ถูก tense อ่ะ ใช้ present ตลอด ทั้งที่ควรใช้ past ก็เอาเหอะ ตอบไปเหอะครับ แต่ตอบด้วยความมั่นใจนะ ว่า เรารู้ว่าเราไปทำอะไร เพื่ออะไร ทำไม มีเหตุมีผลอ่ะครับ มีเอกสาร พิสูจน์ด้วยจะดีมาก
แต่ เขาเก็บ หนังสือรับรองการทำงานทั้งสองบริษัท ไป ด้วยนะครับ
เอกสารที่ผมจัดการเพิ่มเติมต่างหาก แล้วเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ พิจารณานะ (มีที่เตรียมไปอย่างอื่นด้วย แต่เขาไม่สนใจเลย ก็ไม่ขอเอ่ยแล้วกันนะ เพราะ เยอะมากๆ )
1. หนังสือรับรอง sponsor
2. หนังสือรับรองทางการเงินของ sponsor และของผม ออกโดยสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง
3. รายละเอียด เงินในทุกบัญชี ของ Sponsor และผมเอง แสดง เลขบัญชี ธนาคาร เจ้าของบัญชี ยอดเงินฝาก ประเภทเงินฝาก
4. รายละเอียด แหล่งที่มารายได้ของ Sponsor มีกี่ทาง ต่อเดือน เท่าไร รวม 12 เดือน เท่าไร แล้ว รวมทุกทางนั้น แสดงเป็นต่อปี แหล่งที่มาของรายได้ (โดยแต่ละทางผมมี เอกสารยืนยัน เช่น สัญญาเช่าอาคารพาณิชย์ โฉนดที่ดิน แต่เขาไม่ขอดูเลยนะ คืนหมดแต่หน้าห้องแล้ว)
5. หนังสือรับรองบริษัท ที่สอง ที่ผมทำงานเป็น freelance นี่หล่ะ ที่วิ่งหาแทบแย่ พอมี connection อยู่บ้าง เลยให้คนรู้จักกัน ออกให้ แต่เราก็บอกนะว่าขอเพื่ออะไร แล้วย้ำให้เขาตอบแนวทางเดียวกีนหาก มีคนมาสอบถาม
6. Official Transript ไม่ได้ทำเองหรอก มีอยู่แล้วตอนเรียนจบ เขาก็คืนให้หลังสัมภาษณ์นะ
รายการ 3-4-6 คืนให้ผม นอกนั้นเขาเก็บไว้รวมพาสปอร์ตด้วยครับ (พร้อมกับหนังสือรับรองการทำงานของบริษัทแรก)
ที่แนะนำได้คือ รู้ตัวเองว่า มีอะไรที่เป็นจุดอ่อน ที่เขาสงสัยได้ ก็ หาทางป้องกันไว้แต่เนิ่นๆ มีหลักฐานยืนยั้นได้จะดีมากๆ ตอบคำถามด้วยความมั่นใจ รู้ว่าไปทำอะไร เมือไร อย่างไร จากนั้น จะทำอะไรต่อ จะกลับมาเมืองไทยมั้ย ก็ เท่านี้หล่ะครับ
(ก่อนไปสถานฑูต ผมก็ไหว้พระขอพรด้วยนะ ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดี หาก ผมเจอช่อง 11 จริงๆ คงเหนือยแน่ๆ เหมือนกันครับ )
ทั้งนี้..ขอขอบคุณ...อย่างใจจริง สำหรับ...
1. พี่ Susie จากคำแนะนำจากเวบบล็อคของพี่ครับ ผม print ออกมาอ่านทุกหน้า เกี่ยวกับเรืองขอวีซ่า เป็นประโยชน์มากๆ เลยครับ ขอพระคุ้มครอง ครับ (พี่ร้องเพลงเพราะนะครับ แฮ่ะๆๆ)
2. คุณ elmoro สำหรับขั้นตอนการจ่าย servis fee ที่แบ่งปัน และพี่ Susie มาโพสให้เราอ่านๆ กันอีกที เหมือนเป็น short cut ที่ทำให้เราเข้าใจการชำระเงินค่า servis fee ได้ง่ายครับ
3. ศูนย์แนะแนวเรียนต่อ ที่ ธ.กรุงเทพฯ ที่ให้คำแนะนำเป็นอย่างดี บอกจุดอ่อนที่ผมไม่เคยเห็น และแนะนำวิธีป้องกันให้เตรียมตัวไว้ ... ( ตรงนี้ต้องให้ credit ครับ ผมจะมาเป็นลูกค้าที่นี่ ก็ตรงนี้หล่ะครับ )
4. และ เพือนๆ ท่านอื่นๆ อีกมายมาย ที่ไม่ได้เอ่ยนาม โดยร่วมกันแชร์ประสบการณ์ในการขอวีซ่า แม้ว่าจะได้หรือไม่ก็ตาม ครับ
โชคดีครับ ทุกคน ^ ^
แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 49 18:35:21
แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 49 18:29:24
แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 49 18:14:19
จากคุณ :
ksomboon
- [
10 พ.ย. 49 17:30:43
]